ภูมิบ้านภูมิเมือง : ‘ชุมชนวัดพระธาตุผาเงา’ ภูมิวิถีวัฒนธรรมชาวบ้านสบคำ

SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

https://www.naewna.com/lady/804061

ภูมิบ้าน ภูมิเมือง : ‘ชุมชนวัดพระธาตุผาเงา’ ภูมิวิถีวัฒนธรรมชาวบ้านสบคำ

ภูมิบ้าน ภูมิเมือง : ‘ชุมชนวัดพระธาตุผาเงา’ ภูมิวิถีวัฒนธรรมชาวบ้านสบคำ

วันอาทิตย์ ที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2567, 08.09 น.

บ้านสบคำริมแม่น้ำโขง

อาทิตย์นี้ได้เดินทางไปเหนือสุดที่อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย ด้วย นางยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร ปลัดกระทรวงวัฒนธรรมเป็นประธานพิธีเปิดสุดยอดชุมชนต้นแบบ “เที่ยวชุมชน ยลวิถี” ที่วัดพระธาตุผาเงาบ้านสบคำ และลานวัฒนธรรมสร้างสุข โดยมีพระพุทธิญาณมุนี เจ้าคณะจังหวัด

วัดพระธาตุผาเงา (บ้านสบคำ) แห่งนี้ได้รับรางวัล ๑๐ สุดยอดชุมชนต้นแบบ “เที่ยวชุมชน ยลวิถี” ประจำปีพ.ศ.2566 จาก ๗๖ ชุมชนทั่วประเทศ ตามโครงการของกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) ที่จัดโครงการ “เที่ยวชุมชนยลวิถี” มาตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๕๖๔

พระสยามเทวาธิราช

ชุมชนบ้านสบคำนี้เป็นชุมชนที่ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำโขงทางด้านทิศตะวันตกของอ.เชียงแสน จ.เชียงราย วัดของชุมชนนี้คือ วัดพระธาตุผาเงา ที่มาจากเรื่องพระธาตุ ที่ตั้งอยู่บนยอดหินก้อนใหญ่มีลักษณะคล้ายรูปทรงเจดีย์ส่วนคำว่า “ผาเงา” นั้นก็คือ เงาของก้อนหินจึงตั้งชื่อว่า “พระธาตุผาเงา” ซึ่งเป็นบริเวณของพื้นที่ประวัติศาสตร์ที่รู้จักกันดีว่า เมืองเชียงแสนน้อย หรือเวียงปรึกษา เมื่อมีการขุดตรวจทางโบราณคดีได้ค้นพบ “พระพุทธรูปหลวงพ่อผาเงา” เมื่อวันที่ ๑๗ มีนาคม ๒๕๑๙ คาดว่าโบราณวัตถุนี้มีอายุเก่าแก่ถึง ๑,๓๐๐ ปี ภายในวัดพระธาตุผาเงานั้นมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ประชาชนมาสักการะและท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี นับเป็นแหล่งท่องเที่ยวและแหล่งเรียนรู้ด้านศาสนา ศิลปะ วัฒนธรรม และประวัติศาสตร์ ที่ยังรักษาวิถีวัฒนธรรมของชาวบ้านสบคำ ซึ่งเป็นชาวไทยเชื้อสาย ไท-ลาว ไท-ยวน ไท-ลื้อ และจัดเส้นทางท่องเที่ยวเชื่อมโยงจากวัดพระธาตุผาเงา ไปยังสถานที่อีกหลายแห่ง ได้แก่ สกายวอล์กผาเงาสามแผ่นดิน ลานชมวิวที่สามารถมองเห็นแม่น้ำโขงและพื้นที่รอยต่อของ ๓ ประเทศ ได้แก่ ไทย ลาว และ เมียนมา โดยเห็นบริเวณแม่น้ำโขงที่มีแม่น้ำสาขาตัดผ่าน ซึ่งเป็นจุดชมวิวชายแดนที่นักท่องเที่ยวนิยมขึ้นมาสักการะพระเจดีย์และถ่ายรูป ด้วยมีซุ้มประตูที่ด้านบนเป็นยอดเจดีย์สีทองสวยงาม มีความคล้ายกับประตูบริเวณสามเหลี่ยมทองคำ ซุ้มรูปหัวใจ เก้าอี้ และป้ายชื่อจุดชมวิว ในวัดพระธาตุผาเงานั้นยังมีหอพระไตรปิฎกเฉลิมพระเกียรติฯ หอพระบรมฉายามหาราชพุทธิรังสรรค์ หอวัฒนธรรมนิทัศน์และพิพิธภัณฑ์ผ้าทอล้านนาเชียงแสนจุดชมวิวสองฝั่งโขงบ้านสบคำ และวัดสบคำ เป็นต้นโดยเฉพาะการแสดงศิลปวัฒนธรรม เพื่อต้อนรับแขกเมือง มีชุด “ตีกลองหลวง” โดยกลุ่มตีกลองหลวงวัดพระธาตุผาเงา

