มีเท้า มีกำลัง มีความตั้งใจ เราวิ่งได้เสมอ การวิ่งไม่มีอุปสรรค ถ้าใจไม่ต่อต้าน

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

https://www.naewna.com/lady/671446

มีเท้า มีกำลัง มีความตั้งใจ เราวิ่งได้เสมอ การวิ่งไม่มีอุปสรรค ถ้าใจไม่ต่อต้าน

วันเสาร์ ที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2565, 06.00 น.

ไม่อยากนอนติดเตียง ไม่อยากเป็นคนป่วยที่ต้องให้ลูกหลานมาค่อยดูแล ผมเลยวิ่งทุกวัน (ครูอุดมศรีติ๊บ) 

ผมไม่อยากทำตัวเองให้เป็นคนพิการ แม้ผมจะพิการก็ตาม ผมบอกตัวเองว่า ต้องออกกำลังกายเพื่อให้ผมไม่ต้องนอนเฉยๆ หรือนั่งเฉยๆ แล้วผมก็รู้ว่าความพิการไม่ใช่อุปสรรคของการออกกำลังกาย(พงศกร รินทอง)

ไลฟ์ วาไรตี สัปดาห์นี้ ดร.เฉลิมชัย ยอดมาลัย ชวนคุณๆ ออกกำลังกายด้วยการวิ่ง แล้วพาคุณไปสนทนากับนักวิ่งหลากหลายกลุ่ม ในงานวิ่งเพื่อสมทบทุนช่วยการศึกษานักเรียนโรงเรียนบ้านปงแม่ลอบ สาขาห้วยฮ่อม อำเภอแม่ทา จังหวัดลำพูน

l สวัสดีครับ วันนี้ร่วมวิ่งระยะทางกี่กิโลเมตรครับ ปกติวิ่งเป็นประจำไหมครับ แล้วครั้งนี้วิ่งบนเนินเขามีความแตกต่างกว่าวิ่งบนพื้นราบอย่างไรบ้างครับ

คุณวีระพล ถายะเดช : (ผู้จัดการฝ่ายขายโครงการภูมิภาค บริษัท กัปตันโค้ทติ้ง จำกัด) วิ่งระยะ 3 กิโลเมตรครับ ตามปกติวิ่งสัปดาห์ละ 3 ครั้งโดยเฉลี่ย แต่อาจมากกว่าถ้ามีเวลามากพอ แต่บางสัปดาห์ก็อาจน้อยกว่า ถ้ามีงานมากครับ (หัวเราะ) การวิ่งบนภูเขาเหนื่อยกว่ามากครับ เพราะมีทางชันเป็นช่วงๆ แต่ก็ต้องยอมรับว่าวิ่งบนภูเขาอากาศดีกว่าวิ่งบนพื้นราบมาก แต่เหนื่อยกว่าครับ (หัวเราะ) แล้วก็ภูมิใจที่วิ่งได้ครบระยะทาง

l ในฐานะตัวแทนสีกัปตันที่ให้การสนับสนุนการวิ่งหารายได้ช่วยเด็กนักเรียนในวันนี้ เมื่อเห็นผู้คนมากมายกว่า 300 คน มาร่วมทำกิจกรรมครั้งนี้มีแนวคิดจะทำกิจกรรมแบนนี้ไปเรื่อยๆ ไหมครับ

คุณวีระพล : ก่อนอื่นเลยคือดีใจที่มีนักวิ่งมาร่วมงานมาก และมีความหวังว่าสังคมไทยยังมีคนอีกมากที่เห็นถึงการบริจาคเพื่อผู้ด้อยโอกาส ทำให้มีความหวังมากขึ้นครับ และเห็นอีกว่าเมื่อคนเราได้ทราบกิจกรรมดีๆเขาก็จะเต็มใจไปช่วยเหลือ อย่างเช่นการมาช่วยกันร่วมบริจาคให้โรงเรียนสาขาห้วยฮ่อมในวันนี้ ทำให้รู้ว่าคนในพื้นถิ่นยังรักบ้านเกิดตัวเอง หลายคนกลับมาช่วยพัฒนาบ้านเกิด หลังจากเคยอยู่เคยเรียนที่นี่มาก่อน และที่สำคัญอีกเรื่องหนึ่งคือดีใจที่คนไทยจำนวนไม่น้อยยังรักการออกกำลังกาย ส่วนกิจกรรมเพื่อสังคมที่สีกัปตันทำนั้นเรายังคงตั้งใจทำตลอดไป โดยร่วมมือกับประชาชนในชุมชนต่างๆ แล้วเรามาช่วยกันคนละไม้ละมือ เพื่อสังคมที่ดีของเราทุกคน วันนี้สีกัปตันนำสีมาบริจาคเพื่อทาอาคารเรียน และอาคารทุกหลังในโรงเรียนนี้ด้วยครับ และมีของต่างๆ

