คุยกัน 7 วันหน : ยูเครนเผชิญศัตรู 2 ด้าน : รัสเซียและการทุจริต

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

https://www.naewna.com/lady/712040

คุยกัน 7 วันหน : ยูเครนเผชิญศัตรู 2 ด้าน : รัสเซียและการทุจริต

คุยกัน 7 วันหน : ยูเครนเผชิญศัตรู 2 ด้าน : รัสเซียและการทุจริต

วันอาทิตย์ ที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566, 06.15 น.

เว็บไซต์หนังสือพิมพ์อัล จาซีรา รายงานว่า ในขณะที่รัฐบาลยูเครนมุ่งมั่นในการต่อสู้ต้านกองทัพรัสเซีย แต่รัฐบาลยูเครนเอง กำลังเผชิญศัตรูอีกด้านที่กัดกร่อนยูเครนมานานหลายปี นั่นก็คือ การทุจริต

ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมาทางการยูเครนได้บุกค้นบ้านพักของอดีตรัฐมนตรีมหาดไทย และสั่งปลดเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลหลายคน ที่ถูกกล่าวหาว่ารับสินบน ขณะที่ โอเลกซีเรซนิคอฟ รัฐมนตรีกลาโหม กำลังจะถูกเปลี่ยนตัวด้วยเช่นเดียวกัน หลังมีการเปิดโปงว่า กระทรวงกลาโหมยูเครนสั่งซื้ออาหารสำหรับทหารในราคาที่สูงลิ่ว

แม้สหรัฐฯ สหภาพยุโรปและองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ หรือนาโตจะให้คำมั่นว่าจะช่วยเหลือยูเครนต่อไป แต่นักการเมืองและเจ้าหน้าที่กลาโหมของชาติตะวันตกส่วนหนึ่งกังวลปัญหาการทุจริตในยูเครน และตั้งคำถามแล้วว่ายูเครนใช้ความช่วยเหลือที่รับไป ได้ดีจริงหรือไม่

ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ของยูเครน ตระหนักดีในเรื่องนี้ ทั้งการวิจารณ์จากชาติตะวันตก และความสำคัญของความช่วยเหลือที่หลั่งไหลเข้ามา ในเดือนมกราคมที่ผ่านมาเขาจึงประกาศจัดการกับการทุจริต

โวโลดิมีร์ ดูโบวิค นักวิชาการจากมหาวิทยาลัยเมคนิคอฟในเมืองโอเดซาของยูเครน กล่าวว่า เซเลนสกีเข้าใจดีว่า เขาต้องแก้ปัญหานี้โดยเร็ว และเด็ดขาดอย่างไม่ล่าช้า เพราะมีผู้คนในสหรัฐฯและชาติตะวันตกที่กำลังมองว่ายูเครนเป็นชาติที่ทุจริตมากเกินไป สิ่งที่ยูเครนกลัวมากที่สุดคือการถูกสหรัฐฯและชาติตะวันตกทอดทิ้ง และหยุดส่งอาวุธมาให้

ทั้งนี้ ในปี 2022 สหรัฐฯ ให้ความช่วยเหลือทางการทหาร การเงิน และมนุษยธรรมแก่ยูเครนรวมกันมูลค่า 48,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือเกือบ1.7 ล้านล้านบาท ทำให้นักการเมืองฝ่ายขวาจัดในพรรครีพับลิกันตั้งคำถามเรื่องนี้มากขึ้นเรื่อยๆ โดยเมื่อเดือนที่แล้ว มาร์จอรี เทย์เลอร์กรีน สส.รีพับลิกันขวาจัด เรียกยูเครนว่าเป็นหนึ่งในประเทศที่มีการทุจริตมากที่สุดในโลก และตั้งคำถามว่าทำไมเงินจากภาษีของคนอเมริกันที่หามาอย่างยากลำบากต้องถูกขโมยไป และก่อนหน้านี้ เธอได้เรียกร้องให้สภาคองเกรสมีมติให้มีการตรวจสอบความช่วยเหลือทั้งหมดที่ส่งให้แก่ยูเครน ขณะที่โดนัลด์ ทรัมป์จูเนียร์ บุตรชายคนโตของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ทวีตข้อความช่วงปลายปีที่แล้วว่า“เซเลนสกี คือราชินีสังคมสงเคราะห์ระดับโลกที่น่ารังเกียจ”

