ICC ออกหมายจับ “ปูติน” ส่งผลอย่างไร มีโอกาสโดนจับกุมแค่ไหน?

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

https://www.thairath.co.th/news/foreign/2657693

ICC ออกหมายจับ “ปูติน” ส่งผลอย่างไร มีโอกาสโดนจับกุมแค่ไหน?

19 มี.ค. 2566 09:25 น.

ICC ออกหมายจับ “ปูติน” ส่งผลอย่างไร มีโอกาสโดนจับกุมแค่ไหน?

  • ศาลอาชญากรรมระหว่างประเทศออกหมายจับ วลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซียอย่างเป็นทางการ ในข้อหาก่ออาชญากรรมสงครามในยูเครน
  • หมายจับของ ICC มีข้อผูกมัดให้ชาติสมาชิกทั้ง 123 ประเทศจับกุมและส่งตัวปูตินไปดำเนินคดีที่กรุงเฮก แต่ในอดีตเคยเกิดกรณีที่ชาติสมาชิกไม่ทำตามมาแล้วหลายครั้ง
  • ปูตินอาจไม่ถูกจับกุมตัวหรือส่งตัวไปขึ้นศาลตราบใดที่เขายังครองอำนาจอยู่ แต่ผู้นำรัสเซียในอนาคตอาจส่งตัวเขาไปดำเนินคดีได้ หากมีเหตุผลทางการเมืองมากพอ

ศาลอาชญากรรมระหว่างประเทศ หรือ ICC ออกหมายจับ วลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีแห่งประเทศรัสเซียอย่างเป็นทางการแล้วเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (17 มี.ค. 2566) ในข้อหาก่ออาชญากรรมสงครามมากมายในยูเครน นับตั้งแต่มอสโกยกทัพเข้ารุกรานประเทศเพื่อนบ้านแห่งนี้เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปีก่อน

ปูตินกลายเป็นผู้นำประเทศของที่ 3 ของโลกเท่านั้นที่ถูก ICC ออกหมายจับในขณะที่ยังดำรงตำแหน่งอยู่ โดยหมายนี้อาจกระทบต่อความสามารถในการเดินทางไปต่างประเทศของเขา รวมถึงการพบปะผู้นำโลกคนอื่นๆ ซึ่งอาจลังเลที่จะต้องรับหรือเป็นที่ต้องการตัวของศาลระหว่างประเทศ

ศาลอาชญากรรมระหว่างประเทศเคยไต่สวนอดีตผู้นำประเทศมาก่อน หลังจากที่เขาก้าวลงจากตำแหน่งแล้ว แต่การจับกุมตัวประธานาธิบดีที่ยังอยู่ในตำแหน่ง และยิ่งชายคนนั้นคือ วลาดิเมียร์ ปูติน จะทำได้จริงหรือ? นักวิเคราะห์หลายคนมองว่า มันไม่ง่ายขนาดนั้น

มาเรีย อเล็กเซเยฟนา โลวา-เบโลวา กรรมาธิการฝ่ายสิทธิเด็กของประธานาธิบดีรัสเซีย
มาเรีย อเล็กเซเยฟนา โลวา-เบโลวา กรรมาธิการฝ่ายสิทธิเด็กของประธานาธิบดีรัสเซีย

ปูตินโดยหมายจับข้อหาก่ออาชญากรรมสงคราม

ICC ออกหมายจับปูตินกับนาง มาเรีย อเล็กเซเยฟนา โลวา-เบโลวา กรรมาธิการฝ่ายสิทธิเด็กของประธานาธิบดีรัสเซีย ในข้อหาที่เกี่ยวข้องกับ การบีบบังคับเนรเทศประชาชนและเด็กจำนวนมากจากยูเครนไปรัสเซียอย่างไม่ถูกต้องตามกฎหมาย โดยเด็กหลายคนถูกรับเลี้ยงโดยครอบครัวชาวรัสเซีย

การบังคับเนรเทศประชากรถือเป็นอาชญากรรมสงครามภายใต้ ธรรมนูญกรุงโรม (Rome statute) ซึ่งเป็นสนธิสัญญาจัดตั้งศาลอาชญากรรมระหว่างประเทศ โดยรัสเซียลงนามในสนธิสัญญานี้ แต่ปูตินพาประเทศถอนตัวออกมาในปี 2559 พร้อมประกาศว่า มอสโกไม่ยอมรับอำนาจตุลาการของศาล ICC

