ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า
http://www.naewna.com/local/255944
วันศุกร์ ที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560, 06.00 น.
เลิกราไปแล้วสำหรับงาน “เกษตรแฟร์”ประจำปี 2560 ของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ภายใต้หัวข้อ หรือแนวคิด “ศาสตร์แห่งแผ่นดิน ทำกินตามคำสอนพ่อ”จัดระหว่างวันที่ 27 มกราคม – 4 กุมภาพันธ์ 2560
เกษตรแฟร์ เป็นอีกงานหนึ่งที่ติดตลาด มีผู้คนรอคอยที่จะมาเดินดูสินค้าโดยเฉพาะ สินค้าที่ขึ้นชื่อสำหรับประชาชนทั่วไป เช่น มะขามหวาน หอม กระเทียม ต้นไม้อาจจะแถมด้วย เสื้อผ้า กระเป๋า และรองเท้า สำหรับเกษตรกร อาจรอว่าจะมีพันธุ์ไม้อะไรแปลกใหม่ เครื่องมือ เครื่องจักรกล และอุปกรณ์การเกษตร รวมทั้งเทคโนโลยีการผลิตที่น่าสนใจอะไรบ้าง
เป็นธรรมเนียมของการจัดงานเกษตรแฟร์ ที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์จะรวมกิจกรรมหลายๆ อย่างไว้ในช่วงเดียวกัน ได้แก่ การประชุมทางวิชาการ ซึ่งปีนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 31 มกราคม – 3 กุมภาพันธ์ 2560 มีทั้งการบรรยายพิเศษ การอภิปราย การสัมมนา เสวนา และการนำเสนอผลงานวิจัย ด้านการเกษตรถึง 12 สาขา มีเรื่องราวมานำเสนอสาขาละ 5-7 เรื่องต่อวัน รวมแล้วแต่ละวันมีเรื่องราวทางวิชาการอันเป็นผลงานวิจัยให้ผู้สนใจได้เลือกฟังวันละไม่ต่ำกว่า 60 เรื่อง ส่วนบรรยายพิเศษ อภิปราย เสวนา รวมแล้วมีทั้งหมด 15 เรื่อง
นอกจากนี้ในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ ยังมีงานวันสถาปนามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ครบรอบ 74 ปี ซึ่งมีการวางพวงมาลาคารวะอนุสาวรีย์สามบูรพาจารย์ พิธีรดน้ำคารวะครูบาอาจารย์ และพิธีทางศาสนา ปีนี้มีรายการพิเศษ คือเลือกตั้งนายกสมาคมนิสิตเก่ามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ในพระบรมราชูปถัมภ์ ผลปรากฏว่าผู้ที่ได้รับเลือกคือ อดีตปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม วิฑูรย์ สิมะโชคดี ซึ่งจะอยู่ในวาระ 2 ปี
นี่คือ 3 งานใหญ่ๆ ที่จัดซ้อนกันอยู่ในช่วงของงานเกษตรแฟร์ ลำพังงานเกษตรแฟร์อย่างเดียว กิจกรรมก็หลากหลายนับไม่ถ้วน มีทั้งนิทรรศการ ประกวดสัตว์เลี้ยง และปลาสวยงาม ประกวดแพะ ประกวดไก่พื้นเมืองและไก่แจ้ ประกวดพืช การสาธิตผลงานด้านนวัตกรรม นิทรรศการผลงานวิจัย และที่เป็นจุดขายหลักๆ ที่ทำรายได้ให้กับมหาวิทยาลัยอย่างเป็นกอบเป็นกำ คือ กิจกรรมจำหน่ายสินค้า เพราะทำให้มหาวิทยาลัยมีรายได้จากการให้เช่าพื้นที่ และพื้นที่ของงานนี้ไม่ใช่ว่าใครมีเงินก็จะมาเช่าได้….ต้องจับสลากนะครับ….
การจำหน่ายสินค้าในงานเกษตรแฟร์ปีนี้ แบ่งออกเป็น 15 โซน แต่ละโซนตั้งชื่อดูหรูหรา เดินไล่ไปตั้งแต่ประตู 1 ด้านถนนงามวงศ์วาน พอเข้าประตูมาก็เลี้ยวซ้ายตรงไปเรื่อย โซนแรก คือโซน A ชื่อ เกียรติภูมิแผ่นดินไทย จำหน่าย พันธุ์ไม้และเครื่องจักรกลการเกษตร รวมทั้งอุปกรณ์ เครื่องมือการเกษตรต่างๆ โซนB แผ่นดินถิ่นพอเพียง จำหน่ายต้นไม้อีกเช่นกัน มีทั้งไม้ดอกไม้ประดับ ไม้ผล เครื่องมือ
อุปกรณ์การเกษตร โซน C จำหน่ายสัตว์เลี้ยง ซึ่งมีอยู่ไม่กี่ร้าน ชื่อโซนว่า ร้อยเรียงรักเรา โซนD ข้าวในนาปลาในน้ำ เป็นตลาดน้ำแบบโบราณ จำหน่ายทั้งอาหารและผลิตภัณฑ์ของใช้ต่างๆ
โซน E อร่อยแดนดินถิ่นไทย จำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารจากภาคต่างๆ โซน F ทรัพย์ในดินสินในน้ำ จำหน่ายผักสด ผลไม้ โซนG มะขามหวานไทย ครองใจงานเกษตร ดูจากชื่อโซนก็รู้ว่าจำหน่ายสินค้าอะไร แต่ปีนี้ มะขามหวานไม่มากเท่าไร คุณภาพก็ไม่เท่าไรด้วย โซน H เครื่องเทศถิ่นไทย โซนนี้ไม่บอกอาจจะเข้าใจผิด โซนนี้จำหน่ายหอม กระเทียม พริกแห้ง และข้าวสาร
โซน I ร่มเย็นเป็นสุข ร่มเย็น เพราะเป็นเต็นท์ติดแอร์จำหน่ายผลิตภัณฑ์ผ้าไทย และผลิตภัณฑ์จากมูลนิธิต่างๆ เครื่องหนัง เครื่องประดับ นอกจากนี้ยังมีโซนJ เกษตรศาสตร์ใต้ร่มพระบารมี โซน Kร้อยล้านร้อยความคิด ร้อยชีวิตล้านความฝัน โซน L ล้านคนไทยใจเป็นหนึ่ง โซน M รวมไทยใจเป็นหนึ่ง โซนN สานฝันเศรษฐกิจยุคใหม่ และ โซน O อิ่มอร่อยทั่วไทย ซึ่งการตั้งชื่อดูเหมือนจะแยกประเภทสินค้า แต่เอาเข้าจริง ก็ไม่ได้แยกชัดเจนอะไร สินค้าต่างๆ ก็ปนเปกันไป ผู้คนที่เดินจับจ่ายซื้อของก็ไม่ได้สนใจชื่อโซนที่ตั้งเสียไพเราะสักเท่าไร
ที่น่าเสียดาย คือบนอาคารจักรพันธ์ เพ็ญศิริ ซึ่งจัดแสดงนิทรรศการผลงานวิจัย ที่ปีนี้เงียบเหงากว่าทุกปี อาจเป็นเพราะรูปแบบการจัดที่ไม่น่าสนใจ แม้จะมีเจ้าของผลงานคอยให้ข้อมูล ตัวผลงานได้รับรางวัล แต่การนำเสนอไม่น่าสนใจ คนจึงผ่านเลยมากกว่าซักถาม
ถ้าถามคนที่ไปงานว่าได้อะไรจากงานเกษตรแฟร์ ไม่ต้องแปลกใจถ้าคำตอบที่ได้รับคือ ได้มะขามหวาน หอม กระเทียม ต้นไม้ที่อยากปลูก ส่วนผลผลิตจากไม้ต้นนั้นตรงตามพันธุ์ที่บอกหรือเปล่าต้องคอยลุ้นกันต่อไป
พบกันใหม่เกษตรแฟร์ปี 2561
แว่นขยาย