แหวกฟ้าหาฝัน : เที่ยวเมืองชายแดน Passau

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

https://www.naewna.com/lady/700365

แหวกฟ้าหาฝัน : เที่ยวเมืองชายแดน Passau

แหวกฟ้าหาฝัน : เที่ยวเมืองชายแดน Passau

วันอาทิตย์ ที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2565, 06.00 น.

นักท่องเที่ยวที่มาเยือนมิวนิค และชอบแคว้นบาวาเรีย เมืองชายแดนเมืองหนึ่งที่มีความสวยงามและน่าสนใจ อีกทั้งอยู่ไม่ไกลจากมิวนิคมากนักก็คือ Passau เมืองทางทิศตะวันออกสุดของเยอรมนีที่อยู่ห่างจากมิวนิคทางรถไฟเพียงแค่ 2 ชั่วโมงเศษเท่านั้น มีความพิเศษตรงที่เป็นเมืองที่เป็นทางเชื่อมของแม่น้ำ 3 สาย คือ แม่น้ำ Danube, Inn และ Ilz

เมือง Passau มีประวัติย้อนไปถึงคริสต์ศตวรรษที่ 2 เมื่อชาว Boii ถูกไล่ออกจากทางเหนือของอิตาลีมาตั้งรกรากอยู่ในพื้นที่แห่งนี้ ที่นี่เลยกลายเป็นอาณานิคมของโรมันโดยมีชื่อว่า Batavis ระหว่างคริสต์ศตวรรษที่ 2-5 St.Severinus ได้ตั้งสำนักสงฆ์ขึ้นหลังจากนั้นอีกกว่า 200 ปี Archbishop Boniface จึงได้สถาปนา Diocese ofPassau ซึ่งถือเป็นสำนักสงฆ์ที่ใหญ่ที่สุดในเยอรมนีของจักรวรรดิโรมันโดยดูแลทั้งแคว้นบาวาเรียและออสเตรีย

ในยุครุ่งเรืองของเรอเนสซองส์ เมืองนี้เป็นโรงงานผลิตมีดดาบที่สำคัญ ผู้ผลิตต้องประทับตรายี่ห้อของตัวเองไว้จนเกิดความเชื่อที่ว่า มีดดาบจากเมืองนี้ทำให้ผู้ถือฟันแทงไม่เข้าจนกลายเป็นตัวอย่างให้กับเมืองอื่นเลียนแบบในการทำการตลาดของการค้าอาวุธ การตลาดมีดดาบของเมืองนำความรุ่งเรืองมาสู่เมืองอยู่หลายศตวรรษจวบจนกระทั่งปี 1662 เมืองก็ประสบหายนะจากไฟไหม้ หลังจากนั้นรัฐบาลต้องสร้างเมืองขึ้นใหม่ จึงหันมาใช้สถาปัตยกรรมแนวบาโรกซึ่งเป็นแนวทางที่ทันสมัยที่สุดในช่วงเวลานั้น Passau ยังคงให้ความสำคัญกับศาสนจักรเรื่อยมาจวบจนปี 1803 ที่รัฐบาลได้ทำการแยกศาสนจักรออกจากทางโลกอันเป็นผลมาจากการแบ่งแยกระหว่างแคว้นบาวาเรียกับซาล์สบวก

Dreiflusseeck

Passau เป็นอีกเมืองหนึ่งที่ อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ เคยมาอยู่ และเป็นเมืองสำคัญในการทำสงครามโลกครั้งที่สองโดยเป็นที่กักกันขนาดย่อมถึง 3 แห่ง ในการประกาศยอมแพ้อย่างเป็นทางการของเยอรมันในสงครามโลกครั้งที่สองนั้น Passau ก็เป็นอีกเมืองหนึ่งที่นายพล Stanley Eric Reinhart ผู้บังคับบัญชาที่อยู่ประจำเมืองนี้ประกาศยอมแพ้แบบไม่มีเงื่อนไข หลังสงครามโลก ทหารสหรัฐฯ ได้เป็นผู้ควบคุมดูแลเมืองนี้อยู่เป็นเวลานาน เมืองนี้จึงหมดความสำคัญลง หลังเยอรมันตะวันออกและตกควบรวมกันในปี 2000 เมืองนี้ได้รับการพัฒนาขึ้นอีกครั้ง แต่โชคร้ายในวันที่ 2 มิถุนายน 2013 เกิดน้ำท่วมใหญ่ขึ้นกลางเมืองหลังฝนตกอย่างหนักหลายวันจนทำให้น้ำท่วมกลางเทศบาลเมืองเฉกเช่นเดียวกันกับหายนะที่เคยเกิดขึ้นในปี 1501 ซึ่งสร้างความเสียหายให้กับเมืองเป็นอย่างมาก

ถึงกระนั้นก็ตาม นักท่องเที่ยวที่มีโอกาสเยือนเมืองนี้ก็ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายให้เยือนโดยเฉพาะอย่างยิ่งตำแหน่งปากน้ำที่แม่น้ำทั้งสามมาบรรจบกันที่เรียกว่า Dreiflusseeck ณ บริเวณ Niederhaus Castle โดยน้ำจากแม่น้ำทั้งสามจะมีสีต่างกันนั่นคือ สีเขียวจากแม่น้ำ Inn ซึ่งไหลตรงจากเทือกเขาแอลป์สีฟ้าจากแม่น้ำดานูป และสีดำจากแม่น้ำ Ilz นอกจากนี้ ที่นี่ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอีกมากมายที่น่าสนใจ อาทิ เมืองเก่าที่มีตึกหลากสีห้างสรรพสินค้าที่มีดีไซน์สวยเก๋ St.Stephen Cathedral, Museum of Modern Art และ Glass Museum

Leave a Reply

Fill in your details below or click an icon to log in:

WordPress.com Logo

You are commenting using your WordPress.com account. Log Out /  Change )

Twitter picture

You are commenting using your Twitter account. Log Out /  Change )

Facebook photo

You are commenting using your Facebook account. Log Out /  Change )

Connecting to %s