ช่างซ่อมกล้องถ่ายรูป

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือเส้นทางเศรษฐี

http://info.matichon.co.th/rich/rich.php?srctag=07080150958&srcday=2015-09-15&search=no

วันที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2558 ปีที่ 21 ฉบับที่ 381

อาชีพที่ไม่เหมือนเรา

ไมตรี ลิมปิชาติ

ช่างซ่อมกล้องถ่ายรูป

ปลายเดือนที่แล้วผมไปเที่ยวเกาะฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น

ทุกครั้งที่ผมไปเที่ยวต่างประเทศ ผมจะต้องนำเรื่องที่ได้พบเห็นมาเขียนเป็นสารคดีท่องเที่ยวเพื่อถอนทุน

การจะนำเรื่องที่พบเห็นมาเขียน สิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้คือ ต้องถ่ายรูปไว้ประกอบเรื่อง

ไปเที่ยวญี่ปุ่นครั้งนี้ ผมประมาทไปหน่อยคือไม่ได้เตรียมกล้องถ่ายรูปสำรองไปด้วยเหมือนทุกครั้ง

เพียงลงจากเครื่องบิน ถ่ายรูปได้แค่สองสามรูป กล้องถ่ายรูปคู่ชีพก็ขัดข้อง

ผมต้องให้ผู้ร่วมเดินทางที่มีความรู้เรื่องกล้องช่วยแก้ไขให้แต่ไม่สำเร็จ

มีทางเดียวจะต้องซื้อกล้องถ่ายรูปใหม่ แต่มีปัญหาอยู่ว่า โปรแกรมท่องเที่ยวตั้งแต่วันแรกต้องตะลอนอยู่ตามชนบทและเมืองเล็กๆ ชายทะเล ไม่มีกล้องถ่ายรูปขาย

ต้องรอถึงวันสุดท้ายก่อนขึ้นเครื่องบินกลับจึงจะหาซื้อได้เพราะได้เข้าไปพักในตัวเมืองซัปโปโร ซึ่งเป็นเมืองใหญ่ที่สุดของเกาะฮอกไกโด

แต่ในความโชคร้าย ผมก็โชคดีครับ เพราะผู้ร่วมเดินทางคนหนึ่งเป็นนักเล่นกล้อง ได้พกกล้องติดตัวไปถึง 3 กล้อง จึงแบ่งมาให้ผมใช้ 1 กล้อง

ให้บังเอิญเป็นกล้องยี่ห้อเดียวกันและรุ่นเดียวกับที่ผมใช้อยู่ด้วย

อะไรจะโชคดีขนาดนั้น ผมคิดในใจ

เขาผู้นี้ไม่ได้ให้กล้องผมยืมอย่างเดียว ยังแนะนำว่า เวลากลับเมืองไทยไม่จำเป็นต้องไปซ่อมกล้องที่บริษัทขายกล้องเพราะจะแพง ให้ไปซ่อมกับร้านซ่อมโดยเฉพาะ

ราคาจะถูกและเร็ว ถ้ากล้องไม่เสียอะไรมาก นั่งรอรับได้เลย

พร้อมกับบอกร้านซ่อมกล้องให้รู้ด้วยว่าตั้งอยู่ที่ เลขที่ 704/10 ถนนพัฒนาการ เขตสวนหลวง กรุงเทพฯ ร้านตั้งอยู่ปากซอย 20 ถนนพัฒนาการ จึงหาไม่ยาก

ผมกลับจากญี่ปุ่นจึงได้นำกล้องไปซ่อมตามคำแนะนำโดยไม่รอช้า

ภายในร้านมีกล้องถ่ายรูปเกือบทุกรุ่นและมีหลายยี่ห้อวางโชว์อยู่ในตู้หลายสิบตัว

มองสภาพพอรู้ว่าเป็นกล้องที่ใช้แล้ว แต่ได้ซ่อมขึ้นใหม่

คงเป็นกล้องที่กำลังรอให้เจ้าของมารับ และอีกจำนวนหนึ่งอาจเป็นกล้องที่เจ้าของร้านซ่อมไว้ขายก็เป็นได้

