‘ประยุทธ์’ ปาร์ตี้ลิสต์ เบอร์ 1 ‘รทสช.’ แคนดิเดตนายกฯ

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

https://www.komchadluek.net/news/politics/545557

25 มี.ค. 2566

'ประยุทธ์' ปาร์ตี้ลิสต์ เบอร์ 1 'รทสช.' แคนดิเดตนายกฯ

รทสช.เปิดตัวผู้สมัครสส.400 เขต ‘ประยุทธ์’ ปาร์ตี้ลิสต์เบอร์ 1 แคนดิเดตนายกฯ ลั่นไม่ใช่พรรคทางผ่าน ประกาศก้าวข้ามความขัดแย้ง ไม่โจมตีให้ร้ายพรรคอื่น ดันแคมเปญ ‘ทำแล้ว ทำอยู่ ทำต่อพลัส’

ที่ฮอล์ 5 อิมแพค เมืองทองธานี จ.นนทบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) เปิดตัวผู้สมัคร สส. 400 เขต และเปิดแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก มีผู้สนับสนุนของแต่ละพื้นที่ได้ถือป้ายไฟป้ายเชียร์ทยอยมาร่วมงาน ซึ่งส่วนใหญ่สวมเสื้อยืดของพรรครวมไทยสร้างชาติ และมีการเปิดเพลงรณรงค์หาเสียง ซึ่งเป็นเพลงเนื้อหาเชิญชวนให้เลือกลุงตู่ ซึ่งอยู่พรรครวมไทยสร้างชาติ

มีเยาวชนมาถือป้ายเต้นกันอย่างสนุกสนาน ขณะที่ภายในงานขึ้นป้ายนโยบายต่างๆของพรรค เช่น ปรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุให้เท่ากันทุกช่วงวัย 1,000 บาท/เดือน , คืน 30%เงินสะสมชราภาพผู้ประกันสังคม มาตรา 33 , แก้กฎหมายได้ที่ทำกิน ไม่โดนไล่ที่ ไม่ถูกฟ้อง , บัตรสวัสดิการพลัสเพิ่มสิทธิเป็น 1,000บาท/คน ให้วงเงินฉุกเฉิน 10,000บาท/คน เป็นต้น

เมื่อพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ในฐานะประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรครวมไทยสร้างชาติ เดินทางมาถึง โดยมี นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค นายศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ สมาชิกพรรค ให้การต้อนรับ และนำเข้าห้องรับรอง จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ เดินเข้ามายังเวทีจัดงานเพื่อร่วมกิจกรรมท่ามกลางเสียงเชียร์จากผู้สนับสนุน

รทสช.เปิดตัวผู้สมัครสส.400 คน

กิจกรรมเริ่มด้วยการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครสส.ทั่วประเทศ 400 เขต จากนั้นแนะนำทีมผู้บริหารและทีมเศรษฐกิจพรรครวมไทยสร้างชาติ และประกาศ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นแคนดิเดนายกรัฐมนตรีของพรรค ในฐานะผู้สมัครสส.ปาร์ตี้ลิสต์ เบอร์ 1 ส่วนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ปาร์ตี้ลิสต์เบอร์2

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า วันนี้เห็นผู้สมัครสส. 400 ท่านรู้สึกไม่โดดเดี่ยว วันนี้เราได้สมาชิกคนที่ร่วมอุดมการณ์ของพรรค 400 คน ต้องขอบคุณทุกคนที่ตัดสินใจมาอยู่กับพวกเราพรรครวมไทยสร้างชาติวันนี้รู้สึกตื่นเต้นพอสมควรที่ได้พบกับสมาชิกครบทั้งพรรค ซึ่งส่วนใหญ่ก็จำหน้ากันได้หมด เจอกันก็ต้องท่องชื่อตน มีข้อเสียคือจำชื่อยากเพราะชื่อคนเยอะมาก วันนี้ทุกคนมาร่วมทำงานร่วมอุดมการณ์ทำงานในนามพรรครวมไทยสร้างชาติ บางท่านเคยเป็นสส.อยู่แล้ว หลายคนมาครั้งแรก มีทั้งรุ่นใหญ่รุ่นกลางและรุ่นใหม่ ซึ่งมีความรู้หลากหลาย พวกเรายืนยันว่าจะปรึกษาหารือกันขับเคลื่อนไปด้วยกันเพื่อให้คนทุกรุ่นทุกวัยของประเทศเดินไปข้างหน้าได้ ตนหวังว่าทั้ง 400 คนจะร่วมกันคิดและทำไปกับตน

รทสช.เป็นสถาบันการเมืองที่เข้มแข็ง

ยืนยันว่าเราจะช่วยกันทำให้พรรครวมไทยสร้างชาติเป็นสถาบันการเมืองที่เข้มแข็ง เป็นทางเลือกหลักของคนไทยทั้งประเทศ เราต้องเป็นสายตรงสายหลัก สายใหญ่ สายหลักมอเตอร์เวย์ไม่ใช่ทางผ่านของใคร ถ้าใครจะมาก็ต้องขออนุมัติขึ้นทางผ่าน ฉะนั้นตรงนี้เราจะต้องร่วมมือกันให้ได้มากที่สุด พรรคของเราแม้จะเป็นพรรคการเมืองใหม่แต่ ตนหน้าเก่าอยู่มาหลายปีแล้ว เราไม่ใช่คนหน้าใหม่ อดีตรัฐมนตรีก็มี รองนายกรัฐมนตรีก็มี วันนี้นอกเวลาราชการจึงมาได้

“วันนี้เราทำแล้ว ทำอยู่ ทำต่อ ขออนุญาตในฐานะประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางฯพรรค บวกอีกนิดนึง ทำแล้ว ทำอยู่ ทำต่อพลัส หรือทำอีกนั่นแหละ ซึ่งหลายอย่างเป็นสิ่งที่เราต้องทำอย่างต่อเนื่อง วันนี้โชคดีที่เรามีทีมเศรษฐกิจเข้ามา หลายคนอยากเข้ามา แต่หลายคนไม่อยากเข้าทางการเมืองขออยู่ข้างหลังคอยให้คำปรึกษาผมก็รับฟังและนำเสนอมาในพรรคพิจารณา”พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

‘เศรษฐา’ ยอมรับเป็นลูกทหาร แต่เกลียดเผด็จการ ไม่เอารัฐประหาร

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

https://www.komchadluek.net/news/politics/545556

25 มี.ค. 2566

'เศรษฐา' ยอมรับเป็นลูกทหาร แต่เกลียดเผด็จการ ไม่เอารัฐประหาร

‘เศรษฐา ทวีสิน’ ยอมรับ เป็นลูกทหาร แต่เกลียดเผด็จการ ไม่เอารัฐประหาร เอ่ยปากชม แพทองธาร หญิงแกร่ง ใจสู้ รักประชาชน แม้มีข้อจำกัดด้านร่างกาย ย้ำ เลือกเพื่อไทยแลนด์สไลด์ ทุกปัญหาแก้ได้แน่นอน

นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย กล่าวยอมรับบนเวทีปราศรัยที่สนามกีฬาองค์การบริหารส่วนจังหวัดสระบุรีว่าตนเป็นลูกทหาร บิดาเป็นทหารรุ่นเดียวกับพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ก่อนย้ำว่าตนนั้นรังเกียจเผด็จการ ไม่เอารัฐประหาร ส่วนวันนี้ (25 มี.ค.2566) ตนได้มายืนอยู่ตรงนี้ถือเป็นเกียรติสูงสุดที่หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ได้ชวนมาร่วมทำงานแก้ไขปัญหาบ้านเมือง แต่วันนี้นางสาวแพทองธาร ไม่ได้มาด้วย

เราสองคนมีอุดมการณ์เดียวกันคือเอาประชาชนเป็นที่ตั้ง ก่อนเอ่ยปากชมนางสาวแพทองธาร ว่าเป็นคนจริงใจ มีความตั้งใจทำงานเพื่อบ้านเมืองแม้มีข้อกำหนดด้านร่างกาย บางครั้งมีอาการมือเท้าชา บางเวทีหายใจไม่ทัน ซึ่งใจสู้และน่าเห็นใจ แต่อย่างไรก็ตามวันนี้พี่ชาย (พานทองแท้ ชินวัตร) มาแทน สองคนนี้มีดีเอ็นเอตรงกันคือ “รักประชาชน”

