Skip to primary content
Skip to secondary content

SootinClaimon.Com

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย2 [SartKasetDinPui2] : ข้อมูล เศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม เกษตร ดิน น้ำ ปุ๋ย

SootinClaimon.Com

Main menu

  • Home
  • KU23-2506
  • ข้อคิดความเห็น
  • ตระกูลคล้ายมนต์
  • ผมเองครับ
  • ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย1

Category Archives: ข่าว Like สาระ

Post navigation

← Older posts

สกู๊ปพิเศษ : ‘มาตรการภาษีน้ำตาล’ช่วยลดปัญหาสุขภาพคนไทย

Posted on March 8, 2023 by SoClaimon
Reply

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

https://www.naewna.com/likesara/713610

สกู๊ปพิเศษ : ‘มาตรการภาษีน้ำตาล’ช่วยลดปัญหาสุขภาพคนไทย

สกู๊ปพิเศษ : ‘มาตรการภาษีน้ำตาล’ช่วยลดปัญหาสุขภาพคนไทย

วันอาทิตย์ ที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566, 06.00 น.

การเก็บภาษีความหวาน ถือเป็นหนึ่งมาตรการที่สามารถควบคุมการบริโภคน้ำตาลของคนไทยได้ และถือเป็นข่าวดีในวันที่ 1 เมษายน 2566 นี้ กรมสรรพสามิตรเตรียมเดินหน้าเก็บภาษีความหวานตามที่กฎหมายกำหนด หลังจากที่เลื่อนการปรับขึ้นอัตราภาษีความหวาน ระยะที่ 3 มานานกว่า6 เดือน จากเดิมที่ต้องปรับเพิ่มภาษีน้ำตาลในวันที่ 1 ตุลาคม 2565 – 31 มีนาคม 2566

อัตราการเก็บภาษีความหวาน ระยะที่ 3 จะเก็บเพิ่มตามปริมาณน้ำตาล 6-8 กรัม คิดอัตราภาษี 0.3 บาทต่อลิตรปริมาณน้ำตาล 8-10 กรัม คิดอัตราภาษี 1 บาทต่อลิตร ปริมาณน้ำตาล 10-14 กรัม คิดอัตราภาษี 3 บาทต่อลิตร ปริมาณน้ำตาล 14-18 กรัม คิดอัตราภาษี 5 บาทต่อลิตร ปริมาณน้ำตาล ตั้งแต่ 18 กรัม คิดอัตราภาษี 5 บาทต่อลิตร

มีข้อมูลที่บ่งชี้ว่า คนไทยบริโภคน้ำตาลเฉลี่ย 23.7 ช้อนชา/วัน ซึ่งสูงกว่าปริมาณที่องค์การอนามัยโลกแนะนำถึง 4 เท่า ขณะที่ องค์การอนามัยโลกแนะนำบุคคลไม่ควรบริโภคน้ำตาลเกิน 50 กรัม/วัน เพื่อลดโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดโรคที่มาจากน้ำตาล

การบริโภคเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลปริมาณสูง ได้กลายเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้เกิดภาวะโรคอ้วน และส่งผลให้ภาวะโรคในกลุ่มโรคไม่ติดต่อเพิ่มสูงขึ้น เป็นสาเหตุการเสียชีวิตของประชากรไทยถึงร้อยละ 75 ของการเสียชีวิตทั้งหมด คิดเป็น 320,000 คนต่อปี โดยร้อยละ 55 เสียชีวิตที่อายุน้อยกว่า 70 ปีซึ่ง 4 โรคสำคัญที่เป็นสาเหตุหลักในกลุ่มโรคไม่ติดต่อที่ทำให้เสียชีวิตก่อนวัยอันควร คือ โรคหลอดเลือดสมอง โรคหัวใจขาดเลือด โรคเบาหวาน และโรคทางเดินหายใจอุดกั้นเรื้อรัง

สำหรับมาตรการเก็บภาษีจากเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลปริมาณสูงของกรมสรรพสามิตที่มีผลบังคับใช้เมื่อปี 2560 เป็นที่ยอมรับแล้วว่า ได้ส่งผลทางอ้อม ทำให้คนไทยลดการบริโภคน้ำตาลลงได้จริง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มีผลการศึกษาการคาดประมาณผลกระทบทางสุขภาพ จากมาตรการขึ้นภาษีเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลในประเทศไทยของทีมนักวิจัยประกอบด้วย พจนา หันจางสิทธิ์,วรรณสุดา งามอรุณ และ ธนพร เกิดแก้ว พบว่ามาตรการภาษีน้ำตาลส่งผลต่อสถานการณ์สุขภาพของคนไทยอย่างชัดเจน

ทั้งนี้ ผลศึกษาวิเคราะห์ด้วยแบบจำลองทางคณิตศาสตร์ หลังดำเนินมาตรการภาษีฯ ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงของอุบัติการณ์ ความชุก และจำนวนผู้เสียชีวิต โดยแสดงผลตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ ระยะ 20 ปี (2560 – 2579)ความเปลี่ยนแปลงต่อด้านสาธารณสุข สำหรับระยะที่ 2(ปี 2569) ระยะที่ 3 (ปี 2574) และ ระยะที่ 4 (ปี 2579) มีรายละเอียด ดังนี้ อุบัติการณ์ พบว่า การดำเนินมาตรการภาษีฯ สามารถลดอุบัติการณ์การเกิดโรคทั้ง 3 โรค ดังนี้ผู้ป่วยโรคเบาหวาน ในปี 2569 ลดลง 17,681 คน ในปี 2574 ลดลง 19,571 คน และ ปี 2579 ลดลง 20,583 คนตามลำดับ

ขณะที่โรคหัวใจขาดเลือดจำนวนผู้ป่วยใหม่ลดลง 1,686 คน 1,877 คน และ 1,954 คน ตามลำดับ และโรคหลอดเลือดสมอง ลดลง 970 คน 1,085 คน และ 1,133 คน
ตามลำดับ

นอกจากนี้ ยังพบว่า หากดำเนินมาตรการด้านภาษี สามารถลดความชุกของการเกิดโรคทั้ง 3 ในปี 2569 ปี 2574 และ ปี 2579 โรคเบาหวานลดลง 20,102 คน 109,443 คน และ 198,413 คน ตามลำดับ ขณะที่โรคหัวใจขาดเลือดจำนวนผู้ป่วยใหม่ลดลง 1,819 คน 8,983 คน และ 14,831 คน ตามลำดับ และโรคหลอดเลือดสมองลดลง 1,057 คน 5,462 คน และ 9,409 คน ตามลำดับ

ส่วนจำนวนผู้เสียชีวิต พบว่า มาตรการด้านภาษี สามารถลดจำนวนผู้เสียชีวิตของโรคทั้ง 3 ในปี 2569 ปี 2574 และ ปี 2579 ดังนี้ โรคเบาหวาน ลดลง 51 คน 308 คน และ 616 คน ตามลำดับ ขณะที่โรคหัวใจขาดเลือดลดลง 60 คน 291 คน และ 486 คน ตามลำดับ และโรคหลอดเลือดสมอง ลดลง 8 คน 41 คน และ 76 คน

นอกจากนี้ พบว่า มาตรการด้านภาษี ยังเข้าไปส่งผลต่อการปรับสูตรเครื่องดื่มที่ลดปริมาณน้ำตาลลงของผู้ประกอบการโดยจากการศึกษาผู้ประกอบการ ประเทศอังกฤษได้ดำเนินการปรับเปลี่ยนสูตรเครื่องดื่ม โดยลดปริมาณน้ำตาลลง 50% ในเครื่องดื่มที่ต้องเสียภาษี