เจ้าของร้านซึ่งเป็นช่างซ่อมกล้องถ่ายรูปด้วย อยู่ในวัยกลางคนมีชื่อว่า สันติ ชบางาม

ผมเอากล้องให้ช่างสันติดูพร้อมบอกถึงข้อบกพร่องของกล้องว่ามีปัญหาอย่างไรบ้าง จนทำให้ใช้งานไม่ได้

ช่างสันติรับไปดูแล้วกดโน่นกดนี่ พร้อมพลิกกล้องดูอย่างชำนาญ

“พรุ่งนี้มารับได้” ช่างสันติ บอก

จริงๆ แล้ว การซ่อมกล้องถ่ายรูป ถ้าเราส่งบริษัท จะซ่อมมากหรือน้อยจะต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 7 วัน แต่พอมาซ่อมที่นี่ใช้เวลาเพียงวันเดียว ถือว่าซ่อมได้เร็วมาก

แต่ก็ยังไม่ทันใจ เพราะผมจะต้องเดินทางไปต่างจังหวัดในวันรุ่งขึ้น ผมจึงขอต่อรองว่า

“ขอรับวันนี้เลยได้ไหม เพราะจะต้องใช้กล้อง”

ช่างสันติกดโน่นกดนี่และเปิดกล้องบางจุดดูอีกครั้ง ก่อนตอบว่า

“ได้ครับ”

เมื่อผมถามถึงราคาค่าซ่อม ช่างสันติไม่ตอบ เพียงแต่บอกว่าขอตรวจเช็กให้แน่ชัดเสียก่อนแล้วจะบอกราคา

พูดง่ายๆ ก็คือ ช่างสันติจะบอกราคาให้รู้ก่อนว่าเท่าไร เพื่อต้องการให้ลูกค้าคือผม ตัดสินใจว่าควรให้ซ่อมหรือไม่

ผมนำกล้องไปซ่อมในเวลาก่อนเที่ยง ผมไม่อยากนั่งรอที่ร้าน จึงได้ออกจากร้านไปยังร้านอาหารแห่งหนึ่งเพื่อรอกล้อง จะได้ถือโอกาสนั่งเขียนหนังสือได้ด้วย โดยช่างสันติ บอกว่า ผมจะไปนั่งรอที่ไหนก็ตาม เขาจะใช้โทรศัพท์บอกราคาค่าซ่อมไปให้ผมทราบ

ขณะที่ผมนั่งอยู่ที่ร้านอาหารไม่ถึงชั่วโมง ช่างสันติได้โทรศัพท์มาบอกราคาให้ผมทราบ ซึ่งไม่แพงเลยเมื่อเทียบกับราคากล้อง

ผมไปรับกล้องตามเวลานัดคือ 5 โมงเย็น

ทุกอย่างเรียบร้อย กล้องสามารถกลับมาใช้ได้ดีเหมือนเดิม

ขณะที่ผมไปรับกล้องถ่ายรูปนั้น มีคนอื่นนำกล้องถ่ายรูปมาให้เขาซ่อม 2 ราย

ผมขอเดาว่า วันหนึ่งๆ เขาจะต้องมีกล้องให้ซ่อมไม่น่าจะต่ำกว่า 5 ราย

มีรายได้หักค่าใช้จ่ายแล้ว เพียงรายละพันบาท ก็จะได้เงินเดือนละเป็นแสนบาท

ต้องยอมรับว่าอาชีพซ่อมกล้องถ่ายรูปอิสระในเมืองไทยมีน้อย หายากด้วย ที่มีก็มักจะเป็นช่างซ่อมของบริษัทขายกล้อง

ที่มีช่างซ่อมน้อยเมื่อเทียบกับช่างซ่อมรถหรือซ่อมอย่างอื่นๆ เป็นเพราะไม่มีโรงเรียนสอนนั่นเอง

