เทศบาลลาดสวาย-ม.ธรรมศาสตร์’ใช้งบ กปท. ตรวจคัดกรองสุขภาพ‘ผู้สูงอายุ-คนวัยทำงาน’

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

https://www.naewna.com/local/712162

เทศบาลลาดสวาย-ม.ธรรมศาสตร์’ใช้งบ กปท. ตรวจคัดกรองสุขภาพ‘ผู้สูงอายุ-คนวัยทำงาน’

เทศบาลลาดสวาย-ม.ธรรมศาสตร์’ใช้งบ กปท. ตรวจคัดกรองสุขภาพ‘ผู้สูงอายุ-คนวัยทำงาน’

วันจันทร์ ที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566, 06.00 น.

เทศบาลเมืองลาดสวาย จ.ปทุมธานี โดยกองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม ร่วมกับคณะสหเวชศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) ดำเนินโครงการตรวจสุขภาพผู้สูงอายุประจำปี 2566 พร้อมให้คำแนะนำในการดูแลสุขภาพ รวมถึงโครงการตรวจคัดกรองสุขภาพกลุ่มเสี่ยงจากการประกอบอาชีพ โดยตรวจหาสารปรอท ตะกั่ว สารหนู ในกลุ่มพนักงานที่ปฏิบัติงานในพื้นที่เทศบาลเมืองลาดสวาย รวมทั้งหมด 752 คน เมื่อช่วงกลางเดือนม.ค. 2566 ที่ผ่านมา ณ สำนักงานเทศบาลเมืองลาดสวาย อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี

นางจีรนันท์ ปิติฤกษ์ พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ กองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม เทศบาลเมืองลาดสวาย เปิดเผยว่า โครงการตรวจสุขภาพผู้สูงอายุประจำปีพบว่าประชากรผู้สูงอายุในเขตเทศบาลเมืองลาดสวาย มีจำนวน 9,907 คนคิดเป็น 14% ของประชากรทั้งหมด และมีแนวโน้มที่จะเพิ่มมากขึ้น อีกทั้งวัยสูงอายุ เป็นวัยที่อวัยวะต่างๆ มีความเสื่อมถอย ร่างกายทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ ส่งผลให้เกิดการเจ็บป่วยได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ยังมีผู้สูงอายุจำนวนไม่น้อยที่มาทราบถึงความเจ็บป่วยเมื่อมีอาการในระยะที่รุนแรง

ดังนั้นการตรวจสุขภาพประจำปีถือเป็นเรื่องที่สำคัญสำหรับผู้สูงวัย เพื่อประคับประคองสุขภาพให้อยู่ในเกณฑ์ปกติและยังเฝ้าระวังไม่ให้โรคที่เป็นอยู่รุนแรงขึ้น ขณะเดียวกันในพื้นที่ยังมีผู้ประกอบอาชีพที่หลากหลาย และพบว่ามีความเสี่ยงต่อสุขภาพด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะกลุ่มอาชีพที่ต้องทำงานร่วมกันกับสารเคมี ทั้งการทำความสะอาดที่ต้องฉีดพ่นฆ่าเชื้อ การสัมผัสสิ่งปนเปื้อน-สารเคมี หรือแม้แต่โลหะหนัก เช่น สารตะกั่ว ปรอท ที่เข้าสู่ร่างกาย ทำให้มีอาการเจ็บป่วยตามมา

“เทศบาลได้ร่วมกับทีมแพทย์จากคณะสหเวชศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (ศูนย์รังสิต) และทีมพยาบาลวิชาชีพ จากเทศบาลเมืองลาดสวายตรวจสุขภาพผู้สูงอายุและตรวจสุขภาพกลุ่มเสี่ยง พร้อมกับให้ความรู้ คำแนะนำและให้บริการปรึกษาสุขภาพ ซึ่งหากเป็นกรณีที่พบความผิดปกติ จะมีการแนะนำการปฏิบัติตัว และการไปรักษาต่อตามสิทธิการรักษา โดยจะส่งต่อข้อมูลผลตรวจสุขภาพไปยังโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ในพื้นที่”นางจีรนันท์ กล่าว

ด้าน รศ.ดร.ไพลวรรณ สัทธานนท์ คณบดีคณะสหเวชศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า ปัญหาการกระจายบุคลากรและจำนวนบุคลากรด้านสาธารณสุขที่ไม่สอดคล้องกับปริมาณความต้องการทางสุขภาพ ทำให้เป็นเรื่องยากหากจะพึ่งพาสถานพยาบาลเพียงอย่างเดียว ฉะนั้นการดูแลรักษาที่บ้านหรือในชุมชนจึงเป็นสิ่งที่ดีและเป็นทางออกของประเทศ ซึ่งหลักการสร้างนำซ่อม หรือการดูแลไม่ให้เจ็บป่วยจะมีต้นทุนที่ต่ำกว่าการรักษาเมื่อเจ็บป่วยแล้ว ถือเป็นหัวใจสำคัญของการสร้างความมั่นคงทางสุขภาพของประชาชน นำไปสู่การสร้างความมั่งคั่งให้ประเทศ

“สหวิชาชีพด้านวิทยาศาสตร์สุขภาพจะมีส่วนสำคัญในการดูแลสุขภาพของประชาชนในระดับชุมชนทุกช่วงวัยให้มีสุขภาพที่ดี โดยเฉพาะการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรค (P&P) รวมถึงการฟื้นฟูสมรรถภาพของร่างกาย ซึ่ง มธ. สนับสนุนให้บุคลากรและนักศึกษาได้มีส่วนลงไปปฏิบัติงานในสายวิชาชีพของตนเพื่อร่วมดูแลคนในชุมชน ในแต่ละหลักสูตรของคณะฯ ของเรามีข้อกำหนดให้นักศึกษามีการฝึกปฏิบัติทางวิชาชีพ มีการส่งนักศึกษาฝึกปฏิบัติงานในโรงพยาบาล ทุกระดับทั้งขนาดขนาดใหญ่ และเล็กระดับชุมชน” รศ.ดร.ไพลวรรณ กล่าว

สำหรับโครงการของเทศบาลเมืองลาดสวาย ดำเนินการโดยใช้งบประมาณจากกองทุนหลักประกันสุขภาพท้องถิ่น (กปท.) ซึ่งเป็นงบประมาณจากการสมทบร่วม 2 ฝ่าย คือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) และสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) สำหรับส่งเสริม ป้องกันโรค และดูแลประชาชนให้เข้าถึงบริการสุขภาพในทุกพื้นที่ ซึ่ง นพ.สาธิต ทิมขำผู้อำนวยการ สปสช. เขต 4 สระบุรี กล่าวว่า ในพื้นที่เขตสุขภาพที่ 4 ส่วนใหญ่จะเป็นพื้นที่ของกลุ่มจังหวัดปริมณฑลที่มีลักษณะพิเศษเป็นส่วนต่อขยายของเมืองหลวง และมีประชากรหนาแน่น

โดยเฉพาะจังหวัดปทุมธานี ซึ่งการให้บริการสุขภาพปฐมภูมิมีหน่วยบริการที่หลากหลาย ทั้งของภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน อย่างไรก็ตามอปท. ที่ปัจจุบันได้มีบทบาทในการจัดบริการสุขภาพปฐมภูมิให้กับประชาชนหลังจากที่หลายจังหวัดมีการถ่ายโอน รพ.สต. จาก กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) มายัง อปท. เนื่องจากท้องถิ่นจะมีความใกล้ชิดกับประชาชนอย่างมาก ทั้งนี้ ในส่วนพื้นที่จ.ปทุมธานี อปท. อย่างเทศบาลเมืองลาดสวาย มีรูปแบบการจัดการที่แตกต่างออกไป และมุ่งหาความร่วมมือจากเครือข่ายต่างๆโดยรอบพื้นที่

เช่น มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รวมไปถึงโรงพยาบาลระดับมหาวิทยาลัย หน่วยบริการของภาคเอกชน ในการร่วมจัดบริการสุขภาพปฐมภูมิให้กับประชาชนในพื้นที่ ซึ่งสามารถใช้เป็นตัวอย่างกับท้องถิ่นอื่นๆ ที่มีบริบทของพื้นที่คล้ายกันได้ อนึ่ง ในเขตปริมณฑลประชาชนมักจะเข้าไม่ถึงบริการสุขภาพระดับปฐมภูมิอย่างที่ควรเป็นเหมือนกับต่างจังหวัด ซึ่งการที่ท้องถิ่นแสวงหาความร่วมมือในการจัดบริการสุขภาพปฐมภูมิ ตามชุดสิทธิประโยชน์จากสปสช. ก็จะช่วยให้เกิดการเข้าถึงบริการสำหรับเขตเมืองที่เพิ่มมากขึ้น

“สปสช.เข้าไปสนับสนุนเพื่อให้ท้องถิ่นสามารถจัดบริการสุขภาพให้กับประชาชน โดยเฉพาะการส่งเสริมป้องกันโรค การดูแลผู้ป่วยภาวะพึ่งพิง รวมไปถึงการให้บริการสุขภาพปฐมภูมิ เพื่อให้ท้องถิ่นได้สามารถดำเนินการในฐานะผู้จัดบริการสุขภาพได้อย่างดี และให้ระบบบริการสุขภาพมีความยั่งยืน”ผู้อำนวยการ สปสช. เขต 4 สระบุรี กล่าว

Leave a Reply

Fill in your details below or click an icon to log in:

WordPress.com Logo

You are commenting using your WordPress.com account. Log Out /  Change )

Twitter picture

You are commenting using your Twitter account. Log Out /  Change )

Facebook photo

You are commenting using your Facebook account. Log Out /  Change )

Connecting to %s