เช่น เสื้อผ้า ชุดนักเรียน อุปกรณ์การกีฬา สมุดดินสอ ปากกา ขนม มามอบให้น้องๆ ลูกๆ หลานๆ ด้วยครับ การทาสีโรงเรียนครั้งนี้ก็เป็นความร่วมมือของคนในชุมชน มีพ่อแม่ของนักเรียนมาช่วย และนักเรียนก็ช่วยตามความสามารถของตนเอง เป็นภาพน่ารักมาก ทุกครั้งที่เราสื่อสารเรื่องดีๆ ออกไป ก็จะมีคนที่มีจิตใจดีมาร่วมงานกันเราเป็นประจำ มันเป็นความร่วมมือช่วยกันทำดีเพื่อสังคมของเรา ในฐานะของภาคเอกชน สีกัปตันก็ภูมิใจที่มีส่วนร่วมทำความดีเพื่อสังคมครับ เราแบ่งปันกัน เราช่วยเหลือกันวันนี้น้องๆ ลูกๆ หลานๆ ได้รับความช่วยเหลือจากผู้อื่นวันหน้าเมื่อเขามีความพร้อม เขาก็จะแบ่งปันให้สังคมอย่างแน่นอน การช่วยเหลือใดๆ จากภาคเอกชนอย่างเรานั้น ต้องดำเนินไปพร้อมๆ กับความร่วมมือของชุมชนและสังคม เราทำคนเดียวไม่ได้ครับ ต้องช่วยกันคนละไม้ละมือ เราพยายามจะเข้าไปเติมเต็มในสิ่งที่เรามีความสามารถครับ ชุมชนเราดีได้ ประเทศเราเข้มแข็งได้ ก็ด้วยความร่วมมือของทุกฝ่ายครับ

พงศกร รินทอง นักวิ่งที่แม้จะพิการขา แต่ก็มุ่งมั่นวิ่งตลอดมา

l เรียนถามว่า คุณพงศกรวิ่งมากี่ปีแล้วครับ ก่อนวิ่งเล่นกีฬาอะไรมาก่อนครับ

คุณพงศกร : วิ่งมาได้ประมาณ 3 ปีครับ ก่อนหน้านี้ผลเล่นฟุตบอล แต่ประสบอุบัติเหตุจนต้องตัดขาข้างหนึ่งไป จึงต้องเปลี่ยนกีฬาให้เหมาะกับตัวเอง เพราะเล่นฟุตบอลได้ยากขึ้น ผมพยายามบอกตัวเองว่าไม่มีขาก็ออกกำลังกายได้ จึงพยายามหากีฬาที่เหมาะกับตัวเอง แรกๆ ก็ใช้ขาเทียม แต่วิ่งไม่สะดวก จึงหาขาสปริงแบบที่เห็นนี้ครับ 

l การวิ่งด้วยขาสปริงผสมกับขาจริงอีกข้างหนึ่ง ต้องใช้เวลาฝึกนานไหมครับ

คุณพงศกร : นานเหมือนกันครับ หลายเดือนเลยครับ ผมได้ขาสปริงตัวนี้จากการติดต่อรุ่นพี่คนหนึ่ง เขาเป็นนักวิ่งที่ขาพิการเหมือนผม เมื่อได้มาแล้วก็ต้องหัด
ใช้อยู่นาน ต้องอดทนในการฝึกด้วย เพราะขาสองข้างไม่เหมือนกัน ขาสปริงจะมีแรงกระเด้งมากกว่าขาจริง ก็ต้องปรับสมดุลอยู่นาน ต้องฝึกทรงตัวด้วย ต้องดูระยะการกระเด้งของขาสปริง ต้องให้ขาสองข้างสัมพันธ์กันเวลาวิ่งด้วยฝึกกล้ามเนื้อขาให้แข็งแรง และตอนใส่ขาสปริงแรกๆก็มีปัญหาเรื่องการเสียดสีกับเนื้อ ทำให้เป็นแผล แต่ก็ต้องอดทนครับ 

