ทิศทางหุ้น 27/06/59

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

โดย บ.ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด 27 มิ.ย. 2559 05:01

อ่านข่าวต่อได้ที่: http://www.thairath.co.th/content/647499

 


ภาวะการซื้อขายหุ้น

ดัชนีหุ้นไทยร่วงลงในช่วงปลายสัปดาห์ หลังอังกฤษโหวตออกจาก สหภาพยุโรป (BREXIT) โดยดัชนี SET ปิดที่ 1,413.19 จุด ลดลง 0.57% จากสัปดาห์ก่อน มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันเพิ่มขึ้น 13.91% จากสัปดาห์ก่อน มาที่ 53,736.33 ล้านบาท สำหรับสัปดาห์นี้ (27-30 มิ.ย.) บริษัท หลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด มองว่าดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,395 และ 1,375 จุด แนวต้านอยู่ที่ 1,420 และ 1,440 จุด ตามลำดับ โดยปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม คงได้แก่ การประชุมของผู้นำยุโรป รวมทั้งถ้อยแถลงของประธานเฟด ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ จีดีพีไตรมาส 1/2559 (รอบสุดท้าย) รายได้ส่วนบุคคล และเครื่องชี้ภาคการผลิต และดัชนี PMI ของญี่ปุ่นและจีน.

ภาวะตลาดเงินและอัตราแลกเปลี่ยน

เงินบาทแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบกว่า 2 สัปดาห์ ที่ 35.53 บาทต่อดอลลาร์ หลังรับรู้ผลการลงประชามติของอังกฤษที่เลือกจะออกจากสหภาพยุโรป อย่างไรก็ดี เงินบาทลดช่วงอ่อนค่าลงบางส่วน หลังธนาคารกลางอังกฤษและธนาคารกลางของอีกหลายๆประเทศ อัดฉีดสภาพคล่องและแทรกแซงตลาด เพื่อลดความผันผวน โดยเปิดตลาดเมื่อวันศุกร์ (24 มิ.ย.) ที่ 35.33 บาทต่อดอลลาร์

สำหรับสัปดาห์นี้ (27 มิ.ย.-1 ก.ค.) ธนาคารกสิกรไทยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 35.10-35.50 บาทต่อดอลลาร์ โดยตลาดน่าจะยังคงติดตามผลกระทบต่อเนื่องจากกรณี BREXIT ท่าทีของผู้นำยุโรป มาตรการประคองสถานการณ์ของธนาคารกลางประเทศต่างๆ รวมถึงถ้อยแถลงของประธานเฟด รวมถึงการติดตามข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ ญี่ปุ่นและจีน.

บ.ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด

 

ทิศทางหุ้น 06/06/59

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

โดย บ.ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด 6 มิ.ย. 2559 05:01

อ่านข่าวต่อได้ที่: http://www.thairath.co.th/content/632438

 

 


ภาวะการซื้อขายหุ้น

ดัชนีหุ้นไทยปรับเพิ่มขึ้น หลังข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯออกมาดี และมุมมองต่อแนวโน้มของยูโรโซนที่ปรับดีขึ้น โดยดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,436.43 จุด เพิ่มขึ้น 1.68% จากสัปดาห์ก่อน มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันเพิ่มขึ้น 38.20% จากสัปดาห์ก่อน 50,933.70 ล้านบาท ส่วนตลาดหลักทรัพย์ MAI ปิดที่ 526.40 จุด ลดลง 0.44% จากสัปดาห์ก่อน

สำหรับสัปดาห์นี้ (6-10 มิ.ย.) บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด มองว่า ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,425 และ 1,410 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,450 และ 1,465 จุด ตามลำดับ โดยปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด ตลอดจนการรายงานปริมาณน้ำมันคงคลังของสหรัฐฯ ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ขณะที่ข้อมูลเศรษฐกิจต่างประเทศที่สำคัญ ได้แก่ ข้อมูลเงินเฟ้อ และการส่งออกเดือน พ.ค. ของจีน ข้อมูลผลผลิตอุตสาหกรรมในยูโรโซน และจีดีพีไตรมาส 1/59 ของญี่ปุ่น.

