ข้าวกล้องลืมผัวอบกรอบ “ไอ ไรซ์” เจ้าแรกเจ้าเดียวในไทย

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือเส้นทางเศรษฐี

http://info.matichon.co.th/rich/rich.php?srctag=07059010958&srcday=2015-09-01&search=no

วันที่ 01 กันยายน พ.ศ. 2558 ปีที่ 21 ฉบับที่ 380

อาหารสร้างอาชีพ

ภาวิณีย์ เจริญยิ่ง srangbun@hotmail.com

ข้าวกล้องลืมผัวอบกรอบ “ไอ ไรซ์” เจ้าแรกเจ้าเดียวในไทย

บ้านเรามีเกษตรกรปลูกข้าวหลายล้านราย ปัญหาหนึ่งที่เจอคือ ราคาข้าวไม่ได้ราคา ส่งผลให้เกิดปัญหามากมาย ที่สำคัญ ทำให้เกษตรกรเป็นหนี้เป็นสิน ดังนั้น หน่วยงานภาครัฐหลายแห่งจึงช่วยกันเพื่อให้มีการแปรรูปข้าวเหล่านั้นเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ ซึ่งในช่วงไม่กี่ปีมานี้ ก็มีการนำข้าวหลากหลายชนิดมาแปรรูป โดยเฉพาะข้าวที่มีสีสัน หรือเป็นข้าวที่อุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการ

ที่ผ่านมา คนส่วนใหญ่ยังไม่คุ้นหูหรืออาจจะไม่เคยลิ้มลอง ข้าวกล้องลืมผัวอบกรอบพร้อมทาน “ไอ ไรซ์ (i Rice)” ของวิสาหกิจชุมชนกลุ่มชาข้าวก่ำ (ข้าวลืมผัว) ตำบลบ้านต๊ำ อำเภอเมือง จังหวัดพะเยา ที่มี คุณอุไรวรรณ ภู่วัตร นั่งเป็นประธาน และเป็นเจ้าของกิจการห้างหุ้นส่วนจำกัดข้าวสร้างสุข เนื่องจากยังไม่มีวางขายในร้านสะดวกซื้อทั่วไป แต่ในอีกมุมหนึ่ง ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวได้รับรางวัลมากมาย

ยันใช้ข้าวธรรมชาติ ไม่ใส่ผงชูรส

ล่าสุด คว้ารางวัลชนะเลิศระดับประเทศ MOST Innovation Award 2015 สาขานักธุรกิจนวัตกรรม ของกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วท.) และก่อนหน้านั้นเมื่อปี 2556 ได้รับรางวัลชมเชยระดับวิสาหกิจชุมชนในการประกวดนวัตกรรมข้าวไทย ที่จัดโดย มูลนิธิข้าวไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ร่วมกับ สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ สนช.

ปัจจุบัน คุณอุไรวรรณยังคงทำงานประจำอยู่ที่บริษัทแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ แต่จะใช้เวลาว่างในการทำธุรกิจนี้ ร่วมกับบรรดาญาติพี่น้องที่อยู่ในจังหวัดพะเยา ซึ่งถือว่ายังอยู่ในระยะเริ่มต้น ทว่าการได้รางวัลต่างๆ ก็ทำให้กิจการเติบโตเร็วๆ ขึ้น มีคนรู้จักมากขึ้นเรื่อยๆ

“ผลจากที่ได้รับรางวัลนวัตกรรมมีค่อนข้างเยอะ เพราะตอนแรกเราทำเป็นแค่ชุมชน แล้วก็ได้รับโอกาสในการพัฒนา ซึ่งพอได้รางวัลทำให้เรามีกำลังใจมากขึ้น”