l ปกติวิ่งบนภูเขาบ่อยไหมครับ วันนี้วิ่งระยะทางกี่กิโลเมตรครับ

คุณพงศกร : วิ่งเป็นระยะๆ ครับ อย่างเช่นวิ่งที่ดอยสุเทพ ก็วิ่งมาแล้วครับ วันนี้ผมวิ่งระยะ 3 กิโลเมตรครับ ใช้เวลาเกือบ 20 นาที 

l วิ่งบนเนินเขากับวิ่งทางเรียบใช้แรงต่างกันมากไหมครับ 

คุณพงศกร : ก็ต่างกันพอประมาณ วิ่งขึ้นเนินจะต้องออกแรงมากกว่าวิ่งพื้นราบ แต่ช่วงลงเนินจะทำเวลาได้ดีขึ้น ต้องบังคับการปล่อยจังหวะของขาในการก้าว และต้องบังคับสะโพกมากกว่าปกติ แต่ก็สนุกดีครับ อากาศดีวิวดี หายใจโล่งปอดมาก

l จะฝากบอกอะไรกับคนที่ไม่ชอบวิ่ง เพราะมีข้ออ้างต่างๆ นานาครับ

คุณพงศกร : ลบข้ออ้างทิ้งไปเถอะครับ ถ้าเราอยากมีสุขภาพดี ต้องออกกำลังกายครับ ผมมองว่าการวิ่งเป็นเรื่องที่ง่ายที่สุดสำหรับคนเรา ขนาดผมไม่มีขาจริงหนึ่งข้าง ผมยังวิ่งเลยครับ วิ่งไปเรื่อยๆ เราก็มีเพื่อนมากขึ้นเรื่อยๆ มีสังคมนักวิ่งมากขึ้น ได้เห็นบ้านเมืองมากขึ้น หากคุณยังเดินได้ ลุกขึ้นยืนได้ คุณก็วิ่งได้ ค่อยๆ วิ่งไปนะครับ แล้วคุณจะรู้ว่าวิ่งแล้วสุขภาพดี มีเพื่อนมากมายสำหรับคนที่ท้อไม่ชอบวิ่ง ก็ขอให้ลองวิ่งดูเป็นระยะทางสั้นๆ ก่อนนะครับ แต่หากคุณไม่สามารถวิ่งได้จริงๆ ก็หากีฬาอื่นที่เหมาะกับสภาพร่างกายของคุณ รับรองว่าต้องมีอย่างหนึ่งที่เหมาะกับแต่ละคนแน่นอน หาให้เจอนะครับผมบอกตัวเองเสมอๆ ว่าผมไม่อยากเป็นภาระของใครไม่อยากนอนติดเตียง ผมจึงต้องพาตัวเองไปออกกำลังกายทุกวัน ผมได้มิตรภาพจากการวิ่งมากมาย ผมรู้ว่าความพิการไม่ใช่อุปสรรคของการออกกำลังกาย ทุกวันนี้เราเห็นคนพิการออกกำลังกายกันเยอะแยะ บางคนเป็นนักกีฬาทีมชาติด้วย สำหรับคนพิการที่ต้องการคุยกับผมเรื่องการออกกำลังกาย คุยกับผมได้ที่ facebook PONGSAKORN RINTHONG ครับ เรามาออกกำลังกายด้วยกันครับ เพื่อสุขภาพที่ดีของตัวคุณเอง

คุณอำพันธ์ เสถจิตร คุณแม่นักวิ่ง

l สวัสดีครับ วันนี้มาวิ่งพร้อมกับลูกสาววิ่งระยะทางกี่กิโลเมตรครับ

คุณอำพันธ์ : วิ่ง 9 กิโลเมตรค่ะ แต่วันนี้ลูกสาวมาให้กำลังใจค่ะ (หัวเราะ) 

l ปกติวิ่งไกลระยะไกลที่สุดกี่กิโลเมตรครับ วิ่งบนภูเขาบ่อยไหมครับ

คุณอำพันธ์ : ปกติวิ่งพื้นราบทุกวัน แต่เคยแข่งวิ่งระยะทาง 21 กิโลเมตรค่ะ เป็นแบบ half marathon สำหรับวิ่งบนภูเขาก็จะแล้วแต่การจัดงานค่ะ ปกติไม่ค่อยมีการจัดงานวิ่งบนภูเขา เพราะจัดยากค่ะ การวิ่งบนภูเขาถือว่าปราบเซียนเลยนะคะ เพราะใช้แรงมากกว่าวิ่งพื้นราบ ยิ่งภูเขาที่สูงมากๆ ก็จะวิ่งยาก เพราะความกดอากาศต่างจากพื้นราบ เหนื่อยง่ายกว่ามาก

