#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า
https://www.naewna.com/likesara/697474

ธรรมะวันอาทิตย์ : ‘วัดลาดคำ’สอนเดินจงกลม คลายเครียด
วันอาทิตย์ ที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2565, 14.34 น.
11 ธันวาคม 2565 หลายคนเครียดกับปัญหาต่างๆ การเข้าวัดปฏิบัติธรรม จึงเป็นอีกแนวทางหนึ่ง ที่จะทำให้คลาดเครียด จิตใจสบาย ได้เป็นอย่างดี จึงขอแนะนำ วัดป่าลาดคำ ด้วยบรรยากาศที่สงบร่มรื่น ลมพัดเย็นสบาย ไร้แสงแดด จึงมีญาติโยม พุทธศาสนิกชน เดินทางเข้ามาทำบุญอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นวันพระ หรือวันธรรมดา เพราะวัดป่าลาดคำ เป็นวัดที่อยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองอำนาจเจริญมากนัก ซึ่งตั้งอยู่ด้านทิศตะวันตก ของตัวเมืองอำนาจเจริญ จ.อำนาจเจริญ มีพเจ้าอาวาสวัดป่าลาดคำ พระสงฆ์ 10 รูป สามเณร 2 รูป ไม่มีแม่ชีมัคนายก 1 คน สังกัด มหานิกาย บนเนื้อที่ 27 ไร่ อุดมสมบูรณ์ไปด้วยป่าไม้แมกไม้นานาพันธุ์
โดยเฉพาะไม้พะยูงที่ยังคงเหลืออยู่กว่า 50 ต้น ประกอบกับสำนักงานอัยการ จ.อำนาจเจริญนำมาปลูกใหม่เพิ่มเติมอีก จำนวน 100 ต้น ในแต่ละต้น จะมีป้ายคำสอนติดอยู่ทั่วป่า ปัจจุบันจึงมีไม้พะยูงขึ้นเต็มพื้นที่ เพื่อเป็นการอนุรักษ์ธรรมชาติ ที่สำคัญ มีการก่อสร้างหอปู่ตาจันทร์ ขึ้น มาเมื่อหลายสิบปีก่อน เพื่อเป็นสัญลักษณ์ การปกป้องป่าไม้ ทำให้ขบวนการมอดไม้ ไม่กล้าเข้ามาตัดไม้พะยูงหรือพันธุ์ไม้หายากที่นี่ ว่ากันว่า หากใครลักลอบเข้าไปตัดไม้ทำลายป่าภายในวัด ไม่เกิน 3 วัน จะประสบเคราะห์กรรม เกิดอาถรรพ์ ถึงกับล้มป่วยและเสียชีวิตไปในที่สุด
วัดป่าลาดคำ เป็นวัดเก่าแก่ มีเจ้าอาวาสผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนหลายสิบรูป ที่โดนเด่น เป็นที่รู้จักของบรรดาพุทธศาสนิกชนทั้งหลายและศรัทธามาก ก็คือ หลวงพ่อใส เมื่อท่านมรภาพไปแล้ว จึงมีญาติโยมที่นับถือท่าน และมีความศรัทธาในคำสอนของหลวงพ่อใส ได้ร่วมกันบริจาคทุนทรัพย์จำนวนหนึ่ง ก่อสร้างเป็นรูปปั้นองค์จำลองของหลวงพ่อใส ไว้ที่ด้านข้างศาลาการเปรียญ เพื่อให้พุทธศาสนิกชน ได้กราบไหว้ ระลึกถึงคุณงามความดีของหลวงพ่อใส
สำหรับเจ้าอาวาสวัดป่าลาดคำ รูปปัจจุบัน ได้รับการถ่ายทอดวิชา เดินจงกลมและวิชาความรู้ด้านอื่นๆจากพระถวิล สุญธาติ เจ้าอาวาสองค์ที่แล้ว ซึ่งพระถวิล เป็นลูกศิษย์ท่านพุทธธาตุภิกขุ ซึ่งปัจจุบัน พระถวิล ได้ไปอยู่ที่สวนโมก จ.นครศรีธรรมราช เมื่อหลายปีมาแล้ว
จึงทำเป็นทางเดินรอบวัด สำหรับพุทธศาสนิกชน ใช้เดินจงกลม ฝึกสมาธิ การหายใจเข้าออก กำหนดลมหายใจเข้าออก ระหว่างที่เดินจงกลม ก็จะอยู่ท่ามกลางป่าไม้ ร่มไม้ สงบ ร่มรื่น ตามทางเดินแบบดินปนดินทรายธรรมชาติ ทำให้นุ่มฝ่าเท้า และทางเดินรูปร่างคล้ายกะลาเป็นบางช่วง หากย่ำเท้าเหยียบลงไป ก็เป็นการนวดฝ่าเท้าไปในตัว ทำให้รู้สึกสบายเท้าสุดวิเศษ ทำเอาบรรดาผู้มาเดินปฏิบัติธรรมสมาธิ จงกรม ต่างติดใจ ต้องหวนกลับมาเดินเป็นประจำ ที่สำคัญเป็นการออกกำลังกายอีกทางหนึ่งด้วย
เจ้าอาวาสวัดป่าลาดคำ เทศนาต่อพุทธศาสนิกชนและญาติโยมทั้งหลาย โดยการ ยึดแนวคำสอนพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ในเรื่อง การทำบุญ แก่พุทธศาสนิกชนนำไปปฎิบัติ ซึ่งพระพุทธเจ้าทรงแสดงการเกิดบุญไว้ 3 ประการ คือ 1. บุญเกิดจากการให้ทาน 2. บุญเกิดจากการรักษาศีล 3. บุญเกิดจากการภาวนาอบรมจิตใจ โดยสรุปแล้ว การสร้างความดีทุกประการล้วนเป็นแหล่งของการเกิดผลบุญกุศลทั้งสิ้น แล้วก่อให้เกิดอานิสงส์ที่จะสร้างความสำเร็จในชีวิตได้ทั้งสิ้น
เมื่อกำลังให้ของแก่ใคร ไม่ว่าจะถวายของแก่พระสงฆ์ ให้ของแก่ พ่อ แม่ พี่ น้อง ญาติมิตร แม้เอาข้าวให้สุนัขกิน เอาอาหารโยนให้ปลากิน เอาเศษอาหารโปรยให้มดกิน ย่อมเกิดกระแสบุญขึ้น เป็นกระแสเรืองรอง แผ่ออกจากตัวผู้กำลังให้ เพียงไม่กี่วินาทีแสงนี้ จะพุ่งหายขึ้นไปเบื้องบน แล้วสะสมเป็นกองบุญของผู้ให้อยู่บนเทวโลก
ดังนั้น ขณะให้ของแก่ใครจึงควรอธิษฐานจิต คิดทันทีว่า บุญนี้จงเป็นของเทวดารักษาตัวข้า หรือบุญนี้จงเป็นของเจ้ากรรมนายเวรของข้า หรือ บุญนี้จงเป็นของเทวดา ภูต ผี ปีศาจ เปรต ครุฑ นาค ยักษ์ ที่อาศัยอยู่ในสถานที่เลือกสวนไร่นาหรือเคหะสถานบ้านเรือนของข้า หรือบุญนี้ จงเป็นของเทวดารักษาบุตรของข้า จงเป็นของเทวดาผู้รักษาบิดามารดาของข้า เป็นต้น ขึ้นอยู่กับว่า เราต้องการแก้ไขในจุดใด.012