‘ทุนวิจิตรพงศ์พันธุ์’ สานเจตนารมณ์ต่อเนื่อง สร้างสมคุณความดี สู่ปีที่ 11 ร่วมต้านภัยโควิด-19 #ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

https://www.naewna.com/lady/508825

‘ทุนวิจิตรพงศ์พันธุ์’ สานเจตนารมณ์ต่อเนื่อง  สร้างสมคุณความดี สู่ปีที่ 11 ร่วมต้านภัยโควิด-19

‘ทุนวิจิตรพงศ์พันธุ์’ สานเจตนารมณ์ต่อเนื่อง สร้างสมคุณความดี สู่ปีที่ 11 ร่วมต้านภัยโควิด-19

วันเสาร์ ที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2563, 06.00 น.

พิธีมอบทุนวิจิตรพงศ์พันธุ์ ครั้งที่ 11 ประจำปี 2563

“จากประสบการณ์ในชีวิต เราเห็นความแตกต่างในสังคม ตอนที่เราเรียน เราได้รับทุน ได้รับความช่วยเหลือ ได้มีโอกาส เมื่อจบมาทำงานก็เห็นความเหลื่อมล้ำในสังคม เห็นคนที่ยากลำบาก เราจึงคิดที่จะช่วยเหลือตอบแทนสังคมในส่วนที่ทำได้” ทองมาวิจิตรพงศ์พันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) เล่าถึงจุดเริ่มต้นของ “ทุนวิจิตรพงศ์พันธุ์”ที่เกิดจากการที่ตัวเองเคยได้รับทุนการศึกษาจากจุฬาฯ ในสมัยที่ยังศึกษาอยู่ในระดับอุดมศึกษา ซึ่งเงินทุนการศึกษาในครั้งนั้นมีส่วนช่วยอย่างมากในความสำเร็จที่ผ่านมา

จุดเริ่มต้นของ “การให้” อย่างต่อเนื่อง เกิดจากคุณทองมาได้เริ่มมอบทุนการศึกษาให้แก่นิสิตจุฬาฯที่ขาดแคลน ซึ่งเป็นสถาบันที่คุณทองมาเป็นศิษย์เก่ามาก่อน รวมถึงสนับสนุนกิจกรรมทางการศึกษาของโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา และได้บริจาคเพื่อกิจกรรมต่างๆ เรื่อยมา จนกระทั่งต้องการขยายความช่วยเหลือไปสู่ส่วนอื่นๆ ให้ครบทั้งสามด้านตามเจตนารมณ์ที่ตั้งไว้ ได้แก่ การทำนุบำรุงศาสนา สนับสนุนทุนการศึกษา และช่วยเหลือหน่วยงานต่างๆ ที่ทำงานเพื่อสังคมและประเทศไทย โดยเริ่มบริจาค “ทุนวิจิตรพงศ์พันธุ์”ให้หน่วยงานต่างๆ ตั้งแต่ปี 2553 และได้มอบต่อเนื่องทุกปีเป็นประจำ โดยในปีนี้เป็นปีที่ 11ซึ่งตลอด 11 ปี ที่ผ่านมาได้บริจาคเงินเพื่อสนับสนุนกิจกรรมทางศาสนา การศึกษา และสังคม ผ่านมูลนิธิสถาบันการศึกษาและองค์กรต่างๆ ไปแล้ว รวมทั้งสิ้น 99 องค์กร เป็นยอดเงินบริจาคกว่า 384 ล้านบาท โดยเงินบริจาคนี้จะมีส่วนช่วยสนับสนุนการทำงานขององค์กรต่างๆ และเป็นประโยชน์ต่อชีวิตคนไทยจำนวนอีกมากมาย

ทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.พฤกษา โฮลดิ้ง

สำหรับในปี 2563 นี้ เป็นอีกหนึ่งปีที่ทั่วโลกต้องบันทึกในประวัติศาสตร์อีกครั้ง จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตประชากรทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยด้วยการปรับตัวและการเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกันในสังคมในขณะที่ทุกคนต้องร่วมมือร่วมใจเพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่ระบาดของโรค ทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในสังคมเกิดเป็นนิว นอร์มอล (New Normal) ที่ทำให้คนทั่วทั้งโลกต้องเรียนรู้การใช้ชีวิตด้วยการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing)ส่งผลกระทบต่อการดำเนินกิจการของหน่วยงานที่ทุนวิจิตรพงศ์พันธุ์ให้การสนับสนุนด้วย ซึ่งทุกองค์กรก็ต้องมีการปรับตัวเช่นกัน

