สิงคโปร์ยังครองแชมป์ศูนย์กลางการจัดตั้งบริษัท แม้จำนวนโดยรวมในไตรมาส 4 ปรับตัวลดลง

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์

http://www.infoquest.co.th/contactus/

 

สิงคโปร์–10 ก.พ.–พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์

            – สิงคโปร์มีธุรกิจจัดตั้งใหม่ในไตรมาส 4 ปี 2558 เป็นจำนวนทั้งสิ้น 16,612 แห่ง ลดลง 7.9% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า แต่เป็นไปตามทิศทางปกติของไตรมาสสุดท้ายในแต่ละปี

            การจัดตั้งบริษัทในสิงคโปร์มีจำนวนลดลงในช่วงไตรมาส 4 อย่างไรก็ดี บริษัทและนักลงทุนต่างชาติยังคงจัดตั้งบริษัทหรือบริษัทย่อยในสิงคโปร์อย่างต่อเนื่อง แม้ในยามที่ต้องเผชิญกับความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ

แม้จำนวนการจัดตั้งธุรกิจจะร่วงลง 7.9% ในไตรมาสดังกล่าว แต่ก็ถือเป็นแนวโน้มปกติเช่นเดียวกับทุกปีที่มีการสำรวจก่อนหน้านี้ ยกเว้นปี 2557 ที่พบความผิดปกติ โดยในปี 2558 นั้น มีการจัดตั้งธุรกิจทั้งสิ้น 16,612 แห่ง ขณะที่ตัวเลขของปี 2557 อยู่ที่ 20,540 แห่ง

            แม้ปี 2558 ปิดฉากลงไปอย่างเงียบเหงาซบเซา โดยเศรษฐกิจฝั่งตะวันตกยังคงต้องดิ้นรนรักษาระดับการฟื้นตัว แต่ถึงกระนั้นจำนวนการจัดตั้งธุรกิจในสิงคโปร์ยังคงอยู่ในกรอบปกติสำหรับช่วงไตรมาส 4 แม้ภาวะเศรษฐกิจโลกอ่อนแรง ซึ่งถือเป็นข้อเท็จจริงที่สะท้อนความแข็งแกร่งโดยรวมของสิงคโปร์

            การจัดตั้งธุรกิจส่วนใหญ่ยังคงเป็นไปในรูปแบบบริษัทเอกชนจำกัด คิดเป็นสัดส่วน 48.8% ของการจัดตั้งธุรกิจทั้งหมด โดยมีบริษัทเอกชนจำกัดประเภท Non-Exempt จำนวน 1,421 แห่งจัดตั้งขึ้นในไตรมาสดังกล่าว ซึ่งตอกย้ำชื่อเสียงของสิงคโปร์ในฐานะประเทศที่ส่งเสริมภาคธุรกิจ

            สำหรับสัดส่วนบริษัทต่างชาติยังคงอยู่ที่ 35% ในไตรมาส 4 และเป็นระดับคงที่เมื่อเทียบกับปี 2557 ด้วยเช่นกัน ซึ่งเป็นการพิสูจน์ให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของบริษัทและนักลงทุนต่างชาติในสิงคโปร์

            แจ็คเกอลีน โลว์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของ Hawksford Singapore กล่าวว่าจำนวนบริษัทจัดตั้งใหม่ที่ลดลงในไตรมาส 4 ถือเป็นเรื่องปกติ เมื่อพิจารณาจากพฤติกรรมของตลาดในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี ตัวเลขดังกล่าวสอดคล้องกับค่าเฉลี่ยของไตรมาสสุดท้ายในปีก่อนๆ ยกเว้นปี2557 สำหรับภาพรวมตลอดทั้งปี 2558 ถือว่าดีทีเดียวในแง่ของการจดทะเบียนธุรกิจ

            สิงคโปร์ยังคงดึงดูดนักลงทุนและผู้ประกอบการต่างชาติได้อย่างต่อเนื่อง โดยสัดส่วนผู้ถือหุ้นรายย่อยชาวต่างชาติยังคงอยู่ที่ 28% ในไตรมาส 4ซึ่งส่วนใหญ่ยังคงมาจากสิงคโปร์ จีน และมาเลเซีย

            โลว์กล่าวเสริมว่าสิงคโปร์ยังคงสามารถดึงดูดบริษัท นักลงทุน และผู้ประกอบการต่างชาติ เพราะมีโครงสร้างพื้นฐานทางธุรกิจที่เข้มแข็ง ตลอดจนจุดแข็งในฐานะศูนย์กลางการเงินและการค้า อย่างไรก็ตาม เราควรตระหนักว่า สิงคโปร์นั้นใช่ว่าจะไม่ได้รับผลกระทบใดๆจากภาวะเศรษฐกิจโลก

            สามารถอ่านรายงานสถิติการจัดตั้งธุรกิจในสิงคโปร์ ประจำไตรมาส 4 ปี 2558 ได้ที่:http://www.guidemesingapore.com/reports/Quarterly-Singapore-Business-Formation-Report-Q4-2015.pdf

            ติดต่อ:

            Chye Fong Yee

            โทร. +65-62227445

            อีเมล: fongyee.chye@hawksford.sg

Leave a comment