#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
https://www.thairath.co.th/news/local/2612991

27 ม.ค. 2566 05:01 น.
- ธนูเทพ
นายกสมาคมศิษย์เก่า ม.มหิดล จัดพิธีมอบทุนการศึกษาแก่นักศึกษาประพฤติดีขาดแคลนทุนทรัพย์
สนามเลือกตั้ง คือสนามรบของนัก การเมือง…..หนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ ยักษ์ใหญ่สารพัดสี จำหน่ายมากที่สุดของประเทศ ฉบับประจำวันศุกร์ที่ 27 มกราคม 2566
- “ธนูเทพ” ประจำการรับใช้ท่านผู้อ่าน…การประชุม คณะรัฐมนตรี นัดล่าสุด ได้อนุมัติหลักการ วงเงินงบประมาณ ให้ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จำนวน 5,945,161,000 บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่าย ในการควบคุมและการจัดการเลือกตั้ง ส.ส. ทั้งนี้ เนื่องจากอายุของ สภาผู้แทนราษฎร จะสิ้นสุดลงในวันที่ 23 มี.ค.2566 โดย กกต. ต้องจัดให้มีการเลือกตั้ง ส.ส. เป็นการเลือกตั้งทั่วไป ภายใน 45 วัน นับแต่วันที่ สภาผู้แทนราษฎร สิ้นสุดวาระ…เร้าสัญญาณการเลือกตั้งให้ร้อนแรงยิ่งขึ้น

- เฮ้อ…มีคำตอบชัดๆออกจากปาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ว่าที่แคนดิเดตนายกฯในบัญชี พรรครวมไทยสร้างชาติ ถึงเรื่องที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ชิงลงพื้นที่หาเสียงปาดหน้าหลายครั้งในห้วงที่ต้องแข่งขันชิงความนิยมในการเลือกตั้ง โดย นายกฯประยุทธ์ ระบุว่า ใครจะไปก็ไป แผ่นดินผืนนี้ใครจะไปไหนก็ไปได้ ใครจะไปก่อนไปหลังก็ไม่เห็นมีปัญหา ไม่ได้ขัดข้อง ฉะนั้นอย่าไปเสนอข่าวทำนองนี้คิดว่าไม่เกิดประโยชน์อะไรทั้งสิ้น “ผมไม่ได้ผูกขาเขานี่นา ท่านก็ไม่ได้ผูกขาผม ผมไปไหนก็ไปได้ ท่านจะไปไหนก็ไปได้ ไปเวลาเดียวกันก็ได้ไม่มีปัญหาหรอก”…สะท้อนออกมาแบบนี้ แสดงว่าเริ่มซึมซับเข้าใจวิถีนักการเมือง ที่ต้องช่วงชิงความได้เปรียบในการเลือกตั้ง แบบไม่มีพี่ ไม่มีน้องแล้วใช่มั้ยจ๊ะ
- อืม…ส่วนรายของ สมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ประธานยุทธศาสตร์ พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะแกนนำกลุ่มสามมิตร แม้ยังกั๊กว่าจะยังปักหลักอยู่กับพรรคพลังประชารัฐต่อไปหรือไม่ ตามประสา เซียนเลือกตั้ง ที่ต้องรอดูสถานการณ์ก่อนตัดสินใจขั้นสุดท้าย…แต่เรื่องการทำงานในฐานะ รมว.ยุติธรรม ลุยเต็มที่ไม่มีกั๊ก วันก่อนนั่งเป็นประธาน ประชุมคณะกรรมการป้องกันการกระทำความผิดซ้ำ ที่กระทรวงยุติธรรม เพื่อให้นโยบายการบังคับใช้ กฎหมายป้องกันการกระทำความผิดซ้ำ ที่มีผลบังคับใช้วันที่ 23 ม.ค.2566 โดย รมต.สมศักดิ์ ประกาศย้ำว่า พ.ร.บ.มาตรการป้องกันการกระทำความผิดซ้ำ ในความผิดเกี่ยวกับเพศ หรือที่ใช้ความรุนแรง ที่มีผลบังคับใช้จะสร้างความปลอดภัยให้กับสังคม จึงกำชับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด ตามมาตรการต่างๆตามกฎหมายฉบับนี้ เช่น การใส่กำไลอีเอ็มกับบุคคลอันตราย รวมถึงการคุมขังฉุกเฉิน


- ทั้งนี้ หลังกฎหมายมีผลบังคับใช้จะมี ผู้ต้องขังที่จะพ้นโทษ 29 ราย ในฐานความผิดเกี่ยวกับเพศ ชีวิตร่างกาย และเสรีภาพ ต้องถูกเฝ้าระวังตามมาตรการต่างๆ อาทิ การใส่กำไลอีเอ็ม สูงสุดไม่เกิน 10 ปี แต่ถ้าประพฤติตัวดีก็สามารถขอลดระยะเวลาการใส่กำไลอีเอ็มได้…ส่วนมาตรการบำบัดฟื้นฟู จะมีการเริ่มบำบัดตั้งแต่อยู่ในเรือนจำก่อนที่จะมีการปล่อยตัวออกมา จากนั้นจะเข้าสู่มาตรการเฝ้าระวังด้วยการใส่กำไลอีเอ็ม ตามที่คณะกรรมการพิจารณากำหนดมาตรการป้องกันการกระทำความผิดซ้ำ เสนอ อัยการ เพื่อขอให้ ศาล มีคำสั่งใช้มาตรการต่างๆ หลังจากใช้ ควบคุมบุคคลอันตรายแล้ว ในอนาคตก็จะมีการพัฒนาไปใช้กับ กลุ่มผู้ติดยาเสพติด ที่ เกิดอาการหลอน จนไม่มีใครสามารถควบคุมได้ จึงต้องเข้ารับการบำบัดฟื้นฟู และ ใส่กำไลอีเอ็ม เพื่อเฝ้าระวัง…ถือเป็นอานิสงส์ของ สุจริตชน ที่จะได้ใช้ชีวิตอย่าง ปลอดภัยมากขึ้น ในสังคมที่เต็มไปด้วย บุคคลที่เป็นอันตราย และ พวกทาสยาเสพติด

- ผ่างๆ…ในจังหวะที่พรรคการเมืองใหญ่เร่งประกาศนโยบายหาเสียงเลือกตั้ง ล่าสุด พรรคชาติพัฒนากล้า ที่นำทีมโดย สุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ประธานพรรค และ กรณ์ จาติกวณิช อดีต รมว.คลัง หัวหน้าพรรค อาศัยประสบการณ์ความเชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจ จัดอีเวนต์ใหญ่ เมื่อวันที่ 24 ม.ค.ที่ผ่านมา ที่โรงแรมแกรนด์ไฮแอท เอราวัณ แถลงนโยบายการขับเคลื่อนประเทศ เน้นด้านการฟื้นฟูเศรษฐกิจ ภายใต้ยุทธศาสตร์ “งานดี–มีเงิน–ของไม่แพง” โดย ประธานสุวัจน์ เน้นย้ำว่า พรรคชาติพัฒนากล้าได้เตรียมความพร้อมในการแก้ไขปัญหาให้ประชาชน ในด้านเศรษฐกิจ สร้างแพลตฟอร์มเศรษฐกิจใหม่ มีนโยบายสำคัญ 12 เรื่อง อาทิ นโยบายสร้างเศรษฐกิจใหม่ ที่จะมาหล่อเลี้ยงระบบเศรษฐกิจที่จะนำไปสู่เม็ดเงิน 5 ล้านล้านบาท นโยบายลดค่าใช้จ่าย จัดโครงสร้างภาษีใหม่ บุคคลเงินเดือน 4 หมื่นบาทแรก ไม่ต้องเสียภาษี นโยบายสร้างเกษตรใหม่ ที่จะเป็นแพลตฟอร์มใหม่ทางด้านเศรษฐกิจเป็นจุดแข็งของประเทศ นโยบายสินเชื่อ จากปัญหาเรื่องเครดิต จะผ่อนคลายให้ ทุกคนกลับมาใช้สินเชื่อกันได้ใหม่ นโยบายทางด้านการท่องเที่ยว ที่จะมาสร้างเงิน สร้างงาน สร้างรายได้ นโยบายด้านพลังงาน ในเรื่องของราคาไฟฟ้าและราคาน้ำมัน นโยบายด้านการศึกษา เพิ่มทักษะให้คนมีโอกาสทำงานมากขึ้น นโยบายมอเตอร์เวย์ทั่วไทย 4 ทิศ 2,000 กิโลเมตร เป็นต้น


- ขณะที่ หัวหน้ากรณ์ แจกแจงถึงนโยบายที่จะ รื้อโครงสร้างเศรษฐกิจ เพื่อสร้างรายได้ให้ประเทศไทยอีก 5 ล้านล้านบาท ภายใน 5 ปี ด้วยยุทธศาสตร์เศรษฐกิจเฉดสี (Spectrum Economy) ได้แก่ “เศรษฐกิจสีเขียว” กรีนอีโคนีมีเศรษฐกิจเพื่อสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจสีเทา เปลี่ยนส่วยเป็นภาษี เศรษฐกิจสีขาว หรือ เศรษฐกิจสายมู ตั้งกองทุนส่งเสริมฟื้นฟูแหล่งท่องเที่ยวสายมูเตลู จังหวัดละ 1 พันล้าน และ เศรษฐกิจสีน้ำเงิน คือเศรษฐกิจสายเทค ที่จะสร้างโอกาสด้านดิจิทัลอีโคโนมี 1.75 ล้านล้านบาท นอกจากนี้จะชู เรนโบว์อีโคโนมี หรือ เศรษฐกิจสีรุ้ง เพิ่มกำลังซื้อสูงสุด 1 ล้านล้านบาททุกปี
- ถือเป็นการชูขายนโยบายที่เป็นทางออกในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจด้วยแนวคิดใหม่ๆ แต่ทั้งหมดทั้งปวงจะเป็นจริงได้หรือไม่ก็อยู่ที่แรงส่งจากประชาชน
- สังคมทั่วไป…มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เชิญร่วมสักการะหลวงปู่ไต้ฮง ทำบุญพะเก่ง ทานสาคูสิริมงคล ที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง พลับพลาไชย เวลา 06.00-21.00 น. ถึง 30 ม.ค.

“ธนูเทพ”