#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า
https://www.naewna.com/entertain/509008

เปิดใจผู้จัดคนเก่ง ‘กุ้ง-บุณฑณิก’ กับผลงานมาสเตอร์พีซแห่งปี ‘ภูตรัตติกาล’
วันอาทิตย์ ที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2563, 06.00 น.
เป็นอีกหนึ่งผลงานมาสเตอร์พีซชิ้นล่าสุดของผู้จัดมือทองเจ้าแม่ CG สุดล้ำสำหรับ “กุ้ง-บุณฑณิก บูลย์สิน” แห่งค่าย “เอพลัส เอนเตอร์เทนเมนต์” กับละครเรื่อง “ภูตรัตติกาล” ทางช่อง 8ที่ติดเทรนด์ทวิตเตอร์อันดับ 3 ของประเทศ ตั้งแต่ละครยังไม่ออนแอร์ ซึ่งหลังจากออกอากาศได้เพียงแค่ 2 ตอนก็ได้รับกระแสตอบรับกลับมาอย่างล้นหลาม ถึงขั้นทำเอาผู้บริหารแห่งอาร์เอส ต่างยิ้มปลื้มออกปากชมผ่านสื่อ ล่าสุด “ทีมข่าวบันเทิงแนวหน้า” มีโอกาสทำความรู้จักเปิดใจถึงตัวตน “กุ้ง-บุณฑณิก” และบอกเล่าถึงความท้าทายในฐานะผู้จัดละคร
ทำมาทุกอย่างแล้วในวงการ ล่าสุดกับงานผู้จัดละคร เป็นอย่างไรบ้าง
“ถ้าถามว่าเป็นอย่างไรบ้างในฐานะผู้จัดละคร ถือว่าพี่โชคดีที่ได้มีโอกาสทำละครที่ค่อนข้างหลากหลายแนว ชีวิตกับวงการตรงนี้ก็เกือบ 30 ปีแล้วล่ะค่ะจริงๆ ต้องบอกก่อนนะคะ เผื่อแฟนๆ ละครของพี่สมัยนี้อาจจะไม่รู้ พี่ทำผู้จัดมาตั้งแต่สมัย “ชาโดว์ เอนเตอร์เทนเมนต์” นานมาแล้วเกือบ 30 ปีเลย แต่ถ้าถามว่า
ในนาม “เอพลัส เอนเตอร์เทนเมนต์” ที่เปิดใหม่เพื่อผลิตงานให้กับช่อง 8 ก็ต้องขอบคุณทางช่อง 8 ที่ให้โอกาสมาโดยตลอด แล้วก็ให้ได้ทำละครที่หลากหลายแนว”
ถ้าพูดถึงช่อง 8 คนจะจำภาพและมองว่า เอพลัส (พี่กุ้ง) เป็นเจ้าแม่ของช่อง
“ไม่หรอกค่ะ ตอนนี้ค่ายใหม่ๆ ผู้จัดใหม่เยอะเลยค่ะ เพียงแต่ว่าที่ผ่านมาช่องก็จะมีการผลิตละครแต่อินเฮ้าส์ แล้วก็ช่องไม่ได้เปิดสลอตละครเยอะแบบปัจจุบันที่มี 2 สลอต ละครก็ไม่ได้เยอะมาก แต่ถามว่าแต่ก่อนช่องก็มีผู้จัดค่อนข้างเยอะนะคะ เพียงแต่ว่าอาจจะมีการเข้าๆ ออกๆ ของผู้จัด และพี่อาจจะได้ทำงานต่อเนื่องมาเรื่อยๆ ก็ต้องขอบคุณที่ช่องให้โอกาส”

ถ้าเอ่ยถึงผู้จัดละครที่ชื่อ “กุ้ง-บุณฑณิก บูลย์สิน” อยากให้นึกถึงอะไร
“อยากให้นึกถึงละครที่มีคุณภาพระดับเอพลัสคุณภาพระดับเอพลัสก็คือ ระดับ A+ ค่ะ ในที่นี้ก็คือเราจะไม่ใช่ว่าทำออกมาให้ดี เชื่อว่าทุกคนเวลาทำงานก็อยากจะทำงานของตัวเองให้ดี แต่พี่คืออยากจะทำงานให้ดีที่สุด ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ ในมุมของพี่นะคะพอได้รับละครเรื่องใหม่ๆ มา เราก็จะมาดูว่าเรื่องที่แล้วเรามีจุดไหนให้แก้ไขได้ เราก็จะแก้ไขให้ดีขึ้นไปอีก เพราะฉะนั้นคือยิ่งทำละครเรื่องใหม่ มันก็จะยิ่งทำให้ดีขึ้นๆ เพียงแต่ว่าในทุกๆ เรื่องที่ทำ ณ ช่วงขณะนั้น เราก็ทำให้ดีที่สุด ณ โมเมนต์นั้น พูดแบบง่ายๆ ก็คือเราก็ทำให้มันดีที่สุดแหละ แต่พอเราเริ่มต้นละครเรื่องใหม่ พี่ก็จะมามองย้อนดูเรื่องที่แล้วตรงไหนที่คนไม่ชอบ เราควรจะปรับแบบไหน ตรงไหนที่คนชอบ เราควรจะพัฒนาให้มันมากขึ้นแบบไหนได้บ้างค่ะ”
อุปสรรคที่เจอส่วนใหญ่ในการทำละคร
“อุปสรรคที่สำคัญของพี่เลยน่าจะเป็นเรื่องของ ดิน ฟ้า อากาศ ในการถ่ายทำเลยค่ะ พี่ว่าอุปสรรค ในการทำงานปัจจัยอื่นๆ เราควบคุมและแก้ไขได้ แต่ว่าสภาพดิน ฟ้า อากาศเนี่ย เราควบคุมและแก้ไขไม่ได้แต่ถ้าในส่วนที่มันควบคุมได้สำหรับพี่ถ้าถามว่ามีอุปสรรคเหมือนกันมั้ย ณ ปัจจุบัน ละครที่พี่ทำส่วนใหญ่จะเป็นละครที่ค่อนข้างจะมี CG ความยากง่ายมันก็จะอยู่ตรงเวลาที่เราทำ CG มันจะยากตรงการถ่ายทำว่าเราต้องคิดภาพไว้เบ็ดเสร็จก่อน ว่าซีนนี้เราจะไปทำ CG แบบไหน ส่วนตัวนักแสดงเค้าก็จะไม่เห็นภาพแบบที่เราเห็นหรอก เราก็ต้องเหมือนกับทำให้เค้าเห็นภาพแบบจินตนาการตรงหน้าให้ได้ ซึ่งที่ผ่านมาที่พี่ทำละครอย่าง CG เสือ ใน (พยัคฆา) หรือพญานาคใน (มณีนาคา) ทุกคนจะต้องเล่นกับอากาศ แต่เค้าจะต้องจินตนาการว่านี่ฉันเล่นอยู่กับเสือนะ ฉันเล่นอยู่กับพญานาคนะ พี่ถือว่ามันเป็นในส่วนของการถ่ายทำที่มันต้องใช้จินตนาการสูงกว่าปกติ ส่วนของเรื่อง “ภูตรัตติกาล” ละครเรื่องล่าสุดของพี่เนี่ย เป็นผีดิบอาจจะไม่ยากเท่าเรื่องอื่นในแง่ของการทำ CG เพราะว่านักแสดงเล่นเองแล้วแต่งเอฟเฟกท์ ความยากของ“ภูตรัตติกาล” มันจะอยู่ตรงที่เราใช้เอ็กซ์ตร้าเยอะ เช่น ซีนกองทัพผีดิบ และเราก็ต้องพูดภาษาเหนือ แต่พอเห็นงานที่ออกมาแล้ว พวกเราในฐานะทีมงานก็ดีใจ พอใจในงาน เพราะว่าเราอยากให้คนดูได้รับชมในสิ่งที่ดีที่สุด ไม่ว่าจะเป็นในแง่ของโลเกชั่น และทุกอย่างสำหรับ “ภูตรัตติกาล” ผู้ชมดูแล้วก็จะอิ่มเอมค่ะ”

ความประทับใจกับ “ภูตรัตติกาล” ละครเรื่อง ล่าสุดที่ทำและกำลังได้ใจคนดูอยู่ ณ ขณะนี้
“อันดับแรกเลยนะคะ คือพี่ว่านักแสดงเรื่องนี้เป็นนักแสดงที่ตั้งใจ และทุ่มเทมากๆ พี่ต้องพูดแบบนี้เลยเพราะว่า หลายคนที่มาแสดงเรื่องนี้อย่างพี่ภูมิ (ณัฏฐ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา) เค้าปฏิเสธรับเล่นเรื่องอื่นมาหลายเรื่องแล้ว แต่พอเห็นเรื่องนี้แล้วบทมันน่าเล่นมาก อ่านแล้วมันสนุกมาก มีความท้าทายมาก อย่าง มิ้นท์ (ณัฐวรา วงศ์วาสนา) ก็เหมือนกัน เค้าข้ามช่องมาเล่นครั้งแรก เพราะบทนี้เค้าอยากเล่นมาก มันท้าทายตัวเค้า พี่ก็เลยรู้สึกได้ว่าพอมีนักแสดงแต่ละคนเค้าคิดแบบนี้ แต่ละคนก็มีความสุขในการทำงาน พอมีความสุขในการทำงานเค้าก็พยายามที่จะทำให้ดีที่สุด แล้วเสน่ห์อย่างหนึ่งของเรื่องนี้ที่พี่ชอบมากเลยก็คือ ตัวละครเรื่องนี้มีเกือบ 20 ชีวิต ทุกคนไม่ว่าจะออกมาก ออกน้อย ทุกคนจะมีเส้นเรื่องของตัวเอง ไม่ว่าใครคนไหน จะไม่ใช่แค่ออกมาเพื่อผ่านๆ อย่างพ่อเลี้ยงอินทร (ณัฏฐ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา) เค้าก็มีทางของเค้า หรือแม้แต่สตางค์ (หม่อมเอ็ม-อรรถพล เทศทะวงศ์) บทคือเป็นคนงานในไร่ แต่เค้าก็มีเส้นเรื่อง แบบที่ทุกคนต้องรอดู ยิ่งตัวหลักๆ เราไม่ต้องพูดถึงเลย จะออกมาก ออกน้อยเนี่ยทุกคนมีมิติหมดเลย นี่คือเสน่ห์ของละครเรื่องนี้ แล้วยิ่งเรื่องนี้มีสองภพสองชาติด้วย เป็นปัจจุบัน 70 เปอร์เซ็นต์ อดีต 30 เปอร์เซ็นต์ และวิธีการเล่าเรื่องเราเล่าเป็นพาร์ทปัจจุบัน แล้วให้คนดูร่วมค้นหาไปกับเราว่าทำไมปัจจุบันถึงเป็นแบบนี้ คนดูก็จะค่อยๆ รู้กันไปว่าในอดีตเคยผูกกรรมกันแบบนี้ แบบนี้ คนดูจะค่อยๆ ค้นหาไปด้วยกันกับเราเลยตรงนี้พี่ว่าจะทำให้คนดูสนุก ร่วมเดินทางไปกับเรา ค่อยๆ รู้กันไปทีละเปลาะ ทีละเปลาะลุ้นไปกับเราตลอดว่าระหว่างทางมันจะเป็นยังไง”
ได้นักแสดงเคมีเข้ากันอย่าง “โอม-เบนซ์” และ “โอห์ม-เทียน”
“ถือว่าดีนะคะ เคมีเข้ากันดีค่ะ และเค้าก็เล่นกันกุ๊กกิ๊กน่ารัก หรือแม้กระทั่งอีกคู่ (โอห์ม-เทียน) คู่นี้ก็เล่นเข้าขากันดี ได้ความสด ความใหม่ แล้วก็ทั้งคู่เป็นคนเหนือ ก็เลยอู้คำเมืองได้มันก็เลยไหลลื่น ซึ่งก็มีส่วนที่ทำให้เลือกมาเล่นเรื่องนี้ อย่างบทภาสิณี (เทียน-อัจฉรี บัวเขียว) เค้าต้องพูดเหนือในพาร์ทอดีต และต้องมีความสวยงามแบบเจ้าให้ผาเมือง (โอห์ม-ฐิติวัฒน์ ฤทธิ์ประเสริฐ) มาหลงรัก ซึ่งน้องเทียนเค้าก็มีดีกรีความเป็นนางงาม เพราะฉะนั้นความสวยก็ไม่ต้องพูดถึงเลย ส่วนน้องโอห์มพอรู้ว่าเค้าเป็นคนเหนือ แล้วในเรื่องก็มีส่วนที่เค้าต้องพูดภาษาเหนือเกือบทั้งเรื่อง ก็เลยมองว่าเค้าเหมาะสม”
.jpg)
ดาราน้อยใหญ่ ข้ามช่องมาร่วมงานด้วยมากมาย
“ใช่ค่ะ แต่เหนือสิ่งอื่นใดพี่มองว่าเป็นความทุ่มเทของนักแสดงกับทีมงานที่ต้องพูดว่า บางทีไม่ใช่ว่าเราได้นักแสดงเบอร์ใหญ่ๆ มา แล้วงานจะออกมาดีบังเอิญเรื่องนี้โชคดีที่นักแสดงทุกคนมีอินเนอร์อยู่ข้างใน คือเหมือนว่าเค้ามาทำงานเรื่องนี้ด้วยความที่เค้ารู้สึกสนุกกับมัน พี่อาจจะโชคดีตรงนี้”
ความภาคภูมิใจกับฉายาเจ้าแม่ CG
“ก็ขอบคุณนะคะ จริงๆ ก็คือยังมีงานยาก งานชิ้นโบแดง ที่รออยากจะทำที่แบบ CG งานสร้างอลังการกว่านี้อีก มีรออยู่ กำลังอยู่ในขั้นตอนของการนำเสนออยู่ค่ะ อย่างพยัคฆาพี่อาจจะมีความโชคดีที่พี่ได้ทีมที่เค้าทำไลออนคิงส์ ภาคที่เป็นคนเล่นของฮอลลีวู้ด มาร่วมในการเขียนโมเดลของเสือสมิงในพยัคฆา เป็นคนไทยที่ทำงานอยู่ที่ลอนดอน เสือพี่ก็จะมีแต่คนชมว่ามูฟเมนต์เสือมันเป็นธรรมชาติ ส่วนเรื่องใหม่ที่อยู่ในขั้นตอนของการนำเสนอเนี่ย ถ้าได้ทำพี่ก็จะถือว่าเป็นที่สุดของ CG พี่แล้ว จริงๆ ทำ CG มันเหนื่อยนะ แต่ก็อยากจะทำเป็นชิ้นโบแดงเก็บไว้”
งบประมาณ CG ในแต่ละครั้งสาหัสขนาดไหนบ้าง
“ถ้าภูตรัตติกาลถือว่าไม่หนักเท่าไหร่ เพราะมันไม่ได้เขียนเป็น 3Dแต่เรื่องก่อนๆ อย่างพยัคฆา และมณีนาคาค่อนข้างหนักเอาการค่ะ ตัดกลับมาที่ภูตรัตติกาลก็มีเขียนงู มันจะหนักตรงที่ว่าค่า CG ปรับขึ้นค่อนข้างสูง น่าจะขึ้นไปอีกประมาณ 30 เปอร์เซ็นต์ได้เพราะพี่ใช้เจ้าที่เป็นที่สุดของ CG เลย พอเป็นเจ้าแห่งCG ทำงานออกมาก็เลยแฮปปี้ ได้ดั่งใจ พี่นี่พอได้ร่วมงานกับใครแล้ว อาศัยความรู้ใจมันคลิกก็จะไม่ค่อยเปลี่ยนคน”
.jpg)
มองรสนิยมของคนรุ่นใหม่ในการเสพละครตอนนี้
“ต้องพูดว่าละครเราทำให้ใครดู อย่าง “ภูตรัตติกาล” เราทำให้แฟนๆ ช่อง 8 ดู เราก็จะเลือกที่มันให้อรรถรส แต่คนรุ่นใหม่จริงๆ พี่ว่าเค้าก็จะไปอยู่ในแพลตฟอร์มอื่นๆ เค้าจะไม่ได้อยู่ที่หน้าจอทีวี เค้าจะอยู่บนแพลตฟอร์มอื่น ส่วนคนที่อยู่หน้าจอทีวีสำหรับพี่คือคน 35 อัพ เพราะฉะนั้นทาร์เก็ตของเอพลัสจะเป็นไปตามทาร์เก็ตของช่อง พี่มองว่าช่อง 8 ตอนนี้จะทำละครหลากหลายแนว ส่วนพี่ก็เลือกเรื่องที่อยากทำไปก่อน ถ้าช่องชอบก็ทำ”
ความท้าทายอะไรใหม่ๆ ในการเป็นผู้จัดที่ยังไม่ได้ทำแล้วอยากทำมาก
“อยากร่วมงานกับนักแสดงใหม่ๆ ที่ยังไม่เคยร่วมงาน เอาจริงๆ ละครพี่ทำมาเกือบหมดทุกแนวแล้ว เพียงแต่ว่าความใหม่มันก็จะอยู่ที่ตัวนักแสดง ส่วน “ภูตรัตติกาล” ถือว่าตอบโจทย์คำถามนี้เลยก็ว่าได้ คือตัวนักแสดงหลักๆ ของเรื่องนี้คือไม่เคยร่วมงานกับพี่มาก่อนเลยค่ะ ยกเว้นน้องเบนซ์เจอกันมาแล้วใน “เล่ห์รัญจวน” ร่วมงานกับเบนซ์ เค้าก็เป็นเด็กที่เรื่องดราม่าไม่ต้องเป็นห่วง เค้าเป็นคนที่มีอินเนอร์ หลังกล้องเค้าจะชอบแกล้งคนนู้นคนนี้ แต่เวลาเข้าฉากดราม่าเค้าเป็นคนที่แสดงดราม่าได้ดีมาก น้ำตาไหลเผาะๆๆๆๆ”
.jpg)
ถ้าพูดถึงภูตรัตติกาล 3 อย่างที่ ผู้จัดจะนำเสนอเลยก็คือ
“อันแรกเลยก็คือ ความลึกลับ ชวนค้นหาสิ่งที่ผู้ชมจะได้ดูในเรื่องเลยคือพอเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งกับ “ภูตรัตติกาล”ด้วยกันแล้วจะรู้สึกลึกลับ น่าค้นหา อันที่สองคือ เข้มข้น ครบรส คือมันเข้มข้นมากพี่ต้องบอกแบบนี้ อันที่สามก็คือ กำไรของผู้ชม ผู้ชมจะได้ดูโลเกชั่นสวยๆ ด้วยละครเรื่องนี้พอมันลึกลับ ชวนค้นหาแล้ว พอเราดูมันจะไม่นิ่ง เราจะลุ้นกับมันเพราะมันลึกลับน่าค้นหาลุ้นไปตลอด แล้วพอมันเข้มข้นครบรสแล้วเนี่ย ดูไปบางทีก็ร้องไห้ บางทีก็ขำไปในตัว บางทีก็ยิ้มไปกับไร่ชา ไร่ดอกไม้ไร่สตอว์เบอร์รี่ พี่ลงทุนเพื่อคนดูเลยค่ะ ไปถ่ายเชียงรายขึ้นเหนือ ในยุคโควิดที่มีเคอร์ฟิว พี่ทำงานได้แค่หนึ่งทุ่มคิวในการถ่ายทำของพี่ในเรื่องนี้มันก็จะเยอะกว่าเรื่องอื่นๆ แล้วก็มันถ่ายทำล่าช้าเพราะว่านักแสดงบางคนไม่คุ้นชินกับภาษาเหนือ มีซีนที่ยากเยอะแล้วพูดภาษาเหนืออีก ก็จะใช้เวลาคูณสองเข้าไปอีก”
เปิดตัวละครลอตใหม่ของช่อง 8 ด้วย ภูตรัตติกาล ดีใจ หนักใจ หรือมีอะไรอยากจะบอกไหม
“พี่มองว่า ปกติพี่เป็นคนได้เปิดสลอตใหม่ของช่องมาอยู่ตลอด จริงๆ คือ ชินนะ อย่างพยัคฆาของพี่ก็เป็นละครที่เปิดลอตใหม่ของช่องตอนนั้นคือตอนเย็น รักฉันสวรรค์จัดให้ ก็เปิดช่วงเสาร์-อาทิตย์ปมรักสลับหัวใจ ก็เปิดกลางคืนของเสาร์-อาทิตย์เพราะฉะนั้นความหนักใจมีมั้ยตอบเลยว่าไม่มี เราทำงานของเราให้ดี ตั้งใจทำว่าจะถูกใจผู้ชมมั้ย แล้วก็หวังว่าผู้ชมจะถูกใจมีเท่านี้เอง เหมือนเราทำอาหารค่ะ ปรุงให้อร่อยที่สุดแล้วหวังว่าจะถูกปากคนรับประทานอาหาร”
ฝากให้ติดตามภูตรัตติกาล
“ฝากทุกๆ ท่าน อยากให้ติดตามชม “ภูตรัตติกาล”ที่ขนนักแสดงมาเต็มจอ อาทิ โอม-อัชชา, เบนซ์-ปุณยาพร,ณัฏฐ์ เทพฯ, มิ้นท์-ณัฐวรา, จอร์จ-ฐปนัท, ปาย-สิตางค์,ลิฟท์-สุพจน์, ต่าย-ชัชฎาภรณ์ และนักแสดงน้องใหม่อย่าง น้องโอห์ม-ฐิติวัฒน์, น้องเทียน-อัจฉรี และนักแสดงมากฝีมืออีกคับคั่ง ออกอากาศทุกวันจันทร์-พฤหัสฯ เวลา 20.20 น. ทางช่อง 8 กดหมายเลข 27เป็นละครที่พวกเราทีมงานและนักแสดงตั้งใจมาก อยากให้ติดตามค่ะ สนุก ครบรส ดูเต็มอิ่ม 4 วันต่ออาทิตย์ และจบในแต่ละตอนอย่างระทึก บอกเลยค่ะว่าจะอยากดูตอนต่อไป ในทุกๆ วัน”

