Skip to primary content
Skip to secondary content

SootinClaimon.Com

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย2 [SartKasetDinPui2] : ข้อมูล เศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม เกษตร ดิน น้ำ ปุ๋ย

SootinClaimon.Com

Main menu

  • Home
  • ข่าวประชาสัมพันธ์
  • ข้อคิดความเห็น
  • ตระกูลคล้ายมนต์
  • ผมเองครับ
  • ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย1

Tag Archives: ข่าว Like สาระ

Post navigation

← Older posts

ปั้นมาแล้ว 1.5 ล้านลูกกระสุนดินเหนียวหนังสติ๊กยายวัย 86 ขายถูกร้อยลูกห้าบาท #SootinClaimon.Com

Posted on January 25, 2021 by SoClaimon
Reply

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

https://www.naewna.com/likesara/547936

ปั้นมาแล้ว 1.5 ล้านลูกกระสุนดินเหนียวหนังสติ๊กยายวัย 86 ขายถูกร้อยลูกห้าบาท

ปั้นมาแล้ว 1.5 ล้านลูกกระสุนดินเหนียวหนังสติ๊กยายวัย 86 ขายถูกร้อยลูกห้าบาท

วันจันทร์ ที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2564, 16.01 น.

วันที่ 25 ม.ค.64 ที่บ้านเลขที่ 7/2 หมู่ 5 ต.เมืองบางขลัง อ.สวรรคโลก จ.สุโขทัย มีคุณยายชื่อนางเหลา บัวทอง อายุ 86 ปี อาศัยอยู่กับนางสาวน้ำฝน หรือ ป้าแอ๋ว ซึ่งเป็นลูกสาวคนโต อายุ 63 ปี หาเลี้ยงชีพด้วยการรับจ้างเลี้ยงวัว เผาถ่าน และปั้นลูกกระสุนดินเหนียวขายส่งร้านค้าในหมู่บ้านมานาน 8 ปี รวมปั้นลูกกระสุนขายไปแล้วทั้งหมดเกือบ 1 ล้าน 5 แสนลูก

ยายเหลา บอกว่า สามีเสียชีวิตไปแล้วมีลูกด้วยกัน 8 คน เป็นชาย 4 คน หญิง 4 คน ทุกวันนี้ยังหากินด้วยการนั่งปั้นลูกกระสุนดินเหนียว ขายถูกๆ 1 ถุง 100 ลูก 5 บาท โดยแต่ละวันจะปั้นได้ 400-500 ลูก คิดเป็นเงินก็ได้วันละ 20-25 บาท ตอนนี้มีปั้นเสร็จพร้อมขายทั้งหมดกว่า 12,000 ลูก ใครสนใจก็มาซื้อได้ หรือโทรสอบถามเบอร์ 096-2700741 (ป้าแอ๋ว) พร้อมกันนี้ ยายเหลา ยังได้โชว์ร้อยด้ายเข้ารูเข็ม และยิงหนังสติ๊กให้ผู้สื่อข่าวดู ด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม อารมณ์ดี อีกด้วย

Share this:

  • Email
  • Print
  • Telegram
  • Pinterest
  • Tumblr
  • WhatsApp
  • Skype
  • Pocket
  • Facebook
  • Twitter
  • LinkedIn
  • Reddit

Like this:

Like Loading...
Posted in ข่าว Like สาระ, แนวหน้า | Tagged 2564(2021), ข่าว Like สาระ, แนวหน้า, naewna | Leave a reply

GISTDA หนุน ทช.สร้างฐานข้อมูลป่าชายเลนทั่วประเทศด้วยดาวเทียม #SootinClaimon.Com

Posted on January 25, 2021 by SoClaimon
Reply

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

https://www.naewna.com/likesara/547910

GISTDA หนุน ทช.สร้างฐานข้อมูลป่าชายเลนทั่วประเทศด้วยดาวเทียม

GISTDA หนุน ทช.สร้างฐานข้อมูลป่าชายเลนทั่วประเทศด้วยดาวเทียม

วันจันทร์ ที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2564, 14.55 น.

กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (อว.) โดยสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA ร่วมกับ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จัดงาน “การประชุมเชิงปฏิบัติการโครงการจัดทำระบบฐานข้อมูลทรัพยากรป่าชายเลน โดยการจำแนกเขตการใช้ประโยชน์ที่ดินป่าชายเลน ด้วยภาพถ่ายดาวเทียมรายละเอียดสูง” เมื่อวันจันทร์ที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2564 ณ โรงแรมเซ็นทรา บาย เซ็นทารา ศูนย์ราชการและคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ แจ้งวัฒนะ กรุงเทพมหานคร เพื่อสร้างการรับรู้ถึงความเป็นมาและความสําคัญในผลสัมฤทธิ์ของการดำเนินงาน อีกทั้งเพื่อเป็นเวทีแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างหน่วยงานระดับภูมิภาคและส่วนกลาง

ดร.ปกรณ์ อาภาพันธุ์ ผู้อำนวยการ GISTDA กล่าวว่า เทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ ได้เข้ามามีบทบาทที่สำคัญในการจัดทำฐานข้อมูลด้านทรัพยากรนิเวศป่าชายเลนของประเทศ ที่ถือเป็นแนวกันชนสุดท้ายระหว่างพื้นที่บกกับทะเล ด้วยเทคโนโลยีภาพถ่ายดาวเทียมที่ทันสมัยและเป็นปัจจุบันที่ทาง GISTDA ได้ทำการตรวจสอบพื้นที่ให้มีความถูกต้อง แม่นยำ และเป็นมาตรฐาน เพื่อเป็นประโยชน์ต่อการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งของประเทศ

ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา GISTDA และ ทช. มีเป้าหมายในการดำเนินงานร่วมกัน ที่จะมุ่งหวังให้เกิดการบริหารจัดการเชิงพื้นที่ ที่สอดคล้องกับนโยบายการพัฒนาประเทศที่ยั่งยืนอย่างเป็นรูปธรรม คงไว้ซึ่งความสมดุลทางธรรมชาติ ตามบทบาทและภารกิจหน้าที่ของทั้งสองหน่วยงาน นับเป็นโอกาสที่ดีที่เรามีเวทีในการร่วมกันแสดงความคิดเห็นต่อการติดตามการเปลี่ยนแปลงพื้นที่ป่าชายเลน และการจัดทำเขต Zoning ของ ทช. เพื่อเป็นแนวทางในการจัดทำโครงการสำคัญในครั้งนี้

ด้าน นายโสภณ ทองดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กล่าวว่า ทช. กับ GISTDA ร่วมมือกันผลักดันและส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศในการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมทางทะเลและชายฝั่งมาอย่างต่อเนื่อง อีกทั้ง ยังร่วมมือกันพัฒนาและประยุกต์ใช้เทคโนโลยีระบบภูมิสารสนเทศด้านทะเลและชายฝั่งในด้านการพัฒนาระบบติดตาม ด้านการกัดเซาะชายฝั่ง ด้านการจัดทำแผนที่ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เพื่อศึกษา สำรวจและจัดทำแผนที่เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน ด้านระบบนิเวศทางทะเลและชายฝั่งทะเล และด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร โครงการนี้จะเป็นการจัดทำระบบฐานข้อมูลทรัพยากรป่าชายเลน โดยการจำแนกเขตการใช้ประโยชน์ที่ดินป่าชายเลน ด้วยภาพถ่ายดาวเทียมรายละเอียดสูง ภายใต้ความร่วมมือในครั้งนี้ ทำให้ทางกรมได้ทราบว่าพื้นที่

ปัจจุบัน ป่าชายเลนของประเทศไทยมีเนื้อที่เพิ่มขึ้น จำนวน 202,435 ไร่ ป่าชายหาดเพิ่มขึ้น 23,462 ไร่ และป่าพรุเพิ่มขึ้น 16,217 ไร่ เปรียบเทียบจากการแปลภาพถ่ายของปี 2557 นอกจากนี้ยังได้ข้อมูลการจำแนกเขตการใช้ประโยชน์ที่ดินป่าชายเลนในพื้นที่ป่าชายเลนเสื่อมสภาพ ซึ่งเป็นประโยชน์ในการวางแผนเพื่อการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง นอกจากโครงการนี้ฯ ยังมีการดำเนินโครงการภายใต้ความร่วมมืออีกหลายโครงการฯ ที่ GISTDA ให้การสนับสนุนการทำงานให้กับ ทช. ไม่ว่าจะเป็นงานด้านการพัฒนาระบบติดตาม ด้านการกัดเซาะชายฝั่ง ด้านการทำฐานข้อมูลเกาะต่างๆของประเทศไทยเรา นายโสภณฯ กล่าว

Share this:

  • Email
  • Print
  • Telegram
  • Pinterest
  • Tumblr
  • WhatsApp
  • Skype
  • Pocket
  • Facebook
  • Twitter
  • LinkedIn
  • Reddit

Like this:

Like Loading...
Posted in ข่าว Like สาระ, แนวหน้า | Tagged 2564(2021), ข่าว Like สาระ, แนวหน้า, naewna | Leave a reply

ฮือฮา! ครูภาษาไทยจัดเต็มใส่ชุดวรรณคดีสอนออนไลน์ เพิ่มสีสันบทเรียน #SootinClaimon.Com

Posted on January 25, 2021 by SoClaimon
Reply

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

https://www.naewna.com/likesara/547905

ฮือฮา! ครูภาษาไทยจัดเต็มใส่ชุดวรรณคดีสอนออนไลน์ เพิ่มสีสันบทเรียน

ฮือฮา! ครูภาษาไทยจัดเต็มใส่ชุดวรรณคดีสอนออนไลน์ เพิ่มสีสันบทเรียน

วันจันทร์ ที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2564, 14.47 น.https://www.youtube.com/embed/-WjMu6YlIpI

วันที่ 25 มกราคม 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในโลกออนไลน์ ชื่นชมครูโรงเรียนสังกัดเทศบาลเมืองอ่างทอง ที่แต่งกายจัดเต็มทั้งชั่วโมงการสอน  ด้วยชุดในวรรณคดีอย่าง เจ้าเงาะ นางยักษ์ นางรจนา เป็นต้น  ซึ่งผู้ใช้เฟสบุ๊กส่วนตัว ชื่อว่า “Vanida Sayawong”  หรือครูวนิดา  สายะวงศ์  เป็นครูสอนวิชาภาษาไทยอยู่ที่โรงเรียนเทศบาล 1 วัดต้นสน อำเภอเมือง จังหวัดอ่างทอง ได้โพสต์ข้อความระบุว่า “เรียนออนไลน์เรื่อง สังข์ทองลูกแหม่ ครูวนิดา สายะวงศ์ โรงเรียนเทศบาล 1 วัดต้นสน”

