Skip to primary content
Skip to secondary content

SootinClaimon.Com

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย2 [SartKasetDinPui2] : ข้อมูล เศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม เกษตร ดิน น้ำ ปุ๋ย

SootinClaimon.Com

Main menu

  • Home
  • KU23-2506
  • ข้อคิดความเห็น
  • ตระกูลคล้ายมนต์
  • ผมเองครับ
  • ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย1

Tag Archives: ข่าว Like สาระ

Post navigation

← Older posts

‘ส.ว.สมชาย’แฉ‘ส่วย’บุหรี่ไฟฟ้า กรุยทางนำเข้าครั้งละหลายตู้คอนเทนเนอร์

Posted on February 3, 2023 by SoClaimon
Reply

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

https://www.naewna.com/likesara/708566

‘ส.ว.สมชาย’แฉ‘ส่วย’บุหรี่ไฟฟ้า กรุยทางนำเข้าครั้งละหลายตู้คอนเทนเนอร์

‘ส.ว.สมชาย’แฉ‘ส่วย’บุหรี่ไฟฟ้า กรุยทางนำเข้าครั้งละหลายตู้คอนเทนเนอร์

วันศุกร์ ที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566, 10.40 น.

‘ส.ว.สมชาย’แฉ‘ส่วย’บุหรี่ไฟฟ้า กรุยทางนำเข้าครั้งละหลายตู้คอนเทนเนอร์

3 กุมภาพันธ์ 2566 นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก “สมชาย แสวงการ” มีเนื้อหาดังนี้…

#บุหรี่ไฟฟ้า

#เครื่องมือตบทรัพย์นักท่องเที่ยว

#ทำลายการท่องเที่ยวไทย

#ควันอะไรเข้าตาตำรวจและศุลกากร

ตำรวจ และศุลกากร เป็นอุปสรรคต่อการป้องกัน และปราบปราม

บุหรี่ไฟฟ้า จริงๆ หรือเพราะว่า

1) ตำรวจท้องที่ละเลย ปล่อยให้จ่ายส่วยขายส่งบุหรี่ไฟฟ้าที่พบเห็นเกลื่อนเมืองแถว ย่านคลองถม จตุจักร และวางขายปลีกตามสถานที่ท่องเที่ยว

พบเห็นได้ทั่วไป อาทิ ย่านห้วยขวาง พัฒน์พงศ์ ปากซอยนานา ถนนสุขุมวิท ซอยทองหล่อ ถนนข้าวสาร เยาวราช  พัทยา เชียงใหม่ ภูเก็ต ฯลฯ ด้วยโทษจำคุกและปรับที่รุนแรงเพราะพิษภัยของบุหรี่ไฟฟ้าได้กลายเป็นช่องทางสบโอกาสให้ตำรวจนอกแถวใช้เป็นช่องทางเรียกรับเงินและรีดตบทรัพย์นักท่องเที่ยวต่างชาติ  เช่นกรณีดาราสาวไต้หวัน จนเสียหายมากกับชื่อเสียงของประเทศไทย

2) ด่านศุลกากร ปล่อยให้มีการนำเข้าประเทศกันแบบมโหฬาร จริงๆหรือ

เพราะการข่าวหน่วยปราบปรามด้านคุ้มครองผู้บริโภค ระบุว่า ปล่อยให้นำเข้า มาครั้งละหลายตู้คอนเทนเนอร์  พ่อค้ายอมจ่ายเงินให้เจ้าหน้าที่ทุจริตเพื่อนำผ่านด่านศุลกากร ทั้งผ่านท่าเรือกรุงเทพและด่านชายแดน โดยไม่ต้องตรวจสอบจับกุม

ดังนั้น การจับผู้ค้ารายย่อยหรือผู้พกพา หรือการร้องเรียน สคบ. จึงเป็นแค่การแก้ไขปัญหาที่ปลายเหตุ และแทบไม่มีทางสำเร็จ

การจัดการที่ถูกต้องคือต้องจัดการที่ต้นทางของปัญหา บังคับใช้กฎหมายอย่างเด็ดขาดในการห้ามนำเข้าประเทศทุกช่องทาง รวมถึงการต้องปิดเว็บไซด์และจับผู้ขายบุหรี่ไฟฟ้าออนไลน์

ตำรวจไซเบอร์ และตร.ปคบ. นั้นมีอำนาจตามกฎหมายและมีเครื่องมือ ต้องร่วมมือกันอย่างจริงจังกับสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภคในการร่วมกันสกัดกั้นและจับกุมให้เต็มประสิทธิภาพ จึงจะจัดการได้สำเร็จครับ

สมชาย แสวงการ

สมาชิกวุฒิสภา

ประธานคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพและการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา

2 ก.พ.2566

@อ้างอิงข่าว

จากกรณีข่าวตำรวจรีดไถเงิน “อันหยู๋ชิง” ดาราสาวไต้หวัน ช่วงที่เธอเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทยช่วงต้นเดือน ม.ค. 66 ด้วยข้ออ้างว่า เธอพกบุหรี่ไฟฟ้าแต่กลับกลายเป็นการเรียกรับเงินจำนวน 27,000 บาท แต่ไม่ได้ออกใบสั่งปรับข้อหาครอบครองบุหรี่ไฟฟ้าแต่อย่างใด ทำให้สังคมตั้งคำถามว่าการถือครองบุหรี่ไฟฟ้าผิดกฎหมายหรือไม่

ล่าสุดวันที่ 1 ก.พ. 66 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางไปพูดคุยกับ คุณบี (นามสมมติ) ซึ่งเธอเคยเป็นอดีตเอเย่นต์แม่ค้านำเข้าบุหรี่ไฟฟ้ารายใหญ่ของภาคอีสาน เปิดเผยว่า การนำเข้าบุหรี่ไฟฟ้าเข้ามาขายไม่ใช่เรื่องยาก แต่ต้องมีทั้งเงินและยิ่งหากเป็นคนมีสีจะยิ่งง่ายมากขึ้นไปอีก

คุณบี เล่าต่อว่า บุหรี่ไฟฟ้าที่เธอนำเข้ามาประเทศไทยตนเองจะสั่งมาจากประเทศจีนทั้งหมด โดยผ่านนายหน้าแต่ต้องเดินทางไปรับของเองที่ด่านของกรมศุลกากร โดยเธอจะสั่งบุหรี่ไฟฟ้าแบบใช้แล้วทิ้งราคาในตลาดขายอยู่ประมาณ 250 บาทขึ้นไป แต่ต้นทุนของบุหรี่ไฟฟ้าอยู่เพียงแค่ 50 บาทเท่านั้น

โดยแต่ละล็อตที่ตนสั่งนำเข้ามา มีจำนวนตั้งแต่หลัก 5,000 ไปจนถึง 10,000 แท่งต่อล็อต ซึ่งทุกครั้งเธอจะเดินทางไปเอาบุหรี่ไฟฟ้าเองที่ด่านศุลกากร โดยตนเองจะให้ผู้ส่งจากจีนคือต้นทางเอาบุหรี่ไฟฟ้าใส่กล่องบรรจุขนส่งมาให้ และให้ตีลังไม้ทับอีกชั้น เพื่อให้ยากต่อการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่และยากในการแกะลังไม้ตรวจสอบ โดยก่อนนำเข้าจะแจ้งทางศุลกากรว่า สินค้าในลังไม้คือสินค้า มอก. หรือสินค้าควบคุมพิเศษ และเมื่อถึงด่านเจอเจ้าหน้าที่ศุลกากร ตนถึงได้นำเงินสดจ่ายให้โดยตรงกับเจ้าหน้าที่ศุลกากรที่ตรวจสอบประจำด่านตรวจในเวรประจำวันนั้น ๆ

ตนเคยจ่ายเฉพาะ “ค่าน้ำชา” หรือ “ค่าส่วย” ให้เจ้าหน้าที่มีตั้งแต่ราคา 30,000 บาท ไปจนถึง 100,000 บาทต่อ 1 รอบ ไม่สามารถโอนเงินหรือส่งข้อความเป็นหลักฐานใด ๆ ทั้งสิ้นจ่ายเงินสดเท่านั้น

จากนั้นเมื่อตนจ่ายค่าน้ำชาให้เจ้าหน้าที่ศุลกากรเสร็จแล้ว เจ้าหน้าที่ก็จะไม่ตรวจอะไรเลยและปล่อยให้เธอนำสินค้าในลังไม้ซึ่งเป็นบุหรี่ไฟฟ้าเข้าประเทศไทยได้ทันทีซึ่งง่ายและสะดวกมาก

คุณบี เล่าต่อว่า เหตุผลที่ตนเองเลิกนำเข้าบุหรี่ไฟฟ้า ไม่ใช่ว่ากำไรไม่ดี  

จริง ๆ กำไรดีมากแต่ความเสี่ยงสูง เนื่องจากตนเองเป็นแค่ผู้ประกอบการธรรมดา ไม่รู้ว่าวันไหนจะถูกเจ้าหน้าที่ศุลกากรหักหลังเมื่อไหร่ เพราะบางผู้ประกอบการจ่ายส่วยให้แต่พอมีข่าวทำให้เสื่อมเสีย หรืออยู่ในช่วงเจ้าหน้าที่อยากได้ผลงานก็จะหักหลังและจับผู้ประกอบการทันทีเพื่อเอาผลงาน ทำให้ในปัจจุบันผู้ที่นำเข้าบุหรี่ไฟฟ้าได้นั้น ก็จะมีแต่พวกมีสีส่วนใหญ่หรือเป็นผู้มีอิทธิพล ซึ่งจะง่ายมากในการนำเข้าสินค้าผิดกฎหมายพวกนี้