การทอผ้าของไทลื้อ

ชุมชนต้นแบบที่ได้รับการคัดเลือกจากกระทรวงวัฒนธรรมนั้นมีมาแล้วกว่า ๓๐ ชุมชน ตามนโยบายของรัฐบาล ในการขับเคลื่อน Soft Power ของไทยสู่นานาชาติ ด้วยการนำต้นทุนทางวัฒนธรรมของชุมชน มาพัฒนาต่อยอด สร้างสรรค์สินค้าและบริการ โดยชุมชนนั้นได้น้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมีผู้นำ “พลังบวร” และเครือข่ายที่เข้มแข็ง ประชาชนมีความสุขมีความรักสามัคคี มีการสืบสาน รักษา ต่อยอด ภูมิปัญญาของท้องถิ่น ซึ่งยืนยันได้ว่า ชุมชนแห่งนี้เป็นชุมชนที่มีศักยภาพมีคุณภาพ และมีความพร้อมด้านการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมสร้างสรรค์ในทุกมิติ สามารถต่อยอดไปสู่การท่องเที่ยวคุณภาพสูงเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวทุกประเภทอย่างยั่งยืนสืบไป ที่ศึกษาเรียนรู้ อัตลักษณ์ วิถีชีวิต วัฒนธรรม และประเพณีของชุมชนมากยิ่งขึ้น อาหาร คือ ปลาเนื้ออ่อนทอดกระเทียม และ ลาบปลาแม่น้ำโขง รวมถึงยังมีผลิตภัณฑ์ทางวัฒนธรรม คือ ผ้าทอล้านนาลายเชียงแสน และสมุนไพรวัดพระธาตุผาเงา เทศกาลประเพณีของชุมชนมีประเพณีสรงน้ำพระธาตุผาเงา ในช่วง ๑๒-๒๐ เมษายนของทุกปี ประเพณีบุญข้าวประดับดินในวันแรม ๑๔ ค่ำ เดือน ๙ ของทุกปี และประเพณีไหลเรือไฟ ๑๒ ราศี เป็นต้น จึงเป็นชุมชนที่มีผู้คนมาเที่ยวมากมายนอกเหนือจากการชมเมืองโบราณสถานของเชียงแสนที่มีอยู่ตามเวียงต่างๆ ทั่วเมือง

ผู้บริหารวัฒนธรรม วัด และจังหวัดเชียงราย

ผู้บริหารวัฒนธรรม วัด และจังหวัดเชียงราย

ช่างสลักดุนพื้นบ้าน

ช่างสลักดุนพื้นบ้าน

สกายวอล์กชมวิวแม่น้ำโขง

สกายวอล์กชมวิวแม่น้ำโขง

วิวแม่น้ำโขง

วิวแม่น้ำโขง

พิธีเปิดชุมชนบ้านสบคำ

พิธีเปิดชุมชนบ้านสบคำ

พระพุทธรูปโบราณ

พระพุทธรูปโบราณ

พระธาตุผาเงา

พระธาตุผาเงา

คุยกัน 7 วันหน : จาก ‘บิดาผู้เป็นมิตร’ ถึงคำสั่งปฏิญาณตนจงรักภักดี ตอกย้ำสถานะผู้นำสูงสุด ‘คิม จอง-อึน’

SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

https://www.naewna.com/lady/804077

คุยกัน 7 วันหน : จาก ‘บิดาผู้เป็นมิตร’  ถึงคำสั่งปฏิญาณตนจงรักภักดี  ตอกย้ำสถานะผู้นำสูงสุด ‘คิม จอง-อึน’

คุยกัน 7 วันหน : จาก ‘บิดาผู้เป็นมิตร’ ถึงคำสั่งปฏิญาณตนจงรักภักดี ตอกย้ำสถานะผู้นำสูงสุด ‘คิม จอง-อึน’

วันอาทิตย์ ที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2567, 06.15 น.

เมื่อเดือนที่แล้ว เกาหลีเหนือเปิดตัวเพลงยกย่อง คิม จอง-อึน ผู้นำประเทศให้เป็น “บิดาผู้เป็นมิตร” โดยมีการออกอากาศมิวสิกวีดีโอประกอบเพลงผ่านสถานีโทรทัศน์ของทางการ

มิวสิกวีดีโอเพลงชื่อ Friendly Father – บิดาผู้เป็นมิตร ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์กลางเกาหลีของเกาหลีเหนือ เป็นภาพของคิม จอง-อึน ปรากฏตัวท่ามกลางฝูงชนห้อมล้อมตามสถานที่ต่างๆ มีตั้งแต่เด็กนักเรียน ทหาร ไปจนถึงบุคลากรทางการแพทย์ แทรกด้วยภาพนักร้องนักดนตรีที่ร้องและบรรเลงเพลงนี้ เนื้อเพลงบางท่อนยกย่อง คิม จอง-อึน ว่าเป็นผู้นำที่ยิ่งใหญ่ เป็นบิดาที่เป็นมิตร ด้วยจังหวะดนตรีป๊อป เร้าใจ ฟังสนุก แต่เนื้อเพลงยังคงกลิ่นอายเกาหลีเหนือ ที่ยังคงกระตุ้นคนในชาติให้ทำเพื่อผลประโยชน์ของชาติ และเชิดชูผู้นำสูงสุดอย่าง คิม จอง-อึน อย่างมีนัยซ่อนเร้น โดยเรียกว่า “บิดา” แทน “ผู้สืบทอด” จนเพลงนี้กำลังดังเป็นกระแสไวรัลในติ๊กต็อกเรียบร้อยแล้ว อีกทั้งยังอาจเป็นสารที่ คิม จอง-อึน ใช้ขยับสถานะตัวเองให้ดูชัดเจนขึ้นต่อประชาชนในประเทศว่า เขาคือ “บิดาที่เป็นมิตร” ของทุกคน

