ชายคาพระพิรุณ : 25 พฤศจิกายน 2562

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

https://www.naewna.com/local/456055

586851

ชายคาพระพิรุณ : 25 พฤศจิกายน 2562

วันจันทร์ ที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562, 06.00 น.

กาแฟพันธุ์อาราบิก้า ที่มีกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว เพราะปลูกใต้ต้นไม้ใหญ่ ทำให้ผลผลิตที่ได้มีคุณภาพดี รสชาติเข้มข้น กลมกล่อม

สัปดาห์ที่ผ่านมา นายมีศักดิ์ ภักดีคง อธิบดีกรมประมง เชิญสื่อมวลชนนั่งคุยอย่างเป็นกันเองเพื่อแนะนำตัวในโอกาสที่เข้าดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมประมง พร้อมชี้แจงทิศทางการขับเคลื่อนภาคประมงไทย และนโยบายการพัฒนาประมงทุกมิติแบบมีส่วนร่วม เพื่อให้มีความสมดุลด้านการประมงอย่างยั่งยืน เสริมสร้างความเข้มแข็ง สร้างโอกาส สร้างรายได้จากภาคประมงสู่เกษตรกรให้มากที่สุด ซึ่ง นายมีศักดิ์ เน้นย้ำว่ากรมประมงให้ความสำคัญกับการพัฒนาด้านการประมงแบบมีส่วนร่วมทุกมิติเพื่อความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ที่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติภายใต้หลักการ“คนอยู่ได้ ทรัพยากรยั่งยืน ไม่ฝืนพันธะสัญญา“ โดยให้ความสำคัญกับการพัฒนา 7 ด้าน ดังนี้ 1.สนองงานสถาบันพระมหากษัตริย์พระบรมราโชบายสืบสานงานโครงการพระราชดำริ โครงการพัฒนาส่วนพระองค์การพัฒนาฟื้นฟูพันธุ์ปลาไทยตามพระราชเสาวนีย์ของ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เพื่อดำรงรักษาความหลากหลายทางชีวภาพในแหล่งน้ำให้ความสำคัญกับโครงการจิตอาสาปล่อยปลาพัฒนาคูคลอง หนองบึงรวมทั้งทะเลเพื่อบูรณะแหล่งอาศัยสัตว์น้ำ 2.การบริหารจัดการประมงอย่างยั่งยืนบนพื้นฐานวิชาการและการมีส่วนร่วมของภาคประชาชน เน้นการบริหารจัดการเชิงพื้นที่ให้ชุมชนเป็นศูนย์กลางในการพัฒนาโดยยึดหลักแนวคิดพระราชทานเข้าใจ เข้าถึง พัฒนา มาเป็นหลักยึดในการทำงาน ใช้งานวิชาการเข้าไปปรับใช้กับการบริหารจัดการทรัพยากรสัตว์น้ำของชุมชนควบคุมการจัดการของคนผู้ใช้ทรัพยากร ตั้งเป้าหมายให้ชุมชนประมงน้ำจืดและชุมชนประมงทะเลได้รับการพัฒนาให้เป็นชุมชนประมงเพื่อการท่องเที่ยวในอนาคตอย่างน้อยจังหวัดละ1 แห่ง 3.มุ่งแก้ปัญหาการประมงของประเทศโดยให้ความสำคัญกับการรักษาระดับมาตรฐานการควบคุม ป้องกัน แก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมายเน้นสร้างความรู้ความเข้าใจแก่ชาวประมงบนหลักการมีส่วนร่วมและสอดคล้องกับวิถีชีวิตชาวประมง ข้อกำหนดใดที่อาจจะส่งผลให้เกิดความไม่เป็นธรรมหรือไม่สามารถปฏิบัติได้ต้องได้รับการแก้ไข ให้ความสำคัญกับการสร้างโอกาสกองเรือไทยไปสู่สากลหรือทำการประมงนอกน่านน้ำ 4.การผลิตด้านการเพาะเลี้ยง ใช้หลักตลาดนำการผลิตโดยมุ่งผลิตสัตว์น้ำที่มีมูลค่าสูงทางเศรษฐกิจและสำรวจความต้องการตลาดเป็นหลัก โดยใช้ข้อมูลการพยากรณ์ด้านการตลาดข้อมูลจากผู้แทนการค้าประเทศและข้อมูลจากทูตเกษตร เป็นต้น 5.งานวิชาการต้องตอบสนองด้านการเพาะเลี้ยงและการบริหารจัดการทรัพยากรประมง งานวิชาการต้องตอบ สนองงานหลัก 2 เรื่อง คือการนำผลงานวิชาการไปพัฒนาต่อยอดด้านการส่งเสริมเพาะเลี้ยง การพัฒนาผลิตภัณฑ์และการผลิตอื่นๆ นอกจากนี้งานวิชาการต้องสามารถตอบสนองการบริหารจัดการทรัพยากรได้อย่างเหมาะสมทันต่อสถานการณ์ สามารถใช้สนับสนุนการออกมาตรการของฝ่ายบริหารและคณะกรรมการประมงประจำจังหวัดได้อย่างครบถ้วน 6. การขับเคลื่อนนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลมุ่งเน้นการขับเคลื่อนแผนงานโครงการที่สำคัญของรัฐบาลเพื่อให้ความช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบภัยพิบัติทางธรรมชาติ ตามแผนปฏิบัติการฟื้นฟูเยียวยาเกษตรกรผู้ประสบภัยฝนทิ้งช่วงและอุทกภัยปี 2562 วงเงินงบประมาณ 766.908 ล้านบาท จำนวน 2 โครงการ ได้แก่ โครงการพัฒนาเสริมทางเลือกอาชีพด้านการประมง ส่งเสริมการเลี้ยงปลานิลแปลงเพศในบ่อดิน วงเงิน 260 ล้านบาท โดยสนับสนุนพันธุ์ปลานิลแปลงเพศ และอาหารปลาแก่เกษตรกร ในพื้นที่ประสบภัยพิบัติ 39 จังหวัด มีเกษตรกรเข้าร่วมโครงการ จำนวน 35,751 ราย โครงการสร้างรายได้จากอาชีพประมงในแหล่งน้ำชุมชน ส่งเสริมการเพิ่มผลผลิตกุ้งก้ามกรามในแหล่งน้ำชุมชน วงเงิน 506.908 ล้านบาท โดยสนับสนุนพันธุ์กุ้งก้ามกราม จำนวน 200,000 ตัวต่อแหล่งน้ำ ในพื้นที่ 19 จังหวัด 129 อำเภอ จำนวน 1,436 แห่ง

