#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า
https://www.naewna.com/entertain/658731

วันพุธ ที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2565, 06.00 น.
“THE LAST 10 YEARS สุดท้ายและตลอดไป” ภาพยนตร์ไลฟ์แอ๊กชั่น สร้างสถิติภาพยนตร์คนแสดง ทำรายได้สูงสุดในญี่ปุ่นของปีนี้ทะลุบ็อกซ์ออฟฟิศ 2.9 พันล้านเยน! ได้รับเสียงชื่นชมท่วมท้นโลกโซเชียล จนมีผู้ชมเดินทางมาดูซ้ำหลายต่อหลายครั้ง
กับบทสัมภาษณ์พิเศษ พูดคุยถึงเบื้องหลังพร้อมนักแสดงนำ นานะ โคมัตสึ, เคนทาโร่ซาคากุจิ และผู้กำกับ มิจิฮิโตะ ฟูจิอิ มองย้อนกลับไปในการถ่ายทำตลอดระยะเวลาประมาณหนึ่งปี
อยากให้ผู้กำกับเล่าถึงนักแสดงนำอย่าง ซาคากุจิ และ โคมัตสึ สักหน่อย
.jpg)
ผู้กำกับ : ตอนที่เจอครั้งแรก ซาคากุจิคุงเค้าย้อมผมทองอยู่ครับ ตอนนั้นผมยังคิดเลยว่าเขาเป็นคนหล่อเท่ แถมไม่พูดอะไรสักคำทำไมเท่อะไรขนาดนี้
ซาคากุจิ : ใช่เหรอครับ
ผู้กำกับ : (หัวเราะ) หลังจากนั้นเราก็มีเวลาพูดคุยกันจริงจัง ตอนนั้นก็คิดนะว่าเขาเป็นคนยังไงกันแน่ เขายังไม่ค่อยเผยตัวออกมา(หัวเราะ) ตอนนั้นเขาดูจริงจังมากเลยครับ
ซาคากุจิ : เป็นไปได้ครับ ผมติดนิสัยคิดถึงบรรยากาศรอบๆ ตัว พอเวลาแบบนี้ก็กลายเป็น “อ๋อ ยินดีที่ได้รู้จักครับ…”
ผู้กำกับ : หลังจากนั้นเขาก็เริ่มเปลี่ยนเป็นซาคากุจิคุงที่เอาแต่ยิงมุขตลก ส่วนตอนที่ได้เจอกับโคมัจจัง(ชื่อเล่นในกองถ่ายของ นานะ โคมัตสึ)ครั้งแรก จริงๆ แล้วผมเกร็งมากเลย ก่อนหน้านี้เคยเชิญเธอมาเล่นหนังเรื่องหนึ่งเมื่อนานมาแล้วแต่สุดท้ายเรื่องนั้นก็ยุบโปรเจกท์ไป ตอนนั้นผมเขียนจดหมายให้เธอด้วยครับ เธอไม่น่าจำเรื่องนี้ได้แน่ๆ แต่เธอยังเก็บมันไว้อยู่เลย ทำไมเป็นคนดีอย่างนี้?!
.jpg)
โคมัตสึ : ไม่หรอกค่ะ! (ยิ้ม)
ผู้กำกับ : พอมีเรื่องแบบนี้ก็รู้สึกได้เลยว่าเราผูกดวงกันเอาไว้อยู่ โคมัจจังก็พูดบ่อยๆ ว่าเราเหมือนรุ่นพี่กับรุ่นน้องในชมรมกีฬาอะไรสักอย่างที่ต้องช่วยกันต่อสู้เพื่อให้ได้มา เป็นเหมือนเพื่อนรบอะไรแบบนั้นเลยครับ
โคมัตสึเข้ามาร่วมโปรเจกท์นี้ได้ยังไงเล่าให้ฟังหน่อย
ตอนที่ได้รับเชิญมาได้มีการพูดคุยกัน ตอนนั้นสายตาของผู้กำกับมุ่งมั่นมากเป็นคนที่ใส่ใจรายละเอียดทุกขั้นตอน ความมุ่งมั่นของเขาส่งมาถึงฉันจนเผลอซึ้งขึ้นมาเลยล่ะ ยังคิดว่าแย่แล้ว เขาจะรู้ไหมแต่ตอนนั้นใส่แมสก์อยู่น่าจะดูไม่ออก แต่สุดท้ายเขาก็ดูออกค่ะ (หัวเราะ)ผู้กำกับยังแซวอยู่เลยว่า “ตอนนั้น จะร้องไห้แล้วใช่รึเปล่า?” (หัวเราะ) ตั้งแต่ก่อนเริ่มงานแล้วเราสื่อสารเข้าใจกันได้ดีเหมือนรุ่นพี่รุ่นน้องในชมรม เป็นคนที่ทำให้ฉันฮึดสู้ขึ้นมาเลย
.jpg)
“ตอนที่เจอกับซาคากุจิคุงน่าจะเป็นตอนฟิตติ้งใช่รึเปล่านะ?”
ซาคากุจิ : น่าจะใช่ พอเราฟิตติ้งกันเสร็จ เราก็กล่าวทักทายกันที่ห้องประชุมกับผู้กำกับ
โคมัตสึ : ตอนนั้นเราต่าง “อ่อ หวัดดี..”กันอยู่เลย (หัวเราะ) เพราะอย่างนั้นไม่ถึงกับกังวลหรอกแต่คิดว่าจากนี้เราจะเริ่มถ่ายด้วยกันแล้ว จะรักษาระยะห่างระหว่างกันให้ดีขึ้นอย่างไรดี
แต่เขาเป็นคนทำตัวสบายๆ อยู่แล้ว ผ่านไปสักพักก็เริ่มมองเห็นด้านกวนๆ ของเขา พอทำงานด้วยแล้วสบายใจ เดี๋ยวนี้เขาก็เอาแต่กวนฉันอย่างเดียวเลย (หัวเราะ) เป็นคนที่ชอบทำให้คนอื่นยิ้มแล้วทำให้บรรยากาศรอบตัวคึกคักขึ้น ทำงานด้วยแล้วสนุกดี
สำหรับซาคากุจิบรรยากาศการทำงานเป็นไงบ้าง
มันดีมากเลยครับ!ผู้กำกับฟูจิอิสร้างบรรยากาศการทำงานให้เราสามารถพูดคุยแลกเปลี่ยนความเห็นเรื่องการแสดงบทบาทที่แตกต่างจากตัวเอง เพราะฉะนั้นเลยสามารถเป็นตัวของตัวเองได้ เวลาแสดงเลยไม่รู้สึกว่าขาดชิ้นส่วนอะไรไปหรือไม่สบายใจเลย
.jpg)
โคมัตสึต้องทำตามคำสั่งกลั้นน้ำตาของผู้กำกับ
เป็นฉากที่แสดงอารมณ์ได้ยาก พยายามควบคุมอารมณ์เอาไว้ให้ไม่หลุดตอนที่อ่านบทก็ยังนึกภาพไม่ออกว่าฉากนี้ว่าจะเป็นอย่างไรแต่ตอนที่เริ่มถ่าย แม้จะไม่เห็นออกจอแต่เราต้องลองบีบมือกันไว้ เป็นฉากที่ถ่ายแต่เช้าตรู่ แถมความกดดันในตอนนั้นทำให้เหนื่อยเลย
ผู้กำกับ : นั่นสิครับ! พอมานึกดูตอนนี้ น้ำตาจะไหลออกมาแล้วแต่ถูกห้ามว่าอย่าร้องเนี่ยเป็นผมคงบ่นแล้วว่า งั้นลองมาเล่นเองสิ ตอนนี้สำนึกผิดแล้วครับว่าขอร้องให้นักแสดงฝืนหลายอย่างเกินไป
สุดท้ายนี้ให้ฝากถึงคนที่ตั้งใจจะไปดูหนังเรื่องนี้อีกรอบหน่อย
ผู้กำกับฟูจิอิ : ใครที่จะไปดูอีกรอบอยากให้ลองสังเกตชื่อของทุกสิ่งรอบตัวมัตซึริจังดูครับ ดอกไม้ที่ประดับที่บ้านมัตซึริจังก็เปลี่ยนไปตามฤดูกาลแต่มันเต็มไปด้วยความรู้สึกและความปรารถนาของมัตซึริจัง ถ้าทุกคนสังเกตเห็นจะดีใจมาก
.jpg)
ซาคากุจิ : ดีใจที่พลังทีมเวิร์กที่สร้างผลงานชิ้นนี้ออกมาอย่างประณีตได้ออกมาสู่สายตาของทุกคน ผมคิดว่าผลงานชิ้นนี้จะคงหลงเหลือต่อไปอีกนานแสนนาน หลังจากดูภาพยนตร์เรื่องนี้จบหวังว่าทุกคนจะคิดถึงมัตซึริหรือคาซึโตะ คิดถึงครอบครัวและเพื่อนพ้อง ผมคิดว่าผลงานเรื่องนี้มันจะมีฉากหรือชั่ววินาทีที่ส่องแสงอยู่ในใจของทุกคน สำหรับใครมาดูแล้วก็อยากให้มาดูอีกรอบ แล้วอยากให้เล่าถึงความสวยงามของผลงานเรื่องนี้ไปถึงคนอื่นๆ ด้วยครับ
โคมัตสึ : ผลงานนี้เป็นงานที่ฉันภูมิใจมากค่ะ ช่วงเวลาหนึ่งปีที่ค่อยเรียงร้อยเรื่องราว มีความทรงจำดีๆ อยู่มากมาย ถ้าทุกคนรักผลงานชิ้นนี้ฉันจะดีใจมากๆ ถ้าจะรักภาพยนตร์เรื่องนี้ไปนานๆ พวกเราคงมีความสุขน่าดูจะดีใจมากถ้าทุกคนมาดูกันอีกหลายๆ ครั้ง ขอบคุณมากค่ะ

