ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า
https://www.naewna.com/local/369808
เลาะรั้วเกษตร : อย่าให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย
เริ่มต้นปีงบประมาณใหม่ งานก็เข้ากรมวิชาการเกษตรของ อธิบดี เสริมสุข สลักเพ็ชร์ ทันที งานที่ว่านี้คือ โรคใบด่างมันสำปะหลัง เพราะพบมันสำปะหลังแถวๆ ศรีสะเกษ สุรินทร์ และอุบลราชธานี มีอาการน่าสงสัยว่าจะเป็นโรคใบด่าง….
โรคใบด่างมันสำปะหลัง เกิดจากเชื้อไวรัสที่ติดมากับท่อนพันธุ์ มีแมลงหวี่ขาวยาสูบเป็นพาหะ ลักษณะอาการของโรค คือ ใบด่าง เหลือง ใบเสียรูปทรง ยอดที่แตกใหม่จะด่างเหลือง ลำต้นแคระแกร็น ทำความเสียหายให้กับผลผลิตมันสำปะหลัง 80-100%
เมื่อประมาณ 3 ปีก่อนหน้านี้ มีการเตือนมาจากสถาบันระหว่างประเทศว่าด้วยสินค้าเกษตรเขตร้อน หรือ CIAT ว่า พบโรคนี้ระบาดในพื้นที่จังหวัดรัตนะคีรีของกัมพูชา และต่อมาพบการระบาดอีกที่ อำเภอตะเบียงปราสาท จังหวัดอุดรมีชัยประเทศกัมพูชา ใกล้กับชายแดนไทย ห่างจากด่านช่องสะงำ อำเภอภูสิงห์ จังหวัดศรีสะเกษของไทยเพียง 40 กิโลเมตรเท่านั้น
อธิบดีเสริมสุข ยืนยันว่ามีการเฝ้าระวังโรคใบด่างมันสำปะหลังไม่ให้แพร่ระบาดเข้ามาในประเทศไทยมาตั้งแต่ปี 2558 โดยทำการสำรวจพื้นที่ปลูกมันสำปะหลังใน 50 จังหวัดที่เป็นแหล่งปลูกมาโดยตลอด จนกระทั่งเดือนสิงหาคม 2561 ที่ผ่านมามีการสำรวจพบมันสำปะหลังที่มีอาการน่าสงสัยว่าเป็นโรคใบด่าง ในพื้นที่จังหวัด ศรีสะเกษ สุรินทร์ และอุบลราชธานี ดังที่กล่าวมาแล้ว
กรมวิชาการเกษตรจึงทำลายแปลงมันสำปะหลังที่สงสัยว่าจะเป็นโรคใบด่างทันที พร้อมกับขอความร่วมมือเกษตรกร เจ้าหน้าที่เกษตร และผู้เกี่ยวข้องถ้าพบมันสำปะหลังมีอาการดังกล่าวให้รีบทำลายทิ้งทันทีด้วยการถอน ขุดหลุมฝัง ราดด้วยสารกำจัดวัชพืชก่อนฝังกลบ
นอกจากนี้ยังมีมาตรการเพิ่มความเข้มงวดตรวจสอบพืชนำเข้า ณ ด่านตรวจพืชตามแนวชายแดน ซึ่งการลักลอบนำเข้านั้นมีความผิด ตาม พ.ร.บ. กักพืช เนื่องจาก มันสำปะหลังเป็นสิ่งต้องห้าม ห้ามมิให้นำเข้าท่อนพันธุ์ หรือส่วนขยายพันธุ์ ผู้ฝ่าฝืนมีโทษจำคุก 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ก่อนหน้านี้เมื่อ 26 กันยายน 2561 ที่ผ่านมา รองปลัดกระทรวงเกษตรฯ รักษาการปลัดกระทรวงเกษตร ดุจเดือน ศศะนาวิน ได้มีหนังสือด่วนไปยังผู้ว่าราชการจังหวัด ให้ประสานงานกับกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัด ด่านศุลกากร ด่านตรวจพืช คณะกรรมการอำนวยการขับเคลื่อนงานนโยบายและการแก้ไขปัญหาภาคการเกษตรระดับจังหวัด คณะกรรมการทำงานปฏิบัติการขับเคลื่อนงานนโยบายสำคัญและแก้ไขปัญหาการเกษตรระดับอำเภอ เฝ้าระวังตรวจสอบปราบปรามการลักลอบนำเข้าท่อนพันธุ์และส่วนใดส่วนหนึ่งของมันสำปะหลังในช่องทางแนวชายแดนตามอำนาจหน้าที่และกฎหมาย โดยเน้นพื้นที่เป้าหมายที่เป็นจังหวัดตามแนวชายแดนติดต่อกับกัมพูชา 12 จังหวัด คือ อุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ สระแก้ว จันทบุรี ตราด เลย หนองคาย นครพนม มุกดาหาร และอำนาจเจริญ
เคยได้ยินข่าวว่า เกษตรกรในประเทศเพื่อนบ้านต้องการท่อนพันธุ์มันสำปะหลังจากไทยจำนวนมาก เพราะท่อนพันธุ์ในประเทศของเขาเสี่ยงต่อการติดโรค แต่ความต้องการดังกล่าวได้รับการตอบสนองอย่างไรไม่มีข้อมูล อาจจะมีการนำท่อนพันธุ์จากไทยไปปลูก ส่วนการนำเข้าท่อนพันธุ์ของไทยไม่น่าจะมี
จะมีคงเป็นหัวมันที่มีส่วนที่เป็นเหง้าติดเข้ามา ซึ่งส่วนนี้เป็นส่วนที่ขยายพันธุ์ได้ เมื่อตัดเอาหัวมันไว้แล้ว ส่วนที่เป็นเหง้าเหล่านี้ทิ้งขวางไปแบบไม่สนใจ แต่เหง้าเหล่านี้แตกกิ่งเจริญเติบโตเป็นต้นใหม่ได้ และเป็นต้นที่มีเชื้อโรคใบด่างติดอยู่ ก็สามารถแพร่กระจายได้
อย่างไรก็ตาม กระทรวงพาณิชย์ บอกว่าราคาหัวมันสำปะหลังสดของไทยในปีนี้สูงสุดในรอบ 10 ปี เพราะปริมาณผลผลิตลดลง แต่ตลาดต่างประเทศมีความต้องการเพิ่มมากขึ้น ส่วนประเทศเพื่อนบ้านทั้งเวียดนาม กัมพูชา และลาว ปริมาณผลผลิตมันสำปะหลังลดลงเช่นกันจากการระบาดของโรคใบด่างที่ว่านี้
พอราคามันสำปะหลังจะดีขึ้นบ้าง ก็จะเจอกับโรคระบาดเสียอีก…กรรมของเกษตรกรไทยจริงๆ งานนี้กระทรวงเกษตรฯต้องเอาให้อยู่ อย่าปล่อยให้โรคระบาดลุกลามไปเหมือนเพลี้ยแป้งมันสำปะหลังสีชมพู กว่าจะเอาอยู่ก็แทบแย่….
อย่าให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยอีกก็แล้วกัน….
แว่นขยาย