#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก
https://www.komchadluek.net/news/politics/549769
26 พ.ค. 2566

ยื่นหลักฐานเพิ่มเติม ‘ยุบพรรค’ ก้าวไกล ปล่อยให้บุคคลภายนอกครอบงำ กรณีแสดงความเห็นชี้นำ ผู้ดำรงตำแหน่ง ‘ประธานสภา’
การแสดงความเห็นเรื่องตำแหน่งประธานสภาฯ ของธนาธร-ปิยบุตร- พรรณิการ์ กลายเป็นหลักฐานเพิ่มเติมให้เลขาธิการสมาคมองค์กรพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ยื่นให้ กกต. พิจารณา ตรวจสอบว่าบุคคลทั้งสาม ครอบงำพรรค ชี้นำพรรคก้าวไกล ฝ่าฝืน มาตรา 28 และ มาตรา 29 แห่ง พ.ร.ป.พรรคการเมือง 2560 เป็นเหตุให้ต้องยุบพรรคหรือไม่
นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทยแต่ปรากฏว่าเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม นายปิยบุตร แสงกนกกุล ได้โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กของตนว่า ประธานสภาผู้แทนราษฎรตำแหน่งที่พรรคก้าวไกลเสียไปไม่ได้เป็นอันขาด พร้อมอธิบายเหตุผลมากมาย
ศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์กรพิทักษ์รัฐะรรมนูญไทย
ซึ่งต่อมาเป็นเหตุให้ว่าที่ สส.พรรคก้าวไกล และกรรมการบริหารพรรคก้าวไกลต่างออกมาให้สัมภาษณ์และหรือโพสต์ข้อความแสดงความเห็น เพื่อยืนยันว่าตำแหน่งประธานสภาฯ ต้องเป็นของพรรคก้าวไกล ซึ่งเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล ลงในสื่อสังคมออนไลน์มากมาย เช่น นายรังสิมันต์ โรม น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล
การที่ว่าที่ สส.ท่านใดจะได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรนั้น เป็นอำนาจหน้าที่ของเหล่า ส.ส.ทั้ง 500 คนที่ประชาชนได้เลือกตั้งให้ไปเป็น สส. แล้วเข้าไปเลือกกันเอง ว่าท่านใดจะมีความเหมาะสม เพราะทุกคนน่าจะมีวิจารณญานที่จะตัดสินได้ได้เอง โดยไม่จำต้องมีใครมาชี้นำ
แต่นายปิยบุตร แสงกนกกุล ออกมาโพสต์ข้อความลงในสื่อสังคมออนไลน์ในลักษณะดังกล่าว จะทำให้สังคมมองไปเป็นอย่างอื่นไม่ได้ นอกจากการพยายามที่จะชี้นำความคิดและการกระทำของเหล่าว่าที่ ส.ส.ของพรรคก้าวไกล ให้ต้องช่วยกันผลักดันหรือกดดันให้พรรคร่วมต่าง ๆ ยินยอมให้ตำแหน่งประธานสภาฯเป็นของพรรคก้าวไกลเท่านั้น
นอกจากนี้เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม น.ส.พรรณิการ์ วานิช อดีตกรรมการบริหารพรรคอนาคตใหม่ และกรรมการบริหารคณะก้าวหน้า ยังได้ออกมาโพสต์สำทับถึงข้อความผ่านทวิตเตอร์ ระบุว่า “ก้าวไกลต้องการเป็น #ประธานสภา เพื่อผลักดันวาระก้าวหน้าในสังคม”
ชี้ให้เห็นว่าบุคคลทั้งสอง ซึ่งมิใช่สมาชิกพรรคก้าวไกล มีพฤติการณ์หรือกระทําการอันเป็นการควบคุม ครอบงําพรรค หรือชี้นํา กิจกรรมของพรรคการเมืองในลักษณะที่ทําให้พรรคการเมืองหรือสมาชิกขาดความอิสระทั้งโดยทางตรงหรือโดยทางอ้อมหรือไม่
รวมทั้งกรรมการบริหารพรรคก้าวไกลออกมาเคลื่อนไหวสอดรับกับการชี้นำของบุคคลทั้งสอง จึงอาจเป็นการฝ่าฝืน ม.28 และ ม.29 แห่ง พรป.ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 ด้วยหรือไม่
หาก กกต.วินิจฉัยว่าเป็นไปตามการชี้เบาะแส ก็สามารถเสนอให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคที่ฝ่าฝืนกฎหมายดังกล่าวได้ ตาม ม.92(3)