#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : ข่าวเกษตรรุ่น 23
Emmeral KU23 55st Anniversary 2506-2561
๕๕ ปีที่พบกันความสัมพันธ์ไม่เสื่อมคลาย
ฉบับเดือน ตุลาคม 2561 ฉบับ วันคล้ายวันสวรรคต พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช(13 ตค) วันปิยะมหาราช(23 ตค) วันออกพรรษา(24 ตค)
สวัสดีครับเพื่อนๆที่รักทุกท่าน
ปกติเดือนกันยาเป็นเดือนสุดท้ายของการทำงานของราชการจึงมีการเลี้ยงอำลาชีวิตราชการกันตามหน่วยงานต่างๆแต่รุ่นเราพวกที่เคยเป็นขรก.ก็เกษียณอายุราชการกันแล้วยกเว้นพวกที่เป็นเถ้าแก่ เถ้าแกเนี้ย ยังต้องทำงานกันต่อ ในเดือนกันยาของทุกปีก็จะมีคนเกิดเดือนกันยามาร่วมงานสังสรรค์ที่ สหโภชน์มากกว่าเดือนอื่นๆในรอบปี บางเดือนหาคนเกิดในเดือนนั้นไม่ได้ต้องหาหน้าม้าขึ้นไปตัด Cake แทน ส่วนเดือนตุลาจะมีคนเกิดเดือนตุลาขาดทั้งๆที่เขาจะมาทุกเดือนแต่จะขาดก็ตรงเดือนเกิดเดือนตุลาทุกปีเขาผู้นี้จะคอยเป็น conductor ให้เพื่อนๆร้องเพลงให้ตรงคีย์ บอกแค่นี้ทุกคนก็คงร้องอ๋อแล้วว่าบุคคลผู้นี้คือ ** Conductor – บรรลุ ** นั่นเองเพื่อนจะต้องกลับไปทำบุญที่อุบลทุกปี
มก.จะมีพิธีพระราชทานปริญญาบัตรระหว่างวันที่ 21-25 ตุลานี้ซึ่งวันสังสรรค์ของรุ่นเราจะป็นวันจันทร์ที่22 ตุลาดังนั้นจะมีปัญหาเรื่องจราจรและที่จอดรถขอให้รีบเข้าในมก.แต่เนิ่นๆนะครับ
วารสารนนทรี ฉบับเดือน มิย – กันยายน 61ได้ซุบซิบเพื่อนเรา KU.23 ชาวค่าย 2 คน วัดังนี้
บำรุง บุญปัญญา มก. 23 (ราชสีห์อีสาน) ผู้มีอุดมการณ์กับการพัฒนาคนและพื้นที่ในชนบทซึ่งเป็นหนึ่งในสองผู้ก่อตั้งชมรมนิสิตค่ายอาสาพัฒนา ตั้งแต่สำเร็จการศึกษาเป็นบัณฑิตก็ฝังตัวกับการทำงานในชนบทเป็นเวลายาวนานต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน เป็นประชาชนเต็มขั้นที่มุ่งหวังให้สังคมชนบทมีความกินดีอยู่ดีตามสมควร ขอคารวะในอุดมการณ์ …..
ดร.เวท ไทนุกูล มก.23 หนึ่งในสองผู้ก่อตั้งชมรมค่ายอาสาพัฒนาซึ่งเป็นประธานชมรมค่ายอาสาพัฒนาคนแรก อดีต ผช.ผอ.ศูนย์วิจัยยาง จ.สงขลา อดีตผู้จัดการสมาคมยางพาราไทย ยังคงเข้าร่วมสนับสนุนกิจกรรมชมรมนิสิตเก่าค่ายอาสาพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าทุกวันนี้จะละทางโลกไปทำงานด้านพระพุทธศาสนามานาน โดยเป็นผอ.ศูนย์ฝึกอบรมและพัฒนาจิต(หลักสูตรคุณแม่ดร.ศิริ กรินชัย) ที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ..