ภาวะตลาดเงินและอัตราแลกเปลี่ยน

สำหรับสัปดาห์นี้ (6-10 มิ.ย.) ธนาคารกสิกรไทยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 35.50-35.80 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยต้องจับตามุมมองของตลาดในเรื่องจังหวะการขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐฯ หลังรับข่าวตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร (3 มิ.ย.) และถ้อยแถลงของประธานเฟดในช่วงต้นสัปดาห์ (6 มิ.ย.) ขณะที่ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ อื่นๆ ที่จะประกาศระหว่างสัปดาห์ ประกอบด้วย สต๊อกสินค้าภาคค้าส่งเดือน เม.ย. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (เบื้องต้น) เดือน มิ.ย. นอกจากนี้ นักลงทุนอาจติดตามตัวเลขทุนสำรองฯ ข้อมูลการส่งออก และเงินเฟ้อของจีน และประเด็นเรื่อง BREXIT ของอังกฤษ ซึ่งน่าจะเริ่มอยู่ในความสนใจของตลาดการเงินมากขึ้น เพราะเป็นช่วงนับถอยหลังเข้าสู่วันลงประชามติในวันที่ 23 มิ.ย.นี้.

 

ทิศทางหุ้น 30/05/59

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

http://www.thairath.co.th/content/627676

โดย บ.ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด 30 พ.ค. 2559 05:01

 

ภาวะการซื้อขายหุ้น

ดัชนีหุ้นไทยปรับเพิ่มขึ้นหลังนักลงทุนคลายความกังวลเรื่องเฟด ลง โดยดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,412.67 จุด เพิ่มขึ้น 1.93% จากสัปดาห์ ก่อน มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันลดลง 20.04% จากสัปดาห์ก่อน มาที่ 36,855.19 ล้านบาท ส่วนตลาดหลักทรัพย์ MAI ปิดที่ 528.71 จุด เพิ่มขึ้น 1.43% จากสัปดาห์ก่อน

ตลาดหุ้นไทยปรับลดลงในวันจันทร์ จากความกังวลว่าอิหร่านอาจจะเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน ก่อนที่จะปรับเพิ่มขึ้นในช่วงที่เหลือของสัปดาห์ หลังนักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดลงบางส่วน ท่ามกลางข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ออกมาดี ขณะที่ปริมาณน้ำมันคงคลังสหรัฐฯปรับลดลง หนุนการปรับขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงาน การบรรลุข้อตกลงในการให้เงินช่วยเหลือกรีซก็เป็นอีกปัจจัยหนุนมุมมองเชิงบวกของนักลงทุน

สำหรับแนวโน้มสัปดาห์นี้ (30 พ.ค.-3 มิ.ย.) บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด มองว่าดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,400 และ 1,385 จุด แนวต้านอยู่ที่ 1,420 และ 1,430 จุด ตามลำดับ โดยปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ถ้อยแถลงของประธานเฟด และข้อมูลการจ้างงานสหรัฐฯ ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯประกอบด้วย ข้อมูลภาคการผลิตและการจ้างงานนอกภาคการเกษตร

ภาวะตลาดเงินและอัตราแลกเปลี่ยน

เงินบาทแข็งค่ากลับมาในช่วงปลายสัปดาห์ โดยเงินบาทเคลื่อนไหวในด้านอ่อนค่าเข้าใกล้ระดับ 35.80 บาทต่อดอลลาร์ในช่วงแรก ท่ามกลางถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด ซึ่งสะท้อนโอกาสของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯ ในการประชุมเฟดรอบใกล้ๆนี้ อย่างไรก็ดี เงินบาทสามารถฟื้นตัวกลับมาในช่วงปลายสัปดาห์ ขณะที่เงินดอลลาร์เผชิญแรงขายจากนักลงทุนเพื่อปรับโพสิชั่น ก่อนถ้อยแถลงของนางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟดในช่วงคืนวันศุกร์ โดยเงินบาทปิดตลาดเมื่อวันศุกร์ (27 พ.ค.) ที่ 35.66 บาทต่อดอลลาร์