โดย นางวนิดา  สายะวงศ์   เล่าว่า เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทางกระทรวงศึกษาธิการตระหนักถึงความปลอดภัยในชีวิตของนักเรียน นักศึกษา ที่จะได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดจึงให้เรียนออนไลน์อยู่กับบ้าน   ซึ่งตนเองเป็นครูภาษาไทยที่เรียนจบมาทางด้านนาฏศิลป์ และมีคุณแม่เป็นหัวหน้าคณะละคร มีพ่อเป็นเจ้าของวงปีพาทย์ 

และเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้ทำการสอนออนไลน์ เรื่องสังข์ทอง พอดีเห็นมีฉากเก่าที่โรงละครของคุณแม่อยู่ พร้อมกับเห็นหัวละคร เจ้าเงาะ นางยักษ์ และนางรจนาพอดี จึงเกิดไอเดียการสอนใหม่ จากนั้นได้จัดเต็มแต่งองค์ทรงเครื่องด้วยชุดชุดในวรรณคดี  โดยมีหลานสาวเป็นคนถ่ายคลิปแล้วโพสต์ลงเฟสบุ๊คให้  จนมีการแชร์ต่อกันอย่างแพร่หลาย ซึ่งถือเป็น การเพิ่มเติมสีสันเข้าไปในบทเรียน และเพื่อให้ลูกศิษย์ได้เรียนออนไลน์ อย่างมีความสุข สนุกสนาน ต่อไป

Share this:

  • Email
  • Print
  • Telegram
  • Pinterest
  • Tumblr
  • WhatsApp
  • Skype
  • Pocket
  • Facebook
  • Twitter
  • LinkedIn
  • Reddit

Like this:

Like Loading...
Posted in ข่าว Like สาระ, แนวหน้า | Tagged 2564(2021), ข่าว Like สาระ, แนวหน้า, naewna | Leave a reply

อาชีพที่ถูกลืม! เสียงจาก ‘นวดแผนโบราณ’ ตกงาน-ขาดรายได้ วอนรัฐคลายล็อก #SootinClaimon.Com

Posted on January 25, 2021 by SoClaimon
Reply

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

https://www.naewna.com/likesara/547889

อาชีพที่ถูกลืม! เสียงจาก‘นวดแผนโบราณ’ ตกงาน-ขาดรายได้ วอนรัฐคลายล็อก

อาชีพที่ถูกลืม! เสียงจาก‘นวดแผนโบราณ’ ตกงาน-ขาดรายได้ วอนรัฐคลายล็อก

วันจันทร์ ที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2564, 14.20 น.

อาชีพที่ถูกลืม! เสียงจาก‘นวดแผนโบราณ’ ตกงาน-ขาดรายได้ วอนรัฐคลายล็อก  

เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 25 มกราคม 2564 ที่บริเวณศาลาภักดีแผ่นดิน หน้าศาลากลางจังหวัดชลบุรี อ.เมือง จ.ชลบุรี น.ส.มณีณัฏฐา พงศ์ธนฐิติ , น.ส.พิมพ์วรีย์ ศรีออน พร้อมด้วยตัวแทนของผู้ประกอบการนวดแผนโบราณประมาณ 100 คน รวมตัวเรียกร้องให้เปิดสถานบริการ เนื่องจากได้สั่งปิดมานาน ส่งผลให้หมอนวดแผนโบราณตกงาน ไม่มีรายได้จุนเจือครอบครัว รวมทั้งสถานประกอบการไม่มีรายได้ ทำให้มีหนี้สินจำนวนมาก จึงได้มารวมตัวเรียกร้องกับนายภัครธรณ์ เทียนไชย ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี (ผวจ.ชลบุรี) ขอให้เปิดสถานบริการนวดแผนโบราณโดยเร็วที่สุด

ต่อมา นายชวนินทร์ วงศ์สถิตจิรกาล ปลัดจังหวัดชลบุรี พ.ต.เฉลิมชัย ไกรวิชา กอ.รมน.ชลบุรี ลงมารับข้อร้องเรียนดังกล่าว หลังจากนั้นจะได้ส่งเรื่องให้กับผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี นำเสนอต่อรัฐบาลและศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) เพื่อให้มีการพิจารณาเปิดสถานบริการนวดแผนโบราณต่อไป

น.ส.พิมพ์วรีย์ กล่าวว่า พวกเรามาขอความเห็นใจและความเมตตาจากผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ขอโอกาสทำงานและคลายล็อกให้กับสถานบริการนวดแผนโบราณ เพราะทุกสถานประกอบการจะต้องได้รับอนุญาตจากกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ซึ่งต้องปฏิบัติตามมาตรฐานที่กำหนด และเข้มข้นในเรื่องมาตรการความปลอดภัย แต่เป็นอาชีพที่ถูกลืม โดยปิดสถานบริการก่อนเพื่อน และเปิดบริการหลังเพื่อน ซึ่งสถานบริการอื่นๆ อาทิ ทำผม ทำเล็บ สัก สามารถเปิดได้ แต่สถานบริการนวดแผนโบราณเปิดไม่ได้ ทั้งที่ทุกคนรักตัวกลัวตายทั้งนั้น เห็นใจพวกเราด้วย อยากให้เปิดบริการเหมือนกันสถานประกอบการอื่นๆ

ด้านนายชวนินทร์ กล่าวว่า ในการสั่งปิดสถานบริการต่างๆในพื้นที่ จ.ชลบุรี เนื่องจากเป็นจังหวัดพื้นที่สีแดง จากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จึงต้องปฏิบัติตามที่รัฐบาลกำหนด ซึ่งทางผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรีได้พยายามผ่อนปรนให้สถานบริการ สถานประกอบการต่างๆสามารถให้บริการต่อไปได้ แต่ต้องอยู่ภายใต้กรอบกำหนดของรัฐบาล ซึ่งนายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้ลงมาประชุมที่ จ.ชลบุรี และกำลังเสนอให้ ศบค.พิจารณาคลายล็อกพื้นที่สีแดงลงมา เพื่อให้สถานบริการ สถานประกอบการต่างๆสามารถดำเนินการได้ตามปกติ ส่วนข้อเรียกร้องของผู้ประกอบการสถานบริการนวดแผนโบราณจะเสนอให้ทางผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี และรัฐบาลได้รับทราบต่อไป

Share this:

  • Email
  • Print
  • Telegram
  • Pinterest
  • Tumblr
  • WhatsApp
  • Skype
  • Pocket
  • Facebook
  • Twitter
  • LinkedIn
  • Reddit

Like this:

Like Loading...
Posted in ข่าว Like สาระ, แนวหน้า | Tagged 2564(2021), ข่าว Like สาระ, แนวหน้า, naewna | Leave a reply

ขอความเป็นธรรม! คนพิการรอโบกแท็กซี่ ผ่านไปเกือบ10คันไม่มีใครรับ #SootinClaimon.Com

Posted on January 25, 2021 by SoClaimon
Reply

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

https://www.naewna.com/likesara/547835

ขอความเป็นธรรม! คนพิการรอโบกแท็กซี่ ผ่านไปเกือบ10คันไม่มีใครรับ

ขอความเป็นธรรม! คนพิการรอโบกแท็กซี่ ผ่านไปเกือบ10คันไม่มีใครรับ

วันจันทร์ ที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2564, 11.47 น.

เรื่องราวน่าเห็นใจ ที่ถูกเผยแพร่โดยเพจเฟซบุ๊ก เพจ กู้ภัยบูรพานนทบุรี ระบุว่า

#ฝากแชร์หน่อยครับ #ที่เกิดเหตุหน้าเทศบาลปากเกร็ด

ขอใช้พื้นที่ตรงนี้สอบถามหน่อยครับ

#ผมเจอมากับตัวผมเองแค่ผมสงสัย

ทำไมแท็กซี่ส่วนมาก (1ใน100)

ถึงไม่ค่อยอยากรับคนพิการ พี่เขานั่งโบกเป็นสิบๆคันไม่จอดสักคัน ผมโบกให้อีก 4-5 คันก็ ปฏิเสธทุกคัน

#ฝากถึงพี่ๆที่ขับแท็กซี่นะครับได้โปรดรับเขาเถอะ เค้ามีเงินจ่ายเขาไม่ได้ขอขึ้นฟรีๆ เราคนไทยด้วยกันช่วยเหลือกันนะครับ

#มีอยู่หนึ่งคันที่จอดรับและไปส่งแต่ผมไม่ได้ถ่ายรูปไว้

#ขอความเป็นธรรมให้แก่ผู้พิการ

โพสต์ดังกล่าว ไม่วายเจอดราม่าตามมา บ้างก็บอกว่า ” อย่าว่าแต่คนพิการเลย ขนาดเราแขนขาดี ไม่เป็นภาระสักหน่อย บางคันยังปฏิเสธเราเลย “

” ท่านพูดถูก เขามีตังค์จ่ายค่ารถ แต่คนขับรถ มักมองเขาเป็นภาระ ขนาดคนดีๆ เรียกมันยังปฏิเสธไม่รับไม่ไป “

บางรายเข้ามาตอบโต้ว่า ” เคยเห็นอยู่แถวหัวถนน เมามาก เป็นเพราะสาเหตุนี้หรือเปล่า เค้าถึงไม่รับ “

Share this:

  • Email
  • Print
  • Telegram
  • Pinterest
  • Tumblr
  • WhatsApp
  • Skype
  • Pocket
  • Facebook
  • Twitter
  • LinkedIn
  • Reddit

Like this:

Like Loading...
Posted in ข่าว Like สาระ, แนวหน้า | Tagged 2564(2021), ข่าว Like สาระ, แนวหน้า, naewna | Leave a reply

ใหญ่สุดในประเทศรูปปั้น ‘หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ’ วัดอนุมัติวงศ์ #SootinClaimon.Com

Posted on January 25, 2021 by SoClaimon
Reply

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

https://www.naewna.com/likesara/547821

ใหญ่สุดในประเทศรูปปั้น 'หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ' วัดอนุมัติวงศ์

ใหญ่สุดในประเทศรูปปั้น ‘หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ’ วัดอนุมัติวงศ์

วันจันทร์ ที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2564, 10.44 น.