** จิตติวรรณ – สุจิต ** เพื่อนเราได้ล้มป่วยลงหลังจากการไปทัวร์ Geopark Satun เมือเดือนสิงหาคม ตอนนี้พักรักษาตัวอยู่ที่บ้านโดยมีครอบตรัวเฝ้าดูแลและเป็นกำลังใจอย่างใกล้ชิดเป็นเยี่ยงอย่างที่ดีครอบครัวหนึ่งพวกเพื่อนๆ KU.23 ก็ทยอยส่งกำลังใจให้ สุจิต มีพลังจิตและใจเพื่อให้โรคร้ายบรรเทาและหายขาดไปในที่สุด ต่อไปนี้เป็น Line ของลูกชายของ สุจิต ส่งให้เพื่อนๆของแม่ได้รับรู้อาการของคุณแม่และการเป็นกำลังใจของครอบครัวที่เฝ้าระวังอยู่รอบข้างตลอดเวลา(ข้อความนี้แจ้งให้เพื่อนๆที่ไม่มี Line อ่านดูครับ)
แจ้งการป่วยคุณแม่ จิตติวรรณ มหิสรากุล วันที่ 24 – 30 กันยายน 2561
วันที่ 24-26 กย. คุณแม่มีอาการผุดลุกผุดนั่งตอนกลางคืนเนื่องจากต้องการเรอ คายน้ำลายเหนียวตลอดทั้งคืน มีเสมหะที่มีสีน้ำตาลอ่อน(น้ำย่อย)บ้าง ใสบ้าง ไม่มีสีเขียวคือการติดเชื้อร่วมด้วย ลูกๆเฝ้าติดตามอาการอย่างใกล้ชิดตลอดทั้งวันทั้งคืน คุณแม่จะกดกริ่งเรียกขอลุกขึ้นจากเตียงบ้าง ขอเดินไปนอนที่เก้าอี้เอนเพื่อความสบายบ้าง คุณแม่จะนอนได้ยาวขึ้นในช่วงเช้า – ช่วงสายๆช่วงเที่ยง ลูกๆจะถามคุณแม่เพื่อประเมิณอาการความต้องการ คุณแม่ต้ดสินใจออกไปหาหมอหลิว เพื่อรักษาอาหารตามที่เคยทำทุกวันสม่ำเสมอ มีอาการเดินเหินที่
อ่อนแรงขึ้น เดินต้องมีลูกพยุงอยู่ตลอดเวลา ขึ้นเตียงรักษายากขึ้นเป็นลำดับ ระบบขับถ่ายทำงานตามปกติคือปัสสาวะบ่อย อุจจาระวันละสองครั้งต่อวัน ทางลูกๆเปลี่ยนแพมเพอเพื่อรักษาสุขอนามัยอย่างสม่ำเสมอ สำหรับการรับประทานอาหารต่างๆรวมทั้งยาต้มเป็ดทานได้น้อยลงอย่างเห็นได้ชัด มีบางมื้อที่ท่านอดทนและเข้มแข็งในวินัยการรักษาตัวจึงทานได้ ช่วงนี้มีเพียงน้ำเปล่าบ้างที่ทานได้ดี เพราะมีอาการเจ็บที่กลางลิ้นปี่ อาการทางกายจะให้ลูกๆช่วยทายาหม่องให้ที่หน้าอก แผ่นหลัง ลำคอและจมูก เพื่อบรรเทาเจ็บกลางอกมีเวทนาบ้างพอสมควรในช่วงนี้ แผนการรักษาของคุณหมอยังคงต้องแก้ไขอาการแกสในช่องท้อง แต่ไม่ค่อยเห็นผลการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น มีการปิดยาที่หน้าท้องเพื่อคลายความเจ็บปวดซึ่งก็ทำให้บรรเทาบ้างตามพยาธิสภาพ