ที่ออกมาให้ข้อมูลกับทีมข่าว เนื่องจากรู้สึกเสียใจและสงสารคนไทยที่ถูกตำรวจหรือพวกเจ้าหน้าที่มีสีนำกฎหมายที่พวกตัวเองถืออยู่มารีดไถเงินประชาชน และยิ่งไปกว่านั้นไปรีดไถชาวต่างชาติ ทำให้ภาพลักษณ์ประเทศเสียหาย ซึ่งหากจะจัดการกับบุหรี่ไฟฟ้าจริง ๆ ง่ายมาก คือต้องเข้มงวดกับการนำเข้าของผิดกฎหมายพวกนี้และออกกฎหมายให้ชัดเจนไปเลยว่า ผู้ที่ครอบครอง นำเข้าผิดกฎหมาหมด ไม่ใช่เลือกปฏิบัติ คุณบีบอกทิ้งท้าย..-005

https://www.facebook.com/plugins/post.php?href=https%3A%2F%2Fweb.facebook.com%2Fpermalink.php%3Fstory_fbid%3Dpfbid0piNNj6L4q651t7PPfS6QE9ij4QAQX2porTZvaKBPAKHjDZwCz1K8SWhcWMHKpnigl%26id%3D100044137734301&show_text=true&width=500

Share this:

  • Click to share on Skype (Opens in new window)
  • Click to share on Pocket (Opens in new window)
  • Click to share on Facebook (Opens in new window)
  • Click to share on Twitter (Opens in new window)
  • Click to share on LinkedIn (Opens in new window)
  • Click to share on Reddit (Opens in new window)
  • Click to email a link to a friend (Opens in new window)
  • More
  • Click to print (Opens in new window)
  • Click to share on Telegram (Opens in new window)
  • Click to share on Pinterest (Opens in new window)
  • Click to share on Tumblr (Opens in new window)
  • Click to share on WhatsApp (Opens in new window)

Like this:

Like Loading...
Posted in ข่าว Like สาระ, แนวหน้า | Tagged 2566(2023), ข่าว Like สาระ, แนวหน้า, naewna | Leave a reply

‘ชูวิทย์’สรุปสั้นๆ’บ่อน-ยา-หวย-ด่าน-ซ่อง’ อยากแก้’คอร์รัปชั่น’ต้องกล้าพูดความจริง

Posted on February 3, 2023 by SoClaimon
Reply

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

https://www.naewna.com/likesara/708544

'ชูวิทย์'สรุปสั้นๆ'บ่อน-ยา-หวย-ด่าน-ซ่อง' อยากแก้'คอร์รัปชั่น'ต้องกล้าพูดความจริง

‘ชูวิทย์’สรุปสั้นๆ’บ่อน-ยา-หวย-ด่าน-ซ่อง’ อยากแก้’คอร์รัปชั่น’ต้องกล้าพูดความจริง

วันศุกร์ ที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566, 09.23 น.

โจทย์ใหญ่สังคมไทย! ‘ชูวิทย์’สรุปสั้นๆ ‘บ่อน-ยา-หวย-ด่าน-ซ่อง’ อยากแก้ ‘คอร์รัปชั่น’ ต้องกล้าพูดความจริง

3 ก.พ. 2566 นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมืองและนักธุรกิจกลางคืน โพสต์คลิปวีดีโอเมื่อช่วงค่ำวันที่ 2 ก.พ. 2566 หัวข้อ “ราตรีสวัสดิ์ประเทศไทย (Good Night Thailand)” โดย นายชูวิทย์ กล่าวว่า การจะแก้ไขปัญหาคอร์รัปชั่น สังคมไทยต้องการการพูดความจริง เช่น บุหรี่ไฟฟ้า ขายกันอยู่ทั่วไปแม้แต่ข้างสถานีตำรวจ แต่กลับไปไล่จับคนสูบ ทั้งๆ ที่ใครๆ ก็สูบ แม้แต่ตำรวจก็ยังสูบ ถ้าอยากจะปราบจริงๆ ต้องไม่ให้ขาย ไม่ใช่เก็บเงินคนขายแล้วยังจะไปเก็บกับคนสูบอีก สังคมไทยต้องเปลี่ยนแกนหลัก (Core) ของวัฒนธรรม 

ดังตัวอย่างของคดีตำรวจรีดไถนักท่องเที่ยวต่างชาติ ตนก็ไม่เข้าใจว่าผู้บังคับบัญชาจะไปปกป้องลูกน้องแบบนี้เพื่ออะไร หากตนเป็นผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) คงให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้แล้วปฏิเสธว่าไม่เกี่ยวข้องมาทำหนังสือยืนยันไว้ แล้วต่อมาเมื่อมีพยานมายืนยันว่าเรียกรับผลประโยชน์จริง นอกจากจะผิดข้อหาเรียกรับผลประโยชน์แล้วยังจะเจอข้อหาให้การเท็จด้วย

“อาชีพตำรวจเป็นอาชีพที่ต้องดูแลชีวิตและความปลอดภัยทรัพย์สินของประชาชน โดยเฉพาะตำรวจนครบาล คุณอยู่กับคน 10 ล้านคน ดังนั้นคุณต้องรู้ว่าสิ่งที่คุณจะต้องจัดการคือตำรวจที่เลวๆ แต่ไม่ใช่ คุณกลับปกป้อง กลับเอาเกียรติของตำรวจมาปกป้องคนที่เป็นตำรวจรีดไถ ผมถามจริงๆ เถอะคุณทำอย่างนั้นได้ประโยชน์อะไร คุณไม่ได้ปกป้องสังคมไทย แต่คุณปกป้องตำรวจที่เลวๆ แล้วถามว่าตำรวจที่ดีๆ เขาจะทำอย่างไร” นายชูวิทย์ กล่าว

นายชูวิทย์ กล่าวต่อไปว่า วันนี้มาพูดเรื่องบ่อน เรื่องพนันอ่อนไลน์ หรือเรื่องยาเสพติดก็ต้องพูดถึงจินหลิง หรือเรื่องหวย ซึ่งตนบอกได้เลยว่า นอก กองสลากพลัส ติดคุกแน่นอน เพราะกฎหมายฟอกเงินเป็นกฎหมายปิดปาก ไม่สนใจว่าคนที่รับเงินมาจะรู้หรือไม่รู้ว่าเงินนั้นมีที่มาอย่างไร ส่วนเรื่องการตั้งด่าน คิดว่าเงิน 27,000 บาท ที่ตำรวจกลุ่มที่ถูกจับจะแบ่งกันเองแค่นั้นหรือ อย่างไรก็ต้องลงขัน ต้องแบ่งให้นายของคนเหล่านั้นแน่นอน ถามว่านี่เป็นวัฒนธรรมหรือเปล่า ก็คงไม่ใช่ แต่ที่ต้องทำเพราะต้องส่งนาย

สุดท้ายก็ต้องเป็นเรื่องซ่อง ตนทราบว่า เดอะลอร์ด ของนายกำพล ที่หนีคดีค้ามนุษย์ไปกำลังจะกลับมาปิดใหม่ ตนฝากไปถึง ผบช.น. ด้วยว่าถ้าให้เปิดอีกก็อย่ามาบอกว่าตนต้องการเล่นงาน ผบช.น. เพราะพื้นที่นครบาลอย่างไรก็ไม่พ้น 5 เรื่องนี้ บ่อน ยา หวย ด่าน ซ่อง ไม่ใช่ตนอยากพูดแต่ตนพูดตรงเกินไปจึงถูกเกลียดเพราะรู้ทัน แต่หากตนไม่พูดสังคมไทยก็ไม่ได้รับรู้

“เขารับรู้แต่เขาไม่พูด หรือก็พูดลับหลัง นี่คือสังคมไทย ถ้าคุณอยากจะปราบคอร์รัปชั่น ผมบอกให้คุณสั้นๆ ง่ายๆ วันนี้เลย คุณต้องเริ่มต้นพูดความจริง และความจริงเท่านั้นที่จะทำให้คอร์รัปชั่นหมดไปจากประเทศไทย” นายชูวิทย์ กล่าวทิ้งท้าย

https://www.facebook.com/plugins/video.php?height=314&href=https%3A%2F%2Fwww.facebook.com%2FChuvitKamolvisit%2Fvideos%2F513936847559148%2F&show_text=false&width=560&t=0

Share this:

  • Click to share on Skype (Opens in new window)
  • Click to share on Pocket (Opens in new window)
  • Click to share on Facebook (Opens in new window)
  • Click to share on Twitter (Opens in new window)
  • Click to share on LinkedIn (Opens in new window)
  • Click to share on Reddit (Opens in new window)
  • Click to email a link to a friend (Opens in new window)
  • More
  • Click to print (Opens in new window)
  • Click to share on Telegram (Opens in new window)
  • Click to share on Pinterest (Opens in new window)
  • Click to share on Tumblr (Opens in new window)
  • Click to share on WhatsApp (Opens in new window)

Like this:

Like Loading...
Posted in ข่าว Like สาระ, แนวหน้า | Tagged 2566(2023), ข่าว Like สาระ, แนวหน้า, naewna | Leave a reply

เดือดอีก! นักธุรกิจกัมพูชาโพสต์ใครล้ม‘บัวขาว’ได้ เอาไปเลย‘บ้าน-รถ-เงิน’

Posted on February 3, 2023 by SoClaimon
Reply

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

https://www.naewna.com/likesara/708519

เดือดอีก! นักธุรกิจกัมพูชาโพสต์ใครล้ม‘บัวขาว’ได้ เอาไปเลย‘บ้าน-รถ-เงิน’

เดือดอีก! นักธุรกิจกัมพูชาโพสต์ใครล้ม‘บัวขาว’ได้ เอาไปเลย‘บ้าน-รถ-เงิน’

วันพฤหัสบดี ที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566, 20.56 น.

