คนเลี้ยงม้า

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือเส้นทางเศรษฐี

http://info.matichon.co.th/rich/rich.php?srctag=07078150858&srcday=2015-08-15&search=no

วันที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2558 ปีที่ 21 ฉบับที่ 379

อาชีพที่ไม่เหมือนเรา

ไมตรี ลิมปิชาติ

คนเลี้ยงม้า

ฟาร์มหมอปอ คือชื่อของฟาร์มเลี้ยงม้า

ที่มีชื่ออย่างนี้ก็เพราะ เจ้าของฟาร์มคือ นายแพทย์นภดล สโรบล มีชื่อเล่นว่า ปอ

ผมโชคดีที่ตอนไปชมฟาร์มหมอปอ มีโอกาสได้พบกับหมอปอ ที่กำลังรับรองแขกต่างประเทศขณะเข้าชมฟาร์มอยู่พอดี

เพราะตรงกับวันอาทิตย์ที่หมอปอไม่ต้องไปรักษาคนป่วยที่โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ซึ่งเป็นงานประจำของหมอ

ผมจึงได้สอบถามโน่น นี่ นั่น เกี่ยวกับการเลี้ยงม้าได้อย่างค่อนข้างละเอียดพอสมควร เพียงแต่ผมคงนำมาเขียนให้ละเอียดตามไม่ได้ เพราะยาวมาก เขียนเล่าได้เพียงคร่าวๆ ว่า

เริ่มต้นเดิมทีหมอปอได้เลี้ยงม้าด้วยใจรัก เป็นความรักม้ามาตั้งแต่ปู่ย่าตาทวด พ่อของหมอปอก็ชอบม้า มาถึงหมอปอก็ชอบ เพื่อสนองความชอบจึงเลี้ยงม้าเสียเลย ทว่ามัวเป็นหมอเสียเพลิน จนอายุผ่านเข้า 57 ปี เพิ่งมาเริ่มเลี้ยงม้าเมื่อ 4 ปีมานี้เอง

เดิมทีหมอปอเลี้ยงม้าเพียงไม่กี่ตัว เป็นม้าที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ ราคาตัวละเฉลี่ยประมาณ 600,000 บาท

เลี้ยงไปเลี้ยงมา ม้าช่วยกันออกลูกออกหลาน อีกทั้งยังได้ซื้อม้ามาเพิ่มใหม่บ้างจนปัจจุบันมีเกือบร้อยตัว

ประสบการณ์ของหมอปอจนกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องม้า เพราะจะมีคนเอาม้ามาขอผสมพันธุ์บ้าง มาให้หมอปอช่วยดูแลรักษาบ้าง หมอปอสามารถรักษาดูแลม้าได้เป็นอย่างดีทั้งๆ ที่เป็นหมอรักษาคน

ราคาซื้อขายม้าพูดให้ชัดไม่ได้เพราะม้าที่เลี้ยงไว้มีหลายสายพันธุ์ เช่น

สายพันธุ์ม้าที่สวยที่สุดในโลก

สายพันธุ์ม้าที่เล็กที่สุดในโลก

ขณะที่ผมยืนพูดคุยกับหมอปอ ผมยังได้เห็นม้าตัวใหญ่มาก มีทั้งสีขาวทั้งตัว และดำสนิททั้งตัว

“ทั้ง 2 ตัวนี้ถือว่าเป็นม้าที่มีราคาแพง ตัวหนึ่งๆ มีราคาเป็นล้านบาทขาดตัว” หมอปอ บอกให้ผมรู้

ระยะแรกๆ หมอปอเลี้ยงม้าด้วยความรักก็จริง แต่พอมีม้ามากขึ้นก็ได้เปลี่ยนจากความรักเป็นธุรกิจเสียเลย โดยเปลี่ยนจากฟาร์มเลี้ยงม้าให้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงปศุสัตว์ที่นิยมทำกันในต่างประเทศทั่วโลก

ฟาร์มหมอปอเปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวมาได้เพียงปีกว่าๆ เท่านั้น แต่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวค่อนข้างน่าพอใจ

ขณะที่ผมกำลังสัมภาษณ์หมอปอ มีผู้ปกครองพาเด็กกลับมาจากการเก็บไข่ไก่หลายคน

เด็กอีกจำนวนหนึ่งกำลังเดินไปขี่ม้าและทำกิจกรรมที่ฟาร์มหมอปอจัดไว้ให้ เช่น

ควบม้าออกทุ่งกว้างสำหรับคนที่ขี่ม้าเป็นแล้ว

ส่วนคนที่ยังขี่ม้าไม่เป็นก็จะใช้วิธีนั่งบนหลังม้า แล้วให้คนเลี้ยงจูงเข้าป่าและท้องทุ่งที่สวยงามของเขาใหญ่ ทำให้ผู้ขี่ม้าได้ตื่นเต้นกับการนั่งหลังม้าและบรรยากาศของเขาใหญ่

นอกจากนี้ ก็ยังจัดให้นักท่องเที่ยวได้ฝึกเลี้ยงม้าด้วยการป้อนหญ้าให้ม้ากิน อาบน้ำม้า และที่น่าสนใจก็คือ การเรียนขี่ม้า ซึ่งใช้เวลาไม่นานก็จะขี่เป็น แต่จะให้ชำนาญเหมือนพระเอกคาวบอยต้องใช้เวลานาน จะนานเท่าไรอยู่ที่คนขี่แต่ละคน