ดังนั้น จากการศึกษานี้ ได้ทำการคาดประมาณว่า หากบริษัทเครื่องดื่มปรับสูตรลดลง 25% และ 50% เพื่อให้เครื่องดื่มประเภทนั้นๆ ไม่ต้องเสียภาษีฯ จะส่งผลกระทบต่ออุบัติการณ์ ความชุก การเสียชีวิตที่เกิดจากโรคเบาหวาน โรคหัวใจขาดเลือด และหลอดเลือดสมอง และสามารถลดค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพลงได้

ผลการศึกษา ยังได้คาดการณ์หากผู้ประกอบการไทยปรับสูตรลดน้ำตาลลง 25% สามารถลดอุบัติการณ์การเกิดโรคเบาหวาน ตามแผนยุทธ์ศาสตร์ ระยะ 20 ปี ในปี 2569 จำนวน 82,307 คน ในปี 2574 จำนวน 92,057 คน และในปี 2579 จำนวน 98,085 คน

ขณะที่ สามารถลดความชุกของการเกิดโรคเบาหวาน ในปี 2569 จำนวน 391,775 คน ในปี 2574 จำนวน 788,083 คนและในปี 2579 จำนวน 1,182,580 คน เป็นต้น

ส่วนอัตราการเสียชีวิต (Deaths) แน่นอนว่าลดการเสียชีวิตได้เช่นกัน โดยโรคเบาหวาน ในปี 2569 ได้ 1,090 คนในปี 2574 ลดได้ 2,432 คน และในปี 2579 ลดได้ 4,006 คน

ที่สำคัญ ค่าใช้จ่ายในการดูแลสุขภาพโดยรวมลดลงด้วยเช่นกัน ในปี 2569 ได้ 475,825,676 บาทในปี 2574 ได้ 666,441,040 บาท และ ในปี 2579ได้ 703,067,002 บาท

การศึกษายังพบอีกว่า ยิ่งปรับสูตรลดน้ำตาลเพิ่มมากขึ้นยิ่งสามารถลดจำนวนผู้ป่วยลงและส่งผลให้ภาพรวมการเสียค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพของคนไทยลดลงไปด้วย โดยหากมีการปรับสูตรลดน้ำตาลลง 50% สามารถลดอุบัติการณ์การเกิด โรคเบาหวาน ในปี 2569 ได้ 129,449 คน ในปี 2574 ได้ 146,038 คนและในปี 2579 ได้ 157,261 คน เป็นต้น สามารถลดความชุกของการเกิดโรคเบาหวาน ในปี 2569 ได้ 654,204 คนในปี 2574 ได้ 1,277,062 คน และในปี 2579 ได้ 1,902,637 คน เป็นต้น

ขณะที่สามารถลดจำนวนผู้เสียชีวิตลงด้วยเช่นกัน โดยโรคเบาหวาน ในปี 2569 ได้ 1,859 คน ในปี 2574 ได้ 4,035 คน และในปี 2579 ได้ 6,601 คน เป็นต้น ส่วนค่าใช้จ่ายในการดูแลสุขภาพโดยรวมลดลงด้วยเช่นกัน โดยในปี 2569 ลดได้838,350,973 บาท ในปี 2574 ลดได้ 1,140,854,299 บาท และ ในปี 2579 ลดได้ 1,192,000,345 บาท

อย่างไรก็ตาม แม้มาตรการด้านภาษีจะถือเป็นมาตรการในการควบคุมการบริโภคน้ำตาล แต่ความร่วมมือของภาครัฐและเอกชน ในการดำเนินการควบคุมการลดปริมาณน้ำตาลก็ถือเป็นเรื่องสำคัญเช่นกัน

ที่ผ่านมาภาครัฐและเอกชนได้ตั้งคณะทำงานดำเนินงานและติดตามมาตรการเพื่อให้การบริโภคน้ำตาลของคนไทยเหมาะสม โดยคณะทำงานประกอบด้วยตัวแทนจากผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกภาคส่วน เช่น กรมอนามัย กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการคลัง สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน สมาคมอุตสาหกรรมเครื่องดื่มไทย บริษัทเดอะ นีลเส็น คอมปะนี (ประเทศไทย) จำกัด ตัวแทนสมาคมผู้ค้าปลีกไทย บริษัทตีฆ้องร้องป่าว จำกัด สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพเครือข่ายเด็กไทยไม่กินหวาน สำนักงานพัฒนานโยบายสุขภาพระหว่างประเทศ สมาคมโรคเบาหวานแห่งประเทศไทย เป็นต้น

แนวทางในการขับเคลื่อนจะเน้น 3 มาตรการ 1) มาตรการส่งเสริมความรอบรู้ทางสุขภาพ ขับเคลื่อนผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ 2) มาตรการสมัครใจ เป็นการทำงานของภาคเอกชน/ผู้ผลิตในการกระจาย การเข้าถึงผลิตภัณฑ์ที่ได้รับเครื่องหมายทางเลือกสุขภาพ ปรับสูตรและพัฒนาเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ และการทำการตลาดที่เหมาะสม
และ 3) มาตรการบังคับ การพิจารณาการออกกฎหมาย/ข้อบังคับ เช่น ฉลากโภชนาการ GDA และ ปรับปรุงกฎหมาย เพื่อลดปริมาณการบริโภคน้ำตาลของคนไทย

Share this:

  • Skype
  • Pocket
  • Facebook
  • Twitter
  • LinkedIn
  • Reddit
  • Email
  • Print
  • Telegram
  • Tumblr
  • WhatsApp
  • Mastodon
  • More
  • Pinterest

Like this:

Like Loading...
Posted in ข่าว Like สาระ, แนวหน้า | Tagged สกู๊ปพิเศษ | Leave a reply

พ่อแม่สูญเสียลูกชาย-ลูกสะใภ้ไปทำงานเกาหลี เสียชีวิตคาบ้านพักทั้งคู่

Posted on March 8, 2023 by SoClaimon
Reply

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

https://www.naewna.com/likesara/713640

พ่อแม่สูญเสียลูกชาย-ลูกสะใภ้ไปทำงานเกาหลี เสียชีวิตคาบ้านพักทั้งคู่

พ่อแม่สูญเสียลูกชาย-ลูกสะใภ้ไปทำงานเกาหลี เสียชีวิตคาบ้านพักทั้งคู่

วันเสาร์ ที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566, 21.30 น.

สองตายายปาดน้ำตา สูญเสียลูกชายเป็นเสาหลัก เสียชีวิตที่ประเทศเกาหลีใต้ รับปากจะกลับมาเดือนเมษายนนี้ บอกพ่อกับแม่อย่าเพิ่งตาย สุดท้ายลูกชายมาเสียชีวิตก่อน น้องชายวอนเจ้าหน้าที่ตรวจสอบทรัพย์สินพี่ชายด้วย มีทองคำมูลค่า 9 ล้านบาทและเงินสดอีก 400,000 บาทยังไม่พบ

25 ก.พ.2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีวันที่ 24 ก.พ.66 ที่ผ่าน เพจเฟซบุ๊ก World Forum ข่าวสารต่างประเทศ รายงานพบศพสามี-ภรรยา ชาวไทยที่ไปทำงานประเทศเกาหลีใต้ เสียชีวิตอยู่ภายในบ้านพักเขตโกชาง ซ็อลลาเหนือ โดยทั้งคู่เข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย โดยสองสามีภรรยาได้ก่อไฟในห้องเพื่อให้ร่างกายอบอุ่น และคาดว่าน่าจะเสียชีวิตด้วยพิษของก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ ทั้งคู่จ่ายเงิน 300,000 วอน ($230) เป็นค่าเช่ารายปี ตามที่ตำรวจระบุ ตำรวจและเพื่อนบ้านเสริมว่าทั้งคู่มาที่เกาหลีเมื่อประมาณ 10 ปีก่อนด้วยความหวังว่าจะได้ใช้ชีวิตแบบที่เรียกว่า “ความฝันแบบเกาหลี ทั้งคู่อยู่ในเขตชนบททำไร่ทำนาใช้ชีวิตลำบากมีรายงานว่าพวกเขาส่งเงินที่ได้มาให้ลูกๆในประเทศไทยตลอด สำหรับสองสามีภรรยา ทราบว่า ผู้ชายเป็นชาว จ.อุดรธานี

ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านเลขที่ 3 หมู่ 1 บ้านนาคำ ต.นาคำ อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี พบกับนายบุญจันทร์ เพ็งผ่าน อายุ 78 ปี และ นางทองเลื่อน เพ็งผ่าน อายุ 74 ปี พ่อและแม่ของนายขจรศักดิ์ เพ็งผ่าน อายุ 55 ปี หรือ “แหลม” ซึ่งไปทำงานที่เกาหลีใต้และเสียชีวิตพร้อมภรรยา โดยบ้านหลังดังกล่าวมีเพียงสองตายายอยู่ด้วยกันลำพังเพียง 2 คน หลังทราบข่าวว่านายขจรศักดิ์ เสียชีวิต ญาติๆ เดินทางมาให้กำลังใจและแสดงความเสียใจด้วย โดยนางทองเลื่อน ได้นำรูปถ่ายของลูกชายสมัยเป็นหนุ่มๆมาให้ผู้สื่อข่าวดู โดยบอกว่านายขจรศักดิ์ เป็นลูกชายคนโตในจำนวน 5 คน นายขจรศักดิ์ถือเป็นเสาหลักของครอบครัวดูแลน้องมาตลอดตั้งแต่เกิดมา พอโตขึ้นก็ไปทำงานเนื่องจากที่บ้านฐานะยากจนและไม่ค่อยอยู่บ้านไปทำงานที่ประเทศนี้ที่ประเทศโน้นที เขาเลิกกับภรรยาเก่า ไปได้ภรรยาใหม่ตอนไปทำงานที่เกาหลีใต้ มาเป็นสิบๆ ปีแล้ว ตอนนี้มีลูกชาย 2 คน

นางทองเลื่อน เปิดเผยว่า นายขจรศักดิ์ หรือ “แหลม” เป็นลูกชายคนโตใน จำนวน 5 คน เขาเป็นคนที่ดูแลน้องมาตลอด ตั้งแต่เกิดมา สมัยเด็กๆ ไปทุ่งนาใส่ปูใส่ปลามาให้พ่อและแม่และเลี้ยงน้องๆ ทุกคน โตมาหน่อยก็ออกไปทำงานเลี้ยงดูน้องๆ วันก่อนหลานชายซึ่งเป็นลูกชายนายแหลมโทรมาบอกว่า ย่าทำอะไรอยู่ ย่าทำใจดีๆ นะ ตำรวจโทรมาบอกว่า พ่อเสียชีวิตแล้ว ตนเองรู้ข่าวแทบช็อค ร้องไห้ทั้งวัน เสียใจมากที่สูญเสียลูกชายคนนี้ไป เขาเป็นคนดีมาก พอโตขึ้นก็ออกไปหางานทำ ไม่ค่อยอยู่บ้าน ไปทำงานต่างประเทศทั้งอิสราเอล ไต้หวันและเกาหลีใต้ แม้เขาจะไปแบบผีน้อย แต่ด้วยความจนทำให้ลูกชายต้องบากหน้าไปทำงานต่างประเทศ  ก็อยากได้ศพลูกชายกลับมาบำเพ็ญกุศลตามประเพณีที่บ้าน แต่ได้ยินข่าวจะมีค่าใช้จ่ายเยอะประมาณ 500,000 บาท ก็เลยคิดว่าจะเอากระดูกมาทำบุญ จะมีค่าใช้จ่ายประมาณ 100,000 บาท ก็อยากให้ทางการช่วยแนะนำในการนำศพหรือกระดูกลูกมาบำเพ็ญกุศลที่บ้านด้วย

นางทองเลื่อน บอกอีกว่า ก่อนลูกชายเสียชีวิต มีฝันเป็นลาง ไปทุ่งนาเจอน้ำหลากในท้องนา ก็เดินลุยน้ำไปที่กระท่อมนาแล้วไปเปลี่ยนชุดผ้าขาวขาดๆ พอไปเล่าให้ผู้เฒ่าผู้แก่ในหมู่บ้านฟัง ก็บอกว่า จะมีแนวเป็นไปหรือสูญเสียคนที่รักไป วันต่อมารู้ข่าวอีกทีก็รู้ว่าลูกชายเสียชีวิต ไม่คิดไม่ฝันว่าฝันจะเป็นจริง พอไปเล่าให้ตาฟัง ตาแกร้องไห้แทบขาดใจ ไม่คิดว่าลูกชายจะจากไปเร็วป่านนี้ เขาวีดีโอคอลมาหาแม่เมื่อปีใหม่ บอกว่า อีก 4-5 ปีครบ 60 ปีจะกลับมาอยู่บ้านนะแม่ อย่าเพิ่งตายก่อนลูกแล้วกัน

ขณะที่ นายบุญจันทร์ ผู้เป็นพ่อบอกว่า หลานชายโทรมาบอก พอรู้ข่าวว่าลูกชายเสียชีวิตที่เกาหลีตนเองทำใจไม่ได้ เขาเป็นที่รักของพ่อแม่และน้องๆ ทุกคน  ผมรักลูกชายคนนี้มาก ไปทำงานหนักในหลายประเทศเพื่อให้น้องๆ มีชีวิตที่ดี เกาหลีใต้เป็นประเทศสุดท้ายที่ลูกชายไป สุดท้ายมาเสียชีวิต ปีใหม่ยังคุยกันอยู่เลยบอกกับพ่ออยู่เลยอย่าตายก่อนลูกนะ ครบ 60 ปีจะมาอยู่ด้วย ส่วนความรู้สึกเสียใจจนบอกไม่ถูกน้ำตาจะไหล จากนั้นนายบุญจันทร์ ลุกจากแคร่ขอทำใจเพราะเสียใจที่ลูกชายจากไปไม่มีวันกลับ

นายจุ๋ม น้องชายนายแหลม เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า คุยกับพี่ชายเขาบอกว่าจะกลับมาบ้านเดือนเมษายนนี้ จะมาพักสักระยะหนึ่ง เรื่องการเสียชีวิตของพี่ชายตอนนี้หลานชายซึ่งเป็นลูกชายของผู้เสียชีวิตกำลังติดต่อกับสถานทูตที่เกาหลีใต้ ในเรื่องนำกระดูกของพ่อมาบำเพ็ญกุศลที่บ้าน จ.อุดรธานี แต่ตอนนี้เราติดใจว่าทรัพย์สินของพี่ชายยังอยู่ไหม แม้เขาจะไปแบบผีน้อยเขาทำงานเป็นสิบๆ ปี ก็ต้องมีเงินสดทรัพย์สินอยู่ด้วย เพราะเท่าที่รู้ ลูกชายบอกว่า พ่อจะถือกระเป๋าใบหนึ่งไว้ตลอด โดยบอกว่ามีทรัพย์สินเป็นทองคำจำนวน 90 ตุ๊ด หรือประมาณ 9 ล้านบาท และเงินสดอีก 400,000 บาท ไม่รู้ยังอยู่ไหม ตอนนี้ยังไม่แน่นอน คงต้องประสานกับทางสถานฑูตอีกครั้ง ซึ่งหากทรัพย์สินและเงินสดยังอยู่ อยากให้ตำรวจที่เกาหลีใต้สืบดูว่า คนที่ไปเจอศพคนแรกพบไหม หากกระเป๋าใบนั้นมีทรัพย์สิน ทองคำและพาสปอร์ตของพี่ชายและพี่สะใภ้ ญาติๆ ก็อยากได้ทรัพย์สินตรงนั้นกลับมาด้วย

-009

Share this:

  • Skype
  • Pocket
  • Facebook
  • Twitter
  • LinkedIn
  • Reddit
  • Email
  • Print
  • Telegram
  • Tumblr
  • WhatsApp
  • Mastodon
  • More
  • Pinterest

Like this:

Like Loading...
Posted in ข่าว Like สาระ, แนวหน้า | Leave a reply

ถ้าถูกหวย จะตั้งศาลให้ใหม่ ชาวบ้านไม่สบายใจ’พระพรหม’ถูกทิ้งข้างทาง

Posted on March 8, 2023 by SoClaimon
Reply

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

https://www.naewna.com/likesara/713636

ถ้าถูกหวย จะตั้งศาลให้ใหม่ ชาวบ้านไม่สบายใจ'พระพรหม'ถูกทิ้งข้างทาง

ถ้าถูกหวย จะตั้งศาลให้ใหม่ ชาวบ้านไม่สบายใจ’พระพรหม’ถูกทิ้งข้างทาง

วันเสาร์ ที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566, 21.04 น.