สำหรับแนวโน้มสัปดาห์นี้ (30 พ.ค.-3 มิ.ย.) ธนาคารกสิกรไทย ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 35.50-35.70 บาทต่อดอลลาร์ โดยจุดสนใจของตลาดในประเทศอาจอยู่ที่ตัวเลขเศรษฐกิจเดือน เม.ย. และข้อมูลเงินเฟ้อเดือน พ.ค.ของไทย ขณะที่ประเด็นสำคัญ สำหรับตลาดการเงินทั่วโลกยังเป็นสัญญาณเกี่ยวกับจังหวะการขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐฯ ดัชนีราคาการใช้จ่ายด้านการบริโภคส่วนบุคคล และดัชนีราคาบ้านเดือน มี.ค. การติดตามสถานการณ์ราคาน้ำมันตลาดโลก หลังการประชุมของกลุ่มโอเปกด้วยเช่นกัน.

ทิศทางหุ้น 23/05/59

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

http://www.thairath.co.th/content/623904

โดย บ.ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด 23 พ.ค. 2559 05:01

 

ภาวะการซื้อขายหุ้น

ดัชนีหุ้นไทยปรับลดลงจากแรงขายทำกำไร และความกังวลที่เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือน มิ.ย.นี้ โดยดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,385.86 จุด ลดลง 0.63% มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันเพิ่มขึ้น 0.65% มาที่ 46,090.74 ล้านบาท ส่วนตลาดหลักทรัพย์ MAI ปิดที่ 521.24 จุด ลดลง 0.97%

สำหรับสัปดาห์นี้ (23-27 พ.ค.) บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด มองว่า ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,375 และ 1,350 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,400 และ 1,410 จุด ตามลำดับ โดยปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ การประชุม G7 และถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ประกอบด้วย ข้อมูลการค้า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน และจีดีพีไตรมาส 1/59 (รายงานครั้งที่ 2) ขณะเดียวกัน ข้อมูลเศรษฐกิจต่างประเทศที่สำคัญ ได้แก่ ข้อมูล PMI ของญี่ปุ่นและยูโรโซน รวมทั้งดัชนีความเชื่อมั่นธุรกิจของเยอรมนี (IFO)

ภาวะตลาดเงินและอัตราแลกเปลี่ยน

สำหรับสัปดาห์นี้ (23-27 พ.ค.) ธนาคารกสิกรไทยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 35.50-35.80 บาทต่อดอลลาร์ โดยตลาดต้องติดตามผลการประชุมของกลุ่ม G7 (20-21 พ.ค.) ข้อมูลการส่งออกของไทยในเดือน เม.ย. รวมถึงสัญญาณที่บ่งชี้ถึงจังหวะการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯ จากแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด และข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ อาทิ ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน ยอดขายบ้านใหม่ ยอดทำสัญญาซื้อบ้านที่รอปิดการขายเดือน เม.ย. ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน พ.ค. และจีดีพีประจำไตรมาส 1/59 (รายงานครั้งที่ 2) โดยนักลงทุนอาจติดตามดัชนี PMI ภาคการผลิตและภาคบริการ (เบื้องต้น) เดือน พ.ค. ของทั้งสหรัฐฯ และประเทศชั้นนำอื่นๆด้วยเช่นกัน.

บ.ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด

ทิศทางหุ้น 16/05/59

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

http://www.thairath.co.th/content/620596

โดย บ.ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด 16 พ.ค. 2559 05:01

 

ภาวะการซื้อขายหุ้น

ดัชนีหุ้นไทยลดช่วงบวกลงจากแรงขายของนักลงทุนต่างชาติ โดยดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,394.69 จุด เพิ่มขึ้น 0.29% จากสัปดาห์ก่อน มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันเพิ่มขึ้น 37.80% จากสัปดาห์ก่อน มาที่ 45,795.14 ล้านบาท ส่วนตลาดหลักทรัพย์ MAI ปิดที่ 526.33 จุด เพิ่มขึ้น 0.77% จากสัปดาห์ก่อน

สำหรับสัปดาห์นี้ (16-20 พ.ค.) บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด มองว่า ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,380 และ 1,360 จุด แนวต้านอยู่ที่ 1,405 และ 1,420 จุด ตามลำดับ โดยปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ การรายงานข้อมูลจีดีพีไตรมาส 1/59 ของไทย ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ เช่น ดัชนีราคาผู้บริโภค เครื่องชี้ภาคอสังหาริมทรัพย์ และบันทึกการประชุมเฟดรวมถึงการรายงานข้อมูลเงินเฟ้อในยูโรโซน และข้อมูลจีดีพี ไตรมาส 1/59 ของญี่ปุ่น.

