เลี้ยงวัวเป็นอาชีพ

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือเส้นทางเศรษฐี

http://info.matichon.co.th/rich/rich.php?srctag=07080010958&srcday=2015-09-01&search=no

วันที่ 01 กันยายน พ.ศ. 2558 ปีที่ 21 ฉบับที่ 380

อาชีพที่ไม่เหมือนเรา

ไมตรี ลิมปิชาติ

เลี้ยงวัวเป็นอาชีพ

เส้นทางเศรษฐีฉบับที่แล้ว ผมเขียนถึงคนที่มีอาชีพเลี้ยงม้า

ฉบับนี้บังเอิญได้ไปเที่ยวที่จังหวัดแพร่ มีโอกาสได้ไปชมนิทรรศการเกี่ยวกับการเกษตร เกี่ยวกับการปลูกมะนาว ปลูกกล้วยหอม ปลูกข้าว และการเลี้ยงสัตว์ เช่น ปลาและวัว

ในการนี้ ได้ให้ผู้ที่ประกอบอาชีพด้านต่างๆ นำผลผลิตมาแสดงด้วย

ผมสนใจเกือบทุกเรื่อง เพราะเป็นคนชอบงานเกี่ยวกับเกษตรมานานแล้ว เพียงแต่ไม่เคยลงมือทำจริง เคยทำแต่ในฝันเท่านั้น

สำหรับในวันที่ว่านี้ ผมให้ความสนใจกับการเลี้ยงวัวเป็นพิเศษ เพราะวัวพันธุ์อะไรก็ไม่รู้ ตัวใหญ่มาก ใหญ่เท่าควาย ตัวสีดำสนิท แถมยังมีรูปร่างสวยงามอีกต่างหาก

นับว่าโชคดีที่ขณะผมเข้าไปยืนชมวัวตัวที่ว่านี้ มีเจ้าของวัวคือ นายสวง ฉิมยาม ยืนอยู่พอดี จึงได้รู้ว่าวัวตัวที่ผมกำลังชื่นชม เป็นวัวพันธุ์แองกัส + บราห์มัน ที่มีชื่อเป็นไทยว่า วัวดำเมืองแพร่

“มีคนมาขอซื้อวัวตัวนี้แล้ว 500,000 บาท ผมยังไม่อยากขาย” เจ้าของวัวบอก

อย่างไรก็ตาม เจ้าของวัวบอกว่า เพิ่งขายวัวพันธุ์นี้เฉพาะตัวผู้ไปให้จีน 10 ตัว ได้เงินมาเกือบล้านเมื่อเร็วๆ นี้ ทำให้ได้เงินมาเป็นทุนเลี้ยงวัวต่อ เพราะการเลี้ยงวัวเป็นอาชีพหลักของเขา

ก่อนมาถึงวันนี้ นายสวง เล่าความเป็นมาให้ฟังว่า

เขาเป็นคนปทุมธานี เล่าเรียนมาน้อย ได้งานทำครั้งแรกเมื่ออายุ 19 ปี ทำอยู่ที่โรงแรมแห่งหนึ่งที่บางลำพู กรุงเทพฯ

วันหนึ่งได้นั่งรถไปเที่ยวจังหวัดแพร่ ผ่านอำเภอเด่นชัย ได้มองเห็นคนเลี้ยงวัวต้อนวัวผ่านถนนไปกลางทุ่งนา จึงเกิดแรงบันดาลใจให้อยากเลี้ยงวัวบ้าง

นายสวงจึงตัดสินใจเปียร์แชร์ได้เงินมาจำนวนหนึ่งไปซื้อวัวที่กำลังจะถูกคนเลี้ยงส่งโรงฆ่าสัตว์มา 2 คู่

ที่ต้องซื้อวัวก่อนถูกเชือดทำให้มีความรู้สึกดีด้วยที่ได้ช่วยชีวิตวัว

จำได้ว่าซื้อวัว 2 คู่ด้วยเงิน 9,500 บาท ซึ่งเมื่อหลายสิบปีมาแล้วถือว่าไม่ถูก

ซื้อวัวมาเลี้ยงก็จริงแต่ไม่กล้าเสี่ยงที่จะออกจากงานโรงแรมไปเลี้ยง จึงได้จ้างเด็กที่เป็นลูกเจ้าของวัวคนเดิมให้ช่วยเลี้ยงต่อไป โดยตัวเขาจะลางานเป็นระยะๆ เพื่อไปดูวัวที่จ้างเขาเลี้ยงไว้

คนเลี้ยงใช้วิธีเลี้ยงแบบง่ายๆ โดยจูงวัวไปกินหญ้าที่ไหนก็ได้ เพราะพื้นที่แถบนั้นจะมีหญ้าให้วัวกินอย่างเพียงพอ

ส่วนคอกวัวก็ทำขึ้นที่บ้านของคนรับจ้างเลี้ยง

วัวได้ขยายพันธุ์เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพราะวัวตัวเมียออกลูกให้ปีละตัว ส่วนตัวผู้พออายุ 18 เดือนก็ผสมพันธุ์ได้แล้ว โดยเขาได้หาเงินจากการทำงานมาสมทบ

