สามมิตรปิดฉาก ‘สมศักดิ์’ หอบน้องสาว ซบค่าย ‘เจ๊แดง’

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

https://www.komchadluek.net/scoop/thong-yuttaphop/543567

23 ก.พ. 2566

สามมิตรปิดฉาก ‘สมศักดิ์’ หอบน้องสาว ซบค่าย  ‘เจ๊แดง’

อวสานสามมิตร ‘สมศักดิ์’ พาน้องสาว พรรณศิริ เข้าเพื่อไทย สลายกลุ่มเฉพาะกิจเคยปั้นตู่ หันไปเสริมทัพ ‘เจ๊แดง’ สานฝันอุ๊งอิ๊ง นายกฯหญิงคนที่ 2

สามมิตรปิดฉาก สมศักดิ์ พาน้องสาวเข้าเพื่อไทย สลายกลุ่มเฉพาะกิจปั้นตู่ เสริมทัพ เจ๊แดง เยาวภา วงศ์สวัสดิ์

จอมเก๋า สมศักดิ์ หยั่งรู้ดินฟ้าอากาศ กระแสไม่เอา 3 ป.มาแรง จึงตีรถด่วนสุโขทัยเข้าบ้านแจ้งวัฒนะ รายงานตัวต่อ เจ๊แดง คนเดิม 

แม้ สมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรียุติธรรม จะให้สัมภาษณ์ครั้งแล้วครั้งเล่าว่า ขออยู่กับลุงป้อม ไม่ทิ้งสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ แต่มีข้อน่าสังเกตว่า สส. และอดีต สส. ซุ้มบ้านใหญ่ศรีสำโรง ตบเท้าเข้าพรรคเพื่อไทยหมดแล้ว

พรรณสิริ กุลนารถศิริ สส. สุโขทัยพรรณสิริ กุลนารถศิริ สส. สุโขทัย

วันที่ 28 ก.พ.2566 มีรายงานข่าวว่า พรรณสิริ กุลนาถศิริ สส. สุโขทัย น้องสาวแท้ๆ ของสมศักดิ์ จะทิ้งพรรคพลังประชารัฐ ไปเปิดตัวที่พรรคเพื่อไทย

ช่างบังเอิญเหลือเกิน สุทิน คลังแสง รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์นักข่าวพีพีทีวีว่า “..ให้จับตาดูวันที่ 28 ก.พ. นี้ให้ดี โดยเฉพาะสมศักดิ์ เทพสุทิน ที่มีข่าวว่าจะย้ายไปเพื่อไทย ซึ่งข่าวนี้อาจจะจริงก็ได้”

จริงๆ แล้ว นักวิเคราะห์การเมืองทุกสำนักต่างฟันธงล่วงหน้าไปแล้วว่า สมศักดิ์ คนรักไก่ชนซบเพื่อไทยแน่ ตามคำเชิญชวนของ เจ๊แดง-เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ซึ่งมีความสนิทชิดเชื้อกับสมศักดิ์มายาวนาน

ก่อนหน้านี้ พรรคเพื่อไทย เปิดตัวผู้สมัคร สส.สุโขทัย อย่างเป็นทางการไปแล้ว 2 คนคือ เขต 3  ประภาพร ทองปากน้ำ และเขต 4 จักรวาล ชัยวิรัตน์นุกูล อดีต สส.สุโขทัย สมัยที่แล้ว จักรวาลสังกัดพรรค พปชร. แต่สอบตก

โบว์-ประภาพร เป็นลูกสาวเสี่ยแก้ว-ประศาสตร์ ทองปากน้ำ อดีต สส. สุโขทัย ซึ่งทั้งเสี่ยแก้ว และจักรวาล ก็เป็นลูกน้องเก่าสมศักดิ์มาแล้วทั้งนั้น

แม่ทัพค้างคาวไฟ

สมศักดิ์ ส่งน้องสาว พรรณศิริ และลูกน้องคนสนิทไปสังกัดเพื่อไทย ถ้าตัวเองยังจะอยู่พลังประชารัฐ ก็เป็นเรื่องน่าประหลาดใจยิ่ง

สนามเลือกตั้งสุโขทัย สมัยที่แล้ว มี สส. 3 คน สมศักดิ์ เทพสุทิน ส่งน้องสาว พรรณสิริ ,ชูศักดิ์ คีรีมาศทอง และจักรวาล ชัยวิรัตน์นุกูล ลงสนามในสีเสื้อ พปชร. แต่ทีมสมศักดิ์เข้าป้าย 2 เขต ส่วนจักรวาล แพ้สมเจตน์ ลิมปะพันธุ์ พรรคภูมิใจไทย

นับจากอนงค์วรรณ เทพสุทิน ถอยจากสังเวียนการเมือง ไปเป็นประธานสโมสรฟุตบอลสุโขทัย เอฟซี หรือทีมค้างคาวไฟ พรรณสิริ กุลนาถศิริ ก็มาดูงานการเมืองในพื้นที่แทน

พรรณสิริ ลาออกจากข้าราชการครูเข้ารับตำแหน่ง รมช.สาธารณสุข รัฐบาลอภิสิทธิ์ และปี 2554 พรรณสิริ ลงสมัครชิงนายก อบจ.สุโขทัย ชนะสมเกียรติ ลิมปะพันธุ์ ขาดลอย

ช่วงที่พรรณศิริ เป็นนายก อบจ.สุโขทัย ได้สนับสนุนสโมสรฟุตบอลสุโขทัย เอฟซี ตั้งแต่สมัยเล่นในลีกภูมิภาค ดิวิชั่น 2 ภาคเหนือ จนกระทั่งได้เลื่อนชั้นสู่ไทยลีก

ปิดฉากสามมิตร

สามมิตรเป็นกลุ่มการเมืองเฉพาะกิจของ สมศักดิ์ ไม่ต่างจากการตั้งกลุ่มวังน้ำยม หรือกลุ่มวังบัวบาน ที่มี เจ๊แดง เป็นผู้ดูแลซุ้มใหญ่ภาคเหนือเมื่อปี 2544

วันที่ 4 เม.ย.2561 ภิรมย์ พลวิเศษ อดีต สส. นครราชสีมา ได้แวะมาหาสมศักดิ์ เทพสุทิน ที่ร้านกินเส้น ย่านสนามบินน้ำ ทั้งคู่คุยกันเรื่องงานการเมือง

ถัดจากนั้น สมศักดิ์เชิญสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ มาพบกับภิรมย์ที่ร้านกินเส้น ทำให้มีภาพสมศักดิ์-สุริยะ ถ่ายรูปคู่กันที่ข้างร้านอาหารดังกล่าว

นี่คือจุดเริ่มต้นของกลุ่มสามมิตร ที่มีสมศักดิ์ ,สุริยะ และอนุชา นาคาศัย เป็นแกนหลัก โดยระยะแรก ภิรมย์ พลวิเศษ ทำหน้าที่โฆษก และเมื่อตั้งกลุ่มสามมิตรอย่างเป็นทางการ ธนกร วังบุญคงชนะ จึงเข้ามาทำหน้าที่โฆษกแทนภิรมย์

หลังเลือกตั้งปี 2562 กลุ่มสามมิตร มีอำนาจต่อรองค่อนข้างสูง แต่ช่วยให้สมศักดิ์ได้แค่เก้าอี้ รมว.ยุติธรรม ทั้งตัวเขาเองหวังอยากจะนั่ง รมว.เกษตรและสหกรณ์

ปลายรัฐบาลประยุทธ์ ขุมกำลังกลุ่มสามมิตรก็ร่อยหรอลงเรื่อยๆ แยกย้ายไปอยู่พรรคอื่น และท้ายที่สุด สมศักดิ์เลือกสลายกลุ่มสามมิตร ส่งอนุชา นาคาศัย ไปสังกัดพรรครวมไทยสร้างชาติ ส่วนกำนันตุ้ย และเจ๊บุญยิ่ง อยู่พรรคพลังประชารัฐ สส. สายเลือดสุโขทัยที่เหลือ ก็ตบเท้าเข้าค่ายสีแดง สานฝันอุ๊งอิ๊ง นายกฯหญิง และเพื่อไทยแลนด์สไลด์

เพชรบูรณ์ป่วน ‘อุ๊งอิ๊ง เขย่าแรง ‘สันติ’ ซุ้มแตก

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

https://www.komchadluek.net/scoop/thong-yuttaphop/543524

23 ก.พ. 2566

เพชรบูรณ์ป่วน 'อุ๊งอิ๊ง เขย่าแรง 'สันติ' ซุ้มแตก

ส่องสนามเพชรบูรณ์ ‘อุ๊งอิ๊ง’ เขย่าแรง ‘สันติ’ ปรับแผนใหม่ บ้านใหญ่หนองไผ่ทิ้งซุ้มมะขามหวาน หลานชาย สส.ดำ ซบเพื่อไทย ส่อเค้า พปชร.ชวดกวาดยกจังหวัด

สังเวียนเพชรบูรณ์ อุ๊งอิ๊ง กระแสแรง สันติ ปรับแผนวางตัวผู้สมัคร สส.ใหม่ หลังบ้านใหญ่หนองไผ่ สส. ดำ วางมือ หลานชายเลือกสวมเสื้อเพื่อไทย  เจ้าพ่อมะขามหวาน สันติ กุมขมับ ชนะยกจังหวัดไม่ง่าย แบรนด์อุ๊งอิ๊ง ชาวบ้านตอบรับเหมือนยุคยิ่งลักษณ์

วันที่ 22 ก.พ.2566 สันติ พร้อมพัฒน์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ แถลงเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร สส. พรรค พปชร. ในพื้นที่ภาคอีสาน,ภาคเหนือ และภาคกลาง โดยที่น่าสนใจคือ เพชรบูรณ์ เขต 4 วรโชติ สุคนธ์ขจร

จริงๆแล้ว เสี่ยสันติ เปิดตัวผู้สมัคร สส.เพชรบูรณ์ ครบแล้วทั้ง 6 เขต แต่เหตุที่ต้องเปิดตัวเพิ่มที่เขต 4 เพราะมีปัญหาในเขต 5 สุประวีณ์ อนรรฆพันธ์ หลาน ชาย สุรศักดิ์ อนรรฆพันธ์ สส.เพชรบูรณ์ เชื่อมั่นแบรนด์ อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร ชินวัตร จึงไม่ยอมสวมเสื้อ พปชร.ตามแผนเดิม



นัยว่า วันเพ็ญ พร้อมพัฒน์ สส.เพชรบูรณ์ เขต 4 ภรรยาเสี่ยสันติ จะถูกโยกมาลงสมัคร สส. เขต 5 หลัง สส. ดำ-สุรศักดิ์ อนรรฆพันธ์ วางมือ แต่หลานชายดันไปอยู่ค่ายอุ๊งอิ๊ง

สำหรับ วรโชติ สุคนธ์ขจร ประธานสภา อบจ.เพชรบูรณ์ และส.อบจ.เพชรบูรณ์เขต อ.ชนแดน ถือว่าคนสนิทวันเพ็ญ พร้อมพัฒน์ ด้วยสถานการณ์จำเป็น วรโชติต้องทิ้งเก้าอี้ประธานสภาฯ มาลงสมัคร สส.

