ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือเส้นทางเศรษฐี
http://info.matichon.co.th/rich/rich.php?srctag=07060150958&srcday=2015-09-15&search=no
| วันที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2558 ปีที่ 21 ฉบับที่ 381 |
อาหารสร้างอาชีพ
ดวงกมล
“ฟารีดา ดราย ฟรุตส์” อินทผลัมคัดคุณภาพ
“ลูกค้ากลุ่มใหญ่เป็นคนจีน ตามด้วยคนไทยนับถือศาสนาพุทธ และชาวมุสลิม กลุ่มอายุประมาณ 25 ปีขึ้นไป นิยมซื้ออินทผลัมไปบริโภคเพื่อบำรุงสุขภาพ”
นอกจากชาวมุสลิมจะนิยมทาน “อินทผลัม” เพื่อช่วยบรรเทาความอยากอาหาร และบำรุงร่างกายในเดือนรอมฎอน หรือการถือศีลอด พิธีศักดิ์สิทธิ์ของศาสนาอิสลาม
“อินทผลัม” ยังเป็นผลไม้ทางเลือกที่ได้รับความนิยมสูงในกลุ่มผู้รักสุขภาพ เพราะมีให้ทานทั้งแบบสดและอบแห้ง อุดมไปด้วยสารอาหารที่มีคุณประโยชน์ต่อร่างกายมากมาย ไม่มีคอเลสเตอรอล ช่วยลดอาการท้องผูก ช่วยแก้อาการวิงเวียนศีรษะ ว่ากันว่า การทานอินทผลัมจะช่วยบรรเทาอาการซึมเศร้า ช่วยเพิ่มสารอาหารสำคัญในน้ำนมแม่ ช่วยสร้างภูมิคุ้มกัน ชาวมุสลิมเชื่อกันว่า อินทผลัมเป็นผลไม้ที่พระผู้เป็นเจ้า ประทานให้เลยทีเดียว
เจ้าตลาดในไทย
ขายดี ไปต่างประเทศ
ในเมืองไทยผู้นำตลาดอินทผลัมรายใหญ่คือ บริษัท ฟารีดา เดทส์ แอนด์ นัทส์ จำกัด ประกอบกิจการจำหน่ายอินทผลัมและผลไม้อบแห้งหลากชนิด บริหารงานโดยสองสามีภรรยา คุณเราะห์หมัด-คุณไลลา เรืองปราชญ์
คุณไลลา เท้าความว่า เมื่อ 30 ปีที่แล้ว คุณแม่นำเข้าอินทผลัมหลายเกรดจากประเทศในกลุ่มตะวันออกกลาง เข้ามาจำหน่ายในประเทศไทย โดยลักษณะสั่งซื้อแล้วนำมาบรรจุถุงขาย เน้นขายลูกค้าชาวมุสลิมด้วยกัน แต่หลังจากตนเข้ามาสืบทอดกิจการต่อ ได้ปรับแนวทางการตลาดใหม่ หันมานำเข้าอินทผลัมสดคุณภาพดีเกรดพรีเมี่ยมเท่านั้น โดยเฉพาะแถบลุ่มแม่น้ำจอร์แดนที่ได้ชื่อว่า เป็นแหล่งผลิตอินทผลัมคุณภาพดี รสชาติอร่อยเข้ามาจำหน่าย
หลังจากที่คุณไลลาเข้ามาสานต่อกิจการครอบครัว เธอและเครือญาติเริ่มทำการตลาดด้วยการนำอินทผลัม และบรรดาผลไม้อบแห้ง อาทิ แอพริคอต ลูกเกด ผลฟิกซ์ ถั่วพิสตาชิโอ ไปออกบู๊ธจำหน่ายตามสถานที่ต่างๆ รวมถึงเข้าห้างสรรพสินค้าชั้นนำกว่า 60 จุด เช่น ศูนย์การค้า ดิ เอ็มควอเทียร์ สยามพารากอน เดอะมอลล์ ฯลฯ ใช้เครื่องหมายการค้า “ฟารีดา ดราย ฟรุตส์”
“ฟารีดาคือ ชื่อแม่ ผู้ก่อตั้งกิจการ แต่ภายหลังที่ดิฉันเข้ามาบริหารได้จดทะเบียนรูปแบบบริษัท และใช้เครื่องหมายการค้าว่า ฟารีดา ดราย ฟรุตส์ เริ่มมีการนำสินค้าไปออกร้านจำหน่ายตามหน่วยงาน ย่านธุรกิจใหญ่ๆ ในกรุงเทพฯ เพื่อตอบสนองความต้องการของคนเมืองที่รักสุขภาพ ได้พบปะลูกค้าโดยตรง กิจกรรมการตลาดนี้ประสบความสำเร็จ ได้รับความสนใจจากผู้บริโภคจำนวนมาก”
