ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า
http://www.naewna.com/local/200836
ไม่มีผลสำรวจอย่างเป็นทางการว่า รายการ “คืนความสุขให้คนในชาติ” ทุกคืนวันศุกร์ และรายการ “เดินหน้าประเทศไทย” ทุกวันตอนเย็น เว้นวันศุกร์ ที่ออกอากาศทั้งทางโทรทัศน์และวิทยุ มีเรตติ้งสูงมากน้อยเพียงไร แต่เป็นความภาคภูมิใจของหน่วยงานภาครัฐ ที่สามารถเผยแพร่ผลงานผ่านทั้ง 2 รายการนี้ได้
ถ้านายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กล่าวถึงใคร ผลงานของหน่วยงานใด ในรายการคืนความสุขฯ ถือเป็นสุดยอดของการประชาสัมพันธ์แล้ว
เพราะขนาดนายกรัฐมนตรียังพูดถึง แต่ถ้ามองอีกด้านหนึ่ง คนที่ให้ข้อมูลหรือคนเขียนสคริปต์ให้นายกรัฐมนตรีพูด คงต้องหาเรื่องราวมากมายเพื่อนำมาประมวลให้นายกรัฐมนตรีมีเรื่องพูด ซึ่งการค้นหาเรื่องราวต่างๆ ที่ใกล้ตัวประชาชนใช่จะหาได้ง่ายๆ หน่วยงานต่างๆ เลยถือโอกาสนี้ป้อนข้อมูลให้เสียหน่อย ถ้านายกรัฐมนตรีนำไปพูดก็ดีไป ถ้าไม่ก็ไม่เสียหาย
สิ่งที่นายกรัฐมนตรีพูดในรายการคืนความสุข บางเรื่องราว สื่อสิ่งพิมพ์ยังนำมาเผยแพร่ด้วย แถมสื่อวิทยุ โทรทัศน์ ยังนำมาเผยแพร่ซ้ำ เรียกว่า คนรับข่าวสารไม่มีพลาดแน่นอน อย่างน้อยก็ต้องเข้าหูบ้าง ไม่หูซ้าย ก็หูขวา ส่วนรายการเดินหน้าประเทศไทย ก็เดินหน้าบ้าง ถอยหลังบ้าง พิธีกรของบางสถานีก็ผูกขาดกับกระทรวงใดกระทรวงหนึ่งว่ากันไป จะเลื่อนช่องหนีก็ไม่ได้ เพราะมีทุกช่อง
ล่าสุดมีแนวทางการประชาสัมพันธ์ใหม่แว่วว่าเป็นแนวคิดจากทีมงานโฆษกรัฐบาล ให้ใช้โซเชียลมีเดียประชาสัมพันธ์ โดยใช้แผ่นภาพบุคคลพร้อมข้อความคำพูดที่ “โดน” ใจ(ใครไม่รู้) ที่เห็นกันบ่อยๆ คือ ภาพนายกรัฐมนตรีกับคำพูดที่ตอบโต้กับสื่อ ภาพรองนายกฯ สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ที่ชอบไปปาฐกถาในที่ต่างๆ เสร็จแล้วก็มีคนทำแผ่นภาพกับคำพูดมาแชร์กันในเฟซบุ๊ค
การประชาสัมพันธ์ด้วยแผ่นภาพ กำลังนิยมในกระทรวงเกษตรฯ โดยให้รัฐมนตรี ปลัดกระทรวง และอธิบดีแต่ละกรมเป็นพรีเซ็นเตอร์ ข้อความที่นำเสนอมีหลายแบบ เป็นนโยบาย เป็นคำพูด บางคนก็เหมือนโฆษณาขายสินค้า มีคนกระซิบว่าจะมีการประกวดแข่งขันด้วยว่าของใครมีคนกดไลค์มากที่สุด
ต้องถามคนทำประชาสัมพันธ์ว่า การประชาสัมพันธ์รูปแบบนี้ “โอเคป่ะ” จะมีเกษตรกร หรือประชาชนทั่วไปสักกี่คนที่จะมีโอกาสได้เห็นแผ่นภาพที่แชร์กันในโซเชียลมีเดีย รูปแบบและเนื้อหาไม่ได้มีอะไรน่าตื่นเต้น หรือน่าสนใจพอที่จะให้คนกดไลค์ กดแชร์ได้มากมาย ไม่เหมือนคลิปดีเจที่ถอยรถมาชนคู่กรณี หรือคลิปเด็กแต๋วอ้อนหมวดตำรวจบนโรงพัก หรือภาพล้อเลียนตุ๊กตาเทพ (เทพ โพธิ์งาม และ สุเทพ เทือกสุบรรณ) ที่แชร์กันสนั่น เพราะเรื่องหนึ่งก็โหด เรื่องหนึ่งก็น่ารักเรื่องหนึ่งก็ตลกขบขัน
ถึงกระนั้น ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ธีรภัทร ประยูรสิทธิ และโฆษกกระทรวงเกษตรฯ สุรพล จารุพงศ์ ก็ให้ความสำคัญกับการประชาสัมพันธ์โดยแผ่นภาพนี้มากถึงมากที่สุด ไม่รู้ว่าประชาสัมพันธ์ของแต่ละกรมจะหาข้อความมาให้เจ้านายพูดแบบ “โดนๆ” ได้มากมายแค่ไหนเพียงไร และบางกรมที่โฆษณาขายสินค้า ก็เร่งเปิดตัวสินค้าเสียหมดแล้ว คงต้องเร่งหาสินค้าตัวใหม่มาโฆษณา
มองในทางกลับกัน แทนที่จะเป็นผู้บริหาร เรามาเปลี่ยนเป็นเกษตรกร หรือผู้ประกอบการที่ได้รับประโยชน์จากโครงการ หรือการดำเนินงานของหน่วยงานราชการจะดีกว่าไหม หาเกษตรกรที่ประสบความสำเร็จในด้านต่างๆ ของแต่ละกรมหรือผู้ประกอบการซึ่งเป็นพันธมิตร เอาคำพูดที่เขาพึงพอใจในผลงาน หรือสิ่งที่หน่วยงานเข้าไปช่วยเหลือ พร้อมภาพเกษตรกร หรือผู้ประกอบการรายนั้นๆ ทำเป็นแผ่นภาพประชาสัมพันธ์แบบเดียวกับที่กระทรวงเกษตรฯ ทำอยู่เวลานี้ แชร์ออกไปในโซเชียลมีเดีย ความสำเร็จของแต่ละคนน่าจะเป็นแรงจูงใจให้คนอยากทำตามบ้าง ที่สำคัญคือ ผลงานของแต่ละหน่วยงานเห็นเป็นรูปธรรมชัดเจน
การประชาสัมพันธ์ โดยใช้สื่อที่หลากหลายก็ดีอยู่ แต่ถ้าเป็นสื่อที่ผิดช่องทางก็เสียเวลาเปล่า ยกเว้นแต่ว่าอยากประชาสัมพันธ์ให้เจ้านายเห็น…. ก็แล้วแต่ “เอาที่สบายใจ” ละกัน
แว่นขยาย