เดือดอีก! นักธุรกิจกัมพูชาโพสต์เฟซบุ๊กถึงนักมวยเพื่อนร่วมชาติ ใครล้ม”บัวขาว”ได้ เอาไปเลย”บ้าน-รถ-เงิน”

เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2566 ยังคงเป็นดรามาต่อเนื่องระหว่าง 2 ประเทศ อย่างไทยและกัมพูชา ในข้อถกเถียงการเรียกศิลปะการต่อสู้ท้องถิ่นซึ่งไทยเรียกว่า “มวยไทย” ส่วนกัมพูชาเรียกว่า “กุน ขแมร์” อีกทั้งกัมพูชายังนำกีฬาดังกล่าวไปใส่ไว้ในมหกรรมกีฬาซีเกมส์ครั้งที่ 32 ซึ่งกัมพูชาเป็นเจ้าภาพในเดือน พ.ค.2566 สร้างความไม่พอใจกับฝ่ายไทย เนื่องจากที่ผ่านมาชาติอาเซียนตกลงเรียกกีฬาชนิดนี้ว่ามวย หรือ “คิกบ็อกซิง”

ล่าสุด Srey Chanthorn นักธุรกิจชาวกัมพูชา ได้โพสต์เฟซบุ๊กเป็นภาษาเขมร ซึ่งระบบแปลภาษาถอดความออกมาได้ว่า “ไม่เป็นไร เขมรไม่เอา นายบุคว ในนามผม รองประธานกิตติมศักดิ์ สหพันธ์มวยเขมร กัมพูชาก็มีคนแข็งแกร่ง ถ้าเขมรไวบุขาวชนะ จะให้บ้านพัก รถ และเงินเสริม 10 ปี นี่คือกําลังใจให้นักเตะเขมรสู้เพื่อแผ่นดินเกิดของเรา ฉันรักกัมพูชา”

ซึ่งก่อนหน้านี้ เคยมีประเด็นดรามาที่ บัวขาว บัญชาเมฆ นักมวยคนดังของไทย ได้ออกมาประกาศผ่านสื่อว่า ตนเป็นชาวไทย ไม่ใช่กัมพูชา (ข่าวที่เกี่ยวข้อง : ‘บัวขาว’ร่ายยาวยันเป็นคนไทยเชื้อสายกูย หลังแฟน‘กุน ขแมร์’บอกเป็นเขมร)

– 006

https://www.facebook.com/plugins/post.php?href=https%3A%2F%2Fwww.facebook.com%2Fpermalink.php%3Fstory_fbid%3Dpfbid0t4esJQN2ZVdkzQqAnAgfaqNndbHwpp8UnikemEr8wU5bDGgrZqSeLgJrdbqC4G8il%26id%3D100009021036427&width=500&show_text=true&height=679&appId

Share this:

  • Click to share on Skype (Opens in new window)
  • Click to share on Pocket (Opens in new window)
  • Click to share on Facebook (Opens in new window)
  • Click to share on Twitter (Opens in new window)
  • Click to share on LinkedIn (Opens in new window)
  • Click to share on Reddit (Opens in new window)
  • Click to email a link to a friend (Opens in new window)
  • More
  • Click to print (Opens in new window)
  • Click to share on Telegram (Opens in new window)
  • Click to share on Pinterest (Opens in new window)
  • Click to share on Tumblr (Opens in new window)
  • Click to share on WhatsApp (Opens in new window)

Like this:

Like Loading...
Posted in ข่าว Like สาระ, แนวหน้า | Tagged 2566(2023), ข่าว Like สาระ, แนวหน้า, naewna | Leave a reply

ย้อนดูคำสอน ‘หลวงพ่อคูณ’ ที่เคยกล่าวเตือนสติข้าราชการ นักการเมืองเอาไว้?

Posted on February 3, 2023 by SoClaimon
Reply

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

https://www.naewna.com/likesara/708500

ย้อนดูคำสอน 'หลวงพ่อคูณ' ที่เคยกล่าวเตือนสติข้าราชการ นักการเมืองเอาไว้?

ย้อนดูคำสอน ‘หลวงพ่อคูณ’ ที่เคยกล่าวเตือนสติข้าราชการ นักการเมืองเอาไว้?

วันพฤหัสบดี ที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566, 19.09 น.

พระเทพวิทยาคม หรือ หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ อดีตเจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา เคยกล่าวเตือนสติข้าราชการ นักการเมือง เอาไว้ว่า “…กูเป็นพระไทย พ่อแม่ของกูก็เป็นคนไทย กูก็เป็นเจ้าของแผ่นดินไทยคนหนึ่งเหมือนกัน กูก็รัก แผ่นดินไทยไม่น้อยกว่าคนอื่น อะไรไม่ดีกูก็ติ อะไรไม่ถูกกูก็ว่า กูจะไม่เฉยๆเหมือนหลายๆคน เฉยเพราะคิดว่าไม่ใช่เรื่องของตัว เรื่องการเมือง เรื่องยาบ้า เรื่องคนโกงกิน ไม่ได้เกี่ยวกับพระอย่างกูเลยแม้แต่น้อย กูต้องพูดออกมา ออกมาเทศน์เตือนสติกันอยู่บ่อยๆ เพราะว่าหลายคนนั้นฟังชนิดที่เรียกว่า เข้าหูซ้าย ทะลุหูขวา แล้วเลยไปเข้าหูไอ้ตูบ มิฉะนั้นนักการเมืองโกงชาติจะเพิ่มขึ้น คนผลิต คนค้า และคนเสพยาบ้ากันมากขึ้น เมื่อมีคนชั่วอยู่เต็มบ้าน เต็มเมือง พระอย่างกูอาจจะไม่มีคนใส่บาตรข้าวให้กิน กูอาจจะไม่มีที่ซุกหัวนอน ที่ร้ายไปกว่านั้นอาจไม่มีวัดให้อยู่ก็อาจเป็นได้

พระไม่ใช่ว่าจะดีไปทุกองค์ นักการเมืองก็ใช่ว่า จะดีไปทุกคน รวมไปถึงข้าราชการใช่ว่าจะมีแต่คนดี ทุกๆสังคม ทุกๆวงการ ย่อมมีทั้งคนดี คนชั่ว คนเลว อยู่รวมกัน แต่ทุกวันนี้ดูๆแล้วคนชั่วจะมีมากกว่าคนดี พระอย่างกูอาจจะไม่ดีกว่าพระองค์อื่นๆนัก เพียงแต่กู ไม่เก็บสะสมทรัพย์สิน เงินทองที่ญาติโยมถวายมา กูก็ไปทำบุญสร้างสาธารณประโยชน์อีกทอดหนึ่ง เดี๋ยวนี้แผ่นดินไทย เมืองไทย มีการปกครองไม่เหมือน ในอดีต นักการเมืองกลายเป็นเจ้าประเทศ นักการเมือง เป็นนักปกครองประชาชนไปเสียแล้ว นักการเมือง จะพูดอะไร ข้าราชการทุกระดับต้องเชื่อฟังไปหมด

ถ้านักการเมืองไปเยี่ยมหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่ง ข้าราชการหน่วยงานนั้น ต้องวิ่งหัวซุกหัวซุนไปต้อนรับ ขับสู้เอาใจมัน ราวกับว่านักการเมืองคนนั้นเป็นโคตรพ่อโคตรแม่ของข้าราชการ ทั้งๆ ที่ก่อนการเลือกตั้ง นักการเมืองมันมากราบไหวเราราวกับพ่อแม่ของมัน แต่พอมันได้รับเลือกตั้ง มันกลับทำตัวเป็นพ่อแม่ของเรา นักการเมืองมีหน้าที่รับใช้ประชาชน ไม่แตกต่างกับ พวกข้าราชการ แต่นักการเมืองเขากลับทำตัวเป็นใหญ่ ในแผ่นดิน เขาปกครองข้าราชการทุกระดับ ถ้าใครไม่ทำงานสนองนโยบาย หรือไปขวางทางกินมันมันก็เด้ง มันก็ย้ายให้ไปอยู่ในถิ่นทุรกันดาร ชนิดไม่ให้เห็นดาวเดือนกันเลยทีเดียว…” – 003 

Share this:

  • Click to share on Skype (Opens in new window)
  • Click to share on Pocket (Opens in new window)
  • Click to share on Facebook (Opens in new window)
  • Click to share on Twitter (Opens in new window)
  • Click to share on LinkedIn (Opens in new window)
  • Click to share on Reddit (Opens in new window)
  • Click to email a link to a friend (Opens in new window)
  • More
  • Click to print (Opens in new window)
  • Click to share on Telegram (Opens in new window)
  • Click to share on Pinterest (Opens in new window)
  • Click to share on Tumblr (Opens in new window)
  • Click to share on WhatsApp (Opens in new window)

Like this:

Like Loading...
Posted in ข่าว Like สาระ, แนวหน้า | Tagged 2566(2023), ข่าว Like สาระ, แนวหน้า, naewna | Leave a reply

วาเลนไทน์…พาหัวใจไปทะเล…พักอิงแอบแนบชิดธรรมชาติ

Posted on February 3, 2023 by SoClaimon
Reply

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

https://www.naewna.com/likesara/708466

วาเลนไทน์...พาหัวใจไปทะเล...พักอิงแอบแนบชิดธรรมชาติ

วาเลนไทน์…พาหัวใจไปทะเล…พักอิงแอบแนบชิดธรรมชาติ

วันพฤหัสบดี ที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566, 17.44 น.