ชาวบ้านไม่สบายใจ มีคนแอบนำศาลพระพรหมขนาดใหญ่และรูปปั้นท้าวมหาพรหมมาทิ้งข้างทางเหมือนกองขยะ นำธูปเทียนขันธ์ 5 ไหว้บอกกล่าวขอขมา พร้อมขอโชคลาภ หากดวงดีถูกหวย จะหาสถานที่ตั้งที่เหมาะสมให้ผู้คนกราบไหว้บูชา

25 ก.พ.66 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านที่ขับรถสัญจรผ่านไปมาว่า มีคนแอบนำศาลพระพรหม​ขนาดใหญ่และรูปปั้นท้าวมหาพรหม มาทิ้งไว้ริมถนนทางหลวงหมายเลข 24 ช่วงบริเวณกิโลเมตรที่ 132 จุดยูเทินเข้าบ้านบุไร่อ้อย ต.เจริญสุข อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ สร้างความไม่สบายใจให้กับชาวบ้านที่ผ่านไปมา จึงได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบ ก็พบเศษชิ้นส่วนของศาลพระพรหมขนาดใหญ่และรูปปั้นท้าวมหาพรหม ปางประทานพร หรือที่ชาวบ้านเรียกกันทั่วไปว่า​ พระพรหมสี่หน้า  ถูกกองทิ้งรวมกันไว้ริมถนนเหมือนกับกองขยะ ชาวบ้านจึงได้พากันนำดอกไม้ธูปเทียนทำขันธ์ 5 ไปกราบไหว้บอกกล่าวขอขมาตามความเชื่อ เพราะถือว่าศาลพระพรหม รวมทั้งรูปปั้นที่พบเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ไม่ควรจะนำมาทิ้งแบบนี้

จากการสำรวจพบว่า ทุกชิ้นที่นำมาทิ้งยังมีสภาพที่สมบูรณ์ ไม่ได้แตกหัก จึงสันนิษฐานว่าคนที่นำมาทิ้งอาจจะเป็นเจ้าของบ้านคนใหม่ซึ่งศาลอาจจะเป็นของคนเดิม   แต่เขาอาจจะไม่ได้นับถืออะไรลักษณะนี้ เพราะรูปปั้นท้าวมหาพรหมหรือพระพรหมเป็นของศาสนาฮินดู หรืออาจเพราะร่างทรงทักท้วงแล้วนำมาทิ้งหรือไม่ ก็เป็นแค่การสันนิษฐานเท่านั้น เพราะก็ไม่มีใครรู้จุดประสงค์ของคนที่เอามาทิ้ง

สอบถามนางแต๋ว สัญจร อายุ 64 ปี ชาวบ้านพูนสุข บอกว่า  หลังจากทราบข่าวว่ามีคนนำศาลพระพรหมและรูปปั้นท้าวมหาพรหมมาทิ้งไว้ริมทาง ก็เดินทางมาดูพอเห็นรู้สึกแปลกใจ เพราะเขากองทิ้งไว้เหมือนเศษขยะ คือถ้าทิ้งแค่ฐานปูนก็คงไม่เป็นไรแต่มีรูปปั้นพระมาทิ้งด้วยก็ไม่สบายใจเพราะถือเป็นของสูง จึงได้พากันมาจุดธูปขอขมารู้สึกขนลุก ก็อยากจะบูรณะหรือหาสถานที่ใหม่ที่เหมาะสมสะอาดให้อยู่แต่ก็ไม่มีเงิน จึงได้ไหว้ขอโชคลาภกับรูปปั้นท้าวมหาพรหมดังกล่าว หากดวงดีถูกหวยก็จะพาไปอยู่ที่ไหนและบูรณะตกแต่งให้สวยงาม ให้ผู้คนได้กราบไหว้

ด้าน นางรสชรินทร์  ขำเอนก อายุ 44 ปี ชาวบ้านอีกคน บอกว่า ที่ผ่านมาไม่เคยเห็นมีใครเอาศาลพระพรหมโดยเฉพาะรูปปั้นท้าวมหาพรหม มาทิ้งแบบนี้  ส่วนใหญ่ก็จะเห็นแค่ศาลเล็กๆ​ที่ชำรุดแล้ว แต่นี้ยังสภาพสมบูรณ์ก็ไม่รู้ว่าเพราะสาเหตุอะไรเขาถึงเอามาทิ้ง  จึงได้พากันเอาขันธ์​ 5 ดอกไม้ ธูปเทียน น้ำเปล่า  น้ำแดง มาถวาย และบอกกล่าวขอขมาตามความเชื่อ ซึ่งตอนไหว้ก็รู้สึกขนลุก ซึ่งหากตนได้โชคลาภ ก็จะร่วมกับชาวบ้านนำศาลดังกล่าวไปตั้งไว้สถานที่ที่เหมาะสมและบูรณะให้สวยงาม  ให้ผู้คนได้กราบไหว้

-009

Share this:

  • Skype
  • Pocket
  • Facebook
  • Twitter
  • LinkedIn
  • Reddit
  • Email
  • Print
  • Telegram
  • Tumblr
  • WhatsApp
  • Mastodon
  • More
  • Pinterest

Like this:

Like Loading...
Posted in ข่าว Like สาระ, แนวหน้า | Leave a reply

‘บิ๊กตู่’ควง’พีระพันธุ์’ เยือนโคราช ไม่พลาดส่องเลข จับตาทะเบียนรถตู้

Posted on March 8, 2023 by SoClaimon
Reply

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

https://www.naewna.com/likesara/713633

'บิ๊กตู่'ควง'พีระพันธุ์' เยือนโคราช ไม่พลาดส่องเลข จับตาทะเบียนรถตู้

‘บิ๊กตู่’ควง’พีระพันธุ์’ เยือนโคราช ไม่พลาดส่องเลข จับตาทะเบียนรถตู้

วันเสาร์ ที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566, 20.03 น.

‘บิ๊กตู่’ ควง ‘พีระพันธุ์’ เยือนโคราช ไม่พลาดส่องเลข จับตาทะเบียนรถตู้ นำไปเสี่ยงโชคงวด 1 มี.ค.นี้

25 ก.พ.256 หลังจากที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ในฐานะประธาน คณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรคการเมืองของพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) เดินทางพร้อม นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค ที่จังหวัดนครราชสีมา

โดย พล.อ.ประยุทธ์ เดินทางถึงลานท้าวสุรนารี (ย่าโม) ประกอบพิธีบวงสรวงท่านท้าวสุรนารี (ย่าโม) โดยมีพราหมณ์จากวัดศิริสุทโธ (คำชะโนด) นำประกอบพิธีบวงสรวงสักการะ ท่ามกลางประชาชนให้การต้อนรับอย่างคึกคัก อย่างไรก็ตาม นายกฯใช้รถยนต์ยี่ห้อโตโยต้าอัลพาร์ด สีขาว หมายเลขทะเบียน 2 ขช 875 กรุงเทพมหานคร ในการเดินครั้งนี้

จากนั้นเวลา 18.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ ได้รวมเคารพธงชาติก่อนจะเดินทักทายประชาชน และเดินไปยังเวทีปราศรัย ที่บริเวณสนามหน้าศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา

-009

Share this:

  • Skype
  • Pocket
  • Facebook
  • Twitter
  • LinkedIn
  • Reddit
  • Email
  • Print
  • Telegram
  • Tumblr
  • WhatsApp
  • Mastodon
  • More
  • Pinterest

Like this:

Like Loading...
Posted in ข่าว Like สาระ, แนวหน้า | Leave a reply

‘คณะสงฆ์จาริกธรรมตามรอยบาทพระศาสดา’ศึกษาธรรมที่ ‘นาลันทา’

Posted on March 8, 2023 by SoClaimon
Reply

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

https://www.naewna.com/likesara/713605

'คณะสงฆ์จาริกธรรมตามรอยบาทพระศาสดา'ศึกษาธรรมที่ 'นาลันทา'

‘คณะสงฆ์จาริกธรรมตามรอยบาทพระศาสดา’ศึกษาธรรมที่ ‘นาลันทา’

วันเสาร์ ที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566, 18.23 น.