นอกจากนี้กรมประมงยังได้จัดทำโครงการจัดทำเรือประมงนอกระบบเพื่อการจัดการทรัพยากรประมงทะเลที่ยั่งยืน โดยนำเรือประมงที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการของรัฐ จำนวน 305 ลำโดยใช้งบประมาณ 764.454 ล้านบาท ซึ่งแบ่งเป็น 2 ช่วง ได้แก่ ช่วงที่ 1 ในปี 2562 จำนวน 252 ลำ เป็นงบประมาณ 467.6039 ล้านบาท ซึ่งได้ดำเนินการจ่ายเงินชดเชยให้ชาวประมงแล้ว และในปี 2563 จำนวน 53 ลำงบประมาณ 294.8502 ล้านบาท อยู่ระหว่างการเสนอขออนุมัติความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี 7.มุ่งพัฒนากรมประมงให้เป็นบ้านที่น่าอยู่สำหรับทุกคน พัฒนาอาคารสถานที่ทำงาน พัฒนาคนให้มีความพร้อมเป็นข้าราชการกรมประมงอย่างมืออาชีพ วางระบบการแต่งตั้งโยกย้ายอย่างเป็นธรรมสร้างแรงจูงใจให้บุคลากรมีความเชื่อมั่นว่ากรมประมงเป็นสถาบันครอบครัวที่ต้องพึ่งพาการภายใต้สโลแกน“คนสำราญ งานสำเร็จ”…ขุนเกษตราขอเป็นกำลังใจให้ท่านอธิบดี ซึ่งเป็นคนตั้งใจทำงานเพราะภาคประมงเป็นส่วนสำคัญทางเศรษฐกิจ เป็นแหล่งรายได้สำคัญของชาวประมงและเป็นภาคเกษตรที่นำรายได้เข้าประเทศไทยมากกว่า 2 แสนล้านบาทต่อปีเลยทีเดียว

เมื่อเร็วๆ นี้ กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ได้จัดอบรมหลักสูตร ผู้ช่วยผู้สอบบัญชีสหกรณ์ รุ่นที่ 6 เพื่อเป็นกำลังสำคัญ ในการสนับสนุนการปฏิบัติงานสอบบัญชีของผู้สอบบัญชีสหกรณ์ให้เป็นผู้ปฏิบัติงานได้อย่างมีมาตรฐานเยี่ยงผู้ประกอบวิชาชีพ โดยหลักสูตรดังกล่าว ผู้เข้ารับการอบรมจะได้รับความรู้ ความเข้าใจในบทบาทหน้าที่ความรับผิดชอบของผู้ช่วยผู้สอบบัญชี ความรู้เกี่ยวกับระเบียบคำแนะนำนายทะเบียนสหกรณ์ที่เกี่ยวข้อง การวิเคราะห์งบการเงิน กระบวนงานและเทคนิคการสอบบัญชี การบันทึกข้อมูล Input Form การตรวจสอบบัญชีสหกรณ์ที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการบันทึกบัญชี ตลอดจนการประสานงานเพื่อการตรวจสอบบัญชี รวมทั้งได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนความคิดเห็นประสบการณ์ การซักถามปัญหาการปฏิบัติงานระหว่างผู้เข้ารับการอบรมด้วยกันเองและวิทยากร โดยได้รับเกียรติจาก นายโอภาส ทองยงค์ อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ เป็นประธานในพิธีมอบวุฒิบัตรให้ผู้ผ่านการอบรมครั้งนี้จำนวน 80 คน…

ขุนเกษตรา

Leave a Reply

Fill in your details below or click an icon to log in:

WordPress.com Logo

You are commenting using your WordPress.com account. Log Out /  Change )

Facebook photo

You are commenting using your Facebook account. Log Out /  Change )

Connecting to %s