เข้าสู่เดือนแห่งความรักประจำปี 2566 หลายคู่รักต่างหัวใจพองโต เตรียมหาของขวัญมาเซอร์ไพรส์ให้แก่กัน ส่วนใครที่ยังไม่มีคู่ก็อย่าได้แคร์ มามอบความรักให้กับตัวเอง ครอบครัว หรือกลุ่มเพื่อน ด้วยการหาเวลาว่างพาหัวใจไปชาร์ทพลัง โดย “มาคาเลียส” (Makalius) แหล่งรวมอี-วอเชอร์ที่พัก ร้านอาหาร สถานที่ท่องเที่ยว อันดับ 1 ของประเทศไทย ขอแนะนำที่พักให้คนที่มีความรักทุกคนได้พาคนรักไปเที่ยวทะเลอิงแอบแนบชิดกับธรรมชาติเพื่อชาร์ทพลังให้กับร่างการและจิตใจ

เริ่มกันที่ Dusit Thani Pattaya (โรงแรมดุสิตธานี พัทยา) ขับรถออกจากกรุงเทพฯ แค่เพียง 2 ชั่วโมงก็ถึงจุดหมายปลายทาง โดยโรงแรมดุสิตธานี พัทยา ถือเป็นโรงแรมระดับ 5 ดาว จึงทำให้มั่นใจได้ว่าถ้าพาคู่รักหรือคนที่รักมาใช้บริการต่างต้องแฮปปี้อย่างแน่นอน และที่สำคัญคือได้ชาร์ทพลังกับธรรมชาติแบบเต็มๆ เพราะเพียงแค่ก้าวเท้าเข้ามายังโถ่งกลางของโรงแรมก็สามารถสัมผัสถึงธรรมชาติได้ทันที เพราะทางโรงแรมได้ยกน้ำตกกลางป่ามาไว้ใจกลางล็อบบี้ เท่านั้นยังไม่พอโรงแรมแห่งนี้ยังคงความเป็นธรรมชาติด้วยการเพิ่มสวนสีเขียวให้กระจายตัวอยู่บนพื้นที่กว่า 40 ไร่และที่สำคัญยังติดทะเลอีกด้วย จะเลือกนั่งพักผ่อนชิลๆ หรือจะเดินเล่นริมหาด บอกได้เลยว่าความฟินเต็มปอด ส่วนเรื่องห้องพักก็มีให้เลือกใช้บริการกว่า 457 ห้อง ถูกใจทุกไลฟ์สไตล์อย่างแน่นอน

ถ้าใครอยากได้ความเป็นส่วนตัวแบบชิดติดธรรมชาติต้องที่ Forest Pool Villas by IP Plus (เดอะ ฟอเรสต์ พูลวิลล่า พัทยา) พูลวิลล่าสไตล์บาหลี ไม่ว่าจะหันไปทางไหนก็เจอกับความเขียวขจีของธรรมชาติแบบเต็มๆ ที่สำคัญคือสามารถมากับคู่รักหรือมากันเป็นครอบครัวก็ได้ เพราะมีห้องพักให้เลือกหลายขนาด และทุกขนาดมีสระว่ายน้ำและลานกิจกรรมส่วนตัว เรียกได้ว่ามาพักที่นี่แทบจะไม่ต้องออกไปเที่ยวที่ไหนเลย เพราะมีกิจกรรมให้ทำมากมาย ทั้งการปิ้งย่างบาบีคิว หรือจะเลือกถ่ายรูปสวยๆ กับสระส่วนตัว แบบไม่ต้องแคร์สายตาใคร

อีกหนึ่งที่พักที่พลาดไม่ได้คือ The Gems Mining Pool Villas Pattaya (เดอะเจมส์ ไมนิ่ง พูลวิลล่า พัทยา) ก่อนอื่นต้องบอกเลยว่าที่นี่ใช้คอนเซปต์ในการออกแบบตกแต่งที่สะท้อนความเป็นเหมืองแร่อัญมณีในแอฟริกาใต้ เพียงแค่เดินเข้ามาก็สัมผัสได้ถึงความหรูหราด้วยการใช้สีสันตามสีของอัญมณีที่มาพร้อมกับธรรมชาติในแบบป่าแอฟริกา ที่สำคัญคือห้องพักเกือบทุกห้องมีสระว่ายน้ำส่วนตัวพร้อมด้วยอ่างจากุซซี่ขนาดใหญ่ให้บริการ อีกทั้งยังมีกิจกรรมเอาท์ดอร์ อย่างการขี่สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าชมธรรมชาติให้บริการอีกด้วย ด้านอาหารเช้าที่นี่ก็โดดเด่นไม่แพ้ที่ไหนๆ เพราะจะใช้วิธีการเสิร์ฟแทนการตักแบบไลน์บุฟเฟ่ต์ มีให้เลือกหลากหลายเมนู ทั้ง ข้าวเหนียวหมูปิ้ง โจ๊ก ต้มเลือดหมู ก๋วยจั๊บน้ำข้นหมูกรอบ ไข่เบเนดิกต์ แซนด์วิซร้อนฝรั่งเศส และอีกมากมาย

ปิดท้ายที่ Wora Bura Hua Hin Resort and Spa (วรบุระ หัวหิน รีสอร์ทแอนด์สปา หัวหิน) ถ้าเอ่ยถึงที่พักสุดโรแมนติกติดริมทะเลต้องมีชื่อ วรบุระ หัวหิน ติดโผล่อย่างแน่นอน เพราะสถานที่แห่งนี้ถูกออกแบบมาด้วยแรงบันดาลใจจากพระราชวัง 3 แห่ง ในยุครัตนโกสินทร์ ความสวยงามและความอ่อนช้อยแบบไทยที่โอบล้อมด้วยธรรมชาติทำให้กลายเป็นที่พักสุดโรแมนติดที่หลายคู่รักเลือกมาพักผ่อน อีกทั้งยังมีชายหาดส่วนตัวให้เดินเล่นชมพระอาทิตย์ตกดิน หรือจะเหลือนั่งชิลริมหาดฟังเสียงคลื่นรับรองได้เลยว่าจะช่วยทำให้จิตใจสงบพร้อมชาร์ทพลังให้กับร่างกายได้อย่างเต็มที่

สำหรับใครที่กำลังมีแพลนจะพาคนที่รักไปพักผ่อนชาร์ทพลังให้กับร่างกายและจิตใจ แต่ยังไม่มีที่พัก สามารถแวะมาจองห้องพักพร้อมโปรโมชั่นสุดพิเศษได้ตั้งแต่วันนี้ที่ “มาคาเลียส” (Makalius) แหล่งรวมอี-วอเชอร์ที่พัก ร้านอาหาร สถานที่ท่องเที่ยว อันดับ 1 ของประเทศไทย ที่มีให้เลือกมากมาย คลิกดูรายละเอียดเพิ่มเติม ที่ http://www.makalius.co.th สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 02 821 5215  หรือ Line Official @makalius           

Share this:

  • Click to share on Skype (Opens in new window)
  • Click to share on Pocket (Opens in new window)
  • Click to share on Facebook (Opens in new window)
  • Click to share on Twitter (Opens in new window)
  • Click to share on LinkedIn (Opens in new window)
  • Click to share on Reddit (Opens in new window)
  • Click to email a link to a friend (Opens in new window)
  • More
  • Click to print (Opens in new window)
  • Click to share on Telegram (Opens in new window)
  • Click to share on Pinterest (Opens in new window)
  • Click to share on Tumblr (Opens in new window)
  • Click to share on WhatsApp (Opens in new window)

Like this:

Like Loading...
Posted in ข่าว Like สาระ, แนวหน้า | Tagged 2566(2023), ข่าว Like สาระ, แนวหน้า, naewna | Leave a reply

สนั่นโซเชียล!! พระต่างวัดยืนทับรอยบิณฑบาต ถูกพระอีกวัดด่าบุพการี-พูดหยาบ

Posted on February 3, 2023 by SoClaimon
Reply

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

https://www.naewna.com/likesara/708463

สนั่นโซเชียล!! พระต่างวัดยืนทับรอยบิณฑบาต ถูกพระอีกวัดด่าบุพการี-พูดหยาบ

สนั่นโซเชียล!! พระต่างวัดยืนทับรอยบิณฑบาต ถูกพระอีกวัดด่าบุพการี-พูดหยาบ

วันพฤหัสบดี ที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566, 17.34 น.

สนั่นโซเซียล! สาวโพสต์คลิปพระวัดดัง จ.ตรัง ยืนชี้หน้าด่าบุพการี-หยาบคายใส่พระต่างวัด ขณะยืนบิณฑบาตหน้า รพ.ตรัง ชาวเน็ตวิจารณ์ยับถึงความไม่เหมาะสม ล่าสุดพระรูปดังกล่าวออกชี้แจง รับผิดโมโหเพราะมายืนทับรอยบิณฑบาต และชอบเดินไปมาดักสาธุชนที่มาใส่บาตร

2 ก.พ.66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ใช้เฟสบุ๊ก Ilada Temprom ได้โพสต์คลิปพระวัดแห่งหนึ่งยืนด่าพระอีกรูปหนึ่งด้วยถ้อยคำหยาบคายในขณะยืนบิณฑบาต พร้อมทั้งระบุข้อความว่า “คุณพระคุณเจ้า การทำบุญมันก็เเล้วที่ผู้มีจิตศรัทธาสิคะ เขาจะใส่บาตรองค์ไหนก็ขึ้นอยู่ที่ว่า เขารักและศรัทธาในพระพุทธศาสนา และในพระรูปนั้น เกิดมาไม่เคยเจอ นี้พ่อหลวงบอกไม่เชื่อมาดูด้วยตัวเอง ไม่ได้ประจานแต่อยากให้ทุกคนเห็น เมืองตรังมีพระด่า ยม. และใช้คำไม่สุภาพ เพียงเพราะ มีพระอีกองค์มายืนบาตรที่เดียวกัน พระอีกองค์เขายืนตรงนี้มาก่อนเป็น3-4 ปีแล้ว แต่หยุดมายืนไปเพราะไม่ค่อยสบายและไม่เวลา พอกลับมายืนใหม่ถูกพระที่มายืนเเทนใหม่ด่า มันสมควรแล้วไมคะ ตาหลวง” ซึ่งภายหลังจากมีการโพสต์ออกไปแล้ว ต่างมีการแชร์และวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างล้นหลามถึงความไม่เหมาะสม