l วันนี้ใช้เวลากี่นาทีสำหรับการวิ่งบนภูเขา 9 กิโลเมตร

คุณอำพันธ์ : 1 ชั่วโมง 9 นาที ถ้าวิ่งบนพื้นราบก็ใช้เวลาน้อยกว่านี้ค่ะ ไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง

l เวลาวิ่งลงเนินชันๆ ต้องบังคับการวิ่งอย่างไรบ้างครับ เพราะจะต้องเบรกตัวเองด้วย 

คุณอำพันธ์ : จริงวิ่งลงเขาใช้แรงน้อยกว่าวิ่งขึ้นเขา แต่ก็ต้องระวังตัวมากด้วย เพราะหากเบรกไม่ดีก็ล้มได้ ต้องใช้กล้ามเนื้อขาเพื่อเบรกตัวเองมากกว่าวิ่งพื้นราบค่อนข้างเยอะเลย แต่อาจจะซอยเท้าวิ่งถี่ขึ้น เพราะลดความเร็วของการวิ่งลงเนิน

l วิ่งมากี่ปีแล้วครับ ทำไมเลือกการวิ่งออกกำลังกาย

คุณอำพันธ์ วิ่งมา 4 ปี แล้วค่ะ แรกๆ ก็วิ่งในสนามในชุมชนที่พักอาศัย แต่วิ่งไประยะหนึ่งก็รู้จักเพื่อนมากขึ้น ก็ชวนกันวิ่งระยะทางไกลขึ้น เช่น mini marathon แล้วก็ half marathon ตอนนี้อยู่ชมรมกาแฟมาราธอนของจังหวัดลำพูน ในกลุ่มก็ช่วยให้คำแนะนำการวิ่งตลอดเวลา ได้เพื่อนมากมายจากการวิ่งค่ะ แต่ก่อนเคยเป็นภูมิแพ้ ต้องกินยาตลอด แต่เมื่อวิ่งเป็นประจำ โรคภูมิแพ้หายไปแล้วนะคะ วิ่งแล้วสบายใจ สบายตัวด้วย เมื่อเหงื่อออกแล้วสบายตัว ขับถ่ายสบาย จิตใจสบาย วันไหนไม่ได้วิ่งก็เหมือนขาดสิ่งสำคัญไปอย่างหนึ่ง จึงต้องวิ่งทุกวันค่ะ

l บางคนบอกว่าไม่มีเวลาวิ่ง คุณอำพันจะบอกคนกลุ่มนั้นอย่างไรดีครับ

คุณอำพันธ์ : การวิ่งไม่เงื่อนไขอะไรเลยค่ะมีรองเท้าผ้าใบที่สวมสบาย สวมเสื้อผ้าที่วิ่งสบายๆ ก็ออกวิ่งได้แล้วค่ะ ฝนตกก็วิ่งในร่มได้ แดดร้อนจัดๆ ก็อย่าออกไปวิ่ง เพราะจะไม่สบาย การวิ่งไม่มีเงื่อนไขเลยค่ะเชื่อดิฉันนะคะ ลองเริ่มวิ่งดูก่อน แล้วคุณจะรักการวิ่งไปตลอด อย่างดิฉันนี่อายุเกือบ 40 ปีแล้ว ก็ยังวิ่งทุกวันวิ่งแล้วดี สุขภาพดี จิตใจร่าเริงแจ่มใสเบิกบาน ไม่เครียด กินได้ นอนหลับ ผิวพรรณดี แข็งแรง ไม่เป็นหวัด และที่สำคัญคือพยายามชวนลูกสาววิ่งด้วยทุกวัน เพื่อให้เขาแข็งแรง ลูกสาวก็ชอบวิ่งนะคะ วิ่งกันแม่กับลูกทุกวัน