คณะสงฆ์ใน “โครงการจาริกธรรมตามรอยบาทพระศาสดา ครั้งที่ 9” ศึกษาเรียนรู้ประวัติศาสตร์ “มหาวิทยาลัยนาลันทา” ถูกทำลาย จนนำมาสู่การที่มุสลิมใช้จังหวะนั้น ห้ามให้มีพระสงฆ์ในอินเดีย ส่งผลให้พระสงฆ์หมดไปจากประเทศอินเดียนานกว่า 700 ปี

ระหว่างการศึกษาเรียนรู้ประวัติศาสตร์ที่ “หมาวิทยาลัยนาลันทา” คณะสงฆ์ในโครงการจาริกธรรมฯ ได้จำวัดอยู่ที่ “วัดไทยนาลันทา” ด้วยการใช้เต้นท์ หรือ “กุฎิน้อย” ตั้งแต่คืนวันที่ 17-19 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2566 และ ออกเดินทางไปยังเมืองไวสาลี รัฐพิหาร โดยในคืนวันที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2566 ได้เข้าจำวัดที่โรงเรียนมัธยมกทันปุระ อเจปู้ร์ รัฐพิหาร และ ในคืนที่วันที่ 20 พักที่มหาวิทยาลัยมาร์กัส เมืองจันดี้ รัฐพิหาร ประเทศอินเดีย เพื่อมุ่งหน้าเดินทางเข้าเมืองไวสาลี ไปกราบนมัสการสถานที่สำคัญ คือ ที่ปลงสังขารขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า องค์สมณโคดมบรมครู ในเมืองไวสาลี

ระหว่างการเดินทางของคณะสงฆ์, แม่ชี, อุบาสก และ อุบาสิกา ในโครงการจาริกธรรมฯ อยู่ที่ “วัดไทยนาลันทา” ทางเจ้าของรายการโทรทัศน์ “เดอะ พีเพิล โชว์” ซึ่งออกอากาศทางสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 ทุกวันเสาร์ เวลา 07.00-08.00 น.ได้เดินทางมาทำข่าวและสารคดีที่ประเทศอินเดีย โดยพระครูธีรธรรมปราโมทย์ (หลวงพ่อสำเริง ธมฺมธีโร) เจ้าอาวาส วัดดอยเทพนิมิต ตำบลป่าซาง อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย ประธานดำเนินงาน “โครงการจาริกธรรมตามรอยบาทพระศาสดา” ครั้งที่ 9 เมตตาอนุเคราะห์นำคณะสื่อมวลชนมาทำข่าว เพื่อเผยแพร่งานด้านพุทธศาสนาของพระสงฆ์ไทยในประเทศอินเดียออกไปสู่สายตาชาวโลก

รวมทั้งเจ้าของรายการเดอะ พีเพิล โชว์ ยังได้เป็นตัวแทนนำเสื้อกันหนาวมาถวายแด่หลวงพ่อสำเริงฯ เพื่อมอบให้ทีมงานโครงการจาริกธรรมฯและคณะแม่ชี รวมทั้งอุบาสิกาที่เข้าร่วมโครงการซึ่งจะต้องร่วมกันฟันฝ่าอุปสรรค ทั้งความอดทนในการเดินเท้า และ การทนต่อสภาพอากาศที่กลางวันร้อน กลางคืนหนาว โดยเสื้อกันหนาวที่นำมาถวายนี้ ได้มีต้นบุญ คือ มูลนิธิพุทธภูมิธรรม ถวายปัจจัยมาซื้อเสื้อกันหนาว

ขอบคุณภาพ โดยทีมงาน “จาริกธรรมตามรอยบาทพระศาสดา ครั้งที่9”

Share this:

  • Skype
  • Pocket
  • Facebook
  • Twitter
  • LinkedIn
  • Reddit
  • Email
  • Print
  • Telegram
  • Tumblr
  • WhatsApp
  • Mastodon
  • More
  • Pinterest

Like this:

Like Loading...
Posted in ข่าว Like สาระ, แนวหน้า | Leave a reply

เมื่อ’พี่แกร็บ’รอออเดอร์ จัด1บทเพลง ทั้งเล่นทั้งร้อง นึกว่ามืออาชีพมาเอง

Posted on March 8, 2023 by SoClaimon
Reply

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

https://www.naewna.com/likesara/713595

เมื่อ’พี่แกร็บ’รอออเดอร์ จัด1บทเพลง ทั้งเล่นทั้งร้อง นึกว่ามืออาชีพมาเอง

วันเสาร์ ที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566, 17.36 น.

ปรบมือลั่นร้าน! เมื่อพี่แกร็บรอออเดอร์ ก็จัด 1 บทเพลงทั้งเล่นทั้งร้องแบบมืออาชีพมาเอง

ทำเอาลูกค้าปรบมือลั่นทั้งร้าน เมื่อพี่แกร็บกำลังรอออเดอร์ แต่จะปล่อยเวลาให้สูญเปล่าไปทำไม ก็ขอสวมบทนักดนตรีเล่นเปียโน ขับร้องบทเพลง “คนสุดท้าย” ของ อัสนี วสันต์ โชติกุล 

โดยผู้ใช้เฟซบุ๊ก Pastella Studio ได้เผยคลิปพร้อมข้อความว่า ” ระหว่างพี่ Rider รอออเดอร์ก็เล่นสักหน่อย ขอบคุณที่มาเล่นเพลงให้เราทุกคนฟังนะคะ มันเป็นอะไรที่พวกเราก็ตื่นเต้นถ้าเปียโนได้ส่งเสียงออกมาบ้าง (หลังจากตั้งเงียบๆเกิน 25 ปี) ใครแวะมาที่ร้านเปียโนสามารถเล่นได้นะคะ ” 

-009

Share this:

  • Skype
  • Pocket
  • Facebook
  • Twitter
  • LinkedIn
  • Reddit
  • Email
  • Print
  • Telegram
  • Tumblr
  • WhatsApp
  • Mastodon
  • More
  • Pinterest

Like this:

Like Loading...
Posted in ข่าว Like สาระ, แนวหน้า | Leave a reply

สุดยอดชาวบ้านเข้มแข็ง ร่วมแรงเทถนนคอนกรีตทางเข้าวัด

Posted on March 8, 2023 by SoClaimon
Reply

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

https://www.naewna.com/likesara/713589

สุดยอดชาวบ้านเข้มแข็ง ร่วมแรงเทถนนคอนกรีตทางเข้าวัด

สุดยอดชาวบ้านเข้มแข็ง ร่วมแรงเทถนนคอนกรีตทางเข้าวัด

วันเสาร์ ที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566, 17.07 น.