ระยะหลังเพื่อให้มีรายได้เพิ่มเขาได้ลาออกจากงานโรงแรมเพื่อทำการค้าขายเล็กๆ น้อยๆ ด้วยการใช้รถมอเตอร์ไซค์นำสินค้าขายตามหมู่บ้านและบ้านพักคนงานก่อสร้าง เพื่อเอาเงินมาเลี้ยงวัว

พอมีวัวเพิ่มขึ้น ทำให้มีรายได้จากการขายวัว ชนิดว่าพออยู่ได้ จนมีเงินเหลือพอที่จะซื้อที่ดินเป็นของตัวเองได้ก็ซื้อ จากไม่กี่ไร่เพิ่มขึ้นเป็น 30 ไร่ในปัจจุบัน เป็นที่ทุ่งนาราคาไม่แพง

รายได้จากการเลี้ยงวัวส่วนใหญ่เป็นการขายวัวเป็นตัวๆ รายได้เสริมก็คือขี้วัว มีคนมาซื้อไปทำปุ๋ย

อาหารวัวส่วนใหญ่จะใช้หญ้าตามธรรมชาติ ยกเว้นวัวขุนก็จะใช้อาหารเสริมซึ่งมีขายอยู่ทั่วไป

นายสวง เล่าต่อว่า หลังจากเลี้ยงวัวพันธุ์พื้นเมืองอยู่นานพอสมควร เกิดมีความรู้สึกขึ้นมาว่าไม่ควรเสียเวลากับการเลี้ยงวัวพื้นเมือง เพราะได้ราคาไม่ดี แต่ใช้เวลาเท่าๆ กัน น่าจะเปลี่ยนไปเลี้ยงวัวพันธุ์ต่างประเทศบ้าง

จึงตัดสินใจซื้อวัวพันธุ์แองกัส + บราห์มัน หรือที่คนแพร่รู้จักกันดีว่า วัวดำเมืองแพร่ มาเลี้ยงดู น่าจะดีกว่า

แต่เนื่องจากถ้าซื้อวัวพันธุ์ดำเมืองแพร่ตัวใหญ่ต้องลงทุนซื้อพ่อพันธุ์และแม่พันธุ์ซึ่งราคาสูง เกินกำลังที่จะซื้อได้ เขาจึงจำเป็นต้องซื้อลูกวัวพันธุ์นี้มาคู่หนึ่งด้วยเงิน 25,000 บาท แทนวัวที่โตเป็นหนุ่มเป็นสาวแล้ว

จากวัวคู่แรก ปัจจุบันมีเลี้ยงอยู่ 6 ตัว เพราะเพิ่งขายส่งไปให้จีน 10 ตัว ตามที่เล่ามาแล้วข้างต้น

6 ตัวมีตัวผู้เพียงตัวเดียว จึงเป็นตัวผู้ที่โชคดีเพราะมีเมียถึง 5 ตัวอยู่ประจำคอกเดียวกัน

แต่ละเดือนจะมีคนจูงวัวตัวเมียมาขอผสมพันธุ์อีกหลายตัว เพราะวัวตัวผู้สามารถผสมพันธุ์ได้หลายครั้งใน 1 เดือน คือพักเพียง 3 วันก็มีน้ำเชื้อให้ผสมพันธุ์ได้แล้ว

วัวพันธุ์นี้ฉลาดด้วย แค่ส่งตัวเมียเข้าไปขังรวมกับตัวผู้ มันก็จัดการเสร็จ โดยไม่จำเป็นให้เจ้าของสั่ง

นายสวงจึงมีรายได้จากการรับผสมพันธุ์เดือนละเป็นหมื่น เพราะคิดค่าผสมพันธุ์ครั้งละ 3,000 บาท

ที่มีคนเลี้ยงวัวรายอื่นๆ จูงวัวมาขอผสมพันธุ์วัวของนายสวงเป็นจำนวนมากก็เพราะวัวที่เขาเลี้ยงได้รางวัลในการประกวดวัวบ่อยมาก จนมีชื่อเสียงไปทั่วเกือบทุกจังหวัดในภาคเหนือของประเทศไทย

แม้จังหวัดแพร่ที่จัดงานวันเกษตรพอเพียงในวันนี้ วัวดำเมืองแพร่ของนายสวงก็ได้รับเชิญให้มาโชว์ตัว

สุดท้าย นายสวง บอกว่า อยากแนะนำให้คนไทยหันมาเลี้ยงวัวกันให้มากๆ จะเป็นวัวเนื้อ หรือวัวนมก็ได้ ไม่ควรเลี้ยงวัวชน เพราะวัวเนื้อกับวัวนมกินหญ้า แต่วัวชนกินโฉนด

ผู้ใดสนใจอยากได้ความรู้ในการเลี้ยงวัว ติดต่อนายสวงหรือที่คนแพร่รู้จักเขาดีในชื่อ โกวงค์ ได้ที่ เลขที่ 136 หมู่ 1 ตำบลแม่จั๊วะ อำเภอเด่นชัย จังหวัดแพร่ โทรศัพท์ติดต่อกับเขาได้ที่ (081) 932-4718

Leave a comment