แน่นอนว่า รัฐบาลเซเลนสกีเฝ้าติดตามการเมืองสหรัฐฯ อย่างใกล้ชิดเช่นกัน โดยดูโบวิค กล่าวว่า รัฐบาลยูเครนมีความกังวลว่าฝ่ายขวาของทรัมป์ในพรรครีพับลิกันจะได้อำนาจและถอนการสนับสนุนยูเครน

ขณะเดียวกัน สหภาพยุโรปยังคงให้คำมั่นสนับสนุนยูเครนต่อไป โดยได้มีการให้ความช่วยเหลือยูเครนแล้วรวมมูลค่า 67,000 ล้านยูโร หรือราว 2.5 ล้านล้านบาทนับตั้งแต่เกิดสงคราม โดย WitoldWaszczykowski นักการเมืองโปแลนด์และประธานสมาคมสมาชิกรัฐสภาอียู-โปแลนด์ เผยว่า ในเวลานี้ ประเด็นอื่นๆ กลายเป็นเรื่องรองไป สิ่งสำคัญสุดคือ ยูเครนต้องชนะสงครามนี้กับรัสเซีย

อย่างไรก็ตาม การปราบปรามการทุจริต คือ เสาหลักสำคัญสำหรับยูเครนในการได้เป็นสมาชิกอียู โดยในเดือนมิถุนายนปีที่แล้ว อียูได้ให้สถานะผู้สมัครแก่ยูเครนแล้ว ซึ่งเป็นการปูทางสู่การได้เป็นสมาชิกอย่างเป็นทางการในอนาคต แต่ชาติที่ได้รับสถานะจะต้องปฏิรูปโครงสร้างในหลายด้าน เช่น การเมือง เศรษฐกิจ และหลักแห่งกฎหมาย ให้สอดคล้องกับมาตรฐานของอียู

ผู้เชี่ยวชาญระบุกับอัล จาซีราว่า การปราบปรามการทุจริตของรัฐบาลยูเครนในเวลานี้ คือประเด็นสำคัญ เมื่อต้องหารือเรื่องอนาคตของยูเครนในอียู ซึ่งยูเครนจำเป็นต้องแสดงให้เห็นว่า จะไม่มีการผ่อนปรนเรื่องการทุจริต ไม่ว่าบุคคลคนนั้นจะมีตำแหน่งสูงแค่ไหนก็ตาม

ขณะที่หลังการประชุมสุดยอดระหว่างอียูและยูเครนต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาสิ้นสุดลงชาร์ลส์ มิเชล ประธานคณะมนตรียุโรป และ เออร์ซูลา ฟอน เดอเลเยน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป ออกแถลงการณ์ร่วม แสดงการรับรู้ว่ายูเครนพยายามอย่างหนักในการดำเนินการตามเป้าหมายเพื่อให้ได้เป็นสมาชิกอียู แต่แถลงการณ์ดังกล่าว ยังไม่มีการส่งสัญญาณใดๆ ว่าจะลัดขั้นตอนการเข้าเป็นสมาชิกอียูให้แก่ยูเครน

ทั้งนี้ ในปี 2022 องค์กร Transparency International เผยดัชนีการทุจริตโลก พบว่า ยูเครนอยู่ในอันดับที่ 116 จาก 180 ประเทศทั่วโลก ไม่ต่างจากรัสเซียมากนัก

อย่างไรก็ตาม แม้การปราบปรามทุจริต เป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์การหาเสียงเลือกตั้งของเซเลนสกีในปี 2019 แต่กลับพบว่า การแก้ปัญหาในเรื่องนี้ของเขามีความสำเร็จเพียงเล็กน้อยเท่านั้น และก่อนที่สงครามจะเริ่มขึ้น คะแนนนิยมของเขาลดต่ำลงไปอยู่ที่เพียง 27% เท่านั้นแต่เมื่อเกิดสงคราม คะแนนนิยมของเซเลนสกี พุ่งกลับมาอยู่ที่เกือบ84% ดังนั้น ผู้เชี่ยวชาญมองว่า สถานการณ์นี้จะทำให้เซเลนสกีมีอำนาจในการปราบปรามการทุจริตมากอย่างไม่เคยมีมาก่อน

แต่ในเวลานี้ที่ ยูเครนกำลังต่อสู้กับการทุจริต การสู้รบต้านรัสเซียก็ยังคงดุเดือดต่อไปเช่นกัน


โดย ดาโน โทนาลี
 

Leave a Reply

Fill in your details below or click an icon to log in:

WordPress.com Logo

You are commenting using your WordPress.com account. Log Out /  Change )

Twitter picture

You are commenting using your Twitter account. Log Out /  Change )

Facebook photo

You are commenting using your Facebook account. Log Out /  Change )

Connecting to %s