วันที่ 25 มกราคม 2564 ที่วัดอนุมัติวงศ์ ตำบลดอกคำใต้ อำเภอดอกคำใต้ จังหวัดพะเยา ทางวัดได้สร้างรูปปั้นองค์หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ วัดสะแก ตำบลธนู อำเภออุทัย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในภาคเหนือและของประเทศ มีขนาดหน้าตักกว้าง 24 เมตร สูงประมาณ 40 เมตรทาสีทอง สูงตระหง่านบนแท่น มองเห็นเด่นชัด น่าเลื่อมใส และศรัทธา เพื่อให้ผู้คนสักการะบูชา รวมทั้งเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ด้านพุทธศาสนาให้ผู้คนได้เข้ากราบไหว้บูชาองค์หลวงปู่ดู่ ที่ถือว่าใหญ๋ที่สุดในภาคเหนือและเป็นหนึ่งเดียวของจังหวัดพะเยาและของประเทศ 

พระครูวิสฐิกิจจานุยุต เจ้าอาวาสวัดอนุมติวงศ์ ตำบลดอกคำใต้ อำเภอดอกคำใต้ จังหวัดพะเยา กล่าวว่า ที่จัดสร้างรูปปั้นหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ ขึ้นเพื่อให้พุทธศาสนิกชนได้สักการบูชา เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรม รวมทั้งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางพุทธศาสนา ในการก่อสร้างรูปปั้นองค์หลวงปู่ดู่ ดังกล่าวนั้นสืบเนื่องจากโดยองค์พระหลวงปู่ดู่ เป็นอริยะสงฆ์ที่ตนเองให้ความนับถืออยู่แล้ว ประกอบกับได้พบกับพระเดชพระคุณหลวงตาม้า ซึ่งถือเป็นศิษย์สายหลวงปู่ดู่ และได้เมตตาเดินทางมาที่วัดแห่งนี้บ่อยครั้ง จึงมีดำริที่จะร่วมกันจัดสร้างองค์พระดังกล่าว หลวงปู่ดู่ ก็ถือเป็นอริยะสงฆ์อีกองค์ ที่เป็นที่เคารพสักการะของคนไทยทั่วประเทศ เพื่อให้เป็นสถานที่สักการะบูชาและสถานปฎิบัติธรรม รวมทั้งสถานที่ท่องเที่ยวทางพุทธศาสนา ด้วย 

สำหรับวัดอนุมัติวงศ์ ตำบลดอกคำใต้ อำเภอดอกคำใต้ จังหวัดพะเยา ถือว่าเป็นวัดที่กำลังทำการพัฒนาและก่อสร้างที่ยังไม่แล้วเสร็จสมบูรณ์ โดยเฉพาะฐานรองรับรูปปั้นของหลวงปู่ดู่ซึ่งใช้เป็นสถานที่ปฏิบัติศาสนกิจของสงฆ์ และรั้วและประตู รอบบริเวณวัด สาธุชนทั่วไปต้องการร่วมสร้างฐานรองรับหลวงปู่ดู่และประตู และรั้วภายในบริเวณวัด
 

Share this:

  • Email
  • Print
  • Telegram
  • Pinterest
  • Tumblr
  • WhatsApp
  • Skype
  • Pocket
  • Facebook
  • Twitter
  • LinkedIn
  • Reddit

Like this:

Like Loading...
Posted in ข่าว Like สาระ, แนวหน้า | Tagged 2564(2021), ข่าว Like สาระ, แนวหน้า, naewna | Leave a reply

ดราม่าธนาคารสีชมพู! พนง.ตะคอกคุณตา ถอนเงิน 6 ล้าน-หางเสียงก็ไม่มี #SootinClaimon.Com

Posted on January 25, 2021 by SoClaimon
Reply

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

https://www.naewna.com/likesara/547820

ดราม่าธนาคารสีชมพู! พนง.ตะคอกคุณตา ถอนเงิน6ล้าน-หางเสียงก็ไม่มี

ดราม่าธนาคารสีชมพู! พนง.ตะคอกคุณตา ถอนเงิน6ล้าน-หางเสียงก็ไม่มี

วันจันทร์ ที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2564, 10.31 น.

25 มกราคม 2564 กลายเป็นคลิปไวรัลที่มีผู้เข้าชมกว่า 4 ล้าน โดยผู้ใช้แอพติ๊กต๊อกรายหนึ่ง ได้โพสต์คลิปเหตุการณ์เกิดขึ้นในธนาคารแห่งหนึ่ง ขณะชายสูงอายุคนหนึ่ง สวมเสื้อยืด นุ่งกางเกงขาสั้น เข้ามาใช้บริการโดยขอเบิกเงินจำนวน 6 ล้านบาทในบัญชี แต่กลับถูกพนักงานธนาคารตะคอกเสียงดัง และพูดใส่แบบไม่มีหางเสียง

ขณะเดียวกัน ชาวเน็ตเกิดเสียงแตก ต่างวิพากษ์วิจารณ์ว่า ทำงานบริการควรพูดจาให้สุภาพกับลูกค้า บางส่วนกลับโต้ว่า คุณตาแก่แล้ว หูอาจไม่ได้ยิน ก็ต้องใช้เสียงดังๆเป็นเรื่องธรรมดา 

https://www.tiktok.com/embed/v2/6921226312027786497?lang=en-US

Share this:

  • Email
  • Print
  • Telegram
  • Pinterest
  • Tumblr
  • WhatsApp
  • Skype
  • Pocket
  • Facebook
  • Twitter
  • LinkedIn
  • Reddit

Like this:

Like Loading...
Posted in ข่าว Like สาระ, แนวหน้า | Tagged 2564(2021), ข่าว Like สาระ, แนวหน้า, naewna | Leave a reply

พาไหว้ ‘หลวงพ่อเงิน ไหลมาเทมา’ @วัดเสาหิน #SootinClaimon.Com

Posted on January 25, 2021 by SoClaimon
Reply

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

https://www.naewna.com/likesara/547805

พาไหว้'หลวงพ่อเงิน ไหลมาเทมา' @วัดเสาหิน

พาไหว้’หลวงพ่อเงิน ไหลมาเทมา’ @วัดเสาหิน

วันจันทร์ ที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2564, 09.40 น.

หากท่านใดได้มาท่องเที่ยวเมืองสองแคว อยากเชิญชวนให้ไปเที่ยวชมวัดเสาหิน ต.วัดพริก อ.เมืองพิษณุโลก จุดเด่นของวัดเสาหิน คือ ศาสนสถานที่ทาสีขาว และรูปหล่อหลวงพ่อเงินไหลมาเทมา พระพุทธรูปปูนปั้นสีขาวตลอดทั้งองค์ ที่ตั้งเรียงรายแทนรั้วแสดงขอบเขตพื้นที่ของวัดกว่า 100 องค์ รวมทั้งที่ตั้งวางไว้สองข้างทางเดินภายในวัดที่ตรงไปยังรูปหล่อหลวงพ่อเงินไหลมาเทมาองค์ปฐมขนาดใหญ่ที่อยู่ด้านใน แม้กระทั่งพระมหาสังกัจายณ์ กวักทรัพย์ ก็มีสีขาวทั้งองค์

พระครูธีรพงศ์พิสุทธิ์ (เอกอุดม ธีรวํโส) เจ้าอาวาสวัดเสาหิน เปิดเผยว่า วัดเสาหิน ต.วัดพริก อ.เมืองพิษณุโลก อยู่ห่างจากตัวเมืองประมาณ 18 กิโลเมตร สันนิษฐานว่าเป็นวัดที่สร้างขึ้นก่อนปี พ.ศ.2474 เพราะว่ากรมการศาสนาได้สำรวจขึ้นทะเบียนที่ดินศาสนสมบัติเมื่อปี พ.ศ.2474 เดิมไม่ได้มีความสมบูรณ์มากนัก เมื่อปี พ.ศ.2551 ได้มาดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาสวัดเสาหิน ได้ดำเนินการปรับภูมิทัศน์ใหม่ทั้งหมดและมีแนวคิดว่าอยากให้ประชาชนที่มาวัดมีจิตใจผ่อนคลาย จึงสร้างปฏิมากรรมทุกอย่างภายในวัดให้เป็นสีขาวทั้งหมด เพื่อต้องการให้ผู้ที่เข้ามารู้สึกเกิดศรัทธามีความสบายใจสบายตาและเน้นความสวยงาม ซึ่งทางวัดได้รับความอนุเคราะห์ จากมหาวิทยาลัยนเรศวร โรงพยาบาลพุทธชินราช สำนักชลประทานที่ 3 ที่เข้ามาให้ความอนุเคราะห์และพัฒนา ทำให้วัดเสาหินมีพัฒนาการที่ดีเป็นลำดับขึ้นมา

จนกระทั่งประสบความสำเร็จและได้รับประกาศยกย่องให้เป็นวัดพัฒนาตัวอย่าง ที่มีผลงานดีเด่นของ จ.พิษณุโลก ประจำปี 2563 โดยสำนักงานพุทธศาสนาแห่งชาติเป็นผู้ประกาศ จากนั้นก็มีพุทธศาสนิกชนเข้ามาเที่ยวชมพร้อมถ่ายภาพกันเป็นที่ระลึกจำนวนมาก บางคนก็มาถ่ายพรีเวดดิ้งแทบทุกวัน สำหรับพระพุทธรูปที่เรียงรายเป็นทิวแถวอยู่ในวัดมีชื่อว่า “หลวงพ่อเงินไหลมาเทมา” ซึ่งต้นกำเนิดไม่ใช่ของวัดเสาหิน แต่เป็นของหลวงพ่อฤาษีลิงดำที่วัดท่าซุง ต.น้ำซึม อ.เมือง จ.อุทัยธานี

พระครูธีรพงศ์พิสุทธิ์ (เอกอุดม ธีรวํโส) เจ้าอาวาสวัดเสาหิน กล่าวต่อว่า เคยได้ไปกราบหลวงพ่อฤาษีลิงดำ แล้วก็ไปเห็นหลวงพ่อเงินไหลมาเทมาที่วัดท่าซุง จึงเกิดความศรัทธา แล้วบังเอิญรู้จักกับลูกศิษย์คนหนึ่งที่มีแบบจำลองหลวงพ่อเงินไหลมาเทมา จึงนำมาหล่อไว้ที่วัดเสาหิน เริ่มหล่อองค์แรกเมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2562 โดยตั้งเป้าไว้ 108 องค์ แต่ละองค์ให้ประชาชนที่นับถือหลวงพ่อฤาษีลิงดำ หรือว่าเป็นคนที่ชอบสร้างพระพุทธรูปได้มาเป็นเจ้าภาพกัน