บ้านใหญ่หนองไผ่

สันติ วาดหวังยกจังหวัด 6 ที่นั่ง สส.เพชรบูรณ์ เหมือนปี 2562 แต่บังเอิญเพื่อไทย ได้กระแส อุ๊งอิ๊ง จึงเป็นสิ่งที่ท้าทายซุ้มมะขามหวาน

เสี่ยสันติ ประกาศรายชื่อผู้สมัคร สส.เพชรบูรณ์ 6 เขต มาตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว ประกอบด้วยเขต 1 (อ.เมืองเพชรบูรณ์) พิมพ์พร พรพฤฒิพันธุ์ สส.เพชรบูรณ์ ,เขต 2 (อ.หล่มสัก) จักรัตน์ พั้วช่วย สส.เพชรบูรณ์ ,เขต 3 (อ.หล่มเก่า) บุญชัย กิตติธาราทรัพย์ ส.อบจ.เพชรบูรณ์ เขต อ.หล่มเก่า

เขต 4 (อ.ชนแดน) เปลี่ยนจากวันเพ็ญ พร้อมพัฒน์ สส. เพชรบูรณ์ เป็น วรโชติ สุคนธ์ขจร ,เขต 5 (อ.หนองไผ่) สุรศักดิ์ อนรรฆพันธ์ สส. เพชรบูรณ์ วางมือ

เขต 6 (อ.วิเชียรบุรี) เอี่ยม ทองใจสด สส.เพชรบูรณ์ จะส่งหลานชายลงสมัคร สส. แทนสมัยหน้า
 

สำหรับ สส.ดำ หรือสุรศักดิ์ อนรรฆพันธ์ ผู้มากบารมีแห่ง อ.หนองไผ่ เป็นคนที่เสี่ยสันติให้ความเกรงใจมากที่สุด และเดิมที สส.ดำ สุขภาพไม่ดี จะส่งหลานชาย สุประวีณ์ อนรรฆพันธ์ ลงสนามแทน

ปลายปีที่แล้ว สส.ดำ พาหลานชาย เพียว-สุประวีณ์ อนรรฆพันธ์ เลขานุการนายก อบจ.เพชรบูรณ์ ออกงานคู่กัน เสมือนเป็นการแนะนำตัวว่า นี่คือทายาททางการเมือง

ต้นเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา พรรคเพื่อไทย ได้เปิดตัวผู้สมัคร สส. เพชรบูรณ์ เขต 5 คือ สุประวีณ์ อนรรฆพันธ์ หลานชาย ส.ส.ดำ และหลานชาย ทวีศักดิ์ อนรรฆพันธ์ อดีต สส. เพชรบูรณ์ จึงทำให้ซุ้มมะขามหวาน ต้องปรับขบวนใหม่

จะว่าไปแล้ว ตระกูลอนรรฆพันธ์ ถือว่าเป็นลูกหม้อพรรคไทยรักไทย กระทั่งมาถึงพรรคเพื่อไทย เพียงแต่สมัยที่แล้ว เสี่ยสันติมาอ้อนวอนขอให้ สส. ดำ ไปอยู่พรรคพลังประชารัฐ

มะขามหวานแลนด์สไลด์

แบรนด์ อุ๊งอิ๊ง ติดตลาด จึงทำให้เกิดปัญหาผู้สมัคร สส. ทับซ้อนกัน อย่างกรณีของหลานชาย สส. ดำ กับลูกสาว สส. เก่า

ปลายปีที่แล้ว พรรคเพื่อไทยประกาศชื่อผู้สมัคร สส. เพชรบูรณ์ 6 เขต ได้แก่เขต 1 สุทัศน์  จันทร์แสงศรี อดีต สส. เพชรบูรณ์ ,เขต 2 ชัยณรงค์  สืบสุรีย์กุล อดีตผู้สมัคร สส. เพชรบูรณ์

เขต 3 จำเนียร  โฉมงาม ที่ปรึกษากฎหมายกลุ่มชาวม้งภูทับเบิก ,เขต 4 ทวีศักดิ์  อนรรฆพันธ์ อดีต สส. เพชรบูรณ์ ,เขต 5 รณิตา  นาคะบุตร ลูกสาว กิตติคุณ นาคะบุตร อดีต สส. เพชรบูรณ์ และเขต 6 เกรียงไกร ปานสีทอง

ปัจจุบัน สุประวีณ์ อนรรฆพันธ์ หลานชาย สส. ดำ เปิดตัวเป็นว่าที่ผู้สมัคร สส. เพชรบูรณ์ เขต 5 พรรคเพื่อไทย แต่ รณิตา  นาคะบุตร ก็ยังออกหาเสียงในฐานะผู้สมัคร สส. ตามโผรายชื่อเดิม

หากเสี่ยสันติ ตัดสินใจโยกภรรยา วันเพ็ญ พร้อมพัฒน์ จากเขต 4 มาลงเขต 5 ตามกระแสข่าวในเวลานี้ เลือกตั้งครั้งหน้าก็จะกลายเป็นสังเวียนช้างชนช้างไปในทันที

โหวตทิ้งเพื่อน ‘ทักษิณ’ เลือกพรรคเดียว จังหวะ ‘พิธา’ ติดหล่ม

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

https://www.komchadluek.net/scoop/thong-yuttaphop/543498

22 ก.พ. 2566

โหวตทิ้งเพื่อน ‘ทักษิณ’ เลือกพรรคเดียว จังหวะ ‘พิธา’ ติดหล่ม

โหมโรงโหวตอย่างมียุทธศาสตร์ ‘ทักษิณ’ เลือกพรรคเดียว 310+ ทิ้งก้าวไกล จังหวะที่ ‘พิธา เพลี่ยงพล้ำ ตกอยู่ในหล่มสงครามความคิดพวกเดียวกัน

ชิงเปิดเกมรุก ทักษิณ งัดโหวตอย่างมียุทธศาสตร์ เลือกพรรคเดียว 310+ จังหวะที่ พิธา เพลี่ยงพล้ำ ตกอยู่ในสงครามความคิดพวกเดียวกัน

ในมุมเปิด ทักษิณ จัดให้พรรคก้าวไกลเป็นแนวร่วม แต่ในเชิงกลยุทธ์หาเสียงเลือกตั้ง พิธา และพลพรรคสีส้มคือ คู่แข่งที่น่ากลัวกว่า 3 ป.

ทักษิณ ชินวัตร หรือโทนี่ วู้ดซัม เปิดประเด็นการเมืองในรายการ CareTalk เมื่อค่ำวันอังคารที่ 21 ก.พ.2566 เสนอเข็มมุ่งโค่นเผด็จการ “ถ้าประชาชนคิดจะสู้กับ ส.ว. ต้องเลือกแบบมียุทธศาสตร์”

จริงๆแล้ว ความหมายในคำพูดข้างต้นก็คือ การปิดสวิทช์ ส.ว. ด้วยการโหวตในคูหาเลือกตั้ง ที่พรรคก้าวไกล เคยชูคำขวัญในการหาเสียงมาก่อน

ช่วงที่ผ่านมา ทักษิณพูดในแคร์ทอล์คหลายหน ก็ย้ำว่า ฝ่ายประชาธิปไตยต้องมือกันตั้งรัฐบาล แต่หนล่าสุด ทักษิณกลับบอกว่า “ประชาชนต้องเลือกอย่างมียุทธศาสตร์คือ เลือกพรรคใดพรรคหนึ่งที่มีโอกาสชนะมากที่สุด มีคะแนนสูงให้เป็นพรรคหลักของฝ่ายประชาธิปไตย”

สอดรับกับ ภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ที่เสนอแคมเปญ “ต้องเลือกเพื่อไทยให้ได้ 310+” เพื่อเป็นรัฐบาลพรรคเดียวเพื่อแก้วิกฤติประเทศ

ภูมิธรรม ชี้ว่า “อย่าให้คะแนนตกน้ำศูนย์เปล่า ถ้าคะแนนเลือกตั้ง กระจัดกระจาย จะได้ประยุทธ์ เป็นนายกฯ เพราะมีคะแนน ส.ว. เป็นต้นทุน 250 เสียง”

พูดง่ายๆ โหวตอย่างมียุทธศาสตร์ หมายถึงการเลือกเพื่อไทย พรรคเดียว ไม่ต้องรักพี่เสียดายน้อง ไปเลือกพรรคก้าวไกล และพรรคเสรีรวมไทย

ตามรอยไทยรักไทย

ทักษิณ ฝันถึงชัยชนะในอดีตของพรรคไทยรักไทย ที่กวาดพรรคเดียว 377 เสียง แต่วันนั้น ยังไม่มีพรรคก้าวไกล และผู้นำชื่อ พิธา