มณเธียร ธนานาถ นายกยุวพุทธิกสมาคมแห่งประเทศไทย เล่าถึงการสนับสนุนจากทุนวิจิตรพงศ์พันธุ์และการปรับตัวของการดำเนินกิจการของสมาคมในช่วงสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ว่า “ยุวพุทธิกสมาคมได้รับความอนุเคราะห์จากกองทุนวิจิตรพงศ์พันธุ์ปีนี้เป็นปีที่ 8 สมาคมมีอุดมการณ์ที่จะศึกษาและเผยแผ่พระพุทธศาสนา ในสถานการณ์ไวรัสโควิด-19ผลกระทบใหญ่ของสมาคมคือหลังจากการออกพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ทำให้พุทธศาสนิกชนไม่สามารถเดินทางเข้ามาปฏิบัติธรรมที่สมาคมได้จึงคิดว่าจะทำรายการออนไลน์ เพื่อที่จะนำธรรมะไปสู่ประชาชน ซึ่งงานทางด้านศาสนาเป็นงานช่วยเหลือทางด้านจิตใจ จึงเกิดเป็นโครงการวายทีวี ซึ่งเป็นเพจที่จะมอบธรรมะแก่ทุกคนที่สนใจ พอทำแล้วมีคนสนใจมากขึ้น มีครูบาอาจารย์ที่อยู่ในแวดวงยุวพุทธอยู่ 30 กว่าท่าน เราก็เลยทำออกมาหลายๆ ช่อง นอกจากนี้ในช่วงวิกฤติโควิด-19 สมาคมยังได้จัดทำถุงยังชีพแจกชาวบ้านในชุมชนประมาณ 2,100 ถุง มีการถวายอาหารเพลที่วัดต่างๆ ทั่ว กทม.และต่างจังหวัด อีกด้านหนึ่งคือเรื่องความสะอาดซึ่งเรามีเทคโนโลยีเราสามารถใช้ฆ่าเชื้อ ทำความสะอาดสถานที่ของเราให้สะอาดได้ดีมาก และสามารถที่จะเผื่อแผ่ไปช่วยดูแลที่วัดอื่นๆ ตามที่วัดจะขอมา หรือว่าทางเจ้าภาพญาติโยมมีความประสงค์จะให้เราไปทำความสะอาดที่วัดไหนก็แจ้งมา เรายินดีจะไปทำในนามของยุวพุทธิกสมาคม ก็อยากจะขอขอบคุณทุนวิจิตรพงศ์พันธุ์ที่ได้ให้ความสนับสนุนกับกิจกรรมของสมาคมที่เป็นประโยชน์แก่มหาชนตลอดระยะเวลา 8 ปีที่ผ่านมา ในแต่ละปีคนที่ได้รับประโยชน์จากกองทุนนี้ไม่ต่ำกว่าหลายพันคน ซึ่งจะมาในรูปแบบการเผยแผ่ธรรมะในโครงการต่างๆ ซึ่งมีมากกว่า 200 โครงการ ในแต่ละปี

มณเธียร ธนานาถ นายกยุวพุทธิกสมาคมฯ

วัชร เดโชพลชัย ครูผู้นำจากโครงการของมูลนิธิทีช ฟอร์ ไทยแลนด์ (Teach For Thailand) เล่าถึงการปรับตัวในช่วงวิกฤติโควิด-19 ว่า “ปกติเราทำงานกับเด็กนักเรียนที่มีฐานะยากจน ซึ่งในสถานการณ์โควิดก็มีผลกระทบกับเด็กนักเรียนทุกคนในประเทศไทย มีการเลื่อนการเปิดเทอมเป็นเวลา 6 สัปดาห์ ทำให้คุณครูต้องสอนผ่านออนไลน์ สิ่งหนึ่งที่ Teach For Thailand ทำ คือโครงการ Student Learning in Crisis ซึ่งเป็นโครงการที่ให้คุณครูTeach For Thailand เข้าไปพัฒนานักเรียนในช่วง 6 สัปดาห์ก่อนที่โรงเรียนจะเปิด โดยสิ่งที่ Teach For Thailand ช่วยสนับสนุนคุณครูในโครงการ คือการจัดกิจกรรมอบรมพัฒนาคุณครูผ่านทางไกล ซึ่งทางมูลนิธิก็ปรับตัว โดยจัดการอบรมผ่านระบบออนไลน์ (OnlineWorkshop) แทน ซึ่งได้มีการจัด Workshop ทุกวันเสาร์เป็นเวลา 5 เสาร์ เพื่อเตรียมตัวให้คุณครูของเรามีชุดเครื่องมือ และได้มาแลกเปลี่ยนแผนการพัฒนานักเรียน ในช่วงที่คุณครูไม่สามารถเปิดการเรียนการสอนตามปกติได้ อีกเครื่องมือหนึ่งที่ Teach For Thailand สนับสนุนคุณครูในโครงการช่วง New Normal คือการสรรหารวบรวมวิธีการพัฒนานักเรียนบนเว็บไซต์ชื่อว่า Constant Learning Website โดยให้คุณครูเข้าไปศึกษาแลกเปลี่ยนวิธีการเรียนการสอนบนเว็บไซต์ ซึ่งในสถานการณ์ความไม่แน่นอนแบบนี้ Teach For Thailand ให้ความสำคัญกับ Innovation มากๆ และต้องขอขอบคุณทุนวิจิตรพงศ์พันธุ์ที่เห็นความสำคัญของการพัฒนาศักยภาพคุณครู เพื่อยกระดับการศึกษาของเด็กไทย ทำให้ Teach For Thailand สามารถทดลอง Innovation ต่างๆ ที่จะมาตอบโจทย์นักเรียนและคุณครูในโครงการและคุณครูทั่วประเทศ

นี่เป็นเพียงตัวอย่างจาก 2 องค์กรที่ทุนวิจิตรพงศ์พันธุ์ให้การสนับสนุน จาก 45 องค์กรที่ได้รับความช่วยเหลือในปีนี้ โดยคุณทองมากล่าวทิ้งท้ายว่า “ความตั้งใจของผม ยังคงมุ่งมั่นเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุน ตอบแทนสังคมและประเทศไทย ช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาสให้มีชีวิตที่ดีขึ้น ลดช่องว่างทางสังคม สนับสนุนความเท่าเทียม เป็นการให้เพื่อส่งต่อความดี ให้สังคมเดินหน้าด้วยความแข็งแกร่งต่อไป”วัชร เดโชพลชัย มูลนิธิทีช
ฟอร์ ไทยแลนด์

วัชร เดโชพลชัย มูลนิธิทีช ฟอร์ ไทยแลนด์

Leave a Reply

Fill in your details below or click an icon to log in:

WordPress.com Logo

You are commenting using your WordPress.com account. Log Out /  Change )

Facebook photo

You are commenting using your Facebook account. Log Out /  Change )

Connecting to %s