ด้านยูเครนไม่ได้ลงนามเป็นสมาชิกสนธิสัญญา แต่ยูเครนให้อำนาจแก่ศาลระหว่างประเทศในกรุงเฮกแห่งนี้ ในการสืบสวนการก่ออาชญากรรมสงครามในดินแดนของตัวเอง โดยตลอด 1 ปีที่ผ่านมา คาริม ข่าน อัยการสูงสุดของ ICC เยือนยูเครน 4 ครั้ง ซึ่งทำให้เขาได้ข้อสรุปว่า มีเหตุผลพื้นฐานเพียงพอให้เชื่อว่า ปูตินต้องรับผิดชอบความผิดทางอาญาส่วนบุคคล ฐานลักพาตัวเด็ก

รัฐบาลเครมลินปฏิเสธข้อกล่าวหาเรื่องอาชญากรรมสงครามมาตลอด และล่าสุดนาง มาเรีย ซาคาโรวา โฆษกกระทรวงต่างประเทศรัสเซียออกมากล่าวว่า การตัดสินใจของศาลอาชญากรรมระหว่างประเทศ ไม่มีความหมายใดๆ สำหรับรัสเซีย รวมถึงจากมุมมองทางกฎหมาย รัสเซียไม่ได้เข้าร่วมธรรมนูญกรุงโรม จึงไม่มีข้อผูกมัดใดๆ ให้ต้องปฏิบัติตามหมายจับ

ผูกมัด 123 ชาติให้จับกุมปูติน

ศาลอาชญากรรมถาวรแห่งแรกของโลกนี้ เริ่มปฏิบัติหน้าที่อย่างเป็นทางการในเดือนกรกฎาคม 2545 ได้รับการลงนามสัตยาบันสนับสนุนชาติสมาชิกสหภาพยุโรปทุกประเทศ รวมถึงออสเตรเลีย, บราซิล, สหราชอาณาจักร, แคนาดา, ญี่ปุ่น, เม็กซิโก, สวิตเซอร์แลนด์, ชาติแอฟริกา 33 ประเทศ และอีก 19 ประเทศในภูมิภาคแปซิฟิกใต้

หมายจับของศาลอาญาระหว่างประเทศหมายความว่า ชาติสมาชิกทั้ง 123 ประเทศมีข้อผูกมัดให้ต้องจับกุมตัวและส่งตัวผู้ถูกออกหมายจับ ซึ่งในกรณีนี้คือนายปูติน ไปดำเนินคดี หากเขาเหยียบเข้าสู่ดินแดนของประเทศ นอกจากนั้น ICC ยังไม่ยอมรับกฎหมายคุ้มครองผู้นำประเทศจากการถูกฟ้องร้อง ในกรณีที่คดีมีความเกี่ยวข้องกับการก่ออาชญากรรมสงคราม, การก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติ หรือ การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์

อย่างไรก็ตาม ประเทศขนาดใหญ่อย่างจีนกับอินเดียไม่ได้เป็นสมาชิก ICC ขณะที่สหรัฐฯ กับรัสเซียถอนตัวออกมาในปี 2545 และ 2559 ตามลำดับ

วลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย
วลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย

แต่ปูตินอาจไม่ถูกจับกุมตัว

เนื่องจากรัสเซียไม่ยอมรับในอำนาจของ ICC และมีนโยบายไม่ส่งตัวพลเรือนไปต่างประเทศในฐานะผู้ร้ายข้ามแดน จึงมีความเป็นไปได้น้อยมากที่นายปูตินกับนางโลวา-เบโลวา จะถูกส่งตัวไปยังกรุงเฮกเพื่อดำเนินคดี อย่างน้อยก็ในขณะที่เขายังมีอำนาจอยู่

และถึงแม้จะเป็นความจริงที่ว่า ธรรมนูญกรุงโรมมีข้อผูกมัดให้ชาติสมาชิกส่งตัวผู้ถูกศาลอาชญากรรมระหว่างประเทศออกหมายจับไปดำเนินคดี แต่ ICC ไม่มีตำรวจเป็นของตัวเอง พวกเขาจึงได้แต่หวังพึ่งเจ้าหน้าที่ของชาติสมาชิก ซึ่งมีหลายกรณีที่พวกเขาไม่ยอมทำตามข้อผูกมัดดังกล่าว