ผู้สันทัดกรณีระบุว่า ในเพลงนี้ คิม จอง-อึน ถูกเรียกว่าเป็น “บิดา”และ “ผู้ยิ่งใหญ่” ซึ่งก่อนหน้านี้ คำเหล่านี้จะใช้เรียกเฉพาะกับ คิม อิล ซุง ผู้นำคนแรกของเกาหลีเหนือ ซึ่งเป็นปู่ของเขาเท่านั้น ขณะที่ คิม จอง-อึน ได้รับการเรียกขานว่าเป็น “ผู้สืบทอดผู้ยิ่งใหญ่” มาตลอดตั้งแต่ตอนที่เขาก้าวขึ้นสู่อำนาจในปี 2012 หลังผ่านไปกว่า 1 ทศวรรษ ทำให้นักวิเคราะห์มองว่า นี่อาจเป็นสัญญาณว่าเขากำลังขยับภาพลักษณ์ของเขาในฐานะผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ

ดร.เอ็ดเวิร์ด โฮเวลส์ ผู้เชี่ยวชาญด้านเกาหลีเหนือจากมหาวิทยาลัยออกซฟอร์ดในอังกฤษ ให้สัมภาษณ์กับ BBC วิเคราะห์เนื้อหาที่ทำออกมามีความแตกต่างจากเพลงเก่า ตรงที่ไม่มีภาพของ คิม จอง-อึน ยืนมองการปล่อยจรวดขีปนาวุธ แสดงความน่าเกรงขามของเหล่ายุทโธปกรณ์ของเกาหลีเหนือ ซึ่งมองเห็นนัยที่ซ่อนเร้นไว้ได้ 2 ประการ

ประการแรก ภาพมิวสิกวีดีโอเพลงปลุกใจคนในชาติตัวล่าสุดนี้ ถูกปรับโฉมให้ดูสบาย เข้าถึงง่าย และมีแต่รอยยิ้มของผู้นำเกาหลีเหนือที่มีต่อประชาชน ประชาชนชาวเกาหลีเหนือใช้ชีวิตอย่างมีความสุข เข้าถึงเทคโนโลยีที่ทันสมัย ซึ่งอาจจะดูย้อนแย้งกับมุมมองที่โลกมีต่อเกาหลีเหนือ มิวสิกวีดีโอเพลงนี้สื่อให้เห็นว่าเกาหลีเหนือก็เป็นเหมือนประเทศอื่นๆ ทั่วไป และคนในประเทศไม่ได้ถูกกดขี่ และสะท้อนภาพของคิม จอง-อึน ว่าไม่ได้เป็นเสมือนตัวแทนของพ่อและปู่ของเขา แต่เขาคือผู้นำเผด็จการที่อบอุ่นของทุกคน

เพลงโฆษณาชวนเชื่อล่าสุดเพลงนี้ ยังเป็นเพลงเร็ว มีจังหวะที่สดใส ฟังแล้วติดหูอย่างมาก มีกลิ่นอายของยุคโซเวียต ผู้ใช้งานติ๊กต็อก เจน Z บัญชีหนึ่งบอกว่า มันคือแนวเพลงแบบ ABBA วงดนตรีระดับตำนานของสวีเดน เสียงร้องอยู่ในระดับที่คนทั่วไปสามารถร้องได้ไม่เน้นคีย์สูงต่ำแบบนักร้องมืออาชีพ

อีกประการหนึ่ง นักวิเคราะห์เกาหลีเหนือพบว่า มีคำศัพท์หลายคำในเพลงนี้ที่ระบุชัดว่า คิม จอง-อึน ต้องการยืนยันภาพลักษณ์ของเขาในฐานะผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ นอกจากนั้น เขายังเปลี่ยนเนื้อเพลงในเพลงโฆษณาชวนเชื่ออีกเพลงหนึ่ง โดยเปลี่ยนท่อนที่เคยร้องว่า “บิดาของเรา คิม อิล-ซุง” เป็น “บิดาของเราคิม จอง-อึน” อีกด้วย ถือเป็นสัญญาณเกี่ยวกับทิศทางใหม่ของ คิม จอง-อึน ในฐานะผู้นำที่มีโวหารก้าวร้าวและเป็นปรปักษ์มากขึ้นเรื่อยๆ จากการให้คำมั่นว่าจะสร้างประเทศด้วยคลังแสงทางการทหาร

ขณะที่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว สถาบันพัฒนาฝ่ายเหนือและใต้ (South and North Development (SAND) Institute) ซึ่งเป็นสำนักวิจัยของเกาหลีใต้ในกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ ออกมาเปิดเผยหลักฐานที่ว่า รัฐบาลเกาหลีเหนือออกมาประกาศเป็นครั้งแรก ให้ประชาชนชาวเกาหลีเหนือพร้อมใจกันปฏิญาณตน ว่าจะจงรักภักดีต่อ คิม จอง-อึน เนื่องในวันคล้ายวันเกิดของผู้นำประเทศ เมื่อวันที่ 8 มกราคมที่ผ่านมา ซึ่งเชื่อว่าเป็นวันครบรอบวันคล้ายวันเกิด 40 ปีของ คิม จอง-อึน ถือเป็นครั้งแรกที่รัฐบาลเกาหลีเหนือออกคำสั่งดังกล่าว นับตั้งแต่ คิม จอง-อึน ขึ้นสู่อำนาจในปี 2011

ที่ผ่านมา รัฐบาลเกาหลีเหนือไม่เคยเปิดเผยว่า คิม จอง-อึน เกิดเมื่อใด แต่การขอความร่วมมือให้ประชาชนปฏิญาณตนว่าจะจงรักภักดีต่อผู้นำคิม ทำให้ประธานสถาบันพัฒนาฝ่ายเหนือและใต้ มองว่านี่เป็นความพยายามยกสถานะของคิม จอง-อึน ให้เป็นผู้นำสูงสุด อีกทั้งยังเชื่อว่า อาจเป็นความพยายามของ คิม จอง-อึน ที่ให้ดำเนินการดังกล่าวด้วยตนเอง