นายเศรษฐา กล่าวว่าเมื่อวานนี้ (24 มี.ค.) เป็นวันประวัติศาสตร์ มีการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร สส.กทม. ทั้ง 33 คน ซึ่งแน่นอนว่าจังหวัดกรุงเทพฯ มาจังหวัดสระบุรี ถือว่าไม่ไกลกันผลกระทบจึงถึงกันได้ นายเศรษฐา ยังเล่าต่อว่าเมื่อวานนี้ในการปราศรัยที่เวทีกรุงเทพฯ ตนปราศรัยด้วยความดุดัน ดุเดือด เพราะมีอารมณ์ 

นายเศรษฐา ทวีสิน ปราศรัยที่ จ.สระบุรี ยอมรับ เป็นลูกทหาร แต่เกลียดเผด็จการ นายเศรษฐา ทวีสิน ปราศรัยที่ จ.สระบุรี ยอมรับ เป็นลูกทหาร แต่เกลียดเผด็จการ

นายเศรษฐา ยอมรับว่า มีความคับแค้นใจมาตลอด 8 ปีที่ผ่านมา หลายอย่างอาจเยียวยากันได้ แต่ด้านจิตใจคงเยียวยากันยาก พร้อมทั้งยกตัวอย่างเรื่องเพศสภาพย้ำว่าต้องมีความเท่าเทียม ,เรื่องการเกณฑ์ทหาร ก็ต้องมาจากความสมัครใจไม่ใช่การบังคับ ,เรื่องภูมิกาศ PM2.5 ที่ต้องเร่งแก้ไข

ซึ่งพรรคเพื่อไทยเราทำได้ รวมถึงอีกหลายนโยบายที่พรรคเพื่อไทยตั้งใจทำหากได้เป็นรัฐบาล “ขอให้ชาวสระบุรี เลือกเพื่อไทยให้แลนด์สไลด์”

เพื่อไทยปราศรัยที่จ.สระบุรีเพื่อไทยปราศรัยที่จ.สระบุรี

‘วิรัช’ มั่นใจกระแส พล.อ.ประวิตร ดีขึ้น พปชร.กวาดสส.120 ที่นั่ง

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

https://www.komchadluek.net/news/politics/545555

25 มี.ค. 2566

'วิรัช' มั่นใจกระแส พล.อ.ประวิตร ดีขึ้น พปชร.กวาดสส.120 ที่นั่ง

พล.อ.ประวิตร นำทีม พปชร.ภาคเหนือ ปราศรัยเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครพิจิตร ครบทั้ง 3 เขต ปชช.แห่เข้าฟังเนืองแน่น หนุนนโยบายไร้ภัยแล้งตลอดทั้งปี ‘วิรัช’ มั่นใจ พลังประชารัฐกวาดสส.120 ที่นั่ง

ที่วิทยาลัยเทคนิคพิจิตร จ.พิจิตร พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) จัดเวทีปราศรัย นําโดย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค พปชร.,นายสันติ พร้อมพัฒน์ เลขาธิการพรรค ,นายวิรัช รัตนเศรษฐ รองหัวหน้าพรรค,นายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรค,ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา พรรค พปชร.,นายวราเทพ รัตนากร กรรมการฝ่ายนโยบาย นายบุญสิงห์ วรินทร์รักษ์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรค พปชร. และนาย ไผ่ ลิกค์ สส.กำแพงเพชร

พปชร.เปิดตัวผู้สมัครพิจิตรครบ 3 เขต

โดยพรรคพลังประชารัฐ ได้มีการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร จ.พิจิตร ประกอบไปด้วย ผู้ช่วยศาสตราจารย์พรชัย อินทร์สุข ว่าที่ผู้สมัคร สส.พิจิตรเขต 1 นางณริยา บุญเสรฐ ว่าที่ผู้สมัคร สส.พิจิตร เขต 2 และนายเอกวิชญ์ เรืองมาลัย ว่าที่ผู้สมัคร สส.พิจิตรเขต 3 ทั้งนี้ ท่ามกลางสภาพอากาศบริเวณเวทีปราศรัยมีอุณหภูมิร้อนกว่า 38 องศา แต่บรรยากาศก็เป็นไปอย่างคึกคัก มีประชาชนมาฟังการปราศรัยอย่างเนืองแน่นกว่า 10,000 คน

พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า พรรคพลังประชารัฐส่งคนมีคุณภาพครบทั้ง 3 เขต ไว้ในอ้อมอก อ้อมใจของทุกคนและขอฝากนโยบายที่พรรคทำเพื่อประชาชนชาวพิจิตร ตนรู้สึกอบอุ่นเป็นอย่างมากที่ได้มาอยู่ท่ามกลางชาวจังหวัดพิจิตร ด้วย พวกเราพร้อมแล้วที่จะมาทำงานให้กับชาวพิจิตร โดยได้คัดสรรคนดี คนเก่งที่จะมาเป็นตัวแทนของประชาชน เพื่อมาพัฒนาแก้ไขปัญหาให้กับชาวพิจิตรทุกคน ตนเชื่อว่าทุกคนย่อมอยากเห็นจังหวัดพิจิตรเจริญขึ้น ดังนั้น จึงต้องเลือกพรรคพลังประชารัฐ และผู้สมัครทั้ง 3 คนให้มาทำงานเพื่อทุกคนที่นี่

“พรรคพลังประชารัฐ คำนึงถึงประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง เพราะฉะนั้นนโยบายทุกข้อของเราทำเพื่อให้ประชาชนอยู่ดีกินดี ไม่ว่าจะเป็นโครงการบัตรประชารัฐการดูแลผู้สูงอายุ สตรีมีครรภ์ รวมถึงการพัฒนาเศรษฐกิจรากหญ้า ให้มีความเท่าเทียม เพื่อลดปัญหาความเหลื่อมล้ำ สร้างความเป็นธรรมให้เกิดขึ้นในสังคม”

พล.อ.ประวิตร นำทัพ พฟชร.ปราศรัยที่ จ.พิจิตรพล.อ.ประวิตร นำทัพ พฟชร.ปราศรัยที่ จ.พิจิตร

ตลอด 4 ปีไม่มีภัยแล้งอีกเลย

พล.อ.ประวิตร กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาตนได้แก้ปัญหาปัญหาน้ำแล้ง น้ำท่วม จะเห็นได้ว่าไม่มีปัญหาภัยแล้งอีกเลยตลอด 4 ปีที่ผ่านมา มีเรา ไม่มีแล้ง อีกต่อไป และเมื่อมีเรา ต้องมีที่ทำกิน ให้กับพี่น้องประชาชนทุกคน เราจะดูแลทุกคนอย่างต่อเนื่อง 4 ปีที่ผ่านมา เราก็ดูแลมาแล้ว แต่ยังไม่ครบทั้ง 77 จังหวัด เราจึงกลับเข้ามาสานต่อให้ครบทั่วประเทศให้ได้ ในส่วนปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ อาชญากรรมออนไลน์ ที่เป็นอันตรายต่อประเทศ ต้องแก้ปัญหาได้ทันที

“เราขออาสานำความรัก ความสามัคคีมาสู่ประเทศชาติหมดเวลาแล้วที่คนไทยจะมาทะเลาะกันเอง ต้องจับมือกัน นำประเทศไปสู่ก้าวหน้า เพื่อความสงบของคนไทยทุกคน ฝากกับทุกคนว่า ถ้าอยากให้ประเทศมีความรัก สงบสุข สันติภาพเกิดขึ้น และมีความเป็นหนึ่งเดียวต้องเลือกพรรคพลังประขารัฐเท่านั้น”

ทั้งนี้ ว่าที่ผู้สมัครได้สลับกันขึ้นปราศรัย โดย ผศ.พรชัย อินทร์สุข ว่าที่ผู้สมัคร สส.พิจิตรเขต 1 กล่าวปราศรัยว่า วันนี้ได้รับเกียรติจากพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ขวัญใจชาวพิจิตร เดินทางมาร่วมพูดคุยกับพวกเรา จากนโยบายของพรรคพลังประชารัฐที่จะทำให้คนไทยมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น โดยเฉพาะปัญหาเรื่องภัยแล้งหรือน้ำท่วม จะไม่เกิดขึ้นอีกถ้าเรามีนายกรัฐมนตรีชื่อ พลเอกประวิตร เราจะมีน้ำใช้เพื่อการเกษตรกรรมตลอดทั้งปี ตนเชื่อเลยว่า จากนี้ไปคนพิจิตรจะมีน้ำเพื่อทำนา สร้างรายได้ตลอดทั้งปี