นอกเหนือจากนี้ก็จะมีกิจกรรมขับรถแทรกเตอร์ และลงเล่นน้ำที่ลำตะคอง

เพื่อให้ความสะดวกกับนักท่องเที่ยวเพราะส่วนใหญ่จะพาบุตรหลานมาด้วย ฟาร์มหมอปอจึงได้จัดทำที่พักไว้ให้เช่าพักด้วย

สถานที่พักตั้งอยู่ในทำเลเหมาะ เพราะใกล้น้ำ ใกล้ป่า

ขณะพักอยู่ที่นี่พอตื่นนอนตอนเช้าเปิดหน้าต่างออกไปก็จะได้สัมผัสกับความเป็นธรรมชาติ แล้วยังจะได้ทักทายกับม้าตัวโปรดได้ด้วย เด็กบางคนสามารถไปที่เล้าไก่เพื่อเก็บไข่ไก่ได้ด้วย

ผมฟังหมอปอพูดแล้วทำให้อยากพาลูกหลานมาพัก เพราะจะได้รับรสชาติที่แปลกใหม่จากที่เคยเที่ยวทั่วไป และเชื่อว่าเด็กๆ คงจะชอบ

หมอปออธิบายถึงการเลี้ยงม้าอย่างคร่าวๆ ว่า

ม้าออกจากท้องแม่ได้ประมาณ 15 วันก็จะเดินได้ ระยะแรกจะกินนมแม่ หลังผ่านไปเพียงไม่กี่เดือนก็จะกินหญ้า

ม้าตัวเมียมีอายุประมาณ 3 ปีขึ้นไปจึงจะเป็นสาว สามารถมีสามี มีลูกได้ ม้าตั้งท้องใช้เวลา 11 เดือน ออกลูกครั้งละตัว ถ้าตรวจพบว่าจะมีลูก 2 ตัว จะต้องทำให้ลูกตัวหนึ่งตาย

ม้าตัวผู้สามารถผสมพันธุ์กับม้าตัวเมียได้หลายตัว มีเมียได้หลายตัวว่างั้นเถอะ

ถ้าผู้ใดจะเอาม้าตัวเมียมาผสมกับม้าตัวผู้ที่เป็นพันธุ์ดีๆ จะต้องจองล่วงหน้า และต้องจ่ายค่าผสมพันธุ์ให้ครั้งละประมาณ 30,000 บาท

มาถึงตรงนี้ ผู้ชายหลายคนคงอิจฉาม้าตัวผู้ ไปตามๆ กัน

ม้าตัวผู้กับม้าตัวเมียมีความแข็งแรงใกล้เคียงกัน ทั้งนี้ วัดจากการวิ่ง แต่สำหรับม้าแข่งจะใช้ม้าตัวเมียมากกว่าม้าตัวผู้

เมื่อผมถามด้วยความอยากรู้ต่อว่า ม้าที่เลี้ยงไว้เคยตายบ้างไหม ได้รับคำตอบว่า

ม้าที่เลี้ยงไว้มีทั้งเกิดและตาย ตายแล้วก็ฝัง ไม่เคยคิดที่จะกินเนื้อม้าเหมือนต่างประเทศบางแห่ง โดยเฉพาะชาวสวิสนิยมกินเนื้อม้ากันมาก

เหตุที่ไม่กินเนื้อม้าก็เพราะเมื่อเลี้ยงมันแล้วก็จะรู้สึกผูกพันกินไม่ลง

อายุของม้าโดยเฉลี่ยมีชีวิตอยู่ประมาณ 25 ปี

ม้าตัวที่แก่ที่สุดในฟาร์มแห่งนี้มีอายุ 13 ปี ถือว่ายังเป็นม้าหนุ่มสาว ยังไม่แก่

เมื่อผมถามว่า ถ้าม้าที่เลี้ยงไว้มีอายุมากจนถึงเวลาต้องตายจะทำอย่างไร

หมอปอหยุดคิดนิดหนึ่งก่อนตอบว่า

“ยังไม่คิดถึงเวลานั้นครับ เพราะผมอาจจะตายก่อนม้าก็ได้ แต่ที่แน่ๆ จะไม่ฆ่าม้าแก่เพื่อนำมาเป็นอาหารเด็ดขาด”

ผมยอมรับว่า การได้ไปชมฟาร์มม้าแห่งนี้แล้ว ทำให้ชอบมาก น่าเสียดายที่ผมขี่ม้าไม่เป็น ไม่นั้นจะขอขี่ม้าชมทุ่งเขาใหญ่ให้ได้สนุกไปเลย

อย่างไรก็ตาม ถ้าผู้ใดอยากพาลูกหลานไปสนุกสนานกับฟาร์มหมอปอ ติดต่อโทรศัพท์สอบถามรายละเอียดได้ที่ คุณศรีไพร โทรศัพท์ (093) 529-1919

เกือบลืมบอกไปว่า ฟาร์มหมอปอตั้งอยู่บนเนื้อที่ 16 ไร่ บ้านคลองเสือ ตำบลหมูสี อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา

Leave a comment