ประธานสถาบันพัฒนาฝ่ายเหนือและใต้ยังเชื่อว่า เกาหลีเหนืออาจเตรียมประกาศให้วันเกิดของ คิม จอง-อึน เป็นวันหยุดสำคัญของประเทศ อย่างเร็วที่สุดในปีหน้า
เนื่องจากในปีนี้ เป็นปีแรกที่วันที่ 15 เมษายนที่ผ่านมา อันเป็นวันคล้ายวันเกิดของ คิม อิล-ซุง ผู้ก่อตั้งประเทศเกาหลีเหนือ และเป็นปู่ของ คิม จอง-อึนไม่ได้ถูกเรียกว่าวันแห่งสุริยะ อันเป็นการยกย่องผู้ก่อตั้งประเทศ โดยเรียกแบบกลางๆ ว่า “วันหยุดเมษายน”

กระทรวงรวมชาติเกาหลีใต้ให้ความเห็นปิดท้ายว่า การเปิดตัวเพลงยกย่อง คิม จอง-อึน เป็น “บิดาผู้เป็นมิตร” อีกทั้งการขอความร่วมมือประชาชนให้ปฏิญาณตนว่าจะจงรักภักดีต่อ คิม จอง-อึน และการส่งสัญญาณลดบทบาทเชิงสัญลักษณ์ของอดีตผู้นำ อาจเป็นความพยายามที่ทำให้เห็นว่า ผู้นำคนปัจจุบันแข็งแกร่งด้วยตัวเองโดยไม่ต้องอาศัยใบบุญของผู้นำรุ่นบรรพบุรุษ

ตอกย้ำสถานะผู้นำสูงสุด“คิม จอง-อึน” สามารถยืนหยัดเป็นผู้นำประเทศที่แข็งแกร่งได้ด้วยตนเอง ไม่ต้องพึ่งวิญญาณ บิดาและปู่อีกต่อไป

โดย ดาโน โทนาลี

คุณแหน : 12 พฤษภาคม 2567

SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

https://www.naewna.com/lady/804079

วันอาทิตย์ ที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2567, 06.00 น.

●● คณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ แถลงข่าวเปิดตัวเข็มวันอานันทมหิดล ประจำปี 2567 From Hands To Heart สองมือห่วงใย ดวงใจผูกพัน 17 พ.ค. 09.30 น.ณ โถงชั้น M อาคารรัตนวิทยาพัฒน์ รพ.จุฬาฯ สภากาชาดไทย เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร ผู้พระราชทานกำเนิด“แพทย์จุฬาฯ”เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคต9 มิถุนายน โดย รศ.นพ.ฉันชาย สิทธิพันธุ์คณบดีคณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ เป็นประธาน..

●● อนุโมทนาบุญกับ ดร.มนวิภาประชัญคดี พร้อมกัลยาณมิตร ถวายทองคำบริสุทธิ์โดยมี พระมหาธีรศักดิ์ ธีรปัญโญ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศ รับมอบเพื่อรวบรวมนำส่งให้กับกรมศิลปากร ในการดำเนินการบูรณะยอดพระบรมบรรพตภูเขาทอง วัดสระเกศ..

●● ดร.แพง ชินพงศ์ นายกสมาคมศิษย์วังหลังวัฒนา นำทีมกรรมการร่วมยินดีกับลานทิพย์ ทวาทศิน(เจน)เข้ารับตำแหน่งผู้จัดการโรงเรียนวัฒนาวิทยาลัย และศศิธร วัฒนกุล(ลอร่า)เข้ารับตำแหน่งผู้ช่วยผู้จัดการโรงเรียน..

●● ขอเชิญผู้ที่สนใจที่มีอายุมากกว่า 50 ปี และมีอาการปวดเข่า1 ข้าง มานานกว่า 3 เดือน เข้าร่วมโครงการวิจัยเรื่อง“การศึกษาประสิทธิผลของการรักษาด้วยเลเซอร์กำลังสูงต่อความปวดการอักเสบ การซ่อมแซมกระดูกอ่อนผิวข้อและความสามารถในการทำกิจกรรมในผู้ที่มีข้อเข่าเสื่อม”สถานที่วิจัย :ศูนย์กายภาพบำบัด เชิงสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า คณะกายภาพบำบัด มหาวิทยาลัยมหิดล ผู้ที่สนใจสามารถลงทะเบียนได้ที่ :https://forms.gle/kQzMJscF8HvL2qn68สอบถามเพิ่มเติม : ผศ.ดร.ภก.ทิพย์วดี บรรพระจันทร์ โทร.061-4691544ภก.ณัฏฐาภา อริยกิจสกุล โทร.080-6243041..

●● ดวงใจ-ธวัชชัย ตั้งสง่า มีหลานสาวน่ารักน่าชัง“ออดรีย์”คนล่าสุด มาเติมเต็มอีกหนึ่งจากครอบครัว ดีดี ตั้งสง่า..

●● จามรี วัฒนสุนทร เตรียมแพ็กกระเป๋าเดินทางไปส่งลูกสาวคนเล็กเรียนต่อปริญญาโทด้านการออกแบบตกแต่งภายในที่ CSN College of Southern NEVADA Las Vegas สหรัฐอเมริกา ต้นเดือนส.ค. แล้วอยู่ต่ออีก 3 เดือน..