พี่น้องประชาชนบ้านเมืองหลวง ต.เมืองหลวง อ.ห้วยทับทัน จ.ศรีสะเกษ ร่วม 50 กว่าคน ได้พร้อมใจออกมาช่วยกันก่อสร้างเทพื้นถนนคอนกรีต เสริมไม้ไผ่ภายในบริเวณวัด ขนาดความกว้าง 6 เมตร ยาว 230  เมตร ด้วยความสามัคคี ทุกคนต่างปลื้มใจยินดีกับสิ่งที่ทำกันอย่างถ้วนหน้า

25 ก.พ.2566 ที่บริเวณวัดบ้านเมืองหวง ต.เมือลหลวง พี่น้องประชาชนพร้อมจิตอาสาประจำหมู่บ้าน ประกอบด้วยบ้านเมืองหลวง หมู่ที่ 1 ,2,3 และ 4 กว่า 50 คน ต่างได้พร้อมใจกันออกมาช่วยกันเทถนนคอนกรีตเสริมไม้ไผ่กันอย่างคึกคัก ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้สังเกตเห็นว่า ชาวบ้านมีการนำลำไม้ไผ่มาผ่าเป็นซีกๆ ก่อนจะนำไปมัดทำเป็นตะแกรงเสริมคอนกรีตแทนเหล็กเส้น ซึ่งทุกคนต่างทำหน้าที่ เช่น สุภาพสตรีก็จะทำหน้าที่มัดไม้ไผ่ ขณะที่สุภาพพบุรุษก็มีทั้งผสมปูน ยกปูน ตีแบบพื้นถนน ส่วนสุภาพสตรีอีกส่วนหนึ่งทำหน้าที่เป็นแม่ครัวคอยทำอาหารไว้ให้บริการ ทำให้บรรยากาศเป็นไปด้วยความคึกครื้น ปลื้มใจกับผู้ร่วมงานและผู้คนที่ผ่านไปมาอย่างยิ่ง

ทั้งนี้ จากเรื่องดังกล่าว นายพรหมา จังอินทร์ อายุ 74  ปี ซึ่งเป็นผู้อาวุโสในบ้านเมืองหลวง กล่าวว่า ด้วยวัดบ้านเมืองหลวงเป็นวัดเก่าแก่มานาน วัดเป็นสถานที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของคนในชุมชนและใกล้เคียง จากปัญหาในช่วงฤดูฝน น้ำจะท่วมขังทั่วบริเวณวัด ขณะที่พระจำพรรษาอยู่ที่วัดก็มีแต่พระคุณเจ้าที่อายุมากแล้ว ซึ่งเป็นปัญหาต่อการเดินสัญจรทั้งชาวบ้านและพระคุณเจ้าตลอดมา ดังนั้น ทางพระคุณเจ้าและชาวบ้านจึงได้คิดที่จะเทคอนกรีตให้รอบทั่วบริเวณวัด พระครูพิศาล นคราภิรม เจ้าคณะตำบลเมืองหลวง และเจ้าอาวาสวัดเมืองหลวง จึงได้หารือกับพี่น้องประชาชนชาวบ้านเมืองหลวง จัดทำโครงการจิตอาสาร่วมใจพัฒนาวัดบ้านมืองหลวงขึ้น โดยเชิญชวนพี่น้อง ลูกหลานบุคคลทั่วไปที่มีจิตใจเป็นกุศลร่วมกับนบริจาคปัจจัยตามกำลังศรัทธา ซึ่งที่ผ่านมาก็ได้มีการก่อสร้างเทถนนคอนกรีตเป็นช่วงๆ ไปบ้างแล้ว โดยได้แรงงานจากชาวบ้านที่รวมตัวเป็นช่างจิตอาสาออกมาช่วยกัน ขณะที่อาหารการกิน ก็มีจิตอาสาอีกคณะหนึ่งมีหน้าที่เป็นแม่ครัวคอยทำอาหารเลี้ยงผู้คน มาตลอดเช่นกัน

ขณะที่ พระมหาทัด ปุญญาคโม ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดบ้านเมืองหลวง กล่าวว่า การก่อสร้างเทถนนคอนกรีตได้ดำเนินการมาเรื่อยๆ ตามงบประมาณที่ได้รับการบริจาค ทีผ่านมาได้รับแรงศรัทธาจากพี่น้องประชาชนและลูกหลานที่ทำงานอยู่ต่างจังหวัดร่วมสมทบบริจาคมาเรื่อยๆ และเห็นว่าช่วงนี้ เป็นช่วงที่พี่น้องว่างงานจากการเกษตรกรรม จึงพร้อมใจกันมาสร้างถนนคนอกรีตทางเข้าวัดดังกล่าว ซึ่งนับเป็นตัวอย่างที่ดี ที่เห็นพี่น้องประชาชนต่างได้เสียสละแรงกาย แรงใจ แรงทรัพย์มาช่วยกัน การเทคอนกรีตจะยังไม่เสร็จลงง่ายเพราะยังเหลือพื้นที่อีกมาก

อย่างไรก็ตาม หากญาติโยมหรือพี่น้องท่านใดที่อยากจะร่วมบุญกับทางวัดก็สามารถโทรศัพท์มาสอบถามหรือร่วมบุญได้ที่หมายเลข 089 126 5887  พระมหาทัดกล่าว

อย่างไรก็ตาม การออกมาร่วมแรงร่วมใจเทถนนคอนกรีตเข้าวัดในครั้งนี้ ทราบว่าชาวบ้านได้ดำเนินงานมาก่อนแล้ว เริ่มตั้งแต่การพากันไปตัดลำไม้ไผ่ จนมาถึงการเทพื้นถนน ซึ่งมีทั้งการใช้แรงงานคนและเครื่องยนต์มาอำนวยความสะดวกซึ่งคาดว่าจะทำติดต่อกันอีกหลายวัน ขณะที่พี่น้องประชาชนทั้งลูกหลานที่อยู่ต่างจังหวัดเมื่อทราบข่าวก็โอนเงินมาร่วมทำบุญอยู่ตลอดเช่นกัน

-009

Share this:

  • Skype
  • Pocket
  • Facebook
  • Twitter
  • LinkedIn
  • Reddit
  • Email
  • Print
  • Telegram
  • Tumblr
  • WhatsApp
  • Mastodon
  • More
  • Pinterest

Like this:

Like Loading...
Posted in ข่าว Like สาระ, แนวหน้า | Leave a reply

สทช.จัดกิจกรรมพายคยัคดึงนักท่องเที่ยว กระตุ้นเศรษฐกิจท่องเที่ยว

Posted on March 8, 2023 by SoClaimon
Reply

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

https://www.naewna.com/likesara/713566

สทช.จัดกิจกรรมพายคยัคดึงนักท่องเที่ยว กระตุ้นเศรษฐกิจท่องเที่ยว

สทช.จัดกิจกรรมพายคยัคดึงนักท่องเที่ยว กระตุ้นเศรษฐกิจท่องเที่ยว

วันเสาร์ ที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566, 15.46 น.