ด้านนางณริยา บุญเสรฐ ว่าที่ผู้สมัคร สส.พิจิตร เขต 2 กล่าวปราศรัยว่า ชาวพิจิตรอาจจะเคยเห็นตนมีการเปิดตัวกับอีกพรรคการเมืองหนึ่ง ซึ่งทุกคนคงสงสัยว่าทำไมตนถึงย้ายมาลงรับสมัครเลือกตั้งกับพรรคพลังประชารัฐ ก็เพราะพรรคพลังประชารัฐจะก้าวข้ามความขัดแย้ง รวมถึงพรรคยังมีนโยบายดี ๆ เพื่อคนไทยทั้งประเทศไม่ว่าจะเป็นบัตรประชารัฐ 700 บาท รวมถึงนโยบายดูแลผู้สูงอายุ 345 678 ที่จะมีสวัสดิการดูแลผู้สูงอายุ ตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป ตามลำดับขั้นบันได ทั้งนี้ ตนขอโอกาสจากชาวพิจิตร ขอให้ สส.พิจิตรทั้ง 3 เขตเป็นผู้สมัครของพรรคพลังประชารัฐ

ด้านนายเอกวิชญ์ เรืองมาลัย ว่าที่ผู้สมัคร สส.พิจิตร เขต 3 กล่าวปราศรัยว่า ขอขอบคุณพี่น้องชาวพิจิตรที่มาต้อนรับผู้บริหารพรรคพลังประชารัฐรวมถึงคู่กันหมักทุกคนอย่างอบอุ่น วันนี้ถ้าตนได้รับโอกาสจากชาวพิจิตรเขตสาม ตนสัญญาว่าจะทำหน้าที่อย่างเต็มความสามารถให้คุ้มค่ากับภาษีของประชาชนทุกคนและตอบแทนความไว้วางใจด้วยการทำงานเต็ม 100% เพื่อประชาชน

ผู้กองธรรมนัส ชื่นชมลุงป้อมเป็นผู้นำ-ผู้ใหญ่ใจดี

ร.อ.ธรรมนัส กล่าวปราศรัย ว่า ตนอยู่พรรคการเมืองมาหลายพรรค แต่พรรคที่มีหัวหน้าอย่าง พล.อ.ประวิตร ทำให้ตนสามารถพูดได้เต็มปากว่า ท่านคือผู้นำเป็นผู้ใหญ่ใจดี วันนี้เป็นโอกาสดีของพี่น้องชาวพิจิตรที่ท่านตั้งใจมาพบทุกคนที่นี่ทั้ง 3 เขต 12 อำเภอ เมื่อการเลือกตั้งปี 2562 ผู้สมัครของพลังประชารัฐทั้ง 3 เขตได้รับความไว้วางใจจากพี่น้องที่นี่ วันนี้ ส.ส.ของพรรคพลังประชารัฐที่สร้างมากับมือได้ย้ายบ้านออกไป เราก็ไม่ว่ากันแซึ่งเรามั่นใจว่าในการเลือกตั้งปีนี้เราได้ว่าที่ผู้สมัครที่มีคุณภาพมาเป็นตัวแทนชาวพิจิตรอีกครั้ง ซึ่งเราหวังว่า ทุกคนจะกาให้เราทั้งผู้สมัครและพรรคพลังประชารัฐ

“พรรคพลังประชารัฐประกาศชัดเจนว่า เราจะก้าวข้ามความขัดแย้ง บรรยากาศที่แตกแยก ไม่ใช่เรื่องสนุก หมดเวลาแล้วที่คนไทยจะทะเลาะกัน เพราะฉะนั้นถ้าใครอยากได้ประเทศที่สงบสุขขอให้เลือกพรรคพลังประชารัฐ”

ร.อ.ธรรมนัส ยังกล่าวต่อถึง นโยบายของพรรคพลังประชารัฐ ที่จะมีการช่วยเหลือชาวนาที่ถือเป็นกระดูกสันหลังของประเทศ ทำนามาด้วยความเหนื่อยล้า แต่พอถึงเวลาฤดูขายข้าวข้าว ราคากลับตกต่ำทุกปี

มั่นใจ พปชร.กวาด สส. 120 ที่นั่ง

นายวิรัช รัตนเศรษฐ ฐานะรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์ถึงการเลือกตั้งครั้งนี้ว่า พรรคพลังประชารัฐจะได้ สส.เขต 120 เสียง ซึ่งการเลือกตั้งปี 2562 พรรคพลังประชารัฐ พรรคเคยถูกปรามาสว่าจะได้ 10-11 % แต่พอคะแนนโหวตเตอร์ออกมา 8.4 ล้านเสียง เขาเรียกว่าหักปากกาเซียน พรรคอันดับ 2 ได้ 8.2 ล้านเสียง โหวตเตอร์โคราชก็ได้อันดับ 1 ทุกเขต ครั้งนี้กระแสของพรรคก็ขึ้นช้าๆ แต่ว่ามั่นคง

ดังนั้นวันนี้เรามายืนยันว่า ต้องมาขอบคุณพี่น้องชาวพิจิตรที่เทคะแนนให้ทั้ง 3 เขต กว่า 1 แสนเสียง มาเป็นอันดับ 1 ครั้งนี้พปชร.ขอ สส.ทั้ง 3 เขตเพื่อมาดูแลความเป็นอยู่พี่น้องประชาชน

นายวิรัช รัตนเศรษฐ ฐานะรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐนายวิรัช รัตนเศรษฐ ฐานะรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ

‘ชาติพัฒนากล้า’ มั่นใจส่ง 2 พี่น้อง บ้านใหญ่โคกกรวด โคราชหวัง 4 เก้าอี้

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

https://www.komchadluek.net/news/politics/545552

25 มี.ค. 2566

'ชาติพัฒนากล้า' มั่นใจส่ง 2 พี่น้อง บ้านใหญ่โคกกรวด โคราชหวัง 4 เก้าอี้

‘ชาติพัฒนากล้า’ ส่งพี่น้องตระกูลกาญจนวัฒนา กำนันเบ้า ลงชิงชัย สส.เขต 3 ส่ง สมบัติ ลงเขต 4 ’สุวัจน์’ มั่นใจส่ง 2 พี่น้อง บ้านใหญ่โคกกรวด จำกวาดสส.โคราช 4 เก้าอี้ รวมทั่วประเทศขั้นต่ำ 25 ที่นั่ง

การเลือกตั้ง2566 วันที่ 14 พ.ค. 2566 พรรคชาติพัฒนากล้าหมายมั่นปั้นมือว่าจะกวาดจำนวน สส.ให้ได้ขั้นต่ำทั่วประเทศ 25 ที่นั่ง เพื่อรักษาโอกาสในการเสนอชื่อแคนดิเดตของพรรค เพื่อชิงเก้าอี้นายกรัฐมนตรีตามกติกา 

โดยในส่วนของจังหวัดนครราชสีมานั้น มั่นใจว่าจะคัมแบ็คอีกครั้ง เขตที่มีความหวัง คือ เขต 1 ส่งนายเทวัญ ลิปตพัลลภ เลขาธิการพรรคฯ เป็นผู้สมัคร เขตเลือกตั้งที่ 2 นายวัชรพล โตมรศักดิ์ รองหัวหน้าพรรคฯ แชมป์เก่า

เขตเลือกตั้งที่ 3 ได้ “กำนันเบ้า” นายสมศักดิ์ กาญจนวัฒนา ซึ่งเป็นนักการเมืองท้องถิ่นชื่อดัง อดีตกำนันตำบลโคกกรวด อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา และเป็นเจ้าของปั๊มน้ำมัน ปตท.ประเสริฐสิน ถนนมิตรภาพขาเข้าเมืองโคราช หลายสาขา พี่ใหญ่ใจสปอร์ตของพี่น้องท้องถิ่นโคราช ในอดีตจนถึงปัจจุบัน มาเป็นผู้สมัครในเขตเลือกตั้งที่ 3

