เปลี่ยนผ่านรัฐบาล ทำงานแบบไม่มีวันหยุด ‘ก้าวไกล’ ลุยต่อวาระปัญหา พลังงาน

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

https://www.komchadluek.net/news/politics/550358

04 มิ.ย. 2566

เปลี่ยนผ่านรัฐบาล   ทำงานแบบไม่มีวันหยุด 'ก้าวไกล' ลุยต่อวาระปัญหา พลังงาน

เปลี่ยนผ่านรัฐบาล ท่องไว้อย่างเดียว “ทำงาน ทำงาน ทำงาน” พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ว่าที่นายกฯแห่งพรรคก้าวไกล เคาะไทม์ไลน์การทำงานของคณะก่อตั้งรัฐบาล วันอังคาร ประชุมคณะทำงานชุดเล็ก ลุ้นอาจจะมีคณะทำงานเพิ่มขึ้นมาอีก มองปัญหาที่ต้องไฮไลท์ในขณะนี้คือเรื่องของ”พลังงาน”

นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคก้าวไกล เปิดเผยว่า   ในการจัดตั้งรัฐบาล ถือว่ามีความคืบหน้าตามลำดับ   ทั้งนี้ในวันอังคารที่ 6  มิ.ย.  จะมีการประชุมของคณะกรรมการประสานงานในช่วงเปลี่ยนผ่านรัฐบาล  และมีประเด็นที่จะดำเนินการต่อ คือการแก้ไขในเรื่องของปัญหาพลังงานที่เป็นต้นทุนทางด้านต่าง ๆ   ซึ่งสร้างผลกระทบต่อเศรษฐกิจ  ขณะเดียวกันอาจจะมีการ
ตั้งคณะทำงานเพิ่ม   ส่วนวันพุธที่ 8  จะเป็นการประชุมหัวหน้าพรรค ซึ่งทั้ง 8 พรรค คาดว่าจะจบลงด้วยดี   จะไม่เสียสมาธิในการแก้ปัญหาประชาชน 

“ประเด็นการถือหุ้นสื่อ ผมพร้อมชี้แจงในเรื่องหลักฐานและกฎหมาย แต่ตอนนี้ยังไม่มีหนังสือเชิญจากสำคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) หากมีเอกสารมาก็จะชี้แจงกลับไป  พยายามทำให้เห็นว่าเป็นเรื่องบริสุทธิ์ และไม่มีอะไรที่จะทำให้การตั้งรัฐบาลสะดุดลงได้  ” นายพิธา กล่าว 

‘พิธา’ ร่วมงาน Bangkok Pride ประกาศชัดพร้อมดัน พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม ทันที

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

https://www.komchadluek.net/news/politics/550354

04 มิ.ย. 2566

'พิธา' ร่วมงาน Bangkok Pride ประกาศชัดพร้อมดัน พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม ทันที

Bangkok Pride 2023 : พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ บอกยินดีที่ได้มาร่วมงาน มองเป็นนิมิตหมายดี ลบคำครหาไทยมีอคติทางเพศสภาพ เปลี่ยนให้เป็นจุดแข็งของประเทศ พร้อมดัน พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม ทันที

นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค เปิดเผยก่อนเข้าร่วมขบวนพาเหรด Bangkok Pride Month 2023 ว่า ดีใจที่ได้มาร่วมงาน Pride ในวันนี้

ถือเป็นการส่งสัญญาณไปทั่วโลกในการแสดงความรักทุกรูปแบบของสังคมไทย สามารถเป็นไปได้ และเป็นการส่งสัญญาณไปถึงโลกว่า ความรักจะชนะหลายเรื่อง 

การที่มาฉลองกันในวันนี้ ไม่ใช่แค่พาเหรดหรือสัญลักษณ์ และเมื่อรัฐบาลจัดตั้งได้เมื่อไหร่จะสนับสนุนสมรสเท่าเทียมและอัตลักษณ์ทางเพศ รวมไปถึงสวัสดิการ ซึ่งหากทำได้จะเป็นการสนับสนุน Pride month ให้เป็น Pride Always จริงๆ

เมื่อถึงตอนนั้น คนจะมองว่าประเทศไทยเป็นพื้นที่เปิดเผยได้ ปลอดภัยและอิสระ ที่จะให้คนเป็นตัวของตัวเองได้มากที่สุดและลบคำครหาบางอย่างที่กำหนดสังคมจากเพศสภาพบางคนอยากเป็นครูก็เป็นไม่ได้ บางคนอยากวางแผนครอบครัวก็ทำไม่ได้เพราะเพศสภาพ บางคนอยากจะวางแผนภาษีซื้อประกันให้คนที่รักก็ทำไม่ได้

“และหวังว่าปี 2028 กรุงเทพฯ จะได้เป็นเจ้าภาพจัดงาน world pride ซึ่งผลพวงที่ตามมาเช่นนผลพวงทางเศรษฐกิจ “นายพิธากล่าว