เราไปคุยกับหนูๆ นักวิ่งกันบ้าง ด.ญ.กฤติมา ปินตาสุข อายุ 9 ขวบ และ ด.ช.ปภังกร ประวัง อายุ8 ขวบ

l สวัสดีครับ ลูกๆ วิ่งระยะทางกี่กิโลเมตรครับ

ด.ญ.กฤติมา และ ด.ช.ปภังกร : วิ่งสามกิโลเมตรค่ะ/ครับ

l ลูกๆ วิ่งทุกวันไหมครับ

ด.ญ.กฤติมา : วิ่งเกือบทุกวันค่ะ แต่บนภูเขาไม่ค่อยได้วิ่งค่ะ

ด.ช.ปภังกร : ผมวิ่งทุกวันเลยครับ วันนี้ผมได้ที่หนึ่งด้วยครับ แต่เวลาวิ่งที่บ้าน เสร็จแล้วผมก็ไปตีแบดมินตันด้วยครับ

l เวลาวิ่ง วิ่งกับคุณพ่อคุณแม่หรือวิ่งกับเพื่อนๆ ครับ เวลาวิ่งได้ทำให้ได้ประโยชน์อย่างไรบ้างครับ

ด.ญ.กฤติมา ด.ช.ปภังกร : วิ่งกับคุณพ่อคุณแม่ค่ะ/ครับ วิ่งแล้วสุขภาพดี แข็งแรง ไม่ป่วย และได้ออกกำลังกายด้วยค่ะ

l ลูกๆ ช่วยเชิญชวนเพื่อนๆ อายุใกล้ๆ กับหนูมาออกกำลังกายด้วยกันหน่อยครับ

ด.ญ.กฤติมา : อยากให้เพื่อนๆ ทุกคนออกกำลังกายทุกวัน วิ่งก็ได้ ตีแบดมินตันก็ได้ ว่ายน้ำก็ได้ เพราะจะได้แข็งแรง สุขภาพดี สมองปลอดโปร่ง และเติบโตดี

ด.ช.ปภังกร : มาออกกำลังกายกันทุกวันนะครับเพื่อนๆ จะได้แข็งแรง ไม่เจ็บป่วย ไม่เป็นหวัด แล้วที่สำคัญคือเพื่อนๆ จะได้เป็นนักกีฬาด้วย ผมอยากเป็นนักกีฬาทีมชาติไทยครับ 

และอีกรายที่เราจะไปสนทนาด้วยคือ คุณครูอุดม ศรีติ๊บ ข้าราชการเกษียณ อายุ 77 ปี

l สวัสดีครับครู วันนี้วิ่งระยะทางกี่กิโลเมตรครับ ใช้เวลากี่นาทีครับ

ครูอุดม : วิ่ง 9 กิโลเมตรครับ ใช้เวลา 47 นาทีได้ที่หนึ่งครับ (ยิ้มพร้อมโชว์ถ้วยรางวัล) ปกติผมวิ่งมินิมาราธอนเป็นประจำ แต่วิ่งบนพื้นราบเป็นส่วนใหญ่ ไม่ค่อยได้วิ่งบนภูเขา

l ปกติครูวิ่งทุกวันไหมครับ แล้ววิ่งมากี่ปีแล้วครับ 

ครูอุดม : วิ่งมา 5-6 ปีได้แล้วครับ เมื่อก่อนไม่เคยวิ่ง เป็นโรคเก๊าท์ด้วย เพราะดื่มเหล้าเบียร์เป็นประจำไม่ออกกำลังกายเลย จนวันหนึ่งไปพบหมอ หมอบอกว่าต้องเลิกเหล้าเบียร์เด็ดขาดแล้วต้องออกกำลังกาย หากไม่ยากตายก่อนวัยอันควร (หัวเราะ) ผมเลิกเหล้าเลิกเบียร์เลย แล้วค่อยๆ เริ่มวิ่ง แต่ก่อนก็ถีบจักรยานแบบเสือภูเขาบ้าง แต่ปวดหลังเวลาก้มมากๆ เลยหันมาวิ่งเป็นประจำ พอไปวิ่งบ่อยๆ ก็เริ่มเข้าไปแข่งวิ่งตามที่ต่างๆได้รางวัลมาเป็นระยะๆ ก็เลยวิ่งไปเรื่อยๆ เพราะสนุกได้ออกกำลังกาย ได้เพื่อน ได้สุขภาพดี ขยันซ้อมวิ่งทุกวัน ก็วิ่งได้ดีขึ้น ทำเวลาวิ่งได้น้อยลงเป็นลำดับ ที่ไหนมีจัดวิ่ง หากผมไปร่วมได้ ผมไปทุกที่ครับ 

l มีคนบอกว่าคนอายุเกิน 60 ปีไม่ควรวิ่งเร็วๆ เพราะข้อเข่า ข้อเท้าอาจจะมีปัญหาได้ ครูคิดว่าอย่างไรครับ