ผลปรากฏว่า 108 องค์ ไม่พอต่อจำนวนผู้มีจิตศรัทธา จึงปรึกษากับพระลูกวัดว่าน่าจะสร้างสัก 500 องค์ เพื่อเป็นพุทธานุสติ เวลามีคนเข้ามาในวัดก็จะเห็นพระพุทธรูปนับร้อยองค์ยืนเรียงรายอุ้มบาตรรออยู่ เชื่อว่าใครทำอะไรไม่ดีมาหรือสิ่งไม่ดีอะไรที่ค้างคาใจให้เอามาใส่บาตรไว้ที่นี่ ในการก่อสร้างมีเจ้าภาพมาตลอด จนมาเจอช่วงโควิด-19 เมื่อปลายปี 2562 จึงหยุดสร้างไปประมาณ 4 เดือน กระทั่งสถานการณ์ดีขึ้นแล้ว จึงสร้างต่อโดยมีเจ้าภาพมาทำบุญหล่อหลวงพ่อเงินไหลมาเทมา ทุก ๆ วันเสาร์ จำนวน 3 องค์ ปัจจุบันหล่อเสร็จแล้ว 240 องค์ ด้วยมีแนวคิดที่อยากจะทำให้วัดเสาหินเป็น “พุทธอุทยาน” คืออุทยานที่เต็มไปด้วยพระพุทธรูปจำนวน 500 องค์ ปัจจุบันดำเนินการสร้างศาสนสถานและหลวงพ่อเงินไทลมาเทมา ได้ประมาณ 40 เปอร์เซ็นต์แล้ว

จึงขอเชิญชวนประชาชน มากราบไหว้ขอพรและเที่ยวชมความสวยงามของวัดเสาหินที่เต็มไปด้วยหลวงพ่อเงินไหลมาเทมานับร้อยองค์ที่ประดิษฐานอยู่ทั่วบริเวณวัด และระหว่างนี้ยังมีการเทปูนหล่อหลวงพ่อเงินไหลมาเทมาทุกวันเสาร์ เวลา 09.09 น. และก่อสร้างศาสนสถานของวัดอยู่ หากท่านใดที่มีจิตศรัทธาสามารถร่วมเป็นเจ้าภาพและร่วมทำบุญกับทางวัดเสาหินได้ โดยติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ทาง เพจชื่อ “วัดเสาหิน พิษณุโลก” หรือโทรศัพท์หมายเลข 098-7829490 และ 089-8567581

Share this:

  • Email
  • Print
  • Telegram
  • Pinterest
  • Tumblr
  • WhatsApp
  • Skype
  • Pocket
  • Facebook
  • Twitter
  • LinkedIn
  • Reddit

Like this:

Like Loading...
Posted in ข่าว Like สาระ, แนวหน้า | Tagged 2564(2021), ข่าว Like สาระ, แนวหน้า, naewna | Leave a reply

‘โหรฟองสนาน’ ทำนายดวงเมือง จับสัญญาณความ ‘ฟุ่งเฟือง’ จากเจ้าคุณธงชัย #SootinClaimon.Com

Posted on January 25, 2021 by SoClaimon
Reply

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

https://www.naewna.com/likesara/547795

‘โหรฟองสนาน’ทำนายดวงเมือง จับสัญญาณความ‘ฟุ่งเฟือง’จากเจ้าคุณธงชัย

‘โหรฟองสนาน’ทำนายดวงเมือง จับสัญญาณความ‘ฟุ่งเฟือง’จากเจ้าคุณธงชัย

วันจันทร์ ที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2564, 08.18 น.

‘โหรฟองสนาน’ทำนายดวงเมือง จับสัญญาณความ‘ฟุ่งเฟือง’จากเจ้าคุณธงชัย

25 มกราคม 2564 เพจเฟซบุ๊ก Fongsanan Chamornchan ของ “โหรฟองสนาน จามรจันทร์ แม่หมอสมัครเล่น” โพสต์ข้อความมีเนื้อหาดังนี้…

แม่หมอสมัครเล่นตอนที่360 โดยฟองสนาน จามรจันทร์

ลัคนาเมษ-จับสัญญาณความฟุ่งเฟืองจากเจ้าคุณธงชัย

ภาพลัคนาสถิตราศีเมษและดาวจรสำคัญ

มฤตยูจรเดินอยู่ในราศีเมษ-8กรกฎาคม 2565

พระราหูจร(8)เดินอยู่ในราศีพฤษภ-29มีนาคม 2565

พระเสาร์จร(7)เดินอยู่ในราศีมังกร-1มีนาคม 2566

พฤหัสบดีจร(5)เดินอยู่ในราศีมังกร-จะย้ายเข้าไปเดินในราศีกุมภ์รอบแรกระหว่าง29มีนาคม-27กันยายน 2564

พอบทความแม่หมอสมัครเล่นตอนที่แล้วคือตอนที่359เผยแพร่ออกไปทำนายว่าเมืองรัตนโกสินทร์จะรอดแล้ว-จะฟุ่งเฟืองคนลือเลื่องลาภเหลือหลาย-ตั้งแต่ระหว่าง29มีนาคมเป็นต้นไป-27กันยายน 2564(เป็นยกแรก)ปรากฏว่าเรียกเสียงฮือฮาและแขกได้มาก คงเป็นเพราะเป็นคำทำนายที่สวนกระแสการระบาดโควิด19ระลอกใหม่ ส่งความเดือดร้อนยุ่งยากไปยังชาวบ้านให้รัฐบาลต้องอุ้มและม็อบสามนิ้วที่พยายามปลุกระดมกันอีกรอบ

อันที่จริงไม่ใช่แต่เมืองรัตนโกสินทร์ที่ลัคนาสถิตราศีเมษที่กำลังฟันฝ่าปรากฎการณ์มฤตยูจร(0)เจ้าของภัยอาเพศ/การปฏิวัติใหญ่ทับลัคนา+ราหูจร(8)ค้นทรัพย์+พฤหัสบดีจร(5)กับพระเสาร์จร(7)ประลองกำลังกันในเรื่องบริหารทำให้รัฐบาล(ฝ่ายทำงานของเมือง-ภพที่สิบ-กัมมะ)ต้องเริ่มรอบใหม่ของการทำงานแบกภาระประชาชนกระทบในหลายๆเรื่องเท่านั้น

แต่สำหรับคนทั่วไปที่ลัคนาสถิตราศีเมษด้วยนั้นโหรทั่วๆไปก็ดูออกว่าตั้งแต่ระหว่าง29มีนาคมเป็นต้นไป-27กันยายน 2564เป็นสัญญาณอันแรกของคนกลุ่มนี้ส่วนใหญ่(มียกเว้นหลักทักษาหากพฤหัสบดีกำลังเป็นกาลกิณีจร)ที่ชีวิตจะเข้ารูปเข้ารอยยกแรก และมีโอกาสจะฟุ่งเฟืองคนลือเลื่องลาภเหลือหลาย ด้วยเกณฑ์ที่เรียกสิงหเกณฑ์ หรือพฤหัสบดีจร(5)เข้าไปเดินในราศีกุมภ์ภพที่11ลาภะของดวงชะตาในขณะนั้น(แม้จะมีเดินผิดปกติ)

คราวนี้ผู้เขียนจะหาตำราและบุคคลอ้างอิงคือ

1.ว่าด้วยเมือง และรวมทั้งคนลัคนาสถิตราศีเมษไม่ว่าจะเจอเรื่องดี-ร้ายขนาดไหนจะรอด-แคล้วคลาด เพราะระยะนั้นอยู่ในระหว่างพฤหัสบดีเป็นสิบเอ็ด หรือได้สิงหเกณฑ์ เป็นหลักฐานยืนยันจากโหรเอกอาจจะยิ่งกว่าระดับพระยาโหราธิบดี คือร.1พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช(ทรงได้ทำนายเค้าสัญญาณการเกิดของปฎิวัติสยาม2475ไว้ล่วงหน้า150ปี)คือ

หลักโหรนี้ปรากฎอยู่ในบทพระราชนิพนธ์รามเกียรติ์ตอนพิเภกออกศึกมหาบาล ที่ยกทัพมาตีลงกาจะฆ่าพิเภกเพื่อแก้แค้นทศกัณฐ์

ขณะนั้นพิเภกรู้ว่าเข้าตาจนแน่แล้วเพราะไม่ได้เป็นนักรบเก่งกาจอะไร พระรามและทหารเอกก็ยกทัพกลับไปหมดแล้ว จับกระดานชนวนมาดูดวงชะตาตัวเอง(ไม่ได้มีโปรแกรมใช้เหมือนสมัยนี้)พบว่าชะตามีเกณฑ์ร้ายอื่นเพียบ แต่พฤหัสบดีจรเป็นสิบเอ็ดหรือสิงหเกณฑ์ตัวเดียว ก็รู้ว่ารอดแน่

ทั้งนี้เป็นไปตามหลักการคานอำนาจของดวงดาวว่า…ผิว์สรรพเคราะห์มาดหมาย ให้โทษแก่ลัคนาหลาย พฤหัสบดีให้คุณก็อาจคุ้มภัย…คือดาวอื่นถล่มให้โทษแก่ลัคนาขนาดไหน พฤหัสบดีดวงเดียวให้คุณก็คุมภัยได้

โดยบทพระราชนิพนธ์ตอนนี้ที่พิเภกรู้ว่าจะมีคนมาช่วยแล้วหนุมานก็ดั้นเมฆมาช่วยคือ

…เร่าร้อนฤทัยดังไฟพิษ เกรงฤทธิ์มหาบาลยักษา

จึงจับกระดานชนวนมา พิเคราะห์ดูชาตาอสุรินทร์(ดูชะตาตนเอง)

เห็นกาลกรรณีร่วมชาติ(กาลกิณีจรร่วมลัคนา)

ลักษณ์(ลัคนา)จันทร์ต้องฆาฏอยู่ทั้งสิ้น

เสาร์เสริดทับเสาร์ราศีมีน(พระเสาร์จรเดินผิดปกติทับพระเสาร์ดวงเดิม-กรรมเก่าแรง)

แล้วกินนวางค์ลัคนา

แต่พฤหัสบดีนั้นเป็นสิบเอ็ดอยู่ จะมีผู้ช่วยชีพสังขาร์

มิได้ถึงสิ้นชีวี อสุราค่อยสร่างสว่างใจ..