ต่อมาผู้สื่อข่าวประจำ จ.ตรัง ได้ติดต่อเจ้าของเฟสบุ๊กที่โพสต์เรื่องราวดังกล่าวจนทราบว่าคือ น.ส.ไอลดา ซึ่งเป็นลูกสาวของพระลูกวัดที่ถูกด่าที่ปรากฏอยู่รูปทางด้านขวามือในคลิป โดย น.ส.ไอลดา ได้นำไปชี้จุดเกิดเหตุ ซึ่งอยู่หน้า รพ.ตรัง (เขตเทศบาลนครตรัง) น.ส.ไอลดาฯ กล่าวว่า ช่วงเช้าจะมีพระยืนอยู่ 2 รูป ซึ่งรูปที่เป็นพ่อของตนมายืนก่อน โดยต่างยืนกันคนละฝั่ง โดยที่พ่อตนไม่สบายไม่ได้มายืนบาตรตรงนี้ประมาณ 1 ปีกว่าๆแล้ว ทำให้พระรูปดังกล่าว ซึ่งเป็นพระอีกวัดมายืนแทนที่

โดยที่พ่อของตนเพิ่งจะกลับมายืนได้ 2 วัน คือเมื่อวานนี้ และวันนี้ และตอนนี้ที่เกิดเหตุตนยืนอยู่ด้วย พระรูปนั้นก็ได้มายืนด่าพ่อตน โดยด่าถึงบุพการี และถ้อยคำหยาบคาย และมากล่าวหาว่าไม่มีบัตรพระบ้าง อะไรบ้าง รวมทั้งด่าเสียๆหายๆ เวลาประมาณ 2-3 นาที แต่ตนได้ถ่ายคลิปไว้ได้เพียงแค่นั้น สาเหตุตนคิดว่าเพราะพระรูปดังกล่าวไม่พอใจในเรื่องของรายได้ ส่วนใหญ่แล้วคนที่มาใส่บาตรก็จะใส่ปัจจัยมาให้ด้วย ซึ่งอาจจะทำให้รายได้ของพระรูปนั้นรายได้ลดลงไป หากพูดง่ายตามประสาชาวบ้านก็คือขัดผลประโยชน์กัน และยืนยันว่าทั้งคู่ไม่เคยมีปัญหากันมาก่อน

ที่ตนได้โพสต์ลงเฟสบุ๊ก เพราะรู้สึกแย่ คนที่อยู่ในผ้าเหลือง สำหรับเราชาวพุทธ คนที่จะมาใส่บาตรเขาไม่ได้ศรัทธาในตัวพระ แต่ศรัทธาในศาสนา และใครจะใส่บาตรคนไหน อยากจะไปวัดไหน ก็เป็นสิทธิของเขา และไม่สามารถไปบังคับใครได้ ซึ่งเหตุการณ์นี้ดูแล้วไม่เหมาะสม ไม่น่าจะอยู่ในผ้าเหลือง เพราะคนในผ้าเหลืองต้องสำรวม ซึ่งในการโพสต์ไม่ได้อยากได้ยอดแชร์ ยอดไลน์ และที่ทราบมาคือเมื่อวานนี้พระรูปดังกล่าวก็ได้ด่าพ่อตนแล้วด้วยเป็นครั้งที่ 2

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบกับพระรูปดังกล่าว บวชประมาณ 10 พรรษา ซึ่งเป็นพระที่ปรากฏในคลิปทางด้านซ้ายมือ ที่เป็นด่า กล่าวว่า ตนไม่เคยรู้จักกับหลวงกุ๊กมาก่อน แต่เคยได้ยินข่าวคราวมาบ้าง โดยเมื่อก่อนหลวงศักดิ์ยืนบิณฑบาตอยู่หน้า รพ.ตรัง แต่ได้หายไปประมาณ 4-5 เดือนแล้ว ก่อนจะกลับมายืนใหม่ ซึ่งตนก็ได้ยืนบิณฑบาตอยู่หน้า รพ.ตรังได้ประมาณ 2 เดือน พอหลวงศักดิ์กลับมาครั้งนี้ก็มายืนดักหน้าอาตมาเลย และจะชอบเดินไปเดินมา ซึ่งเมื่อญาติโยมเดินออกมาจาก รพ.ตรัง ก็จะมาใส่กับหลวงศักดิ์เนื่องจากยืนอยู่ตรงกับทางม้าลาย ถ้าหากแกยืนอยู่ที่แก อาตมายืนที่อาตมาก็จะไม่มีปัญหา แต่นี่แกกลับเดินไปมา ตัดหน้า เพื่อดักญาติโยมเพื่อให้ใส่กับแก อาตมาก็พูดดีๆแล้วว่าอย่าเดินไปเดินมา แต่แกก็ยังกระทำเหมือนเดิม และตนก็ได้ถามว่าเมื่อก่อนนี้หลวงศักดิ์เคยโดนจับสึกมาก่อน เพราะแกไปลวนลามลูกศิษย์ซึ่งเป็นหญิงสาว จนแกเคยโดนแฟนของหญิงสาวรายนั้นมาทำร้าย จนมีการสึกออกจากผ้าเหลือง ซึ่งก็อยากเรียกร้องให้ทางเจ้าคณะอำเภอเข้ามาตรวจสอบด้วยว่าหลวงศักดิ์เป็นพระจริง มีใบสุทธิหรือไหม ยอมรับว่าโมโห และยืนยันว่าไม่เคยมีปัญหากันมาก่อน ยอมรับว่าไม่เหมาะสมเพราะไม่เหมาะสม แต่พูดดีๆกันแล้วกลับไม่ฟัง

ขณะที่ พระมหานุกูล นารโท เจ้าอาวาสวัดควนขัน กล่าวว่า ตนก็ได้เห็นคลิปแล้ว ก็เห็นว่าหลวงกุ๊กใช้วาจาคำหยาบไป ก็ได้เรียกพระกุ๊กมาตักเตือนเรื่องการใช้คำหยาบแล้ว เพราะไม่เหมาะสม ต่อไปก็จะต้องให้ใช้วาจาที่สุภาพ เพราะการเป็นพระจะต้องใช้วาจาที่สมณะ เป็นพระต้องมีวินัยของพระ เป็นสมณสารูป ในทางพระการกระทำแบบนี้มีความผิด ทางปาจิตตีย์ 1 ใน 92 ข้อ อยู่ในหมวดคำพูดคือวิวาทวรรค แต่โทษไม่รุนแรงเท่าไร โทษขั้นแรกสุดคือการว่ากล่าวตักเตือน

อย่างไรก็ตามผู้สื่อข่าวจะได้มีการสอบถามไปทางหลวงศักดิ์ ที่มีการถูกกล่าวหาว่าไม่ได้เป็นพระจริง เนื่องจากถูกจับสึกและปาราชิกไปแล้ว ว่าเป็นจริงตามการกล่าวหาหรือไม่อย่างไร ข่าวคืบหน้าจะรายงานให้ทราบต่อไป.-008

Share this:

  • Click to share on Skype (Opens in new window)
  • Click to share on Pocket (Opens in new window)
  • Click to share on Facebook (Opens in new window)
  • Click to share on Twitter (Opens in new window)
  • Click to share on LinkedIn (Opens in new window)
  • Click to share on Reddit (Opens in new window)
  • Click to email a link to a friend (Opens in new window)
  • More
  • Click to print (Opens in new window)
  • Click to share on Telegram (Opens in new window)
  • Click to share on Pinterest (Opens in new window)
  • Click to share on Tumblr (Opens in new window)
  • Click to share on WhatsApp (Opens in new window)

Like this:

Like Loading...
Posted in ข่าว Like สาระ, แนวหน้า | Tagged 2566(2023), ข่าว Like สาระ, แนวหน้า, naewna | Leave a reply

‘พระธาตุพนม’ศักดิ์สิทธิ์พบชื่อ’บิ๊กอู๋’ในบัญชีเป็นลูกพระธาตุพนมลำดับ 979

Posted on February 3, 2023 by SoClaimon
Reply

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

https://www.naewna.com/likesara/708441

'พระธาตุพนม'ศักดิ์สิทธิ์พบชื่อ'บิ๊กอู๋'ในบัญชีเป็นลูกพระธาตุพนมลำดับ 979

‘พระธาตุพนม’ศักดิ์สิทธิ์พบชื่อ’บิ๊กอู๋’ในบัญชีเป็นลูกพระธาตุพนมลำดับ 979

วันพฤหัสบดี ที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566, 17.06 น.

“พระธาตุพนม” วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร พระอารามหลวง อำเภอธาตุพนม ศักดิ์สิทธิ์ พบชื่อ ‘บิ๊กอู๋-พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์” ในบัญชีเป็นลูกพระธาตุพนมลำดับ 979 เผยคุณแม่อยากมีลูกชายขอพรองค์พระธาตุสมหวัง เชื่ออานิสงส์ลูกพระธาตุพนมนำสู่ความเจริญก้าวหน้า

วันที่ 2 ก.พ.66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร พระอารามหลวง อ.ธาตุพนม จ.นครพนม ถือเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง อายุเก่าแก่กว่า 2,500 ปีภายในบรรจุพระอุรังคธาตุ กระดูกส่วนหน้าอกของพระพุทธเจ้าเป็นปูชนียสถานที่สำคัญมีพุทธศาสนิกชนสองฝั่งแม่น้ำโขง เดินทางมากราบไหว้บูชา ขอพรตามประเพณีความเชื่อที่สำคัญอาจจะมีหลายคนยังไม่รู้เกี่ยวกับความศักดิ์สิทธิ์ขององค์พระธาตุพนมนอกเหนือจากขอโชคลาภ ความเจริญในหน้าที่การงาน ยังมีสิ่งหนึ่งที่ข้าโอกาสพระธาตุพนมมาขอพรแล้ว สมหวังทุกรายคือ การขอลูกจากพระธาตุพนม โดยเฉพาะคนที่มีบุตรยาก