'พิธา' ร่วมงาน Bangkok Pride ประกาศชัดพร้อมดัน พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม ทันที

นายพิธา ยังยืนยันว่า แน่นอน ร่างพ ร.บ.สมรสเท่าเทียม ก็ยังอยู่ในสภาฯ สามารถผลักดันต่อได้เลย ซึ่งหากไปดูแล้ว วิปรัฐบาลในขณะนั้นก็ให้ผ่านกฎหมาย ซึ่งส่วนตัวก็เห็นด้วยเพราะไม่ใช่เรื่องปฏิบัติทางเพศ ทำให้คนสามารถเลือกระดับชีวิตได้ว่าจะเป็นแบบไหนจะเป็นระดับคนรักหรือว่าระดับสมรส เพื่อมีไว้ให้คนไม่จำกัดเพศสภาพ

'พิธา' ร่วมงาน Bangkok Pride ประกาศชัดพร้อมดัน พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม ทันที

“คิดว่าเป็นการสร้างนิมิตรใหม่ให้สังคมไทย ซึ่งต้องทำให้ได้ใน 100 วันแรก เชื่อว่าพรรคเพื่อไทยก็เห็นด้วยและจะผ่านสภาอย่างรวดเร็ว ในที่สุดเราก็แสดงให้โลกเห็นความหลากหลายไม่ได้เป็นจุดอ่อนของประเทศนี้แต่เป็นจุดแข็ง” นายพิธา กล่าว

‘สุพันธ์” พร้อมดัน ‘พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม’ ตามเอ็มโอยูตั้งรัฐบาล 

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

https://www.komchadluek.net/news/politics/550331

04 มิ.ย. 2566

'สุพันธ์" พร้อมดัน 'พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม' ตามเอ็มโอยูตั้งรัฐบาล 

‘สุพันธุ์ มงคลสุธี’ ยืนยันเดินตามเอ็มโอยูต้ังรัฐบาล ต้อนรับ Pride Month 2023 พร้อมผลักดัน พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม 

Pride Month 2023 นอกจากเดือนแห่งการรณรงค์ความหลากหลายทางเพศแล้ว ยังเป็นช่วงที่มีการจัดตั้งรัฐบาลของไทย ที่พรรคร่วมรัฐบาลแสดงจุดยืนในการเดินหน้าตาม MOU ที่มีการตกลงกันเอาไว้ โดยหนึ่งในนั้นคือประเด็นนโยบาย “สมรสเท่าเทียม”

นายสุพันธุ์ มงคลสุธี รองหัวหน้าพรรคและประธานคณะกรรมการด้านเศรษฐกิจพรรคไทยสร้างไทย หนึ่งในพรรคร่วมรัฐบาลตามเอ็มโอยูที่มีพรรคก้าวไกลเป็นแกนนำ เปิดเผยว่า เนื่องในเดือน Pride Month เห็นว่ารัฐบาลใหม่ที่จะมาถึงจะต้องผลักดัน พ.ร.บ. สมรสเท่าเทียม เพื่อเป็นการประกันสิทธิเสรีภาพ ของประชาชนตามเอ็มโอยูที่ได้ประกาศแก่พี่น้องประชาชน

'สุพันธ์" พร้อมดัน 'พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม' ตามเอ็มโอยูตั้งรัฐบาล 

นายสุพันธุ์ ระบุว่าเดือนมิถุนายน ที่ถูกถือกันว่าเป็น Pride Month เป็นเดือนที่เป็นสัญลักษณ์ของการต่อสู้ของกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศมากว่า 50 ปี และจนมาถึงวันนี้ตนไม่เห็นว่าจะมีเหตุผลอะไรที่จะต้องกีดกันหรือแบ่งแยกกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศโดยเฉพาะเรื่องสิทธิในเนื้อตัวร่างกาย สิทธิในการไม่ถูกแบ่งแยกในที่ทำงาน และที่สำคัญคือสิทธิในการสมรส 

สิทธิในการสมรสนั้น ในมุมหนึ่งจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้มากขึ้น เพราะนั้นเกี่ยวข้องกับกฎหมายแพ่ง การรับมรดก การทำธุรกรรมทางการเงิน ถ้าหากกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศสามารถจดทะเบียนสมรสได้เหมือนคู่ชายหญิง จะทำให้เกิการจับจ่ายใช้สอยเพิ่มขึ้น เช่นการซื้อบ้าน หรือ อสังหาริมทรัพย์ต่างๆร่วมกัน รวมถึงการวางแผนที่จะทำธุรกิจร่วมกัน เพราะปัจจุบันมีคู่รักจำนวนมากที่ไม่ก้าทำธุรกิจ่วมกันเพราะหากใครคนหนึ่งเป็นอะไรไป เกรงว่าสิ่งที่ทำด้วยกันมาตนจะไม่ได้รับอะไรเลยเพราะไม่มีสิทธิรับมรดก 