2.เมื่อรอดแล้วผลดีจากพฤหัสบดีเป็นสิบเอ็ดก็จะตามมา ตามตำราที่ประพันธ์โดยหลวงวิศาลดรุณกร ครูโหรผู้ล่วงลับคือเมือง และท่านที่ลัคนาสถิตราศีเมษจะเข้าสู่สภาวะ……จะฟุ่งเฟืองคนลือเลื่องลาภเหลือหลาย…และอีกตำราลอกมาจากของอ.เทพย์ สาริกบุตร ครูโหรผู้ล่วงลับ คือ ..จะได้ความสุขทางใจ การสังคมจะส่งผลดีให้ มิตรสหายจะให้ความอุปการะ..

นี่คือเรื่องของโหรบ้าตำราอย่างผู้เขียน ที่เชื่อมั่นว่าดวงเมืองรัตนโกสินทร์ที่ลัคนาสถิตราศีเมษถึงอย่างไรก็จะรอดจากโควิดระลอกที่สอง แล้วจะกลับมาฟุ่งเฟืองอีกรอบ(แม้คำนี้จะไม่มีในพจนานุกรม)

แต่ก็อีกนั่นแหละโหรท่านอื่นหากใช้หลักเข้าจับแล้วย่อมรู้ดีถึงการรอดและจะฟุ่งเฟืองจากสิงหเกณฑ์นี้ รวมทั้ง สมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี หรือเจ้าคุณธงชัย เจ้าคณะใหญ่หนกลาง วัดไตรมิตรวิทยาราม ที่ลูกศิษย์ของท่านคุณวันชัย สอนศิริ สมาชิกวุฒิสภา ได้นำสัญญาณดวงเมืองที่ส่งออกจากท่านมาโพสต์เฟสบุ๊ค ให้ทราบกันตั้งแต่ 26 ธันวาคม 2563สรุปว่า..

ต้องระวังตัวกันเสมอ ตั้งแต่ต้นปี 2564 เพราะเรื่องดีร้ายจะเกิดคู่กัน เช่นโควิด19-ม็อบ ฯลฯ

ครั้นตั้งแต่29มีนาคม 2564 (เป็นต้นไป) พฤหัสบดีจร(5)จะแยก(จากพระเสาร์จร7)เข้าราศีกุมภ์ เริ่มความลงตัวในบ้านเมือง แต่ยังไม่เข้าที่เข้าทาง เป็นเพียงปฐมบท เพราะมฤตยูจร(0)ยังทับลัคนาราศีเมษกันอยู่ วิธีการรับมือคือให้สู้ด้วย Change Innovation (วิทยาการใหม่ๆ)…

ผู้เขียนก็สรุปรวมให้ว่าเรื่องดี-ร้ายสามารถเกิดกับทุกคนได้ตลอดเวลานั้น ท่านที่ลัคนาสถิตราศีเมษรวมทั้งเมืองรัตนโกสินทร์ที่ถูกเขย่าชีวิตมีมากมายขณะนี้

แต่อย่างน้อย29มีนาคม -27กันยายน 2564 น่าจะอยู่ในช่วงเขย่า-เปลี่ยนแปลงในทางดี

ท่านเจ้าคุณธงชัย(ผ่านคุณวันชัย)ขอให้ใช้เวลาต่อจากนี้ไปเตรียมตัวให้พร้อม-กล้าเปลี่ยนแปลง-ปฏิรูป-ปฎิวัติตัวเอง เพื่อเตรียมรับการเขย่าใหญ่ทางการทำมาได้-เศรษฐกิจของเมือง ที่รอพวกเราทุกคนอยู่(เพราะทุกคนต่างอยู่ในเมือง-ไม่เฉพาะท่านที่ลัคนาสถิตราศีเมษ)ตั้งแต่กลางกรกฎาคม 2565เป็นต้นไป

ส่วนของผู้เขียนนั้นโปรดรอคำทำนายที่จะออกมาประมาณสิงหาคม2564ทั้งของเมือง-และทุกลัคนาราศีว่าด้วยมฤตยูจรย้ายจากเมษเข้าพฤษภ เพื่อเตรียมตัวล่วงหน้า

อย่างน้อยก็จะได้ไม่แปลกในหากเกิดเรื่องล็อคถล่มต่อทางด้านเศรษฐกิจของโลกและเมืองแล้วกระทบถึงทุกคน

ฟองสนาน จามรจันทร์

22 มกราคม 2564

ดูดวงชะตาติดต่อคุณหนุ่ย0814002533

(ยัง)ไม่รับwalk in-ไม่รับประกันความแม่น-เพราะเป็นเพียงคำทำนายของโหรสมัครเล่น

ขออภัยคิวยาวเพราะแต่ละวันรับน้อยตามสภาพของโหรสูงอายุ

ท่านใดที่เคยดูดวงกับป้าฟองแล้วต้องการตรวจซ้ำ-โปรดแจ้งคุณหนุ่ยเพื่อหาเวลาพิเศษให้  แต่จะไม่กระทบท่านที่จองคิวปกติไว้

ขอบคุณค่ะ

Share this:

  • Email
  • Print
  • Telegram
  • Pinterest
  • Tumblr
  • WhatsApp
  • Skype
  • Pocket
  • Facebook
  • Twitter
  • LinkedIn
  • Reddit

Like this:

Like Loading...
Posted in ข่าว Like สาระ, แนวหน้า | Tagged 2564(2021), ข่าว Like สาระ, แนวหน้า, naewna | Leave a reply

‘No Day Off’ หนังเก่าเล่าเรื่อง ชีวิต ‘แรงงานข้ามชาติ’ ใน ‘สิงคโปร์’ #SootinClaimon.Com

Posted on January 25, 2021 by SoClaimon
Reply

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

https://www.naewna.com/likesara/547670

‘No Day Off’หนังเก่าเล่าเรื่อง  ชีวิต‘แรงงานข้ามชาติ’ใน‘สิงคโปร์’

‘No Day Off’หนังเก่าเล่าเรื่อง ชีวิต‘แรงงานข้ามชาติ’ใน‘สิงคโปร์’

วันจันทร์ ที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2564, 06.00 น.

เมื่อเร็วๆ นี้ สถาบันเอเชียตะวันออกศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จัดเสวนา (ออนไลน์) เรื่อง “แรงงานข้ามชาติสิงคโปร์บนแผ่นฟิล์ม : มองผ่านภาพยนตร์ No Day Off ของผู้กำกับ Eric Khoo” โดยภาพยนตร์ No Day Off ออกฉายในปี 2549 เอริก คู

(Eric Khoo) ผู้กำกับภาพยนตร์ชาวสิงคโปร์ นำเสนอในรูปแบบหนังสั้นความยาวประมาณ 40 นาที เล่าชะตากรรมแรงงานข้ามชาติในประเทศของตน ผ่านเหตุการณ์จำลองของตัวละครหญิงชาวอินโดนีเซียวัย 24 ปี “ซีติ (Siti )”ที่ใช้เวลา 3 ปี เป็นลูกจ้างทำงานบ้าน หรือคนรับใช้ในครัวเรือนชาวสิงคโปร์

ผศ.อนงค์นาฏ รัศมีเวียงชัย อาจารย์คณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เล่าว่า เมื่อได้ชมภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นครั้งแรกก็รู้สึกตกใจอยู่ไม่น้อย เพราะแตกต่างไปจากสิงคโปร์ในมุมที่เคยรู้จัก หรือในพื้นที่สื่ออื่นๆ ที่เคยเผยแพร่ผ่านตา กล่าวคือ “สิงคโปร์มีภาพลักษณ์เป็นประเทศร่ำรวย” เป็นประเทศแห่งการเงิน การลงทุน และเทคโนโลยี ตึกรามบ้านช่องดูสวยงาม ระบบคมนาคมสะดวกสบาย “แต่สิ่งที่มองไม่เห็นคือแรงงานข้ามชาติ” ภาพยนตร์เรื่องนี้จึงเหมือนการดึงคนกระแสรองในสังคมสิงคโปร์ขึ้นมาเล่าในฐานะตัวละครหลัก

“มีแรงงานข้ามชาติทั้งอินโดนีเซีย ไทย ฟิลิปปินส์ มาอยู่ที่สิงคโปร์เยอะขนาดนี้เลยหรือ? ในประเทศขนาดไม่ใหญ่ไม่น้อยกว่ากรุงเทพมหานคร มีมากขนาดนั้นเลยหรือ? ภาพยนตร์เรื่องนี้สมมุติว่ามีโอกาสได้ฉายให้ผู้ชมได้ดู เราจะเห็นว่าภาพยนตร์จะเล่าเป็นแบบแทรกไปกับตัวหนังสือ แทรกไปกับข้อมูลที่เป็น Fact (ข้อเท็จจริง) เช่น ตั้งแต่ปี 1997-2005 (2540-2548) ก็คือช่วงที่หนังเรื่องนี้ถ่ายทำ หนังเรื่องนี้ถ่ายทำปี 2006 (2549) ให้ข้อมูลว่ามีจำนวนแรงงานข้ามชาติเข้ามาในสิงคโปร์มากน้อยแค่ไหน ซึ่งมันหลักหลายแสนคน ก็เลยเป็นข้อมูลที่ค่อนข้างตกใจ

แล้วที่น่าตกใจอีกอันหนึ่งคือสถิติที่เกี่ยวข้องกับการทำร้ายร่างกาย หรือการเสียชีวิตของแรงงานข้ามชาติในประเทศสิงคโปร์มีค่อนข้างสูงมาก สูงจนแบบ โอ้โห!..มันกลายเป็นอาชญากรรมที่เราไม่เคยได้ยินเลย แม้กระทั่งเราอยู่ประเทศไทย อยู่ห่างกันแค่ 1 ชั่วโมงบินเท่านั้นเอง ก็เลยเหมือนเป็นการเปิดโลกใหม่ เหมือนการเปิดมุมมองใหม่เกี่ยวกับสิงคโปร์ภายใน 40 นาที” ผศ.อนงค์นาฏ กล่าว

ผศ.อนงค์นาฏ กล่าวต่อไปว่า ภาพยนตร์เรื่องนี้ เล่าเรื่องของครอบครัวนายจ้างที่แรงงานข้ามชาติไปทำงานอยู่เพื่อสะท้อนภาพสังคมสิงคโปรร์ เช่น ครอบครัวแรกเป็นชาวสิงคโปร์ที่ค่อนข้างมีฐานะดีและทำตามแนวคิด ความฝันแบบอเมริกัน (American Dream) ที่เชื่อว่าการทำงานหนักจะนำมาซึ่งฐานะร่ำรวย นิยมชมชอบประเทศที่พัฒนาแล้ว เช่น ญี่ปุ่น อังกฤษ และไม่รับประทานอาหารจีน แต่รับประทานสเต็กที่มีราคาแพง