ทั้งนี้ พระครูพนมปรีชากร หรือ พระครูไก่ อายุ 47 ปี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระธาตุพนมฯนำหลักฐานสมุดบันทึกออกมายืนยันว่ามีการขึ้นบัญชีลูกพระธาตุพนม สำหรับคนที่มีพ่อแม่ผู้ปกครองมาขอพรจากองค์พระธาตุพนมหลังมีบุตรยากและสมหวังได้บุตรสมใจ พร้อมกับมีการขึ้นบัญชีลูกพระธาตุพนมไว้ตั้งแต่ปี 2532 ปัจจุบัน มีมากกว่า 2,000 คน

ส่วนบุคคลสำคัญที่มีชื่อเสียงและเป็นลูกหลานชาว จ.นครพนม คือ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ปัจจุบันเป็นสมาชิกวุฒิสภาโดยมีการขึ้นบัญชีเป็นลูกพระธาตุพนมลำดับที่ 979 เมื่อปี พ.ศ.2497

โดยพระครูพนมปรีชากร หรือพระครูไก่ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระธาตุพนมฯ เปิดเผยว่า ต้องยอมรับว่าองค์พระธาตุพนมเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ มีพลังศรัทธามากราบไหว้บูชาขอพรไม่ขาดสาย และได้สมหวังทุกประการ หากมีบุญวาสนา แม้กระทั่งคนมีบุตรยาก เคยมาขอพรกับองค์พระธาตุพนม ยังสมหวังทุกราย ถือเป็นประเพณีความเชื่อ ที่มีหลักฐานบันทึกไว้ชัดเจน

ก่อนนี้เคยมีโยมลูกศิษย์วัดพระธาตุพนมฯ เคยลงบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษรไว้ในการขึ้นทะเบียนลูกพระธาตุพนมมาแต่โบราณ จากนั้นต่อมาเมื่อปี 2532 จึงได้มีการจัดทำการขึ้นทะเบียนเป็นรูปแบบที่ชัดเจน สำหรับพ่อแม่ผู้ปกครองที่มาขอพรจากองค์พระธาตุพนมเพื่อขอบุตร หลังสมหวังมีบุตร และคลอดบุตรออกมา จะต้องมาแก้บนตามประเพณีความเชื่อ แล้วแต่ใครจะถวายเครื่องสักการะ รวมถึงปัจจัยตามกำลังศรัทธา พร้อมขึ้นทะเบียนประวัติ ครอบครัว รายชื่อ ลำดับไว้เป็นหลักฐาน ทำให้ปัจจุบันมีหลักฐานการขึ้นทะเบียนลูกพระธาตุพนม มากกว่า 2,000 คน 

ส่วนคนที่มีชื่อเสียง เคยมีตำแหน่งหน้าที่การงานระดับชาติ คือ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ฯลฯ โดยมารดาของท่านเคยมาขอพรกับองค์พระธาตุพนมและได้สมหวัง จึงได้ขึ้นบัญชีไว้เมื่อปี 2497 เป็นลูกพระธาตุพนม ลำดับที่ 979 ส่วนการขอไม่มีพิธียุ่งยาก จะมีพระสงฆ์ที่เคยทำพิธีพาสวดมนต์ขอพร มีดอกไม้ ธูป เทียนขาว ขันธ์ 5 ขันธ์ 8 นำประกอบพิธีสวดมนต์ กล่าวคำนมัสการและอธิษฐานขอพร เมื่อสมหวังมีบุตรแล้วจะต้องมากราบขอพร แก้บนตามกำลังศรัทธาและขึ้นทะเบียนไว้ในบัญชีลูกพระธาตุพนม เชื่อกันว่าลูกพระธาตุพนมช่วงเป็นเด็กจะเลี้ยงยาก บางคนดื้อมาก แต่พอโตขึ้นมาจะมีหน้าที่การงานดี เจริญรุ่งเรืองทุกคน

ด้าน พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว อายุ 68 ปี อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ปัจจุบันเป็นสมาชิกวุฒิสภา ลูกพระธาตุพนม ลำดับที่ 979 เปิดเผยว่า ตั้งแต่โตขึ้นมาคุณแม่ เคยเล่าให้ฟังเสมอว่า ตนเป็นลูกพระธาตุพนม เนื่องจากคุณแม่รับราชการครู คุณพ่อค้าขาย มีบุตรทั้งหมด 7 คน ตนเป็นบุตรคนที่ 4 ในครอบครัว พ่อแม่มีความศรัทธาต่อองค์พระธาตุพนมมาก หลังจากพ่อแม่มีบุตร คือพี่สาวทั้ง 3 คนก็อยากได้ลูกชาย จึงมาขอพรองค์พระธาตุพนม ได้ตนเป็นบุตรคนที่ 4 สมหวังจากการขอพรองค์พระธาตุพนม และมีน้องสาวอีก 3 คน

โดยคุณแม่เล่าให้ฟังตั้งแต่เกิดว่าเป็นลูกพระธาตุพนม เลี้ยงยากตีไม่ได้ จะป่วยเป็นไข้ทันที จนกระทั่งเติบโตมาได้มีความศรัทธาในองค์พระธาตุพนมตลอด เชื่อว่าบุญบารมีองค์พระธาตุพนม ทำให้ตนมีหน้าที่การงานที่ดี รับราชการตำรวจ เคยทำงานในพื้นที่สีแดง อ.นาแก จ.นครพนม รวมถึงรับราชการในพื้นที่ชายแดนใต้หลายปี แต่แคล้วคลาดปลอดภัยตลอด เป็นความเชื่อว่าองค์พระธาตุพนมคุ้มครอง และไม่คิดว่าจะมาถึงวันนี้ มีหน้าที่การงานรับราชการในตำแหน่งที่ดีมาตลอด

พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว กล่าวต่อว่า สิ่งสำคัญในความตั้งมั่นคติประจำใจ ส่วนตัวคือจะต้องคิดดีทำดี และมีความกตัญญูต่อผู้มีพระคุณ ทุกครั้งมีโอกาสจะมากราบขอพรองค์พระธาตุพนม โดยเฉพาะในช่วงงานนมัสการองค์พระธาตุพนม จะมาร่วมทุกปี มีพลังศรัทธาทั้งชาวไทยชาวลาว ชาวพุทธทั่วสารทิศเดินทางมากราบไหว้ขอพร ภาคภูมิใจมากที่เกิดเป็นลูกพระธาตุพนม – 003

Share this:

  • Click to share on Skype (Opens in new window)
  • Click to share on Pocket (Opens in new window)
  • Click to share on Facebook (Opens in new window)
  • Click to share on Twitter (Opens in new window)
  • Click to share on LinkedIn (Opens in new window)
  • Click to share on Reddit (Opens in new window)
  • Click to email a link to a friend (Opens in new window)
  • More
  • Click to print (Opens in new window)
  • Click to share on Telegram (Opens in new window)
  • Click to share on Pinterest (Opens in new window)
  • Click to share on Tumblr (Opens in new window)
  • Click to share on WhatsApp (Opens in new window)

Like this:

Like Loading...
Posted in ข่าว Like สาระ, แนวหน้า | Tagged 2566(2023), ข่าว Like สาระ, แนวหน้า, naewna | Leave a reply

ชาวระยองแห่เผาข้าวหลามทำบุญข้าวใหม่เดือนสามฟื้นวัฒนธรรมประเพณีดั้งเดิม

Posted on February 3, 2023 by SoClaimon
Reply

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

https://www.naewna.com/likesara/708430

ชาวระยองแห่เผาข้าวหลามทำบุญข้าวใหม่เดือนสามฟื้นวัฒนธรรมประเพณีดั้งเดิม

ชาวระยองแห่เผาข้าวหลามทำบุญข้าวใหม่เดือนสามฟื้นวัฒนธรรมประเพณีดั้งเดิม

วันพฤหัสบดี ที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566, 16.48 น.

ชาวบ้านในจังหวัดระยองแห่เผาข้าวหลามทำบุญข้าวใหม่เดือนสาม ฟื้นวัฒนธรรมประเพณีดั้งเดิม สร้างความรักสมัครสมานสามัคคีของคนในชุมชน 

ตั้งแต่ปลายเดือนมกราคม ถึง ต้นเดือนกุมภาพันธ์ ปีนี้ เป็นช่วงที่มีอากาศหนาวเย็นปกคลุม ทั่วทุกภูมิภาคของ ประเทศไทย โดยเฉพาะที่จังหวัดระยอง อากาศหนาวเย็น และมีลมโชยสดชื่น ทำให้ทุกหมู่บ้าน ในตำบลตาขัน อำเภอบ้านค่าย จังหวัดระยอง  ต่างพากันคิดฟื้นฟูประเพณีเก่าแก่ดั้งเดิม ที่บรรพบุรุษเคยทำมาในช่วงเทศกาลเดือนสาม ช่วงที่ยังมีอากาศหนาวเย็นเช่นนี้ นั่นคือประเพณี”ทำบุญข้าวใหม่เดือนสาม “ 

นายชีพ ฟุ้งพิทักษ์ อายุ 77 ปี ชาวบ้านหมู่ที่ 4 ตำบลตาขัน บอกว่า สมัยก่อนเคยไปกับพ่อแม่ตั้งแต่เด็กเห็นชาวบ้านทำบุญกันแบบนี้ เมือ่ก่อนไม่มีศาลา ก็นิมนต์พระทำบุญกันตามใต้ร่มไม้เผาข้าวหลามไปทำบุญรวมกัน ต่อมาก็ห่างหายไป จึงคิดว่าน่าจะรวมชาวบ้านหลายๆหมู่บ้านมาทำบุญร่วมกัน ใครมีอะไรก็นำมาช่วยกัน ใครไม่มีก็มาช่วยแรงกัน จะได้อนุรักษ์ฟื้นประเพณีเก่าแก่มาช่วยกันเผาข้าวหลามแบบโบราณ เพื่อนำมาทำบุญ ซึ่งการเผาข้าวหลามแบบโบราณนั้น เกิดประโยชน์มากมาย ทั้งการอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีเก่าแก่ ความสมัครสมานสามัคคี ของคนในชุมชน ซึ่งนับวันมีแต่จะห่างเหิน ต่างออกทำมาหินกินคนเฒ่าคนแก่ ก็อยู่บ้านเพียงลำพัง ประสบการณ์ความรู้ความชำนาญที่เคยใช้มาก็ไม่ถูกนำมาใช้  แต่เมื่อได้มาช่วยกันเผาข้าวหลาม ก็จะได้มาเจอะเจอพูดคุยช่วยเหลือเกื้อกูลซึ่งกันและกัน คนเฒ่าคนแก่ก็ได้แสดงความสามารถ ความเชี่ยวชาญที่มี เช่นการทำกับข้าวแบบโบราณที่เคยทำเลี้ยงลูกหลานมาแต่อดีต 