สทช.จัดกิจกรรมพายคยัคดึงนักท่องเที่ยว ล่องเรือหารักษ์ที่ป่าในเมืองพระเจดีย์กลางน้ำ อัญมณีหนึ่งเดียวในระยอง กระตุ้นเศรษฐกิจท่องเที่ยว 

วันที่ 25 ก.พ.66 ที่พระเจดีย์กลางน้ำ ต.ปากน้ำ อ.เมืองระยอง จ.ระยอง นายสุพจน์ ต่ออาจหาญ รอง ผวจ.ระยอง เป็นประธานเปิดกิจกรรมล่องเรือหา…รักษ์ซีซั่น 1 ในเดือนแห่งความรัก โดยมี ดร.พรศรี สุทธนารักษ์ รองอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง นายประสานต์ พฤกษาชาติ รองนายก อบจ.ระยอง นายภุชงค์ สฤษฎีชัยกุล ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 1 นายเรื่องฤทธิ์ ประกอบธรรม นายอำเภอเมืองระยอง นางกัญญ์ชลา สุขิตรกูล ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดระยอง ภาคเอกชน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและผู้สมัครเข้าร่วมกิจกรรมจากทั่วประเทศจำนวน 150 คู่ ร่วมงานอย่างคับคั่ง

บรรยากาศภายในงานเต็มไปด้วยความสุขสนานเปิดโอกาสให้นักพายคู่รักทุกเพศทุกวัย คู่เพื่อน คู่พ่อแม่ลูก หรือแม้แต่คู่กับสัตว์เลี้ยงสามารถสมัครร่วมกิจกรรม พร้อมรับเสื้อและเหรียญรางวัลแบบ ลิมิเด อิดิชั่น โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น ภายในงานมีซุ้มอาหารนานาชนิดและการแจกรางวัลพิเศษให้กับนักพายที่แต่งกายแฟนซีและผู้เข้าเส้นชัย 10 คู่แรกนอกจากการพายเรือคยัคและชับบอร์ดชมความสวยงามของพื้นที่ป่าชายเลนในเมืองระยะทาง 3 กิโลเมตรแล้ว ยังให้นักพายทุกคู่ ร่วมกันเก็บขยะที่ตกค้างในระบบนิเวศของแม่น้ำระยองด้วยเพื่อเป็นการส่งมอบความรักให้กับธรรมชาติและส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงนิเวศในพื้นที่ป่าในเมืองจังหวัดระยอง ให้เป็นที่รู้จักของคนทั่วประเทศฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมในจังหวัดระยอง

ดร.พรศรี สุทธนารักษ์ รองอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กล่าวว่า ทรัพยากรป่าชายเลนและทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งบริเวณพื้นที่ป่าในเมืองแห่งนี้จำนวน 500 ไร่ ซึ่งเป็นป่าในเมืองที่อยู่ท่ามกลางความเจริญของเมืองระยอง ที่เป็นเมืองอุตสาหกรรม เมืองท่องเที่ยวและเมืองแห่งการเกษตร ป่าแห่งนี้โอบล้อมอยู่ด้วยเมือง ชุมชน สถานที่ท่องเที่ยว ร้านอาหารและชุมชน ดังนั้นการที่ป่าในเมืองแห่งนี้จะอุดมสมบูรณ์และสวยงามได้ จึงต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็น อบจ.ระยอง ที่สนับสนุนงบประมาณในการก่อสร้างสะพานทางเดินและอำนวยความสะดวกต่างๆ เทศบาลนครระยองที่คอยช่วยกันกวดขันดูแลและจัดกิจกรรมเก็บขยะทำความสะอาดแม่น้ำระยองอย่างสม่ำเสมอภาคประชาชน ชุมชนชายฝั่งในพื้นที่ ที่ร่วมกันพื้นฟูและหวงแหนป่าชายเลนแห่งนี้จนเกิดความอุดมสมบูรณ์ รวมถึงภาคเอกชนและภาคอุตสาหกรรมที่ตระหนักถึงประโยชน์ของป่าชายเลนและเล็งเห็นถึงการเพิ่มมูลค่าทรัพยากรป่าชายเลนและห่วงโซ่อาหารที่เป็นต้นทางของระบบนิเวศ

จนทำให้เกิดโครงการดีๆขึ้นมากมายและกิจกรรมล่องเรือหารักษ์ ซีชั่น 1 ก็เป็นกิจกรรมหนึ่งที่ภาคอุตสาหกรรม ได้มีส่วนสำคัญในการผลักดันให้เกิดงานนี้ขึ้น โดยเป็นการสนับสนุนการท่องเที่ยวเชิงนิเวศรูปแบบหนึ่ง โดยมีความคาดหวังว่าการที่ผู้เข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้จะได้สัมผัสถึงความสวยงามและสมบูรณ์ของป่าชายเลนในเมืองจะได้นำความประทับใจไปส่งต่อกับผู้คนรอบข้างและมีความรักความหวงแหนในทรัพยากรที่มีคุณค่า และร่วมกันอนุรักษ์ไว้ให้เกิดความยั่งยืนต่อไป – 003

Share this:

  • Skype
  • Pocket
  • Facebook
  • Twitter
  • LinkedIn
  • Reddit
  • Email
  • Print
  • Telegram
  • Tumblr
  • WhatsApp
  • Mastodon
  • More
  • Pinterest

Like this:

Like Loading...
Posted in ข่าว Like สาระ, แนวหน้า | Leave a reply

ลูกทุ่งดาวรุ่ง!’น้องเรน’ได้โชคจาก’ไอ้ไข่’วัดโคกสักยกกองถ่ายมิวสิคเพลงถึงวัด

Posted on March 8, 2023 by SoClaimon
Reply

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

https://www.naewna.com/likesara/713550

ลูกทุ่งดาวรุ่ง!'น้องเรน'ได้โชคจาก'ไอ้ไข่'วัดโคกสักยกกองถ่ายมิวสิคเพลงถึงวัด

ลูกทุ่งดาวรุ่ง!’น้องเรน’ได้โชคจาก’ไอ้ไข่’วัดโคกสักยกกองถ่ายมิวสิคเพลงถึงวัด

วันเสาร์ ที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566, 15.06 น.

ลูกทุ่งดางรุ่งชื่อดัง “น้องเรน-เรน ธีระเทพ พรหมบรรจง” ได้โชคจาก “ไอ้ไข่วัดโคกสัก” อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา ยกกองถ่ายทำมิวสิคเพลงที่วัดโคกศักดิ์ 

วันที่ 25 ก.พ.666 ที่วัดโคกสัก ตำบลพังลา อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา นักร้องดาวรุ่งลูกทุง เรน ธีระเทพ พรหมบรรจง แห่งค่ายเพลงแกงส้มโปรดักชั่น เจ้าของเสียงเพลง คอยนางที่ท่าศาลาได้ยกกองถ่ายทำมิวสิคเพลง “พระนอนวัดโคกสัก” มาถ่ายทำถึงภายในวัดหลังจากที่ทีมงานได้มากราบไหว้ “ไอ้ไข่วัดโคกสัก” แล้วได้โชคลาภคนละเล็กคนละน้อยไป โดยมีหางเครื่องทั้งสาวชาวไทยและสาวชาวมอญมาร่วมถ่ายทำมิวสิคเพลงกันตั้งแต่ช่วงเช้าของวันนี้ 

น้องเรน ธีรเทพ พรหมบรรจง ซึ่งเป็นนักร้องเพลงลูกทุ่งได้กล่าวถึงบทเพลงได้สื่อถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในวัดโคกสัก อย่างแรกคือวัดโคกสัก หลวงปู่เนื่อง ซึ่งเป็นอดีตเจ้าอาวาสและเจ้าอาวาสคนปัจจุบันท่านพระอาจารย์วัฒนา อิทฺธิญาโณ และสิ่งศักดิ์สิทธิ์อีกมากมาย เช่น ไอ้ไข่

น้องเรน กล่าวอีกว่า อยากเชิญชวนทุกๆท่านเข้ามาสักการะบูชา มากราบไหว้ขอพรที่วัดโคกสัก หรือวัดสืบสุข

น้องเรน ยังฝากถึงแฟนเพลงทุกคนเป็นแรงใจ เป็นแรงเชียร์ให้น้องเรนด้วย เพลงพระนอนวัดโคกสัก สามารถติดตามได้ทางยูทูป ทองแดงโปรโมชั่นและมีอีกช่องทางคือทางช่องยูทูปแกงส้มโปรดักชั่น ฝากเป็นใจกดไลน์ กดแชร์ กดติดตามให้น้องเรนด้วยนะครับ ขอบคุณครับ – 003

Share this:

  • Skype
  • Pocket
  • Facebook
  • Twitter
  • LinkedIn
  • Reddit
  • Email
  • Print
  • Telegram
  • Tumblr
  • WhatsApp
  • Mastodon
  • More
  • Pinterest

Like this:

Like Loading...
Posted in ข่าว Like สาระ, แนวหน้า | Leave a reply

ชื่นมื่น! คู่รัก ‘ทอม-ดี้’ ควงแขนเข้าสู่ประตูวิวาห์สินสอดเงินสด 1 ล้าน

Posted on March 8, 2023 by SoClaimon
Reply

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

https://www.naewna.com/likesara/713531

ชื่นมื่น! คู่รัก 'ทอม-ดี้' ควงแขนเข้าสู่ประตูวิวาห์สินสอดเงินสด 1 ล้าน

ชื่นมื่น! คู่รัก ‘ทอม-ดี้’ ควงแขนเข้าสู่ประตูวิวาห์สินสอดเงินสด 1 ล้าน

วันเสาร์ ที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566, 12.20 น.