ภาวะตลาดเงินและอัตราแลกเปลี่ยน

เงินบาทอ่อนค่าสุดในรอบ 2 เดือน แตะระดับที่ 35.46 บาทต่อดอลลาร์ หลัง ธปท.ระบุว่า จะดูแลไม่ให้เงินบาทแข็งค่าเร็วเกินไปจนเป็นอุปสรรคต่อการค้า นอกจากนี้ การอ่อนค่าของเงินบาทยังสอดคล้องกับแรงขายสุทธิพันธบัตรไทยของนักลงทุนต่างชาติในช่วงท้ายสัปดาห์ด้วยเช่นกัน ปิดตลาดที่ 35.40 บาทต่อดอลลาร์

สำหรับสัปดาห์นี้ (16-20 พ.ค.) ธนาคารกสิกรไทยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 35.30-35.60 บาทต่อดอลลาร์ โดยตลาดในประเทศรอจับตารายงานจีดีพีไตรมาส 1/59 ของไทย ส่วนปัจจัยต้องติดตามคือ ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ รวมถึงเครื่องชี้เศรษฐกิจจีน ซึ่งจะมีการทยอยประกาศในช่วงสุดสัปดาห์นี้ด้วยเช่นกัน.

บ.ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด

ทิศทางหุ้น 09/05/59

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

http://www.thairath.co.th/content/617048

โดย บ.ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด 9 พ.ค. 2559 05:01

 

ภาวะการซื้อหุ้น

ดัชนีหุ้นไทยร่วงลงจากสัปดาห์ก่อน โดยดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,390.7 จุด ลดลง 0.99% จากสัปดาห์ก่อน มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันลดลง 13.11% จากสัปดาห์ก่อน มาที่ 33,233.27 ล้านบาท ส่วนตลาด หลักทรัพย์ MAI ปิดที่ 522.3 จุด ลดลง 0.49% จากสัปดาห์ก่อน

ตลาดหุ้นไทยปิดทำการในวันจันทร์ ขณะที่ในวันอังคารและวันพุธ ดัชนีปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง จากแรงขายในหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังจากทิศทางราคาน้ำมันในตลาดโลกอ่อนตัวลง ขณะที่การรายงานตัวเลข PMI เดือน เม.ย.ของจีน ซึ่งออกมาต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มของเศรษฐกิจจีน และถ่วงให้ตลาดหุ้นหลายแห่งในภูมิภาคปรับตัวลดลงเช่นกัน

สำหรับสัปดาห์นี้ (9-13 พ.ค.) บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด มองว่า ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,380 และ 1,360 ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,400 และ 1,415 จุด ตามลำดับ โดยปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม คงได้แก่ การประชุมนโยบายการเงินของไทย การรายงานผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน และการประกาศปรับดัชนี MSCI รอบ 6 เดือน ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯที่สำคัญประกอบด้วยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (เบื้องต้น) ยอดค้าปลีกดัชนีราคาผู้ผลิต ขณะเดียวกันจีนก็ประกาศข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญหลายตัว อาทิ เงินเฟ้อ การผลิตภาคอุตสาหกรรม และสินเชื่อประจำเดือน เม.ย.

