#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า
https://www.naewna.com/lady/652554

วันพุธ ที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2565, 06.00 น.
เมื่อโลกเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ยุคแห่งการปรับตัวรวดเร็วจากเทคโนโลยีดิจิทัลรอบด้าน แถมต้องเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่จากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 มาเป็นปีเหล่านี้ยิ่งเป็นแรงผลักให้ทุกอุตสาหกรรมต้องแปลงร่างสร้างแนวทางในการดำเนินธุรกิจ วิธีการทำงาน การให้บริการ รวมทั้งการเสนอผลิตภัณฑ์เพื่อให้ตอบโจทย์วิถีชีวิตคนยุคปัจจุบันที่เน้นการลดทุกรูปแบบ ทั้งลดภาระด้านเวลาและค่าใช้จ่าย และที่สำคัญ “ลดความเสี่ยง” ซึ่งสถานการณ์นี้ไม่เว้นแม้กระทั่งวงการสุขภาพ ดังนั้น Digital Health คือตัวช่วยขับเคลื่อนการให้บริการด้านสุขภาพได้อย่างมีประสิทธิภาพ เทคโนโลยีและนวัตกรรมเข้ามาเป็นส่วนสำคัญในการยกระดับการให้บริการทางการแพทย์อย่างครอบคลุม ช่วยลดความแออัด รวมถึงระยะเวลารอคอยในโรงพยาบาล ซึ่งวันนี้เราเลือกหยิบเทรนด์ Digital Health ที่นิตยสาร Forbes ได้รวบรวมไว้เมื่อต้นปีมาแนะนำทางลัดช่วยดูแลตัวเองในยุคที่ทุกอย่างควรลด…ยกเว้นเรื่องสุขภาพและความงาม
เริ่มที่เทรนด์แรก Application Programming Interfaces (APIs)ถือเป็นหัวใจช่วยให้ผู้ให้และผู้รับบริการเข้าถึงเวชระเบียนดิจิทัลผ่านโปรแกรมแอปพลิเคชั่น ซึ่งเวชระเบียนดิจิทัลจะช่วยเปลี่ยนภูมิทัศน์ของโลกการแพทย์ โดยจะเริ่มเห็นกันมากขึ้นในปี 2022 เวชระเบียนดิจิทัลจะช่วยจัดระเบียบข้อมูลจากกองเอกสารเปลี่ยนเป็นข้อมูลดิจิทัล ไม่ว่าจะเป็นเวชระเบียนทั่วไป ประวัติการแพ้ยา ใบสั่งจ่ายยา ข้อมูลเชิงลึกทางสุขภาวะ ทั้งหมดนี้ต่อไปจะถูกเก็บไว้ในรูปแบบดิจิทัลเพื่อการเข้าถึงและใช้งานได้ง่าย
อีกเทรนด์ที่กำลังเป็นตัวขับเคลื่อนวงการสุขภาพยุคนี้คือ Virtual Care and Telemedicine คือการนำเทคโนโลยีระบบ Video Conference มาใช้เพื่อรองรับการสื่อสารรักษาทางไกล แพทย์สามารถวิเคราะห์ผู้รับการรักษาได้ในทันทีและพูดคุยกันผ่านระบบโทรเวชกรรม (Telemedicine) ตามเวลานัดหมายโดยไม่ต้องเสียเวลาในการเดินทาง รวมถึงการจ่ายยาก็เปลี่ยนเป็นการส่งไปที่บ้านหรือรับ ณ จุดที่สะดวก ซึ่งทั้งหมดช่วยลดความแออัด การรอคอย ลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อโควิด-19ที่โรงพยาบาลและระหว่างเดินทางได้ด้วย
สำหรับเมืองไทยมีการให้บริการด้านสุขภาพและความงามที่พร้อมสรรพแบบ O+O (Offline+Online) จากการจับมือกันของ Watsons ร้านเพื่อสุขภาพและความงามอันดับหนึ่งของประเทศไทย ด้วยจำนวนสาขามากกว่า 600 สาขาทั่วประเทศ และ SkinXแอปพลิเคชั่นหมอผิวหนังออนไลน์รายแรกของไทยที่รวบรวมแพทย์ผิวหนังเฉพาะทางกว่า 200 คนที่ได้รับการรับรองจากแพทยสภามาให้คำปรึกษาปัญหาด้านผิวหนังออนไลน์ในรูปแบบวีดีโอคอลแบบครบวงจร End to End Dermatology Platform มีหมวดหมู่การรักษามากกว่า 20 ประเภท ไม่ว่าจะเป็นผิวพรรณ ความงาม ศัลยกรรม ปัญหาสิว เส้นผม หนังศีรษะ โรคผิวหนังในเด็ก ผิวหนังทั่วไป ผื่นภูมิแพ้ เล็บมือเล็บเท้า ไฝฝ้า รวมถึงมะเร็งผิวหนัง
Watsons x SkinX มอบประสบการณ์ดูแลสุขภาพงานผิวจากออนไลน์สู่ออฟไลน์อย่างแท้ทรูเพียงแค่ปรึกษาแพทย์ผิวหนังออนไลน์ผ่าน SkinX และเลือกรับยาได้ที่วัตสันสาขาใกล้บ้านคุณ #WatsonsxSkinX #แอปหมอผิว #ผิวดีไม่ต้องรอ #รับยาที่วัตสันxSkinX #WatsonsTH