เธอเล่าที่มาที่ไปของไอ ไรซ์ ว่า เป็นการแปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่า โดยนำข้าวก่ำ หรือข้าวลืมผัว อันเป็นข้าวพันธุ์พื้นเมืองนำมาอบทำเป็นขนมขบเคี้ยวพร้อมทาน สร้างมูลค่าเพิ่มได้ถึง 7 เท่า จากปกติมีราคาเพียง 5,500-12,000 บาท ต่อตันเท่านั้น ซึ่งในพื้นที่จังหวัดพะเยาและใกล้เคียงปลูกข้าวลืมผัวกันจำนวนมาก

อย่างครอบครัวที่จังหวัดพะเยาก็ปลูกข้าวหลายชนิดไว้ทั้งทานและขาย การเลือกข้าวชนิดนี้มาทำเพราะเป็นข้าวที่มีวิตามินสูง คือเป็นข้าวสายพันธุ์ข้าวเหนียว ปลูกบนภูเขา ปลูกตามธรรมชาติ เป็นข้าวสีม่วงเข้ม สารที่อยู่ในข้าวเป็นสารต้านมะเร็งสูง พอนำมาทำเป็นขนมแล้ว คุณค่ายังไม่ได้หายไปเยอะ เมื่อนำมาทำเป็นอาหารสุขภาพหรือสแน็กสามารถพกไปไหนก็ได้ ทานกับกาแฟ เป็นอาหารเช้า จะไปโรยใส่ไอศกรีม หรือใส่แทนขนมปังในสลัดก็ได้ แต่กับเด็กๆ อาจจะทานเป็นขนม เพราะไม่ใส่ผงชูรสเลย

มี 4 รสชาติให้เลือก

ขนมข้าวอบกรอบ “ไอ ไรซ์” เป็นการนำข้าวกล้องลืมผัวมาให้ความร้อนด้วยกรรมวิธีการนึ่งและทอดด้วยน้ำมันจนเม็ดข้าวสุกพอง จากนั้นปรุงรสด้วยเครื่องปรุงรสแล้วนำไปผ่านกระบวนการอบด้วยไมโครเวฟเพื่อไม่ให้ข้าวอมน้ำมัน จนได้เป็นผลิตภัณฑ์ข้าวอบกรอบพร้อมทาน โดยขายปลีกที่ 35 บาท ต่อซอง มีต้นทุนการผลิต 15 บาท ต่อซอง ปัจจุบันมีให้เลือก 4 รสชาติคือ สาหร่าย ชีส บาร์บีคิว และต้มยำ

สำหรับคนที่กลัวเรื่องการทอดนั้น เธออธิบายว่า ไอ ไรซ์ เป็นข้าวกล้องที่มีไฟเบอร์ ทานได้ไม่เยอะ เพราะจะอิ่มเร็ว ในเรื่องของคอเลสเตอรอลก็ไม่ได้เยอะอะไร เพราะใน 1 ซอง บรรจุแค่ 20 กรัม

นอกจากข้าวกล้องอบกรอบไอ ไรซ์ แล้ว ทางกลุ่มยังมีผลิตภัณฑ์อื่นๆ ด้วย นั่นคือ ชาข้าว ซึ่งเป็นเครื่องดื่มข้าวลืมผัว โดยใช้ต้นอ่อนของข้าวลืมผัว

ที่ผ่านมา ไอ ไรซ์ จะออกบู๊ธตามงานต่างๆ ของหน่วยราชการที่เข้ามาสนับสนุน อาทิ กรมการข้าว สนช. ฯลฯ ซึ่งคุณอุไรวรรณ บอกว่า ผลตอบรับดี แต่ต้องให้ลูกค้าได้ชิมกันก่อน เพราะเป็นสินค้าใหม่ คนทั่วไปยังไม่เคยทาน โดยใช้วัตถุดิบเป็นข้าวลืมผัวที่ปลูกเอง 100 เปอร์เซ็นต์ แม้ใช้วิธีการทอด แต่พอทานแล้วจะรู้สึกว่าไม่มีน้ำมัน ซึ่งกระบวนการที่ทำเป็นการใช้ภูมิปัญญาบวกกับเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ที่หาได้ทั่วไปเพื่อคงความกรอบความอร่อยไว้ ไม่ได้ลงทุนซื้อเครื่องจักรเหมือนกับบริษัทใหญ่ๆ

ตั้งเป้าขายในโมเดิร์นเทรด

ถามถึงปัญหาอุปสรรค เธอว่า อุปสรรคเยอะ ตั้งแต่การเตรียมข้าว กระบวนการในการที่จะต้องมีการวัดอุณหภูมิ เพราะใช้วิธีทอด ไม่เช่นนั้นวิตามินจะสูญสลายไปหมด จึงต้องควบคุมทั้งหมด

ในการทำข้าวกล้องลืมผัวอบกรอบของวิสาหกิจชุมชนกลุ่มชาข้าวก่ำ (ข้าวลืมผัว) ถือว่าเป็นการทำแบบครบวงจรจริงๆ เพราะเริ่มจากการปลูกข้าวของสมาชิก แล้วนำข้าวนั้นมาแปรรูป และยังออกขายในงาน

สำหรับแผนการตลาดนั้น คุณอุไรวรรณ แจงว่า มีหลายรายที่ติดต่อเพื่อเป็นตัวแทนจำหน่าย อยู่ในกระบวนการคัดเลือกว่าจะเป็นเจ้าไหนที่เหมาะกับโปรดักต์ และควรจะวางขายที่ไหนบ้าง

“เรายังไม่ได้ไปขายต่างประเทศโดยตรง แต่มีคนมาซื้อแล้วไปส่งขายที่จีน แบรนด์เราได้ อย. เรียบร้อย และจดอนุสิทธิบัตรตั้งแต่ปี 2556 ตอนนี้กำลังปรับเพื่อให้ได้ GMP และ HACCP จะได้ส่งออก ในส่วนการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC นั้นยังไม่ได้คิด เพราะตั้งเป้าจะทำตลาดในประเทศ ให้คนไทยได้ทานก่อน”

ประธานวิสาหกิจชุมชนกลุ่มชาข้าวก่ำ (ข้าวลืมผัว) บอกว่า วางแผนทำตลาดระดับกลางเพราะอยากให้ทุกกลุ่ม ทุกเพศ ทุกวัยได้ซื้อ หรือให้คนมารับเพื่อนำไปขายต่อตามร้าน ตามโรงเรียน ซึ่งถ้าขายปลีกตกห่อละ 10 บาท หากขายส่งลดราคาลงมาได้อีก และต่อไปถ้ากำลังการผลิตพอจะไปขายในโมเดิร์นเทรด

คุณอุไรวรรณ ระบุว่า เท่าที่ดูในท้องตลาดยังไม่มีผลิตภัณฑ์แบบนี้ น่าจะเป็นเจ้าแรกและเจ้าเดียวในไทย ในส่วนของการเลียนแบบ ต้องคิดว่าจะหนีอย่างไรให้คนอื่นตามไม่ทัน เพราะว่ากลุ่มมาทำในแนวนวัตกรรม ดังนั้น จึงต้องคิดต่อยอดไปเรื่อยๆ ซึ่งตั้งใจไว้ว่าจะเขียนโครงการต่อเนื่องขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสนับสนุนโปรดักต์ให้พัฒนาต่อไปอีก

นับเป็นผู้ประกอบการอีกรายที่นำวัตถุดิบทางการเกษตรมาแปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่า อันเป็นการดึงดูดให้คนรุ่นใหม่หันมาบริโภคผลิตภัณฑ์จากข้าว ซึ่งนอกจากจะราคาไม่แพงแล้ว ยังได้สารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายอีกด้วย

สนใจผลผลิตของวิสาหกิจชุมชนกลุ่มชาข้าวก่ำ (ข้าวลืมผัว) ติดต่อได้ที่ โทรศัพท์ (081) 740-7822

Leave a comment