การเผาข้าวหลามแบบโบราณ เริ่มจากชาวบ้านช่วยกันปรับพื้นที่จากนั้นก็ช่วยกันตัดไม้ไผ่จากกอ และนำมาตัดเป็นท่อน ถากปลายด้านหนึ่งให้แหลมเพื่อใช้ตั้งในดิน พร้อมกับชาวบ้านอีกกลุ่มจะช่วยกันแช่ข้าวเหนียว ผสมกับถั่วดำ แล้วนำมากรอกใส่กระบอกไม้ไผ่ที่เตรียมไว้ เสร็จแล้วนำไปตั้งเรียงแถว ค่อยๆหยอดน้ำกะทิที่ปรุงใส่เกลือน้ำตาลมาเรียบร้อย เมื่อเรียงกะบอกข้าวหลามจนสุดแถว จึงเริ่มก่อไฟให้ห่างจากตัวกะบอกข้าวหลาม ต้องคอยเขี่ยไฟตลอดเวลาไม่ไห้ใหม้กระบอกข้าวหลาม รอจนสุกก็ใช้ได้ 

ชาวบ้านจะนำข้าวหลามที่ช่วยกันเผา มาถวายพระที่ได้นิมนต์มาฉันในตอนเช้า ข้าวหลามที่เหลือจากทำบุญแล้วก็แจกจ่ายให้นำกลับไปกินกันทุกบ้าน แต่นอกจากจะมีข้าวหลามในงานทำบุญข้าวใหม่แล้ว ยังมีอาหารคาวหวานอื่นๆที่แทบจะห่างหายไม่เป็นที่รู้จัก ให้ได้กินกันอีกหลายเมนู โดยเฉพาะแกงบอน ที่ต้องใช้ทั้งปลาช่อนตัวใหญ่ และบอนซึ่งคนทำไม่เป็นก็จะคันทันที แต่ที่นี่ เป็นแม่ครัวที่มีอายุใกล้หลักร้อย ความชำนาญและเคล็ดลับจึงมีมากมาย ตั้งแต่การปลอก ไปจนถึงการตำน้ำพริกแกง กันเลยทีเดียว 

นอกจากนี้ การเผาข้าวหลามทำบุญข้าวใหม่เดือนสาม ยังไม่ได้ทำแค่เพียงหมู่เดียว หรือที่เดียวเท่านั้น ชาวบ้านในทุกหมู่บ้าน ของตำบลตาขัน และตำบลอื่นๆ ยังได้นัดกันเผาข้าวหลาม ทำบุญกันอย่างต่อเนื่องตลอดช่วงเดือนสามนี้อีกด้วย – 003

Share this:

  • Click to share on Skype (Opens in new window)
  • Click to share on Pocket (Opens in new window)
  • Click to share on Facebook (Opens in new window)
  • Click to share on Twitter (Opens in new window)
  • Click to share on LinkedIn (Opens in new window)
  • Click to share on Reddit (Opens in new window)
  • Click to email a link to a friend (Opens in new window)
  • More
  • Click to print (Opens in new window)
  • Click to share on Telegram (Opens in new window)
  • Click to share on Pinterest (Opens in new window)
  • Click to share on Tumblr (Opens in new window)
  • Click to share on WhatsApp (Opens in new window)

Like this:

Like Loading...
Posted in ข่าว Like สาระ, แนวหน้า | Tagged 2566(2023), ข่าว Like สาระ, แนวหน้า, naewna | Leave a reply

ผุดแคมเปญล่าชื่อทวงคืน’สมบัติชาติ’อายุ 1,300 ปี จัดแสดงอยู่ในพิพิธภัณฑ์สหรัฐฯ

Posted on February 3, 2023 by SoClaimon
Reply

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

https://www.naewna.com/likesara/708407

ผุดแคมเปญล่าชื่อทวงคืน'สมบัติชาติ'อายุ 1,300 ปี จัดแสดงอยู่ในพิพิธภัณฑ์สหรัฐฯ

ผุดแคมเปญล่าชื่อทวงคืน’สมบัติชาติ’อายุ 1,300 ปี จัดแสดงอยู่ในพิพิธภัณฑ์สหรัฐฯ

วันพฤหัสบดี ที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566, 16.39 น.

2 ก.พ.2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ใน Change.org มีผู้ใช้ชื่อ ที่นี่ ประโคนชัย ได้ตั้งแคมเปญรณรงค์รณรงค์ล่ารายชื่อในหัวข้อ “ลงชื่อทวงคืนสมบัติชาติที่จัดแสดงอยู่ในพิพิธภัณฑ์ที่สหรัฐฯ” โดยได้ให้เหตุผลที่มาของแคมเปญรณรงค์ดังนี้

‘พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร’ สำริด ถูกค้นพบครั้งแรกที่เขาปราสาทปลายบัด 2 อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ ศิลปะประโคนชัย อาณาจักรโบราณ บนที่ราบสูงโคราช อายุประมาณ 1,300 ปี มีชิ้นเดียวในโลก แต่ตอนนี้ ลูกหลานไทยกลับไม่มีโอกาสได้เห็น เพราะองค์จริงถูกจัดแสดงอยู่ที่พิพิธภัณฑ์เมโทรโปลีแทน นิวยอร์ก สหรัฐฯ

ขอแรงทุกคนช่วยกันลงชื่อทวงคืนพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร และวัตถุโบราณอีก 11 ชิ้น ที่ถูกลักลอบออกจากไทยอย่างผิดกฎหมาย และตอนนี้ทั้งหมดอยู่ที่ พิพิธภัณฑ์ในสหรัฐฯ โดยเราหวังว่าพลังเสียงของพวกเราจะทำให้ ‘คณะกรรมการติดตามโบราณวัตถุของไทยในต่างประเทศ’ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งกรมศิลปากร ที่ตอนนี้ ทราบข่าวมาว่า กำลังปล่อยเกียร์ว่าง ให้ท่านหันมาทำงาน เร่งรัดให้ส่งคืนวัตถุโบราณทั้งหมดโดยเร็ว และ ปัดฝุ่นแนวคิดสร้าง ‘พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติบุรีรัมย์’ เพื่อเก็บรวมวัตถุโบราณมากมายที่ถูกค้นพบในโซนภาคอีสาน พร้อมกับอีกหลายชิ้นที่จะกำลังถูกส่งคืน 

ที่มา: ประติมากรรมสำริด ศิลปะประโคนชัย มูลค่าพันล้านบาท

ทุกวันนี้ เขาปราสาทปลายบัด 2 จ.บุรีรัมย์ หลงเหลือไว้เพียงซากปรักหักพัง แต่คนรุ่นหลังยังได้จินตนาการถึงความรุ่งเรืองของพระพุทธศาสนานิกายมหายาน เมื่อกว่าพันปีที่แล้วของอาณาจักรศรีจนาศะ ที่เชื่อว่าเป็นแหล่งพระสำริดกรุประโคนชัยจำนวนมากกว่า 300 องค์ มูลค่ารวมพันล้านบาท 

หลังการค้นพบปราสาทปลายบัด 2 เมื่อพ.ศ.2507  มีโบราณวัตถุชิ้นสำคัญหลายชิ้นตกอยู่ในมือพ่อค้าชาวต่างชาติที่เข้ามารับซื้อเพื่อส่งออกอย่างผิดกฎหมายไปยังยุโรปและสหรัฐฯ มูลค่าที่รับซื้อแทบไม่ถึงเสี้ยวหนึ่งของมูลค่าของจริงด้วยซ้ำ และพบว่ามีวัตถุโบราณอีกหลายชิ้นที่ถูกขนย้ายออกไปโดยรถบรรทุกของราชการ (ที่ก็ไม่รู้ว่าปลายทางไปจบลงที่ไหน?)

แต่ที่แน่ๆ ถึงตอนนี้ ไม่มีประติมากรรมสำริดกรุประโคนชัยที่เก็บรักษาอยู่ในพิพิธภัณฑ์ในไทยเลยแม้แต่ชิ้นเดียว เว้นแต่ ‘พระพุทธรูปพระนาคปรก’ ที่ถูกจัดเก็บไว้ในคลังพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนคร เป็นองค์เดียวที่ไม่ได้ถูกขายให้พ่อค้านักสะสม เพราะรถที่มาขนย้ายเกิดอุบัติเหตุก่อน….

ภารกิจตามทวงคืนสมบัติชาติ: ชาตินี้ vs ชาติหน้า? 