ตัวอย่างที่ชัดเจนคือกรณีของนาย โอมาร์ อัล-บาเชียร์ จอมเผด็จการแห่งซูดาน ซึ่งเป็น 1 ใน 3 ผู้นำประเทศที่ถูก ICC ออกหมายจับ เขาอยู่ในอำนาจต่อไปอีก 10 ปี หลังถูกออกหมายจับเมื่อปี 2552 ข้อหาฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในดาร์ฟูร์ และเดินทางไปยังชาติสมาชิก ICC มากมายทั้ง ชาด, จิบูตี, จอร์แดน, เคนยา, มาลาวี, แอฟริกาใต้ และยูกันดัน ซึ่งทั้งหมดปฏิเสธที่จะจับกุมตัวนายบาเชียร์

นายอูฮูรู เคนยัตตา อดีตประธานาธิบดีเคนยา เป็นเพียงคนเดียวที่เคยขึ้นศาลอาชญากรรมระหว่างประเทศในขณะดำรงตำแหน่ง ซึ่งสุดท้ายศาลตัดสินยกฟ้อง นอกจากนั้น ICC ยังเคยดำเนินคดีกับอดีตผู้นำประเทศ 1 คนคือนาย โรลองต์ จีบักโบ อดีตประธานาธิบดีไอโวรี โคสต์ แต่ในปี 2562 เขาก็ถูกตัดสินว่าไม่มีความผิดในทุกข้อกล่าวหา หลังจากพิจารณาคดีมานาน 3 ปี

ศาลอาชญากรรมระหว่างประเทศในกรุงเฮก ของเนเธอร์แลนด์
ศาลอาชญากรรมระหว่างประเทศในกรุงเฮก ของเนเธอร์แลนด์

แล้วหมายจับของ ICC มีประโยชน์อย่างไร?

หมายจับของ ICC อาจไม่นำไปสู่การจับกุมนายปูติน แต่ก็ถือเป็นสิ่งที่มีนัยสำคัญหลายประการ ทั้งเป็นการส่งสัญญาณถึงเจ้าหน้าที่รัสเซีย ไม่ว่าจะภาคกองทัพหรือพลเรือน ว่าพวกเขาอาจมีความเสี่ยงถูกดำเนินคดีไม่ว่าจะในตอนนี้หรือในอนาคต และอาจไปถึงขั้นจำกัดความสามารถของพวกเขาในการเดินทางไปต่างประเทศ หรือเข้าร่วมการประชุมนานาชาติ

และอย่างที่ระบุไปข้างต้นว่า นายปูตินอาจไม่ถูกจับกุมหรือถูกส่งตัวไปดำเนินคดีตราบใดที่เขายังครองอำนาจอยู่ แต่ผู้นำรัสเซียในอนาคตอาจตัดสินใจว่า การส่งตัวเขาไปกรุงเฮกมีประโยชน์ทางการเมืองมากกว่าปกป้องเขาก็เป็นได้

เรื่องแบบนี้เคยเกิดขึ้นแล้วกับนาย สโลโบดาน มิโลเซวิช อดีตประธานาธิบดียูโกสลาเวีย ผู้ถูกฟ้องร้องข้อหาก่ออาชญากรรมสงครามมากมายในสงครามที่โคโซโว โดยในปี 2544 เกิดการชิงอำนาจกันในเซอร์เบีย หลังนายมิโลเซวิชหมดอำนาจ โดย โซรัน จินดิช นายกรัฐมนตรีในตอนนั้น ตัดสินใจเพิกเฉยต่อคำสั่งศาลที่ห้ามส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน และตัดสินใจส่งตัวนายมิโลเซวิชไปกรุงเฮก

ผลก็คือ นายมิโลเซวิชถูกจับกุมตัว หลังรัฐบาลยูโกสลาเวียถูกกดดันให้เลือกว่าจะส่งตัวอดีตผู้นำรายนี้ หรือเสียการสนับสนุนทางเศรษฐกิจจากสหรัฐฯ และเงินกู้จากไอเอ็มเอฟกับธนาคารโลก





ผู้เขียน : ทิตชนม์ สว่างศรี

ที่มา : reuters , the guardian

Leave a Reply

Fill in your details below or click an icon to log in:

WordPress.com Logo

You are commenting using your WordPress.com account. Log Out /  Change )

Twitter picture

You are commenting using your Twitter account. Log Out /  Change )

Facebook photo

You are commenting using your Facebook account. Log Out /  Change )

Connecting to %s