ดังนั้นการมีกฎหมายสมรสเท่าเทียมจะช่วยให้ประชาชนคนตัวเล็กกลุ่มที่เป็นผู้มีความหลากหลายทางเพศ สามารถลงทุนร่วมกัน กู้ร่วมกันเพื่อไปสร้างเศรษฐกิจต่อได้ รวมถึงเศรษฐกิจที่จะได้จากการผลักดันการท่องเที่ยวที่เกี่ยวข้องกับผู้มีความหลากหลายทางเพศก็จะทำได้มากขึ้นและจะสร้างรายได้มหาศาลให้กับประเทศ 

นายสุพันธุ์ย้ำว่า ปัจจุบันประเทศไทยมีชื่อเสียงที่ดีกับชุมชน LGBT ทั่วโลก เพราะมีแหล่งท่องเที่ยวรวมถึงสถานบันเทิงที่เป็นมิตรต่อกลุ่ม LGBT อยู่เยอะมาก เราได้เม็ดเงินมหาศาลจากตรงนี้ แต่ในทางหนึ่งเราจะเป็นสวรรค์ของ LGBT ทั่วโลกอย่างแท้จริงไม่ได้เลย ถ้าเรายังไม่ให้สิทธิที่ทุกคนพึงได้ไม่ว่าจะเพศใดก็ตามแก่คนในชุมชนเหล่านี้ ดังนั้นตนหวังว่ารัฐบาลใหม่จะผลักดันพ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม ตามที่ได้ประกาศไว้ใน MOU ให้ได้โดยเร็ว

‘พรรคไทยสร้างไทย’ ดัน 7 นโยบายเพศเท่าเทียม ชี้กฎหมายยังล้าหลัง

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

https://www.komchadluek.net/news/politics/550312

03 มิ.ย. 2566

'พรรคไทยสร้างไทย' ดัน 7 นโยบายเพศเท่าเทียม ชี้กฎหมายยังล้าหลัง

‘พรรคไทยสร้างไทย’ เตรียมผลักดัน 7 นโยบายเพศเท่าเทียม เผยประเทศไทยสวรรค์กลุ่มLGBTQ+ แต่กฎหมายยังล้าหลัง พร้อมเชิญชวนร่วมงาน ‘บางกอกไพรด์ 2023’ แสดงจุดยืนหนุนความหลากหลายทางเพศแ หยุดเเลือกปฏิบัติ

พรรคไทยสร้างไทยสนับสนุนความหลากหลายทางเพศ นำโดยทวีชัย วงศ์ไพโรจน์กุล รองโฆษกพรรคและคณะทำงานด้านความหลากหลายทางเพศ มุ่งมั่นต่อสู้เพื่อสร้างความเท่าเทียมให้เกิดขึ้นในสังคม

ตามหลักการใหญ่ของพรรคที่ว่าด้วยการ Liberate & Empower เพื่อไม่ให้ Pride Month ในสังคมไทยเป็นเพียงอุตสาหกรรมสีรุ้งที่ไร้การเหลียวแลอย่างจริงจังต่อไป คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย มีแนวคิดที่จะผลักดันงานไพรด์ให้ไปสู่งานระดับโลก World Pride  

สำหรับนโยบายพรรคไทยสร้างไทย ประกอบด้วย 

1.พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม 

2.พ.ร.บ.รับรองอัตลักษณ์ทางเพศ

3.พ.ร.บ.ขจัดการเลือกปฏิบัติต่อบุคคล 

4.สวัสดิการด้านฮอร์โมน เพิ่มวันลาและสิทธิการผ่าตัดข้ามเพศ 

5.ปรับหลักสูตรการศึกษาให้เป็น Gender inclusive เด็กและเยาวชนเข้าถึงการศึกษาเรื่องเพศที่สนับสนุนความเท่าเทียม และเสริมความรู้เกี่ยวกับเรื่องเพศที่ถูกต้อง สร้างความเข้าใจในครอบครัว ลดความรุนแรงที่จะเกิดขึ้นกับ LGBT ในครอบครัว 

6.Sex toy ถูกกฎหมาย

7.Sex Worker ไม่ผิดกฎหมาย เป็นแรงงานที่ได้รับความคุ้มครองตามสิทธิ 

ทวีชัย เชิญชวนพี่น้องประชาชนทุกเพศทุกวัยที่รักความเท่าเทียม รักสิทธิเสรีภาพ สนับสนุนผู้มีความหลากหลายทางเพศ ร่วมกับพรรคไทยสร้างไทย ในกิจกรรม “บางกอกไพรด์2023” ที่จะจัดขึ้น วันอาทิตย์ที่ 4 มิถุนายน 2566 โดยขบวนของพรรค จะเริ่มตั้งที่ลานหน้าหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร (BACC) เพื่อแสดงจุดยืนว่า เราเคารพและสนับสนุนผู้มีความหลากหลายทางเพศ และขอรณรงค์ให้ยุติความรุนแรงและการเลือกปฏิบัติจากเพศสภาพ เพื่อให้สังคมได้กลายเป็นพื้นที่ปลอดภัยต่อทุกคนอย่างแท้จริง 