กำนันเบ้า-นายสมศักดิ์ กาญจนวัฒนา นักการเมืองท้องถิ่นชื่อดัง จ.นครราชสีมากำนันเบ้า-นายสมศักดิ์ กาญจนวัฒนา นักการเมืองท้องถิ่นชื่อดัง จ.นครราชสีมา

เขตเลือกตั้งที่ 4 สจ.สมบัติ กาญจนวัฒนา รองเลขาธิการพรรคฯ อดีตประธานสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา น้องชาย กำนันเบ้า เป็นอดีตสจ.เขต 3 ในเมือง นครราชสีมา ลงพื้นที่ในเขต 4 นายสมบัติ มีความผูกกับชาวสูงเนินและยังมีฐานเสียงเดิมอยู่เขต 3 แต่ด้วยความเป็นลูกหลานชาวสูงเนิน จึงเลือกลงเขต 4 เพื่อจะสานต่อนโยบายที่จะทำให้สูงเนิน ขามทะเลสอ และ โนนไทย ที่ ได้บอกพ่อแม่พี่น้อง ไว้แล้ว เช่น เรื่องปัญหาน้ำท่วมทางการเกษตร ปัญหาเรียนมาไม่ตรงตกงาน นิรโทษกรรมด้านการศึกษาฯ

ดังนั้น การได้สองพี่น้องบ้านใหญ่โคกกรวดลงชิง สส.ในเขตที่ 3 และเขต 4 ทำให้พรรคชาติพัฒนากล้า มีลุ้นที่จะกวาดที่นั่ง สส.โคราชได้ถึง 4 เก้าอี้

ว่ากันว่า ผลจากการแบ่งเขตเลือกตั้งใหม่ ทำให้ชาติพัฒนากล้า ได้เปรียบ เพราะเขต 3 เขต 4 เป็นพื้นที่ตระกูลกาญจนวัฒนา เขต 1 เป็นของนายเทวัญ ลิปตพัลลภ และ เขต 2 เป็นของแชมป์เก่า นายวัชรพล โตมรศักดิ์ 

ทั้งนี้ นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคพรรคชาติพัฒนากล้า  นายเทวัญ ลิปตพัลลภ เลขาธิการพรรคพรรคชาติพัฒนากล้า พร้อมแกนนำพรรคพรรคชาติพัฒนากล้า  เตรียมเปิดตัวผู้สมัครชิงเก้าอี้ สส.นครราชสีมา ครบทั้ง 16 เขตเลือกตั้ง ในวันจันทร์ที่ 27 มี.ค.2566 ณ ที่ทำการพรรคชาติพัฒนากล้า ที่อยู่ : 2222/2 ถ.มิตรภาพ ต.ในเมือง อ.เมืองนครราชสีมา จ.นครราชสีมา

นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคพรรคชาติพัฒนากล้า ล้อมวงรับประทานอาหารกับผู้สมัครสส.โคราช นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคพรรคชาติพัฒนากล้า ล้อมวงรับประทานอาหารกับผู้สมัครสส.โคราช

เวที ‘เนชั่นทีวี 22’ debateอนาคตประเทศไทย 10 พรรค ร่วมแสดงวิสัยทัศน์ที่สงขลา

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

https://www.komchadluek.net/news/politics/545551

25 มี.ค. 2566

เวที 'เนชั่นทีวี 22' debateอนาคตประเทศไทย 10 พรรค ร่วมแสดงวิสัยทัศน์ที่สงขลา

เนชั่นทีวี 22 เปิดเวทีดีเบตภาคใต้ พื้นที่แสดงวิสัยทัศน์ ขุนพล 10 พรรคการเมือง ร่วมโชว์นโยบายในศึกเลือกตั้ง2566 ที่ สงขลา

เนชั่นทีวี 22 จัดเวทีดีเบต สู่การติดตามอนาคตประเทศไทย เปิดเวทีภาคใต้ พบแม่ทัพพรรคการเมือง กับนโยบายกินได้ ที่เวทีสงขลา ณ สวนสาธารณะแห่งใหม่ในเมืองสงขลา  ในวันเสาร์ที่ 25 มีนาคมนี้ เริ่มเปิดเวที ตั้งแต่เวลา 18.00 – 20.30น. พบกับ 10 พรรคการเมืองส่งตัวแทนร่วมเวที  ได้แก่


นิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์
กรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า
พิพัฒน์ รัชกิจประการ รองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย
นิกร จำนง ประธานคณะกรรมการนโยบาย และยุทธศาสตร์พรรคชาติไทยพัฒนา

เวที 'เนชั่นทีวี 22' debateอนาคตประเทศไทย 10 พรรค ร่วมแสดงวิสัยทัศน์ที่สงขลา
น.ต.ศิธา ทิวารี เลขาธิการพรรคไทยสร้างไทย
ดร.ธนกร วังบุญคงชนะ ประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางยุทธศาสตร์ภาคใต้ พรรครวมไทยสร้างชาติ
พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ 
นิพิฎฐ์ อินทรสมบัติ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ 
วิสุทธิ์ ไชยณรุณ ประธานสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและประธานคณะกรรมการนโยบายเกษตร พรรคเพื่อไทย
ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล 
 


ด้าน ผลสำรวจความเห็นประชาชน โดยศูนย์สำรวจความคิดเห็น ‘นิด้าโพล’ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เรื่อง “คนสงขลาเลือกพรรคไหน” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 17-23 กุมภาพันธ์ 2566 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป และมีสิทธิเลือกตั้งในจังหวัดสงขลา กระจายทุกระดับการศึกษา อาชีพ และรายได้ รวมทั้งสิ้น จำนวน 1,100 หน่วยตัวอย่าง เกี่ยวกับคนจังหวัดสงขลาเลือกพรรคไหน

ผลสำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจของประชาชน เรื่อง “คนสงขลา เลือกพรรคไหน” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 17-23 กุมภาพันธ์ 2566 ผลสำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจของประชาชน เรื่อง “คนสงขลา เลือกพรรคไหน” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 17-23 กุมภาพันธ์ 2566
สำหรับผลสำรวจเมื่อถามถึงบุคคลที่คนสงขลาจะสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรีในวันนี้ โดย 3 อันดับแรก คือ

 อันดับ 1 ร้อยละ 26.00 ระบุว่าเป็น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา (พรรครวมไทยสร้างชาติ) เพราะ ซื่อสัตย์สุจริต มีความเด็ดขาด กล้าตัดสินใจ ทำให้บ้านเมืองเกิดความสงบ และต้องการให้บริหารประเทศอย่างต่อเนื่อง 
 


อันดับ 2 ร้อยละ 18.46 ระบุว่าเป็น น.ส.แพทองธาร ชินวัตร (พรรคเพื่อไทย) เพราะ เป็นคนรุ่นใหม่ ชื่นชอบพรรคเพื่อไทย นโยบายของพรรคเพื่อไทยสามารถแก้ไขปัญหาราคาสินค้าทางการเกษตรได้ ขณะที่บางส่วนระบุว่า ชื่นชอบผลงานของตระกูลชินวัตร 

อันดับ 3 ร้อยละ 11.36 ระบุว่าเป็น นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์  พรรคก้าวไกล เพราะ ต้องการเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่เข้ามาบริหารประเทศ เป็นคนมีวิสัยทัศน์ ชื่นชอบนโยบายและอุดมการณ์ทางการเมืองของพรรคก้าวไกล

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ พรรคประชาธิปัตย์ ได้อันดับ 6 ร้อยละ 6.73 เหตุผลในการสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ ชื่นชอบผลงานที่ผ่านมา ขณะที่บางส่วนระบุว่า เป็นคนใต้เหมือนกัน 

สำหรับพรรคการเมืองที่คนสงขลามีแนวโน้มจะเลือกให้เป็น ส.ส. แบบแบ่งเขต ในวันนี้ พบว่า  3 อันดับแรก คือ

อันดับ 1 ร้อยละ 23.46 ระบุว่าเป็น พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) 

อันดับ 2 ร้อยละ 19.00 ระบุว่าเป็น พรรคเพื่อไทย (พท.) 

อันดับ 3 ร้อยละ 15.91 ระบุว่าเป็น พรรครวมไทยสร้างชาติ(รทสช.)

‘ประชาธิปัตย์’ ยึดมั่นประชาธิปไตย ใครรวมเสียงได้มาก จัดตั้งรัฐบาล

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

https://www.komchadluek.net/news/politics/545547

25 มี.ค. 2566

'ประชาธิปัตย์' ยึดมั่นประชาธิปไตย ใครรวมเสียงได้มาก จัดตั้งรัฐบาล

‘ประชาธิปัตย์’ ยึดมั่นประชาธิปไตย เคารพประชาชน ใครรวมเสียงข้างมากได้ จัดตั้งรัฐบาล พรรคชนะอาจเป็นฝ่ายค้าน ส่วน ทักษิณ กลับบ้านได้ไม่มีใครห้าม แต่ต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนภายหลังเข้าร่วมสังเกตการณ์ปชป.ทำไพรมารีโหวตของผู้สมัคร สส. กทม. ที่โรงแรมบลิซ โฮเทล ลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร

ผู้สื่อข่าวถามถึงข่าวว่า นายทักษิณ ชินวัตร ต้องการกลับประเทศไทยนั้น หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ความจริงแล้วก็กลับประเทศได้อยู่แล้วถ้าจะกลับ ไม่มีใครสามารถไปห้ามไม่ให้กลับได้ เพียงแต่เมื่อกลับมาแล้วก็ต้องเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าต้องทำอะไรอย่างไร

พร้อมกับได้ให้ข้อสังเกตว่า นายทักษิณนั้นออกมาพูดในช่วงที่กำลังมีการเลือกตั้งเท่านั้นเอง ส่วนข้อเท็จจริงก็คือไม่มีใครไปห้ามไม่ให้กลับได้ เพราะตัวนายทักษิณเองก็สามารถกลับมาได้อยู่แล้ว เพียงแต่ต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม

ส่วนที่ผู้สื่อข่าวได้ถามถึงเรื่องการจับขั้วเพื่อรวมเสียงข้างมากในการจัดตั้งรัฐบาลนั้น นายจุรินทร์ตอบว่า สำหรับพรรคประชาธิปัตย์ มีหลักที่ได้ประกาศไปแล้วว่า เรายึดมั่นในการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ซึ่งเป็นประชาธิปไตยในระบบรัฐสภา ใครรวมเสียงข้างมากได้คนนั้นก็เป็นรัฐบาล ที่เหลือก็เป็นฝ่ายค้าน 

เพราะฉะนั้นจึงขึ้นอยู่กับเสียงประชาชนหลังการเลือกตั้งว่า พรรคไหนจะได้เท่าไหร่ แล้วใครจะไปรวมกับใคร กลายเป็นเสียงข้างมากเสียก่อน เพราะฉะนั้นต้องนับหนึ่งที่การเลือกตั้ง ส่วนการจับขั้วนั้นสามารถทำได้ แต่จะเกิดจริงได้หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับมือประชาชน ใครจะไปจับกับใครอย่างไรก็จับได้ แต่สุดท้ายประชาชนเป็นผู้ให้คำตอบ 

ประชาธิปัตย์จึงบอกว่า เมื่อเรายึดมั่นในระบอบประชาธิปไตย เราก็เคารพประชาชน เพราะฉะนั้นต้องให้ประชาชนเป็นคนแรกที่ให้คำตอบก่อน ว่าเขาจะให้พรรคไหนเท่าไหร่ และเมื่อถึงเวลานั้น พรรคก็จะพิจารณาว่าจะตัดสินใจทางการเมืองอย่างไร โดยอาศัยที่ประชุมพรรค และต้องเป็นมติด้วย

“ประชาธิปัตย์นั้นเป็นประชาธิปไตยตัวจริง ตัวจริงทั้งประชาธิปไตยในพรรค และประชาธิปไตยนอกพรรคในระบบประชาธิปไตยสากล นี่คือสิ่งที่เรายึด ใครจะไปจับกับใครก็เป็นเรื่องของพรรคนั้น แต่ประชาธิปัตย์ยังไม่ได้ไปจับกับใคร จึงตั้งหลักไว้ชัดเจนแล้วว่า ก็ต้องรอผลการเลือกตั้ง และเมื่อประชาชนให้คำตอบแล้ว เราก็จะตัดสินใจ เพราะต้องนับหนึ่งด้วยการเคารพเสียงประชาชนก่อน” นายจุรินทร์กล่าว

ในการรวมเสียงข้างมากนั้น ไม่จำเป็นว่าต้องเป็นที่เท่าไหร่รวมกับที่เท่าไหร่ แต่อยู่ที่ว่าเมื่อรวมเสียงประชาชนทั้งหมดแล้วใครมากกว่า เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะได้ที่เท่าไหร่ก็สามารถตั้งขั้วหรือจับขั้วรวมกันเป็นรัฐบาลได้ แต่ไม่ได้หมายความว่า ได้รับเลือกตั้งมาเป็นที่ 1 ที่ 2 จะเป็นรัฐบาล ที่ 3 ที่ 4 เป็นฝ่ายค้าน เพราะในการเลือกตั้งครั้งที่แล้ว พรรคที่ได้คะแนนมาเป็นลำดับ 1 ก็เป็นฝ่ายค้าน ซึ่งก็เกิดขึ้นได้เพราะการรวมเสียง ดังนั้นประชาธิปัตย์ก็มีโอกาสที่จะได้รับเสียงที่อยู่ในระดับที่สามารถรวมเสียงกับพรรคการเมืองอื่นเพื่อตั้งรัฐบาลได้เช่นกัน

“สถานการณ์การเมืองตอนนี้ หลายพรรคก็ลงมาในขนาดที่พอๆ กัน หรือใกล้เคียงกัน อาจจะยกเว้นบางพรรคที่เสียงอาจจะโด่งไปบ้าง แต่ที่เหลือเสียงก็ใกล้ๆ กัน อาจจะมากน้อยแตกต่างกันอยู่ที่มือประชาชนนั่นแหละ แต่ก็ไม่ได้แปลว่าประชาธิปัตย์จะไม่มีโอกาส และประชาธิปัตย์ก็มีโอกาสในการที่จะไปรวมเสียงข้างมากได้ ถ้าเราได้เสียงมากพอ แล้วก็มั่นใจว่าเที่ยวนี้เราจะได้ดีกว่าเดิมในทุกภาค ทั้งปักษ์ใต้ กรุงเทพมหานคร ภาคกลาง ภาคเหนือ อีสาน ในหลายจังหวัดมีเสียงตอบรับดีมาก และผู้สมัครของเราก็มีโอกาสได้รับเลือกตั้งเช่นกัน” นายจุรินทร์กล่าว

‘ประชาธิปัตย์’ รู้ผลทำไพรมารีโหวต สส.เขต- ปาร์ตี้ลิสต์ 27 มี.ค.

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

https://www.komchadluek.net/news/politics/545544

25 มี.ค. 2566

'ประชาธิปัตย์' รู้ผลทำไพรมารีโหวต สส.เขต- ปาร์ตี้ลิสต์ 27 มี.ค.

‘ประชาธิปัตย์’ รู้ผลทำไพรมารีโหวต ผู้สมัครสส.เขต 400 คน และ สส.ปาร์ตี้ลิสต์ 100 คน ทั่วประเทศ 27 มี.ค. จุรินทร์ ย้ำจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนตัวผู้สมัครใน กทม. 4 เขต มั่นใจ ปชป.ดีขึ้นทั่วประเทศ

ที่โรงแรมบลิซ โฮเทล ลาดกระบัง พรรคประชาธิปัตย์ ได้จัดประชุมสมาชิกพรรค เพื่อรับฟังความคิดเห็นการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้ง สส.แบบแบ่งเขต และแบบบัญชีรายชื่อ หรือ ปาร์ตี้ลิสต์ จังหวัดกรุงเทพมหานคร(กทม.) โดยมี นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรค เข้าร่วมสังเกตการณ์การประชุม โดยบรรยากาศการทำไพรมารีโหวต ของผู้สมัคร สส.กทม.ในวันนี้เป็นไปอย่างคึกคัก มีสมาชิกพรรค และประชาชนให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก

หลังจากเสร็จสิ้นการประชุมในการจัดทำไพรมารรีโหวตแล้ว นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่า เมื่อเสร็จสิ้นการทำไพรมารี่ในวันที่ 27 มี.ค. 2566 ก็จะทราบว่า ทั้ง 400 คน 400 เขต เป็นใคร และบัญชีรายชื่อทั้ง 100 รายชื่อนั้นเป็นใครบ้าง เมื่อทางพรรคได้นำมาจัดทำไพรมารีแล้ว ก็จะทราบผล

สำหรับการที่ กกต. มีการประกาศเขตเลือกตั้งออกมานั้น นายจุรินทร์ กล่าวว่า พรรคมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนตัวผู้สมัครใน กทม. 4 เขต ประกอบด้วย น.ส.สุภัสสรา ธงไชย เขตห้วยขวาง วังทองหลาง นสพ.อนันต์ ฤกษ์ดี เขตหนองจอก ลาดกระบัง และมีนบุรี น.ส.ศิริภา อินทรวิเชียร เขตธนบุรี คลองสาน ราษฏร์บูรณะ นายสุวัฒน์ ม่วงศิริ เขตบางขุนเทียน จอมทอง เนื่องจาก กกต. มีการปรับเขตเลือกตั้ง ทำให้พรรคจำเป็นต้องปรับตาม ส่วนใน 29 เขต ก็คงเดิมตามที่ได้ประกาศเปิดตัวไปแล้ว

พรรคประชาธิปัตย์ทำไพรมารี่โหวต ผู้สมัครสส.เขต และ ผู้สมัครสส.ปาร์ตี้ลิสต์พรรคประชาธิปัตย์ทำไพรมารี่โหวต ผู้สมัครสส.เขต และ ผู้สมัครสส.ปาร์ตี้ลิสต์

ปชป.เชื่อฝั่งธนบุรีได้ 3 เสียง

พร้อมกับเพิ่มเติมว่า เมื่อตระกูลม่วงศิริ อยู่กับเราแล้ว 2 คน เมื่อคุณสุวัฒน์ เข้ามาเพิ่ม ก็จะช่วยให้ทีมกรุงเทพฯ เข้มแข็งขึ้น ก็เชื่อว่ามีโอกาสฝ่ามาได้ทั้ง 3 ท่านในฝั่งธนฯ

ปาร์ตี้ลิสต์ ปชป.มีครบ100 ชื่อ

สำหรับผู้สมัครแบบบัญชีรายชื่อนั้น หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า เรามีครบทั้ง 100 ชื่อ เป็นไปตามกฎหมาย ซึ่งจะไม่เกิน 100 ชื่อ ที่จะต้องนำไปทำไพรมารี และประชาธิปัตย์ได้ส่งทั้ง 100 ชื่อ ที่ได้ผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการสรรหาของพรรคในเบื้องต้น 

โดยจะรอผลจากการทำไพรมารีในวันที่ 27 มี.ค.นี้ก่อนว่าจะเป็นอย่างไร ซึ่งยังไม่สามารถตอบในตอนนี้ได้ ส่วนเรื่องการจัดลำดับบัญชีรายชื่อนั้น ก็จะเป็นเรื่องที่กรรมการสรรหาจะต้องเป็นผู้พิจารณาและส่งให้กรรมการบริหารพิจารณาอีกครั้ง

ปชป.ทำไพรมารีโหวต ผู้สมัครสส.กทม.ปชป.ทำไพรมารีโหวต ผู้สมัครสส.กทม.

ปชป.ทำไพรมารีโหวต ผู้สมัครสส.กทม.คึกคักปชป.ทำไพรมารีโหวต ผู้สมัครสส.กทม.คึกคัก

‘เพื่อไทย’ เตือน อย่าโหนกระแส ‘ทักษิณ’ กลับไทยหลังเลือกตั้งโจมตีพรรค

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

https://www.komchadluek.net/news/politics/545543

25 มี.ค. 2566

'เพื่อไทย' เตือน อย่าโหนกระแส 'ทักษิณ' กลับไทยหลังเลือกตั้งโจมตีพรรค

‘เพื่อไทย’ เตือน ฝ่ายตรงข้าม อย่าโหนกระแส ‘ทักษิณ’ กลับไทยหลังเลือกตั้ง ชี้เป็นเรื่องดี กลับมาพิสูจน์ตัวเอง ยืนยันพรรคมุ่งแก้ปัญหาให้ประชาชน

เมื่อวันที่ 25 มี.ค. นางสาวลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย รักษาการโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงนักโหนกระแสของ ดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะกลับประเทศไทยออกมาโจมตีพรรคเพื่อไทยว่า ควรคิดเสียใหม่ เพราะที่ประชาชนชื่นชมและเชื่อมั่นในพรรคเพื่อไทย คือ นโยบายดีๆที่ “คิดใหญ่ ทำเป็น เพื่อคนไทยทุกคน”
 

ซึ่งเป็นกรณีจากที่ ดร.ทักษิณออกมาให้สัมภาษณ์พิเศษกับสื่อต่างประเทศ พร้อมที่จะกลับมารับโทษจำคุกในประเทศไทย หากเขาได้รับอนุญาตให้ใช้ชีวิตที่เหลืออยู่กับครอบครัว ไม่ว่าผลการเลือกตั้งที่กำลังจะมีขึ้นในเดือน พ.ค. นี้จะออกมาเป็นอย่างไร ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขว้างและถูกหยิบมาเป็นประเด็นทางการเมือง เชื่อมโยงพรรคเพื่อไทย 
 

ดร.ลิณธิภรณ์ กล่าวต่ออีกว่า การแสดงความคิดเห็น ของ ดร.ทักษิณ เป็นการแสดงความคิดเห็นส่วนตัวของในฐานะคนไทยคนหนึ่งที่อยากกลับบ้านและกลับมาอยู่กลับลูกหลานในช่วงปั้นปลายชีวิต เพื่อเข้าสู่กระบวนการกฎหมายของไทยอย่างถูกต้อง ที่ผ่านมาคดีต่างๆที่ดร.ทักษิณ ถูกดำเนินคดี ล้วนเกิดจากฝั่งตรงข้ามทางการเมือง จนทำให้เกิดคำถามว่า ความยุติธรรมที่มีไว้เพื่อกำจัดฝั่งตรงข้ามจะยังใช่ความยุติธรรมหรือไม่

วันนี้หากดร.ทักษิณจะเดินทางกลับไทยและเข้าสู่การพิจารณาคดี ถือว่าเป็นสิทธิส่วนบุคคล และเป็นเรื่องที่ดีที่จะมาพิสูจน์ตนเอง ดังนั้นจึงไม่ควรใช้เป็นประเด็นโจมตีทางการเมือง โดยการเชื่อมโยงบุคคลอื่นคดีอื่นๆ

“วันนี้พรรคเพื่อไทยมุ่งเน้น การนำเสนอนโยบายเพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนในทุกกลุ่มและทุกช่วงวัย ให้ครอบคลุมทุกๆมิติ เพราะประชาชนเชื่อมั่นในนโยบายของพรรคเพื่อไทย ว่าสามารถทำได้จริง ประเทศไทยล้าหลังและถดถอยมาตลอด 8 ปี ดังนั้นการเลือกตั้งอย่างมียุทธศาสตร์คือการเลือกเพื่อไทยให้ชนะขาดแบบแลนด์สไลด์” ดร.ลิณธิภรณ์กล่าว
นางสาวลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ นางสาวลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์

‘ชาติไทยพัฒนา’ ย้ำจุดยืน ไม่เป็นศัตรูกับใคร พร้อมร่วมงานทุก‘พรรคการเมือง’

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

https://www.komchadluek.net/news/politics/545538

25 มี.ค. 2566

'ชาติไทยพัฒนา' ย้ำจุดยืน ไม่เป็นศัตรูกับใคร พร้อมร่วมงานทุก‘พรรคการเมือง’

ท็อป วราวุธ ย้ำจุดยืน’ชาติไทยพัฒนา’ไม่เป็นศัตรูกับใคร พร้อมร่วมงานทุกพรรคการเมือง ขอโทษประชาชน หากป้ายหาเสียง บดบังทำให้ไม่ได้รับความสะดวก

ที่ศาลหลักเมือง จ.ร้อยเอ็ด นายวราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา(ชทพ.) ระบุ ถึงคำพูดของตนที่ปราศรัยบนเวทีกาฬสินธุ์ที่ว่า ฟร์อมรัฐบาลทุกสูตรมีชาติไทยพัฒนาอยู่ในนั้น ว่า เราไม่ได้บอกว่า พรรคเราไปได้กับทุกขั้วการเมือง แต่เราบอกว่าทุกขั้วการเมืองอยากให้พรรคชาติไทยพัฒนาไปร่วมในการจัดตั้งรัฐบาล เนื่องจากพรรคชาติไทยพัฒนา ทำงานแบบไม่สร้างศัตรู 

ตลอด 4 ปีที่ผ่านมาเราทำงานร่วมกับทุกฝ่าย ไม่แบ่งว่าเป็นฝ่ายค้านหรือรัฐบาลเพราะฉะนั้นเมื่อถึงการจัดตั้งรัฐบาล ก็จะนึกถึงพรรคชาติไทยพัฒนาของเรา 

ตอนนี้ยังไม่มีพรรคใดมาชวนร่วมให้จับขั้วการเมือง แต่ด้วยความเป็นพรรคการเมือง เรามีการพูดคุยกับทุกพรรคกันเสมอ แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับพรรคการเมืองใหญ่ว่าจะเลือกเราหรือไม่

 นายวราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนานายวราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา

นายวราวุธ กล่าวถึงป้ายหาเสียงของพรรคถูกทำลายว่า มีป้ายหาเสียงของพรรคในหลายพื้นที่ ถูกทำลายและเสียหายพร้อมขอโทษประชาชน ที่บางครั้งป้ายหาเสียงของพรรคไปบดบังและสร้างความไม่สะดวกสบายให้ประชาชนในแต่ละพื้นที่

“แต่นานๆจะเลือกตั้งครั้งหนึ่ง จึงอยากขอโอกาสใช้ป้ายหาเสียงในการแนะนำตัวว่าที่ผู้สมัคร และนโยบายของพรรค หากประชาชน เห็นว่า จุดการติดป้ายไม่เหมาะสม สามารถแจ้งเพื่อให้เราไปย้ายป้ายได้”

นายวราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวขอโทษหากป้ายหาเสียงของพรรคไปบดบังและสร้างความไม่สะดวกสบายให้ประชาชนนายวราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวขอโทษหากป้ายหาเสียงของพรรคไปบดบังและสร้างความไม่สะดวกสบายให้ประชาชน

‘ศรัณย์วุฒิ’อัด ประชาธิปไตยจอมปลอม มอง แลนด์สไลด์ ทำไม่ได้

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

https://www.komchadluek.net/news/politics/545531

25 มี.ค. 2566

'ศรัณย์วุฒิ'อัด ประชาธิปไตยจอมปลอม มอง แลนด์สไลด์ ทำไม่ได้

‘วันวิชิต’ มองภาพการเมือง ภูมิใจไทย เข้าวินที่ 1 ฝ่ายอนุรักษ์นิยม แต่ใช้บริการ สว.ไม่ได้ ‘ศรัณย์วุฒิ’อัด ฝ่ายประชาธิปไตยจอมปลอม เผยความหลัง อภิปราย พล.อ.ประวิตร ไม่ได้ ชี้ แผน แลนด์สไลด์ ทำไม่ได้จริง

สถานการณ์การเมืองช่วงเข้าสู่โหมดเลือกตั้ง ปรากฏการณ์สำคัญที่เกิดขึ้นคือการย้ายพรรคการเมือง ทั้งกลุ่มสามมิตรเข้าเพื่อไทย ฝ่ายตรงข้ามย้ายไปอนุรักษ์นิยม สส.หลายคนย้ายไปพรรคฝ่ายตรงข้าม ทำให้เกมการเมืองครั้งนี้ดูซับซ้อนและน่าติดตาม


รายการคมชัดลึก เนชั่นทีวี ได้เปิดประเด็นพูดคุย เกมลึกสลับขั้ว เตะตัดขาฝ่ายตรงข้ามเพื่อวิเคราะห์สถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับการย้ายสลับขั้วครั้งนี้ 

รายการคมชัดลึก เนชั่นทีวี พูดคุยประเด็น เกมลึกสลับขั้ว เตะตัดขาฝ่ายตรงข้าม
ผศ.ดร.วันวิชิต บุญโปร่ง 
อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต มองการเข้าร่วมงานของ พล.อ.ธรรมรักษ์ อิศรางกุล ณ อยุธยา ด้วยความที่ร้างราวงการการเมืองไปหลายปี ส่วนตัวเชื่อว่าท่านไม่มีของ ในการที่จะไปดูแลพื้นที่ภาคอีสาน ด้วยวัย ด้วยปัจจัยต่างๆ สมรภูมิการสู้รบในภาคอีสานเปลี่ยนไปไกล นอกจากตัวพรรคการเมือง ตัวปัจเจกบุคคลที่ไหลเข้าไหลออก การที่พล.อ.ธรรมรักษ์ เปิดตัวช่วย พล.อ.ประวิตร เป็นภาพที่พลังประชารัฐกำลังรีแบรนด์หลายๆอย่าง

ผศ.ดร.วันวิชิต บุญโปร่ง อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิตผศ.ดร.วันวิชิต บุญโปร่ง อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต

ส่วนผสมในพลังประชารัฐ เรียกว่ามีความหลากหลาย พล.อ.ธรรมรักษ์ เคยมีความใกล้ชิดนายทักษิณ ชินวัตร มีนายสกลธี ภัททิยกุล มีนายอุตตม สาวนายน ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า กลุ่มบ้านใหญ่ต่างๆ การทำแบบนี้เป็นการเตรียมการสำหรับ พล.อ.ประวิตร ที่มีธงในการก้าวข้ามความขัดแย้ง การใช้แบบความสงบจบลงที่ พล.อ.ประยุทธ์ ใช้ไม่ได้แล้ว 

และภาพของพล.อ.ประยุทธ์เป็นแบรนด์ที่แข็งกร้าว พร้อม ปะ ฉะ ดะ ไม่สามารถสร้างความสงบสุขได้ แต่ภาพพล.อ.ประวิตร การนไส่วนผสมทั้งคนเก่าคนแก่ มีประโยชน์หรือไม่มีประโยชน์ทางการเมือง แต่ได้ภาพความหลากหลาย และภาพของ น.ส.ภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล หรือน้องมายด์ อดีตแกนนำคณะราษฏร 2563 ที่ไปสัมภาษณ์ พล.อ.ประวิตร ถามว่าทีมงานพรรคทราบหรือไม่ว่าใครจะมาจะสัมภาษณ์ ซึ่งเชื่อว่าได้มีการประเมินความคุ้มค่าทางการเมืองแล้ว การตอบเป็นการตอบแบบผู้ใหญ่ เป็นการต้องการภาพเปรียบเทียบ เทียบเคียง ในทางตรงข้ามถ้าเปลี่ยนคนนั่งเป็นพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ส่วนตัวคิดว่า พล.อ.ประยุทธ์ไม่น่าจะมีความอดทน ที่จะตอบอะไรแบบนี้ ภาพที่ต้องการตอนนี้คือการชิงเป็นที่1 ในขั้วอนุรักษ์นิยมด้วยกัน 

'ศรัณย์วุฒิ'อัด ประชาธิปไตยจอมปลอม มอง แลนด์สไลด์ ทำไม่ได้
การวิเคราะห์ทางการเมืองในขณะนี้ ฝ่ายอนุรักษ์นิยม ถ้าตัดภูมิใจไทยออกไป ในระดับสส.เขต ของสามพรรคใหญ่ฝ่ายอนุรักษ์นิยม ภูมิใจไทย พลังประชารัฐ รวมไทยสร้างชาติ การเลือกตั้งเอา สส.เขต หรือคิดคะแนน สส.บัญชีรายชื่อ คิดว่าภูมิใจไทยมาเป็นที่ 1 เพียงแต่ว่า ภูมิใจไทยไม่สามารถเข้าถึงบริการของ สว. ได้  ดังนั้น สว. จะยอมแค่ผู้นำ 2 พรรค คือ พล.ประวิตร กับ พล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งภูมิใจไทยก็รู้ดี และการที่พยายามหาทางลงให้สว.แบบสุดโต่ง ต้องพล.อ.ประยุทธ์เท่านั้น แต่ในเรื่องของพล.อ.ประวิตร ไม่ได้แสดงออกเท่านั้นเอง