ปลายปี 2564 พรรคเพื่อไทย และพรรคพลังประชารัฐ เห็นพ้องต้องกันว่า ต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญ กลับไปใช้ “บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ” ส.ส.เขต 400 คน และ ส.ส. บัญชีรายชื่อ 100 คน เหมือนรัฐธรรมนูญ 2540

ตรงกันข้ามกับพรรคก้าวไกล ที่ไม่เห็นด้วยกับระบบเลือกตั้งบัตร 2 ใบ เพราะเห็นชัดว่าการเลือกตั้งปี 2562 พรรคอนาคตใหม่ได้ประโยชน์จากบัตรใบเดียวเต็มๆ

สำหรับทักษิณ ชินวัตร ปลื้มปริ่มกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่าด้วยระบบเลือกตั้งถึงกับกล่าวว่า 

“ผมเองเป็นผลผลิตของปี 2540” คือกติกาบัตร 2 ใบ เขตเดียวเบอร์เดียว “เลือกคนที่รัก เลือกพรรคที่ชอบ”

ไม่มีใครปฏิเสธว่า พรรคไทยรักไทย ชนะการเลือกตั้งปี 2548 ได้ ส.ส.ทั้งระบบเขต และบัญชีรายชื่อ รวมแล้ว 377 เสียง แต่ปีนั้น ทักษิณเป็นนายกฯรักษาการ มีอำนาจเต็มมือ 

เหนืออื่นใด พรรคไทยรักไทย มีคู่ปรปักษ์พรรคเดียวคือ พรรคประชาธิปัตย์ ต่างจากปีนี้ ที่มีพรรคก้าวไกลมาเป็นคู่แข่งในปีกเดียวกันกับเพื่อไทย

สงครามอัตตา

จะว่าไปแล้ว ปมขัดแย้งในพรรคก้าวไกล ระหว่าง พิธา กับคนนอกพรรค ปิยบุตร แสงกนกกุล ไม่มีอะไรซับซ้อน เป็นเรื่องของอัตตาประสาปัญญาชน

สมัยพรรคอนาคตใหม่ ก็มีสมาชิกบางกลุ่มวิจารณ์ว่า พรรคถูกครอบงำโดยกลุ่มโปลิตบูโร ประกอบด้วยเอก-ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ,ต๋อม-ชัยธวัช ตุลาธน และติ่ง- ศรายุทธ ใจหลัก

สามสหาย “เอก-ต๋อม-ติ่ง” เป็นเพื่อนนักกิจกรรมปีกก้าวหน้ารุ่นเดียวกัน จึงพูดคุยกันรู้เรื่อง ต่างจากป๊อก-ปิยบุตร ได้รับอิทธิพลทางความคิดจากพวกฝ่ายซ้ายฝรั่งเศสพอสมควร เขาจึงมีอุดมคติและอุดมการณ์ทางการเมืองที่ชัดเจน

ส่วน ทิม-พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หลานชายผดุง ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตคนสนิททักษิณ ฉะนั้น ทิมจึงเข้าไปเป็นทีมงานหน้าห้องสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ สมัยรัฐบาลไทยรักไทย ปี 2546

ทิม พิธา ได้เรียนรู้การเมืองมาจากประสบการณ์ตรงสมัยที่ไปช่วยงานรัฐบาลทักษิณ ซึ่งในช่วงเวลานั้น เอก-ต๋อม-ติ่ง ยังอยู่ฝ่ายเอ็นจีโอ จับประเด็นร้อนเรื่องท่อก๊าซจะนะ และเผชิญหน้ากับรัฐบาลทักษิณ

แกนนำพรรคก้าวไกล และคณะก้าวหน้า ต่างมีที่มาและประสบการณ์การเมืองต่างกัน โอกาสที่จะเกิดการปะทะกันทางความคิดในพรรค จึงไม่ใช่เรื่องแปลก

เหนืออื่นใด ปมขัดแย้งดังกล่าว ก็ทำให้พรรคก้าวไกลมีอาการเป๋นิดๆ แต่ไม่ถึงกับล้มคว่ำ แต่จังหวะนี้ ดูจะเข้าทางเพื่อไทย ที่ประกาศเลือกให้ขาด เลือกพรรคเดียวพอดิบพอดี

หลงกระแส ‘อุ๊งอิ๊ง’ ทิ้ง ‘แดงอกหัก’ ผลักมิตรเป็นศัตรู

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

https://www.komchadluek.net/scoop/thong-yuttaphop/543448

22 ก.พ. 2566

หลงกระแส 'อุ๊งอิ๊ง' ทิ้ง 'แดงอกหัก' ผลักมิตรเป็นศัตรู

เพื่อไทยกระแสพุ่ง ชูแคมเปญเลือก 310+ ‘อุ๊งอิ๊ง’ ระวังสะดุด ‘แดงอกหัก’ อาจกลายเป็นโรคระบาดไม่เอาชินวัตร คนแดนไกลดูเบาพลังเสื้อแดง

โหวตเพื่อไทยพรรคเดียว 310+ อุ๊งอิ๊ง ระวังสะดุด แดงอกหัก ที่จะกลายเป็นโรคระบาด ไม่เอาชินวัตร คนแดนไกลดูเบาพลังเสื้อแดง

แดงอกหัก หมายถึงคนเสื้อแดงที่เสนอตัวลงสมัคร สส.พรรคเพื่อไทย ศูนย์การนำยุค อุ๊งอิ๊ง ไม่เลือก เพราะประเมินว่า เสื้อแดงตกยุคไปแล้ว

ชั่วโมงนี้ พรรคเพื่อไทย เสนอยุทธศาสตร์เลือกพรรคเดียวให้ได้ 310+ เพราะโพลหลายสำนักชี้ว่า อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร ชินวัตร มีคะแนนนิยมนำเป็นอันดับหนึ่งเกือบทุกภาค ยกเว้นภาคใต้

อีกด้านหนึ่ง ปัญหาความขัดแย้งเรื่องการคัดสรรตัวผู้สมัคร สส.ของเพื่อไทยที่มองว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่ ก็อาจบานปลายได้ เมื่อกลุ่มคนอกหักทั้งหลาย ต่างสวิงไปหาอีกขั้วหนึ่ง และตั้งป้อมต้านกระแสเพื่อไทยแลนด์สไลด์

ยกตัวอย่างกรณี จ.นครพนม เขตเลือกตั้งที่ 4 นครพนม (อ.วังยาง อ.ปลาปาก อ.นาแก) สมชอบ นิติพจน์ อดีตนายก อบจ.นครพนม ที่คาดหวังจะลงสมัคร สส.นครพนม เขต 4 สังกัดพรรค พท. แต่ต้องผิดหวัง เนื่องจากพรรคเพื่อไทยเปิดตัว ณพจน์ศกร ทรัพยสิทธิ์ เป็นว่าที่ผู้สมัคร สส.เขตดังกล่าว

หลังทราบมติของแกนนำพรรคเพื่อไทย สมชอบพยายามทำเรื่องทักท้วงไปยังกรรมการบริหารพรรค แต่ถูกปฏิเสธอย่างไม่มีเยื่อใย สมชอบจึงตัดสินใจสมัครเป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ

แค้นฝังใจ


อาการ แดงอกหัก สวิงทิ้งขั้วประชาธิปไตยไปอยู่ฝั่งรัฐบาลประยุทธ์ อาจส่งผลกระทบต่อพรรค อุ๊งอิ๊ง ที่จะไม่แลนด์สไลด์ที่นครพนม

สมชอบ นิติพจน์ ที่สวมเสื้อเพื่อไทยลงสนามนายก อบจ.นครพนม แต่พ่ายทีมภูมิใจไทย ก็เสนอตัวลงสมัคร สส.นครพนม เขต 4 ซึ่งมนพร เจริญศรี สส.นครพนม ได้ให้การสนับสนุนอย่างออกหน้าออกตา

แกนนำพรรคเพื่อไทยได้เจรจาให้ชวลิต วิชยสุทธิ์ สส.นครพนม เขต 4 ขยับขึ้นบัญชีรายชื่อ เพื่อเปิดทางให้สมชอบ ได้ลงสมัคร สส.เขตนี้

หลังจาก สส.ชวลิต เลือกที่จะไปอยู่พรรคไทยสร้างไทย ก็มีผู้เสนอตัวลงสมัคร สส.เขต 4 แข่งกับสมชอบอีก 2 คนคือ ชาญชัย คำจำปา นายกเทศมนตรีตำบลพระซอง และณพจน์ศกร ทรัพยสิทธิ์ น้องชายอรรถสิทธิ์ ทรัพยสิทธิ์ อดีต สส.นครพนม

สุดท้ายมีข่าวว่า คนแดนไกลเลือก ณพจน์ศกร ทรัพยสิทธิ เพราะปีที่แล้ว อรรถสิทธิ์ ได้พาน้องชายไปพบนายใหญ่ที่สิงคโปร์

เมื่อสมชอบ นิติพจน์ เลือกสังกัดพรรครวมไทยสร้างชาติ ย่อมทำให้ฐานคนเสื้อแดง ถูกแบ่งออกไปเป็น 3 ส่วนคือ พรรคเพื่อไทย ,พรรค ไทยสร้างไทย และพรรครวมไทยสร้างชาติ

ผู้ที่ถูกหวยกลายเป็น ชูกัน กุลวงษา อดีต สส.นครพนม ที่ลงสนามเขต 4 ในสีเสื้อพรรคภูมิใจไทย

 

แดงกลายพันธุ์



แดงอกหัก อีกรายที่ขอนแก่น กลายเป็นคอนเทนท์ให้ค่ายสีน้ำเงินได้จัดอีเวนท์เขย่าขวัญค่ายสีแดง ตีโต้การปราศรัยใหญ่ของ อุ๊งอิ๊ง ที่ขอนแก่น

เอกราช ช่างเหล่า แม่ทัพใหญ่ขอนแก่น ของพรรคภูมิใจไทย เลือกจัดอีเวนท์เปิดตัวผู้สมัคร สส.ขอนแก่น เขต 7 ที่ถอดเสื้อแดงมาสวมเสื้อสีน้ำเงิน ในวันที่พรรคเพื่อไทยยกทัพใหญ่มาปราศรัยที่ตลาดอู้ฟู่ อ.เมืองขอนแก่น เมื่อ 19 ก.พ.2566

