#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า
https://www.naewna.com/lady/702185

มูลนิธิจุฬาภรณ์ สนองพระปณิธาน สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ชวนคนไทยสร้างกุศล สานต่อภารกิจของมูลนิธิฯ ช่วยเหลือและสงเคราะห์ผู้เจ็บป่วยยากไร้ ด้อยโอกาส
วันพฤหัสบดี ที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2566, 06.00 น.

สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒนวรขัตติยราชนารี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานบัตรอวยพร ส.ค.ส. พร้อมสมุดบันทึกไดอารี เนื่องในวารดิถีขึ้นปีใหม่ ประจำปีพุทธศักราช 2566 แก่คณะผู้บริหาร และกองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์แนวหน้า นับเป็นพระกรุณาธิคุณหาที่สุดมิได้และยังความปลาบปลื้มปีติเป็นล้นพ้น
สำหรับบัตรอวยพร ส.ค.ส. พระราชทานมีตราประจำพระองค์สีทอง ด้านหน้าตราประจำพระองค์ย่อสีทอง “จภ” ภายใต้จุลมงกุฎ ด้านในฝั่งซ้ายมีตราประจำพระองค์พร้อมข้อความ “สุขสันต์วันปีใหม่ ๒๕๖๖ Season’s Greeting 2023” และลายพระหัตถ์พระนามสีทอง ส่วนด้านขวาเป็นพระรูป สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี
.jpg)
สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา พระราชทานบัตรอวยพร ส.ค.ส.เนื่องในวารดิถีขึ้นปีใหม่ ประจำปีพุทธศักราช 2566 แก่คณะผู้บริหาร และกองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์แนวหน้า นับเป็นพระกรุณาธิคุณหาที่สุดมิได้และยังความปลาบปลื้มปีติเป็นล้นพ้น
ภายในบัตรอวยพร ส.ค.ส. มีอักษรพระนามย่อ “สร” อยู่ด้านบน และมีข้อความอวยพรทั้งภาษาอังกฤษ ภาษาฝรั่งเศส และภาษาไทย ความว่า “Season’s Greetings and Best wishes for the New Year 2023, “Joyeuses fêtes et Meilleurs voeux pour l’année 2023” และ “สวัสดีปีใหม่ พ.ศ.๒๕๖๖ ขอให้สุขสันต์ตลอดปี” พร้อมลายพระหัตถ์ ภาษาไทย สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญาHer Royal Highness Princess Sirivannavari Nariratana และพระรูปในพระอิริยาบถต่างๆ
.jpg)
มูลนิธิจุฬาภรณ์ สนองพระปณิธานของ ศาสตราจารย์ ดร.สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒนวรขัตติยราชนารี ที่ทรงมุ่งมั่นที่จะนำความก้าวหน้าและการพัฒนาทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ไปประยุกต์ใช้ในการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน เชิญชวนคนไทยร่วมสร้างกุศล สานต่อภารกิจของมูลนิธิจุฬาภรณ์ เพื่อช่วยเหลือและสงเคราะห์ประชาชนที่เจ็บป่วย ยากไร้ ผู้ด้อยโอกาส รวมทั้งผู้ได้รับผลกระทบจากวิกฤตภัยต่างๆ ทั่วประเทศ ซึ่งยังคงต้องดำเนินต่อไปเพื่อให้ความช่วยเหลืออย่างทันท่วงทีและทั่วถึง
ศาสตราจารย์ ดร.สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ทรงปฏิบัติพระกรณียกิจเพื่อประโยชน์สุขแก่ปวงชนชาวไทยมาตั้งแต่ทรงพระเยาว์ โดยเสด็จพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ไปทรงเยี่ยมประชาชนในพื้นที่ต่างๆ ทั่วทุกภูมิภาคของประเทศไทย ตั้งแต่พระชนมายุเพียง 14 พรรษา ดังปรากฏในพระดำรัสรับสั่งครั้งหนึ่งว่า “…ตั้งแต่ข้าพเจ้าอายุ 14 ได้ออกไปตามหมู่บ้านต่างๆ ให้ความช่วยเหลือชาวบ้านทั้งด้านสุขภาพพลานามัย และทางด้านการประกอบอาชีพและได้เห็นวิธีที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงปฏิบัติ ทรงไม่เคยนึกถึงพระองค์เลย ทรงนึกถึงแต่ราษฎร…ความปรารถนาอย่างเดียวของพระองค์ท่าน คือ อยากให้คนไทยมีความสุข มีความเจริญ และก้าวหน้าเท่าเทียมอารยประเทศ”
