#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

https://www.naewna.com/lady/696004

หนังสือเด่น : เรียนรู้เกี่ยวกับการเก็งกำไรทองคำ ให้สามารถเทรดได้อย่างมืออาชีพ

วันอาทิตย์ ที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2565, 06.00 น.

ทองคำ (Gold) เป็นโลหะ ที่มีค่าในตัวเอง และเป็นเพียงวัตถุเดียวที่ใช้ในการสะสมความมั่งคั่งมาตั้งแต่ในอดีตมาถึงปัจจุบัน ในทุกวันนี้ทองคำก็ยังคงคุณค่า สื่อถึงความร่ำรวยมั่งคั่ง ความเป็นมงคล และยิ่งกว่านั้นทองคำยังมีความสำคัญต่อเศรษฐกิจ เพราะใช้เป็นโลหะสื่อกลางแห่งการแลกเปลี่ยนเงินตรา ใช้เป็นทุนสำรองเงินตราระหว่างประเทศ ทองคำนั้นจึงมีมูลค่าในตัวเอง จัดเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย (Safe haven assets) เพราะเป็นสินทรัพย์ที่มีมูลค่าไม่ลดลงมากในยามวิกฤต ผิดกับเงินตราสกุลต่างๆ ที่อาจจะเพิ่มหรือลดได้ตามสภาพเศรษฐกิจนั้นๆ ทองคำจึงเป็นสิ่งที่สามารถยืนยันความมั่นคงของเศรษฐกิจของประเทศนั้นๆ ได้ ดังนั้นทองคำจึงเป็นสินค้าที่ได้รับความนิยมในการลงทุนและเก็งกำไรและซื้อขายมากที่สุดในโลกก็ว่าได้ หากสนใจที่จะเทรดอะไรสักอย่าง การลงทุนในทองก็เป็นสิ่งที่น่าสนใจ

หนังสือคู่มือเก็งกำไรทอง ทั้งขาขึ้นและขาลง ฉบับมือใหม่ผู้เขียน พัชราภรณ์ เคนชมภู, ปุณยวีร์จันทรขจร เป็นหนังสือที่เขียนขึ้นมาสำหรับมือใหม่ที่อยากเทรดทอง เนื้อหาเริ่มต้นด้วยการปูพื้นฐานความเข้าใจในด้านทอง การซื้อขายทองในตลาดแบบต่างๆ รูปแบบการเทรดทองต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการเทรดในตลาด FOREX ในรูปแบบ CFD XAUUSD การเทรดทองแบบ Futures ในตลาด TFEX เช่นการเทรดทองในราคาทองไทย GF10 หรือเทรดทองราคาโลกอย่าง GO ในรูปแบบ Gold Online Futures นอกจากนี้ในเล่มยังได้ให้ความรู้ทางด้านเทคนิคอล การดูเทรนด์ ดูแนวรับแนวต้าน โปรแกรมกราฟสำหรับเทรดทอง ฯลฯ จิตวิทยาการลงทุน Money Management และการสร้าง Trad Setup และการวิเคราะห์ทองในแบบง่ายๆ เป็นต้น

หนังสือเล่มนี้ถือว่าตอบโจทย์นักลงทุนหน้าใหม่ได้ในทุกด้าน เนื้อหาครบถ้วนได้ทั้งความรู้ และ สามารถใช้เป็นคู่มือสำหรับเทรดได้เลย อ่านแล้วเข้าใจง่าย อธิบายดีชวนติดตาม ไม่ดูน่าเบื่อ ศัพท์แสงสำหรับการลงทุน ก็อ่านแล้วเข้าใจได้เลย ไม่ยากหรือห่างไกลตัวเหมือนเวลาฟังจากข่าว หรือสื่อต่างๆ คือเป็นหนังสือที่ใช้ภาษาง่ายๆ ที่อ่านแล้วสบายๆ แต่ได้ความรู้เนื้อหามีคุณภาพคับแก้ว หนังสือพิมพ์สี่สีทั้งเล่ม มีการ์ตูนสอดแทรกให้น่าสนใจและน่าอ่านมากขึ้น

การลงทุนถือว่ามีความเสี่ยงแล้วแต่การเก็งกำไรนั้นยิ่งเสี่ยงเข้าไปอีกดังนั้นควรศึกษาทำความเข้าใจให้รอบด้านเพื่อป้องกันการผิดพลาด หนังสือคู่มือเก็งกำไรทอง ทั้งขาขึ้นและขาลง เล่มนี้ช่วยได้ดีทีเดียว

สอนเรื่องการใช้เวลาชีวิตให้คุณค่า

โดยใช้ปฏิทิน 100 ปีเป็นสื่อกลาง

ออกแบบชีวิตด้วยเทคนิคปฏิทิน 100 ปี ผู้เขียนโอสุมิ ริกิ ผู้แปล นิพดา เขียวอุไร บางทีคนเราก็ต้องการเห็นภาพ“ทั้งชีวิต” เพื่อก้าวเดินอย่างถูกทิศทาง ปฏิทิน 100 ปีของตัวเองจะเป็นป้ายบอกทางส่องสว่างให้ได้ใช้ชีวิตอย่างที่ต้องการจริงๆ และบรรลุเป้าหมายทุกอย่างแบบไม่ตกหล่น หนังสือเล่มนี้เป็นเหมือนแบบฝึกหัดที่สอนเรื่อง “เวลาของชีวิต” เพื่อใช้เราใช้ทุกนาทีอย่างที่เราต้องการจริงๆ จากผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาบุคคล อันดับ 1 ของญี่ปุ่น หนังสือได้กล่าวถึงตัวตนของตัวเองในอดีต ปัจจุบัน และอนาคต โดยใช้ปฏิทินมาเป็นสื่อกลางเพื่อให้ผู้อ่านได้มองเห็นเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น เริ่มจากการสำรวจความต้องการผ่านคำถาม หลังจากนั้นให้เขียนคำตอบ ความคิดและความรู้สึกที่เกี่ยวข้องลงบนกระดาษโน้ต แล้วแปะลงบนปฏิทิน 100 ปีของตนเอง เพื่อเป็นการเรียนรู้ความต้องการและตัวตนในอดีต รวมไปถึงการเขียนทิศทางความต้องการในการใช้ชีวิตของตนเองในอนาคตลงไปในปฏิทินที่ระบุวันเดือนปีด้วย การทำเช่นนี้จะช่วยให้ผู้อ่านมองเห็นเป้าหมายในการใช้ชีวิต และขั้นตอนในการทำสิ่งที่ต้องการให้สำเร็จได้ชัดเจนยิ่งขึ้นในเล่มมีคำคมและเนื้อหาที่เสริมสร้างกำลังใจ รวมถึงการเลือกใช้ภาษาที่ค่อนข้างปลอบประโลมผู้อ่าน จึงเหมาะกับผู้ที่กำลังมีความสับสนในชีวิต และยังไม่รู้ว่าจะเดินไปยังทิศทางใด

เคล็ดลับการใช้ชีวิตประจำวันให้ง่ายขึ้น

โดยปล่อยวางภาระที่แบกไว้หนักอึ้ง

ภาระที่อมไว้ คายออกมาเถอะนะ ผู้เขียน Naitou Yoshihito (ไนโต โยะชิฮิโตะ) ผู้แปล อทิตยา ทรงศิริ ทุกๆ วันในชีวิต เราต้องเผชิญปัญหามากมายร้อยแปด จิตใจย่อมเหนื่อยเป็นธรรมดา แต่ถ้าเราคลายปัญหายิบย่อยในจิตใจได้ ภาระที่แบกไว้ก็จะลดลงจนจิตใจเบาอย่างไม่น่าเชื่อ มาเรียนรู้วิธีปล่อยวางเรื่องเหนื่อยใจอย่างง่ายๆ พร้อมเคล็ดลับต่างๆ ที่ทำให้การใช้ชีวิตประจำวันของเราง่ายขึ้น เมื่อจิตใจไม่ต้องเผชิญกับเรื่องน่าเหนื่อยหน่ายก็มีพื้นที่สำหรับความสุขมากยิ่งขึ้น อย่าปล่อยให้จิตใจกักเก็บภาระเล็กๆ น้อยๆ ไว้จนแก้มตุ่ยมาเคลียร์พื้นที่ให้ว่างเพื่อเก็บความสุขเพิ่มขึ้นกัน ผู้เขียนเป็นนักจิตวิทยาชาวญี่ปุ่นที่มีผลงานการตีพิมพ์ว่า 100,000 เล่ม ในเล่มมีคำแนะนำมีหลักการอ้างอิงที่น่าเชื่อถือและนำวิธีเหล่านี้ไปใช้ดูแลใจได้จริง และปฏิบัติได้ไม่ยาก และเป็นหนังสือที่อ่านง่าย เป็นเรื่องราวรอบตัว แบ่งเป็นข้อๆ ที่หลากหลาย ทำให้เลือกหัวข้อที่ตรงใจ และแบ่งปฏิบัติได้ในแต่ละวันได้เป็นอย่างดี

ทักษะสำคัญที่คนทำธุรกิจยุคนี้ต้องมี

เพื่อให้ได้ไปต่อหลังโลกเปลี่ยน

วิชาธุรกิจ ที่ชีวิตจริงเป็นคนสอน 3 ผู้เขียน ธรรศภาคย์ เลิศเศวตพงศ์ หลังยุคโควิด-19 โลกของการทำธุรกิจได้เปลี่ยนไปอย่างชัดเจน ทุกธุรกิจถูกบีบบังคับให้ต้องปรับตัวเข้าสู่สถานการณ์ใหม่ๆ ความต้องการ และการตลาดแบบใหม่ ธุรกิจที่ฝืนกับกระแสแห่งการเปลี่ยนแปลง ย่อมเจอกับความยากลำบากและจะล้มหายตายจากไป กลายเป็นผู้พ่ายแพ้ รูปแบบการแข่งขันเปลี่ยน ผู้บริโภคเปลี่ยน ดังนั้นทักษะของเจ้าของกิจการธุรกิจ จำเป็นต้องเปลี่ยนไปด้วย หนังสือ “วิชาธุรกิจ ที่ชีวิตจริงเป็นคนสอน 3” เล่มนี้ ได้นำเสนอเรื่องราวการทำธุรกิจจากประสบการณ์ชีวิตจริงที่อัดแน่นไปด้วยเรื่องสำคัญที่คนทำธุรกิจทุกวันนี้ต้องรู้ รวบรวมวิธีคิด และการตัดสินใจแก้ปัญหารอบด้านของการทำธุรกิจ แบ่งเนื้อหาที่จำเป็นสำหรับเจ้าของธุรกิจออกเป็น ทั้งหมด 60 บท 5 หมวดคือ 5 เรื่อง ที่ล้วนแต่เป็นสิ่งจำเป็นที่เจ้าของธุรกิจต้องรู้ ได้แก่ การบริหาร การตลาด การเงิน การคน และการจัดการตัวเอง ซึ่งในแต่ละหมวดก็จะมีหลายแง่มุมให้เจ้าของธุรกิจ เรียนรู้และนำไปใช้กับธุรกิจของตัวเองได้ทันที

เรียนรู้เทคนิคการจัดการและบริหาร

เครือข่ายคอมพิวเตอร์และการสื่อสาร

เครือข่ายคอมพิวเตอร์และการสื่อสาร (ฉบับปรับปรุงเพิ่มเติม) หนังสือปูความรู้พื้นฐานด้านเครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดยาวนานกว่า 10 ปี ผู้เขียน โอภาส เอี่ยมสิริวงศ์หนังสือเล่มนี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้ผู้เรียนได้เข้าใจถึงพื้นฐานของการสื่อสารข้อมูลและระบบเครือข่ายทั่วไป รวมถึงโพรโทคอลที่ใช้สำหรับการเชื่อมต่อระบบอินเตอร์เนต โดยเริ่มด้วยการปูความรู้พื้นฐาน จนกระทั่งขั้นสามารถจัดการและบริหารเครือข่ายได้ อาทิ พื้นฐานการสื่อสารข้อมูลและเครือข่าย แบบจำลองเครือข่ายรูปแบบการเชื่อมต่อเครือข่าย และเทคโนโลยีเครือข่าย พื้นฐานข้อมูลและสัญญาณเครือข่ายท้องถิ่นแบบใช้สาย : อีเทอร์เน็ต เครือข่ายแบบไร้สาย TCP/IP และอินเตอร์เนต (TCP/IPand Internet) เป็นต้น หนังสือเล่มนี้ได้ปรับเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีเครือข่ายคอมพิวเตอร์และระบบการสื่อสารข้อมูลได้ทันยุคทันสมัย และนำเสนอผ่านถ้อยคำที่อ่านแล้วเข้าใจง่าย มีรูปภาพประกอบคำอธิบายเพื่อให้เกิดความเข้าใจมากยิ่งขึ้น เหมาะสำหรับคณาจารย์ในการนำไปใช้เป็นหนังสือประกอบการเรียนสำหรับนิสิตนักศึกษา รวมถึงผู้สนใจทั่วไป

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

https://www.naewna.com/lady/694553

หนังสือเด่น : เปิดเผยทุกแง่มุมชีวิตของนักวิ่งหญิงไทย ที่ชนะแข่งขันวิ่งเทรลสุดโหดระดับโลก

วันอาทิตย์ ที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565, 06.00 น.

ฝันให้ไกล ไปให้ถึงดวงจันทร์ เป็นบทบันทึกชีวิตของ พิชชานันท์ มหาโชติ (เอ๋) ที่เขียนโดย สาธินี ตรีวิทยา เอ๋เป็นนักวิ่งสาวหัวใจสิงห์ ฝีเท้าอันดับหนึ่งของเมืองไทย และเป็นนักวิ่งหญิงไทยคนแรก ที่เดิมพันทำตามความฝันแม้ต้องแลกด้วยชีวิต จนพิชิตการแข่งขันวิ่งเทรลที่ได้ชื่อว่าโหดที่สุดระดับโลกอย่าง UTMB (Ultra – Trail du Mont – Blanc) สนามโอลิมปิกของการวิ่งเทรล

การวิ่งของเอ๋เริ่มต้นที่จากความตั้งใจที่แตกต่างจากคนอื่นๆ ด้วยที่แม่ของเธอล้มป่วยด้วยโรคมะเร็งมาหลายปี จึงทำให้เธอตัดสินใจลาออกจากงานโรงงานมาดูแลแม่ที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ที่ราชบุรี โดยดำเนินชีวิตด้วยการรับจ้างทั่วไป เช่น รับจ้างกวาดพื้น เก็บใบไม้ รับจ้างส่งของ และเฝ้าร้าน และสิ่งที่เธอหันมาสนใจการวิ่งเพราะอยากมีรายได้มาเลี้ยงดูแม่ให้พอเพียง ดังนั้นในช่วงเวลากลางวันที่แดดร้อนจัด ระหว่างที่แม่กินยาและงีบ 1-2 ชั่วโมงเอ๋ก็จะใช้เวลาช่วงนั้นรีบออกไปซ้อมวิ่งนอกบ้านวิ่งตามเนินสวน ตามสะพานลอย และเมื่อแม่มาต้องเข้าแอดมิทที่โรงพยาบาลในตัวจังหวัด แม่ของเอ๋นอนรักษาตัวอยู่ชั้น 6 ซึ่งเธอก็ใช้โอกาสที่แม่เธอหลับ ฝึกเดินขึ้นบันไดให้ครบ 100-120 ขั้น บางครั้งก็ฝึกตามจินตนาการว่าจะใช้สนามแข่งตอนที่วิ่งทางชันๆ บนภูเขาเธอซ้อมเองโดยไม่มีโค้ช เรียกว่าฝึกฝนแบบลูกทุ่ง ไม่มีตำรา แต่ก็อดทนพยายามขยายฐานความแข็งแรงของตนเองทุกวัน

การวิ่งสำหรับเอ๋นั้น นอกจากจะช่วยสร้างรายได้เพิ่มแล้ว ยังเป็นช่วงเวลาที่อิสระที่สุดในชีวิต ปลอดโปร่งจากเรื่องทุกข์ใจการวิ่งเหมือนได้พาเธอก้าวออกจากความเครียดเวลามีปัญหาหรือทุกข์ใจก็จะพยายามออกวิ่ง ระบายไปกับเหงื่อ วิ่งให้กายเหนื่อย ใจก็สบายขึ้น จากความมุ่งมั่นอดทน พยายาม และซ้อมด้วยตัวเองวันแล้ววันเล่า จึงทำให้การวิ่งนั้นก้าวหน้า จนเข้าไปแข่งขันระดับประเทศได้ และถ้าเกิดมีปัญหา อาทิ ความหิว หรือบาดเจ็บในการแข่งขันก็จะอดทนไม่ท้อ และเตือนตัวเองเสมอว่าเคยลำบากกว่านี้ อดมื้อ กินมื้อยุงกัดบ้าง เธอคิดเสมอว่าที่หน้าเส้นชัยมีแม่รออยู่ ถ้าชนะแม่จะดีใจ แม่จะยิ้ม ด้วยเหตุนี้ อุปสรรคปัญหาต่างๆ ก็ทำอะไรเธอไม่ได้

ถึงแม้ต้นทุนชีวิตคนเราไม่เท่ากัน แต่การวิ่งนับเป็นกีฬาที่ยุติธรรม คนที่มีฝัน มีวินัยในการฝึกซ้อม ก็ย่อมประสบผลสำเร็จยิ่งๆ ขึ้น และยิ่งเอ๋เป็นคนนิสัยดี มีความกตัญญู จึงรายล้อมไปด้วยกัลยาณมิตรที่คอยช่วยเหลือ จากการแข่งขันที่จอมบึงมาราธอน 42.195 กิโลเมตร สู่การแข่งขันวิ่งเทรลที่ได้ชื่อว่าโหดที่สุดระดับโลก UTMB (Ultra – Trail du Mont – Blanc) 160.9344 กิโลเมตร ที่เธอเดิมพันทำตามความฝันถึงแม้ต้องแลกด้วยชีวิตชีวิตของเอ๋ผ่านการทดสอบที่โหดนับครั้งไม่ถ้วน แต่ด้วยความกตัญญู ทัศนคติเชิงบวก และความไม่ย่อท้อต่อปัญหา ทำให้ก้าวไปเป็นนักวิ่งอัลตราเทรลหญิงอันดับหนึ่งของโลกอย่างสง่างาม

หนังสือเล่มนี้ เธอจะมาเล่าทุกแง่มุมของชีวิต ได้แก่ การแก้ไขปัญหาต่างๆ การเอาตัวรอด แง่คิดในการต่อสู้อุปสรรคที่ผ่านเข้ามาและอื่นๆ โดยหวังว่าจะสามารถเป็นกำลังใจให้ใครที่กำลังท้อแท้หรือสิ้นหวัง กลับมาต่อสู้ชีวิตได้อีกครั้ง ผู้อ่านจะได้สัมผัสในทุกช่วงชีวิตของตัวเธอ ที่เนื้อหาถูกถ่ายทอดอย่างพิถีพิถัน น่าสนใจทีเดียว หนังสือเป็นของสำนักพิมพ์Change ราคาเล่มละ 235 บาท จัดจำหน่ายโดยซีเอ็ดยูเคชั่น

คนเรานั้นอายุสั้นแค่4,000 สัปดาห์

จงใช้เวลาให้คุ้มค่าและใช้ชีวิตให้เป็น

ชีวิตเรามีแค่สี่พันสัปดาห์ เป็นผลงานของ Oliver Burkeman (โอลิเวอร์ เบิร์กแมน) คอลัมนิสต์ชื่อดังของเดอะการ์เดียนแปลไทยโดย วาดฝัน คุณาวงศ์ หนังสือเล่มนี้ผู้อ่านจะได้พบปรัชญาอันน่าทึ่งเกี่ยวกับเวลาและการบริหารเวลา ที่จะช่วยให้มุมมองของคนต่อเวลาในชีวิตที่มีอยู่แค่ราวๆ 4,000 สัปดาห์ เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง ผู้เขียนได้สะท้อนให้เห็นว่าคนเราทุกวันนี้ยังมีความคิดผิดๆ เกี่ยวกับเวลา และนั่นคือต้นตอของหายนะที่แท้จริงที่ทำให้การบริหารเวลาล้มเหลว และผู้เขียนได้มอบเครื่องมือที่จะช่วยให้ทุกคนได้สร้างชีวิตใหม่ที่มีความหมาย ด้วยการยอมรับขีดจำกัดของชีวิต ก็จะสามารถไปถึงจุดสูงสุดของการมีผลิตภาพ ความสำเร็จ และความรู้สึกเติมเต็ม และจะสามารถปลดแอกตัวเองจาก“คำสาปของยุคนี้” ที่เรียกร้องให้เรายัดทุกอย่างลงในเวลาที่มี เลิกหมกมุ่นกับการเช็คอีเมลเลิกไล่ตามรายการสิ่งที่ต้องทำจนหัวหกก้นขวิด และที่สำคัญที่สุดคือ เลิกหลอกตัวเองว่ายิ่งทำมากก็ยิ่งโปรดักทีฟมาก และจะได้มีชีวิตอย่างมีความสุขเสียที เป็นหนังสือ An InstantNew York Times Bestseller และ หนังสือด้านการบริหารเวลาที่ดีที่สุด แปลกว่า 23 ภาษาขายไปแล้วถึง 23 ประเทศ ราคาเล่มละ 265 บาท

ความลับสุดยอดแห่งจิตวิญญาณ

ที่ชนะปัญหาและขีดจำกัดในชีวิต

เดอะเกรเทสต์ซีเคร็ต ผู้เขียน Rhonda Byrne (รอนดา เบิร์น) ผู้แปล วิกันดา จันทร์ทองสุข หนังสือเล่มนี้เป็นผลงานเล่มใหม่ของนักเขียนผู้เป็นกูรูการยกระดับจิตวิญญาณอันดับหนึ่งของโลกผู้เขียน The Secret เกี่ยวกับกฎแห่งการดึงดูด ที่นำมาซึ่งสิ่งที่ปรารถนาที่ขายไปกว่า 30 ล้านเล่มทั่วโลก หนังสือ The Greatest Secret เล่มนี้จะพาผู้อ่านไปสู่ความลับสุดยอดที่จะทำให้ชนะทุกความกลัว หยุดทุกความเจ็บปวด และฝ่าทุกขีดจำกัดที่เคยพันธนาการ เป็นการก้าวกระโดดครั้งใหญ่จากโลกแห่งวัตถุไปสู่อาณาจักรแห่งจิตวิญญาณที่ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนเป็นไปได้ หนังสือเล่าการเดินทางของรอนดาและมอบหนทางที่ตัดตรงสู่ทางออกของปัญหา ความทุกข์และความเจ็บปวดที่คนมากมายต้องเผชิญอยู่ นำไปสู่อนาคตที่เป็นอิสระจากความกังวลและความกลัว ในเล่มยังมีเทคนิคการฝึกฝนตนเองที่นำไปใช้ได้ทันที ความจริงอันลึกซึ้งที่ถูกเปิดเผยในเล่มนี้จะพาผู้อ่านเข้าสู่เส้นทางการผจญภัยที่ไม่เคยประสบพบเจอ และการค้นพบ “ความลับเหนือความลับ” ของรอนดายังได้รับการยืนยันโดยถ้อยคำแห่งสัจธรรมบรรดาปราชญ์ของโลกทั้งในอดีตและปัจจุบัน เวอร์ชั่นไทยราคาเล่มละ 395 บาท

กลยุทธ์การสร้างแบรนด์ให้สำเร็จ

โดยนักสร้างแบรนด์เกาหลีชื่อดัง

เราไม่ได้ซื้อสินค้า เราซื้อแบรนด์ ผู้เขียน Jun Woosung (ช็อนอูซ็อง) ผู้แปล อาสยา อภิชนางกูร หนังสือเล่มนี้ได้ถ่ายทอดความคิด ประสบการณ์ และคำแนะนำเกี่ยวกับการสร้างแบรนด์ของผู้เขียนซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการสร้างแบรนด์ของเกาหลีใต้ชื่อดังที่ประสบความสำเร็จในการสร้างคุณค่าให้กับแบรนด์ชื่อดังต่างๆ เช่น Naver, 29CM, Styleshare และอื่นๆ ด้วยกลยุทธ์การสร้างแบรนด์ที่ทันสมัย เข้ากับยุค MZ (Millennial & Generation Z) จนทำให้แบรนด์โดดเด่นกว่าแบรนด์อื่นๆ เนื้อหาในเล่มเริ่มต้นตั้งแต่การทำความเข้าใจว่าการสร้างแบรนด์คืออะไร ความจำเป็นในการสร้างแบรนด์ การสร้างแบรนด์แตกต่างจากการตลาด (Marketing) อย่างไร ควรเริ่มต้นตรงไหนและดำเนินการต่อไปอย่างไร มีสิ่งใดบ้างที่จำเป็นในการสร้างแบรนด์ให้ประสบความสำเร็จตอบคำถามข้อสงสัยเกี่ยวกับการสร้างแบรนด์ พร้อมทั้งยกตัวอย่างประกอบ ซึ่งช่วยให้ผู้อ่านที่เพิ่งเริ่มต้นสนใจเรื่องนี้หรือไม่มีพื้นฐานด้านนี้มาก่อนสามารถอ่านทำความเข้าใจได้ไม่ยาก และนำไปปรับใช้ให้เหมาะกับกรณีของตัวเองได้ หนังสือราคาเล่มละ 225 บาท

นิยายสยองชื่อดังที่กำลังเป็นภาพยนตร์

เคยเป็นไวรัลบนทวิตเตอร์ในไทย

บ้านวิกลคนประหลาด ผลงานของนักเขียน Uketsu (อุเก็ตสึ) ชาวญี่ปุ่น ผู้แปล ฉัตรขวัญ อดิศัย นวนิยายแปลสยองขวัญเล่มนี้ เป็นความลับชวนขนหัวลุกของบ้านหลังหนึ่งในญี่ปุ่น ที่หากมองเผินๆ ก็ดูเหมือนบ้านคนธรรมดาดาษดื่นทั่วไป แต่หากพิจารณาให้ละเอียดถี่ถ้วนทุกซอกมุม กลับสังเกตเห็นความแปลกประหลาด ความน่าสงสัยอยู่ทุกหนแห่งทั้งที่พื้นที่ห้อง บานประตู ช่องหน้าต่าง และทุกตารางนิ้วแฝงไปด้วยความบิดเบี้ยว พิลึกพิลั่น สะกิดจินตนาการอันสยดสยอง ดำดิ่งสู่มุมมืดของจิตใจมนุษย์อันลึกเกินหยั่ง แม้เพียงมองดูแผนผังของมันเท่านั้น นิยายเรื่องราวบ้านสุดพิศวง และสั่นประสาทเล่มนี้ อ่านสนุกจนสามารถอ่านรวดเดียวจบ และเคยโด่งดังและสร้างปรากฏการณ์ไวรัลบนทวิตเตอร์ที่สะเทือนโลกอินเทอร์เน็ตไทยมาแล้ว มียอดรีทวีตสูงถึง 7 หมื่นครั้ง มียอดขายกว่า 300,000 เล่มในญี่ปุ่น มีการขายลิขสิทธิ์ไปแล้วในเกาหลีใต้ ไต้หวัน จีน เวียดนาม อินโดนีเซีย และไทยหนังสือได้รับรางวัล Yomiuri Publishing Advertising Award Silver Award ครั้งที่ 26ที่ญี่ปุ่น และถูกนำไปสร้างภาพยนตร์เรียบร้อยแล้ว จำหน่ายราคาเล่มละ 265 บาท

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

https://www.naewna.com/lady/693115

หนังสือเด่น : ครบเครื่องเรื่องรถยนต์ไฟฟ้า รีวิวการใช้งานรถในท้องตลาด

วันอาทิตย์ ที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565, 06.00 น.

โดย ชนิตร ภู่กาญจน์

ทุกวันนี้รถไฟฟ้าได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และมีแนวโน้มจะมาแทนที่รถยนต์ที่ใช้เครื่องสันดาปภายในรถยนต์หรือใช้น้ำมันอีกในไม่ช้าอย่างไรก็ตาม คนทั่วไปก็ยังรู้จักรถยนต์ที่ใช้ไฟฟ้าค่อนข้างน้อยมาก และยังมีความสงสัยในเทคโนโลยีใหม่นี้ไม่ใช่น้อย ไม่ว่าจะเรื่องวิธีการใช้งาน ความคุ้มค่าในการใช้งาน การบำรุงรักษา อายุการใช้งาน แม้กระทั่งการเปรียบเทียบระหว่างรถใช้น้ำมันว่าแตกต่างกันอย่างไร

หนังสือ “รถไฟฟ้า EV 101” ผู้เขียนเฉลิมพล สัตยาวุฒิพงศ์, วศิน เพิ่มทรัพย์ เป็นหนังสือที่ร่วมกันเขียนเพื่อให้ข้อมูลที่ครบถ้วนในสิ่งที่ผู้สนใจรถไฟฟ้าต้องรู้ก่อนจะตัดสินใจใช้งาน เช่น การแนะนำให้รู้จักรถยนต์ไฟฟ้าชนิดต่างๆ การเสียภาษีอากร ความคุ้มค่าของรถไฟฟ้า อาทิ รถไฮบริด ประหยัดกว่ารถใช้น้ำมันแค่ไหน รถไฟฟ้า 100 เปอร์เซ็นต์ประหยัดกว่ารถน้ำมันเพราะอะไร ค่าบำรุงรักษาของรถไฟฟ้าและรถน้ำมัน รู้เรื่องเกี่ยวกับแบตเตอรี่ ระยะเวลาการวิ่งตามมาตรฐานวิ่งได้จริงไหม การชาร์จไฟที่บ้านต้องเตรียมตัวอย่างไร หัวชาร์จแบบต่างๆ การใช้โซลาร์เซลล์กับรถไฟฟ้า การขับขี่และสมรรถนะ และอื่นๆ

หนังสือค่อยๆ ปูพื้นฐาน โดยการแนะนำให้รู้จักรถยนต์ไฟฟ้า การเตรียมการก่อนการใช้งาน ความคุ้มค่าการใช้รถ และค่อยๆ เจาะลึกลงไปในรายละเอียดทางด้านเทคนิคต่างๆ ที่ควรรู้ และเปรียบเทียบความคุ้มค่าและความเหมาะสมของรถไฟฟ้าชนิดต่างๆกับการใช้งานว่าตอบรับกับการดำเนินชีวิตของแต่ละบุคคลหรือไม่อย่างไร เปรียบเทียบระหว่างรถยนต์ไฟฟ้ากับรถใช้น้ำมัน เป็นต้น

นอกจากนี้ยังมีการแชร์ประสบการณ์ในการขับรถไฟฟ้าจริงที่จำหน่ายในตลาดรถยนต์ เช่นการใช้ EV ครั้งแรก : BMW 330e Hybrid ที่ขับโหมด EV ไฟฟ้าเพียวๆ การขับ MG EP รถไฟฟ้าราคาดีในปี 2021 การขับ Tesla Model 3 Long Range Mini Cooper SE รถไฟฟ้า EV คันเล็ก Lexus UX 300e Hyundai Kona Electric SE Volvo XC40 Recharge Tesla Model Y Standard Plus Ora Good Cat 400 Pro Nissan Leaf และ BMW iX3 ของหนุ่ย ณัฐพล ม่วงทำเจ้าของเพจ “การตลาดวันละตอน” ที่ปรึกษาการตลาด และดาต้า และรีวิว ORA Good Catรถไฟฟ้าจากค่าย GWM ที่เรียกเสียงฮือฮาจากคนที่อยากมีรถไฟฟ้าคันแรกในครอบครองอยู่พักใหญ่ ของ วรทรรศน์ วงษ์ไทย (jetboat)จาก trendymobile.net และรีวิว นิสสันคิกส์ระบบ e-POWER รถประเภท EREV ของ นายกาฝาก คงเดช กี่สุขพันธ์ (@kafaak) kafaak.blog

หนังสือมีเนื้อหาครบถ้วนทุกด้านที่ควรรู้ แถมยังแชร์ประสบการณ์การใช้รถยนต์ไฟฟ้าที่มีในตลาดให้ได้รู้ถึงสมรรถภาพ ข้อเด่น-ข้อด้อยกันอีก เรียกว่าอ่านหนังสือเล่มนี้เล่มเดียวรู้ทุกอย่าง คุ้มค่าน่าอ่าน และ ผู้อ่านทั่วๆ ไป ก็อ่านเข้าใจง่าย อ่านแล้วก็จะสามารถเลือกรถยนต์ไฟฟ้าใช้ได้ตรงกับจริตของตนเองได้หากต้องการขับรถไฟฟ้าอนาคต นอกจากนี้คณะผู้เขียนยังได้มีการสอดแทรกรายละเอียดทางเทคนิค ตารางข้อมูลและรูปกราฟต่างๆเชิงลึกเผื่อไว้สำหรับผู้ที่สนใจค้นคว้ามากขึ้นสามารถนำไปต่อยอดได้อีก เรียกว่าครบเครื่องเรื่องรถยนต์ไฟฟ้าจริงๆ หนังสือ“รถไฟฟ้า EV 101” ราคาเล่มละ345 บาท จัดพิมพ์โดยโปรวิชั่น และจัดจำหน่ายโดย ซีเอ็ดยูเคชั่น

รู้เท่าทันภัยไซเบอร์ที่อยู่รอบตัว

ใช้ชีวิตติดดิจิทัลอย่างชาญฉลาด

“The Cyber Mindset ฉลาดใช้ชีวิตติดดิจิทัล”ผู้เขียน ปริญญา หอมอเนก เป็นหนังสือที่ได้ชื่อว่าเป็น “วัคซีนไซเบอร์” (Cyber Vaccination) ที่ผู้เขียนมุ่งหวังให้เป็นคู่มือสำหรับสร้างภูมิคุ้มกันให้กับคนไทย ที่ดำเนินชีวิตในศตวรรษที่ 21 ที่โลกเชื่อมโยงทุกอย่างออนไลน์เข้าด้วยกัน และภัยต่างๆ ก็สามารถหลั่งไหลเข้าถึงตัวได้ตลอดเวลาทุกทิศทาง ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนของโลก มีฐานะร่ำรวย หรือยากจน ทุกคุณวุฒิ และ วัยวุฒิ หนังสือเล่มนี้จะทำให้เราๆ ท่านๆ ใช้ชีวิตในโลกดิจิทัลได้อย่างชาญฉลาด รู้เท่าทันภัยไซเบอร์ที่อยู่รอบตัว และเรียนรู้การเอาตัวรอดรู้แนวโน้มโลกไซเบอร์ในอนาคตเพื่อจะได้เตรียมป้องกัน รู้เทคนิคและวิธีการพิชิตภัยใกล้ตัว ความรู้ด้านกฎหมายดิจิทัล ศัพท์แสงที่ควรรู้เกี่ยวกับไซเบอร์เป็นต้น หนังสือเรียบเรียงองค์ความรู้ต่างๆ ที่สามารถทำความเข้าใจง่าย อ่านได้ทั้งผู้ใช้งานทั่วไปผู้ประกอบการ ผู้ดูแลระบบ และผู้บริหาร เพื่อจะได้รับรู้รับทราบถึงภัยไซเบอร์ และแนวทางป้องกันได้ก่อนที่จะสายเกินแก้ หนังสือราคา 299 บาท

เรียนรู้ประวัติดนตรี Rock N’ Roll

อิทธิพล ทิศทางดนตรีในอนาคต

“สรุปย่อยประวัติศาสตร์ดนตรี Rock N’ Roll 101”ผู้เขียน วัฒกานต์ ขันธ์ศรี เป็นหนังสือที่เล่าประวัติศาสตร์ดนตรี Rock n’ Roll ตั้งแต่เริ่มถือกำเนิด ทิศทางดนตรี อิทธิพลต่อโลกนี้รวมถึงเรื่องราวของศิลปิน ที่มีผลต่อการพัฒนาวงการดนตรี เช่น The Beatles, The Who, The Rolling Stones โดยเริ่มตั้งแต่ช่วงปี 1865 มาถึงจนปัจจุบัน ผสมผสานกับเรื่องราวประวัติศาสตร์ ทั้งเรื่องสงคราม วิกฤตเศรษฐกิจ การเมือง วัฒนธรรม แนวคิด ความเชื่อ รวมไปถึงแฟชั่น และค่านิยมต่างๆ ที่ล้วนเป็นเหตุการณ์เกิดขึ้นจริงในประวัติศาสตร์โลก และมีจุดเชื่อมโยงอะไรบางอย่างกับดนตรีRock n’ Roll อย่างไม่น่าเชื่อ “Rock n Roll 101” อาจจะเรียกได้ว่าคือ คัมภีร์ที่แตกแยกย่อยเรื่องราวของดนตรี Rock n’ Roll ในแบบที่อาจจะไม่เคยรับรู้จากที่ไหน ความเชื่อมโยงต่างๆ ที่หลบซ่อนอยู่ในประวัติศาสตร์จะถูกไขออกในหนังสือเล่มนี้ ประโยคที่ว่า “Rock n’ Roll ตายไปแล้ว” เพราะเหตุอะไร แล้วตายไปแล้วจริงไหม หาคำตอบอยู่ในหนังสือเล่มนี้ ราคาเล่มละ 350 บาท

วิธีคิดที่ทำให้ทุกอย่างในชีวิตง่ายขึ้น

เหนื่อยน้อยลง แต่ได้ผลลัพธ์สูง

“คนเก่งคิดง่าย ไม่คิดยาก Effortless” ผู้เขียน Greg McKeown (เกร็ก แม็กคีโอน) ผู้แปล พรรณรวี อกนิษฐาภิชาติคนบางคนมีความรู้สึกว่าชีวิตเป็นเรื่องยุ่งยากซับซ้อนเหลือเกิน ทำอะไรก็ยุ่งยากก็เหนื่อยไปเสียทั้งหมด ไม่ว่าจะการดำเนินชีวิตในสังคม การทำมาหากิน การทำงาน ฯลฯ และรู้สึกท้อและล้าเป็นอย่างมาก ซึ่งการใช้ชีวิตแบบนี้ไม่มีอะไรดีขึ้น คนเราสามารถทำชีวิตให้ดำเนินไปแบบสบายๆ ได้ ไม่จำเป็นต้องแบกโลกไว้ทั้งใบ ผู้เขียนได้ค้นพบวิธีคิดที่ช่วยให้ทำทุกอย่างในชีวิตง่ายขึ้น จากการที่เป็นที่ปรึกษาของ Apple, Google, Facebook และ Twitter เมื่อคิดเป็นทุกอย่างจึง “ง่าย” โดยสามารถทำได้ตั้งแต่แรกเริ่ม คนที่คิดซับซ้อน การลงมือทำก็จะยากและใช้เวลามาก ส่งผลให้ต้องพยายามอย่างหนักแต่หากสังเกตจริงๆ จะพบว่าได้ผลลัพธ์ที่น้อยไม่คุ้มค่ากับการทุ่มเท เมื่อคิดให้ง่ายการลงมือทำก็จะง่ายดายในทุกขั้นตอน ผลก็คือ จะเหนื่อยน้อยลง แต่ได้ผลลัพธ์ที่มากขึ้น หนังสือราคา 250 บาท

รู้จัก ‘บิตคอยน์’ ตั้งแต่เริ่มต้นประดิษฐ์

อ่านเข้าใจง่าย แม้ไม่มีพื้นฐานความรู้

“Inventing Bitcoin : ไขกลไกนวัตกรรมเงินเปลี่ยนโลก”ผู้เขียน Yan Pritzker (ยาน พริตซ์เกอร์) ผู้แปล พิริยะสัมพันธารักษ์ “บิตคอยน์” อาจถือได้ว่าเป็นสิ่งประดิษฐ์ด้านการเงินที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในช่วงชีวิตของพวกเราก็ว่าได้ แต่ทว่าผู้คนส่วนใหญ่กลับไม่รู้ว่ามันคืออะไร หรือทำงานอย่างไรด้วยซ้ำ หนังสือเล่มนี้จะพาคุณผู้อ่านได้รู้จักกระบวนการประดิษฐ์คิดค้นบิตคอยน์ทีละขั้นทีละตอน รู้จักกลไกการทำงานของบิตคอยน์
ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับบิตคอยน์จำเป็นต้องได้รับการแก้ไขก่อนที่จะกลายมาเป็นระบบเงินสดไร้ศูนย์กลาง ผู้เขียนเป็นผู้มีชื่อเสียงในวงการคริปโทเคอร์เรนซี (โดยเฉพาะ Bitcoin) มีผลงานเรียบเรียงหนังสือ The Bitcoin Standard ระบบการเงินทางเลือกใหม่ไร้ศูนย์กลาง จึงสามารถอธิบายได้อย่างทีละขั้นทีละตอน อ่านเข้าใจง่ายแม้ไม่มีพื้นฐานไม่ต้องมีความรู้ความเชี่ยวชาญทางเทคนิคใดๆ และ เมื่อมีความรู้ความเข้าใจอย่างเพียงพอก็จะสามารถตัดสินใจลงทุนได้อย่างเหมาะสมและสามารถทำกำไรจาก “บิตคอยน์” ได้หนังสือราคา 225 บาท

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

https://www.naewna.com/lady/691742

หนังสือเด่น : ทำความรู้จักและเรียนรู้แก่นแท้ Facebook เพื่อใช้อย่างถูกวิธีและสำเร็จอย่างสูงที่สุด

วันอาทิตย์ ที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565, 06.00 น.

ถึงแม้ Facebook จะมีปัญหาเรื่องราวมากมาย และถึงแม้มีกระแสรณรงค์ให้เลิกใช้แอปนี้ในช่วงที่ผ่านมาก็ตาม  และมีคนตั้งคำถามว่า Facebook ยังเวิร์กอยู่จริงหรือ  แต่อย่างไงก็ตามคนทำการตลาดออนไลน์ก็ยังคงจำเป็นต้องใช้ Facebook เพราะยังคงขายสินค้าได้ ถึงแม้มีแอปใหม่ๆเกิดขึ้นมาแต่ก็ไม่สามารถแทนที่ได้ทั้งหมด เพราะ Facebook  ยังเป็นแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่คนไทยใช้งานมากที่สุด จากข้อมูลที่เปิดเผยในงาน Social Media Platform Conference Thailand 2021 ระบุว่าไทยมีการซื้อขายผ่านโซเชียลมีเดียเป็นอันดับ1 ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และมีการใช้ Messenger ในการซื้อขายติดอันดับ2ใน3ของโลก การซื้อขายบน Facebook ยังถูกจริตคนไทยมากๆ  และจากข้อมูลพบว่า 86 % รู้จักร้านค้าออนไลน์ผ่านการแชตในช่องทางต่างๆและ74% ระบุว่าได้แช็ตก่อนช้อป ถึงจะซื้อ และ คนไทยLive ขายของเก่ง ถึงขนาดอเมริกายังทึ่ง  Facebook เป็นเครือข่ายบอกต่อที่ดีที่สุด  และแม้แต่ธุรกิจเล็กๆก็แจ้งเกิดได้ เพราะงบโฆษณาเริ่มต้นที่เพียง 30บาท สามารถค่อยๆทยอยลงได้  หรือถ้าผลตอบรับไม่ดี ก็สามารถแก้ไขหรือปิดไปเลยก็ได้ และข้อดีอีกข้อที่โดดเด่นคือ สามารถกำหนดกลุ่มเป้าหมายได้อย่างแม่นยำ

“หนังสือใช้ Facebook ถูกวิธี ยอดขายดีขึ้น 100 เท่า” เขียนโดย มัณฑิตา จินดา (ทิป) เจ้าของแฟนเพจ Digital Tips Academy c]tเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านสื่อโซเชียลมีเดียระดับต้นๆของไทย   หนังสือเล่มนี้เป็นฉบับอัพเดตเนื้อหา และเทคนิคใหม่ (แต่ก็ยังไม่ล่าสุดเพราะตอนนี้ Facebook ได้เปลี่ยนอีกแล้ว ) เป็นเรื่องราวที่เกี่ยวกับ Facebook ที่ไม่ได้เสนอเรื่องทางเทคนิคอย่างเดียว เพราะผู้เขียนเชื่อว่าเทคนิคนั้นสามารถเรียนรู้ได้ทันกันไม่ยากนัก และสิ่งนี้ไม่ใช่คำตอบของทั้งหมด  ทั้งยังเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา และสิ่งสำคัญที่สุดคือต้องรู้จัก “แก่น”ของวิชา Facebook ซึ่งก็ต้องเริ่มตั้งแต่การรู้จักที่มาที่ไป เข้าใจหลักการ ตลอดจนวิธีคิดของ Facebook เพราะความเข้าใจที่ถูกต้องจะนำไปสู่ “การลงมือทำ”อย่างถูกต้อง  เพราะถ้ารู้จัก Facebook ดีแล้ว ไม่ว่าจะเปลี่ยนแปลงเทคนิคหรือเครื่องมือไปแค่ไหนหลักการก็ยังคงอยู่เสมอ  และการรู้จักและเข้าใจ Facebook อาจจะทำให้สำเร็จหรือไม่สำเร็จก็ได้  แต่ถ้าไม่เข้าใจแล้ว คนๆนั้นแทบจะไม่มีโอกาสประสบความสำเร็จเลยก็ว่าได้

เนื้อหาในหนังสือก็จะเป็นเรื่องราวของ Facebook ที่ครอบคลุมสิ่งสำคัญที่ต้องเรียนรู้ทุกอย่างมีทั้งหมด 10 chapter เริ่มตั้งแต่การอรัมภบทว่า Facebook ยังเวิร์กอยู่หรือไม่อย่างไร, รู้จักสมองของแอบนี้ ได้ แก่ อัลกอรึทึมของ Facebook  ,การทำความรู้จักลูกค้าเพื่อตอบสนองความต้องการและขายของได้เช่น ต้องตอบข้อความหรือสนองตอบอย่างรวดเร็ว เพราะคนสมัยนี้ใจร้อนและเลิกสนใจอะไรได้ง่ายๆหากมีปัญหาก็จะเลิกซื้อไปง่ายๆเลย และเทคนิคต่างๆในการทำธุรกิจกับกลุ่มลูกค้าดังกล่าว เทคนิคการใช้ Facebook ให้ได้ผลโดยไม่ต้องเสียเงิน  เทคนิคการสร้างคอนเทนต์ต่างๆให้ลูกค้าสนใจ  รายละเอียดเทคนิคเกี่ยวกับการทำโฆษณาให้ได้ผล ขั้นตอนกการลงโฆษณา การซื้อโฆษณาให้ได้ยอดขาย เป็นต้น

หนังสือเล่มนี้เขียนมาจากประสบการณ์การการงานของผู้เขียน ที่รวบรวมเอาทุกความรู้ความเข้าใจกระบวนการการทำตลาด กลเม็ดเคล็ดลับต่างๆที่จะใช้บน Facebook ให้ได้ผลลับที่คุ้มค่าที่สุด เอามานำเสนอแบบไม่กั๊ก  เมื่ออ่านแล้วก็ทำให้เข้าใจว่า Facebookทำอะไรได้ และทำอะไรไม่ได้บ้าง เทคนิคและพื้นฐานความเข้าใจในหนังสือทำให้สามารถกล้าที่จะทดลองทำใช้วิธีการที่ตนเองอยากทำ หนังสือเล่มนี้เหมาะกับนักการตลาด ผู้ประกอบการทั้งที่ไม่รู้เกี่ยวกับการตลาดบน Facebook  นักการตลาดที่รู้จัก Facebook มาบ้างแล้ว  หรือแม้แต่นักศึกษาที่กำลังมองหาทางทำธุรกิจของตนเอง

“ใช้ Facebook ถูกวิธี ยอดขายดีขึ้น 100 เท่า” เป็นหนังสือ Best Seller ต่อเนื่องมา 3 ปี  จัดพิมพ์และจัดจำหน่ายโดย ซีเอ็ดยูเคชั่น  จำหน่ายราคาเล่มละ 255 บาท

ชีวิตคนสั้นนัก ใช้ชีวิตให้มีความสุข

เลิกให้คนอื่นมาปั่นหัวเราได้เสียที

“ชีวิตเราไม่ได้ยืนยาวพอที่จะอยู่อย่างอดทน แด่คนที่พยายามเกินไปจนเหนื่อยล้า… แด่คนที่ทนฝืนใช้ชีวิตเพื่อผู้อื่น…” ผู้เขียน Yusuke Suzuki (ยูซึเกะ ซูซูกิ) ผู้แปล ชลฎา เจริญวิริยะกุล  “ต่อให้พยายามแค่ไหนก็ไม่เห็นมีอะไรดีขึ้นมา” , “ฉันทำความสุขหล่นหายไปตอนไหน” , “ความหมายของการมีชีวิตอยู่คืออะไรกันนะ” ฯลฯ นี่คือสิ่งที่จิตแพทย์อย่าง “ซูซูกิ ยูซึเกะ” ได้ยินซ้ำ ๆ เมื่อเขาให้คำปรึกษาแก่ผู้คนที่ใช้ชีวิตโดยแบกความทุกข์ติดตัว ราวกับถูกบังคับให้มีชีวิตอยู่เพื่อคนอื่น ไม่ใช่ตัวเอง… แต่จริงแล้วชีวิตไม่ได้ยืนยาวพอที่จะต้องอยู่อย่างอดทน คนเราต้องใช้ชีวิตที่ปลอดโปร่งโล่ง สบายใจ เลิกฝืนทำสิ่งที่ทำให้ตัวเองรู้สึกแย่ เลิกเดินตามความคาดหวังของคนอื่น และหันมาใช้เวลาในแต่ละวันเพื่อตัวเองจริง ๆ สักที  หนังสือเล่มนี้จะมานำเสนอ 28 วิธีคิดดีๆเพื่อให้เราดำเนินชีวิตอย่างมีความสุข สบายใจ ทิ้งความไม่สนุก หรือความรู้สึกแย่ไป เป็นตัวของตัวเอง  และดำเนินชีวิตอย่างมีพลัง ไม่เปิดโอกาสให้ใครมาปั่นหัวเราได้ หนังสือราคา 250 บาท

เทคนิคจับผิด เปิดโปงเรื่องเหลวไหล

ในโลกที่เต็มไปด้วยเรื่องลวงโลก

“วิชาจับตอแหล: ศิลปะแห่งการสงสัย-จับผิด-เปิดโปงเรื่องเหลวไหลในโลกข้อมูลท่วมท้น” ผู้เขียน Carl T. Bergstrom (คาร์ล ที. เบิร์กสตรอม),Jevin D. West (เจวิน ดี. เวสต์) ผู้แปล รพีพัฒน์ อิงคสิทธิ์ โลกทุกวันนี้ท่วมท้นด้วยข้อมูลที่ส่วนใหญ่เต็มไปด้วยเรื่องเหลวไหล (Bullshit) ทั้งบิ๊กดาต้า สถิติ งานวิจัย ข่าวกระแสหลัก หรือบทความวิชาการ ข้อมูลเชิงปริมาณ ฯลฯ สิ่งเหล่านี้ดูน่าเกรงขาม น่าเชื่อถือ  แต่เนื้อแท้กลับเป็นเพียงข้อมูลผิดและบิดเบือน   และเรื่องเหลวไหลเหล่านี้ ก็ไม่ได้จบลงแค่ความเชื่อผิดๆเท่านั้น แต่ส่งผลกระทบต่อชีวิตคนทุกด้าน ดังนั้น มาร่วมกันตั้งข้อสงสัย จับผิด เปิดโปง และหักล้างคำลวง ด้วย “วิชาจับตอแหล” เพื่อให้ความจริงและมีชัยเหนือเรื่องเหลวไหลในโลกแห่งข้อมูลด้วยเทคนิคต่างๆ  อาทิ เทคนิคจับผิดบิ๊กดาต้าและวิเคราะห์ช่องโหว่ของอัลกอริธึมอัจฉริยะ เคล็ดลับเปิดโปงสารพัดกลอุบายที่ซ่อนอยู่ในแผนภูมิลวงตา กลเม็ดกระชากหน้ากาก “สถิติผีดิบ” และ “ความเหมือนจะเป็นคณิตศาสตร์” วิธีต่อกรวิทยาศาสตร์ลวงโลกด้วยหลักการพิสูจน์อย่างเป็นวิทยาศาสตร์ เป็นต้น ราคาเล่มละ 425 บาท

ฝึกสมองให้ความจำดีขึ้น

ด้วยเทคนิคที่ง่ายและน่าสนใจ

“52 วิธี ฝึกสมองให้จำอะไรก็ได้ง่าย ๆ โดยอัตโนมัติ และจำได้นาน” ฉบับปรับปรุง ผู้เขียน Dominic O’Brien ผู้แปล เอกชัย วังประภา  เรื่องความจำของคนเรานั้นเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างยิ่ง บางคนจะคิดวิตกไปเองว่าความจำของตนเองนั้นแย่ ซึ่งนั่นไม่ใช่เรื่องจริง เพราะอาจเป็นได้ว่าเรายังไม่เคยรู้วิธีเข้าถึงศักยภาพอันแท้จริงของสมอง พอเกิดอาการสงสัยตัวเองขึ้น ก็คิดไปเองว่าความจำไม่ดี ที่จริงคนทุกคนสามารถฝึกสมองให้จำอะไรก็ได้ด้วยวิธีง่ายๆ  ด้วย 52 วิธีและขั้นตอนในหนังสือเล่มนี้ โดยในเล่มได้ให้เทคนิคและวิธีการที่น่าสนใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งวิธีการจำโดยใช้การเชื่อมโยง ผนวกกับการนำจุดสำคัญของสถานที่ที่คุ้นเคย มาสร้างภาพและจินตนาการ เพื่อให้สามารถจดจำสิ่งต่างๆ ได้อย่างง่ายดายโดยอัตโนมัติ และจำได้นาน เป็นต้น พร้อมแบบฝึกหัด และเนื้อหาที่กระชับ ทักษะเหล่านี้ได้ ซึ่งหากฝึกฝนทุกวัน จะเปลี่ยนแปลงและพัฒนาชีวิตของคนเราได้จริงๆ ดีขึ้นทั้งในเรื่องการเรียน การทำงาน และการดำรงชีวิต หนังสือราคา 165  บาท

ข้อเสนอแนะและแนวทางปฏิบัติ

ให้เก็บเงินแสนแรกให้สำเร็จ

“เก็บเงินแสนแรก จะต้องทำให้ได้!” ผู้เขียน     พนิดา ชูกุล (มาดามฟินนี่)    Money-More-Fin” กูรูด้านการเงินจาก aomMONEY หนังสือเล่มนี้เกิดขึ้นมาเป็น “กำลังใจและแผนที่ชี้ทาง” ให้กับทุกคนที่อยากเก็บเงินสำเร็จ ให้ผู้อ่านกล้าหาญและลงมือทำ เพื่อมี “เงินแสน” เป็นของตัวเองได้ครั้งแรก… หากใครยังนึกไม่ออกว่า จะเก็บเงินแสนแรกได้อย่างไร? หรือหากเคยพยายามเก็บเงินแล้วแต่ล้มเหลวไม่เป็นท่า ลองอ่านหนังสือเล่มนี้ เพราะทุกอักษร ทุกไอเดีย ทุกวิธีการ เขียนโดย คนที่เคยล้มเหลวแบบทุกคนเช่นกัน หรืออาจจะแย่กว่ากว่าด้วยซ้ำ “แต่วันนี้เก็บเงินแสนแรกได้สำเร็จแล้ว  ในเล่มจะบอกเคล็ดลับที่จะทำให้มีเก็บเงินได้สำเร็จนั้นมี ได้แก่  ทำความเข้าใจตัวเองที่อยากเก็บเงินให้สำเร็จเพราะอะไร,การเริ่มต้นก้าวแรก ,ตัวช่วยให้เก็บเงินได้มากขึ้น, มองหาฮีโร่ ,ตัวช่วยจำเป็น และ ตัวอย่างเส้นทางการเก็บเงิน หนังสือราคาเล่มละ 199 บาท

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

https://www.naewna.com/lady/690278

หนังสือเด่น : เทคนิคการโฟกัสแบบสมบูรณ์แบบ เพื่อประสิทธิภาพการงานและคุณภาพชีวิต

วันอาทิตย์ ที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565, 06.00 น.

โลกทุกวันนี้ ถือได้ว่าเป็นยุคที่เราต้องเผชิญกับสิ่งที่เบี่ยงเบนความสนใจมากที่สุดก็ว่าได้ อุปกรณ์เทคโนโลยีต่างๆเป็นสิ่งที่ดึงดูดความสนใจของคนจากสิ่งที่ควรทำได้ในทุกเพศทุกวัย ทำให้เสียสมาธิ เสียความจดจ่อ ทำอะไรไม่ได้เป็นชิ้นเป็นอัน ผัดผ่อนการงานที่ต้องทำ ซึ่งมีผลต่อการดำเนินชีวิตและหน้าที่การงานอย่างมาก สิ่งที่ควรจะทำเพื่อความก้าวหน้าในชีวิตก็ไปไม่ถึงไหนเพราะมัวแต่ว่อกแว่ก หลายคนรู้ปัญหาและพยายามที่จะปรับปรุงตัวเองแต่ก็ทำได้ยากมาก

หนังสือ Hyperfocus โฟกัสถูกจุด ปักหมุด @ ผลสำเร็จ ผู้เขียน Chris Bailey (คริส เบลีย์)  นักเขียนหนังสือขายดีระดับโลก The Productive Project ผู้แปล กนกวรรณ สุวรรณภักดี เป็นหนังสือที่ผู้เขียนได้ศึกษางานวิจัยทางวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับการโฟกัสจำนวนมากมาย รวมทั้งพูดคุยกับนักวิจัยทั่วโลกด้านความใส่ใจ เพื่อให้เข้าใจว่าทำไมคนเราถึงถูกหันเหความสนใจได้ง่ายดาย รวมทั้งค้นหาและวิจัยเทคนิคดึงจิตใจให้โฟกัสในสิ่งที่สำคัญให้ได้ท่ามกลางโลกที่เต็มไปด้วยสิ่งล่อใจเฉกเช่นทุกวันนี้ 

จากการวิจัย Chris Bailey ได้พบว่าการโฟกัสไม่เพียงแต่ช่วยผลิตภาพ แต่ยังส่งผลต่อคุณภาพชีวิตโดยรวม และเขาได้เรียนรู้ว่าหนึ่งในแนวทางที่ปฏิบัติที่ดีที่สุดของการพัฒนาความคิดสร้างสรรค์และเพิ่มผลผลิตคือ การเรียนรู้ที่จะไม่โฟกัส การไม่ใส่ใจอะไรเป็นพิเศษและปล่อยจิตใจล่องลอยไปเรื่อยๆ พบว่าสามารถเชื่อมโยงความคิดต่างๆได้ดีขึ้น ทำให้ความคิดสร้างสรรค์ใหม่ๆ เกิดขึ้นได้ และเขายังตระหนักว่า การทำงานหลายอย่างที่ในเวลาเดียวกันที่เขาเคยคิดว่าเป็นเรื่องดีนั้นจริงๆแล้วกลายเป็นกับดักรั้งไม่ให้ทำงานสำคัญให้สำเร็จลุล่วง และยังค้นพบอีกว่าการโฟกัสอย่างแรงกล้าต่องานที่สำคัญเพียงงานเดียวในช่วงเวลาหนึ่งหรือ การโฟกัสอย่างสมบูรณ์ (Hyperfocus)จะทำให้เรากลายเป็นคนที่ผลิตภาพสูงสุดได้  เหนือสิ่งอื่นใดเขามองว่าความใส่ใจเป็นส่วนประกอบของที่สุดและพัฒนาได้  ถ้าอยากมีผลิตภาพ มีความคิดสร้างสรรค์ และมีความสุขมากขึ้นในที่ทำงานหรือว่าที่บ้าน และเมื่อเราใช้พื้นที่ใส่ใจที่มีจำกัดอย่างชาญฉลาด และตั้งอกตั้งใจ  เราก็จะโฟกัสกับเรื่องใดเรื่องหนึ่งอย่างแรงกล้าและแน่วแน่ และทั้งหมดนี่คือทักษะสำคัญของโลกปัจจุบัน

เนื้อหาในหนังสือแบ่งเป็น 2 ส่วนหลัก ได้แก่ 1.การโฟกัสอย่างสมบูรณ์รวมศูนย์  เริ่มตั้งแต่ การเลิกใช้สวิตช์โหมดกระทำอัตโนมัติ หรือการกระทำที่ทำจากความเคยชินจากกิจวัตรประจำวันหรือนิสัยเดิมๆ  เพราะหากเราหยุดหรือสามารถบริหารโหมดอัตโนมัติดังกล่าว เราก็จะรู้ว่าควรทำอะไร และพยายามโฟกัสในสิ่งนั้นแทน  การแบ่งกิจกรรมหรืองานต่างๆที่เราควรเลือกโฟกัส ได้แก่มีผลิตภาพ และไร้ผลิตภาพ  ขีดจำกัดความใส่ใจ ที่มีผลต่อการโฟกัส การโฟกัสอย่างสมบูรณ์4ขั้นตอน การกำจัดสิ่งรบกวน เป็นต้น 2.การโฟกัสกระจายศูนย์ คือการไม่โฟกัส ปล่อยจิตใจล่องลอยอย่างที่อยากเป็น ก็จะสามารถกำหนดความตั้งใจและแผนในอนาคต  ช่วยเติมพลังและความใส่ใจ และเพิ่มและสนับสนุนความคิดสร้างสรรค์ และปิดท้ายด้วย การทำงานร่วมกันของการโฟกัสทั้ง2แบบ

หนังสือเล่มนี้มีประโยชน์อย่างยิ่ง แก้ปัญหาตรงจุด เข้ากับยุคสมัยที่ผู้คนหลุดโฟกัสกันมากที่สุดในประวัติมวลมนุษยชาติก็ว่าได้  ผู้เขียนได้พรรณนาวิธีที่จะช่วยให้เราโฟกัสอย่างสร้างสรรค์และมีประสิทธิภาพสูง ที่มีทั้งทฤษฎี และเป็นเหมือนคู่มือที่เต็มไปด้วยแนวทางปฏิบัติที่ลงมือได้จริง รายละเอียดการแนะนำครบถ้วน ประยุกติ์ใช้งานได้จริง ใช้ได้ในทุกสถานการณ์ของชีวิต  หนังสือตีพิมพ์มาแล้วกว่า 22 ภาษา ราคาเล่มละ 250 บาท จัดจำหน่ายในรูปแบบ e-book  สำนักพิมพ์เชนจ์พลัส จัดจำหน่ายโดย ซีเอ็ดยูเคชั่น

วางแผนการใช้เวลาให้คุ้มค่า

เพื่อชีวิตที่ดีขึ้นในทุกๆด้าน

วิธีบริหารเวลา ให้คุ้มค่าที่สุดในแต่ละวัน ผู้เขียน Lothar Seiwert (โลทาร์ ไซแวร์ท) ผู้แปล ปิยะกัลย์ สินประเสริฐ เวลาที่เรามีอยู่วันละ 24 ชั่วโมงนั้นไม่ได้น้อยเลย  แต่มีเวลาจำนวนมากต่างหากที่เราปล่อยให้สูญเสียไปโดยไม่ได้ใช้ให้เกิดประโยชน์ หนังสือเล่มนี้ จะช่วยผู้อ่านได้ทบทวนการใช้เวลาของตนเองในปัจจุบันว่าเป็นอย่างไร และเมื่อพบว่าใช้เวลาไปกับเรื่องไม่เป็นเรื่องเสียส่วนใหญ่ ก็ให้หาให้พบว่าอะไรกันแน่ที่ขโมยเวลาเราไป เมื่อพบแล้วก็เริ่มตั้งเป้าหมายพร้อมวางแผนใช้เวลาในแต่ละวันให้คุ้มค่าที่สุด  จัดลำดับความสำคัญ และโอนงานหรือกระจายงานไปให้คนอื่นให้เป็น จัดระเบียบชีวิตในแต่ละวัน วางแผนการทำงานที่ดีที่สุด เมื่อใช้ชีวิตและใช้เวลาอย่างคุ้มค่าแล้ว คนเราก็จะมีความสุขและมีชีวิตที่ดีขึ้นตลอดไป ผู้เขียนได้แนะนำวิธีคิดเกี่ยวกับการบริหารเวลาที่นำไปปฏิบัติได้จริง และทำแล้วเกิดประโยชน์ได้ในทันที โดยเขียนสรุปย่อและจับประเด็นสำคัญมานำเสนอ ทำให้เข้าใจง่าย และนำไปปฏิบัติได้ทันที ราคาเล่มละ 89 บาท

ความเฮงซวยในชีวิตเกิดขึ้นโดยตัวเอง

จงยอมรับและใช้ชีวิตอยู่กับมันให้ได้

Everyone is เฮงซวย ผู้เขียน Natalya Lobanova (นาตาเลีย โลบาโนวา)ศิลปิน นักเขียน และแอนิเมเตอร์ผู้ทำงานให้กับเดอะนิวยอร์กเกอร์ (The New Yorker) ผู้แปล ณัชชา ศิริปาณี หนังสือเล่มนี้เป็นการ์ตูนสั้นสะท้อนชีวิต ที่พูดถึงความเฮงซวย และการรับมือกับความเฮงซวยในชีวิตอย่างฉลาด โดยการให้ยอมรับมันโดยไม่ต้องโทษใคร เพราะจริงๆแล้วความเฮงซวยบังเกิดด้วยตัวเราเองทั้งนั้น และมีโอกาสเกิดขึ้นกับทุกคน และอีกอย่างคือควรหยุดโกหกตัวเองและเลิกอ้างว่าชีวิตก็อาจยังมีส่วนที่แอบดีอยู่บ้าง และถ้าในชีวิตไม่ว่าเราจะมองจากมุมไหนก็หาอะไรดีไม่ได้เลยสักอย่าง ก็จงทำใจยอมรับและอยู่กับความเฮงซวยนั้นไปเลย  และใช้ชีวิตต่อไปตามสไตล์เฮงซวย เพราะการทำแบบนี้เหมือนเป็นการอนุญาตตัวเองได้ปลดปล่อยความเครียด ความทุกข์ออกจากใจไปบ้าง เพื่อความผ่อนคลายและให้สามารถที่อดทนกับความเฮงซวยต่อไปในอนาคต เพราะอย่างไรก็หนีไม่พ้น เพราะความเฮงซวยมันคือส่วนหนึ่งของความเป็นมนุษย์ไปแล้ว  หนังสือราคาเล่มละ 195  บาท

ข้อมูลท่องเที่ยวเกาหลี โซล -ปูซาน

อ่านง่าย ครบถ้วน ครอบคลุม

เที่ยวไม่ง้อไกด์ เกาหลี โซล-ปูซาน ผู้เขียน เม ศศิญากร เป็นหนังสือ Guide Book เล่มเดียวที่จะพาคุณไปสัมผัส “โซล” และ “เมืองโดยรอบ รวมถึงปูซาน” อย่างที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน เนื้อหาพิมพ์ 4 สีทั้งเล่ม พร้อมด้วยแผนที่ขนาดใหญ่ชัดเจน  โปรแกรมเที่ยวเต็มอิ่ม 5 วัน ในโซลเที่ยวครบทุกย่านดัง ก่อนเดินทางตะลุยรอบนอกอย่างเกาะนามิ หมู่บ้านฝรั่งเศส อินชอน ซูวอน และสนุกเอเวอร์แลนด์ แล้วค่อยลงใต้ไปปิดทริปที่ปูซาน 3 วันเต็ม กับทุกไฮไลต์ที่ไม่ควรพลาด เนื้อหาละเอียดอัดแน่นด้วยการวางแผนก่อนเดินทาง อาทิ เที่ยวฤดูไหนดี การจองที่พักในโซลและปูซาน งข้อมูลการเดินทาง การจองตั๋วเครื่องบินรายละเอียดสถานที่เที่ยว แผนที่ครบทุกย่าน ทุกเมือง ดูง่ายสบายตา ที่ใช้งานได้จริง ราคาเล่มละ 365 บาท

สอนวิธีวาดการ์ตูนอย่างง่ายๆ

วาดได้จริง ถึงแม้ไม่มีพื้นฐาน

วาดการ์ตูนสุดน่ารักง่ายๆ เป็นใน 1 นาที  ผู้เขียน เฟย เล่อ เหนี่ยว ผู้แปล วิชญ รุจิรวรางกุล เป็นการสอนให้รู้จักวิธีวาดการ์ตูนที่ง่ายที่สุดที่เคยมีมา  แม้ไม่เคยวาดภาพมาก่อนก็สามารถวาดเป็นได้ใน 1 นาที แถมรูปที่วาดออกมายังดูน่ารักที่สุด  ด้วยหนังสือได้นำเสนอเทคนิคการเพิ่มความน่ารักให้รูปวาด โดยเริ่มตั้งแต่เบื้องต้น ได้แก่ การฝึกพื้นฐานด้วยการอบอุ่นข้อมือ เทคนิคการเปลี่ยนแปลงสิ่งรอบตัวให้เรียบง่ายและน่ารักได้อย่างไร เรียนรู้รูปแบบน่ารักอย่างง่ายๆ การประยุกต์ใช้รูปต่างๆมาวาดเป็นการ์ตูน พร้อม Tips พิเศษต่างๆมากมาย  และแบบฝึกฝนท้ายบท ที่จะทำให้สามารถวาดเก่งวาดสวย  แม้ไม่มีพื้นฐานมาก่อน เพียงมีดินสอหนึ่งแท่ง ก็สามารถเนรมิตการ์ตูนน่ารัก ๆ ได้มากมาย เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย ที่อยากเขียนการ์ตูนเป็น เขียนการ์ตูนสวย ด้วยขั้นตอนที่ไม่ยาก หนังสือราคาเล่มละ 149  บาท

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

https://www.naewna.com/lady/688982

หนังสือเด่น : หลักคิดด้านการเงินเล็กๆ แต่สำคัญ ผลักดันสู่ความสำเร็จทางการเงิน

วันอาทิตย์ ที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2565, 06.00 น.

Mindset คือวิธีคิดของคนเราที่เกี่ยวข้องกับสิ่งต่างๆ ซึ่งส่งผลต่อความรู้สึก การกระทำ และพฤติกรรมของคนเรา และคำนี้ถือเป็นคำที่ทรงอิทธิพลต่อความสำเร็จในทุกเรื่องในชีวิต รวมถึงการบริหารและจัดการด้านการเงินด้วย คนเราจะประสบผลสำเร็จด้านการเงินได้นั้น นอกเหนือจากการที่มีความรู้ทางการเงิน หรือ Money Literacy แล้ว วิธีคิดเกี่ยวกับเรื่องเงินๆ ทองๆ หรือ Money Mindset นั้นมีความสำคัญไม่แพ้กันหรืออาจจะสำคัญมากกว่าด้วยซ้ำ เพราะวิธีคิดคือตัวกำหนดรูปแบบการตัดสินใจของคน และนำไปสู่พฤติกรรมบางอย่างที่อาจให้ทั้งคุณและโทษต่อการเงินของเรา ดังนั้นอาจกล่าวได้ว่า ความสำเร็จทางการเงินนั้นมาจากความรู้ด้านการเงินอย่างเดียวไม่ได้ ต้องมี Mindset ทางการเงินที่ดีด้วย คือการคิดให้ถูก และคิดให้เป็น

Money Mindset ผู้เขียน จักรพงษ์ เมษพันธุ์ หรือโค้ชหนุ่ม -The Money Coach เป็นหนังสือด้านการเงิน ที่พูดถึงหลักคิดทางการเงิน ที่เป็นหลักคิดเล็กๆ แต่มีประโยชน์มาก รวมทั้งหมด 51 เรื่อง หากนำไปคิดตามและกระทำสม่ำเสมอ ก็จะทำให้ชีวิตด้านการเงินของทุกคนดีขึ้นได้ตามลำดับ ถึงแม้จะเป็นเรื่องเล็กๆ แต่บางเรื่องอ่านแล้วทำให้รู้สึกอิ่มเอมใจและสามารถนำพาไปสู่การปฏิบัติที่ทำให้เกิดความสุขและความสำเร็จทางการเงินได้ บางเรื่องก็เป็นเรื่องที่เหลือเชื่อที่ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นจริง หรือบางเรื่องที่เรารู้สึกว่าไม่น่ากระทบเรื่องเงินทอง แต่กลับเกี่ยวพันกันอย่างคาดไม่ถึง

ตัวอย่างข้อคิด ได้แก่ ปลายทางแห่งความมั่นคง พูดถึงแนวคิดการควบคุมโจทย์ทางการเงิน 3 เรื่อง ก็มั่งคั่งได้ ผ่านไปแต่ละปีเรารวยขึ้นหรือจนลง จะให้ข้อคิดเกี่ยวกับอนาคตทางการเงินที่เปลี่ยนแปลงได้ หรือดีขึ้นได้ด้วยตัวเราเอง เริ่มเหลือ….เริ่มรวย ข้อคิดคือ คิดฝันอะไรให้ตัดสินใจเริ่มให้เร็วที่สุด คนจนรุ่นสุดท้าย (คนรวยรุ่นแรก) การเปลี่ยนแปลงชีวิตการเงินของครอบครัว ไม่ใช่ทำกันเสร็จในปีสองปี ถ้าไม่สำเร็จก็ลองใหม่ สู้กันไปเรื่อยๆ อย่ายอมแพ้ แชร์ลูกโซ่ไม่มีวันตาย ตราบใดที่ ความไม่รู้ ความโลภ ความมักง่าย ของคนมาพร้อมกัน ก็จะทำให้ตกเป็นเหยื่อได้ เป็นต้น

โลกการเงินนั้นก้าวหน้า ไม่เพียงแต่แค่เทคโนโลยีทางการเงินที่พัฒนาตลอดเวลาแต่ที่ลุ่มลึกไปกว่านั้น คือความคิดของมนุษย์ที่มีต่อเงิน คนเราต้องหมั่นศึกษา เพราะเรื่องการเงินมีสิ่งที่ต้องเรียนรู้และความเข้าใจอีกมากมาย ความยากของการจัดการการเงิน คือการที่เราต้องตัดสินใจเกี่ยวกับมันทุกวัน หลายครั้งรู้ว่าไม่ควรทำอย่างนั้น เพราะเคยรู้เคยเรียนมา แต่พอถึงเวลา เรากลับทำตรงกันข้าม

ดังนั้นจึงขอย้ำอีกครั้งว่าความสำเร็จทางการเงินอาศัยแค่ความรู้อย่างเดียวไม่ได้ต้องคิดให้ถูก และคิดให้เป็นด้วย และเรื่องราวชวนคิดเกี่ยวกับเงิน 51 เรื่องในเล่มนี้ ถือว่าเป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับผู้ที่ต้องการเปลี่ยนแปลงชีวิตการเงินของตนเองไปในทางที่ดีขึ้น หนังสืออ่านง่าย เนื้อหามีประโยชน์อย่างมาก เหมาะสำหรับใช้เป็นคู่มือในการพัฒนาตัวเองด้านการเงิน ราคาเล่มละ 395 บาท มีจำหน่ายในรูปแบบ e-book จัดจำหน่ายโดย ซีเอ็ดยูเคชั่น

ฝึกโฟกัสให้เป็น และโฟกัสถูกจุด เพิ่มประสิทธิภาพงาน และคุณภาพชีวิต

Hyperfocus โฟกัสถูกจุด ปักหมุด @ ผลสำเร็จ ผู้เขียน Chris Bailey (คริส เบลีย์) ผู้แปล กนกวรรณ สุวรรณภักดี เป็นหนังสือที่อ้างอิงหลักวิทยาศาสตร์ที่ค้นคว้าจากงานวิจัย เพื่อฝึกการโฟกัส ปกติการโฟกัสในเรื่องใดๆ นั้นค่อนข้างเป็นเรื่องยากอยู่แล้ว แต่ในทุกวันนี้คนเรายิ่งโฟกัสได้ยากขึ้น เพราะโลกของเราเต็มไปด้วยอุปกรณ์ไฮเทคที่ดึงดูดความสนใจตลอดเวลา รบกวนการทำงานและการใช้ชีวิต ดังนั้น อยากทำงานหรือทำภารกิจใดๆ ให้สำเร็จต้องมีการโฟกัสที่ถูกจุด โดยเริ่มจากแนวทางการปฏิบัติ 7 ประการในการอ่านหนังสือ และเทคนิคต่างๆ มากมายในเล่ม แล้วฝึกโฟกัสอย่างต่อเนื่อง ทุกอย่างรอบตัวก็จะดีขึ้น มากขึ้น สร้างสรรค์ขึ้น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน และคุณภาพชีวิต เทคนิคต่างๆ สามารถประยุกต์ใช้งานได้จริง และเข้ากับยุคสมัย หนังสือเล่มนี้เป็นอีกผลงานหนึ่งของ Chris Bailey (คริส เบลีย์) ผู้เป็นเขียนหนังสือขายดีระดับโลก The Productivity Project ราคาเล่มละ 250 บาท

เรื่องราวชีวิตของนักวิ่งหญิงไทย ผู้พิชิต การแข่งขันวิ่งเทรลระดับโลก

ฝันให้ไกล ไปให้ถึงดวงจันทร์ ผู้เขียน สาธินี ตรีวิทยา เป็นเรื่องราวของ พิชชานันท์ มหาโชติ นักวิ่งเทรลหญิงอันดับหนึ่งแห่งวงการเทรลของประเทศไทย ที่เบื้องหลังความสำเร็จนั้นซับซ้อนและดราม่า ต้องฝ่าฟันปัญหาต่างๆ มากมาย โดยที่เธอมีแม่เป็นเส้นชัย และนำอุปสรรคต่างๆ นั้นมาเป็นแรงบันดาลใจ และด้วยความมุ่งมั่นทำตามความฝันอย่างไม่ย่อท้อ จึงทำให้พิชชานันท์ เป็นนักวิ่งหญิงไทยคนแรกที่สามารถพิชิตการแข่งขันวิ่งเทรลที่ได้ชื่อว่าโหดที่สุดระดับโลกอย่าง UTMB (Ultra – Trail du Mont – Blanc) ระยะ 100 ไมล์ ที่สนามโอลิมปิกของการวิ่งเทรล ที่ฝรั่งเศส หนังสือเล่มนี้เกิดขึ้น เนื่องจากพิชชานันท์ มีความตั้งใจถ่ายทอดเรื่องราวของตนเองสู่สาธารณะในทุกด้านทุกแง่มุม เมื่ออ่านแล้วอาจจะสามารถเป็นแรงบันดาลใจ และเป็นแบบอย่างให้คนที่กำลังท้อแท้หรือพบกับอุปสรรคในชีวิตต่างๆ ได้ลุกขึ้นมาต่อสู้อีกครั้ง หนังสือราคาเล่มละ 235 บาท

หนังสือ Facebook ที่อัปเดตเนื้อหา อ่านเข้าใจง่าย ครอบคลุมทุกเรื่อง

ใช้ Facebook ถูกวิธี ยอดขายดีขึ้น 100 เท่า ผู้เขียนมัณฑิตา จินดา (ทิป) หนังสือเล่มนี้ เป็นฉบับปรับปรุงใหม่ล่าสุด 2022 จากหนังสือ Best Seller ยอดขายอันดับ 1 ในหมวดบริหาร ยาวนานกว่า 2 ปี โดยผู้เขียนทำหนังสือเล่มนี้ขึ้นมา เพื่อให้ทุกคนได้เข้าใจที่มาที่ไป เข้าใจหลักการ ตลอดจนวิธีคิดของ Facebook ทั้งนี้ก็เพราะ “ความเข้าใจ” ที่ถูกต้อง จะนำไปสู่ “การลงมือทำ” อย่างถูกต้อง และไม่ว่า “เครื่องมือ” ต่าง ๆ จะเปลี่ยนไปอย่างไร หลักการตรงนี้ก็จะยังคงอยู่เสมอ หรือเรียกสิ่งนี้ว่า “แก่น” ของวิชา Facebook นั่นเอง และแม้ว่าหนังสือเล่มนี้จะไม่ใช่หนังสือ How to แต่ก็ยังได้อ่าน Tips และเทคนิคต่างๆ มากมาย ทั้งเรื่อง Facebook Marketing และ Facebook Advertising ซึ่งล้วนแต่ถูกกลั่นกรองมาจากประสบการณ์ในการทำงานจริง ผ่านการพูดคุยอย่างใกล้ชิดกับเจ้าหน้าที่ Facebook มาอย่างยาวนาน รวมถึงเป็นความรู้ที่ผู้เขียนใช้กับธุรกิจส่วนตัวของตัวเองอีกด้วย ถือว่า เป็นหนังสือเกี่ยวกับ Facebook ที่อ่านง่าย ครอบคลุมทั้งกระบวนการทางการตลาด กลเม็ดเคล็ดลับ และช่วยให้ลงโฆษณาได้ตรงกลุ่มเป้าหมายและคุ้มค่าที่สุด ราคาเล่มละ 255 บาท

รวมทฤษฎีคลื่นแอลเลียตต์ที่สมบูรณ์ที่สุด ใช้ได้กับทั้งหุ้น ทองคำ ค่าเงิน และคริปโต

หลักการคลื่นเอลเลียตต์-กุญแจสู่พฤติกรรมตลาด : Elliott Wave Principle-Key To Market Behavior ผู้เขียน A. J. Frost (เอ. เจ. ฟรอสต์), Robert R. Prechter (โรเบิร์ต อาร์. เพรชเตอร์) ผู้แปล สมิทธ์ อุดมมะนะ หนังสือเล่มนี้เป็นการรวบรวมทฤษฎีคลื่นเอลเลียตต์ ที่สามารถคาดการณ์ราคาได้อย่างแม่นยำ ที่ราล์ฟ เนลสัน เอลเลียตต์ ได้ค้นพบไว้อย่างละเอียด ไม่เพียงเท่านั้น ฟรอสต์และเพรชเตอร์ได้ต่อยอดให้งานสมบูรณ์มากขึ้น โดยการศึกษาและวิจัยรูปแบบตลาดในปัจจุบัน ว่าเป็นไปตามทฤษฎีนี้มากน้อยเพียงใด แล้วทำเป็นหนังสือที่รวบรวมทฤษฎี Elliott Wave ที่สมบูรณ์ครบถ้วนที่สุด มีการอธิบายหลักการคลื่นเอลเลียตต์ (Elliott Wave Principle) อย่างเป็นขั้นตอน พร้อมยกตัวอย่างประกอบ และเนื้อหาภายในเล่มมักจะถูกนำไปใช้เพื่ออ้างอิงในงานเขียนเเละงานวิจัยมากมาย ถือว่าเป็นหนังสือที่รวบรวมทฤษฎีคลื่นเอลเลียตต์ที่สมบูรณ์ที่สุด เหมาะสำหรับนักลงทุนมือใหม่เเละผู้สนใจ สามารถนำไปใช้ได้กับ หุ้น ทองคำ ค่าเงิน และคริปโทเคอร์เรนซี แปลมาแล้วมากกว่า 7 ภาษาทั่วโลก 395 บาท

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

https://www.naewna.com/lady/688094

หนังสือเด่น : ปรับเปลี่ยนชีวิตให้มีความสุข สำเร็จ ด้วยการคิดบวก และลงมือทำทันที

วันอาทิตย์ ที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2565, 06.00 น.

การพูดคุยของคนเราในชีวิตประจำวันนั้นแท้จริงแล้วมีแค่ 2 แบบ คือเราพูดกับคนอื่น และพูดกับตัวเอง หากลองสังเกตดูพฤติกรรมของคนหรือตัวเอง จะพบว่าทั้งวันเราจะพูดกับตัวเองมากกว่าพูดคุยกับคนอื่น ไม่ว่าจะตอนทำงาน ออกกำลังกาย อ่าน เขียน เดิน สวดมนต์ ฯลฯ เราคุยกับตัวเองทั้งวันทั้งคืนแม้แต่ตอนนอนหลับ ในแต่ละวันเราคุยกับตัวเองทุกเรื่อง ทั้งสิ่งที่ให้กำลังใจตัวเอง และสิ่งที่บั่นทอนกำลังใจแต่มีหลายคนที่คอยแต่พูดสิ่งลบๆ กับตัวเองและบอกกับตัวเองซ้ำๆ ในหัว ฉันไม่อยากทำ หรือฉันยอมแพ้แล้ว ฉันไม่เก่ง มีชีวิตจมปลักอยู่ในความทุกข์ ท้อแท้สิ้นหวัง

จากการศึกษาล่าสุดทางด้านประสาทวิทยาและจิตวิทยา ได้ให้น้ำหนักกับแนวคิดที่ว่า สิ่งที่พูดกับตัวเองส่งผลต่อความรู้สึกของคนเรา ถ้าพูดกับตัวเองในเชิงบวกก็จะสามารถเปลี่ยนอารมณ์ความคิด เพิ่มความมั่นใจ เพิ่มผลิตภาพการทำงานและอื่นๆ ได้ ดังนั้น การพูดกับตัวเองเชิงบวกจึงเป็นองค์ประกอบสำคัญในชีวิตที่จะทำให้มีความสุขและประสบผลสำเร็จ ส่วนการพูดในเชิงลบก็จะทำให้อารมณ์ไม่ดี ทำให้รู้สึกสิ้นหวังทำให้ปัญหาใหญ่ขึ้น หรือมีปัญหาเกิดขึ้นทั้งที่ไม่เคยมีมาก่อน เพราะสิ่งที่เราพูดไม่เพียงแต่ส่งผลในปัจจุบันเท่านั้น แต่ยังเข้าไปอยู่ภายในจิตใต้สำนึกจนเปลี่ยนความคิดและพฤติกรรมระยะยาว

ความคิดเป็นรากฐานของการเกิดพฤติกรรม ถ้าเราอยากเปลี่ยนตัวเอง ก็ต้องเปลี่ยนตั้งแต่ความคิดเพื่อให้เปลี่ยนคำพูดที่บอกกับตัวเอง หนังสือ เลิกคิดลบนะ คนดี :
Unf*ck Yourself พร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองให้ชีวิตคิดบวกหรือยัง ผู้เขียน Gary John Bishop (แกรี จอห์น บิชอป) ผู้แปล กิตติกานต์อิศระ จะมาบอกเล่า และแนะนำวิธีการทำชีวิตให้เป็นแบบเชิงบวก โดยต้องมีความมุ่งมั่น7 ประการ อาทิ

“ฉันเต็มใจ” คือ เต็มใจหยุดใช้ชีวิตแบบเดิมๆ ที่ทำให้รู้สึกแย่หรือทุกข์ หยุดโทษคนอื่นหยุดตำหนิตัวเอง และเต็มใจยอมรับสภาพที่ตัวเองเป็นอย่างตรงไปตรงมา จะส่งผลให้เต็มใจที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเอง ความเต็มใจเป็นเสมือนสิ่งใหม่ๆ ที่สามารถจัดการกับชีวิตและมองสถานการณ์จากมุมมองใหม่ “ฉันเกิดมาเพื่อชนะ”การกระทำคนเราถูกควบคุมโดยจิตใต้สำนึกเป็นส่วนใหญ่ ถ้าจะเอาชนะจิตใต้สำนึกที่ฝังลึกในจิตใจ ต้องใช้ความคิด จินตนาการ และความมุ่งมั่นเพื่อเปลี่ยนความคิดอย่างมาก ถ้าคิดถึงชัยชนะและความสำเร็จมากเท่าไร กระบวนการนั้นจะฝังลึกและยึดครองจิตใจ “ฉันจัดการได้” เมื่อชีวิตมีปัญหาจะส่งผลต่อจิตใจ จัดการแก้ได้โดยมองชีวิตรอบด้านด้วยความเป็นจริง ทบทวนชีวิตในสิ่งดีๆ ที่เคยเกิดขึ้น และชีวิตที่มีปัญหาในอดีต แล้วมองย้อนไปว่าคุณเอาชนะมาได้อย่างไร จัดการปัญอย่างไร และเชื่อมโยงกับตัวเองและบอกตัวเองว่าจัดการได้ เป็นต้น

ผู้เขียนหนังสือเล่มนี้ เชื่อว่ามั่นว่าแค่การเปลี่ยนวิธีคิด เปลี่ยนมุมมองที่มีต่อตนเองและต่อคนอื่นให้เป็นบวก เข้าใจตัวเอง อยู่กับความเป็นจริงที่อยู่รอบตัว และลงมือทำทันที ชีวิตก็จะดีขึ้นเอง และในเล่มได้ยกตัวอย่างประกอบทั้งที่เป็นบุคคลประสบผลสำเร็จและบุคคลที่ล้มเหลวในชีวิตหลายเคส ซึ่งทำให้ผู้อ่านเข้าใจประเด็นในหนังสือมากขึ้น ผู้เขียน Gary JohnBishop เป็นหนึ่งในผู้เชี่ยวชาญชั้นนำ ด้านการพัฒนาบุคคลที่ช่วยเหลือคนและได้รับการยอมรับทั่วโลก หนังสือเล่มนี้เป็น New York Times Bestsellerที่มียอดขายทั่วโลกกว่า 2 ล้านเล่ม แปลแล้วกว่า35 ภาษา หนังสือจำหน่ายในราคา 220 บาท มีจำหน่ายในรูป e-book และ Audiobook อีกด้วย

ทำความรู้จักเทคโนโลยี ‘Blockchain’

ข้อดีและข้อพึงระวังในการใช้การลงทุน

Blockchain เปลี่ยนโลก Blockchain Revolution ผู้เขียน Don Tapscott,Alex Tascott ผู้แปล พรศักดิ์ อุรัจฉัทชัยรัตน์“Blockchain” เป็นเทคโนโลยีที่ส่งเสริมให้เงินสกุลดิจิทัลโดดเด่นและทรงพลัง และมากกว่านั้น คือเป็นบัญชีธุรกรรมสาธารณะที่ทุกคนบนโลกเข้าถึงได้ แต่ไม่มีใครสามารถควบคุมหรือเป็นเจ้าของได้อย่างแท้จริง ทำให้ทุกคน ทุกองค์กร ทำงานร่วมกันได้อย่างโปร่งใสและน่าเชื่อถือและหากใครต้องการรู้จัก Blockchain ให้มากขึ้น หนังสือเล่มนี้จะทำให้ผู้อ่านรู้จักกับเทคโนโลยี Blockchain อย่างแท้จริง เริ่มตั้งแต่แนวความคิด หลักการ ที่จะทำให้เข้าใจเทคโนโลยีเบื้องหลังสกุลเงินดิจิทัลอย่างบิทคอยน์หรืออีเธอเรียมอันโด่งดัง ในเล่มได้นำเสนอประเด็นที่ Blockchain ช่วยให้ผู้คนในโลกใบนี้มีความเสมอภาค เท่าเทียม มีโอกาสใหม่ๆ เพิ่มเข้ามา ช่วยลดความเหลื่อมล้ำและลดต้นทุน แต่ในขณะเดียวกันก็ได้ชี้ให้เห็นถึงอุปสรรค และสิ่งที่ต้องพึงระวังในการนำเทคโนโลยีนี้มาใช้ในแง่มุมต่างๆ เช่นเดียวกัน และเป็นสิ่งที่ต้องเรียนรู้ เข้าใจ และปรับประยุกต์ใช้ทั้งในการดำเนินธุรกิจและในการใช้ชีวิตส่วนตัว เพราะไม่ไกลเกินเอื้อมที่เทคโนโลยี Blockchain จะกลายเป็นอินเตอร์เนตในยุคต่อไป และที่สำคัญเปลี่ยนโลกได้จริงๆ หนังสือ 330 บาท

ปล่อยวางเรื่องแย่ๆ ในชีวิต

ด้วยเคล็ดลับจิตวิทยา 55 ข้อ

เรื่องที่แบกไว้ เธอจะวางก็ได้นะ 55 วิธีคิด ใช้ชีวิตให้เบาสบาย เหมือนกำลังนั่งจิบชา ผู้เขียน Kii ผู้แปล โยซุเกะ เป็นหนังสือจิตวิทยาการพัฒนาตนเองและการดำเนินชีวิตความคิดและการคิด ที่จะช่วยจัดการเรื่องแย่ๆ ที่วนเวียนอยู่ในหัวคนเราให้หมดไป ไม่ว่าจะเป็นความเครียดกับเรื่องไม่เป็นเรื่อง ชอบเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่นให้ตัวเองดูด้อยค่า กังวลและแคร์สายตาคนรอบข้างจนเกิน ฝืนยิ้มทั้งๆ ที่ไม่มีความสุขในชีวิตแม้แต่นิดเดียว และอื่นๆ สิ่งเหล่านี้สามารถจัดการได้โดยแค่เพียงวางลงบ้าง และทำตามคำแนะนำของเจ้าทานุกิสีน้ำตาล ผู้เชี่ยวชาญด้านจิตใจมนุษย์ (แต่ตัวเองเป็นสัตว์) จะมาแนะนำเคล็ดลับทางจิตวิทยา 55 ข้อ ที่จะช่วยให้คุณผู้อ่านมีชีวิตที่เบาสบายขึ้น และผ่อนคลายเหมือนกำลังนั่งจิบชา โดยในเล่มถ่ายทอดเนื้อหาจิตวิทยาที่ค่อนข้างเข้าใจยากมานำเสนอในรูปแบบการ์ตูน และภาพประกอบ ที่อ่านเข้าใจง่าย เห็นภาพ ภาพสวยงามชวนติดตาม ซึ่งจะสามารถช่วยเยียวยาความเหนื่อยล้าได้ หันมาดูแลจิตใจของเราก่อนที่ชีวิตจมปลักกับเรื่องไม่เป็นเรื่องด้วยหนังสือเล่มนี้ ราคาเล่มละ 185 บาท

ทำสิ่งที่ต้องการ หรือ ควรกระทำ

เตรียมพร้อมก่อนความตายมาเยือน

Things Left Behind บทเรียนสุดท้ายที่ผู้ตายไม่ได้บอกทุกการจากไปมักมีเรื่องราวทิ้งไว้เสมอ… หนังสือเล่มนี้คือแรงบันดาลใจในการสร้างซีรี่ส์ Move to Heaven ที่โด่งดังทาง Netflixผู้เขียน Kim Sae Byoul (คิมแซบยอล), Jeon Ae Won(ชอนแอวอน) ผู้แปล วณิชชา จินศิริวานิชย์ ในเล่มผู้อ่านจะได้พบและไปสำรวจชีวิตและความตายผ่านสายตาของผู้เขียน ซึ่งเป็นผู้มีหน้าที่เก็บกวาดข้าวของของผู้ล่วงลับ ซึ่งเล่าประสบการณ์ด้วยความเป็นกลาง ที่ไม่ได้เล่าด้วยโทนโศกเศร้า แต่บรรยายสิ่งที่เห็นจากความตายของใครบางคนอย่างซื่อตรง ตรงไปตรงมา ทั้งความตายอย่างอบอุ่นท่ามกลางครอบครัว ความตายอย่างโดดเดี่ยว ความตายที่ผู้คนต่างระลึกถึงคุณค่า ความตายที่ไม่มีใครโศกเศร้า และความตายจากการถูกปลิดชีพ บทเรียนเหล่านี้อาจทำให้ผู้อ่านตระหนักถึงสิ่งที่ตนเองทำหล่นหายระหว่างทาง และควรกระทำตอนยังมีชีวิตเช่น รักตัวเองและเห็นคุณค่าตนเองมากขึ้น หรือเตรียมพร้อมและเตรียมมอบสิ่งต่างๆ ไว้ให้ลูกหลาน หนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือขายดีของเว็บ Naver ราคาเล่มละ 245 บาท

แนวคิด เคล็ดลับการเขียนแผนธุรกิจ

ให้ได้กำไร และดึงดูดความสนใจนักลงทุน

เขียนแผนธุรกิจให้รวย : The ABC’s of Writing Winning Business Plans ผู้เขียน Garrett Sutton (การ์เร็ตต์ ซัตตัน) ผู้แปล จักรพงษ์ เมษพันธุ์ ในเล่มจะมาเผยกลเม็ดเคล็ดลับในการเขียนแผนธุรกิจที่ทำให้ประสบความสำเร็จทุกด้าน ทั้งในด้านการหาเงินลงทุน การบริหารธุรกิจให้มีผลกำไรสูงสุด โดยแนะนำตั้งแต่ วิธีการสร้างแผนธุรกิจที่ดึงดูดความสนใจนักลงทุน แนะนำวิธีการใช้แผนธุรกิจให้เกิดประสิทธิผลสูงสุด การวางแผนรับมือคู่แข่งขันทางธุรกิจ วิธีการดึงดูดเงินทุนได้มากเท่าที่บริษัทต้องการ นอกจากนี้ ยังชี้ให้เห็นถึงจุดเด่นและจุดด้อยของธุรกิจ การทำเรื่องการเงินให้เป็นเรื่องง่าย การสร้างแผนธุรกิจสำหรับโครงสร้างอสังหาริมทรัพย์ เป็นต้น นอกจากแนวคิดและวิธีการในการจัดทำแผนธุรกิจแล้ว ในแต่ละบทยังแทรกด้วยตัวอย่างจากประสบการณ์จริงของเจ้าของกิจการมากมาย ราคาเล่มละ 230 บาท

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

https://www.naewna.com/lady/686686

หนังสือเด่น : การ์ตูนสอนความฉลาดทางการเงิน ตามคำแนะนำของ’พ่อรวยสอนลูก’

วันอาทิตย์ ที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2565, 06.00 น.

“อัจฉรียภาพทางการเงินอยู่ในตัวคนเราตั้งแต่เกิด” ประโยคนี้มาจากหนังสือ พ่อรวยสอนลูก (Rich Dad Poor Dad) หนังสือที่เขียนโดย โรเบิร์ต คิโยซากิ กูรูทางการเงินที่โด่งดังทั่วโลก เนื่องจากเขามีความเชื่อว่าความร่ำรวยที่ทุกคนพยายามไขว่าคว้านั้น แท้จริงแล้วแสนเรียบง่าย และ ทุกคน ทุกเพศ ทุกวัย สามารถเรียนรู้และทำให้ตัวเองรวยได้   แต่ที่ยังยากจนอยู่ก็เป็นเพราะเห็นว่าเป็นเรื่องยากและบ่ายเบี่ยงที่จะเริ่มต้นลงมือทำ

“สอนหนูให้รวย (Escape From The Rat Race) ” เขียนโดย โรเบิร์ต คิโยซากิ และแปลโดยจักรพงษ์ เมษพันธุ์  เป็นหนังสือการ์ตูนที่สอนให้เด็กเรียนได้เรียนรู้เรื่องการเงินตามคำแนะนำของพ่อรวยของโรเบิร์ติ ที่เขาได้รับความรู้ตั้งแต่ยังเด็ก  แล้วนำมาถ่ายทอดเป็นการ์ตูน โดยเนื้อหาในเล่มเดินเรื่องโดย  เจ้าหนูเรด หนูทีน่า และเต่าทิม โดยที่ทั้ง 3 เป็นเพื่อนกัน และได้ชวนกันไปเที่ยวสวนสนุก เรดกับทีน่าสามารถซื้อบัตรเข้าสวนสนุกได้ ส่วนทิมนั้นไม่มีเงินค่าตั๋ว ในตอนนั้นเขามีชุดความคิดว่าเพื่อนทั้งสองมีงานทำถึงได้รวย ส่วนตัวเขาไม่มีงานทำเลยไม่มีเงิน แต่เรดก็ได้ให้บอกเขาว่าวิธีคิดดังกล่าวนั้นไม่ถูกต้อง เพราะคนทำงานจำนวนมาก แม้มีงานทำและทำงานหนัก ได้เงินเยอะ ก็ไม่มีวันรวยได้  วิธีที่ถูกต้องและมีเงินได้นั้นต้องมี “ความฉลาดด้านการเงิน”  เพราะความฉลาดทางการเงินจะทำให้รู้ว่าเงินทำงานให้เราได้ และให้ใช้เงินทำงานหนักแทนเจ้าตัวเรา โดยที่เราไม่ต้องทำงานอย่างหนัก จากนั้นเรดก็เล่าเรื่องวิถีชีวิตด้านการเงินของโรเบิร์ต คิโยซากิ ตั้งแต่ในสมัยเด็ก ที่เขาได้รับความรู้และแนวคิดด้านการเงินจากพ่อรวยของเขา แล้วเขาก็นำมาปฏิบัติจนกระทั่งร่ำรวย  เช่น แนวคิดการทำงานเพื่อเรียนรู้ และไม่ทำงานเพื่อเงิน เพราะอย่างนั้นจะติดกับดักและเป็นทาสของเงินหรือเป็นหนูถีบจักร ทำงานหนักเพื่อใช้หนี้ ใช้ชีวิตอย่างหวาดระแวง ไม่มีเงินเหลือใช้ถึงยามแก่เฒ่า  ซึ่งเป็นแนวคิดที่จะพาไปสู่โอกาสในการสร้างทรัพย์สินที่จะสร้างรายได้ให้กับเจ้าของไม่รู้จบ พื้นฐานความรู้สำคัญที่จะนำมาซึ่งการสร้างสินสร้างทรัพย์สินและความมั่นคง ความรู้เรื่องงบดุล รายได้ รายจ่าย สินทรัพย์ หนี้สิน แท้จริงเป็นอย่างไร และตัวอย่างวิธีการจะทำให้เงินทำงานแทน แทนที่เจ้าของต้องทำงานเพื่อมัน เป็นต้น

หนังสือการ์ตูนเล่มนี้ถือว่ามีประโยชน์มาก  ถึงแม้มีวัตถุประสงค์ที่จัดขึ้นสำหรับเด็ก แต่ในความจริงแล้ว เนื้อหาเล่มนี้เหมาะสมกับทุกคน ทุกเพศ ทุกวัย ที่ต้องการมีอิสรภาพทางด้านการเงิน โดยเฉพาะผู้เริ่มต้นศึกษาหาความรู้ทางการเงิน  หนังสือเล่มนี้อธิบายได้อย่างเห็นภาพ และเป็นทางลัดที่ให้สามารถเรียนรู้ด้านการเงินได้เป็นอย่างดี ถ้าใครไม่ได้เป็นนักอ่าน อ่านหนังสือเล่มใหญ่ๆหนาไม่ได้ แต่อยากได้รับคำแนะนำด้านการจัดการด้านการเงินพื้นฐานสามารถอ่านจากการ์ตูนเล่มนี้ได้ เพราะได้บอกหลักการสำคัญไว้และดำเนินเรื่องดี อ่านง่าย ใช้ภาษาเข้าใจง่าย

ใครที่อยากจะหลุดพ้นปัญหาเรื่องชักหน้าไม่ถึงหลังเรื่องการเงิน สามารถอ่านได้ หรือคุณผู้อ่านที่มีความฉลาดทางการเงินอยู่แล้วก็ตาม และอยากให้ลูกหลานรู้จักวางแผนการเงินตั้งแต่เด็ก แนะนำหนังสือการ์ตูนเล่มนี้ เพราะเมื่อเด็กอ่านด้วยความสนุกแล้ว จะทำให้เขาอยากเรียนรู้มากขึ้น และจะได้เป็นผู้ที่มีความฉลาดด้านการเงินตั้งแต่เด็ก สามารถเริ่มต้นสู่ความมั่งคั่งร่ำรวย หรือมีอิสรภาพการเงินได้เร็วขึ้น มีคุณภาพชีวิตและเป็นประชากรคุณภาพในอนาคต หนังสือราคาเล่มละ 120 บาท จำหน่ายโดย ซีเอ็ด ยูเคชั่น

หนังสือการลงทุนที่มีอิทธิพล

ต่อแนวทางการลงทุน วอเร็น บัฟเฟตต์

“หุ้นสามัญกับทางสู่ความมั่งคั่ง” ผู้เขียน Philip A. Fisher ผู้แปล  ดร. กุศยา ลีฬหาวงศ์     “บิดาแห่งหุ้นเติบโต” คือฉายาที่สังคมการเงินมอบให้กับ “ฟิลลิป ฟิชเชอร์” ผู้เขียนหนังสือเล่มนี้ และเป็นหนังสือที่ทำให้ วอเร็น บัฟเฟตต์ เปลี่ยนแนวทางการลงทุน จากการลงทุนแบบเกรแฮมที่เน้นเฉพาะการดูงบการเงิน ไปสู่การลงทุนในหุ้นที่มีศักยภาพในการเติบโตอย่างแข็งแกร่งและมีผู้บริหารที่เหนือกว่าค่าเฉลี่ย และหนังสือเล่มนี้เป็นภาคต่อของหนังสือ “หุ้นสามัญ กับ กำไรที่ไม่สามัญ” โดยฟิชเชอร์ได้ขยายความ ปรับปรุง เพิ่มเติม หลักการลงทุนต่างๆ ที่เขาได้เขียนไว้ในหนังสือเล่มแรก เน้นไปที่การแยกหุ้นธรรมดาออกจากหุ้นที่สุดยอด และการแยกธุรกิจที่เยี่ยมยอดออกจากธุรกิจที่ธรรมดา ซึ่งจะเป็นการเพิ่มผลตอบแทนและทำให้ความเสี่ยงลดลง นอกจากนี้เขายังได้อธิบายเพิ่มเติมถึงการลงทุนในหมวดอุตสาหกรรมต่างๆ และเหตุปัจจัยที่ทำให้ราคาหุ้นสูงขึ้นและลดลง ยิ่งไปกว่านั้น ฟิชเชอร์ยังได้อธิบายถึงผลกระทบของอัตราเงินเฟ้อที่มีต่อการลงทุนในมุมมองที่ไม่เคยมีใครพูดถึงมาก่อน ราคาเล่มละ 278 บาท

สร้างสุขภายและสำเร็จในชีวิต

เปลี่ยนแปลงตัวเองแบบโยคี

“คู่มือสร้างสุขฉบับโยคี : Inner Engineering”  ผู้เขียน Sadhguru (สัธคุรุ) ผู้แปล กุลธิดา บุณยะกุล-ดันนากิ้น “การฝึกหฐิโยคะ (Hatha Yoga)” เป็นเพียง 1 ใน 8 สาขา ขององค์ความรู้ของศาสตร์โยคะ อันที่จริงโยคะเป็นระบบที่ซับซ้อนของการส่งเสริมพลังอำนาจในตัวเราเอง พลังที่ซึ่งสามารถควบคุมและกระตุ้นพลังงานภายใน เพื่อให้ร่างกายและจิตใจของคุณทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ โยคะเป็นวิธีสร้างสภาพภายในร่างกายตามที่คุณต้องการ รวมทั้งสร้างตัวเองให้เกิดความสุข และ โยคีใช้ชีวิตในสภาพที่มีความสุขเช่นนี้ และในหนังสือเล่มนี้ “สัธคุรุ (Sadhguru)” กล่าวว่าทางออกเดียวสำหรับความเจ็บป่วยที่ก่อกวนมนุษยชาติคือ การเปลี่ยนแปลงตนเองแบบไม่มีสิ่งเก่าหลงเหลืออยู่ คือการเปลี่ยนแปลงมิติในวิธีที่รับรู้และสัมผัสชีวิต  ภูมิปัญญาที่กลั่นกรองได้จากหนังสือเล่มนี้ลึกซึ้ง เข้าถึงได้ และน่าดึงดูดใจ และจะมอบเครื่องมือที่ทันสมัย มีชีวิตชีวา และได้ผ่านการทดสอบของเวลามาแล้ว หนังสือได้นำเสนอวิธีคิดที่ถือว่าปฏิวัติวงการเกี่ยวกับสิทธิเสรีและความเป็นมนุษย์ และโอกาสที่จะบรรลุความสำเร็จในชีวิตที่มีแต่ความสุขเลยทีเดียว ราคาเล่มละ 320 บาท

จิตวิทยาเลี้ยงลูก แบบสร้างทักษะ

ดูแลและพึ่งพาตนเองได้ตลอดชีวิต

“อยู่เองได้ โตเองเป็น : เลี้ยงลูกให้เขียนชีวิตด้วยมือตัวเอง” ผู้เขียน William Stixrud (วิลเลียม สติกซ์รัด),Ned Johnson (เน็ต จอห์นสัน) ผู้แปล                ศิริกมล ตาน้อย     “วิลเลียม สติกซ์รัด” เป็นนักประสาทจิตวิทยา และ “เน็ด จอห์นสัน” เป็นที่ปรึกษาด้านการศึกษา ทั้งคู่ถอดประสบการณ์นานนับทศวรรษในการสร้าง “ทักษะชีวิต” ให้เด็กๆ เติบโตอย่างเต็มศักยภาพ ก้าวผ่านอุปสรรค รู้จักจัดการอารมณ์ และเดินไปสู่การพึ่งพาตัวเองได้ตลอดชีวิต ผ่านกุญแจสำคัญในหนังสืออย่างเช่น ความสามารถในการกำกับดูแลตนเอง” (sense of control) ที่สร้างขึ้นได้ด้วยวิธีการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น เคล็ดลับการจูงใจลูกให้รับผิดชอบการบ้านและงานบ้านโดยไม่บังคับ  วิธีสร้างกรอบความคิดแบบเติบโต ให้ลูกกล้าฝันและไล่ตามฝันโดยไม่ทำร้ายตัวเองเทคนิคฝึกลูกให้ตัดสินใจอย่างชาญฉลาด ผ่านกลยุทธ์ “ลูกเลือกได้”   วิธีดึงศักยภาพและส่งเสริมการเรียนรู้ให้เด็กกลุ่มอาการออทิสติกและสมาธิสั้น การเป็น “ตัวตนไร้กังวล” หรือพื้นที่ปลอดภัยให้เด็กๆ กลับมาพักใจหลังผจญโลกกว้าง เพราะไม่มีพ่อแม่หรือผู้ใหญ่คนใดจะดูแลเด็กๆ ได้ตลอดไป มาบ่มเพาะเด็กๆ ในวันนี้ให้ “อยู่เองได้” ในโลกอันผันผวน และ “โตเองเป็น” อย่างสมวัย เพื่อให้ลูกพร้อมก้าวเดินอย่างมั่นใจบนเส้นทางชีวิตที่พวกเขาเขียนเอง ราคาเล่มละ 465 บาท

สอนการทำงานโปรแกรมงาน 3 มิติ

ที่เข้าใจง่าย และการใช้งานครบถ้วน

“SketchUp 2022 Professional Guide” เล่มนี้ ผู้เขียน เอกชัย นันทพลชัย ผู้อ่านสามารถเรียนรู้วิธีใช้งานโปรแกรมนี้ตั้งแต่เริ่มต้นวาดเส้นเปลี่ยนเป็นงาน 3 มิติ และนำไปใช้งานในทุกรูปแบบ จากวิธีสอนที่เข้าใจง่าย ทำตามได้ไม่ข้ามขั้นตอน พร้อมวิธีเรนเดอร์ภาพให้สวยงามสมจริง  ผู้ใช้งานที่ไม่มีพื้นฐานด้านนี้สามารถเข้าใจได้ และทำตามไปได้ง่าย  เนื้อหาจะเริ่มตั้งแต่การวาดเส้น 2 มิติ เปลี่ยนให้เป็นโมเดล 3 มิติ กำหนดเวลาของแสงและเงาใส่พื้นผิวและลวดลายการนำไปใช้งานในรูปแบบต่าง ๆ จนถึงเทคนิคขั้นสูงอย่างการสร้างรูปทรงที่ซับซ้อน การใช้โปรแกรมเสริมเพื่อให้ได้ผลงานที่โดดเด่น อาทิ V-Ray สำหรับเรนเดอร์ภาพให้มีแสงสีและพื้นผิวสมจริง การเพิ่มโมเดลที่สร้างลงในแผนที่ของ Google การจัดเรียงผลงานทำพรีเซนเตชัน รวมทั้งฟังก์ชันการใช้งานอื่น ๆ อีกมากมาย ที่จะทำให้ผู้ใช้งานได้เรียนรู้การใช้โปรแกรมตั้งแต่พื้นฐานจนถึงระดับมืออาชีพโดยไม่ตกหล่น หนังสือเล่มนี้ ฟังก์ชั่นการใช้งานครบถ้วน  รูปเล่มและภาพประกอบสวยงาม น่าเชื่อถือ ทำตามได้ง่าย เพราะขั้นตอนละเอียด ราคาเล่มละ 375 บาท

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

https://www.naewna.com/lady/685254

หนังสือเด่น : วัยรุ่น ก็ประสบความสำเร็จได้ หากเรียนรู้เรื่องการเงินตั้งแต่เด็ก

วันอาทิตย์ ที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2565, 06.00 น.

ในยุคปัจจุบัน มีผู้ประสบผลสำเร็จด้านการเงินตั้งแต่อายุยังน้อย ที่จริงแล้วประเด็นไม่ได้อยู่ที่อายุ แต่ขึ้นอยู่กับว่ามีการเรียนรู้ด้านการเงินตั้งแต่ยังเด็ก  ยิ่งเรียนรู้เร็วเท่าไร ยิ่งมีโอกาสประสบความสำเร็จเร็วมากขึ้น เพราะยังไม่ได้ไปติดกับดักทางการเงินในโลกภายนอก วัยรุ่นถึงแม้จะไม่ต้องแบกรับภาระค่าบ้านค่ารถ แต่คงมีบ้างที่อยากจะมีอิสรภาพทางด้านการเงิน เพราะอาจจะอยากมีเงินไว้สังสรรค์กับเพื่อนๆ หรืออยากได้คอมพิวเตอร์เครื่องใหม่ หรือสิ่งของต่างๆที่นอกเหนือจากที่พ่อแม่Support หรืออยากแบ่งเบาภาระพ่อแม่ หนังสือพ่อรวยสอนวัยรุ่น : Rich Dad Poor Dad for Teens  ผู้เขียน Robert T. Kiyosaki (โรเบิร์ต ที. คิโยซากิ) ผู้แปล นพพล วราไพบูลย์ จะช่วยให้วัยรุ่นหาเงินเป็น และสามารถได้สิ่งที่ต้องการเร็วมากขึ้น

หนังสือเล่มนี้ได้รวบรวมบทเรียนสำคัญทางด้านการเงิน หรือความรู้ด้านการเงิน ที่ผู้เขียนได้เรียนรู้ตั้งแต่ยังเด็กจากพ่อรวย หรือพ่อของไมค์เพื่อนสนิทของเขา วิชานี้ไม่มีสอนในโรงเรียน หากอยากเก่งด้านการเงินต้องลงมือทำ และมีความรู้เรื่องการเงิน โดยเริ่มต้นตั้งแต่ภาค1 ภาษาเงิน เป็นการปูพื้นฐานความรู้ด้านการเงินโดยเริ่มให้ความรู้และความเข้าใจตัวเองและทดสอบตนเอง ปรับทัศนคติ วิธีคิดให้เป็นแบบคนรวย ค้นหาอัจฉริยภาพด้านการเงินของตนเอง เชื่อมั่นในตัวเอง หาสูตรการเงินที่เหมาะสมกับตัวเอง  และหาเงินอย่างถูกวิธี ภาค2 วิธีใช้เงินทำงานแทนตัวเอง เป็นเรื่องเคล็ดลับทางการเงินของพ่อรวย เช่นสร้างกติกาใหม่สู่ความมั่งคั่ง  อยากจะรวยต้องคิดอย่างคนรวย  การทำงานควรหวังเพื่อเรียนรู้วิธีให้เงินทำงานแทนเรา ไม่ใช่ทำงานเพื่อเงิน ต้องมีอำนาจเหนือเงินไม่ใช่เงินมีอำนาจเหนือเรา แหล่งที่มาของรายได้มี3อย่างจากได้แก่การทำงาน ทรัพย์สิน และการลงทุน รู้จักความแตกต่างของสินทรัพย์กับหนี้สิน  การสร้างกระแสเงินสด โดยเริ่มทำความเข้าใจเรื่องตัวเลข จัดทำงบการเงินและสร้างงบการเงินของตนเอง ทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย เล่นเกมการเงินเพื่อพัฒนาความรู้ เช่นเกมกระแสเงินสดสำหรับเด็ก เกมกระแสเงินสด 101 แล้ว เพื่อให้มีความฉลาดด้านการเงิน

ภาค3 เคล็ดลับสู่ความสำเร็จ  สร้างกระแสเงินสดด้วยตัวเอง เริ่มทำงานเพื่อการเรียนรู้ไม่มุ่งเรื่องจำนวนเงิน ทำอะไรก็ได้เรียนรู้และเพื่อค้นหาตัวเอง  และได้เรียนรู้ทักษะจากการหารายได้ และเรียนรู้ที่จะเสียภาษี มองหาผู้เชี่ยวชาญหรือที่ปรึกษาการเงิน การบริหารเงิน แนะนำการออมและกลยุทธ์กระปุกออมสิน การลงทุนให้สินทรัพย์งอกเงย ศึกษาผลตอบแทนการลงทุน การบริหารหนี้สิน อย่าเข้าไปติดในวงจรอุบาทว์เช่นเป็นหนี้บัตรเครดิต เมื่อเริ่มมีความแข็งแกร่งด้านการเงินแล้ว ก็เริ่มสร้างอิสรภาพทางการโดยเลือกที่ปรึกษาที่เป็นผู้มีความรู้ทางการเงิน มาส่งเสริมให้ก้าวหน้า 

ผู้เขียนได้อธิบายเรื่องเงินที่เป็นเรื่องยากให้เป็นเรื่องง่าย และเป็นสิ่งที่เป็นจริงจากประสบการณ์ของเขาที่สร้างตัวเองมาจากศูนย์ด้วยความที่เขาได้มีพี่เลี้ยงที่ดีคือพ่อรวย และฝึกฝนด้านการเงินมาตั้งแต่เด็ก ทำให้แนวคิดของเขานั้นใกล้ความจริงที่สุด หากนำไปประยุกต์ใช้ ก็จะสามารถเป็นวัยรุ่นที่ประสบความสำเร็จทางการเงินได้ เริ่มต้นอ่านเร็ว ยิ่งฉลาดเรื่องการเงินเร็วเท่านั้น  หนังสือเล่มเล็กกะทัดรัดอ่านง่าย ราคาเล่มละ 135บาท       

เทคนิคการจ่ายภาษีที่กิจการควรรู้

เพื่อจ่ายภาษีที่ถูกต้องและเหมาะสม

“รู้แค่นี้ประหยัดภาษีหลักล้าน  30 เทคนิคประหยัดภาษีที่สรรพากรเท่านั้นที่รู้” ผู้เขียน นวลวรรณ ถนอมดิษฐ์สกุล ผู้เขียนเห็นว่าการที่ทำธุรกิจที่สนใจเฉพาะการทำยอดขาย โดยยกภาระทางภาษีให้กับทางบริษัทบัญชีเป็นผู้ดำเนินการถือว่าเป็นความผิดพลาดอันใหญ่หลวงของผู้ประกอบการยุคนี้ เพราะหลายกรณีที่เกิดขึ้นในวันนี้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องโดนภาษีย้อนหลังเป็นแสนหรือเป็นล้าน ส่วนใหญ่ก็มาจากความเลินเล่อ รู้เท่าไม่ถึงการณ์ ความเข้าใจผิดของบริษัทบัญชี (บางแห่ง) แค่เพียง “หนึ่งกลยุทธ์” ที่ใช้ก็ช่วยให้เกิดประโยชน์มหาศาลในธุรกิจของเรา และข้อมูลในหนังสือเล่มนี้จะมีแนวทางที่สามารถนำไปใช้เพื่อป้องกันไม่ให้ต้องเจอปัญหาทางภาษีย้อนหลัง ทำให้ไม่ต้องจ่ายค่าภาษีอันแสนแพง และรู้เท่าทันสรรพากร จะทำให้ช่วยกิจการประหยัดภาษีมหาศาล และได้กำไรทางธุรกิจอย่างที่ควรจะเป็น ราคาเล่มละ 295 บาท

แนะนำการวางแผนและจัดการเงิน

เริ่มต้นตั้งแต่กระบวนการความคิด

“MONEY MINDSET” ความรู้เรื่องเงินเป็นสิ่งสำคัญ แต่ “ความคิด” ที่ถูกต้องเกี่ยวกับการเงินนั้นสำคัญกว่า  หนังสือแนะนำการวางแผนและจัดการด้านการเงิน ผู้เขียน จักรพงษ์ เมษพันธุ์ MONEY MINDSET  หลักคิดเล็กๆ ที่ผลักดันให้เกิดการกระทำอย่างสม่ำเสมอ จะสร้างผลลัพธ์ที่ยิ่งใหญ่” ความยากของการจัดการการเงิน คือ การที่คนเราต้องตัดสินใจเกี่ยวกับมันทุกวัน หลายครั้งรู้ว่าไม่ควรทำอย่างนั้น เพราะเคยรู้เคยเรียนมาแต่พอถึงเวลา แต่คนเรากลับทำตรงกันข้าม ดังนั้นความสำเร็จทางการเงินจึงอาศัยแค่ความรู้ทางการเงินอย่างเดียวไม่ได้ ต้องคิดให้ถูก และคิดให้เป็นด้วย หรือมี Mindset ด้านการเงินที่ดี  ในเล่มจะเป็นเรื่องราวชวนคิดเล็กคิดน้อยเกี่ยวกับเงิน 51 เรื่อง อาทิ ปลายทางคือความมั่นคง,ยิ่งเงินน้อยยิ่งต้องวางแผนการเงิน,เงินสำรอง 6 เดือนยังพออยู่มั้ย,แผนการเงินสู้วิกฤต,คิดชนะหนี้ ฯลฯ หนังสือราคาเล่มละ 395 บาท

เครื่องมือสร้างสมองให้เป็นระบบ

ทำให้ความคิดชัดเจนนำไปสู่ปฏิบัติได้ง่าย

“สมองแห่งความสำเร็จของนักจัดระเบียบความคิด” หนังสือที่จะช่วยสร้างสมองที่เป็นระบบ ให้คิดทุกอย่างกระจ่างชัด ตัดตรงสู่เป้าหมายด้วยธรรมดา เครื่องมือที่ดีที่สุดที่โลกเคยมีมา ผู้เขียน Bok Joo Hwan (พกจูฮวัน) ผู้แปลสุมาลี สูนจันทร์ หนังสือเล่มนี้ ได้รวบรวมเคล็ดลับ 40 ข้อ ที่ “พกจูฮวัน” นักให้คำปรึกษาด้านการจัดการความคิดอันดับ 1 ของเกาหลีใต้ไว้ในเล่มเดียวกัน หนังสือเล่มนี้ทำให้รู้จักกับเครื่องมือต่าง ๆ ที่ช่วยถ่ายทอดความคิดที่มีอยู่ในหัวออกมาให้มองเห็นได้ด้วยตา ทำให้เราได้ตรวจสอบความคิดของตัวเองและนำไปสู่การปฏิบัติจริงได้ง่ายขึ้น เช่น WLB, Mind Map, Mandala-Art, Logic Tree ฯลฯ โดยกล่าวถึงที่มาและความสำคัญ ประโยชน์ ข้อดีข้อเสีย และวิธีการใช้เครื่องมือ ตลอดจนแนะนำเครื่องมือที่เหมาะสมกับเรื่องต่าง ๆ ได้แก่ การจัดการความคิด การจัดการเวลา การจัดการเป้าหมาย และการจัดการปัญหา พร้อมปลุกพลังสมองและจัดระเบียบความคิดไปกับหนังสือเล่มนี้ แล้วชีวิตจะเปลี่ยนไปในทิศทางที่ดี หนังสือราคา 295 บาท

รู้จักกลไกร่างกายที่ทำงานภายใน1วัน

ผ่านข้อเท็จจริงทางวิทยาศาสตร์อันน่าทึ่ง

“วิทยาศาสตร์ของการใช้ชีวิต : The Science of Living ”(ปกแข็ง) ท่องไปในโลกอันน่าพิศวงของชีวิต ผ่านกิจวัตร (ทั้งดีและไม่ดี) ที่ทำอยู่ทุกวัน ผู้เขียน    Dr. Stuart Farrimond  ผู้แปล พรเลิศ อิฐฐ์  เป็นการนำการศึกษาวิจัยหลากหลายสาขาในเรื่องที่ใกล้ตัวคนเรามากที่สุด สู่คู่มือฉบับสมบูรณ์ที่ครอบคลุมทุกแง่มุมสำคัญของ “การใช้ชีวิต” ตั้งแต่เช้าจรดค่ำ  และวิทยาศาสตร์บอกอะไรเกี่ยวกับกิจวัตรประจำวันของเราบ้าง ผู้อ่านจะได้พบกับกลไกอันน่าพิศวงในร่างกาย พร้อมทำความรู้จักกับสมองของผู้ที่ตกอยู่ในห้วงรัก ฮอร์โมนตะกละที่ทำให้ลดน้ำหนักไม่สำเร็จ ยีนขี้เกียจที่กล่อมให้นอนจมโซฟา ตลอดจนคำถามน่ารู้และคำอธิบายที่อาจเปลี่ยนวิธีใช้ชีวิตไปอย่างสิ้นเชิง เนื้อหาในเล่มนี้ได้รับความช่วยเหลือจากเหล่าผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางและผู้ชำนาญพิเศษ เพื่อหาคำตอบของคำถามเหล่านี้ผ่านข้อมูลทางวิทยาศาสตร์และงานวิจัยที่ทันสมัย ไม่ใช่แค่คำแนะนำที่มีแต่ถ้อยคำเชิงบวกอันไร้น้ำหนัก แต่สามารถอธิบายวิทยาศาสตร์ในแบบที่ทุกคนเข้าใจได้และสามารถนำไปใช้เพื่อให้ตัดสินใจได้ดีขึ้นราคาเล่มละ  750 บาท

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

https://www.naewna.com/lady/683739

หนังสือเด่น : เปลี่ยนพฤติกรรมมากินอาหารธรรมชาติ ต้านมะเร็งร้ายและช่วยฟื้นฟูร่างกาย

วันอาทิตย์ ที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2565, 06.00 น.

สาเหตุการตายของคนทั่วโลกกว่าร้อยละ 50 คือมีประชากรจำนวน 11 ล้านคนทั่วโลก เสียชีวิตเพราะกินเค็มหรือกินอาหารขยะ ที่จริงแล้วปัญหานี้แก้ไม่ยากเพียงแต่กินอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายก็เท่านั้นตามการดำเนินชีวิตในทุกวันนี้ที่เร่งรีบ เรากินอาหารสุขภาพกันน้อย และกินอาหารขยะมากขึ้น เฉินเยว่ชิง ผู้เขียนหนังสือ “กินผิดชีวิตป่วย” แปลไทยโดย ชาญ ธนประกอบจะมาแนะนำวิธีกินให้สุขภาพแข็งแรง

นักเขียนคนนี้ เป็นสื่อมวลชนผู้มีชื่อเสียง และนักเขียนหนังสือขายดีตลอดเส้นทางของชีวิตเธอ 30 ปี ได้ช่วยเหลือสามีที่ป่วยด้วยมะเร็ง และผู้ป่วยมะเร็งอื่นๆ ด้วยการกินอาหารรักษามะเร็งจนบางคนหายเป็นปลิดทิ้ง และภาวะความดันสูง น้ำตาลในเลือดสูงไขมันในเลือดสูง ภูมิแพ้ อาการนอนไม่หลับ และอาการวัยทองของกลุ่มหมดระดู และลดความทรมานด้วยการเคมีบำบัด จนกลับมาสุขภาพดีอีกครั้งเธอจึงผลักดันการกินอาหารจากธรรมชาติเพื่อต้านมะเร็งและอาการอื่นๆ ดังกล่าวที่ปัจจุบันมีผลวิจัยยืนยันว่าการปรับพฤติกรรมการกินอาหารและการใช้ชีวิตคือกลไกสำคัญที่ทำให้ร่างกายฟื้นฟูและกลับมาแข็งแรง

หนังสือประกอบไปด้วยสูตรลับอาหารเพื่อสุขภาพ ช่วยป้องกัน และรักษาโรคมะเร็งและอื่นๆ ได้แก่ โรคหัวใจภูมิแพ้ ภาวะความดันโลหิตสูง โรคเบาหวานและโรคตับ โรคระบบทางเดินอาหาร เป็นสูตรทำง่ายอร่อย เหมาะกับทุกเพศทุกวัย และผู้ป่วยโรคต่างๆ อายุตั้งแต่ 1-99 ปี สตรีมีครรภ์ ทารกเด็กเล็กคนเจ็บออดๆ แอดๆ เป็นหวัดและท้องอืดประจำหรือเรียกว่า ภาวะพร่องสุขภาพ สามารถกินได้ มีทั้งหมด 82 สูตรลับเพื่อสุขภาพ สารพฤกษเคมี และสารอาหารต้านอนุมูลอิสระ อาทิ น้ำปั่น สลัดซอส โจ๊ก และอาหารบด ทำอย่างไรถึงจะทำให้อาหารอร่อย รสชาติดีทำอย่างไรถึงจะกินเปลือกของเมล็ดผักผลไม้ให้อร่อย นอกจากสูตรอาหารแล้ว ยังมีเรื่องราวของผู้ป่วยโรคมะเร็งที่เอาชนะมะเร็งด้วยอาหารบำบัดว่าเอาชนะโรคร้ายได้อย่างไร

ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้ป่วยโรคร้ายแรงอย่างมะเร็ง เป็นคนธรรมดาที่มักเจ็บป่วยออดๆ แอดๆ หรือเป็นผู้รักสุขภาพ หนังสือ “กินผิด ชีวิตป่วย” เล่มนี้จะทำให้แข็งแรงขึ้นอย่างแน่นอน นอกจากนี้หนังสือเล่มนี้ยังสอดแทรกเรื่องราวของคนที่เคยรักษาโรคด้วยเมนูดังกล่าวแล้วหายป่วย เพื่อเป็นกำลังใจให้ผู้อ่านที่อยากหันมาดูแลสุขภาพด้วยอาหารการกิน เริ่มเปิดตำรา ค้นหาเมนูที่ชอบ มากินผักให้มากขึ้น กินสารก่อมะเร็งให้น้อยลง เพื่อสุขภาพที่แข็งแรง อายุที่ยืนยาว และชีวิตก็จะมีแต่ความสุข ราคาจำหน่ายเล่มละ 375 บาท

เมืองอนาคต มนุษย์ สังคม ปัญญาประดิษฐ์สุดล้ำ

ทุกชีวิตขับเคลื่อนอยู่ในมือที่มองไม่เห็น

อาทาเดีย ผู้เขียน ณภัทร จาตุศรีพิทักษ์ คือเมืองที่ขับเคลื่อนด้วยมือที่มองไม่เห็น แต่รู้ข้อมูลของประชากรทุกคน รู้ว่าตื่นขึ้นมาจะทำอะไร จะกินอะไร จะแต่งตัวอย่างไร จะไปไหน จะแต่งงานกับใคร อาทาเดีย เป็นหนังสือที่แปลงเรื่องยากอย่างวิทยาศาสตร์ข้อมูลหรือ Web 3.0 ให้กลายเป็นเรื่องง่าย เรื่องลึกอย่างความยุติธรรมและนโยบายสาธารณะให้กลายเป็นเรื่องที่ทุกคนเข้าถึงได้ อีกทั้งยังเก็บประเด็นสำคัญของเทคโนโลยีข้อมูลอย่างรู้รอบจากหลากมิติสังคมและชีวิต ตั้งแต่การค้า การเงิน และการเมืองการปกครอง ไปจนถึงเรื่องของความเป็นมนุษย์อย่างความรักและความตาย เนื้อหาภาคแรกที่เป็นเรื่องแต่งนั้นได้ถูกแปลเป็นภาษาอังกฤษและได้รับความนิยมอย่างล้นหลามในหมู่แฟนคลับนับหมื่นทั่วทุกมุมโลก และนี่เป็นครั้งแรกที่นักอ่านชาวไทยจะได้ลิ้มลองอาทาเดียฉบับออริจินอล สิ่งที่น่าสนใจที่สุดคือ “อาทาเดีย” เป็นหนังสือที่บางองค์ประกอบในเรื่องแต่ง จะค่อยๆ เริ่มเป็นจริงขึ้นมา ตั้งแต่วินาทีที่คุณพลิกอ่านหน้าถัดไปและเริ่มมองเทคโนโลยีข้อมูลด้วยทัศนะใหม่ ราคาเล่มละ 540 บาท

ปรัชญาเก่าแก่ของญี่ปุ่นว่าการมองไปข้างหน้า

ไม่ย่อท้อ ใช้อุปสรรคหล่อหลอม เป้าหมาย

กัมบัตเตะ! ล้มเจ็ดครั้ง ลุกแปดครั้ง ผู้เขียน โนบูโอะ ซูซูกิ ผู้แปล เขมลักษณ์ ดีประวัติ เป็นเรื่องของการพัฒนาตนเองความสำเร็จความคิดและการคิดปรัชญาญี่ปุ่นการทดสอบทางจิตวิทยากัมบัตเตะ ล้มเจ็ดครั้ง ลุกแปดครั้ง “กัมบัตเตะ!” ไม่ใช่แค่คำให้กำลังใจทั่วไป หากแต่เป็นปรัชญาการดำเนินชีวิตอันเก่าแก่ที่กล่าวถึงการ “ทำให้ดีที่สุดและอย่ายอมแพ้” ของชาวญี่ปุ่น ผู้ได้ชื่อว่ามีความทรหดอดทน แม้เจออุปสรรคถาโถมจนล้มไม่เป็นท่า ก็คืนชีพได้ใหม่ราวนกฟินิกซ์ โดยมีหัวใจสำคัญคือ “ความเพียรพยายาม” (Perseverance) และ “การฟื้นตัว” (Resilience) “กัมบัตเตะ! ล้มเจ็ดครั้ง ลุกแปดครั้ง” หนังสือเล่มนี้ เป็นผลงานของ “โนบูโอะ ซูซูกิ” ที่จะพาคุณท่องไปใน “จิตวิญญาณแห่งการก้าวไปข้างหน้าเสมอ” ที่แทรกซึมอยู่ในวิถีชีวิตและวัฒนธรรมญี่ปุ่นอันละเมียดละไม คุณจะเห็นว่า บางสิ่งที่ดูยากลำบากในตอนแรก ถ้าเพียรพยายามนานพอ ย่อมควบคุมได้ไม่ยาก หรือแม้จะล้มสักกี่รอบ ถ้ายังลุกขึ้นได้ในครั้งต่อไป ทุกเป้าหมายในชีวิตย่อมไม่ไกลเกินเอื้อมหนังสือราคา 245 บาท

การเรียนรู้เพื่อป้องกันตัวเองจากวิกฤต

ผ่าน 48 ตัวอย่างวิกฤตเศรษฐกิจของโลก

Big Debt Crises ผู้เขียน Ray Dalio ผู้แปล ปิยะศักดิ์ ดวงบัณฑิตกุล “วิกฤต” ดูเหมือนจะเป็นสิ่งที่อยู่คู่มนุษย์มาช้านานเป็นเวลานับร้อยปี วิกฤตที่คนไทยคุ้นเคยและหวาดกลัวมากที่สุด ก็คือวิกฤตต้มยำกุ้งมนุษย์ต่างเคยเจอบทเรียนจากวิกฤตมานับไม่ถ้วน และพยายามทำทุกอย่างเพื่อหลีกเลี่ยงวิกฤตไม่ให้เกิดอีก แต่ปรากฏว่าวิกฤตก็ยังคงเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าราวกับว่าเราไม่เคยได้เรียนรู้อะไรจากอดีตแม้แต่น้อย นี่คือจุดเริ่มต้นที่ทำให้ “Ray Dalio” เขียนหนังสือ “Big Debt Crises” หนังสือที่ว่าด้วยวิกฤตเศรษฐกิจทั่วโลกที่ละเอียดที่สุดเท่าที่เคยมีมา “Ray Dalio” ผู้โด่งดังจากหนังสือ “Principles” และยังเป็นผู้จัดการกองทุนเฮดจ์ฟันด์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ในฐานะที่เขาเป็นนักลงทุนผู้ผ่านวิกฤตเศรษฐกิจมาหลายครั้ง เขาเองเป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่ยอมรับต่อธรรมชาติของวิกฤต เรียนรู้จากมัน และทำเงินจากมันได้อย่างเป็นล่ำเป็นสัน Ray Dalio ยังสามารถทำเงินได้แม้ตลาดการเงินทั่วโลกจะเจอกับช่วงเวลาอันยากลำบาก เขาวิเคราะห์อย่างไรถึงจับ “รูปแบบบางอย่าง” ก่อนที่จะเกิดวิกฤตเศรษฐกิจได้ ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่เขาจะเปิดเผยอย่างละเอียดในหนังสือ Big Debt Crises ผ่านการอธิบายด้วยตัวอย่างวิกฤตเศรษฐกิจทั้งสิ้น 48 เหตุการณ์อย่างละเอียด ไม่แน่ว่า ความสำคัญอาจไม่ได้อยู่ที่การหลีกเลี่ยงวิกฤต แต่คือการยอมรับและเรียนรู้ที่จะอยู่กับมัน ราคา 888 บาท

รวมไอเดียการผลิตเสื้อยืดขาย

รวบรวมสิ่งที่ควรรู้ก่อนลงมือขาย

รวยเป็นล้าน! ด้วยธุรกิจเสื้อยืด ผู้เขียน T-Shirt Mania เป็นฉบับอัปเดตข้อมูลครบถ้วนสมบูรณ์ที่สุด ถือว่าเป็นหนังสือเล่มเดียวที่ได้รวบรวมไอเดีย ความคิดสร้างสรรค์ การผลิต เทคนิค การบริหาร การตลาด ครบถ้วนเพื่อให้เป็นมืออาชีพในเวลาอันรวดเร็ว ลงทุนใช้เงินทุนหลักร้อย เพื่อกำไรหลักล้าน เรียกได้ว่าเป็นคัมภีร์ธุรกิจเสื้อยืด ที่รวบรวมข้อมูลทุกเรื่องที่คนอยากเริ่มต้นธุรกิจประเภทนี้ควรต้องรู้ครบถ้วนในเล่มเดียว ตั้งแต่การเริ่มต้นสร้างแบรนด์ของตัวเอง การเลือกชนิดของเสื้อให้เหมาะสมและมีคุณภาพ การปริ้นท์หรือสกรีนลายที่คุณภาพสูงติดทนนาน การทำการตลาดโดยใช้สื่อออนไลน์และโซเชียลมีเดียทุกๆแพลตฟอร์ม ตลอดจนวิธีการขยายธุรกิจเพื่อต่อยอดสินค้าในอนาคต หนังสือเล่มนี้เหมาะสำหรับนักธุรกิจมือใหม่ควรอ่าน นักธุรกิจมือเก๋าก็ไม่ควรพลาด เพราะคุณสามารถเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าและธุรกิจที่มีอยู่ได้อย่างแน่นอน ราคาเล่มละ 145 บาท