27 กันยายน 2561 หลวงพี่ใหญ่ หลานชายคุณแม่ที่บรรพชาเป็นพระภิกษุกว่า 30 พรรษา เดินทางกลับมาจากวัดที่อเมริกาเพื่อมาเยี่ยมอาการคุณแม่(หมายบ่วย –เรียกตามชื่อเล่นของคุณแม่ที่หลานทุกคนรัก) ท่านมาให้พลังงาน ความเมตตาและเปิดจักวาลทั้งหมดให้ คุณแม่มีอาการสงบมากเมื่อพบท่าน อาการทางกายสามสี่วันที่ผ่านมานั้นสงบลงไปด้วยเมตตาบารมีและความศรัทธาในตัวหลวงพี่ใหญ่ คุณแม่ฟังเทศน์รับการรักษาด้วยพลังบำบัดในบรรยากาศครอบครัวอันอบอุ่นยิ่ง ในช่วงท้ายของการเทศน์เรื่องเรื่องอนัตตา ตวามไม่ถือเอาอะไร หมายบ่วยมีสีหน้ายิ้มแย้มมาก ลูกชายเดินไปเปิดกระเป๋าถือคุณแม่ หยิบกระเป๋าสตางค์มาเตรียมให้คุณแม่เพื่อทำบุญตามความเป็นปกติคนรักทำกุศลทาน คุณแม่หยิบเงินทั้งหมดโดยไม่นับ ในกระเป๋าถือแบบพับสองข้างยาวออกข้างหนึ่งซึ่งทุกคนเห็นว่าจัดเรียงไว้อย่างเป็นระเบียบด้วยแบงค์ 1000/500 ท่านใหญ่พยายามปฏิเสธการรับทานเนื่องด้วยว่ามีประสงค์มั่นในการมาโปรดคุณอาสาวที่รักที่สุดเท่านั้น ไม่มีความประสงค์จะรับกุศลทานใดๆติดกลับ คุณแม่มีท่าทางทางกายยื่นอยู่เช่นนั้นเป็นการแสดงความประสงค์ในการทำกุศลทาน ลูกชายกราบนิมนต์หลวงพี่ให้เมตตารับทานนี้ไว้เพื่อหมายบ่วยได้สบายใจและได้ให้ท่านรับและอนุโมทนาวิธีต่อ เมื่กล่าวเสร็จท่านได้เทศน์เรื่องการไม่ยึดติดในสิ่งของ ในอารมณ์และการไม่เที่ยงของสังขาร คุณแม่ฟังอย่างตั้งใจด้วยอาการพนมมือขึ้นตลอดการเทศน์ พอเทศน์ใกล้จบคุณแม่ทำทำกริยาแปลกๆคือนำแบงค์ 100 แบงค์เศษต่างๆในช่องเก็บเงินอีกข้างออกมาวางในตัก ท่านใหญ่กล่าวว่า.” ไม่เอาแล้วหมายบ่วย ไม่เอาแล้วๆพอแล้ว หมายบ่วยเก็บเงินนี้ไว้เถิดท่านไม่รับแล้ว “ หมายบ่วยตอบด้วยเสียงเบาๆในลำคอด้วยสำเนียงใต้ว่า “ หมายบ่วยเทกระเป๋าแล้วท่านรับเถิด” ท่านใหญ่มองหน้าอันมุ่งมั่นจริงจังนั้นแล้วเดินเข้ากอดคุณอาที่รัก คุณแม่ยื่นเงินนั้นไว้ใต้ชายจีวร ท่านรับไว้และกอดกันแน่น สักพักอย่างประทับใจในความเข้าใจธรรมของคุณแม่ ก่อนลากลับคุณแม่กล่าวว่า “ ไม่ได้ส่งท่านนะ “ ท่านใหญ่จับมือคุณอาที่รักกล่าวว่า “ ไม่เป็นไรเลย นอนนะ “ ท่านห่มผ้าให้คุณแม่และลากลับไป