ช่างสันติ เล่าให้ผมฟังว่า ตั้งแต่เริ่มประกอบอาชีพได้มีอาชีพซ่อมกล้องมาโดยตลอด

เป็นช่างซ่อมกล้องถ่ายรูปมาตั้งแต่หนุ่มว่างั้นเถอะ

ปัจจุบันอายุ 42 ปีแล้ว แต่ก็ยังไม่อยากเปลี่ยนอาชีพเป็นอย่างอื่น

ที่เป็นช่างซ่อมกล้องถ่ายรูปได้ก็เพราะได้รับการถ่ายทอดวิชาช่างซ่อมมาจากพ่อ

พ่อมีร้านซ่อมกล้องถ่ายรูปที่สนามเป้า ปัจจุบันก็ยังรับซ่อมอยู่เหมือนเดิม

ตอนนี้ได้แยกเป็นสาขาออกไป โดยมีลูกๆ ออกไปเปิดร้าน มีทั้งที่สุขุมวิท ศูนย์การค้าพันธุ์ทิพย์ และถนนพัฒนาการ

ถึงอย่างไรเมืองไทยก็ยังมีร้านรับซ่อมน้อยอยู่ดี ถ้าเทียบกับช่างซ่อมอย่างอื่นๆ

ทุกคนที่เป็นช่างซ่อมกล้องถ่ายรูปจะต้องเรียนรู้จากพ่อ คือสอนกันเองในครอบครัว

ช่างสันติ บอกว่า ก็เหมือนกับรับซ่อมโทรศัพท์มือถือนั้นแหละ ไม่มีโรงเรียนสอนต้องเรียนรู้จากผู้รู้เอาเอง

เป็นช่างซ่อมกล้องถ่ายรูปมีดีอยู่อีกอย่างหนึ่งก็คือ เป็นงานอิสระ เพราะจะทำงานเวลาไหนก็ได้ อีกทั้งไม่ต้องเดินทางด้วย

ตื่นขึ้นมาก็ทำงานได้เลย เพราะช่างสันติพักอยู่ชั้นบนของร้านรับซ่อม

ปัญหาใหญ่ของการเป็นช่างซ่อมกล้องถ่ายรูปก็คือ จะต้องตามเทคนิคกล้องรุ่นใหม่ๆ ให้ทัน

ถูกแล้ว กล้องแต่ละยี่ห้อ แต่ละชนิดจะมีออกมาใหม่ๆ เสมอ

ดูได้จากสมัยหนึ่งมีแต่กล้องที่ต้องใช้ฟิล์ม ปัจจุบันเป็นกล้องดิจิตอลไปหมดแล้ว

ถ้าหยุดสนใจ หยุดหาความรู้จากกล้องรุ่นใหม่ๆ เมื่อไรก็จะเป็นคนล้าสมัย จนที่สุดไม่สามารถยึดอาชีพนี้ได้อีก เพราะตามความก้าวหน้าของกล้องไม่ทัน แต่ก็ไม่ยากเกินไปเพราะพอจับทางได้ กล้องรุ่นไหนๆ ก็เหมือนกัน

วันนั้นผมจ่ายค่าซ่อมกล้องไปเท่าๆ กับค่าเรื่องที่ได้จากเส้นทางเศรษฐี ก็เท่ากับเหมือนได้ซ่อมกล้องฟรี

ผู้ใดมีกล้องถ่ายรูปชำรุด ก่อนตัดสินใจซื้อกล้องใหม่ ควรเอาของเก่าไปถามช่างดูว่าซ่อมได้หรือไม่ ถ้าซ่อมได้ ก็จะประหยัดเงิน ไปได้เยอะ หากไปที่ร้านซ่อมกล้องแห่งนี้ไม่ถูกให้โทรศัพท์ไปถามที่ (082) 485-3752 ได้

Leave a comment