ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า
http://www.naewna.com/local/257713
วันศุกร์ ที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560, 06.00 น.
ณ เวลานี้ ไม่มีข่าวใดที่น่าเบื่อเท่ากับข่าว DSI สนธิกำลังทหาร และตำรวจ เข้าตรวจค้นวัดพระธรรมกาย แต่ถึงจะเบื่ออย่างไร ก็ต้องดูข่าวโทรทัศน์ และฟังข่าววิทยุ ที่หลายสถานีเอาข่าวในหนังสือพิมพ์มาอ่านให้ฟัง เสนอข่าวทีเป็นชั่วโมง…..ก็ตามกันไป
ลุ้นกันไปว่าจะพบพระเทพญาณมหามุนี หรือ พระธัมมชโย หรือไม่ และเชียร์กันไปว่าวันนี้ฝ่ายไหนจะชนะ ระหว่างเจ้าหน้าที่ กับศิษยานุศิษย์ อย่างที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ว่าไว้
ประเด็นข่าวที่น่าสนใจเกี่ยวกับการตรวจค้นวัดพระธรรมกายเกิดขึ้นเป็นระยะๆ ไม่ว่าจะเป็นการพบเครื่องมือแพทย์ที่ทันสมัย สิ่งก่อสร้างหรืออาคารกิจกรรมต่างๆ ที่ไม่สมควรมีในวัด อาหารที่จัดไว้เลิศหรูสำหรับพระ หรือการปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่กับศิษยานุศิษย์ และพระ แต่ที่สุดแล้วคือ…ไร้เงาพระธัมมชโย
การเข้าตรวจค้นวัดพระธรรมกายในครั้งนี้ จุดมุ่งหมายสำคัญคือ นำตัวพระธัมมชโยมาดำเนินคดี แต่ประเด็นต่างๆ ที่เกิดขึ้นระหว่างการเข้าตรวจค้นขโมยซีนจุดมุ่งหมายนี้ ไปเสียหมด จึงขอย้อนกลับไปเตือนความทรงจำว่า พระธัมมชโยถูกดำเนินคดีอาญา กรณีที่ร่วมกับ นายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ฟอกเงินที่นายศุภชัยยักยอกมาจากสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น นำมาให้พระธัมมชโยจำนวน 1,400 ล้านบาท
ความผิดของพระธัมมชโย จึงมี 2 ข้อหา คือ ฟอกเงิน และรับของโจร แต่พระธัมมชโย ไม่ยอมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ในขณะที่นายศุภชัย กับพวก ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น อีกหลายคน ถูกดำเนินคดีกรณีทุจริตเงินของสหกรณ์ฯ ในข้อหาลักทรัพย์นายจ้าง รวมเป็นเงินกว่า 10,000 ล้านบาท และศาลตัดสินลงโทษไปแล้ว ซึ่งมีทั้งจำคุก และให้คืนเงินให้กับสหกรณ์ฯพร้อมดอกเบี้ย
สำหรับพระธัมมชโย DSI เคยให้โอกาสเข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อรับทราบข้อกล่าวหา และนำพยานหลักฐานมาแก้ข้อกล่าวหาหลายครั้ง แต่พระธัมมชโย บ่ายเบี่ยง และขอเลื่อนโดยอ้างเหตุนี่นั่นมาโดยตลอด รวมทั้งการอ้างว่าอาพาธด้วย
จากคดีที่พระธัมมชโย อดีตเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย เข้าไปเกี่ยวข้องกับการทุจริตในสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จึงมีเรื่องราวที่ไม่ชอบมาพากลเกี่ยวกับวัดพระธรรมกายถูกเปิดเผยตามมาอีกมากมาย (ไม่นับรวมการบิดเบือนคำสอนของพุทธศาสนา) ที่น่าสนใจคือ การที่มีเครือข่ายวัดพระธรรมกายอยู่ในต่างประเทศ ในนามของ ศูนย์ประสานงานต่างประเทศ จำนวนถึง 84 แห่ง ใน 31 ประเทศ และสาขาในประเทศ ในรูปของศูนย์ปฏิบัติธรรมจำนวนมากกว่า 6,900 แห่ง กระจายอยู่ในจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ ซึ่งในจำนวนนี้ DSI พบว่ามีการรุกพื้นที่ป่าสงวนประมาณ 75 แห่ง
ที่มีการเปิดเผยเป็นข่าวมาแล้ว ได้แก่ โครงการเวิลด์พีซ วัลเลย์ ซึ่งเป็นศูนย์ปฏิบัติธรรมของวัดพระธรรมกาย ที่ตำบลโป่งตาลอง อำเภอปากช่องจังหวัดนครราชสีมา พื้นที่ 500 ไร่ เกือบครึ่งหนึ่งของพื้นที่ดังกล่าวไม่มีเอกสารสิทธิ นอกจากนี้ยังมีการสร้างอาคารกีดขวางทางน้ำธรรมชาติ มีการขุดเจาะบ่อบาดาลโดยไม่ได้ไม่ได้รับอนุญาตด้วย ในอำเภอปากช่อง นี้ DSI ยังตรวจสอบพบว่ามีเครือข่ายวัดพระธรรมกาย ชื่อ วัดเขาวง ที่ตำบลหนองน้ำแดง บุกรุกที่ป่าสงวนแห่งชาติเขาเสียดอ้า ป่าเขานกยูง และ ป่าเขาอ่างหิน พื้นที่ประมาณ 26 ไร่
ขึ้นไปที่เชียงใหม่ ตรวจสอบพบว่า ศูนย์ฝึกอบรมเยาวชน วัดโมคคัลลานะ ตำบลสบเตี๊ยะ อำเภอจอมทอง วัดนี้อยู่ในหุบเขาบนดอยสูง เป็นพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าจอมทอง ประมาณ 14 ไร่ มีการก่อสร้างอาคารประมาณ 10 หลัง ในจำนวนนี้มีศาลาอเนกประสงค์ขนาดใหญ่ มีไฟฟ้า ติดเครื่องปรับอากาศด้วย
ที่กาญจนบุรี ก็มีวัดถ้ำเนรมิต ตำบลแม่กระบุง อำเภอศรีสวัสดิ์ เป็นวัดเครือข่ายวัดพระธรรมกาย ที่บุกรุกที่ของอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ 97 ไร่ นี่ก็ไม่ทราบว่าถ้าไม่ตรวจสอบพบเสียก่อน จะบุกรุกเข้าไปอีกมากเท่าไร ที่ยกมานี้เป็นเพียงตัวอย่างไม่กี่แห่งในจำนวน 75 แห่ง ถ้าเอาข้อมูลอีก 71 แห่ง ที่เหลือมารวมกันแล้ว อาณาจักรของธรรมกายจะมากมายเพียงไร
กลับมาที่วัดพระธรรมกาย อำเภอคลองหลวง ปทุมธานี พื้นที่วัด 2,000 ไร่ แบ่งออกเป็นโซนๆ บางโซนพระลูกวัดก็ไม่เคยได้เข้าไปเห็น เพราะเป็นโซนพิเศษเฉพาะเจ้าอาวาส และพระที่ใกล้ชิดเท่านั้น จึงมีคนเสนอว่าน่าจะย้ายโรงไฟฟ้าถ่านหิน จากกระบี่มาสร้างที่วัดพระธรรมกายเสียเลย…..
หึ หึ หึ คิดได้ไงไม่รู้…..รู้แต่ว่าเข้าท่า…อาจจะทำให้พระธัมมชโยปรากฏตัวได้….สาธุ…ธรรมกาย…คดีเยอะจริงๆ ….วันนี้เลาะรั้วไม่ถึงเกษตรแค่เฉี่ยวๆ คงไม่ว่ากัน……
แว่นขยาย