“Scene (ฉาก) นี้มันน่าสนใจ คือ 1.คนสิงคโปร์เป็นเหมือนค่อนข้างคลั่งตะวันตก แล้ว 2.นอกจากแรงงานข้ามชาติชาวอินโดนีเซีย ยังมีคนไทยด้วย แล้วความคลาสสิกของตัวละครที่เป็นคนไทยที่ปรากฏในสื่อภาพยนตร์ไม่ว่าจะเป็นของทางยุโรป อเมริกา คือขอใช้คำว่าส่วนมาก-ส่วนใหญ่ที่เราเห็นในหนังต่างชาติ มักจะถูกผูกติดอยู่กับภาพลักษณ์ เป็นผู้ชายถ้าไม่เตะ-ต่อยเก่งแบบ จา พนม (นักแสดงหนังแอ๊กชั่นชาวไทยที่โด่งดังระดับโลก) ก็จะกลายเป็นพวกอาชญากร พ่อค้ายา(เสพติด) ขณะที่ตัวละครผู้หญิงจะผูกกับการค้าบริการทางเพศ

อันนี้เป็นอะไรที่เหมือนกับภาพลักษณ์ตัวละครชาวไทยที่ถูกส่งออกไปในหนังหลากหลายเรื่องของหลากหลายประเทศ แล้วหนังเรื่องนี้ก็โผล่มาเหมือนกัน เฮ้ย!..ทำไมคุณไม่เอา Maid (สาวใช้) คนไทยมา จ่ายแพงขึ้นแต่ได้ Maid ฉลาดขึ้น ดูมาถึงตรงนี้เรารู้สึกดีใจ แต่เราจะดีใจไปทำไม เพราะก็มีการคุยกันต่อไปว่า Maid คนไทยมี Side Job (งานเสริม) เป็นโสเภณีทั้งนั้น” ผศ.อนงค์นาฏ เล่าถึงฉากที่นายจ้างสิงคโปร์พูดถึงคนรับใช้ที่เป็นผู้หญิงจากประเทศไทย

นักวิชาการด้านสื่อท่านนี้ ชวนคิดต่อไปว่า “หากลบคำว่าเชื้อชาติออกไป ไม่ว่าคนไทย อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สุดท้ายพอไปอยู่ในพื้นที่ประเทศของคนอื่น ภาษาก็ไม่ได้ คนรู้จักก็ไม่มี อำนาจต่อรองก็น้อยลงไป” จึงไม่ต้องแปลกใจหากจะเห็นการดูถูกเหยียดหยาม เพราะแรงงานข้ามชาติก็รู้สึกว่าตนเองตัวเล็กลง รวมถึงพร้อมจะยอมเสียผลประโยชน์บางอย่างเพื่อเปิดผลประโยชน์บางอย่าง เช่น ยอมถูกกดค่าแรงเพื่อให้ได้รับงานมากขึ้น

“สิ่งนี้มันเกิดขึ้นเพราะรัฐเขาไม่ได้คุ้มครองหรือเปล่า อันนี้น่าตั้งคำถามกลับไป อันนี้จากมุมมองของคนที่ไม่รู้เลยนะ แต่พอมาดูสิ่งที่เกิดขึ้นในภาพยนตร์ แล้วมันจะมี Scene หนึ่งที่เจ้าของบ้านบอกว่า..วันอาทิตย์ปกติจะเป็นวันหยุดของเธอ (สาวใช้ที่เป็นแรงงานข้ามชาติ) แต่ฉันไม่ให้เธอหยุดหรอกนะ เพราะคนก่อนได้หยุดแล้วใช้วันอาทิตย์ไปหา Boyfriend (แฟนหนุ่ม) ไปทำอะไรไร้สาระ ฉะนั้นฉันจะไม่ให้เธอหยุด เธอจะไม่มีวันหยุด..

มันก็เลยทำให้เราเกิดความสงสัยว่า ในกระบวนการ Training (ฝึกอบรม) คนที่จะมาเป็น Maid สิงคโปร์ ดู Proper (เหมาะสม) นะ ดูมีทางการ มีระบบที่ชัดเจน มีการทดสอบ ตรวจร่างกายอะไรชัดเจนมาก แต่ทำไมการคุ้มครองสวัสดิภาพแรงงานของคนเหล่านี้ถึงดูเหมือนมันไม่มีเลย เพราะนายจ้างสามารถกล้าพูดต่อหน้าลูกจ้างเลยว่าเธอจะไม่มีวันหยุด มันเกิดขึ้นได้อย่างไร แสดงว่ารัฐบาลเขาไม่ได้มาควบคุมดูแล” ผศ.อนงค์นาฏ ตั้งข้อสังเกต

และแม้ภาพยนตร์เรื่องนี้จะออกฉายตั้งแต่ปี 2549 แต่เมื่อไปไล่สืบค้นข้อมูลต่างๆ ผศ.อนงค์นาฏ กล่าวว่าในยุคปัจจุบันก็ยังพบข่าวหรือสถิติเกี่ยวกับปัญหาคุณภาพชีวิตของแรงงานข้ามชาติในสิงคโปร์อยู่เช่นเดิม จึงเป็นคำถามว่า ในขณะที่ผู้นำประเทศบอกว่าแรงงานข้ามชาติมีความสำคัญในฐานะฟันเฟืองขับเคลื่อนเศรษฐกิจ แต่แรงงานข้ามชาติกลับไม่ค่อยได้รับการดูแลด้านสวัสดิภาพทั้งร่างกายและจิตใจ

จากครอบครัวแรก ภาพยนตร์เล่าต่อไปถึงครอบครัวที่ 2 ที่แรงงานหญิงจากอินโดนีเซียไปทำงานด้วย คราวนี้ผู้กำกับภาพยนตร์สะท้อนภาพชนชั้นกลางชาวสิงคโปร์ที่พักอาศัยในอพาร์ทเมนท์ของรัฐ ยังต้องดิ้นรนทำงานแบบหาเช้ากินค่ำเพื่อให้ครอบครัวร่ำรวยขึ้น ภายใต้สภาพสังคมที่กดดันจากการแข่งขันสูง จึงทำให้ชีวิตค่อนข้างเคร่งเครียด แล้วบางครั้งก็เอาความโกรธไปลงกับคนที่สามารถลงได้

ถึงกระนั้น ผศ.อนงค์นาฏ ยังตั้งข้อสังเกตต่อไปว่าเอริก คู ผู้กำกับภาพยนตร์ No Day Off ก็ไม่ได้ชี้ไปที่มุมเดียวแต่ยังชวนให้ผู้ชมตั้งคำถามกลับกันด้วยว่าหรือสาวใช้ที่เป็นแรงงานข้ามชาติคนนี้จะไม่ฉลาดและไม่ขยันจริงๆ จากอากัปกิริยาในการทำงานบ้านในครอบครัวนายจ้าง ดังนั้นเมื่อชมภาพยนตร์จบแล้ว ผู้ชมควรจะเห็นใจในชะตากรรมของสาวใช้รายนี้ หรือยอมรับว่าสาวใช้ทำงานได้ไม่ดีจริงๆ กันแน่

สุดท้ายคือครอบครัวที่ 3 ที่สาวใช้รายนี้ไปอยู่ด้วย ครอบครัวนี้เป็นชาวสิงคโปร์เชื้อสายอินเดีย แต่สามารถใช้ภาษาเดียวกับสาวใช้ที่เป็นชาวอินโดนีเซียได้ “เมื่อพูดภาษาเดียวกันก็คุยกันรู้เรื่อง ความเป็นมนุษย์ก็ถูกเปิดเผยขึ้น..แต่ที่น่าสนใจคือ เหตุใดผู้กำกับถึงเลือกแสดงภาพครอบครัวสิงคโปร์เชื้อสายอินเดียปฏิบัติกับแรงงานข้ามชาติดีมาก” ดูเป็นเพื่อนมนุษย์กันมากขึ้น

“เราก็ไปศึกษาต่อว่ามันเป็นเพราะอะไร คำตอบที่ได้ก็คือว่าชาวอินเดียที่อาศัยอยู่ในประเทศสิงคโปร์เป็นชนกลุ่มน้อยเหมือนกัน คือมีจำนวนแค่ไม่กี่เปอร์เซ็นต์ของประชากรชาวสิงคโปร์ เพราะฉะนั้นมันเลยสามารถอนุมานพอจะได้ว่าเขาเหล่านี้ เชื้อสายอินเดียเหล่านี้อาจจะเคยประสบอย่างเดียวกับที่ซีติ (ตัวละครสาวใช้ชาวอินโดนีเซีย) เจอคือความแปลกแยก (Alienation) ของความรู้สึกเป็นชนกลุ่มน้อย คือมันจะคล้ายๆ กับว่าเพราะเราแตกต่างเราก็เลยเหมือนกัน

เพราะฉะนั้นการเป็นมนุษย์ การมองเห็นกัน มันมีมากกว่า 2 ครอบครัวก่อนหน้านี้ซึ่งถือว่าเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศสิงคโปร์ อันนี้น่าสนใจ แล้วเราก็จะเริ่มเห็นว่าซีติเริ่มยิ้มออกเป็นครั้งแรก แล้วมันก็จะมี Scene ในส่วนท้ายๆ ถ้าเราจะดูมาตลอดก็คือเราจะไม่เห็นตัวละครอื่นเลย มันจะโผล่มาแค่นิ้วเดียว หัวไหล่ปลายผม แต่ใน Scene ที่เจ้าของบ้านเป็นชาวอินเดีย จะเป็นครั้งแรกที่เราเห็นตัวละครอื่น ซึ่งน่าสนใจแล้วลองให้คนดูได้ตีความ ได้ลองจินตนาการต่อเติมเข้าไปอีก” ผศ.อนงค์นาฏ กล่าวถึงช่วงท้ายของภาพยนตร์

ด้าน ผศ.ดร.สร้อยมาศ รุ่งมณีอาจารย์วิทยาลัยพัฒนศาสตร์ ป๋วยอึ๊งภากรณ์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ให้ความเห็นว่า เมื่อชมภาพยนตร์ไปสักพักก็รู้สึกเห็นใจตัวละครที่มาจากสังคมชนบท ซึ่งในอินโดนีเซียคงไม่ต่างจากไทย เมื่อครอบครัวต้องการเงินเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต แต่อาชีพเกษตรกรรมไม่สามารถคาดหวังได้เพราะไม่รู้ว่าปีนี้สภาพอากาศจะเป็นอย่างไรหรือผลผลิตจะดีหรือไม่ จึงต้องออกไปขายแรงงาน

“ในฐานะผู้ดู คิดว่าเข้าใจคนที่ตัดสินใจย้ายถิ่นแบบนี้ ว่ามันมีภาวะจำเป็น เราก็อยากให้ลูกเราเข้าโรงเรียนเราอยากมีบ้านที่มั่นคงแข็งแรง ไม่ใช่อยู่แบบกระต๊อบ ลมมาทีหนึ่งหลังคาปลิว คืออยากได้บ้านที่คือแบบเป็นปัจจัยพื้นฐาน ทั้งนั้นเลย หรืออยากได้มอเตอร์ไซค์ ก็บ้านมันไกลกว่าจะถึงรถเมล์ มันต้องข้ามเขาไปกี่ลูก ก็อยากจะได้มอเตอร์ไซค์ ซึ่งหนทางที่จะได้เงินก้อนคือต้องอย่างนี้แล้วก็ต้องยอมเสี่ยง

ซึ่งอันนี้ถ้าเทียบกับของไทยก็คือคนที่ย้ายถิ่นมีทั้งหญิงทั้งชายคล้ายๆ กัน เป็นภาวะของ Southeast Asia (เอเชียตะวันออกเฉียงใต้) แต่ว่าสงสารไหม?..สงสาร ถ้าเกิดไปอยู่ในบ้านหรือครอบครัวที่ดีก็ถือว่าโชคดีมาก ซึ่งก็มีแรงงานแบบนั้น ในขณะที่โชคร้ายได้นายจ้างที่ไม่ดี ก็กดขี่ด้วยทุบตีด้วย อันนี้เป็นภาวะที่คิดว่าแต่ละรัฐต้องหากลไกป้องกันจะทำอย่างไร”
ผศ.ดร.สร้อยมาศ กล่าว

ผศ.ดร.สร้อยมาศ กล่าวต่อไปว่า ในขณะที่แรงงานข้ามชาติในประเทศไทยมีองค์กรพัฒนาเอกชน (NGO) คอยดูแล ถึงขั้นมีความเคลื่อนไหวอยากให้มีสหภาพแรงงานของแรงงานข้ามชาติเพื่อจะต่อรองกับนายจ้าง รวมถึงมีหน่วยงานองค์การระหว่างประเทศเข้ามาสร้าง Best Practice (แนวปฏิบัติที่ดี) ว่าจะอยู่ร่วมกันอย่างไร สิงคโปร์แม้มีมาตรฐาน แต่การนำไปปฏิบัติจริงอาจเป็นเรื่องยาก ด้วยปัญหาด้านวัฒนธรรมบางอย่างที่ฝังหัวไปแล้ว

ส่วนประเด็นชาวสิงคโปร์เชื้อสายอินเดียในภาพยนตร์ที่ปฏิบัติกับแรงงานข้ามชาติดีมากนั้น คาดว่านอกจากเป็นชนกลุ่มน้อยในประเทศแล้ว การที่คนส่วนใหญ่เป็นคนเชื้อสายจีนและใช้ภาษาจีนกับภาษาอังกฤษเป็นหลัก ในขณะที่ชาวสิงคโปร์เชื้อสายอินเดียใช้ภาษาที่ใกล้เคียงกับภาษาของสาวใช้จากอินโดนีเซียซึ่งทำให้สื่อสารกันรู้เรื่อง และนำไปสู่การดูแลแบบถ้อยทีถ้อยอาศัย เช่น ผู้สูงอายุในครอบครัวเชื้อสายอินเดียถามว่าจะดื่มเบียร์ได้ไหม สาวใช้ก็ตอบว่าไม่ได้ ในขณะที่ผู้สูงอายุในครอบครัวเชื้อสายจีนพูดภาษาจีนใส่แล้วสาวใช้ก็ทำหน้างงๆ ไม่รู้เรื่อง

แต่ท้ายที่สุด “แรงงานย้ายถิ่นข้ามชาติจะยังคงมีอยู่ต่อไป..ตราบเท่าที่ค่าจ้างไม่เท่าเทียมกันในทุกประเทศและไม่อยู่ในระดับที่สามารถดำรงชีพอย่างมีคุณภาพชีวิตที่ดีได้” ซึ่งก็ไม่รู้ว่าสภาพดังกล่าวจะเกิดขึ้นได้อย่างไร เพราะธุรกิจจำนวนมากต้องการลงทุนภายใต้ค่าแรงที่ถูกเพื่อทำการผลิตได้ในราคาถูก..ในระบบทุนนิยม!!!

Share this:

  • Email
  • Print
  • Telegram
  • Pinterest
  • Tumblr
  • WhatsApp
  • Skype
  • Pocket
  • Facebook
  • Twitter
  • LinkedIn
  • Reddit

Like this:

Like Loading...
Posted in ข่าว Like สาระ, แนวหน้า | Tagged 2564(2021), ข่าว Like สาระ, แนวหน้า, naewna | Leave a reply

Post navigation

← Older posts

Blogroll

  • คำไทย:ThaiWords
  • นพ.ต่อพงศ์ คล้ายมนต์
  • พญ.อภิชญา คล้ายมนต์
  • ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย1
  • ศาสตร์และศิลป์ที่สอนในเมืองไทย
  • Blogspot:SoClaimon
  • Facebook:กรุงเทพฯเวนิสตะวันออก
  • Facebook:ชมรมดินปุ๋ยบนเว็บ
  • Facebook:SoClaimon
  • Google map:แผนที่ตำบล 76 จังหวัด
  • Google sites:Soil Taxonomy
  • Google sites:SootinClaimon
  • LinkedIn:sootin claimon
  • ToRaMaN's BLOG
  • Tumblr:SoClaimon
  • Twitter:SoClaimon
  • Twitter:SoilFertilizer
  • Webs:ChangChoice

สถิติบล็อก

  • 2,013,472 hits

Enter your email address to follow this blog and receive notifications of new posts by email.

Join 10,358 other followers

Follow SootinClaimon.Com on WordPress.com

Categories

Top Posts & Pages

Biden's Pentagon nominee vows to take on extremism in military #SootinClaimon.Com
สกู๊ปพิเศษ : ‘ปิดโรงเรียน แต่ไม่ปิดกั้นการเรียนรู้’ กสศ.เดินหน้าส่งเสริมศักยภาพเด็กไทย #SootinClaimon.Com
'เจนนี่' เคลียร์แล้ว ภาพหลุดคู่โมเดลลิ่งหื่น #SootinClaimon.Com
Biden may be stuck with some Trumpists #SootinClaimon.Com
แซ่บไม่พัก! 'คริส หอวัง' อวดหุ่นเซ็กซี่ ในชุดบิกินีแหวกอกอึ๋ม #SootinClaimon.Com
Leicester make historic move to new Seagrave training ground #SootinClaimon.Com
Korda beats Kang in play-off to win 2021 Diamond LPGA #SootinClaimon.Com
LINE Meeting ฟีเจอร์สุดเจ๋ง Work from Home แบบหน้าสดก็ไม่หวั่น #SootinClaimon.Com
น่ารักไปไหน! 'ญาญ่า' อวดลุคสวยปังราวกับเลดี้อังกฤษ #SootinClaimon.Com
"สยามไบโอไซเอนซ์" กับภารกิจการเป็นฐานการผลิตวัคซีนโควิด-19 แห่งภูมิภาคอาเซียน #SootinClaimon.Com

Recent Posts

  • Biden to push Congress on stimulus after senators question cost #SootinClaimon.Com
  • Riots explode across Netherlands over covid restrictions #SootinClaimon.Com
  • Mexican President López Obrador tests positive for the coronavirus #SootinClaimon.Com
  • Thai resident in Japan shares amazing experience with snow sculptures #SootinClaimon.Com
  • Anutin calls on hospitals to get ready for first batch of Covid-19 vaccines #SootinClaimon.Com

Recent Comments

Biden’s unity plea i… on Biden’s unity plea is me…
On the third Wednesd… on On the third Wednesday in Janu…
Chen Song Ping on Philippines’ salary for…
Susco unveils 5-year… on Susco unveils 5-year investmen…
Trump supporters pro… on Trump supporters protesting el…

RSS ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย1

  • จวก​ศาลรธน. ทำตัวเป็น ผบ.สภาฯ #ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย February 12, 2020
  • Upper Thailand gets colder by 1-2 °C, more thundershowers in the South #ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย February 12, 2020
  • NBTC preparing guidelines for media coverage of sensitive situations #ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย February 12, 2020
  • Cabinet nod for Motorway No 6 toll fees #ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย February 12, 2020
  • Chevron boosts Venezuela oil output while U.S. is eyeing new sanctions #ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย February 12, 2020