ทวีชัย กล่าวว่า ทุกวันนี้ แม้สังคมจะแง้มประตูโอบรับความแตกต่างหลากหลายบ้าง แต่ยังคงไม่มากพอที่จะโอบรับในทุกมิติ ตามที่หลายคนเรียกประเทศไทยของเราว่า เป็น สวรรค์ของชาว LGBTQ+ หลายองค์กรหลายหน่วยงานหันมาโบกสะบัดธงรุ้งในเดือนแห่งความภาคภูมิใจนี้ แต่ในตัวบทกฎหมายสำคัญหลายมาตรา ยังไม่ก้าวหน้าไปไหน และยังไม่ได้ยอมรับความเท่าเทียมอย่างแท้จริง เช่น สมรสเท่าเทียมยังคงต้องถูกพิจารณาในวาระถัดไป 

‘LGBTQ’ ก็เป็น ‘นักการเมือง’ ได้ สังคมยอมรับ

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

https://www.komchadluek.net/news/politics/550307

03 มิ.ย. 2566

'LGBTQ' ก็เป็น 'นักการเมือง' ได้ สังคมยอมรับ

‘มิถุนายน’ เดือน ‘Pride Month’ เฉลิมฉลองความภาคภูมิใจของกลุ่มความหลากหลายทางเพศ หรือ LGBTQ ปัจจุบัน ‘นักการเมือง’ เป็นอีก 1 อาชีพ กล้าเปิดเผยความเป็นตัวตนมากขึ้น

ทุกวันนี้สังคมไทยเปิดกว้างมากขึ้นสำหรับกลุ่ม “LGBTQ” สามารถประกอบอาชีพได้หลากหลาย เช่น ครู นักธุรกิจ แพทย์ พยาบาล เป็นต้น แม้กระทั่ง ตำรวจ ทหาร อดีตคิดแค่ว่าต้องเป็นเพศชายเท่านั้น เพราะมีความแข็งแรง แข็งแกร่ง

“นักการเมือง” ก็เช่นกัน อดีต นายกรัฐมนตรี สส.  รัฐมนตรี ล้วนเป็นผู้ชาย แต่ปัจจุบันโลกได้เปลี่ยนแปลงไปแล้ว ประกอบกับนโยบายของแต่ละพรรคทันสมัยมากขึ้น รณรงค์ความเสมอภาค ความเท่าเทียมทางเพศ  โดยเราได้รวบรวมนักการเมืองกลุ่ม LGBTQ บางส่วน เช่น 
 

พรรคก้าวไกล 
ครูธัญ ธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ อดีต สส. ผู้ร่าง พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียมและผลักดันเข้าสภา และเคยเป็นผู้อยู่เบื้องหลังชายสองคนจูบปากกันกลางสภา สร้างความฮือฮาให้สังคมไทยอย่างมาก

ธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ ธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์


พรรคไทยสร้างไทย
ทวีชัย วงศ์ไพโรจน์กุล รองโฆษกพรรคไทยสร้างไทย คณะทำงานด้านความเท่าเทียมทางเพศและเสมอภาคทางสังคม เคยแต่งกาย Drag Queen ขณะหาเสียงพื้นที่บางซื่อ ตอกย้ำ LGBTQ+ แต่งลุคไหนก็ทำงานได้

ทวีชัย วงศ์ไพโรจน์กุล ทวีชัย วงศ์ไพโรจน์กุล

พรรคเพื่อไทย
ปกป้อง ชานันท์ ยอดหงษ์ ผู้ดูแลนโยบายความหลากหลายทางเพศ ชาติพันธุ์ หรือประชาธิปไตยเชิงอัตลักษณ์พรรคเพื่อไทย เป็น 1 ในกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.คู่ชีวิต กับ ร่างพ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม หากเพื่อไทยเป็นรัฐ ปกป้อง จะยกระดับคุณภาพชีวิตกลุ่ม LGBTQIA+ ให้ได้รับการยอมรับ มีศักดิ์ศรี คุณค่าเท่าเทียมกับชาย-หญิง 

ชานันท์ ยอดหงษ์ ชานันท์ ยอดหงษ์

พรรคชาติพัฒนากล้า
เทมส์ ไกรทัศน์ ผู้สมัคร สส.ภูเก็ต แต่งงานเป็นที่เรียบร้อยและเป็นผู้ผลักดันนโยบาย Rainbow Economy เศรษฐกิจสีรุ้ง ร่วมกับ กรณ์ จาติกวณิช

เทมส์ ไกรทัศน์เทมส์ ไกรทัศน์


พรรคประชาธิปัตย์
ชมพูนุท นาครทรรพ เลขาคณะกรรมการ LGBTQs และประธานคณะทำงานด้าน LGBTQs ของ รมว.กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ขับเคลื่อน เป็นอนุกรรมการฝ่ายร่างนโยบาย พ.ร.บ.ความเท่าเทียมระหว่างเพศ 

ชมพูนุท นาครทรรพชมพูนุท นาครทรรพ


พรรคเพื่อชาติ
แซม รณกฤต หะมิชาติ ผู้สมัคร สส. “ชาย” ที่มีคำนำหน้าว่า “นางสาว” หากไม่บอกดูไม่รู้เลยว่าเคยเป็นหญิงมาก่อน รูปร่าง หน้าตา หนวดเครา ไม่แพ้ชาย

 รณกฤต หะมิชาติรณกฤต หะมิชาติ

‘ธนกร’ ขอว่าที่รัฐบาลเลิกแซะ ให้เกียรติกันและกัน ซึ้ง ลุงตู่ ไม่เคยราวี

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

https://www.komchadluek.net/news/politics/550306

03 มิ.ย. 2566

'ธนกร' ขอว่าที่รัฐบาลเลิกแซะ  ให้เกียรติกันและกัน ซึ้ง ลุงตู่ ไม่เคยราวี

รัฐมนตรีประจำสำนักนายรัฐมนตรี รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ “ธนกร วังบุญคงชนะ ” เรียกร้องให้คณะร่วมจัดตั้งรัฐบาลหรือว่าที่รัฐบาลใหม่ ให้เกียรติซึ่งกันและกัน ชู พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่เคยไปพูดจาพาดพิง มีแต่อีกฝ่ายที่ตามขย่ม ยืนยันเคารพหลักการพรรคเสียงข้างมาก

นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายรัฐมนตรี ในฐานะรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ   เปิดเผยว่า อยากเรียกร้องให้คณะร่วมจัดตั้งรัฐบาลหรือว่าที่รัฐบาลใหม่ให้เกียรติซึ่งกันและกัน  จะเห็นว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ในฐานะประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรค และแคนดิเดตนายกฯพรรครวมไทยสร้างชาติ และตนไม่เคยไปก้าวล่วง พาดพิง หรือให้ความเห็นในการจัดตั้งรัฐบาลพาดพิงไปถึงอีกฝ่าย  เข้าใจระบอบประชาธิปไตย แต่ข่าวที่ออกมา ก็มาจากอีกฝ่ายคือว่าที่รัฐบาลที่เปิดประเด็น บางครั้งก็พูดจาในทำนองไม่ค่อยดีกับฝ่ายตน

“ตลอดระยะเวลา 7 – 8 ปีที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ ได้สร้างคุณูปการให้กับประเทศมากมาย มีการพัฒนาในทุก ๆ ด้านทั้งเศรษฐกิจ คมนาคม การท่องเที่ยว  ในช่วงเปลี่ยนผ่านรัฐบาลใหม่ เข้าใจว่าทุกฝ่ายก็ห่วงใยประเทศ เพราะมีการเคลื่อนไหวขู่ชุมนุม คิดว่าตรงนี้จะนำไปสู่ความขัดแย้งอีก ซึ่งนายกฯ ก็ห่วงในเรื่องเหล่านี้ไม่อยากให้มีความขัดแย้งแบบเดิม  เราเดินมาไกลแล้ว   ต้องปล่อยให้กลไกเดินหน้าไป และทุกฝ่ายต้องยอมรับกติกาบ้านเมือง  อยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกันก็ต้องว่าไปตามกฎหมาย พรรคที่ได้อันดับ 1 อันดับ 2 ก็จัดตั้งรัฐบาลไป แล้วเราก็มีรัฐบาลมาบริหารประเทศ ส่วนใครจะเป็นฝ่ายค้าน  ฝ่ายรัฐบาลก็ว่ากันไป ” นายธนกร  ระบุ

“เศรษฐา” สับรมว.พลังงานพูดไม่รับผิดชอบ  

นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย ได้ทวีตข้อความ ( ทวิตเตอร์ : สื่อสังคมออนไลน์  ) ถึงกรณีนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ระบุว่า หนี้ครัวเรือนต่อจีดีพีสูงเกินกว่า 80% เกิดมาตั้งแต่สมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีนั้น  “ผมเชื่อว่าท่านรองนายกฯพูดแบบไม่มีความรับผิดชอบ อัตราหนี้ครัวเรือนพุ่ง เพราะตลอดสี่ปีที่ท่านเป็นรัฐบาลมา จีดีพีขยายตัวต่ำมากทำให้อัตราส่วนขึ้นมามาก เกิดจากการบริหารผิดพลาดของรัฐบาลท่าน ผมมั่นใจว่ารัฐบาลใหม่จะทำได้ดีกว่าแน่นอน เลิกโยนบาปที่ท่านก่อไว้ใช้กับคนอื่นเถอะครับ” 