นาวิน คำเวียง ว่าที่ผู้สมัครสส.ขอนแก่นพรรคภูมิใจไทยนาวิน คำเวียง ว่าที่ผู้สมัครสส.ขอนแก่นพรรคภูมิใจไทย

หลายสำนักข่าวพร้อมใจกันเสนอข่าว นาวิน คำเวียง อดีตสมาชิกครอบครัวเพื่อไทย ถอดเสื้อแดง และให้ศักดิ์สยาม ชิดชอบ สวมเสื้อสีน้ำเงิน เพื่อลงสมัคร สส.ขอนแก่น เขต 7 (อ.หนองเรือ อ.บ้านฝาง)

ปี 2562 นาวิน ชาว อ.หนองเรือ โดยกำเนิด และเป็นเจ้าของบริษัท นาวิน อินดัสตรี้ 1975(ไทยแลนด์) จำกัด ลงสมัคร สส.ขอนแก่น เขต 7 ในนามพรรคประชาชาติ แต่สอบตก

ปี 2564 นาวินได้สมัครเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย และเคลื่อนไหวจัดตั้งกลุ่มคนเสื้อแดง ด้วยหวังที่จะได้รับคัดเลือกลงสมัคร สส.ขอนแก่น
 

กลางเดือนมกราคม 2566 พรรคเพื่อไทย มีมติเลือก สจ.ตี๋-สุรพจน์ เตาะเจริญสุข ส.อบจ.ขอนแก่น เขต อ.หนองเรือ หลานชายของนวัธ เตาะเจริญสุข อดีต สส.ขอนแก่น เป็นว่าที่ผู้สมัคร สส.ขอนแก่น เขต 7 นาวินจึงพาพลพรรคคนเสื้อแดงย้ายค่ายมาร่วมงานกับภูมิใจไทย

ปรากฏการณ์ แดงอกหัก ยังมีอีกหลายจังหวัดในภาคอีสาน ที่จะเปิดตัวกับพรรครวมไทยสร้างชาติ และพรรคภูมิใจไทย ทันทีที่ยุบสภาฯ และ กกต.แบ่งเขตเสร็จเป็นที่เรียบร้อย

ลุยระยอง ‘ประยุทธ์’ อุ้มเด็กเฮ้ง ประดาบ ‘ปิตุเตชะ’

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

https://www.komchadluek.net/scoop/thong-yuttaphop/543415

21 ก.พ. 2566

ลุยระยอง 'ประยุทธ์' อุ้มเด็กเฮ้ง ประดาบ 'ปิตุเตชะ'

ผ่าสังเวียนเลือกตั้งระยอง ‘ประยุทธ์’ อุ้มเด็กเสี่ยเฮ้ง เจาะที่มั่นบ้านใหญ่ ‘ปิตุเตชะ’ สองพี่น้อง ปิยะ-สาธิต เจอศึกใหญ่ ทั้งแดง-ส้ม แถมชนสายแข็ง รทสช.

เดินสายทัวร์ระยอง ประยุทธ์ เจาะที่มั่นบ้านใหญ่ ปิตุเตชะ เที่ยวนี้สองพี่น้อง ปิยะ-สาธิต เจอศึกใหญ่ ทั้งปีกอนุรักษ์นิยมและก้าวหน้า

ค่ายบ้านใหญ่ ปิตุเตชะ เพิ่งเปิดตัวผู้สมัคร สส.ระยอง ในสีเสื้อ ปชป. และหลานชายสาธิต ชนเด็กเสี่ยเฮ้ง สายตรง ประยุทธ์ ที่เขต 5

วันที่ 22 ก.พ.2566 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีโปรแกรมไปตรวจราชการที่จันทบุรี และระยอง โดยช่วงบ่าย พล.อ.ประยุทธ์ จะเป็นประธานในพิธีเปิดงานมหกรรมยางพารา และพืชเศรษฐกิจ EEC 2023 ที่สำงานตลาดกลางยาวพารา ต.ชุมแสง อ.วังจันทร์ จังหวัดระยอง

ดังที่ทราบกัน สมพงษ์ โสภณ สส.ระยอง พรรคพลังประชารัฐ สังกัดซุ้มเสี่ยเฮ้ง และรอเปิดตัวในสีเสื้อพรรครวมไทยสร้างชาติ หลังปิดสมัยประชุมสภาฯปลายเดือน ก.พ.นี้

เนื่องจากสังเวียนเลือกตั้งระยอง ปี 2566 มี สส.เพิ่มจาก 4 คน เป็น 5 คน กกต.ต้องแบ่งเขตใหม่ และมีความเป็นไปได้ที่เขต 5 หลานชายสาธิต ปิตุเตชะ อาจจะต้องเจอกับสมพงษ์ โสภณ พรรค รทสช.

แม่ทัพใหญ่ภาคตะวันออก สุชาติ ชมกลิ่น คงจะยอมให้สมพงษ์ โสภณ สอบตกไม่ได้ เพราะเสี่ยเฮ้ง ตั้งใจกวาดเก้าอี้ สส. 3 จังหวัดคือชลบุรี ระยอง และฉะเชิงเทรา ไว้เป็นอำนาจต่อรองหลังเลือกตั้ง
 

ทีมปิตุเตชะ


ศึกเลือกตั้งหนนี้มีเดิมพันสูง ค่าย ปิตุเตชะ จึงรวมตัวกันอีกครั้ง ระหว่างพี่ช้าง-ปิยะ ปิตุเตชะ นายก อบจ.ระยอง กับน้องตี๋-สาธิต ปิตุเตชะ จัดทีมบ้านใหญ่ลงสนาม ทั้งรุ่นเก่ารุ่นใหม่

บทเรียนการเลือกตั้งปี 2562 สาธิตต้องเจอกับคู่แข่งที่น่ากลัวคือพรรคอนาคตใหม่ ตัวอย่างจากคะแนนรวมทั้งจังหวัด พรรค ปชป. ได้ 112,001คะแนน และพรรคอนาคตใหม่ ได้ 95,666 คะแนน


ดังนั้น สาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข ในฐานะรองหัวหน้าพรรค ปชป. ผู้ดูแลภาคตะวันออก จึงเลือกเฟ้นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ระยอง ในนามทีมสาธิต ที่มาจากสายบ้านใหญ่ปิตุเตชะเป็นหลัก

เขต 1 (อ.เมืองระยอง) พศิน(กล้า) ปิตุเตชะ หลานชายปิยะ ปิตุเตชะ นายก อบจ.ระยอง และผู้จัดการทีมฟุตบอลระยอง เอฟซี ซึ่งสาธิตชงหนุ่มรูปหล่อที่สุดในตระกูล ลงสกัดพรรคก้าวไกลโดยเฉพาะ

พศิน ปิตุเตชะ ว่าที่ผู้สมัครสส.ระยองพศิน ปิตุเตชะ ว่าที่ผู้สมัครสส.ระยอง

เขต 2 (อ.เมืองระยอง) สาธิต ปิตุเตชะ ลงสนามเอง เพราะไม่มั่นใจในคนหน้าใหม่ที่ต้องเจอกระแสอุ๊งอิ๊ง และพลังคนรุ่นใหม่สีส้ม

เขต 3 (อ.แกลง) นพ.บัญญัติ เจตนจันทร์ ส.ส.ระยอง แชมป์หลายสมัย น่าจะรักษาพื้นที่ไว้ได้

เขต 4 (อ.บ้านค่าย) เสี่ยทุ่น-ธารา ปิตุเตชะ ส.ส.ระยอง 5 สมัย น้องชายปิยะ-สาธิต คงรักษาฐานบ้านใหญ่ อ.บ้านค่าย ไว้ได้อีกสมัย

เขต 5 (อ.นิคมพัฒนา อ.บ้านฉาง) ฉัตรชัย ปิตุเตชะ ลูกชายเสี่ยทุ่น และอดีตเคยเป็นเลขานุการนายก อบจ.ระยอง 2 สมัย ลงสนามเป็นครั้งแรก
 

แดงตัดส้ม



คู่แข่งสำคัญของค่าย ปิตุเตชะ นอกจากทีมเสี่ยเฮ้งสายตรง ประยุทธ์ ก็ยังมีพรรคเพื่อไทย และพรรคก้าวไกล ที่ได้เสียงตอบรับจากคนรุ่นใหม่ และผู้ใช้แรงงานย่านนิคมอุตสาหกรรม

พรรคเพื่อไทย เปิดตัวผู้สมัคร สส.ทั้ง 5 เขตไปแล้วคือ เขต 1 พเนตร วงษ์ไพศาล ,เขต 2 ภีมเดช อมรสุคนธ์, เขต 3 ชัยณรงค์ สันทัสนะโชค, เขต 4 วิเชียร สุขเกิด และเขต 5 วิชัย ล้ำสุทธิ อดีต สส.ระยอง

สมัยที่แล้ว พรรคเพื่อไทยส่งผู้สมัคร สส.ระยอง แต่ให้พรรคไทยรักษาชาติ ส่งผู้สมัคร ส.ส.แทน เมื่อพรรค ทษช.ถูกยุบ คะแนนคนเสื้อแดงระยองจึงไหลไปที่พรรคอนาคตใหม่

ส่วนพรรคก้าวไกล ก็หวังค่อนข้างสูงกับสนามระยอง และเปิดตัวผู้สมัคร สส.ไปแล้ว ได้แก่เขต 1 กมนทรรศน์ กิตติสุนทรสกุล, เขต 2 กฤช ศิลปชัย, เขต 3 นครชัย ขุนณรงค์ ,เขต 4 ชุติพงศ์ พิภพภิญโญ และเขต 5 สว่างจิตต์ เลาหะโรจนพันธ์

ที่น่าสนใจ เขต 1 อ.เมืองระยอง พรรคก้าวไกลส่งสาวสวย เอิร์ธ-กมนทรรศน์ กิตติสุนทรสกุล ที่เจอกับหนุ่มหล่อ พิศิน ปิตุเตชะ ตัวแทนบ้านใหญ่ปิตุเตชะ

อย่างไรก็ตาม ทีมกุนซือใหญ่ ปชป.ประเมินว่า ค่ายแดงกับค่ายส้มจะตัดคะแนนกันเอง จึงเป็นโอกาสของตาอยู่จะแทรกเข้าป้าย

ยึดบูรพา ‘พ่อมดดำ’ ผนึก ‘สนธยา’ ฝันคั่วเก้าอี้ประมุข สส.

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

https://www.komchadluek.net/scoop/thong-yuttaphop/543375

21 ก.พ. 2566

ยึดบูรพา 'พ่อมดดำ' ผนึก 'สนธยา' ฝันคั่วเก้าอี้ประมุข สส.

จับตากลุ่ม 16 สาขาบ้านริมน้ำ ‘พ่อมดดำ’ จับมือ ‘สนธยา’ นำทัพเพื่อไทย ยึดภาคตะวันออก ตั้งเป้า 29 ที่นั่ง ฝันไกลจะไปให้ถึงเก้าอี้ประธานสภาผู้แทนฯ

กลุ่ม 16 รีเทิร์น พ่อมดดำ  สุชาติ ตันเจริญ จับมือ สนธยา นำทัพเพื่อไทย ยึดภาคตะวันออก 29 ที่นั่ง หวังนั่งเก้าอี้ประธานสภาผู้แทนฯ

หลังการเลือกตั้งสมัยที่แล้ว สุชาติ ตันเจริญ เป็นเต็งหนึ่งจากพรรคพลังประชารัฐ ที่จะนั่งเก้าอี้ประธานสภาผู้แทนราษฎร แต่สถานการณ์พลิกผัน ชวน หลีกภัย ปาดหน้าเข้าป้าย ทำเอา พ่อมดดำ ผิดหวังอย่างแรง

ล่าสุด มีกระแสข่าวว่า สุชาติ ตันเจริญ ยังไม่สิ้นไฟฝัน ขอลุ้นตำแหน่งประมุขสภาล่างอีกครั้ง ด้วยการอาสามาเป็นแม่ทัพภาคตะวันออกให้พรรคเพื่อไทย

สุชาติ และสนธยา จะกลับมาทำงานร่วมกันอีกครั้ง ในสีเสื้อพรรคเพื่อไทย ดูแลรับผิดชอบพื้นที่ภาคตะวันออก ได้แก่ชลบุรี, ฉะเชิงเทรา, ระยอง, จันทบุรี, ตราด, ปราจีนบุรี และนครนายก ที่มี ส.ส.รวมกัน 29 คน

หาก 2 ส.อดีตกลุ่ม 16 สามารถผลักดันให้ผู้สมัคร สส.เพื่อไทย ได้เข้าสภาฯตามเป้าหมาย และพรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้ง สุชาติ ตันเจริญ จะได้ตำแหน่งประธานสภาผู้แทนฯ

คาดหมายว่า สุชาติและทีมงานพ่อมดดำ น่าจะเปิดตัวกับพรรคเพื่อไทย ในช่วงหลังวันที่ 28 ก.พ.2566 ซึ่งเป็นวันปิดสมัยประชุมครั้งสุดท้าย

กลุ่ม 16 บ้านริมน้ำ



พ่อมดดำ และสนธยา คุณปลื้ม ต่างก็เป็นสมาชิกกลุ่ม 16 ที่โด่งดังในอดีตโดยเฉพาะสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ อดีตแกนนำกลุ่ม 16 ได้นัดเพื่อนเก่ารับประทานอาหารกันที่บ้านริมน้ำของสุชาติ อยู่เป็นประจำ

ตั้งแต่ช่วงเดือน พ.ย.2565 ก็มีข่าวว่า สนธยา คุณปลื้ม จะรีเทิร์นพรรคเพื่อไทย ตามหลังสุชาติ ตันเจริญ ซึ่งตัวพ่อมดดำยังไม่ไปเปิดตัว แต่ได้แจ้งกับคนในพื้นที่แถว อ.พนมสารคาม และ อ.สนามชัยเขต ว่า จะย้ายจากพลังประชารัฐ ไปเพื่อไทยแน่นอน



แปดริ้วป่วน



พ่อมดดำ ยังไม่ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการในเพื่อไทย สังเวียนเลือกตั้งแปดริ้วจึงสับสน โดยเฉพาะเขต 3 (อ.พนมสารคาม, อ.สนามชัยเขต และ อ.ท่าตะเกียบ)สส.อ้วน พี่เขยสุชาติ กลับเดินสายหาเสียงในนามเพื่อไทย

ทุกวันนี้ สุชาติ ตันเจริญ ได้ลงพื้นที่ไปงานบุญ งานศพ งานบวช แถว อ.สนามชัยเขต และ อ.พนมสารคาม ตามปกติ บรรดาหัวคะแนนรู้แล้วว่า สุชาติย้ายพรรค แต่ยังไม่ได้ขึ้นป้ายพรรคเพื่อไทย

ส่วน สส.อ้วน หรือ รส มะลิผล อดีต สส.ฉะเชิงเทรา พรรคเพื่อไทย สามีของ จินดา มะลิผล(ตันเจริญ) พี่สาวสุชาติ ก็ยังเดินสายออกงานร่วมกับลูกชาย ภัคภูมิ มะลิผล ในนามสมาชิกพรรคเพื่อไทย

เขต 2 (อ.บางคล้า อ.พนมสารคามบางตำบล) เฮียเน้า-สมชัย อัศวโสภณ อดีต ส.ส.ฉะเชิงเทรา พรรคเพื่อไทย ได้ประกาศส่งลูกชาย พงศ์ศรัณย์ อัศวชัยโสภณ อดีตผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายเศรษฐกิจมหภาค ธนาคารแห่งประเทศไทย ลงสนามแทน

เขตนี้ก็ยังมีปัญหา เพราะตอนที่มดเล็ก-ศักดิ์ชาย ตันเจริญ ไปเปิดตัวที่พรรคเพื่อไทย ได้มีข่าวว่า มดเล็กจะลงสมัคร สส.ฉะเชิงเทรา เขต 2

มดดำ-มดเล็ก ทายาทสุชาติ ตันเจริญมดดำ-มดเล็ก ทายาทสุชาติ ตันเจริญ

ที่แน่นอนแล้วคือ สองพี่น้องตระกูลฉายแสง โดยฐิติมา ฉายแสง จะลงเขต 1และวุฒิวงศ์ ฉายแสง จะลงเขต 4

ความชัดเจนของผู้สมัคร สส.ฉะเชิงเทรา ทั้งเขต 2 และเขต 3 ของเพื่อไทย คงต้องรอคอย พ่อมดดำ เปิดตัวอย่างเป็นทางการ ในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์นี้

ชลบุรีเปลี่ยน ‘สนธยา’ แดงฟื้น ‘สุชาติ’ เหลืองฟุบ

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

https://www.komchadluek.net/scoop/thong-yuttaphop/543346

20 ก.พ. 2566

ชลบุรีเปลี่ยน 'สนธยา' แดงฟื้น 'สุชาติ' เหลืองฟุบ

สนามชลบุรีไม่เหมือนเดิม ‘สนธยา’ โหนอุ๊งอิ๊งมาแรง สบช่องฟื้นพลังบ้านใหญ่เหมือนปี 2548 สวนทาง ‘สุชาติ’ ปลุกเสื้อเหลือง กู้วิกฤตศรัทธา รบทั้งแดงทั้งส้ม

ขาลงเสื้อเหลืองเมืองชล สนธยา สวมเสื้อแดงมาแรง สบช่องฟื้นพลังบ้านใหญ่เหมือนปี 2548 ทิ้ง สุชาติ แบกลุงตู่กู้วิกฤตศรัทธา

เปลี่ยนเพื่ออยู่รอด สนธยา เรียนรู้จากอดีต ไม่ยึดติดสีเสื้อ สุชาติ เจอศึกรอบทิศ ต้องรบทั้งแดง ทั้งส้ม

นิด้าโพลสำรวจคนชลบุรีครั้งล่าสุด ส่งผลหุ้นบ้านใหญ่แสนสุขราคาพุ่ง สนธยา คุณปลื้ม มั่นใจทีมเพื่อไทย กวาดเก้าอี้ สส.ชลบุรี เหมือนการเลือกตั้งปี 2548 ซึ่งเวลานั้น กำนันเป๊าะ พาลูกๆ และทีมงานมาสังกัดพรรคไทยรักไทย 

สุกุมล-สนธยา นำทัพเพื่อไทยชลบุรีสุกุมล-สนธยา นำทัพเพื่อไทยชลบุรี

สืบเนื่องจากนิด้าโพล เปิดเผยผลสำรวจของประชาชน เรื่องคนชลบุรีเลือกพรรคไหน ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 7-14 ก.พ.2566 ปรากฏว่า อันดับหนึ่ง พรรคเพื่อไทย ตามมาด้วยพรรคก้าวไกล และพรรครวมไทยสร้างชาติ

สำหรับหัวข้อบุคคลที่คนชลบุรีจะสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรี พบว่า แพทองธาร ชินวัตร ร้อยละ 31.00 ตามมาด้วย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ร้อยละ 18.82 และพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ร้อยละ 17.36

ผลสำรวจข้างต้นก็สอดรับกับนิด้าโพลเมื่อปลายปีที่แล้ว ซึ่งเปิดเผยผลสำรวจเรื่องคนที่ใช่ พรรคที่ชอบ ของคนภาคตะวันออก ทำการสำรวจเมื่อ 7-10 พ.ย.2565 ปรากฏว่า คนภาคตะวันออก เลือกคนเป็นนายกรัฐมนตรี อันดับ 1 ร้อยละ 25.09 แพทองธาร ชินวัตร ,อันดับ 2 ร้อยละ 16.64 พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ และอันดับ 3 ร้อยละ 13.64 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

ผลแห่งนิด้าโพล คงเป็นโจทย์ใหญ่ที่เสี่ยเฮ้ง-สุชาติ ชมกลิ่น แม่ทัพรวมไทยสร้างชาติ ชลบุรี ต้องรีบแก้ไข ปลุกพลังเสื้อเหลืองเมืองชลให้ลุกขึ้นมาสนับสนุนลุงตู่อีกหน

จริงๆแล้ว ผลการเลือกตั้งปี 2562 เริ่มส่งสัญญาณการเปลี่ยนแปลงในภาคตะวันออก เมื่อพรรคอนาคตใหม่ ได้ สส.ในชลบุรี,ฉะเชิงเทรา,จันทบุรี และตราด รวมแล้ว 9 คน ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์ เหลือ สส.แค่ 3 คนใน จ.ระยอง

สายลมเปลี่ยนทิศ

บทเรียนสำคัญของ สนธยาบ้านใหญ่เมืองชลคือ ความปราชัยในการเลือกตั้งปี 2550 ท่ามกลางสงครามสีเสื้อที่เชี่ยวกราก และการกลับมาในปี 2554 พร้อม สส.หน้าใหม่ชื่อ สุชาติ

หลังรัฐประหาร 2549 กระแสต้านระบอบทักษิณเหมือนไฟลามทุ่ง และชลบุรีก็เป็นฐานที่มั่นของคนเสื้อเหลือง

ดังนั้น การเลือกตั้ง ส.ส.ชลบุรี ปี 2550 พรรคประชาธิปัตย์ จึงชนะยกจังหวัด กวาดเก้าอี้ สส. 8 ที่นั่ง มีผู้แทนฯหน้าใหม่หลายคน ได้แก่ มานิตย์ ภาวสุทธิ์ ,พจนารถ แก้วผลึก, ฐนโรจน์ โรจนกุลเสฏฐ์, ไมตรี สอยเหลือง และสรวุฒิ เนื่องจำนงค์

พ.ศ.โน้น หลังพรรคไทยรักไทยถูกยุบ กลุ่มบ้านใหญ่แสนสุขก็ย้ายกลับไปพรรคชาติไทย แต่สุดท้ายพ่ายกระแสเสื้อเหลือง  

สนธยา และพี่น้องตระกูลคุณปลื้ม สรุปบทเรียนความพ่ายแพ้ในครั้งนั้น หันไปตั้งพรรคพลังชล ชูแนวทางแบบบ้านของเรา พรรคของเรา

การเลือกตั้งปี 2554 กลุ่มบ้านใหญ่ชลบุรี ในนามพรรคพลังชล กลับมาชนะเลือกตั้งระดับชาติ ได้เก้าอี้ สส.ชลบุรี 6 ที่นั่ง จาก 8 ที่นั่ง

นักการเมืองท้องถิ่นชลบุรีหน้าใหม่ชื่อ สุชาติ ชมกลิ่น ได้แจ้งเกิดในปีนั้น และคนบ้านใหญ่แสนสุข คงนึกไม่ถึงว่า วันนี้ บ้านใหญ่จะต้องมาทำศึกกับทีมบ้านใหม่ของสุชาติ

ภูมิทัศน์การเมืองเปลี่ยน

เลือกตั้งสมัยที่แล้ว สนธยา จำต้องเลือกข้าง 3 ป.เพื่อความอยู่รอดของตระกูลคุณปลื้ม ซึ่งทีมบ้านใหญ่ก็ลงสนามเลือกตั้งในนามพลังประชารัฐ

ผลการเลือกตั้ง 24 มี.ค.2562 ได้สะท้อนว่าภูมิทัศน์การเมืองชลบุรีกำลังเปลี่ยน ไม่ใช่ยุคเสื้อเหลือง หรือยุคแดงทั้งแผ่นดิน ขณะที่พรรคก้าวไกล กลายเป็นทางเลือกใหม่

พลันที่พรรคเพื่อไทย ขายแบรนด์อุ๊งอิ๊งแพทองธาร เลือดใหม่ชินวัตร มีเสียงตอบรับอย่างกว้างขวาง ตระกูลคุณปลื้ม จึงตัดสินใจอำลา 3 ป. หันกลับไปหาทักษิณ ชินวัตร อีกครั้ง

กรณีอิทธิพล คุณปลื้ม ยังเป็นรัฐมนตรีวัฒนธรรม อยู่ในรัฐบาลประยุทธ์ จนครบวาระ ก็เป็นไปตามข้อตกลงของครอบครัวคุณปลื้ม หลังจากนั้น อิทธิพลคงไม่ยุ่งเกี่ยวกับพรรคใด

การเลือกตั้ง สส.ชลบุรี สมัยหน้า จะพิสูจน์ให้เห็นว่า พลังเสื้อเหลืองหดหายไปแล้วจริงหรือไม่ บ้านใหญ่ชลบุรีจะฟื้นกลับได้หรือเปล่า

เปลี่ยนอำนาจ ‘ณัฐวุฒิ’ ท้ารบ ‘เจ๊รวย’ สายตรงเนวิน

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

https://www.komchadluek.net/scoop/thong-yuttaphop/543247

19 ก.พ. 2566

เปลี่ยนอำนาจ 'ณัฐวุฒิ' ท้ารบ 'เจ๊รวย' สายตรงเนวิน

สมรภูมิอำนาจเจริญ ‘ณัฐวุฒิ’ ท้ารบ ‘เจ๊รวย’ สายตรงเนวิน หลัง สุทัศน์ เงินหมื่น หมดแรง เมืองอำนาจฯ ก็เข้าสู่ยุคค่ายสีน้ำเงิน แผ่บารมีคุมท้องถิ่น

เกมชิงอำนาจฯ ณัฐวุฒิ ท้ารบ เจ๊รวย สุขสมรวย วันทนียกุล สายตรงเนวิน หลังยกพลไปปราศรัยอุ้ม สส.เพื่อไทย สายเสี่ยเกรียง 

อำนาจเจริญเปลี่ยน หลังสุทัศน์ เงินหมื่น หมดแรง ก็เข้าสู่ยุค เจ๊รวย แผ่บารมีคุมท้องถิ่น ทำให้ ณัฐวุฒิ หลุดคำพูด เจ้าแม่ กลางเวทีหาเสียง

ก่อนเที่ยงวันที่ 18 ก.พ.2566 นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย, ประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค, แพทองธาร ชินวัตร และณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ยกทีมไปปราศรัยใหญ่ที่สวนมิ่งเมืองเฉลิมพระเกียรติ อ.เมือง จ.อำนาจเจริญ

สมัยที่แล้ว อำนาจเจริญ มี ส.ส. 2 คน เป็นของพรรคเพื่อไทย เขต 1 สมหญิง บัวบุตร และเขต 2 ดะนัย มะหิพันธ์ โดยการเลือกสมัยหน้า สส.สมหญิง จะส่งลูกชายมฆวาน บัวบุตร ลงสนามแทนตัวเอง 

บนเวทีปราศรัย ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผอ.ครอบครัวเพื่อไทย ได้พูดกับชาวอำนาจเจริญว่า “ได้ข่าวว่าเขตอำนาจเจริญ เขต 1 แข่งกับเจ้าแม่ใช่หรือไม่ คำว่าเจ้าแม่เขาเอาไว้เข้าทรง ดังนั้น เอาเจ้าแม่ไว้เข้าทรง แล้วเอานายมฆวานหลานผมเข้าสภา”

แม้เสี่ยเต้นจะไม่เอ่ยชื่อจริง ชาวบ้านที่มาฟังปราศรัยก็ทราบดีว่า เจ้าแม่คนนั้นคือ เจ๊รวย สุขสมรวย วันทนียกุล ว่าที่ผู้สมัคร สส.อำนาจเจริญ เขต 1 พรรคภูมิใจไทย

เกรียง กัลป์ตินันท์ แม่ทัพใหญ่ ผู้รับผิดชอบอุบลฯ,ยโสธรและอำนาจเจริญ คงให้ข้อมูลแก่เสี่ยเต้นเกี่ยวกับบทบาทของเจ๊รวย ในเมืองอำนาจมาบ้างแล้ว

อำนาจเจริญ จังหวัดเล็กๆ ติดชายแดนไทย-ลาว พรรคประชาธิปัตย์เคยปักธงทั้ง 2 เขตมาหลายสมัย กระทั่งมีกระแสประชานิยม ปชป.เหลือเพียงเขต 2 สุทัศน์ เงินหมื่น ยังอาศัยฐานเสียงเดิม ฝ่าพายุทักษิณมาได้หลายครั้ง

สิ้นยุคเงินหมื่น

มาถึงอำนาจเจริญ ณัฐวุฒิ ไม่เอ่ยถึงตระกูลเงินหมื่น เพราะรู้ดีว่าคู่แข่งที่น่ากลัวของเพื่อไทยคือ ทีม เจ๊รวย สายตรงบ้านใหญ่บุรีรัมย์

30 ปีที่แล้ว สุทัศน์ เงินหมื่น และทีม ปชป. ผูกขาดเก้าอี้ สส.อำนาจเจริญ 2 ที่นั่ง มาโดยตลอด หลังทักษิณนำทัพไทยรักไทยลงสนาม สุทัศน์ก็ยังรักษา 1 ที่นั่งไว้ได้ 

การเลือกตั้งสมัยที่แล้ว พรรค ปชป.แพ้ทั้ง 2 เขต โดยคะแนนของเพื่อไทยทิ้งห่าง ปชป.อย่างเขต 2 ดะนัย มะหิพันธ์ สายตรงเกรียง กัลป์ตินันท์ ได้ 26,540 คะแนน อภิวัฒน์ เงินหมื่น อดีต สส.อำนาจเจริญ และลูกชายสุทัศน์ ได้ 11,498 คะแนน

ตัวแปรที่เข้ามาแทนที่ทีมสุทัศน์ และพรรค ปชป.คือ พรรคภูมิใจไทย สมัยที่แล้ว โดยทีมผู้สมัคร สส.หน้าใหม่ เก็บแต้มได้เขตละ 2 หมื่นคะแนน เป็นรองแค่เพื่อไทย

ทุกวันนี้ สุทัศน์ พาลูกชาย อภิวัฒน์ เงินหมื่น และลูกสะใภ้ พุทธจิต เงินหมื่น ออกหาพบปะชาวอำนาจเจริญ หวังจะกลับเข้าสภาฯอีกครั้ง

เจ๊รวยคนอำนาจ

ชั่วโมงนี้ ชาวอำนาจเจริญจะคุ้นชื่อกับ เจ๊รวยในฐานะแม่ทัพภูมิใจไทย เพียงแค่ ณัฐวุฒิ พูดว่า เจ้าแม่ ก็เรียกเสียงเฮ จากชาวบ้านที่มาฟังปราศรัย

ก่อนการเลือกตั้งปี 2562 เนวิน ชิดชอบ มองการณ์ไกลเลือกกลุ่ม เจ๊รวย สุขสมรวย วันทนียกุล เป็นตัวแทนพรรคภูมิใจไทยในสนามอำนาจเจริญ

สุขสมรวย วันทนียกุล - ญาณีนาถ เข็มนาค ว่าที่ผู้สมัครสส.พรรคภูมิใจไทยสุขสมรวย วันทนียกุล – ญาณีนาถ เข็มนาค ว่าที่ผู้สมัครสส.พรรคภูมิใจไทย

ปี 2562 เจ๊รวยวางตัว วันเพ็ญ ตั้งสกุล ทายาทนักธุรกิจร้อยล้าน ลงเขต 1 และญาณีนาถ เข็มนาค เขต 2 แม้จะไม่ได้เป็น สส. แต่ก็ถือบรรลุเป้าหมาย เก็บแต้มได้เขตละ 2 หมื่นคะแนน

ด้วยเหตุนี้ เจ๊รวย-สุขสมรวย ผู้สมัคร สส.บัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 28 จึงได้รับการเสนอชื่อเป็นเลขานุการรัฐมนตรีคมนาคม (ศักดิ์สยาม ชิดชอบ)

ปลายปี 2563 เจ๊รวย ส่ง วันเพ็ญ ตั้งสกุล ในนามกลุ่มภูมิใจไทยอำนาจ ลงสมัครชิงเก้าอี้นายก อบจ.อำนาจเจริญ และได้รับเลือกตั้งด้วยคะแนนเสียงท่วมท้น

หลังจากนั้น เจ๊รวยก็เตรียมตัวลงสมัคร สส.อำนาจเจริญ เขต 1 ชน สมหญิง บัวบุตร ที่เปลี่ยนตัวเอาลูกชายลงแทน และเขต 2 ญาณีนาถ เข็มนาค ก็เจอ ดะนัย มะหิพันธ์ คู่ปรับเก่า

พูดถึงเรื่องกระแส ค่ายเพื่อไทยยังเป็นต่อค่ายภูมิใจไทย แต่เที่ยวนี้บัตร 2 ใบ ทีมเจ๊รวย จึงเน้นขอแค่ สส.เขต เพราะทีมสีน้ำเงินลงพื้นที่ถี่ยิบตลอด 4 ปี ที่ผ่านมา

ศึกร้อยเอ็ด ‘อุ๊งอิ๊ง’ ล้ม ‘จุรีมาศ’ เสี้ยนหนามชินวัตร

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

https://www.komchadluek.net/scoop/thong-yuttaphop/543242

18 ก.พ. 2566

ศึกร้อยเอ็ด 'อุ๊งอิ๊ง' ล้ม 'จุรีมาศ' เสี้ยนหนามชินวัตร

ตะลุยร้อยเอ็ด ‘อุ๊งอิ๊ง’ ยกทัพใหญ่ปลุกพลังเสื้อแดง ทวงคืน 1 ที่นั่งจากตระกูล ‘จุรีมาศ’ เพื่อชนะยกจังหวัด เพราะบ้านใหญ่ขวางแลนด์สไลด์ มาตั้งแต่ยุคทักษิณ

ร้อยเอ็ดแลนด์สไลด์ อุ๊งอิ๊ง ยกทัพใหญ่ปลุกพลังเสื้อแดง หวังทวงคืน 1 ที่นั่งจากตระกูล จุรีมาศ บ้านใหญ่เมืองหอโหวต

บ้านใหญ่ จุรีมาศ ขวากขวางแลนด์สไลด์ มาตั้งแต่ยุคทักษิณ สมัยหน้า อุ๊งอิ๊ง ขอกวาด 8 ที่นั่ง ชนะยกจังหวัดร้อยเอ็ด

หนึ่งในเป้าหมายของเพื่อไทยในการเดินสายปราศรัย 5 จังหวัดภาคอีสานคือ จ.ร้อยเอ็ด เพราะเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์ ต้องกวาดเก้าอี้ สส.ให้ได้ทั้งจังหวัด

ปีที่แล้ว อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร ชินวัตร มาเปิดเวทีปราศรัยใหญ่ในศึกเลือกตั้งซ่อมนายก อบจ.ร้อยเอ็ด ส่งผลให้ เศกสิทธิ์ ไวนิยมพงศ์ โกยแต้มไป 3 แสนกว่าคะแนน ทิ้งห่างคู่แข่งแบบม้วนเดียวจบ

ชัยชนะของ เศกสิทธิ์ ไวนิยมพงศ์ ปลุกความหวังของพรรคเพื่อไทย ในการเลือกตั้งสมัยหน้า จะต้องเกิดปรากฏการณ์ร้อยเอ็ดแลนด์สไลด์อย่างแน่นอน

ขณะที่เกจิการเมืองแถวหอโหวต 101 ยังมองว่า อนุรักษ์ จุรีมาศ สส.ร้อยเอ็ด เขต 1 พรรคชาติไทยพัฒนา คือขวากขวางแลนด์สไลด์ ซึ่งสมัยที่แล้ว สส.ร้อยเอ็ด 7 คน พรรค พท.กวาดมาได้ 6 ที่นั่ง และพรรค ชทพ.แย่งมาได้ 1 ที่นั่ง

ดังนั้น พรรคเพื่อไทยจึงต้องเปิดเวทีปราศรัยใหญ่ในเย็นวันอาทิตย์ที่ 18 ก.พ.2566 ที่บึงพลาญชัย อ.เมืองร้อยเอ็ด โดยการนำของอุ๊งอิ๊ง แพทองธาร

พรรคเพื่อไทย วางตัวผู้สมัคร ส.ส.ร้อยเอ็ด ครบทั้ง 8 เขตแล้ว ประกอบด้วย สส.ปัจจุบัน 6 คน ฉลาด ขามช่วง, นิรมิต สุจารี, นิรันดร์ นาเมืองรักษ์, จิราพร สินธุไพร, กิตติ สมทรัพย์ และศักดา คงเพชร

มีผู้สมัคร สส.หน้าใหม่อีก 2 คนคือ สถาพร ว่องสัธนพงษ์ และชญาภา สินธุไพร น้องสาวจิราพร สินธุไพร

ป้อมค่ายจุรีมาศ

บ้านใหญ่ จุรีมาศ กำลังถูกท้าทายด้วยกระแส อุ๊งอิ๊ง ในการเลือกตั้งครั้งใหม่ ซึ่งเพื่อไทยได้เปลี่ยนตัวผู้สมัคร สส.เขต 1 หวังโค่นแชมป์เก่าให้ได้

ย้อนไปในยุคไทยรักไทยเฟื่องฟู เมื่อการเลือกตั้งปี 2548 จ.ร้อยเอ็ด มี สส.ได้ 8 คน แต่พรรคของทักษิณ ไม่ชนะยกจังหวัด เพราะพรรคชาติไทย ภายใต้การนำของอนุรักษ์ จุรีมาศ แย่งชิงมาได้ 2 ที่นั่ง

ขนาดก่อนการเลือกตั้ง ทักษิณลงทุนไปกินนอนที่ อ.อาจสามารถ จ.ร้อยเอ็ด จนผู้คนจดจำได้มาถึงทุกวันนี้คือ อาจสามารถโมเดล แต่ก็ยังไม่ชนะยกจังหวัด

สมัยที่แล้ว เสี่ยแกละ-อนุรักษ์ จุรีมาศ ที่ถูกตัดสิทธิทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปี ได้กลับมาลงสนามเขต 1 ร้อยเอ็ด (อ.เมืองร้อยเอ็ด) เสี่ยแกละได้ 44,899 คะแนน เอาชนะวราวงษ์ พันธุ์ศิลา อดีต สส.ร้อยเอ็ด พรรค พท. ที่ได้เพียง 24,000 คะแนน

ทำไมป้อมค่ายบ้านใหญ่ จุรีมาศ จึงแข็งแกร่ง สามารถยืนต้านกระแสแลนด์สไลด์ยุคทักษิณ จนมาถึงยุคอุ๊งอิ๊ง ที่ต้องรอการพิสูจน์ในสมัยหน้า

เสี่ยแกละ-อนุรักษ์ จุรีมาศ เป็นบุตรของสมควร จุรีมาศ และเป็นลูกพี่ลูกน้องกับศิริพันธ์ จุรีมาศ อดีต ส.ส.ร้อยเอ็ด โดยปี 2529 เสี่ยแกละลงสมัคร สส.สมัยแรก ก็สอบผ่าน

เลือกตั้งปี 2531 อนุรักษ์ ย้ายจากพรรคสหประชาธิปไตย มาอยู่พรรคชาติไทย เป็นขุนพลอีสานให้กับบรรหาร ศิลปอาชา ได้เป็น สส.ร้อยเอ็ด มาอีกหลายสมัย

ตระกูลจุรีมาศ บ้านใหญ่ร้อยเอ็ด ลงเล่นการเมืองท้องถิ่นในนามกลุ่มพิทักษ์ท้องถิ่น มาตั้งแต่ปี 2518 ซึ่งกลุ่มพิทักษ์ท้องถิ่นยึดเทศบาลเมืองร้อยเอ็ดมายาวนาน จากรุ่นสู่รุ่น

ปัจจุบัน บรรจง โฆษิตจิรนันท์ ลูกเขยถวิล จุรีมาศ เป็นนายกเทศมนตรีร้อยเอ็ดติดต่อกัน 6 สมัย และเป็นฐานการเมืองให้เครือญาติ-อนุรักษ์ จุรีมาศ ในสนามระดับชาติ

ปั้นดาวดวงใหม่

อุ๊งอิ๊ง มาเยือนร้อยเอ็ด เพื่อเปิดตัว สถาพร ว่องสัธนพงษ์ ผู้สมัคร สส.ร้อยเอ็ด เขต 1 ผู้ที่ถูกเลือกให้มาล้มบ้านใหญ่ จุรีมาศ

ก่อนหน้านี้ สถาพร ว่องสัธนพงษ์ อดีตผู้สมัครนายก อบจ.ร้อยเอ็ด ได้ลาออกจากคณะก้าวหน้า มาสังกัดพรรค พท. ได้เสนอตัวลงสมัคร สส.เขต 1 ซึ่งต้องทำโพลแข่งกับวราวงษ์ พันธุ์ศิลา อดีต สส.ร้อยเอ็ด ในที่สุด สถาพรก็ได้รับเลือกให้เป็นตัวแทนพรรค

สถาพร ว่องสัธนพงษ์  ว่าที่ผู้สมัครสส.เพื่อไทยสถาพร ว่องสัธนพงษ์ ว่าที่ผู้สมัครสส.เพื่อไทย

สถาพร ว่องสัธนพงษ์ เคยเป็นประธานสภา อบจ.ร้อยเอ็ด โดยตัวเขาเติบโตมาจากตระกูลการเมือง-ว่องสัธนพงศ์ ที่มีฐานเสียงอยู่ในเขต อ.เมืองร้อยเอ็ด

ศึกเลือกตั้งร้อยเอ็ดสมัยหน้า คงต้องลุ้นกันที่เขต 1 เขตเดียวเท่านั้น บ้านใหญ่ จุรีมาศ จะรักษาแชมป์ไว้ได้ หรือเสียแชมป์ให้เพื่อไทย น่าลุ้นมาก

กงกรรมสระแก้ว ‘ขวัญเรือน’ สู้เจ๊เปิ้ล ‘เสนาะ’ นั่งบนภู

#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

https://www.komchadluek.net/scoop/thong-yuttaphop/543147

17 ก.พ. 2566

กงกรรมสระแก้ว 'ขวัญเรือน' สู้เจ๊เปิ้ล 'เสนาะ' นั่งบนภู

ศึกสามก๊กสระแก้ว ยกแรก ‘ขวัญเรือน ‘ ส่งลูกชาย ฐานิสร์ รักษาเก้าอี้นายก อบจ. รอชมยกสอง ‘เสนาะ’ ขอยืนบนภู ดูบ้านใหญ่นายแม่ ปะทะบ้านใหม่เจ๊เปิ้ล

ศึกเลือกตั้งท้องถิ่นสระแก้ว ขวัญเรือน ส่งลูกชาย ฐานิสร์ รักษาเก้าอี้นายก อบจ. เสนาะขอยืนบนภู ดูบ้านใหญ่นายแม่ ปะทะบ้านใหม่เขาฉกรรจ์

สามก๊กสระแก้วในสังเวียน สส. ก๊กขวัญเรือน พึ่งบารมีป้อม พร้อมรบก๊ก สจ.เปิ้ล ส่วนก๊ก เสนาะ ขอลุ้น 1 ที่นั่งที่ชายแดนตาพระยา

หลังจาก ขวัญเรือน เทียนทอง ได้ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งนายก อบจ.สระแก้ว กกต.จึงได้เปิดรับสมัครตำแหน่งนายก อบจ.ระหว่างวันที่ 13 -17 ก.พ.2566 โดยจะจัดให้มีการเลือกตั้งในวันที่ 26 มี.ค.2566

นั่นหมายความว่า จ.สระแก้ว จะมีการเลือกตั้ง 2 รอบในปีนี้ คือ เลือกตั้งนายก อบจ. และเลือกตั้ง สส.

ดูเหมือนการเลือกตั้งนายก อบจ.สระแก้ว จะไม่ตื่นเต้นเท่าที่คาดไว้ เมื่อ ฐานิสร์ เทียนทอง ลาออกจาก สส. ลงชิงเก้าอี้นายก อบจ. แทนนายแม่-ขวัญเรือน เทียนทอง โดยมีคู่แข่งคือ อัคลีมา คลังเพชร อดีตผู้สมัคร สส.สระแก้ว พรรคเสรีรวมไทย

คนสระแก้ว น่าจะให้ความสนใจการเลือกตั้ง สส.สระแก้ว มากกว่า เพราะสมัยหน้า จะเกิดศึกสามก๊ก-สามพรรค พร้อมลงสนามชิงเก้าอี้ สส. 3 ที่นั่ง

คู่เอกจะเป็นก๊กบ้านใหญ่นายแม่-ขวัญเรือน กับก๊กบ้านใหม่เขาฉกรรจ์ ของเจ๊เปิ้ล-ดรุณี พูนประสิทธิ์ ส่วนก๊กบ้านใหญ่วัฒนานครของ เสนาะ เทียนทอง น่าจะเป็นตาอยู่ คอยคว้าพุงปลาไปกิน



แค้นเจ้าพ่อวังน้ำเย็น



ขวัญเรือน แยกทางกับ เสนาะ มาแต่การเลือกตั้ง ส.ส.สมัยที่แล้ว แม้จะยังมีสายสัมพันธ์ทางเครือญาติ แต่ในสนามเลือกตั้งก็ต้องต่อสู้กัน

ลึกๆ แล้ว เสนาะ เทียนทอง ยังแค้นในหัวอก อันเนื่องจากผลการเลือกตั้งปี 2562 ทีมผู้สมัคร สส.พรรคเพื่อไทยพ่ายเรียบ และเป็นการพ่ายยกจังหวัดของป๋าเหนาะ ในรอบ 40 ปี


จะว่าไปแล้ว ป๋าเหนาะทำใจล่วงหน้าว่า เขต 1 และเขต 2 สระแก้ว คงสู้ทีมหลานรักฐานิสร์-ตรีนุช ไม่ได้ แต่เขต 3 (อ.อรัญประเทศ และอ.ตาพระยา) ลูกชาย บอย-สรวงศ์ เทียนทอง ต้องชนะ

บังเอิญว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นแม่ทัพใหญ่พรรคพลังประชารัฐ สระแก้ว สุรศักดิ์ ชิงนวรรณ์ นักการเมืองท้องถิ่นเมืองอรัญฯ จึงเอาชนะลูกชายป๋าเหนาะขาดลอย

สมัยหน้า เสนาะ เทียนทอง ในวัย 80 กว่าปี ก็หวังว่า สรวงศ์ เทียนทอง จะกำชัยได้เป็น สส.อีกครั้ง ส่วนเขตอื่นๆ คงลุ้นยาก เพราะคู่แข่งสายแข็งทั้งนั้น

เสนาะ เทียนทอง ฉายาเจ้าพ่อวังน้ำเย็นเสนาะ เทียนทอง ฉายาเจ้าพ่อวังน้ำเย็น

เฉพาะเขต 1 ขวัญเรือน เทียนทอง น้องสะใภ้ป๋าเหนาะ จะลงสนามเองในสีเสื้อพรรค พปชร. ต้องต่อสู้กับผู้สมัคร สส.ค่ายบ้านใหม่เขาฉกรรจ์ ในสีเสื้อพรรคภูมิใจไทย

ดังนั้น ป๋าเหนาะและพรรคเพื่อไทย จึงเป็นตาอยู่ รอเก็บเกี่ยวแต้มจากประชาชนที่ไม่เลือกขั้วนายแม่ กับเจ๊เปิ้ล

บ้านใหม่ใจถึง



ศึกเลือกตั้งนายก อบจ. ขวัญเรือน อาจไม่เหนื่อยมากนัก เพราะคู่แข่งของฐานิสร์ เทียนทองนั้น กระดูกคนละเบอร์

อัคลีมา คลังเพชร ผู้สมัครนายก อบจ.สระแก้ว ในนามกลุ่มสระแก้วจัดการตนเอง ที่มี ผู้กองทศ-ร.อ.ทองวราห์ มากสาคร รองประธานสภา อบจ.สระแก้ว เป็นกองหนุน อาจถูกมองว่าห่างชั้นกับฐานิสร์ อดีต ส.ส.สระแก้ว 5 สมัย และอดีตรัฐมนตรีหลายกระทรวง

ผู้กองทศ-ร.อ.ทองวราห์ มากสาคร อาจใช้สนามนายก อบจ. ทดสอบขุมกำลังภาคประชาชน ในการตรวจสอบการเลือกตั้งท้องถิ่น

สำหรับการเลือกตั้ง สส.สระแก้ว จะเป็นสังเวียนเดิมพันอนาคตบ้านใหญ่สวนน้ำหรือบ้านใหญ่นายแม่ เมื่อขวัญเรือน เทียนทอง ในสีเสื้อพรรค พปชร. จะต้องเจอกับเจ๊เปิ้ล-ดรุณี พูนประสิทธิ์ อดีตประธานสภา อบจ.สระแก้ว พรรคภูมิใจไทย

ลำพังเจ๊เปิ้ล ดรุณีคนเดียว คงไม่มีกล้าชนขวัญเรือน ที่อยู่ใต้ร่มเงาลุงป้อม หากไม่มีทีมผู้กองทศ-ร.อ.ทองวราห์ มากสาคร อดีตผู้กองทหารพราน ผู้ไม่ยอมก้มหัวให้ตระกูลเทียนทอง เป็นกองหนุน

ศึกเลือกตั้งสส.สระแก้ว สมัยหน้า จึงจะเป็นการพิสูจน์บารมี พลเอก กับความห้าวและใจถึงของร้อยเอก ใครจะเป็นผู้ชนะ