คุณไลลา บอกต่อว่า ปัจจุบัน ทางบริษัทเริ่มขยายตลาดไปยังสมาชิกกลุ่มประชาคมอาเซียน เช่น นำสินค้าไปออกงานแสดงและจำหน่ายสินค้าที่ประเทศกัมพูชา มาเลเซีย ปรากฏว่าสินค้าขายดี เพราะคนกัมพูชาและมาเลเซียให้ความสนใจบริโภคผลไม้เพื่อสุขภาพเช่นเดียวกัน
แจกแจงแต่ละสายพันธุ์
นำเข้าปีละ 2,000 ลัง
สำหรับที่มาของบรรดาอินทผลัมคุณภาพคัดเกรด และผลไม้อบแห้ง หญิงสาวระบุว่า นำเข้าจากหลายๆ ประเทศในกลุ่มตะวันออกกลาง อาทิ ซาอุดีอาระเบีย โมร็อกโก อิหร่าน ตุรกี แถบลุ่มแม่น้ำจอร์แดน ญี่ปุ่น ซึ่งสายพันธุ์อินทผลัมที่บริษัทนำเข้า ยกตัวอย่าง “อัจวะ” (Ajwa) หรือ “อัจวะห์” (Ajwah) อินทผลัมสุดยอดปรารถนาของชาวมุสลิมทั่วโลก “เมดจูล” (Medjool) มีผลขนาดใหญ่ที่สุด เป็นพันธุ์ที่นิยมทานผลแห้ง “มับรูม” (Mabroom) ลักษณะเด่นคือ เนื้อเหนียว หนึบ หวาน ไม่เหนอะหนะ
เจ้าของกิจการ อธิบายสายพันธุ์อินทผลัมคร่าวๆ ว่า “อัจวะ” มีแหล่งกำเนิดจากประเทศซาอุดีอาระเบีย ปลูกมากในแถบมาดีนะ เป็นเมืองสำคัญทางศาสนาอิสลาม ลักษณะเด่นของอินทผลัมพันธุ์นี้คือ ผลมีขนาดเล็ก ถึงปานกลาง ผลแก่จะแห้งและมีสีดำ รสชาติหวานฉ่ำ แตกต่างจากพันธุ์อื่น เนื้อกึ่งแห้งละเอียด เหนียวนุ่มและมีเส้นใยมาก ผู้คนทั่วโลกนิยมบริโภคอัจวะเพื่อบำรุงร่างกาย ราคาอินทผลัมพันธุ์นี้ในตลาดโลกอยู่ในเกณฑ์ที่สูง ปัจจุบันบริษัทนำเข้าอัจวะเข้ามาขายในราคากิโลกรัมละ 1,500 บาท
ส่วนราชาแห่งอินทผลัมคือ เมดจูล (Medjool) ขนาดผลใหญ่ที่สุด เป็นพันธุ์ที่นิยมทานผลแห้ง มีแหล่งกำเนิดอยู่ในประเทศโมร็อกโก อินทผลัมพันธุ์นี้มีเนื้อนุ่ม เนื้อทราย ไม่เหนียวหนึบมาก รสชาติหวานฉ่ำมากๆ ปัจจุบัน บริษัทนำเข้าอินทผลัมพันธุ์นี้มาจากประเทศจอร์แดน เข้ามาขายตลอดทั้งปี ในราคากิโลกรัมละ 1,000 บาท
นอกจากนี้ ยังมีสายพันธุ์ มับรูม (Mabroom) เป็นอินทผลัมที่นำเข้าจากประเทศซาอุดีอาระเบีย ลักษณะเด่นคือ เนื้อเหนียว หนึบ หวาน ไม่เหนอะหนะ ในต่างประเทศนิยมนำอินทผลัมพันธุ์นี้มาแกะเมล็ดออก แล้วนำมะม่วงหิมพานต์ ถั่วอัลมอนด์มาสอดไส้ ก็ได้รับความนิยมจากผู้บริโภคในวงกว้าง
มีอินทผลัมที่ขายดีมากในช่วงฤดูถือศีลอดคือ อินทผลัมพันธุ์อียิปต์ (Egypt) มีลักษณะเด่นคือ ผลโต รสหวานมากๆ เก็บได้นาน ราคาไม่แพง และพันธุ์บาร์ฮี (Barhee/Barhi) จากประเทศจอร์แดน เข้ามาขายในไทยเป็นระยะเวลา 1 เดือนเต็มในช่วงฤดูถือศีลอด ซึ่งอินทผลัมพันธุ์นี้จะมีรสชาติกรอบอร่อย หวานมัน หากยังไม่แก่เต็มที่จะมีรสฝาดปนเล็กน้อย หากทานไปเรื่อยๆ จะมีรสหวานไม่มีรสฝาดเลย
เข้าห้างดัง 60 แห่ง
แบ่งการตลาด 2 ทีม
เนื่องจากอินทผลัมมีสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายมาก ให้พลังงานสูง มีสรรพคุณช่วยบำรุงร่างกาย ตรงนี้นับเป็นจุดขายสำคัญที่ช่วยดึงดูดความสนใจของลูกค้าให้เข้ามาซื้ออินทผลัมของบริษัทดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง ซึ่งลูกค้ากลุ่มใหญ่ที่นิยมซื้ออินทผลัมไปบริโภคเพื่อบำรุงสุขภาพตลอดทั้งปีคือ คนจีน คนไทย และชาวมุสลิม
“ลูกค้ากลุ่มใหญ่เป็นคนจีน ตามด้วยคนไทยนับถือศาสนาพุทธ และชาวมุสลิม กลุ่มอายุประมาณ 25 ปีขึ้นไป นิยมซื้ออินทผลัมไปบริโภคเพื่อบำรุงสุขภาพ โดยนิยมทานอินทผลัมประมาณ 5-7 ผลในช่วงเช้า ส่วนลูกค้าอีกกลุ่มนิยมซื้อผลไม้อบแห้งอื่นๆ เช่น แอพริคอต ลูกเกด ผลฟิกซ์ ถั่วพิสตาชิโอ เพื่อเป็นของขวัญของฝากตามเทศกาลสำคัญต่างๆ ตลอดทั้งปี”
คุณไลลา บอกต่อว่า สำหรับช่วงที่ชาวมุสลิมถือศีลอดจะขายดีเป็นพิเศษ เพราะชาวมุสลิมจะนิยมทานอินทผลัมเป็นอาหารมื้อแรก ตามคำสอนของท่านนบีมุฮัมมัด พระศาสดาของศาสนาอิสลาม เพราะอินทผลัมเป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยน้ำตาล ไขมัน โปรตีน และวิตามินสำคัญๆ ที่จำเป็นต่อร่างกาย โดยเมื่อทานเข้าไปแล้วจะดูดซึมเข้าตับอย่างรวดเร็วเพื่อช่วยบำรุงร่างกายที่อ่อนเพลียให้มีกำลัง
ด้านปริมาณนำเข้าอินทผลัมและผลไม้อบแห้ง แต่ละปีบริษัทฟารีดาฯ จะนำเข้าราว 1,000-2,000 ลัง หรือราว 10,000-20,000 กิโลกรัม แล้วแต่ออร์เดอร์และความต้องการของลูกค้า 80 เปอร์เซ็นต์เป็นอินทผลัม 20 เปอร์เซ็นต์เป็นผลไม้อบแห้ง
ในส่วนของวิธีการเก็บรักษา เจ้าของกิจการ เผยว่า ทั้งอินทผลัมและผลไม้อบแห้งเก็บเข้าห้องทำความเย็น -10 องศา จะสามารถคงสภาพกึ่งสดกึ่งแห้งไว้ได้นานที่สุด หากเก็บช่องฟรีซจะมีอายุ 1 ปี เก็บอุณหภูมิปกติมีอายุอยู่ได้ 3 วัน กรณีสินค้าไม่ผ่าน QC จะใช้วิธีนำไปบริจาค
ปัจจุบัน ทีมการตลาดของบริษัทดังกล่าว แบ่งเป็น 2 ทีม ทีมของคุณไลลา และทีมของน้องสาวและน้องชายของคุณเราะห์หมัด (สามี) ซึ่งทีมของคุณไลลาจะเน้นป้อนวัตถุดิบ และออกบู๊ธตามงานแสดงสินค้าต่างๆ ส่วนอีกทีมเจาะตลาดห้างสรรพสินค้าชั้นนำ อาทิ ศูนย์การค้า ดิ เอ็มควอเทียร์ สยามพารากอน เดอะมอลล์ บิ๊กซี โลตัส ท็อปส์ ซูเปอร์มาร์เก็ต เป็นต้น
ตลอดระยะเวลากว่า 30 ปีที่ “ฟารีดา ดราย ฟรุตส์” สั่งสมชื่อเสียงมาไม่ใช่เรื่องง่าย คุณไลลาย้ำว่า สิ่งสำคัญที่สุดคือ คุณภาพ ความซื่อสัตย์กับลูกค้า และราคายุติธรรม
ใครสนใจอยากได้ข้อมูลเพิ่มเติม หรือติดต่อสั่งซื้อสินค้าอินทผลัมของบริษัทฟารีดาฯ ต้องสั่งจำนวนขั้นต่ำ 10 กิโลกรัม หรือสอบถามข้อมูลได้ที่ เลขที่ 50/105 ซอยลาดพร้าว 114 (สันต์ประเสริฐ) ถนนลาดพร้าว แขวงวังทองหลาง เขตวังทองหลาง กรุงเทพฯ โทรศัพท์ (081) 819-2624