จนเมื่อไม่กี่ปีมานี้ เราเห็นข่าว พบประติมากรรมสำริดกรุประโคนชัยบางส่วนถูกจัดแสดงอยู่ในหลายพิพิธภัณฑ์ในสหรัฐฯ เป็นที่มาให้เกิดการติดตามทวงคืน ซึ่งทางการสหรัฐฯ ก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีโดยอาศัยกฎหมายของสหรัฐฯ ที่ชื่อว่า The National Stolen Property Act ว่าด้วยการครอบครองของโจร เข้าดำเนินคดีกับพิพิธภัณฑ์ต่างๆ 

เหมือนจะ Happy ending แต่ปัญหาคือ กรมศิลปากร ที่นอกจากจะไม่เคยส่งตัวแทนไปประสานงานหรือลงพื้นที่ที่สหรัฐฯ แล้ว ก็ตอนนี้ทำให้กระบวนการล่าช้า เอาง่ายๆ เทียบกับประเทศกัมพูชาที่ก็มีเคสลักลอบส่งออกวัตถุโบราณเหมือนกับเรา แต่ทางกัมพูชาจ้างทนายผู้เชี่ยวชาญทำงานกับทางการของกัมพูชา ทำให้ได้วัตถุโบราณกลับคืนจากสหรัฐฯ ไปแล้วหลายชิ้น

เป็นที่มาของแคมเปญรณรงค์นี้ที่อยากให้ทุกคนช่วยบอกให้ กรมศิลปากร ให้เร่งรัดติดตาม ช่วยเป็นปากเป็นเสียงแทนเรา ทวงคืนสมบัติชาติกลับบ้านต่อไป

ขอบคุณข้อมูลเฟซบุ๊ก ที่นี่ประโคนชัย

Share this:

  • Click to share on Skype (Opens in new window)
  • Click to share on Pocket (Opens in new window)
  • Click to share on Facebook (Opens in new window)
  • Click to share on Twitter (Opens in new window)
  • Click to share on LinkedIn (Opens in new window)
  • Click to share on Reddit (Opens in new window)
  • Click to email a link to a friend (Opens in new window)
  • More
  • Click to print (Opens in new window)
  • Click to share on Telegram (Opens in new window)
  • Click to share on Pinterest (Opens in new window)
  • Click to share on Tumblr (Opens in new window)
  • Click to share on WhatsApp (Opens in new window)

Like this:

Like Loading...
Posted in ข่าว Like สาระ, แนวหน้า | Tagged 2566(2023), ข่าว Like สาระ, แนวหน้า, naewna | Leave a reply

PM2.5คลุ้งยาว!!!กรมควบคุมมลพิษคาด‘กทม.-17จว.’ผจญฝุ่นถึง 7 ก.พ.

Posted on February 3, 2023 by SoClaimon
Reply

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

https://www.naewna.com/likesara/708409

PM2.5คลุ้งยาว!!!กรมควบคุมมลพิษคาด‘กทม.-17จว.’ผจญฝุ่นถึง 7 ก.พ.

PM2.5คลุ้งยาว!!!กรมควบคุมมลพิษคาด‘กทม.-17จว.’ผจญฝุ่นถึง 7 ก.พ.

วันพฤหัสบดี ที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566, 16.12 น.

อธิบดีกรมควบคุมมลพิษเผย ‘ฝุ่นPM2.5’ยังอยู่กับยาวถึง 7 ก.พ.นี้ ‘นายกฯ’ให้สำคัญแก้ปัญหา สั่งการหน่วยงานระดับพื้นที่ยกระดับ มาตรการป้องกัน

เมื่อเวลา 14.30 น.วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2566 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายปิ่นสักก์ สุรัสวดี อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) แถลงถึงสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ว่า ปัจจุบันค่า PM2.5 อยู่ในระดับเกินมาตรฐานและส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน โดยเฉพาะ ประเทศไทยตอนกลาง ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รวมถึงภาคใต้ นอกจากนั้นในกรุงเทพมหานครและเมืองขนาดใหญ่ ยังพบว่าอยู่ในระดับสีแดงที่มีผลกระทบต่อสุขภาพด้วย นอกจากนี้ 15 จังหวัด ที่มีจุดความร้อนสูงสุดประกอบไปด้วย กาญจนบุรี ชัยภูมิ ตาก เพชรบูรณ์นครสวรรค์ ลพบุรี ลำปาง เชียงราย พะเยา ราชบุรีแพร่ เชียงใหม่ กาฬสินธุ์ อุตรดิตถ์และนครราชสีมา 

นายปิ่นสักก์  กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ในวันที่ 5 ก.พ.นี้ PM 2.5 จะลดลงอยู่ในระดับอยู่ในระดับปานกลาง  จากนั้นวันที่ 7 ก.พ. จะลดลงมาอยู่ในระดับค่ามาตรฐาน ทั้งในพื้นที่กรุงเทพมหานครและ 17 จังหวัดภาคเหนือ อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีได้กำชับให้มีการป้องกันอย่างเข้มงวด โดยให้มีการเวิร์คฟอร์มโฮม ลดการก่อสร้าง  การเผาในที่โล่งแจ้ง  ประชาชน กลุ่มเสี่ยงสามารถตรวจสอบ และดูแลตนเองได้ผ่านแอพพลิเคชั่น Air 4 Thai เพื่อให้ทราบถึงสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ส่วนประชาชนในพื้นที่กรุงเทพฯสามารถตรวจสอบได้ผ่านแอพพลิเคชั่น Air Bkk

ด้านนายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายกให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาฝุ่น PM 2.5 อย่างจริงจังและได้มีข้อสั่งการเพิ่มเติมในการยกระดับมาตรการในระดับพื้นที่  และขอความร่วมมือประชาชนด้วย โดยในอนาคตอาจจะต้องมีการลดเรื่องการขนส่ง

Share this:

  • Click to share on Skype (Opens in new window)
  • Click to share on Pocket (Opens in new window)
  • Click to share on Facebook (Opens in new window)
  • Click to share on Twitter (Opens in new window)
  • Click to share on LinkedIn (Opens in new window)
  • Click to share on Reddit (Opens in new window)
  • Click to email a link to a friend (Opens in new window)
  • More
  • Click to print (Opens in new window)
  • Click to share on Telegram (Opens in new window)
  • Click to share on Pinterest (Opens in new window)
  • Click to share on Tumblr (Opens in new window)
  • Click to share on WhatsApp (Opens in new window)

Like this:

Like Loading...
Posted in ข่าว Like สาระ, แนวหน้า | Tagged 2566(2023), ข่าว Like สาระ, แนวหน้า, naewna | Leave a reply

Post navigation

← Older posts

Blogroll

  • คำไทย:ThaiWords
  • จิตรา คล้ายมนต์
  • นพ.ต่อพงศ์ คล้ายมนต์
  • พญ.อภิชญา คล้ายมนต์
  • ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย1
  • ศาสตร์และศิลป์ที่สอนในเมืองไทย
  • Blogspot:SoClaimon
  • Facebook:กรุงเทพฯเวนิสตะวันออก
  • Facebook:ชมรมดินปุ๋ยบนเว็บ
  • Facebook:SoClaimon
  • Google map:แผนที่ตำบล 76 จังหวัด
  • Google sites:Soil Taxonomy
  • Google sites:SootinClaimon
  • LinkedIn:sootin claimon
  • ToRaMaN's BLOG
  • Tumblr:SoClaimon
  • Twitter:SoClaimon
  • Twitter:SoilFertilizer
  • Webs:ChangChoice

BamBam Family

BamBam Family

สถิติบล็อก

  • 2,435,442 hits

Join 10,289 other subscribers
Follow SootinClaimon.Com on WordPress.com

Categories

Top Posts & Pages

บุคคลในข่าว
มูลนิธิโครงการหลวง เนรมิตคาเฟ่สวนดอกไม้ จำหน่าย Superfood จากยอดดอย ในงาน ‘รอยัล โปรเจกท์ แกสโตรโนมี เฟสติวัล 2023 แอท สยามพารากอน’
สั่งตั้งกก.สอบวินัยร้ายแรง'ผอ.โรงเรียน'เรียกรับเงิน โทษสูงสุดถึงขั้นไล่ออก
Thailand eyes dry ports in Khon Kaen, Nakhon Ratchasima
มูลนิธิจุฬาภรณ์ สนองพระปณิธาน สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ชวนคนไทยสร้างกุศล สานต่อภารกิจของมูลนิธิฯ ช่วยเหลือและสงเคราะห์ผู้เจ็บป่วยยากไร้ ด้อยโอกาส
เบสท์ เอ็กซ์เพรส มอบทุนการศึกษา โรงเรียนต่างจังหวัดในเขตพื้นที่ห่างไกล
PM2.5คลุ้งยาว!!!กรมควบคุมมลพิษคาด‘กทม.-17จว.’ผจญฝุ่นถึง 7 ก.พ.
รองปลัดฯร่วมพิธี ลงนามในข้อตกลง การวิจัยและพัฒนา เพิ่มศักยภาพเกษตร
Centara Expands Customer Experience with New Thai Airways Partnership Ahead of Centara Grand Hotel Osaka Debut
Bangkok police admit to extorting 27,000 baht from Taiwanese actress

Recent Posts

  • บุคคลในข่าว
  • สหรัฐฯ เผยพบบอลลูนจารกรรมจีนเหนือน่านฟ้า

Recent Comments

sacit หนุนผู้ประกอบก… on sacit หนุนผู้ประกอบการเรียนรู้…
Growing Babies or Gr… on EctoLife : the world’s f…

RSS ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย1

  • ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย1
  • ลึกลับสนามข่าว : 31 ธันวาคม 2558

Follow me on Twitter

My Tweets

Follow me on Twitter

My Tweets

ป้ายกำกับ

  • 2559(2016)
  • 2562(2019)
  • 2563(2020)
  • 2564(2021)
  • entertain
  • naewna
  • The Nation
  • ต่างประเทศ
  • บันเทิง
  • แนวหน้า
  • RSS - Posts
  • RSS - Comments

Archives

Follow Us

Blog at WordPress.com.
  • Follow Following
    • SootinClaimon.Com
    • Join 1,666 other followers
    • Already have a WordPress.com account? Log in now.
    • SootinClaimon.Com
    • Customize
    • Follow Following
    • Sign up
    • Log in
    • Report this content
    • View site in Reader
    • Manage subscriptions
    • Collapse this bar
 

Loading Comments...
 

    %d bloggers like this: