กางตำราฮาวทู! เปิดแท็กติกม็อบฮ่องกงสู้แก๊สน้ำตายังไงไม่ให้เจ็บตัว #SootinClaimon.Com

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์

https://www.posttoday.com/world/635744

วันที่ 17 ต.ค. 2563 เวลา 17:31 น.กางตำราฮาวทู! เปิดแท็กติกม็อบฮ่องกงสู้แก๊สน้ำตายังไงไม่ให้เจ็บตัวเปิดกลยุทธ์เด็ดที่นักศึกษาฮ่องกงใช้รับมือกับตำรวจปราบจลาจล

ไม่มีผู้นำ

หลังจากความขัดแย้งภายในประเด็นผู้นำกลุ่มของการประท้วงร่มเหลืองเมื่อปี 2014 และการจับกุมคุมขังบรรดาแกนนำ การประท้วงต้านร่างกฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดนจึงเน้นไปที่กลยุทธ์ “ไม่มีผู้นำ” แม้กลุ่มแนวร่วมสิทธิมนุษยชนพลเมือง (CHRF) จะเป็นผู้จัดการชุมนุมครั้งนี้ ขณะที่กลุ่ม Demosist? ที่นำโดย โจชัว หว่อง และกลุ่มที่หนุนการแยกตัวเป็นอิสระจากจีนอย่าง Student Localism ของนักศึกษารุ่นใหม่ มีส่วนในการเรียกระดมพลเข้าร่วมการประท้วง แต่ครั้งนี้กลับไม่มีกลุ่มไหนอ้างการเป็นผู้นำการประท้วง ส่วนสมาชิกสภาที่หนุนประชาธิปไตยที่ปรากฏตัวก็ไม่ได้มีบทบาทมาก แต่กลับไม่มีความโกลาหลเกิดขึ้นในกลุ่มผู้ประท้วง

นอกจากนี้ ผู้ประท้วงยังเตรียมการอย่างเป็นระบบคือ เตรียมอาหารและน้ำดื่ม จัดตั้งหน่วยปฐมพยาบาล และมีการสื่อสารกันอย่างรวดเร็ว วิธีการนี้ช่วยให้การประท้วงมีความยืดหยุ่น และทำให้เจ้าหน้าที่รัฐไม่สามารถเข้าถึงตัวแกนนำที่มีอำนาจในการเจรจาต่อรองได้

ยืดหยุ่นและใช้หลากหลายกลยุทธ์

ผู้ประท้วงนำปรัชญา “เคลื่อนไหวแบบสายน้ำ” ของตำนานบู๊ระห่ำ บรูซ ลี มาใช้ในการประท้วง ด้วยการกระจายกำลังเคลื่อนไหวไปยังสถานที่ต่างๆ อย่างลื่นไหลเฉกเช่นสายน้ำ อาทิ การยกขบวนไปปิดล้อมศูนย์ราชการและสำนักงานตำรวจเพื่อเพิ่มแรงกดดันให้รัฐบาล

นอกจากนี้ ยังยึดหลัก “ไม่แตกแยก” คือ หากไม่เห็นด้วยกับความคิดเห็นหรือวิธีการของผู้ประท้วงคนอื่นก็ไม่ต้องเข้าร่วม แต่ไม่ควรวิพากษ์วิจารณ์หรือขัดขวาง เพื่อรักษาความสามัคคีเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน การใช้กำลังในการประท้วงครั้งนี้เป็นหนึ่งในประเด็นที่มีความเห็นต่าง บางส่วนยืนยันให้ประท้วงโดยสงบ เพื่อให้ดูมีความชอบธรรมและอาจจะได้รับความเห็นอกเห็นใจจากนานาชาติ ขณะที่อีกส่วนหนึ่งโดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่คิดว่าการประท้วงโดยสงบเมื่อครั้งการประท้วงร่มเหลืองไม่ได้ผล เชื่อว่าบางครั้งก็จำเป็นต้องใช้กำลังมิเช่นนั้นรัฐบาลก็จะไม่สนใจเสียงเรียกร้องของผู้ประท้วงอีก หลักไม่แตกแยกจึงเป็นสะพานเชื่อมให้คนทั้งสองกลุ่มเคารพซึ่งกันและกัน เพื่อให้กลุ่มบรรลุจุดมุ่งหมายร่วมกัน

เคลื่อนไหวในโลกออนไลน์

ส่วนใหญ่ผู้ประท้วงจะใช้ช่องทางออนไลน์ อาทิ Telegram และ LIHKG หรือ Reddit เวอร์ชั่นของฮ่องกง ในการติดต่อสื่อสารกัน ไม่ว่าจะเป็นวิธีการประท้วง เช่น ก่อกวนสถานีรถไฟใต้ดิน ทำมีมต่อต้านกฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดน หากชุมชนออนไลน์เห็นด้วยกับไอเดียไหนจึงจะลงมือทำ ฟิลิป เหลียง นักศึกษาวัย 21 ปีที่เคลื่อนไหวใน LIHKG เผยว่า ผู้ประท้วงตัดสินใจได้อย่างอิสระว่าจะเห็นด้วยกับความคิดเห็นของใคร โดยที่ไม่ต้องทราบว่าเจ้าของความคิดเป็นใคร เพราะจุดมุ่งหมายร่วมกันเพียงอย่างเดียวของผู้ประท้วงคือต่อต้านกฎหมาย ไม่ใช่การสร้างไอดอล ทำให้ต่อมาแอพพลิเคชั่น Telegram ถูกโจมตี โดยภายหลัง ปาเวล ดูรอฟ ผู้ก่อตั้ง Telegram เผยว่าต้นทางของการโจมตีมาจากจีนและเกิดขึ้นในเวลาที่ประจวบเหมาะกับการประท้วงในฮ่องกงพอดิบพอดี

Airdrop

ฟีเจอร์ที่มีอยู่ในไอโฟนซึ่งสามารถส่งรูปภาพหากันได้โดยใช้การเชื่อมต่อบลูทูธกลายเป็นอีกหนึ่งช่องทางส่อสารของนักศึกษาฮ่องกง ทั้งในเรื่องของการส่งข้อความพูดคุยนัดแนะกันเองและส่งสารไปยังบุคคลภายนอก

การใช้สัญลักษณ์มือ

เพื่อเป็นการสนับสนุนอุปกรณ์ที่จำเป็นให้กับกลุ่มเพื่อนๆ ที่อยู่ในแนวหน้าอย่างรวดเร็ว กลุ่มนักศึกษาฮ่องกงได้หันมาใช้สัญลักษณ์มือในการส่งข้อความบอกว่าแนวหน้าต้องการอุปกรณ์อะไรบ้าง แล้วสัญลักษณ์มือนี้ก็จะถูกส่งต่อไปยังแนวหลังที่ดูแลอุปกรณ์ต่างๆ ที่ถูกนำมาไว้ใกล้ๆ กับจุดประท้วง จากนั้นอุปกรณ์ที่ต้องการก็จะถูกลำเลียงส่งต่อๆ กันมาจากมือหนึ่งสู่อีกมือหนึ่ง ซึ่งบางครั้งแถวลำเลียงอุปกรณ์นี้มีความยาวถึง 1 กิโลเมตร

ดับแก๊สน้ำตา

ม็อบจะมีตัวแทนที่เรียกว่า “นักดับเพลิง” คอยประจำอยู่ด้านหลังของแนวหน้าโดยมีกรวยจราจรเป็นเครื่องมือประจำตัว เมื่อเจ้าหน้าที่ยิงแก๊สน้ำตาใส่ บรรดานักดับเพลิงก็จะรีบวิ่งไปแล้วนำกรวยจราจรไปครอบแก๊สน้ำตา เพื่อไม่ไห้ควันกระจายตัวไปถูกผู้ชุมนุมคนอื่นๆ ส่วนคนอื่นๆ ก็จะเทน้ำลงไปในกรวยจราจรเพื่อดับแก๊สน้ำตา หรือหากไม่มีกรวยจราจรก็จะใช้ผ้าชุบน้ำคลุมไปที่แก๊สน้ำตา อีกวิธีหนึ่งคือ ผู้ประท้วงที่มีถุงมือกันความร้อนจะเข้ามาหยิบแก๊สน้ำตาแล้วขว้างออกไปให้พ้นรัศมี หรือบางครั้งก็ขว้างกลับไปใส่เจ้าหน้าที่

โหมโฆษณา

เมื่อเดือน มิ.ย. 2562 กลุ่มผู้ประท้วงได้จัดระดมเงินทุนในโลกออนไลน์เพื่อลงโฆษณาจดหมายเปิดผนึกในหนังสือพิมพ์ชื่อดัง อาทิ The New York Times ของสหรัฐ, The Guardian ของอังกฤษ, Japan Times ของญี่ปุ่น, Süddeutsche Zeitung ของเยอรมนี, Chosun Ilbo ของเกาหลีใต้ ก่อนการประชุมผู้นำกลุ่มประเทศ G20 ที่ประเทศญี่ปุ่น เพื่อให้นานาชาติรับรู้และร้องขอให้รัฐบาลต่างชาติเข้ามาแทรกแซง เป้าหมายการระดมทุน 3 ล้านเหรียญฮ่องกง หรือราว 11.85 ล้านบาทบรรลุภายในไม่ถึง 4 ชั่วโมง และสามารถระดมเงินได้ 5.45 ล้านเหรียญฮ่องกง หรือราว 21.53 ล้านบาท ภายในไม่ถึง 6 ชั่วโมง

Leave a comment