ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า
https://www.naewna.com/local/396947
เลาะรั้วเกษตร : ประเด็นร้อนก่อนเลือกตั้ง
ท่ามกลางเสียงเพลง “หนักแผ่นดิน” ที่เป็นประเด็นร้อนของการหาเสียงเลือกตั้ง ข่าวหน้า 1 ของหนังสือพิมพ์เกือบทุกฉบับก็มีประเด็นร้อนของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์แทรกอยู่ด้วย 2 เรื่อง เรื่องแรก คือ พ.ร.บ. ข้าว อีกเรื่องหนึ่งคือ การแบนสารกำจัดศัตรูพืชและวัชพืช
ขอข้ามเรื่อง พ.ร.บ. ข้าวไปก่อน รอดูว่าท่ามกลางกระแสคัดค้านทั้งจาก ชาวนา นักวิชาการ ผู้ประกอบการในธุรกิจค้าข้าว และหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องบางหน่วย สนช. จะยอมถอย หรือ ผลักดัน(ทุรัง)ต่อไป
จะขอพูดถึงประเด็นร้อน ที่ร้อนมานานไม่ยอมเย็นเสียที นั่นคือ เรื่องของสารกำจัดวัชพืช ไกลโฟเซต และ พาราควอต และสารกำจัดศัตรูพืช คลอไพริฟอส ที่เรียกรวมกันสั้นๆ ว่า “3 สาร”
คณะกรรมการวัตถุอันตราย ซึ่งเป็นคณะกรรมการที่มีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมายในการพิจารณาการยกเลิก หรือห้ามใช้สารเคมีทางการเกษตรชนิดใดๆ ได้ประชุมพิจารณาข้อเสนอของ “เครือข่ายสนับสนุนการแบนสารพิษร้ายแรง 686 องค์กร” ที่ต้องการให้ยกเลิกการใช้ 3 สาร เมื่อวันแห่งความรัก 14 กุมภาพันธ์ 2562 ที่ผ่านมา ผลปรากฏว่าที่ประชุมมีมติ 16:5 (งดออกเสียง 5 เสียง) ยืนตามมติเดิมเมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2561 ว่ายังไม่ยกเลิกการใช้ 3 สาร โดยจะชะลอการยกเลิกการใช้ไปจนถึงวันที่ 1 มกราคม 2564 หรือจนกว่าจะหาสารทดแทนได้
ทันทีที่ประธานคณะกรรมการวัตถุอันตราย อภิจิณ โชติกเสถียร รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมแถลงข่าวผลการประชุม “เครือข่ายสนับสนุนการแบนสารพิษร้ายแรง 686 องค์กร” ก็ออกแถลงการณ์ตอบโต้ ว่ารู้สึกผิดหวังและเศร้าสลดต่อมติในครั้งนี้ รวมทั้งผิดหวังในตัวของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กฤษฎา บุญราช และข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ของกระทรวงเกษตรฯ กลุ่มหนึ่ง รวมทั้งผู้แทนกระทรวงเกษตรฯ 5 คนที่อยู่ในคณะกรรมการวัตถุอันตราย ที่สนับสนุนให้มีการใช้สารเคมีดังกล่าวเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับบริษัทผู้ผลิตและจำหน่าย 3 สารนี้
ไบโอไทย ก็โพสต์เฟซบุ๊ค เนื้อหาไม่ต่างกัน แถมยังกล่าวหาว่า รัฐมนตรี กฤษฎา ใช่เล่ห์เหลี่ยม ให้อธิบดี และคณะกรรมการวัตถุอันตรายซึ่งเป็นตัวแทนกระทรวงเกษตรฯ 5 คน เข้าไปเสนอให้ชะลอการยกเลิกการใช้สารกำจัดวัชพืชออกไป 2 ปี เพื่อให้พ้นความรับผิดชอบของตนเองไปก่อน…ทำเอารัฐมนตรี กฤษฎาควันออกหู บอกให้ปลัดกระทรวง อนันต์ สุวรรณรัตน์ ไปพิจารณาข้อความที่ไบโอไทย โพสต์ ว่า สามารถจะฟ้องร้องได้หรือไม่…
สาระของแถลงการณ์ และข้อความที่โพสต์ในเฟซบุ๊คของฝ่ายสนับสนุนการแบน 3 สาร ก็จะเหมือนแผ่นเสียงตกร่อง ที่มีการให้ข่าวและข้อมูลเช่นนี้ในทุกครั้งและทุกเวที โดยไม่เคยพูดถึงความเดือดร้อนของเกษตรกร…
เท่าที่ทราบหลังจากที่กรมวิชาการเกษตรจำกัดปริมาณการนำเข้าสารกำจัดวัชพืช 2 ชนิดนี้ ราคาของสารทั้ง 2 ชนิดที่จำหน่ายในท้องตลาดพุ่งสูงขึ้นเท่าตัว ส่วนสารชีวภัณฑ์ที่มีผู้แนะนำให้เกษตรกรนำไปใช้แทนสารเคมีกำจัดวัชพืชนั้น มีเกษตรกรที่ไม่มั่นใจส่งให้กรมวิชาการเกษตรตรวจสอบ ปรากฏว่าสารชีวภัณฑ์ดังกล่าวมีส่วนผสมของสารเคมีกำจัดวัชพืชทั้ง 2 ชนิดที่มีการเรียกร้องให้ยกเลิกการใช้นี้ผสมอยู่ด้วย….นี่ถ้ามีการเปิดเผยคนแนะนำ และชื่อของสารชีวภัณฑ์ดังกล่าว…คงฮากันตึง…
เรื่อง 3 สารนี้คงเป็นหนังยาวที่ยังไม่จบง่ายๆ …วันหลังมาคุยกันใหม่….
มีข่าวฝากจากเครือข่ายอาหารปลอดภัย หรือ GAP Net วันที่ 1 มีนาคม 2562 จะมีการสัมมนาเรื่อง “ก้าวต่อไปของเกษตรกรไทย…วิกฤตหรือโอกาส” เวลา 09.00-13.30 น. ณ ห้องบุหลันพิทักษ์พล สถาบันค้นคว้าและผลิตภัณฑ์อาหาร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ถนนพหลโยธิน เขตจตุจักร กรุงเทพฯ
มีหัวข้อที่น่าสนใจหลายเรื่อง เช่น นโยบายการพัฒนาการเกษตรและแนวทางการมีส่วนร่วมของเกษตรกร โดย ดร.ปัทมา เธียรวิศิษฎ์กุล รองเลขาธิการสภาพัฒน์ เรียนรู้จากประสบการณ์ IUU โดย ดร.อดิศร พร้อมเทพอธิบดีกรมประมง ประสบการณ์มาตรฐาน THAIGAP โดย ชูศักดิ์ ชื่นประโยชน์ รองประธานสภาหอการค้าไทย วิกฤติและโอกาสการตลาด โดย จุฑารัตน์ พัฒนาทร ผู้อำนวยการฝ่ายประกันคุณภาพ บริษัทสยามแม็คโคร จำกัด ดำเนินการสัมมนาโดย ดร.อดิศักดิ์ ศรีสรรพกิจ อดีตอธิบดีกรมวิชาการเกษตร ขอเชิญผู้สนใจเข้าร่วมสัมมนาได้ตามวันเวลา และสถานที่ดังกล่าว
แว่นขยาย