อาการคืนนี้หลังท่านใหญ่กลับไป คุณแม่มีอาการผุดลุกผุดนั่งเกิดขึ้นอีก มีอาการทางเวทนามากเหมือนมาทดสอบความเข้าใจธรรม คุณแม่มีท่าทีเจ็บปวดหรือสนใจความเจ็บปวดน้อยลง ลูกชายคอยกอดประคองลุก นั่ง หอมแก้มให้กำลังใจและชมอาการเทกระเป๋าเพื่อระลึกสภาวะไว้ อาการโดยรวมของทั้งวันมีอาการทรงๆทรุดๆหนักบ้างเบาบ้าง หลับบ้าง ลุกบ้างสลับทั้งวัน วันนี้ไม่ได้ไปรักษาตัวเพราะคุณหมอให้พักผ่อนก่อน
วันที่ 28 กันยายน 2561 วันนี้ยังคงออกไปรักษากับหมอหลิวดังเคย แม่มีอาการอ่อนแรงมาก ไม่สามารถเดินได้ จึงต้องนั่งรถเข็นขึ้น – ลงจากตึก แนวทางการรักษายังคงพยายามรักษาความสมดุลให้ได้มาก มีการฉีดโสมเข้า
เส้น นวดคลาย แปะยาบรรเทาการปวด คุณหมอเห็นอาการอ่อนเพลียมากจึงบอกลูกๆให้พักแบบวันเว้นวันก่อน อาการวันนี้หนักมากที่สุดเท่าที่อยู่ใกล้คุณแม่ .. อ่อนแรง เจ็บหน้าอก แน่นท้อง จะบอกให้ทายาหม่องให้ ต้องคอยจับมือไว้ตลอดการเดินทาง จะขอกอดเพื่อเปลี่ยนสภาวะเจ็บปวด ท่าทางที่นิ่งสงบของเมื่อคืน วันนี้เวทนาธรรมรุมเร้าหนักมากจนกำลังธรรมเอาไว้ไม่อยู่ คืนนี้ท่านใหญ่เมตตามาเยี่ยมหมายบ่วยอีกเป็นวันที่สอง ท่านมารักษาด้วยพลังบำบัด ลูกๆขอให้ญาติเตรียมชุดสังฆทานอันมีผ้าไตรเป็นที่ตั้ง ก่อนคุณแม่ฟังเทศน์ หลวงพี่แอบกระซิบลูกชายคนเล็กว่า “ ให้นำเงินถวายหลวงพี่ 5000 บาท มีไหม?” ลูกชายตอบทันทีว่า __” มากกว่านี้ผมก็พร้อมให้แม่ ให้หมดตัวผมก็ได้เลยแม่ ของผมคือของแม่ตรับ “ แม่ยิ้ม นิ่งไปสักพักกล่าวสั้นๆว่า “ หมื่นนึง ” เมื่อท่านรับเงินแล้วนอนบนเตียง นำเงินวางแนบอก อธิษฐานด้วยกำลังสติ สักพ้กหลวงพี่ใหญ่พร้อมจึงพาคุณแม่ลุกขึ้นรถเข็นมาที่โต๊ะถวายผ้าไตร หลวงพี่เทศน์เรื่องมะพร้าวนาฬิเกของท่านพุทธทาสให้ฟัง คุณแม่รับฟังด้วยอาการสงบยิ่ง พยักหน้า อาการความเจ็บปวดคลายลงอย่างเห็นได้ชัด พอกล่าวรับศีล ถวายสังฆทานแล้วท่านใหญ่เมตตาเปลี่ยนครองผ้าจีวรใหม่ทันที หมายบ่วยยินดีมาก ยกมือท่วมหัวตลอดเวลา หลังจากนั้นลูกชาย-ลูกสะใภ้ได้ขอเมตตาหลวงพี่ได้นำขอขมาอโหสิกรรมคุณแม่เมื่อครั้งยังมีสติสัมปฃัญญะอยู่ คุณกล่าวว่า” อโหสิกรรมให้ทุกคน ทุกอย่าง แม่ให้อภัย ให้ทุกอย่าง “ ลูกๆพากันไปกราบเท้ากราบตัก
วันที่ 28 กันยายน 2561(ต่อ) เมื่อก่อนจบอโหสิกรรม คุณพ่อเดินมากอดคุณแม่และหอมแก้มกันด้วยความรัก จบอโหสิกรรมคุณแม่มีอาการเพลียจึงพาท่านส่งขึ้นเตียงด้วยความอบอุ่นของทุกคนในครอบครัว สักพักพวกเราในครอบครัว ญาติ รวมทั้งท่านใหญ่ลงความเห็นว่าควรโทรหาพี่อุ้น หลานรักคุณแม่อีกท่านเพื่อขอนำศรัทธาหลวงปู่ทวดมาให้คุณแม่ในตอนนี้ พวกเราโทรหาพี่อุ้นทันที พี่อุ้นตอบรับและรีบมาหาที่บ้าน คืนนี้ได้รับความเมตตาจากหลวงปู่มาสื่อสารกับแม่และที่เหนือความเข้าใจวิทยาศาสตร์ ความอัศจรรย์คือ คุณแม่ที่นอนอย่างสงบ พอหลวงปู่เรียก คุณแม่ลืมตาโพรงขึ้น ยกมือทูนหัว หลวงปู่เทศน์สักพัก พวกเราทุกคนที่เฝ้ามองนั้นได้ยินหลวงปู่ว่า “ ไปกับหลวงปู่ไหม ไปแดนสุขาวดีกัน ที่นั่นมีการปฏิบัติธรรม มีการทำกุศลที่ลูกชอบนะ “ มีตอบด้วยเสียงดังฟังชัดว่า “ ไปคะ “ พวกเราทุกคนมองหน้ากันไปมา หลวงปู่สอนเรื่องภาวนาอาณาปานสติ ให้พิจารณาลมหายใจเข้าออก บริกรรมพุทโธ ให้ผ่อนคลาย สบายนะ ไม่เอาอะไรแล้วนะ ไม่มีอะไรแล้ว สบายแล้วนะ จบการสนทนาคุณแม่หลับตาลง หลับไปอย่างง่ายดาย คืนนี้คุณแม่หลับอย่างไม่มีเวทนาเลยทั้งคืนจนกระทั่งเช้า ลูกๆถึงกับอุทานว่า “ อ้ศจรรย์จริงหนอ
วันที่ 29 กันยายน 2561 เมื่อตื่นขึ้นมาคุณแม่มีอาการเบที่ลิ้นปี่กลับมาดังเดิม ลูกๆพยายามลองให้ทานน้ำต้มเป็ด โจ๊กอ่อนๆ ท่านทานได้นิดหน่อย แล้วขอตัวขึ้นเตียงนอน ก่อนล้มตัวนอนลูกถามว่า เมื่อคืนตอนหลวงปู่เทศน์นั้น แม่รู้สึกตัวไหม คุณแม่พยักหน้า แลัวจะไปกับหลวงปู่จริงหรือ ท่านตอบเบาๆว่าจริง ลูกชายมองหน้ากันแล้วถามต่อว่า ไม่อยู่กับพวกเราแล้วหรอ ท่านไม่ตอบ ส่ายหน้า แล้วหันมาหอมแก้มลูกชาย พวกเราทราบเจตนารมณ์ที่ตั้งมั่นนั้น ในแววตาที่แม่เราคุ้นเคย เรานิ่งเงียบกันทุกคน วันนี้คุณแม่หลับเกือบทั้งวัน ลูกชายคนโตยิ้มบอก เฝ้าแม่สบายจัง วันนี้แม่นอนดีจัง พวกเราทุกคนยิ้ม คืนนี้ท่านใหญ่ยังมีเมตตามาเยี่ยมหมายบ่วยเป็นคืนที่
สาม ท่านทำพิธีกรรมเพื่อช่วยเสริมพลังให้กับบ้านเรือนและคุณแม่อยู่เกือบสามชั่วโมง คุณแม่เริ่มมีเวทนาเกิดขึ้นตอนค่ำ ท่านใหญ่ คุณพ่อ พี่ทิพย์ น้องชาย ตุ๊กตา ร่วมกันส่งพลังให้คุณแม่ สักพักคุณแม่มีอาการบรรเทาลง พวกเราคุยกันอีกสักพักในห้องรับแขกเพื่อปรึกษาอาการคุณแม่ สักพักมีข่าวจากหมอหลิวมาเพื่อให้เฝ้าระวังอาการคุณแม่ในช่วงอาทิตย์นี้ ครอบครัวตัดสินใจนิมนต์หลวงพี่พักที่บ้านเพื่อให้หมายบ่วยได้มีหลักชัยนำทางและมีศรัทธามั่นในช่วงเวลานี้ ท่านตอบรับด้วยความเมตตาว่า “ อาตมาเดินทางมาเยี่ยมหมายบ่วยเป็นเรื่องหลัก อาตมารับนิมนต์พวกเราทุกคน” ก่อนเดินทางกลับคุณแม่เรียกหาลูกชายคนเล็กและกระซิบเบาๆอย่างรู้กันว่า “ ถวายท่านอีกห้าพัน “ ลูกชายรีบเดินไปหยิบเงินเพื่อให้แม่จบอธิษฐาน เมื่อหลวงพี่เดินผ่าน หมายบ่วยยื่นเงินในมือออกขวางทางท่าน ท่านกล่าวเช่นเดิมว่า “ ไม่เอาแล้วหมายบ่วย ไม่เอาแล้ว “ ลูกๆจึงคุกเข่ากราบท่านให้เมตตารับปัจจัยในความตั้งใจของคุณแม่นี้ด้วย ท่านนั่งลงใกล้เตียงรับปัจจัยกำไว้ในมือทั้งสอง คุณแม่ยิ้มออกมาอย่างปิติสุข เราทุกคนไม่เคยเห็นแววตาและสีหน้าสของคุณแม่เช่นนี้มาก่อนเลยในชีวิต ช่างผ่องแผ้ว สดใส ยิ้มชื่นบาน ช่วงเวลานั้นหลวงพี่ว่า “ แม่วางหมดแล้ว ไม่เอาอะไรแล้ว แม่ได้สภาวะมหาปิติ มหาสติครบแล้ว พวกเราสบายใจกับแม่ได้แล้วนะ จะเป็นก็สุข จะไปก็สบาย “ แม่ยิ้มไม่ตอบอะไร แววตาเข้าใจและมุ่งมั่น คืนนี้แม่นอนหลับดีทั้งคืน ตื่นสองครั้ง มีเวทนาเกิดท่านนิ่งมาก กระซิบให้ทายาหม่องให้ เน้นว่าที่จมูก ตอนแรกๆลูกไม่เข้าใจ นึกเอาว่าคงได้สบายๆ แต่เมื่อสังเกตท่านแล้วเข้าใจว่าคงแน่นหน้าอกมากจนจับลมหายใจไม่ถนัด ที่อยากทายาหม่องที่จมูกเพราะอยากมีเคริ่องอยู่กับเวทนาคือลมหายใจ เราสังเกตอาการสงบด้วยการหายใจอย่างสม่ำเสมอ ชื่นชมความเป็นนักภาวนาของท่านในยามนี้อย่างมั่นคง
วันที่ 30 กันยายร 2561 อาทิตย์นี้คุณแม่มีอาการทรุดอย่างเห็นได้ชัดเจน แต่ท่านมีธรรมเป็นเครื่องนำทางผ่านความศรัทธาของหลวงปู่ทวดและการเทศน์ของหลวงพี่ใหญ่ ตอนนี้ท่านมีอาการสงบระงับได้ดีมาก มีอาการตื่นบ้างเป็นระยะๆจะกระซิบให้ประคอง ทำอย่างนั้นอย่างนี้ได้บ้าง ลูกๆเฝ้าดูอาการต่างๆอย่างใกล้ชิด มีคุณหมออายุรกรรมที่ได้รับความวางใจจากครอบครัวคตอยให้คำแนะนำทางโทรศัพท์ คุณหมอหลิวมีเมตตาจะมาฝังเข็มและรักษาให้ที่บ้านในคืนนี้
ขอบพระคุณทุกท่านที่มีความรักและศรัทธาในตัวรวมทั้งส่งแรงใจ กำลังใจ คุณงามความดีทั้งหลายมาให้พวกเราและคุณแม่จิตติวรรณ มหิสรากุล เป็นอย่างสูง ถ้ามีความคืบหน้าในอาการป่วยอย่างไรจะแจ้งให้ทุกท่านทราบต่อไป ผมบายนะครับ เป็นลูกชายคนโต ครับผม ตอนนี้ถือโทรศัพทฺคุณแม่ไว้ครับ