วันที่ 25 ก.พ.66 เมื่อเวลา 09.00 น.ที่บ้านเลขที่ 29/81 ถนนยุทธศาสตร์ ต.นาหลวงเสน อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช มีการจัดขบวนขันหมากสู่ขอเจ้าสาวซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างมีความสุขเหมือนงานมงคลสมรสทั่วไป แต่สิ่งที่สร้างความฮือฮาให้กับแขกเหรื่อเนื่องจากคู่บ่าวสาวงานมงคลสมรสคู่นี้เป็นคู่ทอม ดี้ ที่พร้อมใจกันจับมือเข้าสู่พิธีวิวาห์ตามประเพณีท่ามกลางความสุขของญาติพี่น้องทั้งฝ่ายเจ้าสาวและฝ่ายเจ้าบ่าว

สำหรับเจ้าบ่าวที่นำขบวนขันหมากสู่ขอเจ้าสาวตามประเพณีชื่อนางสาวกัญญา ผิวนวล  “น้องปุ๊ก” อายุ 39 ปี ส่วนเจ้าสาวชื่อนางสาวสนทิศา สิริยานนท์ “น้องเมย์” อายุ 36 ปี ส่วนสินสอดทองหมั้นครั้งนี้มีเงินสด 1 ล้านบาท ทองคำรูปพรรณ และแหวนเพชรสองวง

อย่างไรก็ตามงานมงคลสมรส มีการจัดเตรียมขบวนขันหมาก พร้อมบรรเลงเพลิง เคลื่อนไปสู่ขอเจ้าสาวตามประเพณี ท่ามกลางความสนุกสนานของญาติๆ ที่ร้องรำ เต้นอย่างสนุกสนาน ก่อนที่นางสาวกัญญา ผิวนวล “น้องปุ๊ก” ผ่านประตูเงินประตูทอง และเข้าพิธีมงคลสมรสตามประเพณีต่อไป – 003

Share this:

  • Skype
  • Pocket
  • Facebook
  • Twitter
  • LinkedIn
  • Reddit
  • Email
  • Print
  • Telegram
  • Tumblr
  • WhatsApp
  • Mastodon
  • More
  • Pinterest

Like this:

Like Loading...
Posted in ข่าว Like สาระ, แนวหน้า | Leave a reply

Post navigation

← Older posts

Blogroll

  • คำไทย:ThaiWords
  • จิตรา คล้ายมนต์
  • นพ.ต่อพงศ์ คล้ายมนต์
  • พญ.อภิชญา คล้ายมนต์
  • ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย1
  • ศาสตร์และศิลป์ที่สอนในเมืองไทย
  • Blogspot:SoClaimon
  • Facebook:กรุงเทพฯเวนิสตะวันออก
  • Facebook:ชมรมดินปุ๋ยบนเว็บ
  • Facebook:SoClaimon
  • Google map:แผนที่ตำบล 76 จังหวัด
  • Google sites:Soil Taxonomy
  • Google sites:SootinClaimon
  • LinkedIn:sootin claimon
  • ToRaMaN's BLOG
  • Tumblr:SoClaimon
  • Twitter:SoClaimon
  • Twitter:SoilFertilizer
  • Webs:ChangChoice

BamBam Family

BamBam Family

สถิติบล็อก

  • 2,457,566 hits

Join 3,894 other subscribers
Follow SootinClaimon.Com on WordPress.com

Categories

Top Posts & Pages

เคทีซี จับมือ เดอะ บิสเตอร์ คอลเลคชั่น เปิดประสบการณ์ช้อปปิ้งสุดพรีเมียมให้สมาชิก
คุณแหน : 29 พฤษภาคม 2566
TCL เปิดตัวนวัตกรรมล่าสุดที่ออกแบบมาเพื่อขยายจินตนาการและจุดประกายความหลงใหล
'ม.รังสิต'ชูนโยบายบริหารจัดการแผนพัฒนามหาวิทยาลัย สู่นวัตกรรมการศึกษาแบบ'Transformative Learning'
ท่านผู้หญิงสิริกิติยา เจนเซน ปาฐกถาพิเศษ ‘วันนักแปลและล่าม’ ครั้งที่ 16
'หน่อง อรุโณชา- เชอรี่ เข็มอัปสร - บุ๋ม ปนัดดา'คนบันเทิงหัวใจเพื่อสังคมใน 'ร้อยคนไทยหัวใจนวัตกรรม 3'
สกสว.ผนึกกำลังPMU ทำ Impact Pathway มุ่งขับเคลื่อนงานวิจัย ตอบโจทย์แผน ววน. ของประเทศ
แนวหน้าฟู้ดรีวิว : อาหารอร่อยต้อนรับฝนโปรยปราย พร้อม ‘จิบน้ำชายามบ่าย’ สไตล์ผู้ดี
‘Shazam! Fury of the Gods’ รับชมได้แล้ววันนี้ ทาง HBO GO
‘อีวีทัล (eVTOL)’อากาศยานไร้คนขับพลังไฟฟ้า นวัตกรรม‘สจล.’เฟสแรกบินสำรวจพื้นที่ป่า13ล้านไร่

Recent Posts

  • บุคคลในข่าว
  • ผู้เชี่ยวชาญชี้ AI จ่อแย่งงานส่วนใหญ่ที่ผู้หญิงทำ

Recent Comments

Typography on ‘คิมเบอร์ลี่-หมาก’…
Typography on พาส่องชีวิตดี๊ดี เทคขั้นสุดกับ…

RSS ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย1

  • รัฐบาลไบเดนเผชิญแรงกดดันจากสองฝ่าย หลังหัวข้อ 42 หมดอายุ ผู้อพยพทะลักชายแดน
  • ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย1
  • ลึกลับสนามข่าว : 31 ธันวาคม 2558
  • ลึกลับสนามข่าว : 30 ธันวาคม 2558
  • ลึกลับในสนามข่าว : 29 ธันวาคม 2558
  • ลึกลับในสนามข่าว : 28 ธันวาคม 2558
  • ลึกลับในสนามข่าว : 25 ธันวาคม 2558
  • ลึกลับในสนามข่าว : 24 ธันวาคม 2558
  • ลึกลับในสนามข่าว : 23 ธันวาคม 2558
  • ลึกลับสนามข่าว : 22 ธันวาคม 2558

Follow me on Twitter

My Tweets

Follow me on Twitter

My Tweets

ป้ายกำกับ

  • 2559(2016)
  • 2562(2019)
  • 2563(2020)
  • 2564(2021)
  • entertain
  • naewna
  • The Nation
  • ต่างประเทศ
  • บันเทิง
  • แนวหน้า
  • RSS - Posts
  • RSS - Comments

Archives

Follow Us

Blog at WordPress.com.
  • Follow Following
    • SootinClaimon.Com
    • Join 1,668 other followers
    • Already have a WordPress.com account? Log in now.
    • SootinClaimon.Com
    • Customize
    • Follow Following
    • Sign up
    • Log in
    • Report this content
    • View site in Reader
    • Manage subscriptions
    • Collapse this bar
 

Loading Comments...
 

    %d bloggers like this: