เกษตรบูรณาการ : ไทยนิยม ยั่งยืนแต่ ผู้บริหาร ไม่ยืนยาว

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/local/330518

เกษตรบูรณาการ : ไทยนิยม ยั่งยืนแต่ ผู้บริหาร ไม่ยืนยาว

เกษตรบูรณาการ : ไทยนิยม ยั่งยืนแต่ ผู้บริหาร ไม่ยืนยาว

วันจันทร์ ที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2561, 06.00 น.

ตามติดกระทรวงเกษตรฯ ภายใต้การนำพาของพระยา “กฤษฎา บุญราช” รมว.เกษตรและสหกรณ์ วันนี้ต้องบอกว่า  เดินหน้าเต็มสูบ ในเรื่องการชี้แจง นโยบาย ซึ่งต้องบอกว่า ปาเข้าไป 4 เดือน ที่บอกว่า หากคบ 3 เดือนที่นั่งเป็นพระยา งานด้านการพัฒนาการเกษตรของประเทศไทย จะไม่หลงยุคอีกต่อไป แต่ถึงวันนี้ต้องบอกว่าสินค้าเกษตร ที่ท่านถนัดนัก อย่างเรื่องยางพารา อย่างเดียว แทบไม่มีอะไรคืบหน้า ซึ่งผลงานเด่นที่เห็นเป็นประจักษ์ เมื่อเข้าสู่เดือนที่ 4 ที่มีผลงานเด่นชัดเรื่องยางว่าตรงๆ มีอยู่เรื่องเดียวคือการปลดผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย พร้อมกับ ความหวังครั้งใหม่ที่ท่านประกาศต่อชาวประชาว่าจากนี้ไป เมื่อปลดผู้ว่าฯ ราคายางพารา จะดีดตัวสูงขึ้นไปถึง 60 บาท ต่อกิโลกรัม นั้น ต้องบอกว่าหนังม้วนนี้ต้องมองกันยาวๆ ว่า หากไม่ขึ้นดังที่เจ้าพระยาลั่นวาจา ออเจ้าจะมีอะไร ต่อไปรึ

มาอีกเรื่องที่เห็นเด่นชัดของการเดินหน้างานกระทรวงเกษตรฯ นั้นคือเรื่องการเดินสาย ชี้แจง ชี้แจง และก็ชี้แจงของรัฐมนตรี นั้นคือ เรื่องของรายละเอียดโครงการไทยนิยม ยั่งยืน ว่ากันว่า งานนี้ ท่านพระยา ลงมือชี้แจงเองกับปาก ท่านบอกว่า ต้องซักซ้อมความเข้าใจให้ถ่องแท้ ให้ข้าราชการ เข้าใจตรงกัน ว่างานการพัฒนาตามโครงการ ที่ว่ามีอะไรกันบ้างงานนี้จำเป็นต้องซักซ้อม ทุกอย่างมันไม่เหมือนการแต่งงานวันแรกที่ไม่ต้องซ้อมได้เลย  แหม อธิบายซะเห็นภาพ

ว่ากันว่า งานนี้ มีวงเงิน 2.4 หมื่นล้านบาท ซึ่งรอบแรกได้เปิดเวทีปรับทุกข์ ผูกมิตร สำรวจความต้องการได้มีเกษตรกรสมัครใจเข้าร่วมทุกโครงการจำนวนมากในทุกพื้นที่ โดยมีเป้าหมายเพิ่มรายได้เกษตรกรและผู้มีรายได้น้อยขึ้นทะเบียนยากจน 3.9 ล้านราย เพิ่มขึ้นร้อยละ 5 โดยคาดว่าโครงการนี้จะเพิ่มเม็ดเงินหมุนเวียนทุกชุมชนทั่วประเทศ 4.6 แสนล้านบาท ในส่วนของกระทรวงเกษตรฯประกอบด้วยแผนงานที่ 1 ยุทธศาสตร์ปฏิรูปโครงสร้างการผลิตภาคเกษตร จำนวน 20 โครงการ เช่น 1. โครงการสร้างฝายชะลอน้ำและจัดหาแหล่งน้ำชุมชน โดยกรมพัฒนาที่ดินพื้นที่ดำเนินการ 46 จังหวัดและสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พื้นที่ดำเนินการจังหวัด 27 จังหวัด งบประมาณ 124 ล้านบาท

ที่สำคัญไปกว่านั้นท่านเองเข้าใจเข้าถึงเรื่องของความจน เพราะชีวิตไม่ได้โรยด้วยกุหลาบ จะมีกางเกงขายาวใส่ได้ ก็ต้องเก็บหอมรอมริบ จนมาเรียนรามคำแหงปี 2 ถึงมีเงินซื้อกางเกงขาวยาวใส่สักตัว ซึ่งทุกวันพระวันโกนต้องมารับดอกไม้ ที่ปากคลองตลาด พูดแล้วกว่าจะได้ดีมาเป็นรัฐมนตรี ทุกวันนี้ ไม่ใช่เรื่องยาก เมื่อมาเป็นข้าราชการต้องทำดี และต้องเข้าถึงประชาชนให้ได้ ต้องบอกว่าเรื่องจริงยิ่งกว่าละครหลังข่าว ยังไงสู้กันต่อไปครับท่านรัฐมนตรี เผื่ออะไรดีขึ้น

ยังไง ลำบากลำบนขนาดนี้ลองปรึกษา ท่านรมช.วิวัฒน์ ศัลยกำธร เผื่อมีทางออกเพราะท่านถนัดเรื่องพอเพียง เพราะตอนนี้กำลังเดินสายขอเงิน ดึงงบหาคนมาอบรมใน ศูนย์อบรมเครือข่ายของท่านไม่รู้ออเจ้าเห็นเป็นเช่นไร แต่ที่แน่ๆ  ชีวิตอาจดีขึ้น เพราะข้าราชการ หลายคนบอกว่า….โคตรดี ว่าแต่ว่าอธิบายอย่างไง ในที่ประชุมข้าราชการระดับสูงถามผู้บริหารโดยเฉพาะเพราะเห็นมีคนเล่าว่า ท่านรมว. ถามตัวแทนจากกรมหม่อนไหม และการยางแห่งประเทศไทย บอกตรงกันว่า ไม่เข้าใจทำอะไรก็ตอบไม่ได้  เห็นบอกว่างานนี้ท่านรมว. ถึงกับความดันขึ้นจาก 93 เป็น 200 ยังไงหละคราวนี้ งานนี้ว่ากันว่าอาจมีเด้งดึ๋ง ของผู้บริหารหลายกรม ยังไงสู้ๆขอรับท่านแต่ที่แน่ๆ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ไม่ทราบยังไง ท่านรองนายกรัฐมนตรี “สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ แอบย่องมาดูพฤติกรรมของ รมต.เกษตรฯ ด้วยตัวเองเสียด้วย ซึ่งทุกอย่างต้องว่ากันยาวๆ

ราชดำเนิน

เกษตรบูรณาการ : ผลงาน 3 เดือน แก้ปัญหาภาคเกษตรฯ

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/local/329038

251598

เกษตรบูรณาการ : ผลงาน 3 เดือน แก้ปัญหาภาคเกษตรฯ

วันจันทร์ ที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2561, 06.00 น.

ตามติดงานกระทรวงเกษตรฯ มาต่อเนื่อง  หลังการประกาศก้อง ของ ครม. โค้งสุดท้าย รัฐบาลประยุทธ์ 5 ที่นำพา รมว. เกษตรฯที่นำทีม โดย นายกฤษฎา บุญราช ที่ประกาศก้องว่า 3 เดือน ไม่สามารถแก้ปัญหาสินค้าเกษตรฯ ได้อย่างชะงัก จะพิจารณาตัวเอง  ที่แน่ๆ ทุกสินค้าที่เป็นสินค้า หลักภาคเกษตร ข้าว อ้อย มันสำปะหลัง ยางพาราและข้าวโพด  ทุกอย่างต้องมีราคาที่พอดีพองามตามแบบอย่างนักแก้ปัญหาที่ชื่อ  “กฤษฎา” วางเอาไว้ นั่นหมายถึงคำพูดในวันที่เดินทางเข้ามารับตำแหน่ง รมว. ร่วมกับ รมต. อีก 2 ท่าน ที่มานั่งในตำแหน่ง รัฐมนตรีช่วยเกษตรฯ ที่ท่านรมว. “กฤษฎา” มอบหมายงาน ส่วนตัวท่าน  รมว.จะไม่แตะต้องหน่วยงานใด ยกเว้นที่อยากทำ

ว่ากันตามตรง คือตามใจฉันอยากหยิบอะไร ขึ้นมาดูมาแลก็จะไล่จับไล่ดูเป็นอย่างๆ จนบางครั้ง เล่นเอา รมช. ที่กำกับหลงทิศหลงทางเพราะเกรงว่าหาก สั่งการ กับกรมไป มาวันหลัง ท่าน รมว. มาจี้มามอบงานอีกครั้งกลัวจะไปคนละทิศคนละทาง มาถึงวันนี้ เรื่องการเดินหน้าพัฒนามันถึงกระท่อนกระแท่นกันไป เอากันชัดๆ คือ ผลงานด้านการพัฒนาวันนี้ แทบไม่มีเป็นชิ้นเป็นอัน โดยตลอด กว่า 4 เดือน ที่ผ่านมา  ลือกันว่าผลงานที่ท่านรมว.ที่มาจากนักปกครอง ปลายด้ามขวานที่ท่าน รู้เรื่อง สินค้าเกษตรเห็นจะมีแค่เรื่องเดียว และก็คงหนีไม่พ้น สินค้าเกษตร  ที่เป็นเกษตรการเมืองนั้นคือยางพารา และก็ ยางพารา

งานนี้ การยางแห่งประเทศไทยจึงถูกจับต้องเป็นพิเศษ เพราะเป็นที่ ท่านรมว. เกษตรพยายามโชว์กึ๋น ว่าข้ารู้แน่จะแก้ปัญหาอย่างไร ทำทุกวิถีทาง แม้กระทั่ง  สั่งงานข้ามกระทรวง ดึงหน่วยงาน กระทรวงมหาดไทยมาสั่งการ ช่วยรับยางไปทำถนน และมอบหมายงานให้ การยางแห่งประเทศไทย เดินหน้าหาทางระบายยาง เพื่อนำไป ใช้ ในหน่วยงานรัฐ ทั้งหมด เพื่อให้ราคา ยางพารา ดีดตัวสูงขึ้น ตามปากของท่าน ท่านประกาศ 3 เดือนต้องเห็นผลชัดเจน  จนสุดท้ายผลงานเด่นก็ปรากฏ เมื่อวันที่ 21 มี.ค.ที่ผ่านมา “กฤษฎา” ประกาศก้อง แบบไม่เกรงใจใครว่า  พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ออกคำสั่งนายกรัฐมนตรี ที่ 4/2561 และลงนามในวันที่ 20 มี.ค.2561 เด้งสายฟ้าแลบ “ธีธัช สุขสะอาด” ผู้ว่าฯกยท.ให้ไปนั่งตบยุงประจำสำนักปลัดนายกฯ จนกว่าจะมีคำสั่งเป็นประการอื่นเล่นเอางงกันทั้งวงที่ประชุม ของการประชุมบอร์ดยางพารา ที่กำลังประชุมในวันนั้น งงไปตามๆกันว่าทำไม ทั้งที่ทุกอย่างแก้ปัญหา ตามนโยบายของรัฐบาล กำหนด ทุกอย่าง ผู้ว่าฯกยท.ต้องทำตาม สุดท้ายยังโดนเด้ง

ซึ่งนั่นเล่นเอาหลายคนงง หรือที่จะเป็นผลงานเด่นในรอบหลายเดือนของการบริหารงานกระทรวงเกษตรฯที่ประกาศเอาไว้ ว่าหาก 3 เดือน จะพิจารณาตนเอง เพราะต้องตอบคำถามท่านนายกรัฐมนตรีให้ได้ที่แท้ พิจารณาว่าจะหาแพะอย่างไรหนอ จะได้เห็นว่า ข้าทำงาน  นี้คือผลงานแรก ของท่าน รมว. เกษตรฯ แต่ที่สำคัญไปกว่านั้น ท่านย้ำว่า จากนี้ไปหลังการเปลี่ยนไปของผู้ว่าฯกยท. ที่ไปนั่งตบยุง ที่ทำเนียบราคายางจาก 49 บาท อาจเป็น 60 บาท ต่อ  กิโลกรัม เพราะท่านรักษาการ ผู้ว่าฯกยท. คนใหม่แหม ถ้าดีจริง เขาคงเลือกมาเป็นผู้ว่าฯตั้งแต่แรก เพราะแว่วว่าท่านรักษาการผู้ว่าฯกยท. ที่จะเข้ามาทำงานลือกันว่าเคยมาสมัคร ผู้ว่าฯกยท.แต่ไม่ถูกเลือก

และคาดว่าเร็วๆนี้จะมีอีกหลายผลงานตามมา เพราะแว่วจากคนใกล้ชิด รมว. กฤษฎา บอกว่า ไวๆนี้ อาจมีการ สังคายนาครั้งใหญ่ ของกระทรวงเกษตรฯแบบเซอร์ไพรส์ และตอนนี้กำลังไล่เลียง รู้เรื่องอะไรก่อน ซึ่งท่านรู้เรื่องยางพารามากสุด ยางพาราเลยจบก่อน จากนี้ไปต้องดูว่าท่านจะอยากรู้เรื่องอะไรต่อไป และจะหยิบมาเป็นผลงาน ระวังนะท่าน ท่านบอกได้เลยจากนี้ไปมีร้อนๆหนาวๆ ระวังให้ดี พวกงาบงบเงียบกริบ เดินสายต่างจังหวัด เก็บเงิน สร้างตัวก่อนเกษียณ ระวัง อาจมีสิทธิ์ จบไม่สวย เพราะงานนี้ ว่ากันว่ามีข้อมูลส่งตรงถึงรมว.เพียบ โดยเฉพาะ พวกสามี เป็นใหญ่ บรรดาเมียๆ ดันจุ้นหากินในหน่วยงานของสามี ซึ่งว่ากันว่ามีหลายหน่วยงาน ระวัง ระวังเพราะท่านเป็นมือปราบ…..มาก่อน แน่จริงเอาให้อยู่นะท่าน

ราชดำเนิน

เกษตรบูรณาการ : 19 มีนาคม 2561

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/local/327575

เกษตรบูรณาการ : 19 มีนาคม 2561

เกษตรบูรณาการ : 19 มีนาคม 2561

วันจันทร์ ที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2561, 06.00 น.

ตามติดงานของกระทรวงเกษตรฯ สัปดาห์ที่ผ่านมา ต้องบอกว่าดังเป็นพลุแตกไม่แพ้ละครหลังข่าว “บุพเพสันนิวาส” เห็นจะหนีไม่พ้น  เรื่องของการระบาดของโรคพิษสุนัขบ้า  ที่ว่ากันว่า ปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา มีพื้นที่ระบาดโรคพิษสุนัขบ้ากว่า  26 จว. และมีคนตาย 4 ราย แม้เบื้องต้นมีการเร่งฉีดวัคซีน หมา-แมว แล้ว 1.4 ล้านตัว จากเป้าหมายกว่า 8 ล้านตัวทั่วประเทศ แต่ยังมีการระบาดไม่เลิก ซึ่งเรื่องนี้ ก่อนมีการระบาดหนักต้องบอกว่า   หลังมีข่าว การระบาดของโรคพิษสุนัขบ้าออกมาระยะหนึ่ง ท่านรัฐมนตรีเกษตรฯ “กฤษฎา บุญราช” สั่งการให้กรมปศุสัตว์ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดแต่งานนี้ ไม่เป็นดังหวัง เพราะทุกครั้งที่ประสานขอข้อมูลไปยังผู้บริหารระดับสูงคนหนึ่งในกรมปศุสัตว์ พูดมาปลายสายโทรศัพท์ว่าผมกำลังรับประทานอาหาร และจะรวบรวมข้อมูลส่งไป รายงานที่กระทรวงอีกครั้งนะขอรับ จนที่สุดก็มีการแพร่ระบาดบานปลาย ลามเลียไปถึงสัตว์อื่นด้วย งานนี้ท่านรัฐมนตรี คงนึกในใจที่ข้าสั่งไป “ออเจ้าทำอะไรอยู่รึ” อภัย สุทธิสังข์ ท่านอธิบดีกรมปศุสัตว์ ถึงปล่อยให้มันลุกลามบานปลาย ขนาดนี้

แต่เพื่อเป็นการทำความเข้าใจกับประชาชน ไม่ให้ตื่นตระหนกตกใจ เหมือนการตายของเสือดำ ท่านรัฐมนตรีจึงสั่งให้ทางกรมปศุสัตว์ ชี้แจงแถลงสถานการณ์จริงทุกๆ วันในช่วง 10 โมงเช้า ทำความเข้าใจเสียตั้งแต่วันนี้ โดยแถลงข่าวใหญ่ เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ว่ากันว่า หลังแถลงข่าว ท่าน “อภัย” ยังไม่ทิ้งบทตัวเองถนัด งัดหมัดเด็ดหวังให้ปัง ดั่งละครหลังข่าว เสนอท้ายแถลงข่าวถึงมาตรการควบคุมโรคพิษสุนัขบ้า ว่าเสียดายในละครบุพเพสันนิวาส มีแต่ควาย น่าจะมีหมาด้วยนะ คนดูจะได้รู้ว่แต่ก่อนเรียกโรคหมาบ้า ว่าอะไร ถ้าหากใส่ไปในละครด้วยจะดีได้สร้างการรับรู้เรื่องโรคนี้ได้มากขึ้น เพราะกำลังเป็นกระแสและพูดติดตลกว่าหรือจะไปคุยกับผู้กำกับละคร ให้เขียนบทมีหมาในละครด้วย แม้ต้องบอกว่าถนัดนักแล เรื่อง…. แต่เรื่อง…. แจงแทบไม่ได้ สักเรื่องต้องรอโน้นรอนี้ หรือว่า ที่เขาลือกันว่า….จะเป็นจริง

สุดท้ายไวๆนี้อาจมีข่าวดี ตามมา ดีแค่ไหน ต้องติดตาม เพราะเรื่องระบาดโรคพิษสุนัขบ้า แม้กรมปศุสัตว์ ออกโรงเตือนประชาชนทั้งประเทศ ให้ระวัง อย่าชะล่าใจโดนหมาเมีย…. ลืมไป แมวจ้า ไม่ใช่เมียกัด กัดข่วนรีบพบหมอฉีดวัคซีนป้องกันก่อนนะจ๊ะ แบบชักช้า ท่านรมว. เกษตรไม่ปลื้ม แถมยังมีเรื่อง ด้วยว่า ท่านรอง…. บางคน ในกรมปศุสัตว์ ศรีภรรยา ดันขายวัคซีนเสียด้วยที่ร้ายไปกว่านั้นมันดันเป็นวัคซีนปลอม ขายให้กับหน่วยงานต่างๆ อีกด้วย แม้จะมีใครบางคน ไปรายงานท่าน รมว.เกษตรฯเบื้องต้นไปแล้วว่า “เลิกแล้วคะ“ ได้เลิกทำแล้วและที่ผ่านไม่ได้ทำอะไรให้เสียหาย แต่ด้วยความเป็นอดีตปลัดขาบู๊มาก่อน ก็ได้สั่งการ ซึ่งให้ รมช. “ลักษณ์ วจนานวัช” ที่ดูแลกรมปศุสัตว์ เข้าตรวจสอบอย่างเข้ม ค้นหาความจริงมาให้ชัดเจน แหม ช่าง เป็น “บุพเพสันนิวาส” จริงๆ สามี เป็นผู้บริหาร ศรีภรรยาขายวัคซีนปลอมโรคพิษสุนัขบ้ามันถึงได้ระบาดหนัก และมีสิทธิ์ระบาดมาถึงกระทรวง เกษตรฯ คอยดูเด้อ….อาจมีเด้งดึ๋งๆๆๆๆๆ

ราชดำเนิน

เกษตรบูรณาการ : ชีพจรลงเท้า

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/local/326031

251598

เกษตรบูรณาการ : ชีพจรลงเท้า

วันจันทร์ ที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2561, 06.00 น.

ตามติดเรื่องของการทำงาน ของกระทรวงเกษตรฯ หลังปีใหม่ เข้าสู่ปี 2561 เป็นต้นมา วันนี้ต้องบอกว่าเข้มข้นเป็นพิเศษ เพราะช่วงนี้ ถือเป็นช่วงเทศกาลเดินสายของผู้บริหาร หลายคน  ไล่มาตั้งแต่ รมว.“กฤษฎา บุญราช” รมว.เกษตรฯได้นำทีม  รมต. เกษตรฯ พร้อมข้าราชการระดับสูงเดินทาง แจงนโยบายให้ข้าราชการระดับรากหญ้าในพื้นที่เข้าใจถ่องแท้ ว่า นโยบายด้านเกษตรของไทยวันนี้จะเดินไปทางไหน โดยในสัปดาห์ที่ผ่านมาลงพื้นที่เมืองสองสมุทร นั้นคือ จ.สมุทรสาคร และ จ.สมุทรสงคราม พร้อมทั้งมีการเยี่ยมเยือนเกษตรกรในพื้นที่หลายจุด งานนี้ต้องบอกว่าการแจงข้อมูลให้ตรงจุดอย่างนี้ ถือว่าเป็นมาตรการเชิงรุกของรมต.เกษตรฯ ก่อนที่จะโดนปลดให้ลุกจากเก้าอี้ เพราะว่ากันว่า จากเป้าหมายที่วางไว้ 3 เดือน ควรจะมีอะไรให้เห็นเด่นชัด แต่วันนี้ กว่า 4 เดือน ราคาสินค้าเกษตรฯกลับไม่มีอะไรดีขึ้น

และสุดท้ายต้องบอกว่า แทบจะไม่มีอะไรในกอไผ่เช่นเคย เพราะสินค้าเกษตรราคาแทบไม่ขยับตัวสูงขึ้นตาม
เป้าหมาย  โดยเฉพาะเรื่องยางพารา เรื่องเดียวที่ รมว.“กฤษฎา” เข็นเพื่อหวังสร้างผลงานเพราะท่านมาจากการเป็น
ผู้ว่าราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้มาก่อน ที่เข้าใจถึงวิถีของเรื่องยางพารา เพราะที่ใต้ปลูกกันเยอะ และท่านเองก็ถือว่าเป็นคนเข้าใจเรื่องยางๆ สุดท้าย เหมือนเดิม ราคายางพารา ยังคงไม่ดีดตัวสูงขึ้นตามที่มุ่งหวัง แต่ราคายางพาราเป็นแบบได้เท่าที่ได้…จบกันพี่น้องเอ้ย ยังไงหากยังไม่ท้อ ก็ขอให้สู้ต่อ หาทางออกให้ตรงจุดให้ได้สักที

งานนี้ต้องบอกว่า ไม่ใช่เพียงแค่ทีมรมต.เกษตรฯที่จะชีพจรลงเท้าเพียงกลุ่มเดียว แต่เท่าที่เห็น ผู้บริหารของกระทรวงเกษตรฯ หลายคนก็เป็น มาวันนี้ มีรายงานว่า ขอเบิกงบประมาณในการเดินทาง ออนทัวร์ เดินสาย หลายคนเหมือนอัดอั้น เพราะสมัย รมว.พลเอกฉัตรชัย สาริกัลยะ ท่านห้ามเอาไว้ ว่าให้เดินทางเฉพาะที่จำเป็นเท่านั้น เพื่อเป็นการประหยัดงบหลวง โดยเฉพาะการเดินทางไปต่างประเทศ นี่…ห้ามเด้อสิบอกไห่แต่พอท่าน พลเอกฉัตรชัย ถูกโหวตออกจากกระทรวงเกษตรฯพร้อมไม้ระแนงบังตา บังอาย ที่บังไว้หน้าห้อง พอมาถึงยุค “กฤษฎา” ว่ากันว่า อธิบดีหลายคน เริ่มแห่แหนพาลูกน้องลงพื้นที่ถี่ยิบ

ที่ร้ายกว่านั้น ว่ากันว่า ช่วง เดือนมกราคมเดือนเดียว มีผู้บริหารระดับสูงบางคนชีพจรลงเท้า เดินทางไปต่างประเทศ กันเป็นว่าเล่น เฉพาะเดือนมกราคมเดือนเดียว บิ๊กเกษตรฯ เดินทาง ท่องโลกกว่า 3 ประเทศ ซึ่งก็ไล่มาตั้งแต่ อเมริกา บรูไน อินเดีย ซึ่งอเมริกา ประเทศเดียว อยู่กันน้านนานกว่า 10 วัน และเมืองที่ท่านเดินทางไปมันก็มิใช่เมืองที่มีความดีเด่นในเรื่องการเกษตรที่ควรจะไปเลย อย่าง ลาสเวกัส แอลเอ ซานฟรานซิสโก ยังไงช่วยตรวจสอบที เพราะเรื่องนี้ ท่าน รมว.เกษตรฯ ตามหาผู้บริหารคนหนึ่งไม่เจอ ท่านจึงพูดทีเล่นทีจริงว่าหากยังหาไม่เจออาจต้องตั้งคนอื่นแทน จนความรู้ถึงหูผู้บริหารคนดังกล่าว และแจ้นกลับเข้าประเทศแทบไม่ทัน ซึ่งแว่วมาว่า ไวๆ นี้มีข้าราชการระดับ 9 บางคน กำลังหาทางให้ท่านไปเที่ยวชิวๆ ต่างประเทศอีกแล้ว ยังไง ช่วยตรวจสอบที เพราะจะเป็นการผลาญงบประมาณโดยไม่จำเป็น ยังไง หากแน่จริง เก๋าจริง อย่าแค่ลูบหน้าปะจมูก มันไม่ดี ไหนๆ จะเอาจริงทั้งที ควรจะตรวจสอบข้อเท็จจริง มันคืออะไร กันแน่

ราชดำเนิน

เกษตรบูรณาการ : ยกภูเขาออกจากอก หรือจะยังเข็นครกขึ้นภูเขา

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/local/324513

251598

เกษตรบูรณาการ : ยกภูเขาออกจากอก หรือจะยังเข็นครกขึ้นภูเขา

วันจันทร์ ที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2561, 06.00 น.

ตามติด เรื่องการทำงาน ของกระทรวงเกษตรฯมาเป็นระยะ ต้องบอกว่าสัปดาห์ ที่ผ่านมา มีความคึกคักเป็นพิเศษ  หลังจากที่ “กฤษฎา บุญราช” รมว.เกษตรฯ นำทีมลงหลายพื้นที่ ชี้แจงข้าราชการระดับพื้นที่ว่า ความเป็นจริงเรื่องนโยบาย กระทรวงเกษตรฯ ต้องการขับเคลื่อนเรื่องอะไรเป็นพิเศษ ให้เป็นไปตามนโยบายภาครัฐบาล ซึ่งรวมความได้ว่าเป้าหมายหลักที่รัฐบาล พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นั้นคือ ให้เกษตรกรของบ้านนี้มีความกินดีอยู่ดี และสามารถพึ่งพาตนเองได้ อย่างพอเพียง ซึ่งเป็นไปตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง

และสิ่งที่เน้นหนัก ตั้งเป้าหมาย 3 เดือน ต้องเห็นเด่นชัดคือ ราคาพืชผลเกษตรหลัก  นั้นคือ อ้อย มันสำปะหลัง  ยางพารา ข้าว ข้าวโพด จะต้องมีราคา ที่เป็นธรรม และต้องไม่ต่ำกว่าต้นทุนการผลิต โดยสัปดาห์ที่ผ่านมาจึงเริ่มจากสินค้าชนิดแรกที่เป็นปัญหา หลักที่เป็นหอกทิ่มแทงรัฐบาล เพราะพืชชนิดนี้เป็นพืชการเมือง ซึ่งมันหนีไม่พ้นเรื่อง ราคายางพารา ซึ่งว่ากันว่า เบื้องแรกที่มีการประเมินกันเอาไว้  ผลผลิตยางพาราของไทยมีอยู่ประมาณ ปีละ 4.3 ถึง 4.5 ล้านตัน บวกลบตามภาวะอากาศ และคาดการณ์ว่าใช้ในประเทศ  โดยประมาณ 3 แสนตัน ซึ่งหากนอกนั้นส่งออกอย่างจริงจัง ในการระบายยางออกนอกระบบ ตามเป้าหมาย ให้เกิดการใช้ในประเทศ ตามที่วางแผนเอาไว้

งานนี้ท่าน รมว. “กฤษฎา” จึงใช้ความเก๋า ในฐานะที่เคยเป็นผู้บริหารกระทรวงมหาดไทย ในฐานะปลัดกระทรวงมหาดไทยมาก่อน เรียกประชุม อบจ.อปท.ทั่วประเทศเพื่อให้เดินหน้าซื้อยางเกษตรกรทำถนนเร่งรัดมาตรการใช้ยางภายในประเทศ 1.8 แสนตัน ซึ่งขณะนี้มี อบจ.บึงกาฬ สงขลา ได้นำร่องใช้ยางทำถนนแล้ว ซึ่งตามแนวทางที่ว่ากันว่า จะเห็นชัดว่าใช้ยางทำถนนทำได้จริง ซึ่งสามารถใช้งบได้สองกลุ่ม คือ กลุ่มแรกงบสะสมของอบจ. และงบสำรองจ่าย 25% พร้อมสั่งการให้กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย ได้มีหนังสือเวียนแจ้งไปทุกพื้นที่ในเรื่องสเปกที่มีส่วนผสมยางพารา ได้กำหนดเรียบร้อยสามารถไปใช้ดำเนินการทันที นั้นคือ ทั้งหมด คือมาตรการที่มีความพยายามที่จะดึงราคาสินค้าให้ขยับตัวสูงขึ้น ว่ากันว่าหากขับเคลื่อนได้จริงจะทำให้ราคาดีดตัวสูงขึ้นได้ ส่วนสินค้าอย่างอื่นก็กำลังเร่งออกมาตรการตามไป เล่นกันทั้งทางตรงทางอ้อมพร้อมโชว์ความเก๋า ขนาดนี้ยังไงก็ให้ใจเจ้าค่ะท่าน

มาถึงวันนี้ต้องบอกตรงๆ ว่า เท่าที่ดูอาการ ของท่าน รมว.“กฤษฎา”ที่เป็นข้าราชการขาบู๊ มาก่อน ต้องบอกว่า ได้ใจ ข้าราชการ ในกระทรวงเกษตรฯไม่น้อย เพราะเท่าที่ฟังหลายคน บอกว่า ถือเป็นผู้นำที่ติดดินเข้าใจวิถีเกษตรกรไทยแบบง่ายๆ ที่สำคัญท่านโตจากครอบครัวจากเกษตรกร ภาษาที่อธิบายก็บ้านๆ แต่ ระดับบิ๊กๆ เกษตรกร หลายคนก็มิอาจเข้าใจ หรือ ทำตัวไม่เข้าใจ ซึ่งนั้นท่านต้องประเมินเอง เพราะแว่วกันว่า หลายวันที่ผ่านมา ท่านแอบ คุยๆ กันในกลุ่มคนทำงานของท่านว่า อาจถึงคราวสังคายนาคนกระทรวงเกษตรฯ ที่พยายามทำตัวไม่เข้าใจเหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ ไม่เข้าใจภาษาเกษตรฯ เผื่อ งานเกษตร จะได้พัฒนาไปได้สูงขึ้น เพราะเดือนแรกสั่งไป 100 เงียบหาย จึงเปิดแผนลงพื้นที่ทำความเข้าใจเอง เพื่อทำความเข้าใจปัญหา จริงๆ และไวๆนี้อาจถึงคราวที่ต้องตัดสินใจ ว่า “จะยกภูเขาออกจากอก หรือจะยังเข็นครกขึ้นภูเขา” ต่อไป เพราะท่านๆที่ปรึกษาท่านนายกรัฐมนตรี เตือนมา เล่นกับคนเกษตรต้องเฉียบขาดเพราะหลายคนให้โอกาสเป็นใหญ่ แต่ดันไม่มีน้ำยา  เช้าชามเย็นชามรอวันเกษียณ

ราชดำเนิน

เกษตรบูรณาการ : ตั้งใจจริงต้องกล้าเอาจริง

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/local/323112

251598

เกษตรบูรณาการ : ตั้งใจจริงต้องกล้าเอาจริง

วันจันทร์ ที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561, 06.00 น.

ตามติดการทำงานของทีมท่านรัฐมนตรี กระทรวงเกษตรฯ ที่มี หัวเรือใหญ่ นามว่า“กฤษฎา บุญราช” และมีลูกพ่วงที่ มาช่วยงานอีก 2 ท่านที่มาเป็นรัฐมนตรีช่วย กระทรวงเกษตรฯ อย่างท่าน “ลักษณ์ วจนานวัช” ที่ ว่ากันว่าเป็นคนที่เข้าใจ ในงานเกษตรฯ และอีกคนที่ตามมา คือ ท่าน “วิวัฒน์ ศัลยกำธร” หรือ “ยักษ์พอเพียง” วันนี้ ต้องบอกว่า มาถึงวันนี้ มาถึงขั้นการเดินสายเร่งทำความเข้าใจ ให้กับข้าราชการในพื้นที่  ซึ่งก็ เริ่ม ตั้งแต่ จ.อุบลราชธานี  ตามมาด้วย ขอนแก่น ชลบุรี พิษณุโลก  และสุดท้ายสัปดาห์ ที่ผ่านมา ท่าน “กฤษฎา” ก็นำทีม รมช. เกษตรฯ ทั้ง 2 ท่าน ลงพื้นที่ที่จังหวัดในเขตพื้นที่ภาคใต้ ท่ีว่ากันว่า ท่านเคยทำงานมา แบบถึงลูกถึงคน ในสมัยที่ท่านเป็นผู้ว่าราชการในพื้นที่ภาคใต้มาก่อน

ต้องบอกว่าเท่าที่มีการติดตามของกระจอกข่าวหลายคน ที่ลงติดตาม การทำข่าว การเดินทาง มอบนโยบาย “การขับเคลื่อนงานของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์”แบบเข้าถึงพื้นที่ เพื่อให้ข้าราชการเข้าใจ ถ่องแท้ ต้องบอกว่า
ได้เห็นถึงความจริงใจของท่านรัฐมนตรี “กฤษฎา” ไม่น้อย และถือว่าเป็นคนเข้าใจระบบงานภาคการเกษตรฯ ไม่แพ้ คนเกษตรฯ และอาจจะเก่งกว่าคนบางคนที่อ้างตนว่าเป็นคนรู้ เรื่องเกษตรฯ เสียด้วยซ้ำ งานนี้ก็ต้องว่ากันไป แต่จุดมุ่งหมายคือ เกษตรกรต้องกินดีอยู่ดีตามวิถีทางที่ มีการมอบนโยบายกันเอาไว้ นั้นคือ 3 เดือน ต้องชัดเจน เรื่องราคาสินค้าเกษตร ต้องมีราคาที่ ไม่ต่ำกว่าต้นทุนเกษตรกร ต้องมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ไม่งั้นต้องพิจารณาตนเอง

ว่ากันว่า การลงพื้นที่ ของท่าน รมต.เกษตรฯ มีอะไรให้ท่านเห็นกันค่อนข้างเยอะ และทำให้ท่านรมต. ถึงกับ
หัวเสียในหลายเรื่องเพราะข้อมูลที่ได้ ค่อนข้างไม่ตรง ไม่ถูกต้อง  เพราะรมต. ขาลุยที่มาจากอดีต ผู้ว่าราชการ ค่อนข้างเข้าใจพื้นที่ แบบโกหกไม่ได้ ซึ่งนั้นหมายถึง การตอบคำถามแบบ กระดาษA4ที่ลูกน้อง เขียนให้ตอบ หากนายไม่มีกึ๋นพอละก็ จะเห็นชัดว่า ใครทำงานจริงไม่ทำงานจริงและแว่วว่าไวๆนี้ อาจมีการประเมินเรื่องผลงานของข้าราชการระดับ 8 ไปจนถึงระดับสูงสุด นั้นคือซี 11 ซึ่งอาจจะต้อง สลับสับเปลี่ยนกันครั้งใหญ่ เพราะมีคนใกล้ชิด รมต. แอบกระซิบว่า ท่านรมต.ไม่พอใจการทำงานของข้าราชการแบบเช้าชามเย็นชามเอามาก และที่สำคัญ พวกที่คอยได้ครับพี่ ดีครับนาย ท่านรมต. “กฤษฎา” หมายหัวไว้หลายคน สำคัญพวกรูปหล่อพ่อรวยเส้นใหญ่ไม่ทำงาน ระวังนั้น ก็ตกเป็นเป้า แว่วว่าท่านบอกใหญ่แค่ไหน ท่านก็ปราบมาแล้วสั่ง 100 เงียบหาย ไม่มีอะไรคืบ ให้ระวัง

สุดท้ายนี้ต้องบอกว่า สาธุ หากแน่จริงต้องเอาจริง เพราะคนเกษตรเขาไม่เคยกลัว คนจริง กลัวแต่คนไม่จริงหากจริงใจแก้ปัญหาภาคเกษตรต้องกล้าแก้ ที่ตัวคน น่าจะถึงเวลาพอเสียทีกับพวกได้ครับพี่ดีครับนาย ข้าน้องฟ้องนายขายเพื่อแน่ จริง แยก เห็นเป็นใครมือทำงาน ใครพวกสอพลอ เผื่องานการพัฒนาการเกษตรจะดีขึ้น “ตั้งใจจริงต้องกล้า เอาจริง”

ราชดำเนิน

เกษตรบูรณาการ : พอเพียงแบบติดปีก

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/local/321553

เกษตรบูรณาการ : พอเพียงแบบติดปีก

เกษตรบูรณาการ : พอเพียงแบบติดปีก

วันจันทร์ ที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561, 06.00 น.

ตามติดเรื่องของการทำงานของ 3 หน่อ เจ้ากระทรวงเกษตรฯ ที่ท่านนายกรัฐมนตรี ที่ชื่อ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา  มอบหมายงานเข้ามาสะสางงานภาคการเกษตรฯ  ซึ่ง นำโดยท่าน “กฤษฎา บุญราช” อดีตข้าราชการปกครอง ขาลุยแห่งแดนใต้ และพ่วงมาด้วยปราชน์แห่งแผ่นดิน อย่างอาจารย์ยักษ์ “วิวัฒน์ ศัลยกำธร” ที่มีคนบอกว่าท่านรู้ถ่องแท้ เรื่องของแนวทางเกษตรทฤษฎีใหม่และเศรษฐกิจพอเพียง และตามมาด้วย ท่าน “ลักษณ์ วจนานวัช” ที่เป็นอดีต ผู้บริหาร ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ ที่เข้าใจเข้าถึงเกษตรกรอีกคนหนึ่ง

และต้องบอกว่า เท่าที่มีการติดตาม  โปรไฟล์ ทั้ง 3 ท่านหากเข้าใจถ่องแท้ เรื่องการเกษตรจริงละก็ งานนี้ภาคการเกษตรไทย คงถึงฝั่งฝันไม่ยากที่จะนำพาเกษตรกรไทยให้ไปในทิศทางที่ดี ขึ้น เพราะเท่าที่ฟังมาหลายเวที ในการพูดคุยกับทั้งเกษตรกร และข้าราชการ ของท่านรัฐมนตรีทั้ง 3 ท่าน  โดยเฉพาะท่าน “รมต.กฤษฎา” ต้องยอมรับว่า เท่าที่ฟังมา เป็นคนค่อนข้างจะเข้าใจและเข้าถึง แก่นสาน ของคำว่าเกษตรกรและเข้าใจคำว่าเกษตรแผนไทยจริงๆ และท่านมีแผนชัดเจน เรื่องการปฏิรูปการเกษตร ให้เกิดเป็นรูปธรรม วางแผนการผลิต ทุกตัวสินค้าเกษตร ป้องกันผลกระทบราคาให้ผลชัดเจน เป็นการทำเชิงรุกในทุกพื้นที่พร้อมกับประสานทีมประชารัฐ แก้ไขปัญหาความยากจน ฟื้นฟูอาชีพ ปลดหนี้สินให้ได้ภายในปี 2565 และยังมีแนวคิดที่จะนำโครงการพัฒนาศักยภาพสหกรณ์ เป็นแหล่งรองรับสินค้าเกษตร หรือแก้มลิงชะลอพืชผลการเกษตร ในช่วงออกกระจุกตัวแก้ปัญหาพ่อค้ากดราคาได้ซึ่งต้องบอกว่าหากตั้งใจจริงของเป็นกำลังใจให้นะขอรับ

มาถึงท่านรมต. อีกคน ที่มาจาก  ธ.ก.ส. อย่างท่าน “ลักษณ์” ที่ถูกมอบหมานเรื่องของการผลิต ต้องบอกว่าเดินหน้าเต็มสูบโดยวันพฤหัสที่ผ่านมาท่านก็แอบไปดูตลาด อ.ต.ก. พร้อมทั้งมอบนโยบายแนวทางการดำเนินงาน เพื่อยกระดับคุณภาพของสินค้าเกษตรให้เข้าสู่มาตรฐานสากลให้เกษตรกรมีความเข้มแข็งและมีคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้น โดยให้มีการนำองค์ความรู้การประสบความสำเร็จของอ.ต.ก.ในส่วนกลาง นำไปขยายสู่ตลาดในส่วนภูมิภาค เพื่อพัฒนาให้เป็นตลาดที่มีคุณภาพขายดิบขายดีกันต่อไป

มาคนสุดท้ายอย่างท่านอาจารย์ “ยักษ์“ ที่มีลูกศิษย์ลูกหามากมาย ที่สนใจแนวคิด งานท่านบอกว่าต้องการเน้นๆ เรื่องการส่งเสริมให้คนหันมาสนอกสนใจ เรื่องการแนวทางเกษตรทฤษฎีใหม่และเศรษฐกิจพอเพียงมาใช่ในการดำเนินชีวิตให้กินอยู่อย่างพอเพียงให้พึ่งพาตนเองได้ ซึ่งก็เป็นอีกทางหนึ่ง ในการอยู่รอดบนวิถีเกษตรพอเพียง แม้อาจารย์จะคิดดีทำดี แต่ก็มีปัญหาคนรอบข้างไม่น้อย เพราะแว่วว่า ทีมงานของท่านบางคนดันเป็นพิษ ผิดวิสัยพอเพียง เสียเอง โดยเฉพาะเรืองการแห่แหน กันตามนายแบบไม่สนใจ ว่าควรหรือไม่ควร ทำให้นายถูกด่า เป็นภาษาอีสานว่าพวก “ซากพ้อ” เฮ้อ อย่างนี้ต้องคิดเสียใหม่ ว่ากันว่านอกจากแห่แหนกันไปแล้ว ยังไปใช้ ฮ.ฝนหลวง แบบไม่บันยะบันยัง  จนนักบิน เอือมระอา แทนที่จะได้ไปบินทำฝน กับมารับภาระกิจที่มันไม่ใช่ โดยเฉพาะเรื่องที่จะนำ ฮ. ไปตรวจราชการ แบบเร่งด่วน  จุดละนิดจุดละหน่อย ไม่กี่นาที หรือนี่เป็นการตรวจราชการแบบพอเพียงขอรับอย่างลืมบินแต่ละทีผลาญเงินหลวงที่ละหลายหมื่นบาท ทราบแล้วเปลี่ยนพฤติกรรมด่วนเดี๋ยวจะผิดคอนเซ็ปต์พอเพียง หรือนี่คือพอเพียงแบบติดปีก…ตอบมา ขอรับท่าน

ราชดำเนิน

เกษตรบูรณาการ : นายไม่ว่า แต่ขี้ข้าคอยจัดแจง

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/local/320080

251598

เกษตรบูรณาการ : นายไม่ว่า แต่ขี้ข้าคอยจัดแจง

วันจันทร์ ที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561, 06.00 น.

สัปดาห์ที่ผ่านมา ต้องบอกว่าเดินหน้าเต็มสูบกับเรื่องการพัฒนาการเกษตรของไทย ที่อยู่ภายใต้การทำงานของรัฐมนตรี มือทำงาน ที่นำทีมโดย นายกฤษฎา บุญราช รมว.เกษตรและสหกรณ์ งานนี้ึคิวเดินสายทำความเข้าใจถึงทิศทางการทำงานให้กับข้าราชการเกษตรได้รับทราบว่าจะเดินไปในทางทิศไหน ให้สมกับที่นายกรัฐมนตรี ของไทยที่ชื่อ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ไว้ใจ ซึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมาถึงคราทำความเข้าใจกับข้าราชการในพื้นที่ภาคตะวันออกของไทย ที่เมืองพัทยา จ.ชลบุรี งานนี้เน้นเรื่องของการประชุมแนวทางขับเคลื่อนนโยบายลงสู่การปฏิบัติร่วมกับข้าราชการกระทรวงเกษตรฯแกนนำเกษตรกร หน่วยงานเกี่ยวข้อง และภาคเอกชน ทุกจังหวัดภาคกลาง

ท่านรัฐมนตรี ว่าการเกษตร “กฤษฎา” ก็อธิบายเข้าใจง่ายๆ ตามประสา ข้าราชการ ขาลุย กำชับให้ทุกกรมดูแลเกษตรกรครบวงจรอาชีพจับมือกับบริษัทประชารัฐสามัคคี หอการค้า สภาอุตสาหกรรม มาแก้ปัญหาใหญ่ของสินค้าเกษตร เช่น เมื่อล้นตลาด ก็หยุดปลูกพอของอีกอย่างราคาดี แห่ไปปลูกกันวนไปมาไม่ชัดเจน ข้าราชการเกษตรฯ ต้องไปดูแลในพื้นที่ ทำความเข้าใจกับเกษตรกรให้มาก ต้องเข้าใจ เข้าถึงเกษตรกร และยังฝากพาณิชย์ สภาอุตสาหกรรม หอการค้า ทำแผน ถึงความต้องการสินค้าเกษตร ที่ตลาดสามารถดูดทรัพย์สินค้า เพื่อสร้างโอกาสในการขายสินค้าของเกษตรกร และยังฝากกรมส่งเสริมสหกรณ์ ไปดูแลอย่างรัดกุมพราะรัฐบาลมีนโยบายสนับสนุนสหกรณ์ ทำหน้าที่เป็นพ่อค้าคนกลาง เกษตรกรไม่ถูกเอารัดเอาเปรียบทุกอย่างต้องเน้นทำงานเชิงรุก ไม่รอสินค้าล้นตลาด แล้วมาประกันจำนำวางกรอบการทำงาน สั้นๆ ง่ายๆ แบบนี้ท่านรมว.เกษตรฯ ก็คงได้แต่หวังว่า ข้าราชการจะเข้าใจ ตรงกันนะเจ้าคะท่านๆ เจ้าขา เป็นกำลังใจให้กับท่านรัฐมนตรี

งานนี้วัดใจกันไป แน่แค่ไหน อย่าลืมไปว่า กระทรวงเกษตรฯ ไม่ใช่มหาดไทยที่เคยทำงานมา เพราะทุกหน่วยงานย่อมมีอาณาเขตเป็นของตนเอง และขึ้นตรงต่อเจ้านายเจ้าขาของเขาเอง ใครจะมาสั่งไม่ได้ โดยเฉพาะหน่วยงานที่บอกว่าจะให้ไปคุมด้านการเกษตรอย่างหัวหน้าซิงเกิ้ลคอมมานด์นั่นคือ เกษตรและสหกรณ์จังหวัด ซึ่งเดิมหน้าที่หลักคือต้อนรับเจ้านาย ที่มาจากบางกอก คอยหาอาหารจานเด็ดให้รับประทานอย่างสบายใจ ไม่เคยสนใจงานที่น่าจะทำ ซึ่งงานของเกษตรในพื้นที่ ก็มีทั้งงานด้านชลประทาน พัฒนาที่ดิน งานส่งเสริมการเกษตร ปศุสัตว์ ประมง ล้วนแล้วแต่ขึ้นตรงกับท่านอธิบดี และไม่มีทางที่ท่านเกษตรและสหกรณ์จังหวัดจะสั่งได้ แน่จริงท่านต้องทลายกำแพง ตรงนี้เสียก่อนและคงไม่ง่ายเหมือนมหาดไทยดอกเจ้าคะที่ขึ้นตรงผู้ว่าราชการ ไม่ทำตามอนาคตดับวูบ แต่เกษตรไม่ใช่ เพราะการปรับเลื่อนขั้นสายตรงกรมใครกรมมัน แก้อย่างไรไม่อาจเอื้อมสอนจระเข้ว่ายน้ำ แต่เตือนก่อนว่าอย่าลืมวัฒนธรรมองค์กร เกษตรไม่เหมือนมหาดไทย หากจริงใจต้องหาจุดบกพร่องและเกาให้ถูกที่คัน นะเจ้าคะ

มาอีกเรื่องที่เป็นเรื่องน่าเศร้า และกำลังฉุดงานรัฐมนตรีเกษตรฯ ให้ลงเหว แม้วันนี้รัฐมนตรีเกษตรฯทั้ง 3 ท่านจะตั้งใจจริง แต่การทำงานต้องรู้จักระวังหลัง เพราะแว่วว่า มีขบวนการฉุดรั้งการทำงาน จากคนรอบกายที่รัฐมนตรีเชื่อใจ กำลังสร้างปัญหา จัดคิว จัดคนให้กับรัฐมนตรี ไปโน่นไปนี่ แห่แหนกันไปที เป็น 10 คนผลาญเงินหลวง สร้างความระอาให้กับข้าราชการในพื้นที่ ที่คอยต้อนรับขับสู้ ถ้าไม่ทำก็โดนบ่นโดนด่า ยังไงให้มองหน้ามองหลังให้ดี เนื้อร้ายต้องตัด เพราะไม่งั้นจะบานปลายจนทำงานร่วมกับข้าราชการกระทรวงเกษตรฯลำบาก เดี๋ยวจะผิด คอนเซ็ปต์คำว่าพอเพียงไป มันจะไม่งาม นะครับท่านรัฐมนตรีช่วย ….. เสียความตั้งใจจริงแต่จะมาเสียเพราะลิ่วล้อจะตายน้ำตื้นกับพวก นายไม่ว่า แต่ขี้ข้าคอยจัดแจงจนเกินงาม เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน

“ราชดำเนิน”

เกษตรบูรณาการ : ชื่อ…ผิดชีวิตเปลี่ยน

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/local/318571

251598

เกษตรบูรณาการ : ชื่อ…ผิดชีวิตเปลี่ยน

วันจันทร์ ที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561, 06.00 น.

ตามติดเรื่องของกระทรวงเกษตรฯ กันมาติดๆ ต้องบอกว่าวันนี้ กระทรวงเกษตรฯ ที่นำทางโดย อดีตท่านปลัดมหาดไทย “กฤษฎา บุญราช” ที่นายกรัฐมนตรีไว้เนื้อเชื่อใจให้มานั่งเป็น รมว.เกษตรและสหกรณ์  วันนี้ต้องบอกว่า มีการขยับงานค่อนข้างมาก  หลังจากงึกๆงักๆกันมาหลายเดือน ที่งานไม่เป็นไปตามเป้า ที่ว่ากันว่า อีกไม่นานก็ ใกล้จะถึงเวลาที่จะต้องประเมินตนเองว่าจะอยู่หรือจะไป จากกระทรวงเกษตรฯ เพราะท่านลั่นวาจาเอาไว้ ว่า 3  เดือน ต้องเห็นผลชัดเจน

ว่าแล้วท่านรัฐมนตรี “กฤษฎา” ก็ ปรับแผนการทำงานใหม่   หลังจาก สั่งข้าราชการเกษตรฯไปสั่ง 100 ไม่ได้ถึง 10  สั่งไปไร้ผล จนต้องปรับแผนใหม่ สั่งคนกระทรวงเกษตรฯ ไป คำสั่งนั้น จะสั่งตรงไปที่ผู้ว่าราชการที่นายอำเภอเสียด้วย ประหนึ่งว่าท่านเป็นรัฐมนตรี ว่าการทั้งกระทรวงเกษตรและมหาดไทย ไปในคราเดียวกัน เล่นเอาคนกระทรวงเกษตรฯงงและมีการอาฆาตกันด้วยว่า หากงานด้านเกษตรที่สั่งไปไม่คืบหน้าให้ผู้ว่าราชการรายงานมาด้วย เพื่อจะปรับคนเกษตรฯคนใหม่ไปนั่งให้ถูกที่ถูกทาง งานนี้ ถือว่า รัฐมนตรีใช้มาตราการขันนอต กันครั้งใหญ่ ทีเดียว ส่วนจะได้ผลหรือไม่ต้องดูว่าเอาจริงแค่ไหน แต่ที่แน่ๆ ท่านรัฐมนตรี ทั้ง 3 สายทำความเข้าใจ กับข้าราชการในพื้นที่ เริิ่มจากเมืองดอกบัวบาน จ.อบุลราชธานี ตามไปด้วย ขอนแก่น และจะเดินสายต่อ ไปยัง จ.ชลบุรีในสัปดาห์นี้  ว่าจะมีไม้เด็ดอะไร แต่ที่แน่เพราะที่ผ่านมา คราที่ไปขอแก่นท่านกำชับ ขอให้ ข้าราชการ กระทรวง เกษตรฯทำงานเต็มที่ ยืนยัน นายกฯประยุทธ์ ส่งงบตรงถึงตัวเกษตรกร พร้อมแผนช่วยเหลือครบวงจร ในสองเดือนนี้ ซึ่งหากคดในข้องอในกระดูก เงินกี่แสนล้านบาทก็ช่วยชีวิตเกษตรกรดีขึ้นไม่ได้รับปากกันอย่างนี้ เอจริงขนาดนี้ต้องปรบมือให้กันหละเจ้าคะ

มาอีกเรื่องที่ว่ากันว่า น่าจะเป็นผลงานเด่นของกระทรวงเกษตรฯ อีกเรื่อง แต่ถูกเบรกไม่เป็นท่าจาก บรรดาพวกชอบคิดแทนคนอื่น  มันคือเรื่องปลา  ซึ่งปลาที่ว่าคือ “ปลากัด” ก็ปลากัดไทยนี่หละเจ้าคะ หลังจากที่คณะกรรมการประมงแห่งชาติ ประชุมหารือกันสรุปกันเมื่อเดือนกันยายนปีที่ผ่านมา ตกลงตรงกันเห็นว่าจะนำปลากัดของไทยเสนอให้ขึ้นเป็นสัตว์ประจำชาติอีกชนิดหนึ่ง อันเนื่องมาจากปลากัด เป็นปลาที่มีถิ่นกำเนิดเกิดกายมาในประเทศไทยและอยู่กับวิถีไทยมาตั้งแต่โบราณกาล จนมีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงเป็นปลาสวยงามจากการผสมสายพันธุ์ ที่ขายดิบขายดีไปทั่วโลกกระทรวงเกษตรฯจึงมีแนวคิดจะเสนอ เป็นสัตว์ประชำชาติ  แต่พอเสนอไปที่สำนักนายกรัฐมนตรี ที่ต้องเข้า ครม. ดัน โดนเบรก ลากเรื่องเอาเข้าครม. จากหน่วยคัดกรอง  อันเนื่องมาจาก ชื่อ คำว่า“ปลากัด” มันดันไปพ้องกับคำว่า“กัด”ที่มีคนคิดว่า มันหมายถึงความขัดแย้งทะเลาะเข้า  เลยบอกว่า ท่านนายกฯ ไม่ชอบ เพราะมันสื่อถึึงความไม่“ปรองดอง”เลยถูกตีตกไป อย่างนี้ต้องบอกว่า แค่ชื่อผิดชีวิตก็ เปลี่ยน แล้วนะปลากัดเอ้ย ไม่น่าเชื่อว่า ความคิดแบบนี้จะมาจากกลุ่มข้าราชการชั้นสูงของประเทศ อย่างนี้สงกระสัยต้องเปลี่ยนชื่อจากปลากัดเป็นปลา“จูจุ๊บ” กระมั่งท่านถึงพอใจเจ้าคะท่านปลา…หล…. ด จริง สงสัย ต้องพาไปทัวร์บุญต่างประเทศเพื่อเปลี่ยนความคิด ยังไง ท่านรมว.เกษตรฯช่วยแจงท่านนายกฯ ทีเผื่อเป็นผลงานชิ้นโบแดงกระทรวงเกษตรฯอีกชิ้น ปลากัดจะได้ขึ้นแท่นเป็นปลาประจำชาติเสียทีเพราะขณะนี้มีหลายประเทศจ้องจะเอา ไปขึ้นทะเบียนเหมือนกัน

มาเรื่องสุดท้ายที่ว่ากันว่าเป็นเรื่องที่น่าละอาและหนักใจในส่วนคนกระทรวงเกษตรฯ นั้นคือเรื่องการแห่แหน เพื่อเอาใจนายของกลุ่มใครบางคนของทีม รมต. เกษตรฯ บางท่าน เพราะมีคนแอบกระซิบว่า การเดินทางของท่าน รมต. บางคน ที่ลงพื้นที่มีการขนแค่ทีมงาน เดินทางร่วมคณะไปขึ้นเครื่อง กว่า 17 คน ที่ว่ากันว่า เบิกจ่ายเงินหลวงกัน ครั้งใหญ่ เท่าที่เคยเป็นมา แม้ชอบทำงานเอาหน้าก็ไม่บอก ไหนบอกว่า รมต. เกษตรฯ ชุดนี้เป็นชุดพอเพียงหรือว่าพอเพียงแบบใหญ่ๆๆๆ น้อ เท็จจริงยังไงตรวจสอบที อย่าให้ เรื่องเล็กต้องทำให้เสียการใหญ่ หากจริงใจในการพัฒนาเกษตรฯชาติ

ราชดำเนิน

เกษตรบูรณาการ : ปรับแผนใหม่ เพื่อความอยู่รอด

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/local/317073

251598

เกษตรบูรณาการ : ปรับแผนใหม่ เพื่อความอยู่รอด

วันจันทร์ ที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2561, 06.00 น.

หลังจากทำงานแบบงึกๆงักๆ ไม่คึกไม่คักมากว่า 2 เดือนเศษ  ซึ่งว่ากันว่า เป็นไปตามแผนที่ตั้งใจเอาไว้ เพราะตามแผน  รมต.เกษตรฯ ของรัฐบาล ของครม. “ประยุทธ์ 5” ตามที่ประกาศเอาไว้ จะต้องมีอะไร ที่เป็นโล้เป็นพายให้เห็นเด่นชัดของผลงานภายใน 3  เดือน  หลังจากผลงานของ รมต. เกษตรฯที่มาจากตะหาน ผลงานที่ผ่านมา หลายปีกับกระทรวงเกษตรฯ มีแค่เสาธงแพง ระยับ  กับถนนใหม่และระแนงบังตา หน้าห้อง รมต. เกษตรฯ เท่านั้น

แล้วพี่ใหญ่ของ รมต.เกษตรฯ ที่ชื่อ“กฤษฎา บุญราช” รมว.เกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วยนายลักษณ์ วจนานวัช และนายวิวัฒน์ ศัลยกำธร รมช.เกษตรฯจึงมีการปรับกลยุทธ์การทำงานใหม่ อันเนื่องมาจากงานไม่คืบหน้า เพราะสั่งไปงานอะไรก็เงียบกริบ ไม่หือไม่อือ และขับไม่เคลื่อน  เกียร์ว่าง ไม่เข็นนโยบาย ตามที่ประกาศเอาไว้ เรื่องนี้หากปล่อยไป เห็นทีรมต. เกษตรฯ ต้องแดดิ้นยกเข่ง และมีหวังถูกปรับออกจากตำแหน่ง ไม่ช้าก็เร็ว เป็นแน่

ซึ่งเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ท่าน รมว.“กฤษฎา” จึงนำ รมช. ทั้ง 2 เดินทางลงพื้นที่จ.อุบลราชธานี เพื่อร่วมประชุมมอบนโยบายพร้อมแนวทางปฏิบัติให้กับทุกหน่วยงานของกระทรวงเกษตรฯในพื้นที่ภาคอีสานตอนล่าง เพื่อทำความเข้าใจ ข้าราชการให้เข้าใจตรงกันว่า นโยบายเกษตรแท้จริงคืออะไร พร้อมทั้งรับฟังข้อเรียกร้องเกษตรกรในพื้นที่ ซึ่งเน้นย้ำไปที่ชาวสวนยาง ที่ร้องให้ช่วยแก้ไขในเรื่องราคายังตกต่ำ ซึ่งเป็นเป้าหมายหนึ่งของรัฐบาลชุดนี้ ที่ต้องสะสางปัญหาราคาสินค้าเกษตรตามที่รับปากเอาไว้กับมวลชนชาวเกษตรกรของไทย

ว่ากันว่า งานนี้ ท่านรัฐมนตรีสวดยับกับข้าราชการกระทรวงเกษตรฯ และทำความเข้าใจเสียใหม่ ว่าสิ่งที่คนกระทรวงเกษตรฯ กำลังขับเคลื่อน ปัจจุบันมันล่าช้าอืดอาด และหาค่าผลสัมฤทธิ์ยากยิ่งเมื่อเทียบกับงบประมาณที่เสียไป และเป็นที่แปลกใจว่า เกิดอะไรขึ้นกับภาคเกษตร เพราะที่ผ่านมา ของบทั้งแก้ไข ทั้งวางแนวทางการพัฒนาแทบทุกปี แต่ที่ลงทุนไปมีแต่ความว่างเปล่า และแปลกใจไปกว่านั้น คนกระทรวงเกษตรฯ ส่วนใหญ่ล้วนจบมาจากรั้วเกษตรฯ ที่น่าจะเข้าใจคำว่าเกษตร ควรเดินทางไหน แต่กลับไม่เข้าใจ ไม่ปรับเปลี่ยน ปรับปรุงการทำงาน ทั้งที่ตลอดชีวิตการทำงานหน้าเดียวคือเรื่องของเกษตรฯ เมื่อเทียบกับสายงานอื่น ต้องปรับต้องเปลี่ยน เพื่อให้เข้าสมัย ที่เปลี่ยนแปลงไปสู่การพัฒนา ยุค 4…… แต่ อนิจจา คนเกษตรฯ ยิ่งทำ ยิ่ง…..เหลว และน่าจะถึงเวลา ต้องปรับแผนการทำงานใหม่  แนวทางสุดท้าย ด้วยความที่ ไม่เชื่อว่า หัวที่ รมว. เกษตรฯส่งสาร มาถึงข้าราชการรากหญ้าในพื้นที่ เข้าใจตรงกันถึงนโยบายมันไร้ผล จึงงัดทีเด็ด แจกเบอร์โทรส่วนตัว ให้ขรก.แกนนำเกษตรกร ทุกจังหวัดภาคอีสานตอนล่าง รู้เห็นอะไรไม่ดีให้รีบแจ้ง จะเปลี่ยนคนดีลงมาทำงานให้เกษตรกรลืมตาอ้าปากได้

ว่ากันมาถึงขนาดนี้ ถึงเป็นข้าราชการที่มีใจในการทำงาน ก็คงจะเข้าใจว่า ท่าน รมว.เกษตร ฯ อึดอัดกันขนาดไหน นะเจ้าคะ ยังไงปรับปรุงด่วน มิฉะนั้นอาจต้องโดนไม้เด็ด ของรมว.เกษตรฯ ที่เป็นถึงอดีตปลัดสายบู๊ เพราะแว่วว่า ท่านเริ่มบ่นกับทีมงาน อาจต้องมีมาตรการเด็ด ที่เคยใช้ที่มหาดไทยนำมาใช้ กับข้าราชการเกษตรฯ แน่จริง บอกเลยอย่าแค่คิด หากเอาจริงทำเลย  ฟันเลยเจ้าคะท่าน รมว. “กฤษฎา” ไม่ใช่แค่คิด  เพราะคนกระทรวงเกษตรฯเขาคนจริงทุกคน คือ เขี้ยวลากดินจริงๆ หากเจอคนที่แค่พูดแล้วไม่ฟันจริง จากนี้ไป น่าจะถึงคราว ของเกษตรกรไทยต้อง
ทำใจกับ รมต. “ประยุทธ์ 5” จริงๆ ที่สัญญาว่าจะแก้ปัญหา ภาคการเกษตรฯ ให้เห็นผลชัดใน 3 เดือน ที่แท้ก็ แค่ราคาคุยจริงๆ….

ราชดำเนิน