ภาวะตลาดเงินและอัตราแลกเปลี่ยน

เงินบาทกลับมาอ่อนค่าท่ามกลางธุรกรรมที่เบาบางก่อนช่วงวันหยุดยาวของตลาดในประเทศ โดยเงินบาทแตะระดับแข็งค่าสุดในรอบ 7 สัปดาห์ที่ 34.83 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในช่วงแรก ท่ามกลางแรงเทขายเงินดอลลาร์ฯ เมื่อเทียบกับเงินหลายสกุล โดยเฉพาะเงินเยน ขณะที่ การปรับตัวขึ้นของราคาทองคำในตลาดโลก ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่หนุนให้เงินบาทแข็งค่าด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ดี เงินบาทล้างช่วงบวกทั้งหมด และกลับมายืนในกรอบที่อ่อนค่ากว่า 35.10 บาทต่อดอลลาร์ฯ ก่อนเข้าสู่ช่วงวันหยุด โดยถูกกดดันจากแรงซื้อคืนเงินดอลลาร์ฯ เพื่อปรับโพสิชั่นของนักลงทุน ก่อนตัวเลขตลาดแรงงานของสหรัฐฯ ท้ายสัปดาห์
สำหรับในวันพุธ (4 พ.ค.) เงินบาทอยู่ที่ 35.13 บาทต่อดาลลาร์ฯ เทียบกับระดับ 34.90 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (29 เม.ย.)

สำหรับสัปดาห์นี้ (9-13 พ.ค.) ธนาคารกสิกรไทยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 34.80-35.20 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยอาจต้องจับตากระแสการคาดการณ์เกี่ยวกับแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯ หลังการประกาศตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร ถ้อยคำแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด และข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ซึ่งจะประกาศเพิ่มเติมในระหว่างสัปดาห์ อาทิ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน พ.ค. (เบื้องต้น) ยอดค้าปลีก ดัชนีราคาผู้ผลิตเดือน เม.ย. และสต๊อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจ-ค้าส่งเดือน มี.ค. นอกจากนี้ นักลงทุนอาจมีจุดสนใจเพิ่มเติมที่การประชุม กนง. ในช่วงกลางสัปดาห์ (11 พ.ค.) และข้อมูลเศรษฐกิจจีน อาทิ เงินเฟ้อ การผลิตภาคอุตสาหกรรม ยอดค้าปลีกและสินเชื่อในเดือน เม.ย. ด้วยเช่นกัน.

บ.ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด

ทิศทางหุ้น 02/05/59

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

http://www.thairath.co.th/content/613914

โดย บ.ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด 2 พ.ค. 2559 05:01

 

ภาวะการซื้อหุ้น

ดัชนีหุ้นไทยปรับลดลงจากความผิดหวังเกี่ยวกับการที่ BOJ ไม่ได้ออกมาตรการผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มเติม โดยดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,404.61 จุด ลดลง 0.44% จากสัปดาห์ก่อน โดยตลาดหุ้นไทยปรับลดลงในวันจันทร์จากแรงขายทำกำไร ก่อนที่จะปรับเพิ่มขึ้นในวันอังคาร สอดรับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐ รวมทั้งแรงหนุนจากการปรับขึ้นของราคาน้ำมัน

สำหรับสัปดาห์นี้ (3-4 พ.ค.) บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด มองว่า ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,390 และ 1,380 จุด แนวต้านอยู่ที่ 1,412 และ 1,423 จุด ตามลำดับ โดยปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม คงได้แก่ การรายงานผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนไทยและถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ประกอบด้วยเครื่องชี้ภาคการผลิต และเครื่องชี้ตลาดแรงงาน อาทิ อัตราการว่างงาน และการจ้างงานนอกภาคการเกษตร สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจต่างประเทศอื่นๆ ที่ต้องติดตาม คงได้แก่ การรายงาน ดัชนี PMI ในเยอรมนี ยูโรโซน และญี่ปุ่น.

ภาวะตลาดเงินและอัตราแลกเปลี่ยน

เงินบาทแข็งค่าทะลุระดับ 35 บาทต่อดอลลาร์ฯ ช่วงปลายสัปดาห์ โดยเงินบาทอ่อนค่าในช่วงต้น-กลางสัปดาห์ตามแรงซื้อคืนเงินดอลลาร์ฯ ก่อนการประชุมเฟด ประกอบกับอาจมีแรงซื้อเงินดอลลาร์ฯ ในช่วงใกล้สิ้นเดือนจากฝั่งผู้นำเข้า โดยค่าเงินปิดตลาดเมื่อวันศุกร์ (29 เม.ย.) เงินบาทอยู่ที่ 34.91 บาทต่อดอลลาร์ฯ

ส่วนสัปดาห์นี้ (2-6 พ.ค.) ธนาคารกสิกรไทยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของ เงินบาทที่ 34.75-35.10 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยอาจต้องจับตาสัญญาณที่อาจบ่งชี้ถึงจังหวะเวลาของการขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐฯ โดยเฉพาะถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด.