นายกฯประยุทธ์ ปรารภห่วงใยบ้านเมืองอยู่ตลอด -เมิน รังสิมันต์ กดดันเก็บของ

03 มิ.ย. 2566

นายกฯประยุทธ์  ปรารถห่วงใยบ้านเมืองอยู่ตลอด -เมิน รังสิมันต์ กดดันเก็บของ

นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ย้ำความเป็นนายกฯ “เป็นห่วงบ้านเมืองทุกวัน ไม่ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นก็ต้องห่วงทุกวัน” ส่วนการที่ “รังสิมันต์” จากก้าวไกล ออกมากดดันให้เก็บของพ้นทำเนียบฯ ไม่อยากไปคิดตาม ด้านรมว.แรงงาน สุชาติ ชมกลิ่น ประกาศไม่ตีจากลุงตู่

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม   ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ถึงความห่วงใยต่อสถานกรณ์บ้านเมืองว่า “เป็นห่วงอยู่ทุกวันบ้านเมือง น่าเป็นห่วงทุกวันไหมเล่า นายกรัฐมนตรีต้องเป็นห่วงบ้านเมืองทุกวัน ไม่ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นก็ต้องห่วงทุกวัน ต้องมีความพร้อมทำงานเพื่อประเทศและประชาชน   ให้ปลอดภัยแข็งแรง ก็เท่านั้นแหล่ะหน้าที่นายกรัฐมนตรี “


ส่วนการที่นายรังสิมันต์ โรม ว่าที่ สส.พรรคก้าวไกล กดดันให้แสดงสปิริต เก็บของออกจากทำเนียบรัฐบาล นายกรัฐมนตรี ระบุเพียงสั้น ๆ ด้วยท่าทีมีอารมณ์ว่า  “ไม่มองอ่ะ มองว่าเขาไม่ได้คิด ไม่เข้าใจอะไรมั้ง”  เมื่อถามย้ำอีกว่ามองการกดดันแบบนี้ทำได้หรือไม่ นายกรัฐมนตรี ตอบกระแทกเสียงว่า  “ให้ไปคิดเอาเอง”

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวง​แรงงาน ในฐานะรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กรณีที่มีกระแสข่าวลือของตนว่า จะออกจากพรรครทสช.กลับไปอยู่พรรคพลังประชารัฐ ยืนยันว่าไม่มี และจะอยู่กับพล.อ.ประยุทธ์จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรครทสช. ขอย้ำว่าอยู่กับพล.อ.ประยุทธ์ 

‘กกต.’ การันตีเร่งเครื่องประกาศรับรองผลเลือกตั้ง-ปูด 20 คน เข้าที่ 1 โดนร้อง

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

https://www.komchadluek.net/news/politics/550290

03 มิ.ย. 2566

'กกต.' การันตีเร่งเครื่องประกาศรับรองผลเลือกตั้ง-ปูด 20 คน  เข้าที่ 1 โดนร้อง

ประธาน”กกต.” อิทธิพร บุญประคอง ให้ความมั่นใจไปถึงทุกฝ่าย พยายามให้ได้ข้อสรุปรับรองผลการเลือกตั้งสส. ภายในมิ.ย. เผยประเด็นที่เป็นเงื่อนไข ต้องดูว่าหน่วยเลือกตั้ง 95,000 กว่าหน่วย จะมีเหตุสั่งเลือกตั้งใหม่หรือไม่ รวมทั้งในรายที่เข้าที่หนึ่ง 20 คน อยู่ในข่ายโดนร้อง

นายอิทธิพร บุญประคอง  ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ( กกต.)    เปิดเผยว่า ขั้นตอนการ
ประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง   “กกต.” พยายามที่จะให้ได้ข้อยุติภายในเดือนมิ.ย.  แต่ตอนนี้ยังมีขั้นตอนบางประการทางกฎหมายที่กกต.จะต้องดำเนินการ คือการตรวจสอบว่า ในหน่วยเลือกตั้ง 95,000 กว่าหน่วย หน่วยไหนจะต้องมีเหตุสั่งให้เลือกตั้งใหม่ ออกเสียงลงคะแนนใหม่หรือไม่ ซึ่งประเด็นการพิจารณาเหล่านี้จะเข้าสู่ที่ประชุม กกต.ในเร็ว ๆ นี้   หลังจากนั้นอาจจะใช้เวลาไม่มาก ว่าจะประกาศรับรอง ส.ส.ได้เมื่อไหร่  จะพยายามประกาศรับรองให้ได้ภายในมิ.ย. แต่ก็ขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริงที่จะต้องพิจารณาเรื่องดังกล่าว 

