#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า
https://www.naewna.com/entertain/510274

‘ซานิ นิภาภรณ์’ ควง ‘ตุ้ย เกียรติกมล’ ประกาศชัดไม่เคยคิดขยับสถานะจากพี่น้อง
วันศุกร์ ที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2563, 15.39 น.
เป็นคู่ซี่ต่างวัยที่สนิทกันมากตั้งแต่เข้ามาอยู่บ้านเอเอฟด้วยกันความผูกพันที่มีให้กันนับสิบๆปีเลยทำให้ ซานิ นิภาภรณ์ ฐิติธนการ และ ตุ้ย เกียรติกมล ล่าทา รู้กันทุกเรื่องคุยกันทุกอย่าง ล่าสุดทั้งคู่ได้ควงกันมาเยือนรายการ ต้มยำอมรินทร์ ผลิตโดย CHANGE2561 นั่งเล่าอดีตให้ฟังกันอย่างสนุกสนาน พร้อมกันประกาศเคลียร์ให้ฟังชัดๆกลางรายการให้หายคล้องใจใครหลายคนที่เห็นความสนิทของทั้งคู่ที่ดูเหมือนคู่รักว่า ชีวิตนี้ คงเป็น แฟนกัน ไม่ได้แน่นอน คอนเฟิร์ม !!
ซานิ : ต้องบอกว่าถูกชะตาตั้งแต่ที่เราเข้าบ้าน AF เลยค่ะ จริงๆสนิทกันเพราะว่ามีคอนเสิร์ตเดอะวินเนอร์ทั้งหมดคนชนะมี 6 รุ่นมี พี่วิทย์ พี่อ๊อฟ นัททิว แล้วก็มีหนู คือคนประเภทเดียวกันเคมีเราก็จะเข้ากัน
สนิทกันจน ตุ้ย จะแย่งแม่ของ ซานิ เป็นของตัวเองเลย ??
ซานิ : ใช่ค่ะ คือ พี่ตุ้ย เป็นคนสนิทกับแม่ พี่ตุ้ย เขาเป็นเด็กเป็นคนกตัญญูมาก
ตุ้ย : คือตอนไปถ่ายละคร นิ เขาก็จะเอาคุณแม่ไปด้วย ผมก็จะรู้สึกว่าอยู่ในกองมันก็ไม่ได้สบาย ผมก็จะมีเก้าอี้สนามที่เราติดไปเราก็จะเอามาให้คุณแม่นั่ง แม่ทานอะไรหรือยัง เราก็จะแบบเทคแคร์แม่
ถามเลยดีกว่าอย่าง ซานิ ใช่สเปก ตุ้ย ไหม
ตุ้ย : จะเพลินๆก็ได้ (หัวเราะ) ไม่ครับ รู้สึกเหมือนน้อง
ซานิ : สเปก พี่ตุ้ย คือ สาวไทยบ้านๆเลย ไม่ชอบผู้หญิงปรุงแต่งเยอะ เขาชอบคนง่ายๆเรียบร้อย
ตุ้ย : ผมเป็นคนขี้ห่วง คือ ผมชอบมองคนอื่นนะ แต่ไม่ชอบให้ใครมามองคนรักเรา
ตุ้ย เป็นคนเจ้าชู้ไหม ??
ซานิ : พี่ตุ้ย ถ้าโสดเจ้าชู้ แต่ถ้าไม่โสดเขาจะเป็นคนนิ่งมากเฉยๆเลย
แล้วตอนนี้มีแฟนหรือยัง ??
ตุ้ย : ก็จะเป็นคนนอกวงการส่วนมากเลยสำหรับคนที่เราคบเพราะเราเป็นคนขี้ห่วง ถ้าเป็นคนในวงการด้วยกันจะไม่ได้เพราะ ถ้าใส่แบบเปิดนิดหน่อยก็ไม่ได้ล่ะ เพราะเราห่วงเขา อย่างเช่นเวลาเข้าฉากละครจับไม้จังมือนิดหน่อยก็ไม่ได้ล่ะขี้ห่วง ตั้งๆที่เราเล่นมาหมดทุกแบบทำให้เราเห็น แต่จะให้แฟนเรามาเล่นคือ ไม่ได้ เอารวมๆเลยถ้าผู้หญิงในวงการบันเทิง เราจะเป็นเพื่อนเป็นพี่น้องกันมากกว่า 14 ปีในวงการบันเทิงผมไม่เคยมีแฟนในวงการเลย ไม่ชอบไม่มีชอบเลย เพราะความขี้ห่วงของเราเดี๋ยวทำให้คนอื่นเขาทำงานลำบากไปหมด
ตุ้ย : อีกอย่างคือที่ไม่คบกับผู้หญิงในวงการเพราะว่าถ้าเราเลิกมันก็มีโอกาสวนกลับมาเจอกันอีก แต่ถ้านอกวงการเราเลิกกับเขาเราก็ไม่ได้เจอกันอีก
มีครั้งหนึ่งเห็นว่าไปเที่ยวด้วยกันแล้ว ซานิ ตามจีบผู้หญิงให้ ตุ้ย แต่กลับเจอเหตุการณ์ชวนขนลุก เกิดอะไรขึ้น
ตุ้ย : คือ มีอยู่ครั้งหนึ่งเราไปทำงานด้วยกันที่เชียงใหม่ แล้วไปร้านร้านหนึ่ง
ซานิ : เราไปเจอผู้หญิงคนหนึ่งคนสวยออร่ามาก คือ ต้องบอกว่าผู้หญิงเชียงใหม่เวลาเราเจอยิ่งตอนกลางคืนนะจะขาวพุ่งมากๆเราก็คิดล่ะ ว่าคนนี้ พี่เราต้องได้ต้องตามจีบเอาเบอร์มาให้ได้ เพราะหุ่นดีโครตดี แล้วผมดำยาวถึงกลางหลัง เราก็แบบต้องเคลมให้พี่ให้ได้คนนี้ เราก็เดินเข้าไปเขา เราเห็นพร้อมกันทั้งคู่ พี่ตุ้ยกับนิ เราบอกว่าพี่ตุ้ย คนนี้หุ่นโครตดี แล้วเขาเดินหายเข้าไป ค่อยๆหายไปในซอย แล้วก็เดินหายเข้าไปในศาลพระภูมิ
ตุ้ย : เราก็หันมาถาม นิ เห็นไหม
ซานิ : เห็น เราก็โบกรถกลับเลยทันที ทั้งคู่ แบบตอนนั้นสางเลยค่ะ คือตอนนั้นเราอาจจะแซวเพลินปากไปนิดนึง ก็ได้ขอขมามาไปเรียบร้อย
เรามั้งคู่ก็ผ่านกันมาถึงขนาดนี้เคยมีสักแว่ป !! ไหมที่เราปิ๊งกัน
ซานิ : ไม่มีเลยค่ะ
ตุ้ย : ไม่มีเลย
ซานิ : จะบอกว่าที่ไม่มีความรู้สึกนั้นเพราะอะไรรู้ไหม เพราะพี่ตุ้ย เขาเห็นการพัฒนาของหนูตั้งแต่ที่เราเป็นลิงจนมาถึงทุกวันนี้ เขาเห็นเราหมดคือ ตอนแรกคือเราเหมือนเด็กผู้ชายจริงๆ จบจากเอเอฟคือ ทอมบอยเลย ถ้าคนไม่ถามว่าเพศไหนเราแทบไม่ต้องตอบเลยเพราะคำตอบอยู่บนใบหน้าของเรา อยู่ที่ทรงผมของเราเลย มันเลยทำให้พี่ๆหรือคนที่มาเจอเราแรกๆคือเห็นเราเป็นน้องชายเลย
ภาพที่เราเห็นและที่ออกมาคือ ภาพ ที่เขาวางไว้ให้เราหรือเปล่า ??
ตุ้ย : จริงๆเป็นเหมือนคาแรคเตอร์ของแต่ละคนที่มีอยู่ในตัวเองมากกว่าครับ ออกมามันเลยไม่มีการเซ็ตว่าใครจะต้องเป็นแบบไหน ซานิเขาก็จะเป็นแบบของเขา ผมก็จะเป็นตัวของตัวผมเอง ก็จะมีการแนะนำปรึกษากันเรื่องแฟนคลับมากกว่าครับ
ซานิ : เพราะตอนแรกคือ หนูให้แฟนคลับขึ้นมาถึงห้องนอนได้เลย คือ แบบคุณพ่อคุณแม่เราเวลาเขาเชียร์เราตอนอยู่ในบ้าน เขาก็จะมาเชียร์เราที่บ้านของเราเพราะบ้านเราก็ไม่ได้รวยมากคือพอมีคนมาช่วย มาเชียร์เราแม่เราก็รู้สึกซาบซึ้งใจ พอเราออกจากบ้านมาเขาก็อยากมาเจอเรา บางทีเรานอนอยู่ที่คอนโดตอนนั้นที่เราอยู่ก็ไม่ได้ใหญ่มาก คือ เปิดประตูมาเจอเราเลย หนูก็แบบมันใช่เหรอ แต่ด้วยความพ่อแม่เราเขาก็เกรงใจ เขารักลูกเรานะ เขาก็อยากเจอแต่เขาก็ลืมไปว่าบางทีเราก็ต้องมีกรอบเอาไว้ เราก็มาเจอพี่ๆเราก็ได้ปรึกษาพี่ตุ้ย เราเจอแบบนี้ๆนะ พี่เขาก็แนะนำว่าเรื่องนี้เราต้องวางไว้นะ เราไม่ใช่ไม่รักเขานะ แต่เราได้เท่านี้ เขาได้เท่านี้ ต้องมีพื้นที่ต่อกันเราถึงอยู่ด้วยกันได้นาน
แต่มีอยู่เรื่องที่ว่า ตุ้ย กลัว ซานิ ในเรื่องการแต่งตัวมาก เพราะ ซานิ แต่งตัวล้ำมาก ??
ตุ้ย : ใช่ครับ แต่เพราะเขาเป็นคนที่ชอบการแต่งตัว ล่าสุดเขาเลยเปิดร้านขายเสื้อผ้า เราเคยไปออกงานด้วยกันนางจะเยอะมาก คือ ผมเคยเห็นตู้เสื้อผ้าเขา คือ เสื้อผ้าเยอะอลังการมาก คือ ตู้เสื้อผ้าบ้าน ซานิ ใหญ่กว่าห้องครัวอีกครับ เลยทำให้เรากลัว คนอะไรจะใส่เสื้อผ้าเยอะได้ขนาดนี้
ทำไมถึงเปลี่ยนการตัดแต่งตัว เสื้อผ้า หน้าผม แบบชนิดที่เปลี่ยนแรงมากหนักมาก ??
ซานิ : คือมันเริ่มจากความขี้เกียจของเราก่อน แล้วคือ ช่วงที่เราผมสั้น แล้วแบบเครื่องประดับเราเยอะมาก เหมือนโซ่แซ่กุญแจมือเยอะมากกว่าเราจะใส่กว่าจะออกจากบ้านได้เป็นครึ่งชั่วโมง หรือเป็นชั่วโมงเลยค่ะ วันหนึ่งคือ มันเหนื่อยถามว่ามันหยุดได้ไหม มันหยุดไม่ได้ แต่เมื่อเราผมยาวขึ้น ประกอบกับจะให้เราไปใส่อะไรแบบนั้นมันก็ไม่เข้า เราเลยเปลี่ยนจากการใส่โซ่แซ่กุญแจมือ เป็นหมวก เป็นใส่เสื้อผ้าสวยๆที่มาดีเทลแทนเพราะเราเป็นผู้หญิงที่ชมแต่งตัวสวยๆแบบนี้พี่ตุ้ย เขาถึงไม่ชอบ