จากการที่ทรงรับทราบและทรงตระหนักถึงปัญหาความเดือดร้อนต่างๆ ของประชาชนชาวไทยมาอย่างยาวนาน โดยเฉพาะปัญหาด้านการแพทย์และการสาธารณสุขที่มีประชาชนจำนวนมากในถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล และยังไม่สามารถเข้าถึงการบริการได้อย่างเท่าเทียมและทั่วถึง อันเกิดจากการขาดแคลนบุคลากรด้านการแพทย์ และการสาธารณสุข รวมถึงการขาดแคลนงบประมาณและการสนับสนุนที่เพียงพอด้านการศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ในด้านต่างๆ ซึ่งจะช่วยให้ประเทศสามารถนำความก้าวหน้าและวิทยาการที่ทันสมัยมาใช้ในการพัฒนาคุณภาพชีวิตและยกระดับความเป็นอยู่ของประชาชนได้อย่างเหมาะสม ด้วยเหตุนี้จึงทรงมีพระดำริก่อตั้ง “กองทุนจุฬาภรณ์” ขึ้นในขั้นแรก เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการศึกษา การวิจัย การดำเนินงานทางการแพทย์และการสาธารณสุข ต่อมาจึงได้มีการจดทะเบียนและสถาปนากองทุนนี้ให้เป็น “มูลนิธิจุฬาภรณ์”
.jpg)
มูลนิธิจุฬาภรณ์ ถือกำเนิดขึ้นเมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม พุทธศักราช 2529 เพื่อดำเนินงานสนองพระปณิธานอันมุ่งมั่นที่จะนำความก้าวหน้าและการพัฒนาทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีไปประยุกต์ใช้ในการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน ตลอดระยะเวลากว่า 3 ทศวรรษ มูลนิธิจุฬาภรณ์ ได้มีส่วนร่วมดำเนินกิจกรรมสาธารณประโยชน์ เพื่อบำบัดทุกข์บำรุงสุขแก่พี่น้องประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน พร้อมทั้งดำเนินกิจกรรมเพื่อดูแลและช่วยเหลือสังคมอย่างต่อเนื่อง ประกอบด้วย การดูแลรักษาผู้ป่วยยากไร้ในพระอนุเคราะห์ การสนับสนุนทุนการศึกษาและอุปการะค่าเล่าเรียนพร้อมทั้งวัสดุอุปกรณ์ทางการศึกษาที่จำเป็น การบรรเทาความเดือดร้อนช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติทางธรรมชาติและภัยจากการคุกคามของโรคระบาดรุนแรงทั่วประเทศ การจัดหายาและเวชภัณฑ์สำหรับหน่วยแพทย์พระราชทานเคลื่อนที่และอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่จำเป็นแก่โรงพยาบาล การสงเคราะห์ผู้ยากไร้และผู้ด้อยโอกาส การสนับสนุนมูลนิธิและหน่วยงานต่างๆ
ปัจจุบัน มูลนิธิจุฬาภรณ์ มีหน่วยงานในสังกัด คือ สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ ซึ่งจัดตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 1 ธันวาคมพุทธศักราช 2530 เพื่อถวายราชสักการะในโอกาสมหามงคลสมัยที่ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 5 รอบ เมื่อปีพุทธศักราช 2530 มีภารกิจสำคัญในการสนับสนุนงานในโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ผ่านการดำเนินงาน 3 กิจกรรมหลัก ได้แก่ งานวิจัย งานวิชาการ งานพัฒนาสภาพแวดล้อมและคุณภาพชีวิตของประชาชน
ทั้งนี้ เมื่อเกิดวิกฤตการระบาดของโรคโควิด-19 ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมามูลนิธิจุฬาภรณ์และสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ได้ร่วมกันดำเนินงานให้ความช่วยเหลือด้านการแพทย์ การสาธารณสุข และความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบ นอกจากนี้มูลนิธิจุฬาภรณ์ยังให้ความช่วยเหลือด้านการดำรงชีวิตในภาวะวิกฤตภัยธรรมชาติ เช่น สถานการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้นหลายครั้งในภูมิภาคต่างๆทั่วประเทศ
อย่างไรก็ตาม เมื่อเกิดวิกฤตภัยธรรมชาติและโรคระบาดที่เกิดขึ้นอย่างไม่คาดคิด ส่งผลให้มีผู้ได้รับผลกระทบเป็นจำนวนมาก ทำให้การดำเนินงานของมูลนิธิจุฬาภรณ์ ในภารกิจเพื่อช่วยเหลือและสงเคราะห์ประชาชนที่เจ็บป่วยยากไร้ ผู้ด้อยโอกาส และผู้ได้รับผลกระทบจากวิกฤตภัยต่างๆ ทั่วประเทศ ยังคงต้องดำเนินต่อไปเพื่อให้ความช่วยเหลืออย่างทันท่วงทีและทั่วถึง ด้วยการสนับสนุนจากผู้มีจิตศรัทธาทั้งหลายที่จะทำให้มูลนิธิจุฬาภรณ์สามารถขยายขอบข่ายการดำเนินงานเพื่อให้ความช่วยเหลือได้อย่างครอบคลุมและทันท่วงที ทั้งนี้ผู้มีจิตศรัทธา สามารถร่วมสมทบทุน “มูลนิธิจุฬาภรณ์” ผ่านทางธนาคารไทยพาณิชย์ ชื่อบัญชีมูลนิธิจุฬาภรณ์ เลขที่ 026-252296-1ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่โทร.02-5538555