Follow me on Twitter

My Tweets

Follow me on Twitter

My Tweets

ป้ายกำกับ

  • 4G
  • 7 วันรอบโลก
  • 2554(2011)
  • 2555(2012)
  • 2556(2013)
  • 2557(2014)
  • 2558(2015)
  • 2559(2016)
  • 2560(2017)
  • 2561(2018)
  • 2562(2019)
  • 2563(2020)
  • 2564(2021)
  • AEC
  • AEC Go On
  • aec news
  • AFTER DARK
  • AFTERMATH
  • Agriculture
  • AIR POLLUTION
  • ANALYSIS
  • AROUND THAILAND
  • ART
  • arts
  • ASEAN+
  • Asean Now
  • Asia Entertainment
  • Audio
  • AUGUST 7 REFERENDUM
  • Auto
  • AVIATION
  • BANGKOK
  • BEAUTY
  • BIG IDEA
  • Biz insights
  • BizMoves
  • BURNING ISSUE
  • business
  • celebrity
  • Celebrity Gossip
  • CHARTER REFERENDUM
  • CHECK IN
  • Club Scene
  • Columns
  • CONTEMPORARY ART
  • Cookool Studio
  • Corporate
  • COURT
  • CRIME
  • CSR
  • culture
  • destination
  • dhamma
  • DHAMMAKAYA TEMPLE
  • DigitalLife
  • DROUGHT
  • DROUGHT CRISIS
  • eat-travel
  • Economics
  • ECONOMY
  • education
  • ENERGY
  • entertain
  • Entertainment
  • environment
  • EVENT
  • Event Update
  • EXCLUSIVE INTERVIEW
  • EXPORT
  • Fashion
  • Fashion Update
  • FEATURE
  • FESTIVAL DIARY
  • finance-stock
  • food
  • food & restaurants
  • GAME
  • GETAWAYS
  • GOOD NEWS
  • health
  • HEALTH MATTERS
  • Health News
  • Hollywood star
  • Hollywood stars
  • HUMAN TRAFFICKING
  • Inter Entertainment
  • International
  • In trend
  • In trend With KIMMY
  • INUNDATION
  • INVESTMENT
  • IT
  • IT Update
  • JAPAN
  • knowledge
  • komchadluek
  • lady
  • Life
  • Life & Health
  • LifeStyle
  • living
  • MALAYSIA
  • Miracle Thai Agriculture
  • Movie
  • Music
  • MYANMAR
  • naewna
  • National
  • NEW CHARTER
  • NEW CONSTITUTION
  • News Feed
  • Opinion
  • OUTLOOK
  • oversea
  • people
  • Pet"s Business
  • pet care
  • PHILIPPINES
  • Politics
  • posttoday
  • Properties Zone
  • Property
  • public health
  • Quote of the week
  • Real Estate
  • REFERENDUM
  • REFERENDUM SPECIAL
  • religious
  • RICE PLEDGING SCHEME
  • Rookies
  • Royal
  • Science Update
  • Shopping
  • SKINDEEP
  • Sleep
  • SMES
  • SMES CORNER
  • social
  • SOOPSIP
  • SOUTH CRISIS
  • SPECIAL FEATURE
  • SPECIAL REPORT
  • Sports
  • STAGE PREVIEW
  • STAGE REVIEW
  • star Retro
  • STARTUP
  • SURVEY
  • tasty
  • Tech
  • Tech for Life
  • technology
  • Thai Business News
  • THAILAND
  • THAILAND: EXPLAINER
  • thairath
  • The Nation
  • TOURISM
  • TRADE
  • Travel
  • Travel log
  • Travel Update
  • TV
  • Week in Review
  • What's on
  • who-what-where
  • world
  • ZIKA
  • ZogZag
  • กรมอุตุนิยมวิทยา
  • กระดานความคิด
  • กศน. ทั่วไทย
  • การบ้าน
  • การศึกษา
  • การเงิน-หุ้น
  • การเมือง
  • การเมืองรอบสัปดาห์
  • กิน-ดื่ม-เที่ยว
  • กิน-เที่ยว
  • กีฬา
  • ก่อนปิดร้าน
  • ขยายปมร้อน
  • ข่าว Like สาระ
  • ข่าวประชาสัมพันธ์
  • ข่าวเกษตรรุ่น 23
  • คนดังอะราวนด์เดอะเวิลด์
  • คนรักผัก
  • คนในข่าว
  • คมชัดลึก
  • คม วิเคราะห์
  • ครัวชาวบ้าน
  • คลินิกค้ำประกัน
  • ความงาม
  • ความรู้
  • คอลั่มน์
  • คิดเป็นเทคโนฯ
  • คุณชาย ตะลอนชิม
  • คุณแหน
  • คุยกัน7วันหน
  • งานคือเงิน
  • จอดป้ายเทคโนฯ
  • จอดป้ายเส้นทางเศรษฐี
  • จิตใจ
  • ชวนชิม ชวนช็อป ชวนใช้ ชวนชม
  • ชักหน้า...ให้ถึงหลัง
  • ชายคาพระพิรุณ
  • ช่องทางสร้างอาชีพ
  • ซอกแซก
  • ซอกแซกอาเซียน
  • ซันเดย์สเปเชียลถนัดศรี
  • ฎีกาชาวบ้าน
  • ดนตรี
  • ดวงชะตา
  • ดวงเศรษฐี 12 ราศี
  • ดัชนีเศรษฐกิจ
  • ดาราพาเที่ยว
  • ดิจิตอลไลฟ์
  • ดูแลสุขภาพ
  • ตลาดนัดหัวเขียว
  • ตลาดสินค้าเกษตรก้าวหน้า
  • ตะลอนเที่ยว
  • ตะลุยกองทัพ
  • ต่างประเทศ
  • ทันโลก
  • ทั่วทิศถิ่น ส.ป.ก.
  • ทำกินถิ่นอาเซียน
  • ทำมาหากิน
  • ทิศทางหุ้น
  • ท็อปเท็น
  • ท่องเที่ยว
  • ท่องเที่ยวเกษตร
  • ท่องโลกเกษตร
  • ธรรมะ
  • ธรรมะจากวัด
  • ธรรมะวันเสาร์
  • บทความพิเศษ
  • บัญชีชาวบ้าน
  • บัญชีธุรกิจ
  • บันทึกไว้เป็นเกียรติ
  • บันเทิง
  • บี มาย เกสท์
  • บีมายเกสท์
  • บี มาย เกสห์
  • บุคคล
  • บุคคลแนวหน้า
  • บุคคลในข่าว
  • ปัญหาเกษตร
  • ผลิตภัณฑ์น่าซื้อ
  • ผักในบ้านของคนขี้เกียจ
  • ผู้หญิง
  • ผ่าประเด็นร้อน
  • พยากรณ์อากาศ
  • พระราชสำนัก
  • พฤกษากับเสียงเพลง
  • พันธุ์พืช
  • พืชผัก
  • ภาพข่าวสังคม
  • ภาพข่าวสังคม
  • ภาพยนต์
  • ภาพเล่าเรื่อง
  • ภูมิบ้านภูมิเมือง
  • ภูมิปัญญาท้องถิ่น
  • มติชน
  • มติชนอคาเดมี
  • มองเอเชีย
  • มอนิเตอร์ร่างรัฐธรรมนูญ
  • มันมากับอาหาร
  • มุมข้าราชการ
  • มุมนี้มีนัด
  • ยานยนต์
  • ยิปซี 12 นักษัตร
  • ยิปซีพยากรณ์
  • รถยนต์
  • รอบโลก
  • รักชีวิต รักษ์สิ่งแวดล้อม
  • รักษ์เกษตร
  • รายงานพิเศษ
  • รูปภาพที่เกี่ยวข้อง
  • ร้านอาหาร
  • ลึกลับในสนามข่าว
  • ลูกทุ่งแนวหน้า
  • วัฒนธรรม
  • วิถีท้องถิ่น
  • วิทยาการ
  • วิเคราะห์
  • ศาสนา
  • ศิลป
  • ศิลปหัตถกรรม
  • ศุกร์สุขภาพ
  • สกู๊ปพิเศษ
  • สกู๊ปเศรษฐกิจ
  • สกู๊ปแนวหน้า
  • สถานีเกษตร-สิ่งแวดล้อม
  • สรุปข่าวประจำวัน
  • สังคม
  • สัตว์เลี้ยงสวยงาม
  • สัมภาษณ์คนดัง
  • สัมภาษณ์พิเศษ
  • สาธารณสุข
  • สายตรงจากต่างแดน
  • สินค้าน่าลอง
  • สิ่งแวดล้อม
  • สุขภาพ
  • สุขภาพหรรษา
  • ส่องดาวส่องดวง
  • ส่องสหกรณ์
  • ส่องเกษตร
  • หนักเอาเบาสู้
  • หนังชนโรง
  • หนังสือเด่น
  • หน้า 24
  • หน้าต่างโลก
  • หน้ามองฟ้า เท้าหยั่งดิน
  • หมอเกษตร
  • หลากมิติเวทีทัศน์
  • หัวใจไทย
  • อาชีพคนดัง
  • อาชีพที่ไม่เหมือนเรา
  • อาหาร
  • อาหารสร้างอาชีพ
  • อาเซียน
  • อินโฟเควสท์
  • อุษาคเนย์ไม่ไหลกลับ
  • เกษตร
  • เกษตรกรคนเก่ง
  • เกษตรกรบนแผ่นกระดาษ
  • เกษตรต่างแดน
  • เกษตรบูรณาการ
  • เกษตรอินทรีย์และวิถีสุขภาพ
  • เกษตรเทรนด์ใหม่
  • เกษตรแถวหน้า
  • เกษตรในเมือง
  • เก็บมาเล่า
  • เขียว สวย หอม กินได้
  • เข็มทิศ SME
  • เงาหุ้น
  • เจาะประเด็นร้อน
  • เซเลบริตี้
  • เซ็กซ์
  • เติมใจ...ใส่ธุรกิจ
  • เทคโนฯ การเกษตร
  • เทคโนโลยีการประมง
  • เทคโนโลยีการเกษตร
  • เทคโนโลยีชาวบ้าน
  • เทคโนโลยีปศุสัตว์
  • เทคโนโลยีสร้างอาชีพ
  • เที่ยวตามตะวัน
  • เที่ยวทั่วโลก
  • เที่ยวทั่วไทย
  • เปรี้ยวปาก
  • เปิดฟ้าส่องโลก
  • เปิดม่าน joke opera
  • เปิดม่านการศึกษา
  • เปิดวิสัยทัศน์
  • เปิดโลกการศึกษามุสลิม
  • เยาวชนเกษตร
  • เยี่ยมบ้านคนดัง
  • เรียนรู้จากหนังสือ
  • เรื่องจากปก
  • เรื่องเล่าความสำเร็จ
  • เรื่องเล่าจากสองข้างทาง
  • เลาะรั้วอาเซียน
  • เลาะรั้วเกษตร
  • เศรษฐกิจ
  • เศรษฐกิจพอเพียง
  • เสริมไอเดีย
  • เส้นทางปฏิรูป
  • เส้นทางอาชีพ
  • เส้นทางเศรษฐี
  • แจงสี่เบีย
  • แจงสี่เบี้ย
  • แตกใบอ่อน
  • แนวหน้า
  • แนวหน้าฟู้ดรีวิว
  • แนวหน้า ฟู้ด รีวิว
  • แนวหน้าวาไรตี้
  • แนวหน้าไกด์
  • แนะนำการใช้ปุ๋ยตามค่าวิเคราะห์ดิน1
  • แฟชั่น
  • แวดวงแรงงาน
  • แหล่งทุนหนุน SMEs
  • แหวกฟ้าหาฝัน
  • โซไซตี้
  • โทรทัศน์
  • โพสต์ทูเดย์
  • โรงเรียนวัดรางบัว
  • โลกมองไทย
  • โอ๊ยเล่าเรื่อง
  • ใครทำอะไรที่ไหน
  • ในประเทศ
  • ไทยรัฐ
  • ไนท์ไลฟ์
  • ไม้ดอกไม้ประดับ
  • ไม้ดีมีประโยชน์
  • ไลฟ์
  • ไลฟ์สไตล์
  • ไอที
  • ไอทีมาร์เก็ตติ้ง
  • ไอเดียต่างแดน
  • ไอเดียแปลก
  • RSS - Posts
  • RSS - Comments

Archives

Follow Us

Blog at WordPress.com.
loading Cancel
Post was not sent - check your email addresses!
Email check failed, please try again
Sorry, your blog cannot share posts by email.
Cancel
%d bloggers like this: