#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า
https://www.naewna.com/local/544593

มจร.เตรียมเปิดหลักสูตร Science and Technology เป็นการจัดการศึกษาแบบ Micro-Credentials แห่งแรกในไทย
วันอังคาร ที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2564, 06.00 น.
ดร.กลางใจ สิทธิถาวร ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายพัฒนาการศึกษา มจธ. ผู้รับผิดชอบโครงการแพลตฟอร์ม KMUTT Micro-Credentialsเปิดเผยถึง การจัดการศึกษาแบบ Micro-Credentials ว่า Micro-Credentials เป็นการจัดการศึกษาแบบเฉพาะเจาะจงที่เน้นความสามารถผู้เรียนเป็นตัวตั้ง มีความยืดหยุ่นสูง และไม่จำกัดวัยผู้เรียน ขณะนี้เป็นการจัดการศึกษาที่ใช้กันแพร่หลายในประเทศสหรัฐอเมริกา จะเริ่มนำมาใช้ในการจัดการเรียนการสอนที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.)ในต้นปีการศึกษา 2564 โดยเน้นเรื่อง Scienceand Technology ซึ่ง มจธ.จะเป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกในประเทศไทยที่จัดการเรียนการสอนรูปแบบ KMUTT Micro-Credentials โดย ร่วมกับ ดิจิทัล พรอมิส (Digital Promise)ผู้เชี่ยวชาญการออกแบบ Micro-Credentialsจากสหรัฐอเมริกา มาทำงานร่วมกันในการวางกรอบมาตรฐานสำหรับการออกแบบ และจัดทำ Micro-Credentials เพื่อเป็นการนำร่องและวางแนวทางและเตรียมรองรับระบบการศึกษารูปแบบใหม่สำหรับผู้เรียนในทุกช่วงวัยนอกจากสหรัฐอเมริกาแล้ว ทาง มจธ.ได้ศึกษารูปแบบ Micro-Credentialsของประเทศนิวซีแลนด์ ที่กำหนด Micro-Credentials เป็นนโยบายของประเทศ เพื่อจะตอบสนองต่อคนในหลายกลุ่มอาชีพ ที่ต้องการการรับรองความสามารถสู่ปริญญาหรือต้องการจะพัฒนาทักษะของตนเองเพื่อเพิ่มความก้าวหน้าในอาชีพหรือสร้างทักษะใหม่
ดร.กลางใจ กล่าวต่อว่า การจัดการเรียนการสอนแบบ Micro-Credentials เพื่อรับรองความสามารถที่เฉพาะเจาะจงนี้จะเปิดกว้างสำหรับบุคคลอายุตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไป จนถึงวัยเกษียณ สำหรับคนที่ไม่เคยอยู่ในระบบการศึกษาภาคปกติ คนวัยทำงาน รวมถึงนักศึกษาที่อยู่ในการศึกษาภาคปกติ ที่ต้องการพิสูจน์ความสามารถของตนเอง โดยที่ไม่จำเป็นต้องมาเรียนในการเรียนการสอนรูปแบบปกติ ซึ่งเมื่อผ่านการพิสูจน์ความสามารถแล้ว ผู้เรียนหรือผู้ขอการรับรองจะได้รับประกาศนียบัตรดิจิทัล ซึ่งสามารถสะสมเป็นหน่วยกิตสำหรับขอรับปริญญาบัตรได้
ทั้งนี้ หลักสูตรที่เกี่ยวกับ Science and Technology จะเป็น Micro-Credentialsแรกของ มจธ. เพราะด้วยความพร้อมของ มจธ. ที่มีบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญจากหลายคณะได้มาร่วมกันออกแบบหลักสูตรให้มีความหลากหลายรวมถึง Science and Technology เป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญเป็นอย่างมากเนื่องจากกระแสDisruption ในวงการวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงและเกิดนวัตกรรมใหม่ๆอยู่ตลอดเวลา และจะส่งผลต่อการดำเนินชีวิตของผู้คนเป็นอย่างมาก องค์ความรู้ที่เกี่ยวข้องก็มีการปรับเปลี่ยนอยู่เสมอ ดังนั้นมหาวิทยาลัยจึงจำเป็นที่จะต้องออกแบบการศึกษารูปแบบใหม่ที่จะสามารถปรับตัวได้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น อีกทั้งงานด้าน Science and Technology เป็นสายงานที่เป็นที่ต้องการของตลาดแรงงานปัจจุบัน โดยคาดว่าจะเริ่มเปิดให้เรียนได้ในปี 2564