 “กกต.” ตระหนักดีว่าจะต้องเร่งประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง   แต่มีขั้นตอนตามกฏหมายบางอย่าง  ซึ่งจนถึงตอนนี้มีคำร้องเกี่ยวกับการเลือกตั้งกว่า 280 เรื่อง คำร้องดังกล่าวจะมีผลต่อผู้มีคะแนนเป็นอันดับหนึ่ง ในการเลือกตั้ง ราว  20 คน โดยจะต้องมีการตรวจสอบว่า มีเหตุหรือหลักฐานที่จะต้องสั่งการอย่างใดอย่างหนึ่งหรือไม่  ส่วนการที่จะประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง 95 % ตามกฏหมายจะต้องมี 475 คน หากประกาศได้ครบ 100% ก็จะดำเนินการ

ด้านการถือหุ้นสื่อของหัวหน้าพรรคก้าวไกล นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อยู่ในกระบวนการรวบรวมข้อเท็จจริง และพยานหลักฐานของคณะกรรมการสืบสวนไต่สวน  กกต. คาดว่าในไม่ช้านี้จะมีความเห็นเสนอต่อที่ประชุม กกต. และยังตอบไม่ได้ว่าจะส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย เพราะยังไม่เห็นพยานหลักฐาน  ซึ่งคดีถือหุ้นสื่อก่อนหน้านี้ หรือคดีของนายพิธา ก็ขึ้นอยู่กับพยานหลักฐาน ส่วนจะเรียกนายพิธามาให้ข้อมูล หรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับสำนักงาน กกต.

.

ภาพโดย NATIONPHOTO

ตัวพ่อเจอกัน ‘ชัชชาติ’ เตรียมคุย พิธา 6 มิ.ย. นี้ ย้ำคุยสนุกๆ ไม่มีความลับ

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

https://www.komchadluek.net/news/politics/550282

03 มิ.ย. 2566

ตัวพ่อเจอกัน 'ชัชชาติ' เตรียมคุย พิธา 6 มิ.ย. นี้ ย้ำคุยสนุกๆ ไม่มีความลับ

ตัวพ่อมาเจอกัน ‘ชัชชาติ’ เตรียมคุย พิธา และว่าที่ สส.กทม. ก้าวไกล 6 มิ.ย. นี้ เผยไม่มีความลับ คุยสนุกๆ หารือช่วยกันทำงาน

นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร  กล่าวถึงกรณีที่ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์  หัวหน้าพรรคก้าวไกล และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พร้อมว่าที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกรุงเทพฯ จำนวน 32 คน เตรียมเข้าพบในวันที่ 6 มิ.ย.นี้

โดยนาย “ชัชชาติ” ระบุว่า เป็นการพูดคุยแบบเปิดเผย ไม่มีความลับ อีกทั้งพรรคก้าวไกลนั้นได้ผู้แทนกรุงเทพฯ เยอะ เลยจะมาคุยกันว่าจะช่วยกันได้อย่างไรบ้าง

นายชัชชาติ สิทธิพันธ์ ผู้ว่าฯ กทม.นายชัชชาติ สิทธิพันธ์ ผู้ว่าฯ กทม.

ถามว่าได้คุยกันเบื้องต้นแล้วหรือไม่ นาย “ชัชชาติ” บอกว่าเจ้าหน้าที่คงมีการเตรียมกันไว้แล้ว แต่ตนยังไม่ได้ดูรายละเอียด ก่อนลงท้ายว่าไม่มีอะไร “คุยกันสนุกๆ”

นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์

‘ญาติวีรชนฯ’ เล็งยื่น ป.ป.ช. ถอดถอน ‘นายกฯ’ และ ครม.

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

https://www.komchadluek.net/news/politics/550268

02 มิ.ย. 2566

'ญาติวีรชนฯ' เล็งยื่น ป.ป.ช. ถอดถอน ‘นายกฯ’ และ ครม.

‘ญาติวีรชน พฤษภา 35’ เตรียมยื่น ป.ป.ช. 6 มิ.ย.นี้ ถอดถอน ‘นายกฯ’ และ ‘ครม.’ เหตุออก พ.ร.ก. เลื่อนใช้ พ.ร.บ.อุ้มหาย ขัดรัฐธรรมนูญ น่าห่วงไม่รู้มีคนถูกอุ้มหายไปแล้วกี่ราย ‘อดุลย์’ จี้ลาออกแสดงความรับผิดชอบ

ที่ห้องประชุมด้านหลัง อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา กทม. นายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ประธานคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา 35 และญาติผู้สูญหายในเหตุการณ์พฤษภา 35,นายพิภพ ธงไชย ประธานที่ปรึกษาญาติวีรชนฯ ,พ.ต.อ.วิรุตม์ ศิริสวัสดิบุตร เลขาธิการสถาบันเพื่อการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม (สป.ยธ.) ,นายบุญแทน ตันสุเทพวีรวงศ์ ประธานคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) นายเมธา มาสขาว เลขาธิการ ครป. 

และคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา 35 แถลงข่าว เตรียมยื่นคำร้องต่อ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)ให้ถอดถอนพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี (ครม.) กรณี “จงใจฝ่าฝืนบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ” เป็นการ “ฝ่าฝืนจริยธรรมอย่างร้ายแรง” ในการออก พ.ร.ก.เลื่อนการใช้ พ.ร.บ.ป้องกันการทรมานฯ สี่มาตราออกไปโดยไม่มีอำนาจทำได้ก่อให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรง

ญาติวีรชน พฤษภา 35ญาติวีรชน พฤษภา 35

โดยนายเมธา กล่าวว่า ศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยแล้วว่า การออกพ.ร.ก. ของพล.อ.ประยุทธ์ และครม. ขัดรัฐธรรมนูญเป็นการออกพระราชกำหนดโดยไม่ชอบ ซึ่งรัฐบาลปกติจะต้องมีการรับผิดชอบทางการเมืองไม่ยุบสภาก็ลาออก แต่กลับมีคำแก้ตัวของนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีที่บอกว่า “ยุบสภาไปแล้วไม่รู้จะรับผิดชอบยังไง”

แม้จะยุบสภาไปแล้ว ความรับผิดชอบทำได้หลายกรณีไม่ว่าจะเป็นการลาออก หรือการหยุดปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งก่อนหน้านี้เคยออกแถลงการณ์ เพื่อให้นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีแสดงความรับผิดชอบแต่ก็ไม่มีท่าทีใดๆ

ด้านนายอดุลย์ กล่าวว่า การออก พ.ร.บ.อุ้มหาย เป็นประโยชน์กับคนไทยทั้งประเทศ โดยเฉพราะญาติวีรชนผู้สูญหายจำนวนหนึ่งมากกว่าที่รัฐบาลประกาศไว้ จนถึงตอนนี้ยังไม่ได้กลับคืนมา เราเรียกร้องมาตลอดหลายปี แต่ก็ถูกเพิกเฉย ญาติวีรชนจึงได้รับผลกระทบจาก พ.ร.ก.ฉบับนี้ แต่ที่สำคัญคือความเสียหายของประชาชนควรจะได้รับความคุ้มครองจากพ.ร.บ.อุ้มหาย

นายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ประธานคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา 35นายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ประธานคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา 35

“อะไรที่เป็นประโยชน์กับประชาชนแทนที่รัฐบาลจะส่งเสริม แต่กลับขัดขวาง แม้จะไม่กี่เดือนแต่ความเสียหายได้เกิดขึ้นแล้ว” นายอดุลย์ ระบุ

โดยเมื่อวันที่ 24 พ.ค. 2566 ได้เรียกร้องให้รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์รับผิดชอบ ร่วมกับนายวิษณุ และพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เสนอเรื่องนี้ขึ้นมา ถึงแม้พล.อ.ประยุทธ์จะอยู่ในตำแหน่งรักษาการนายกรัฐมนตรี แต่สามารถลาออกได้ เพื่อหยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราวแล้วให้คนอื่นมาทำแทน

ขณะที่ พ.ต.อ.วิรุตม์ กล่าวว่า ไม่คิดว่ารัฐบาลกล้าที่จะออกพ.ร.ก.เพื่อมาเลื่อนการใช้พ.ร.ก.4 มาตรา จึงขอประณามการออก พ.ร.ก. ฉบับนี้ ที่เป็นความผิดอย่างชัดเจน ดังนั้นจึงเป็นการจงใจกระทำความผิดฝ่าฝืนบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ นอกจากไม่แสดงความรับผิดชอบแล้วก็ยังท้าทายอีกว่าให้ไปยื่น ป.ป.ช. ซึ่งวันที่ 6 มิ.ย. 2566 จะไปยื่น ป.ป.ช. ที่มีหน้าที่ในการไต่สวน และส่งให้ศาลฎีกาวินิจฉัยต่อไป และเมื่อศาลฎีกาประทับรับฟ้องคณะรัฐมนตรีต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่

ส่วนนายพิภพ กล่าวว่า รัฐธรรมนูญไม่ได้ระบุว่าเป็นคณะรัฐมนตรีรักษาการไม่ต้องแสดงความรับผิดชอบในสิ่งที่ทำไปในขณะเป็นรัฐบาล หากลาออกเจ้าหน้าที่ข้าราชการก็ยังคงรักษาการได้ และเรียกร้องให้นักการเมืองชุดใหม่ต้องปฏิบัติตามพ.ร.บ.อุ้มหาย อย่างเต็มที่

“เรื่องอุ้มหายไม่ใช่เรื่องเล่นของ สังคมไทยเป็นเรื่องจริงจังระดับโลกที่เรียกว่าสิทธิมนุษยชน ประชาธิปไตยจะเดินได้ พื้นฐานสิทธิมนุษยชนต้องยังคงอยู่ เพราะตลอดเวลาที่ พ.ร.บ.อุ้มหายไม่ได้ถูกบังคับใช้ เราไม่รู้หรอกว่ามีคนถูกอุ้มหายไปแล้วกี่ราย” นายพิภพกล่าว