●● ดร.พรสิทธิ์ศรีอรทัยกุล ทำบุญเลี้ยงพระเพลอุทิศกุศลแก่ ดร.สุณี ศรีอรทัยกุลศรีภรรยา ทุกวันอาทิตย์ที่บ้านเลขที่ 39 เดอะรอยัลเจมส์กอล์ฟ แอนด์ สปอร์ตคลับต.ศาลายา นครปฐม..●●

น้อง

ดันมาตรการ VRT เจาะตลาดนทท.ต่างชาติ

SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

https://www.naewna.com/lady/804066

วันอาทิตย์ ที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2567, 06.00 น.

ดร.อภิรดี ขาวเธียร รองผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.)เปิดเผยว่า เพื่อให้ผู้ประกอบการ SME มีโอกาสได้รับประโยชน์จากกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้น สสว. จึงร่วมกับกรมสรรพากร เดินหน้ามาตรการการคืนภาษีมูลค่าเพิ่มให้แก่นักท่องเที่ยว พร้อมทั้งหาแนวทางสนับสนุนและอำนวยความสะดวกให้ผู้ประกอบการ SME จดทะเบียนเข้าร่วมมาตรการ VRT ได้ง่ายขึ้น โดยจากสถิติการขึ้นทะเบียนเป็นผู้ขายสินค้าให้นักท่องเที่ยว (VRT) ของกรมสรรพากร พบว่า ภาพรวมมีร้านค้าทั่วประเทศขึ้นทะเบียนจำนวน 11,088 ร้านค้า ในจำนวนนี้เป็นร้านค้าของผู้ประกอบการ SME เพียง 2,000 ร้านค้า หรือคิดเป็น18% เท่านั้น ขณะที่ในพื้นที่กรุงเทพฯ มีผู้ประกอบการ SME ขึ้นทะเบียน VRT จำนวน 1,133 ร้านค้า หรือคิดเป็น 57%ของผู้ประกอบการ SME ที่ขึ้นทะเบียน VRT ทั้งประเทศ

“ในปี 2567 นี้ คาดว่าผู้ประกอบการ SME จะสามารถสร้างมูลค่าการขายสินค้าให้นักท่องเที่ยวต่างชาติได้ไม่น้อยกว่าปี 2566 รวมทั้งพัฒนาศักยภาพธุรกิจให้มีขีดความสามารถในการแข่งขันเพิ่มขึ้น สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจไทยให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง รวมไปถึงยังเป็นการสนับสนุนให้ SME เข้าสู่ระบบเพิ่มขึ้นมากอีกด้วย”

Science Update : จีนพบรอยเท้าไดโนเสาร์ “ไดโนนีคัส” ใหญ่สุดในโลก

SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

https://www.naewna.com/lady/804067

Science Update : จีนพบรอยเท้าไดโนเสาร์ “ไดโนนีคัส” ใหญ่สุดในโลก

Science Update : จีนพบรอยเท้าไดโนเสาร์ “ไดโนนีคัส” ใหญ่สุดในโลก

วันอาทิตย์ ที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2567, 06.00 น.

คณะนักวิทยาศาสตร์เปิดเผยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า การค้นพบรอยเท้าไดโนเสาร์สองนิ้วขนาดใหญ่ในตำบลหลินเฉิง มณฑลฝูเจี้ยนทางตะวันออกของจีน เป็นของไดโนเสาร์พันธุ์ไดโนนีคัส(deinonychosaurs)

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ช่วงหลายปีที่ผ่านมา กลุ่มนักวิทยาศาสตร์และผู้เชี่ยวชาญจากมหาวิทยาลัยธรณีศาสตร์แห่งประเทศจีน และพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติหินอิงเหลียงได้ค้นพบรอยเท้าของไดโนเสาร์อย่างน้อย 8 ชนิดบริเวณแหล่งรอยเท้าไดโนเสาร์หลงเสียง โดยรอยเท้า 12 รอยเป็นของไดโนเสาร์พันธุ์ไดแด็กทิล ไดโนนีคัส (didactyl deinonychosaur)

ในบรรดารอยเท้าสองนิ้วทั้ง 12 รอยข้างต้น พบรอยเท้าขนาดใหญ่ 5 รอยที่มีความกว้างเฉลี่ย 16.9 เซนติเมตร และความยาว 36.4 เซนติเมตร ซึ่งทำให้นักวิจัยสามารถจำแนกประเภทไดโนเสาร์เพิ่มใหม่ในชื่อ ฝูเจี้ยนนีปัส อิงเหลียงจี (Fujianipus yingliangi) และหากพิจารณาจากสัดส่วนนิ้วเท้า คาดว่าฝูเจี้ยนนีปัสอาจเป็นไดโนเสาร์ในวงศ์ทรูโอดอนทิด (troodontid)

สิง ลี่ต๋า รองศาสตราจารย์ประจำมหาวิทยาลัย กล่าวว่า ตอนนี้รอยเท้าเหล่านี้ถือเป็นรอยเท้าไดโนเสาร์ไดโนนีคัสขนาดใหญ่ที่สุดที่ค้นพบในจีนและที่อื่นๆ พร้อมเสริมว่าเมื่อพิจารณาจากขนาดของรอยเท้าแล้ว คาดว่าไดโนเสาร์ฝูเจี้ยนนีปัสอาจมีความยาวอย่างน้อย 5 เมตร และมีความสูงช่วงสะโพกเกือบ 2 เมตร และว่าแหล่งรอยเท้าไดโนเสาร์หลงเสียง เป็นแหล่งรอยเท้าไดโนเสาร์ยุคครีเทเชียสตอนปลายที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างดีที่สุด มีพื้นที่ใหญ่ที่สุด และมีความหลากหลายมากที่สุดที่ค้นพบในจีนจนถึงปัจจุบัน

Health News : จีนปรับปรุงบริการการแพทย์

SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

https://www.naewna.com/lady/804068

Health News : จีนปรับปรุงบริการการแพทย์

Health News : จีนปรับปรุงบริการการแพทย์

วันอาทิตย์ ที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2567, 06.00 น.

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สิงรั่วฉี รองหัวหน้าสำนักบริหารการแพทย์ สังกัดคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติจีน เปิดเผยว่าหน่วยงานสาธารณสุขของจีนให้ความสำคัญกับการปรับปรุงประสบการณ์ของผู้ป่วยขณะเข้ารับการดูแลทางการแพทย์ และมีการดำเนินสารพัดมาตรการเกี่ยวกับเรื่องนี้

สิงกล่าวว่ามีการดำเนินมาตรการต่างๆ เช่น ปรับปรุงกระบวนการนัดหมายทางการแพทย์เพื่อลดระยะเวลารอของผู้ป่วย และสนับสนุนโรงพยาบาลจัดสรรการบริการบำบัดรักษาแบบสหวิทยาการเพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของผู้ป่วย โดยปัจจุบันมีโรงพยาบาลให้บริการแบบสหวิทยาการกว่า 2,400 แห่ง

ขณะเดียวกันโรงพยาบาลเหล่านี้กำลังใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ เพิ่มขึ้น เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานที่เกี่ยวข้อง และคณะกรรมการฯ ดำเนินโครงการปรับปรุงการบริการดูแลและรักษาพยาบาลเพื่อรับรองผู้ป่วยและตอบสนองความต้องการทางคลินิกได้ดียิ่งขึ้นในปีที่ผ่านมา

สิงเสริมว่าปัจจุบันมีสถาบันการแพทย์มากกว่า 3,000 แห่ง ให้บริการที่เกี่ยวข้องตามบ้านของผู้ป่วย ขณะหลายภูมิภาคอย่างปักกิ่ง ซานตง และเจียงซู ดำเนินการปฏิรูปและปรับใช้ทรัพยากรจากสังคมเพิ่มเติมเพื่อให้บริการดูแลรักษาพยาบาลแก่ประชาชนสูงอายุ

แหวกฟ้าหาฝัน : เมืองเก่า Stein am Rhein

SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

https://www.naewna.com/lady/804059

แหวกฟ้าหาฝัน : เมืองเก่า Stein am Rhein

แหวกฟ้าหาฝัน : เมืองเก่า Stein am Rhein

วันอาทิตย์ ที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2567, 06.00 น.

นักท่องเที่ยวที่ไปเยือน Schaffhausen แล้วยังมีเวลาเหลือ อีกเมืองหนึ่งที่เก่าแก่น่ารัก ควรค่าแก่การแวะอย่างยิ่งก็คือ Stein am Rhein เมืองที่อยู่ทางทิศตะวันออกของ Schaffhausen ที่นั่งรถไฟไปเพียงแค่ 20 นาทีนี้เป็นเมืองที่อยู่ในมณฑล Schaffhausen เช่นกัน เมืองที่ถูกสร้างขึ้นครั้งแรกตั้งแต่ปี 1007 นี้ถือกำเนิดขึ้นเมื่อจักรพรรดิเฮนรี่ที่ 2 ได้ย้ายโบสถ์ St George จากที่ตั้งเดิมที่ Hohentwiel มายัง Stein am Rhein ซึ่งในช่วงเวลานั้นเป็นเพียงแค่หมู่บ้านชาวประมงเล็กๆ บนแม่น้ำไรน์ด้วยความหวังจะให้ที่นี่กลายเป็นศูนย์กลางของการค้าริมน้ำไรน์ นโยบายนี้ส่งผลให้หมู่บ้านกลายเป็นเมืองอย่างรวดเร็วและกลายเป็นเมืองที่มั่งคั่งที่สุดแห่งหนึ่งในคริสต์ศตวรรษที่ 15

เมื่อเมืองมั่งคั่งขึ้น เทศบาลเลยมีดำริที่จะปรับปรุงโบสถ์เก่าให้มีความทันสมัยมากขึ้นตามแนวทางศิลปะแบบGothic ในช่วงปฏิวัติที่มีการแยกระหว่างศาสนจักรและรัฐบาล ทางโบสถ์ได้แยกทรัพย์สินออกจากการดูแลของซูริค เมื่อซูริคสงสัยว่าเจ้าอาวาสต้องการที่จะเข้าร่วมกับราชวงศ์ Habsburg พวกเขาจึงจับเจ้าอาวาสขังไว้ แม้ท่านก็สามารถหนีออกไปได้ แต่ก็เสียชีวิตในเวลาต่อมาแม้เมืองจะโดนระเบิดจากกองทัพอากาศสหรัฐฯ ในวันที่ 22 กุมภาพันธ์ ปี 1945 จากความเข้าใจผิดเฉกเช่นเดียวกันกับ Schaffhausen แต่ภายในเมืองยังคงเต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมที่ควรค่าแก่การเป็นเมืองมรดกโลกอีกหลายแห่ง อาทิ โบสถ์ที่เคยเป็นสำนักสงฆ์ St George อันเป็นที่มาของการก่อตั้งเมือง สำนักสงฆ์ Benedictป้อมปราการและปราสาท Hohenklingenที่ถูกสร้างขึ้นในปี 1225 ศาลากลางจังหวัด ฯลฯ

เมืองที่ปัจจุบันมีประชากรเพียงแค่ 3 พันกว่าคนนี้มีภัตตาคารเพียงแค่ 16 แห่ง โรงแรม 10 แห่ง 435 เตียง แต่กลับเป็นเมืองที่นักท่องเที่ยวส่วนหนึ่งนิยมมาท่องเที่ยวทั้งนี้เพราะที่นี่ไม่เพียงมีอาคารประวัติศาสตร์หลายแห่งที่มีภาพปูนเปียกที่แสนสวยงามประดับประดาอยู่เต็มไปหมดชนิดที่ถ่ายรูปได้อย่างไม่รู้เบื่อแล้ว ยังเต็มไปด้วยอาคารบ้านเรือนริมน้ำที่แสนสวยงามอีกต่างหากด้วยสมกับที่เมืองได้รับรางวัล Wakker Prize รางวัลสำหรับเมืองที่มีสถาปัตยกรรมที่ควรค่าแก่การเป็นมรดกโลกในปี 1972

‘ไทยประกันชีวิต เสริมโอกาส สุขยั่งยืน’ เดินหน้าต่อเนื่องปีที่ 6 เพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันทางการค้าแก่กลุ่มวิสาหกิจชุมชน

SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

https://www.naewna.com/lady/804082

‘ไทยประกันชีวิต เสริมโอกาส สุขยั่งยืน’ เดินหน้าต่อเนื่องปีที่ 6  เพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันทางการค้าแก่กลุ่มวิสาหกิจชุมชน

‘ไทยประกันชีวิต เสริมโอกาส สุขยั่งยืน’ เดินหน้าต่อเนื่องปีที่ 6 เพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันทางการค้าแก่กลุ่มวิสาหกิจชุมชน

วันอาทิตย์ ที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2567, 06.00 น.

วราภรณ์ ลีกุลนิมิต ผู้อำนวยการสายงานกิจกรรมองค์กรเพื่อสังคม บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) และ พันทิพา วิศาลศักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานการพัฒนาชุมชน สำนักพัฒนาสังคมกรุงเทพมหานคร ร่วมเปิดโครงการ “ไทยประกันชีวิต เสริมโอกาส สุขยั่งยืน” กรุงเทพมหานคร กิจกรรมอบรมพัฒนาวิสาหกิจชุมชน ซึ่งได้ดำเนินต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 6 ด้วยการจัดอบรมหลักสูตร Micro Model แบบเข้มข้นตามแนวทาง “สอนให้ทำนำไปใช้ได้จริง” โดยมุ่งพัฒนาทักษะและเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันให้แก่วิสาหกิจชุมชนที่ประกอบธุรกิจการบริการด้านสุขภาพ และการท่องเที่ยวเชิงเกษตร สอดคล้องกับเจตนารมณ์ของไทยประกันชีวิตในการส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืนให้กับคนในสังคมไทย

Photo of the week : ภาพเด็ดประจำสัปดาห์

SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

https://www.naewna.com/lady/804058

Photo of the week : ภาพเด็ดประจำสัปดาห์

Photo of the week : ภาพเด็ดประจำสัปดาห์

วันอาทิตย์ ที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2567, 06.00 น.

ทัพรถหุ้มเกราะอิสราเอล ประจำการในคิบบุตซ์ เรอิม

ประมวลภาพยานพาหนะหุ้มเกราะของอิสราเอลที่ประจำการอยู่ใกล้กับภูมิภาคคิบบุตซ์ เรอิม ทางตอนใต้ของอิสราเอล

เจ้าหน้าที่อิสราเอลเผยกับสำนักข่าวซินหัวว่ากองทัพอิสราเอลจะเดินหน้าปฏิบัติการในเมืองราฟาห์ทางตอนใต้ของฉนวนกาซา “ตามแผนการ” หลังจากการเจรจาพักรบระหว่างอิสราเอล-กลุ่มฮามาส ในกรุงไคโรของอียิปต์ประสบความล้มเหลวเมื่อวันพฤหัสบดี (9 พ.ค.) ที่ผ่านมา

ขอบคุณภาพจาก สำนักข่าวซินหัว

ตะลอนเที่ยว : หิน จปร. เมืองกระบุรี

SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

https://www.naewna.com/lady/804057

ตะลอนเที่ยว : หิน จปร. เมืองกระบุรี

ตะลอนเที่ยว : หิน จปร. เมืองกระบุรี

วันอาทิตย์ ที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2567, 06.00 น.

พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์หรือสมเด็จพระปิยมหาราชเจ้า ทรงเป็นพระเจ้าแผ่นดินที่คนไทยระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณอยู่เสมอไม่เสื่อมคลายเพราะว่าทรงมีพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ต่อแผ่นดินสยาม หรือแผ่นดินไทยในปัจจุบัน

ใครก็ตามที่ได้ศึกษาประวัติศาสตร์ไทยในรัชสมัย รัชกาลที่ 5 จะต้องสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณในพระองค์ท่านอย่างมิต้องสงสัย เพราะทรงปกปักรักษาบ้านเมืองให้รอดพ้นจากภัยของลัทธิล่าอาณานิคมโดยมหาอำนาจตะวันตกในยุคประมาณเกือบ 200 ปีมาแล้ว โดยมหาอำนาจในยุคนั้นที่เข้ามาล่าอาณานิคมในแถบเอเชีย และเอเชียอาคเนย์ ได้แก่ อังกฤษและฝรั่งเศส

แต่ด้วยพระปรีชาสามารถในทุกๆ ด้าน พระองค์ท่านจึงทรงปัดเป่าให้ภัยจากการล่าอาณานิคมจางไปจากแผ่นดินสยามได้ แม้จะต้องเสียพื้นที่บางเขตไป แต่ก็ยังคงทรงรักษาเอกราชของสยามประเทศไว้ได้ ในขณะที่ประเทศรอบๆ สยามในยามนั้นล้วนต้องตกเป็นเมืองขึ้นของมหาอำนาจทั้งสิ้น  

วันนี้ Mr.Flower ขอพาคุณไปยังแหล่งประวัติศาสตร์ที่เป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างจังหวัดชุมพรกับระนอง ที่หลักกิโลเมตร 86 บนถนนเพชรเกษม เพื่อไปกราบถวายบังคมพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระปิยมหาราชเจ้า และกราบถวายบังคมพระปรมาภิไธยย่อ จปร. รวมถึงพระปรมาภิไธยย่อ ภปร. ในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และพระนามาภิไธยย่อ สก ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และพระนามาภิไธยย่อ สธในสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี โดยทั้งพระปรมาภิไธยย่อ จปร. และภปร. รวมถึงพระนามาภิไธย สก และ สธต่างประดิษฐานอยู่ ณ สถานที่แห่งเดียวกัน เพียงแต่จารึกอยู่บนหินแต่ละก้อน

ตามประวัติระบุว่า สมเด็จพระปิยมหาราชเจ้า เสด็จพระราชดำเนิน ณ สถานที่แห่งนี้เมื่อ 21 เมษายน พ.ศ.2433 ตรงกับ ร.ศ. (รัตนโกสินทร์ศก) 109เมื่อครั้งเสด็จประพาสทรงงานในเขตมณฑลทางใต้ของสยาม โดยเสด็จด้วยขบวนช้างและม้าจากจังหวัดชุมพร แล้วทรงประทับแรม ณ พลับพลาดอนวังทู้ หมู่ 1 ตำบลปากจั่น แล้วทรงจารึกพระปรมาภิไธย จปร. ย่อมาจาก มหาจุฬาลงกรณ์ปรมราชาธิราช มูลเหตุที่ทรงจารึกพระปรมาภิไธยย่อ ก็เพื่อทรงต้องการให้รู้ว่าพระองค์ได้เสด็จพระราชดำเนินถึงสถานที่นั้นๆ และใต้พระปรมาภิไธยย่อ จปร. ก็ทรงระบุรัตนโกสินทร์ศก 109 ไว้ด้วย เพื่อให้รู้ว่าเสด็จพระราชดำเนินในปีใด โดยมีการจดบันทึกไว้ด้วยว่า “ในกลางที่แจ้งนี้เป็น “ตร่อน้ำแบ่ง” มีศิลาก้อนใหญ่จมดินครึ่งหนึ่งมีก้อนเล็กซ้อน ซึ่งเห็นจะเป็น หินลอยทั้งสองก้อน ให้เขามาหาไว้จะจารึกเห็นก้อนใหญ่จะศูนย์ยากกว่า จึงให้กลิ้งก้อนเล็กลงเสีย ให้กรมสรรพสิทธิ์เขียน จปร. อย่างอัฐ กับกรมสมมตเขียน 109 มอบเครื่องมือให้ผู้ช่วยเมืองไชยาอยู่เราะให้ แล้วรอเขียนอยู่ 7 มินิต”

อักษรพระปรมาภิไธยย่อจึงเป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ และมรดกสำคัญของประเทศ ที่แสดงให้เห็นชัดว่าพระเจ้าแผ่นดินไทยเสด็จพระราชดำเนินทรงเยี่ยมเยียนพสกนิกร และทรงตรวจราชการแผ่นดินด้วยพระองค์เอง จึงกล่าวได้ว่าบนผืนแผ่นดินสยามหรือไทยนั้น ไม่มีพื้นที่แห่งใดที่ไม่อยู่ในพระเนตรพระกรรณของพระเจ้าแผ่นดิน 

ส่วนพระปรมาภิไธยย่อ ภปร. ย่อมาจากภูมิพลปรมราชาธิราช พระนามาภิไธยย่อ สกย่อมาจาก สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และพระนามาภิไธยย่อ สธย่อมาจากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้ากรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี 

โดยพระปรมาภิไธยย่อ ภปร. ทรงจารึกไว้เมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 เสด็จพระราชดำเนินประพาส ทรงเยี่ยมเยียนประชาชน เมื่อวันที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2502 

ส่วนพระนามาภิไธย สธ นั้น กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีทรงจารึกไว้เมื่อ พ.ศ. 2533 เมื่อครั้งเสด็จพระราชดำเนินทรงเยี่ยมราษฎร ณ บริเวณนั้น

นับได้ว่าพระปรมาภิไธยย่อทั้งหมดและพระนามาภิไธยย่อทั้งหมดนี้ เป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ของประเทศไทยและเป็นโบราณวัตถุที่สำคัญของชาติไทยด้วย 

หากคุณมีโอกาสผ่านไป ณ หลักกิโลเมตร 86 ถนนเพชรเกษม ขอให้แวะกราบถวายบังคมพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระปิยมหาราชเจ้า และตราพระปรมาภิโธย และตราพระนามาภิไธย เพื่อความเป็นสิริมงคลของคุณ

และหากคุณต้องการเดินทางท่องเที่ยวเพื่อการเรียนรู้ด้านประวัติศาสตร์ และโบราณคดีของประเทศไทยกับ Mr.Flowerโปรดติดต่อหมายเลข 091-7233615