ดังนั้นถ้าคะแนนฝ่ายอนุรักษ์นิยมอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกัน พล.อ.ประวิตรก็อยู่ในเงื่อนไขที่ได้เปรียบ ในข้อแม้อย่างน้อยเสียงต้องมากกว่ารวมไทยสร้างชาติ ไม่มากกว่าภูมิใจไทยอาจจะมีเงื่อนไขการต่อรอง ที่ว่า นุทินไม่มีเสียง สว. ยกเว้น อนุทินต่อสู้ว่ามีเสียงจากประชาชน อันนั้นก็ต้องไปสร้างความชอบธรรมกับกระแสสังคมให้มากดดันอีกที 
 

ในการมองกลุ่มสามมิตร อ.วันวิชิตวิเคราะห์ว่าอยู่ในภาวะกล้ำกลืน กินน้ำใต้ศอก เพราะว่ากระทรวงที่รับผิดชอบไม่ว่าจะเป็นยุติธรรม หรือ อุตสาหกรรม ไม่ได้เป็นกระทรวงที่หมายปอง การอยู่ตามมารยาท 4 ปี การที่นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ พูดมานั้นอาจจะถูกครึ่งเดียว วิธีการทำงาน การเตะตัดขา ไม่ได้ไปในทิศทางเดียวกัน ประกอบกับ 2 คน นายสุริยะ และ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ไม่มีประสบการณ์การอยู่ภายใต้หัวหน้าหรือผู้นำกองทัพมาก่อน วิธีคิดแบบข้าราชการ ทั้ง 2 คนอยู่กับนักเลือกตั้งมาทั้งชีวิต 


การที่กลุ่มสามมิตรมีภาพอยู่ฝ่ายไหนเป็นรัฐบาลตลอด จะเป็นตัวบ่งชี้ได้หรือไม่ว่า เพื่อไทยมีดอกาสชนะการเลือกตั้ง การย้ายพรรค เป็นการมองเห็นโอกาสที่จะชนะ วรรคทองของนายสมศักดิ์ที่ว่า อยู่กับฝ่ายรัฐบาลตลอด แต่คนที่ย้ายไปพรคอื่นๆก็มีแสงในตัวเช่นกัน จึงเป็นรการสู้กับความเชื่อของตัวเอง 


ในกรณีคนในพรรคเดิม โดยเฉพาะการที่อยู่มานาน แล้วมีการย้ายออกจากพรรคนั้นๆ อ.วันวิชิต มองว่า การที่คนที่อยู่พรรคมานานๆและไม่คิดจะเปลี่ยนแปลงหรือเปลี่ยนใจไปอยู่กับฝ่ายตรงข้าม ย่อมมีน้ำหนัก หรือมีวาระซ่อนเร้นมีออฟชั่นพิเศษ จนต้องก้าวออกไปหรือไม่ เป็นทฤษฏีสมคบคิด ซึ่งคนที่อยู่มานาน ย่อมมีน้ำหนักกากกว่าคนที่เป็นไม้เบื่อไม้เมาเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว 

นายศรัณวุฒิ ศรัณย์เกตุ สมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ
นายศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ 
สมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ เป็นหนึ่งในบุคคลที่ย้ายข้ามขั้ว ได้บอกถึงโอกาสการแลนด์สไลด์ของเพื่อไทยว่า คงไม่แลนด์สไลด์ เพราะเพื่อไทยไม่น่าจะเหมือนเดิมเท่าไหร่ การประกาศแลนด์สไลด์ กลัวว่าเลือดจะไม่หยุดไหลมากกว่า การที่มองว่ามีบุคคลระดับรัฐมนตรีย้ายเข้าร่วมและประเมินว่าจะได้เป็นรัฐบาล คงจะต้องคิดใหม่ การจะแลนด์สไลด์เป็นเรื่องที่ยากมาก การที่นายสมศักดิ์ระบุว่า อยู่กับฝ่ายเป็นรัฐบาลมาตลอด แต่ในความเป็นจริง นายสมศักดิ์เคยอยู่พรรคมัชฌิมาธิปไตย ซึ่งก็เป็นพรรคฝ่ายค้าน

'ศรัณย์วุฒิ'อัด ประชาธิปไตยจอมปลอม มอง แลนด์สไลด์ ทำไม่ได้

สะท้อนถึงคำพระว่าอะไรก็ไม่แน่นนอน ในภาคเหนือ การเลือกตั้งที่ผ่านมาตนเป็นคนเดียวที่ได้รับการยอมรับของประชาชน ตนไม่เชื่อในการแลนด์สไลด์ อุตรดิตถ์ตนไม่เคยซื้อเสียง ทำงานรับใช้ประชานทั้งตัวเองและลูกสาว รวมทั้งการพูดไม่ใช่ว่าตนออกจากพรรคเก่ามาแล้วมาโจมตี แต่การที่จะจับมืออย่างไรกับใครทำไมไม่ยอมตอบคำถาม ในเวลาที่ยังอยู่กับพรรคเก่า ตนจะทำการอภิปราย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ กลายเป็นไม่มีชื่อในการอภิปราย เมื่อทำการประท้วงต่อประธานสภา นายชวน หลีกภัย ได้รับคำตอบว่า ไม่สามารถช่วยได้เนื่องจากเป็นการส่งรายชื่อจากทางวิปฝ่ายค้าน


อ.วันวิชิตถามความเห็น นายศรัณวุฒิ ว่า สมมุติว่าตนเป็นคนอุตรดิตถ์ แล้วนายศรัณวุฒิ ย้ายไปรวมไทยสร้างชาติ และทราบว่า พล.อ.ประยุทธ์ มีโอกาสเป็นนายกฯไม่ถึง 2 ปี จะโน้มน้าวใจอย่างไร ในเลือกทั้งตัว นายศรัณวุฒิ  และ พล.อ.ประยุทธ์ ได้อย่างไร เพราะถ้าเลือกไปก็เป็นไม่ถึง2ปี และไม่ต่อเนื่อง

นายศรัณวุฒิ ตอบว่า ในครั้งแรกตนคิดแบบเดียวกับอ.วันวิชิต พอสัมผัสกับพื้นที่ มีจำนวนไม่น้อยที่เป็นแฟนคลับพล.อ.ประยุทธ์ และสอบถามว่าถ้าพล.อ.ประยุทธ์ไม่ได้เป็นนายกฯต่อสวัสดิการต่างๆจะยังได้หรือไม่ และในการหาพรรคสังกัดใหม่ ตนไม่มีพรรคในฝ่ายประชาธิปไตย จึงคิดว่าพรรคอะไรก็ได้ เพราะแต่ละพรรคในความเห็นของนายศรัณวุฒิ ทั้งจอมปลอม ทั้งสุดโต่ง บางพรรคสร้างภาพประชาธิปไตยแต่ข้างในกลับเป็นเผด็จการ

เมื่อถามประชาชนว่าตนควรอยู่ฝ่ายไหน ก็ตอบกันว่าให้อยู่กับพรรคที่หัวหน้าเป็นนายกฯดีกว่า ตนเสนอนโยบายแช่แข็งหนี้ ไม่ใช่วิธีการอัดฉีดเงินลงไป เพราะมีนายทุนจ้องจะรอเก็บเงินเหล่านี้ เมื่อคุยกับ พล.อ.ประยุทธ์ แล้วก็รับนโยบาย อีกเรื่องคือเกษตรร่ำรวย ในมุมมองตน 20ปีข้างหน้ายังไม่เห็นหนทาง แต่ที่เห็นคือที่ดินถูกยึด แล้วนำไปขายต่างชาติ ซึ่งได้นำเสนอไปแล้ว พล.อ.ประยุทธ์เห็นด้วยว่าต้องอุ้มเกษตรกร 


อ.วันวิชิต มองการย้ายข้ามขั้วครั้งนี้อย่างกรณีนายศรัณวุฒิ ว่า คงต้องตอบคำถามประชาชนให้ได้ เพราะ4ปีที่ผ่านมา ก็ฟาดพล.อ.ประยุทธ์แรงมาตลอด ส่วนที่ได้ถามเบื้องต้นว่าในเวลาเหลือไม่ถึง 2 ปี อะไรคือความมั่นใจในการร่วมกับรวมไทยสร้างชาติ หากมีการแก้กฎหมายเพื่อปลดล็อก8ปี ตรงนั้นจะกลายเป็นวิกฤตทางการเมือง เพราะ คสช.เป็นคนสร้างกติกาขึ้นมาเอง แล้วมาแก้ไข เป็นเกมที่ไม่สวย