ครูอุดม : ต้องดูสุขภาพของเราด้วยว่าเหมาะกับการวิ่งไหม แต่สำหรับผม ผมมองว่าค่อยๆ ลองดูก่อน หากวิ่งไม่ไหว ก็เดินแทนวิ่ง เดินไปเรื่อยๆ ก็ได้ แล้วอาจจะวิ่งได้เร็วขึ้น ก่อนวิ่งต้อง warm up ก่อนทุกครั้ง ให้กล้ามเนื้อรับรู้ว่าเราจะวิ่งแล้วนะ แล้วก็ต้องนอนพักผ่อนให้ดีก่อนวิ่งแข่ง ต้องดูแลอาหารการกินให้ดีด้วย ข้าวปลา
อาหารต้องดีพร้อม อาหารบำรุงก็ใช้บ้างตามความเหมาะสมเราอายุมากแล้ว ต้องดูแลตัวเองให้ดี อย่าให้เป็นภาระกับใคร เขาจะรำคาญและรังเกียจเราได้ อีกเรื่องหนึ่งครับแต่ก่อนผมมีสุขภาพไม่ดีเลย เพราะไม่ดูแลตัวเอง ปล่อยตัวเองไปเรื่อยๆ แต่ผมมากลับตัวได้เมื่อไม่สบาย เลยกลัวตายเร็ว อันที่จริงตายไม่กลัว แต่กลัวไม่สบายนอนติดเตียงแล้วถูกปล่อยให้ตาย เพราะไม่มีคนดูแล ต่อให้มีคนดูแล ผมก็ไม่อยากนอนติดเตียง ผมเลยออกกำลังกายทุกวัน เริ่มไปเรื่อยๆ จนติดเป็นนิสัย ผมมองว่าสุขภาพดี เราต้องทำด้วยตัวเราเอง ใครทำให้เราไม่ได้ เราต้องบอกตัวเองว่าเราต้องรักษาสุขภาพให้ดี เพื่อเราจะได้ไม่นอนติดเตียง ไม่เป็นภาระให้ใครต้องมาดูแลเรา ไม่ต้องเสียเงินมากๆ เพื่อรักษาตัว เอาเงินไปใช้กิน ใช้เที่ยว ใช้ทำบุญทำทานดีกว่าเอาไปรักษาตัวในยามนอนติดเตียง ร่างกายคนเราเหมือนเครื่องยนต์ ใช้งานไปมันก็สึกหรอไปตามสภาพ เราต้องบำรุงให้มันดีให้ได้ มันอาจจะไม่ดีเหมือนหนุ่มสาว แต่เราก็ต้องทำนุบำรุงมันให้ดีให้ได้ เพราะมันคือสุขภาพของเราเอง การเริ่มออกกำลังกายแรกๆอาจจะท้อ เพราะไม่เคยชิน แต่ทำไปเถอะครับ สักพักหนึ่งเราจะเห็นผลดีของการออกกำลังกาย ออกกำลังกายทำได้ทุกวัน ทุกที่ ไม่ต้องมีข้ออ้าง คุณต้องเลือกเอาระหว่างนอนติดเตียง กับมีสุขภาพดี คุณเลือกได้ ผมเลือกออกกำลังกายด้วยการวิ่ง คุณก็เลือกการออกกำลังกายที่เหมาะสมกับคุณได้ ผมแนะนำว่าลองเริ่มวิ่งดูก่อนแล้วคุณจะเห็นผลดีของการวิ่งทุกวัน ออกกำลังกายทุกวันกินอาหารมีประโยชน์ทุกวัน พักผ่อนให้เพียงพอทุกวันทำจิตใจให้เบิกบานเป็นประจำ คุณจะพบว่าชีวิตคุณมีความสุข มีสุขภาพดี จนคุณประหลาดใจ อายุไม่ใช่อุปสรรคของการออกกำลังกายนะครับ เชื่อผม สำหรับผมผมกลัวที่สุดคือการเป็นผู้ป่วยติดเตียง ผมจึงออกกำลังกายด้วยการวิ่งทุกวันครับ

คุณจะได้พบรายการดีที่ครบครันด้วยสาระและความรู้ รายการ ไลฟ์ วาไรตี ออกอากาศทุกวันอาทิตย์ เวลา 16.00-16.25 น. ทางโทรทัศน์ NBT กดหมายเลข 2และชมรายการย้อนหลังได้ที่ YouTube ไลฟ์ วาไรตี

Leave a comment