ต่อไปนี้เป็นข้อความที่เพื่อนๆส่งกำลังใจไปให้ ** จิตติวรรณ –สุจิต ** และครอบครัว ผ่านทาง Line
ผุสดี-ต๊ะ
ขอบคุณมากครับลูกคุณแม่จิต ที่แจ้งอาการมา นาต๊ะฝากความระลึกถึงและส่งกำลังใจให้คุณม่ด้วยนะ
ลัดดา – แม่หมี
ขอบคุณมากๆนคะที่รายงานอาการของคุณแม่ให้พวกเราทราบ ขอกุศลที่ป้าได้ทำมาทั้งหมดนี้จงทำให้คุณแม่หายจากความทุกข์ในครั้งนี้ ป้าขอเอาใจช่วยด้วยนัคะ
นิตยา
จิต ขอให้บุญที่เราทำและที่จิตทำ จงนำความสงบมาสู่จิตทั้งกายและใจ
ตุ๊ก-วราภรณ์
จิต ขอเป็นกำลังใจให้จิต ให้มีพลังกายและพลังใจ สามารถผ่านความทุกข์ในครั้งนี้จ้า
กาญจนา – อิ๋ง อิ๋ง
จิต ขอให้ก้าวผ่านความเจ็บปวดทั้งหลายไปด้วยดีนะ มีครอบครัวที่อบอุ่นคอยดูแล จิตต้องหายป่วยจ้า
เยาวนุช – ต้อย
ขอบคุณน้องบายและน้องใช้ที่เก่งมากเลยคะ เล่าได้ชนิดคนอ่านนึกตามไปได้ชัดเจน ฝากบอกแม่จิตด้วยว่าน้าต้อยขอส่งกำลังใจและบุญกุศลที่มีให้แม่จิตเพื่อให้มีพลังต่อสู้กับโรคภัยไข้เจ็บไปได้ในที่สุดนะคะ น้าต้อยคิดถึงแม่จิตเสมอและตลอดไป
พนิดา – ต้อย
ขอส่งกำลังใจให้จิตเพื่อนรัก ให้สงบทั้งจิตและกาย ทุเลายิ่งๆขึ้นตามลำดับนะคะ ขอบคุณหลานชายที่ช่วยส่งข่าวคุณแม่ ขอให้เจริญนะคะ ลูกได้ทำในสิ่งที่ประเสริฐยิ่งแล้ว
ดร.โสภณ
จิตติวรรณครับ กำลังใจสำคัญที่สุด ผมขอเพิ่มกำลังใจให้จิตติวรรณ จงหายวันหายคืนนะครับ
ศ.เกียรติคุณ ดร.เอิบ
ขออธิษฐานให้จิตหายป่วยและมีกำลังใจต่อสู้กับทุกอย่างที่เกิดขึ้นครับ
ในส่วนตัวของผมขอเสนอให้ครอบครัวลองปฏิบัติตามหนังสือที่ประดิษฐ์ซื้อมาแจกเพื่อนที่ชื่อว่า เคล็ดลับอาหารต้านมะเร็ง ที่มีภก.ดร.นิพนธ์ ตุวานนท์ เป็นผู้เขียนจากประสบการณ์ที่รักษาอาการป่วยจากโรคมะเร็งและผู้ที่ปฏิบัติคามและหายคือ นพ.ณรงค์ ฐิตะไพศาลผล นอกจากนี้ในหนังสือเล่มนี้ยังมีบทสวดโพดณังคปริตร เป็นบทพุทธมนต์ที่ว่าด้วยเรื่องของปัญญา เป็นธรรมชั้นสูง ซึ่งกล่าวถึงองค์คุณแห่งการตรัสรู้ 7 ประการได้แก่ สติ(ความระลึกได้) ธรรมวิจยะ(ความเลือกเฟ้นพิจารณาธรรม)วิริยะ(ความเพียร)ปิติ(ความอิ่มใจ)ปัสสิทธิ(ความสงบ)สมาธิ(ความตั้งใจมั่น)และอุเบกขา(ความวางเฉย)
อย่าลืมพบกัน 22 ตค.61 ที่ สหโภชน์นะ
วันชัย จันทร์ฉาย รายงาน
SootinClaimon.Com 