บ.ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด

ทิศทางหุ้น 25/04/59

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

http://www.thairath.co.th/content/610283

โดย บ.ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด 25 เม.ย. 2559 05:01

 

ภาวะการซื้อหุ้น

ดัชนีหุ้นไทยปรับเพิ่มขึ้นจากแรงซื้อหุ้นขนาดใหญ่ โดยดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,410.81 จุด เพิ่มขึ้น 1.83% จากสัปดาห์ก่อน มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันเพิ่มขึ้น 59.33% จากสัปดาห์ก่อน มาที่ 47,599.76 ล้านบาท
สำหรับสัปดาห์นี้ (25-29 เม.ย.) บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด มองว่า ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,400 และ 1,375 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,420 และ 1,430 จุด ตามลำดับ โดยปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (26-27 เม.ย.) ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ประกอบด้วย คำสั่งซื้อสินค้าคงทน ข้อมูลการค้า และจีดีพีไตรมาส 1/59 (เบื้องต้น) สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจต่างประเทศอื่นๆ ที่ต้องติดตาม ได้แก่ ดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจของเยอรมนี และข้อมูลเงินเฟ้อญี่ปุ่น.

ภาวะตลาดเงินและอัตราแลกเปลี่ยน

สำหรับสัปดาห์นี้ (25-29 เม.ย.) ธนาคารกสิกรไทยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 34.90-35.20 บาทต่อดอลลาร์ โดยอาจต้องจับตาผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (26-27 เม.ย.) และธนาคารกลางญี่ปุ่น (27-28 เม.ย.) ขณะที่ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญประกอบด้วย ดัชนี PMI เขตชิคาโก ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ดัชนี PMI ภาคบริการ (เบื้องต้น) เดือน เม.ย. ยอดขายบ้านใหม่ ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน ยอดทำสัญญา ซื้อบ้านที่รอปิดการขาย ดัชนีราคาการใช้จ่ายด้านการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือน มี.ค. และข้อมูลจีดีพีประจำไตรมาส 1/59 นอกจากนี้ตลาดในประเทศอาจติดตามข้อมูลการค้าระหว่างประเทศ และตัวเลขเศรษฐกิจไทยในเดือน มี.ค. ด้วยเช่นกัน.

บ.ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด

ทิศทางหุ้น 18/04/59

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

http://www.thairath.co.th/content/606833

โดย บ.ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด 18 เม.ย. 2559 05:01

 

ภาวะการซื้อขายหุ้น

สำหรับสัปดาห์นี้ (18-22 เม.ย.) บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด มองว่า ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,365 และ 1,360 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,385 และ 1,390 จุด ตามลำดับ โดยปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม คงได้แก่ ผลการประชุมร่วมระหว่างกลุ่มผู้ผลิตน้ำมันทั้งในและนอกกลุ่มโอเปกในวันที่ 17 เม.ย. และผลการประชุมธนาคารกลางยุโรปในวันที่ 21 เม.ย. ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ประกอบด้วย ดัชนี PMI ภาคการผลิต (เบื้องต้น) เดือน เม.ย. ดัชนีกิจกรรมการผลิตของเฟดสาขาฟิลาเดลเฟีย ยอดขายบ้านมือสองเดือน มี.ค. ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัย และข้อมูลการเริ่มสร้างบ้าน/การขออนุญาตก่อสร้าง สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจต่างประเทศอื่นๆ ที่ต้องติดตาม คงได้แก่ ดัชนี PMI Composite (เบื้องต้น) ของยูโรโซน.

ภาวะตลาดเงินและอัตราแลกเปลี่ยน

สำหรับสัปดาห์นี้ (18-22 เม.ย.) ธนาคารกสิกรไทยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 34.80-35.20 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยต้องจับตาการตอบรับของตลาดต่อข้อมูลเศรษฐกิจจีนและสหรัฐฯ ในช่วงวันหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์ของไทย ตลอดจนผลการประชุมของสมาชิกกลุ่มโอเปกและประเทศนอกกลุ่มเรื่องกำลังการผลิตน้ำมัน (17 เม.ย.) ขณะที่ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่จะประกาศเพิ่มเติมระหว่างสัปดาห์ ประกอบด้วย ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัย ดัชนีกิจกรรมการผลิตของเฟดสาขาฟิลาเดลเฟีย และดัชนี PMI ภาคการผลิต (เบื้องต้น) เดือน เม.ย. ข้อมูลการเริ่มสร้างบ้าน ยอดขายบ้านมือสองเดือน มี.ค. นอกจากนี้ ตลาดอาจรอติดตามการประชุม ECB และถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟดเพื่อจับสัญญาณเกี่ยวกับดอกเบี้ยของสหรัฐฯ ด้วยเช่นกัน.

บ.ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด

ทิศทางหุ้น 04/04/59

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

http://www.thairath.co.th/content/600493

โดย บ.ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด 4 เม.ย. 2559 05:01

 

ภาวะการซื้อขายหุ้น

ดัชนีหุ้นไทยปรับขึ้น หลังประธานเฟดส่งสัญญาณการขึ้นอัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯอย่างระมัดระวัง โดยดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,400.72 จุด เพิ่มขึ้น 0.43% จากสัปดาห์ก่อน ส่วนแนวโน้มสัปดาห์นี้ (4-8 เม.ย.) บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด มองว่า ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,390 และ 1,371 จุด ขณะที่ แนวต้านอยู่ที่ 1,410 และ 1,420 จุด ตามลำดับ โดยปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเฟดที่อาจให้ความเห็นเกี่ยวกับจังหวะการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจต่างประเทศที่สำคัญ ประกอบด้วย ยอดสั่งซื้อสินค้าโรงงาน ข้อมูลการค้าระหว่างประเทศ บันทึกการประชุมเฟด ดัชนี PMI ภาคบริการของยูโรโซน.

ภาวะตลาดเงินและอัตราแลกเปลี่ยน

เงินบาทแข็งค่าทดสอบ 35.10 บาทต่อดอลลาร์ฯ ท้ายสัปดาห์ หลังจากที่ปรับตัวอ่อนค่าในช่วงต้นสัปดาห์เช่นเดียวกับสกุลเงินอื่นๆในเอเชีย ปิดตลาดเมื่อวันที่ 1 เม.ย.ที่ 35.10 บาทต่อดอลลาร์ฯ ส่วนแนวโน้มสัปดาห์นี้ (4-8 เม.ย.) ธนาคารกสิกรไทยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 34.90-35.20 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยอาจต้องจับตาการเคลื่อนไหวของตลาดการเงินทั่วโลกช่วงต้นสัปดาห์ หลังรับรู้ตัวเลขตลาดแรงงานของสหรัฐฯ รวมถึงมุมมองคาดการณ์เกี่ยวกับแนวโน้มดอกเบี้ยสหรัฐฯ ซึ่งในระหว่างสัปดาห์ น่าจะมีจุดสนใจอยู่ที่คำกล่าวของประธานเฟดและเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเฟด ขณะที่ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯที่จะเปิดเผยออกมาเพิ่มเติม ได้แก่ ดัชนี PMI และ ISM ภาคบริการเดือน มี.ค. ยอดสั่งซื้อของโรงงาน ข้อมูลการค้าระหว่างประเทศ สต๊อกสินค้าภาคค้าส่งเดือน ก.พ. และบันทึกการประชุมเฟดเมื่อเดือน มี.ค. ที่ผ่านมา นอกจากนี้ ตลาดอาจรอติดตามรายงานตัวเลขทุนสำรองฯ เดือน มี.ค. ของจีนด้วยเช่นกัน.

บ.ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด