ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือเส้นทางเศรษฐี
http://info.matichon.co.th/rich/rich.php?srctag=07046150958&srcday=2015-09-15&search=no
| วันที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2558 ปีที่ 21 ฉบับที่ 381 |
Pet”s Business
สดุจตา
“Daddy pet” ดีไซน์เพื่อน้องหมา
ความรักและใส่ใจในพฤติกรรมของสุนัข ทำให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ นำมาสู่ผลิตภัณฑ์ที่สามารถตอบโจทย์การใช้งานทั้งเจ้าของบ้าน และเพื่อนสี่ขา
“Daddy pet” คือเฟอร์นิเจอร์ไม้คุณภาพดี ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับการใช้งานของคน และเพิ่มออปชั่นให้กับสัตว์เลี้ยง และนอกจากนั้นแล้ว งานดีไซน์ยังมีรูปลักษณ์เหมาะกับผู้ชื่นชอบตกแต่งบ้าน
สัตว์เลี้ยงบันดาลใจ
เฟอร์ฯ เข้าใจสัตว์เลี้ยง
ผลงานชิ้นนี้ ผ่านการออกแบบโดย คุณเกดสุดา เมธีวิวัฒน์ และ คุณพงศ์ภวัน กฤตพิชญ์นันท์ โดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากพฤติกรรมของเพื่อนสี่ขาที่เลี้ยงไว้
“เรา 2 คนเป็นดีไซเนอร์ โดยคุณพงศ์ภวันทำงานด้านกราฟิก ส่วนดิฉันทำงานเฟอร์นิเจอร์ แต่เหตุให้เราหันมาสนใจทำสินค้าเพื่อสุนัขก็เพราะสังเกตเห็นพฤติกรรมของสุนัขที่บ้านคือ พอเราเดินไปนั่งที่เก้าอี้เขาจะเข้ามาคลอเคลีย และชอบซุกตัวอยู่ใต้เก้าอี้ นี่คือพฤติกรรมที่เห็นเป็นประจำ จนกระทั่งเกิดไอเดียให้คนและสัตว์ได้มีเวลาร่วมกัน”
พฤติกรรมเช่นนี้เกิดขึ้นเฉพาะสุนัขที่บ้านของเราเอง หรือสุนัขทุกตัวเป็นเช่นนี้?
นี่คือสิ่งที่ทั้งสองค้นหาคำตอบผ่านโลกอินเตอร์เน็ต กระทั่งพบว่า “มันเกี่ยวข้องกับสัญชาตญาณของสุนัขที่มีเชื้อสายมาจากหมาป่า จะชอบอยู่ในถ้ำ เวลานอนจะหาที่อบอุ่น ปลอดภัย โอบล้อมไว้ 3 ด้าน ยกเว้นด้านหน้า จึงทำให้เรารู้ได้ว่าจริงๆ แล้วสุนัขไม่ได้ต้องการพื้นที่กว้างขวาง ขอแค่สามารถกลับตัวได้พอแล้ว จึงไม่แปลกใจว่าการออกแบบที่นอนสัตว์เลี้ยงแบรนด์ต่างๆ จะออกแบบให้เป็นทรงโค้ง ทรงเหลี่ยม”
หลังผลิตสินค้าออกมา โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้คนและสุนัขในบ้านได้ใช้เวลาร่วมกัน แต่เมื่อ พ่อแม่ เพื่อนพ้อง เข้ามาเห็นผลงานต่างบอกให้ต่อยอดบนเส้นทางสายธุรกิจ
Daddy pet จึงถือกำเนิดขึ้น โดยผลิตวางตลาดในปี 2012 ส่วนช่องทางเข้าถึงลูกค้าอาศัยออกงานแสดงสินค้าเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง แต่ทว่าในครั้งแรก ผลตอบรับกลับไม่ดีดังหวัง
“สินค้าของเราคือเฟอร์นิเจอร์ที่มีออปชั่นสัตว์เลี้ยง ฉะนั้น ต้นทุนในการผลิตจึงสูง แต่เมื่อไปวางขายในตลาดสัตว์เลี้ยง ผู้พบเห็นก็มองแค่เป็นสินค้าเพื่อสัตว์เลี้ยงเท่านั้น ลูกค้าไม่ได้คำนึงถึงประโยชน์ที่เขาจะได้รับด้วย จึงเท่ากับว่าราคาตั้งไว้สูงเกินไป”
ตกแต่งบ้านแล้วสวย
ด้วยดีไซน์แปลกตา
คุณพงศ์ภวัน ยังกล่าวต่อว่า ด้วยการวางตำแหน่งสินค้า รวมไปถึงการออกแบบ ให้เป็นเฟอร์นิเจอร์มากกว่าสินค้าสัตว์เลี้ยง บวกกับความใหม่ของผลิตภัณฑ์ที่ยังไม่มีผู้ผลิตใดทำออกมา จึงกลายเป็นความไม่คุ้นเคย การขายจึงไม่ใช่เรื่องง่าย
ฉะนั้น วิธีแก้ปัญหาคือ สร้างการรับรู้ ให้ลูกค้าเข้าใจในผลิตภัณฑ์ก่อนว่าคืออะไร “แม้การออกงานครั้งแรกจะขายสินค้าไม่ได้เลยสักชิ้นเดียว แต่สินค้าก็สามารถดึงดูดให้คนเข้ามาสนใจเป็นจำนวนมาก จึงอาศัยช่วงระหว่างนี้อธิบายผลิตภัณฑ์ให้ลูกค้ารับทราบ ทั้งผ่านสินค้าจริง รูปภาพ วิดีโอ”
การวางแผนด้านการออกแบบ ยังมุ่งเน้นหัวใจสำคัญให้สินค้าเป็นของตกแต่งบ้าน ซึ่งเข้ากับคนในสังคมยุคนี้ “นอกจากจะมีฟังก์ชั่นที่เหมาะทั้งคนและสัตว์เลี้ยง อีกจุดหนึ่งที่เราให้ความสำคัญคือ ต้องตกแต่งบ้านได้ด้วย ฉะนั้น กลุ่มคนที่มาซื้อก็จะเป็นคนที่สนใจตกแต่งบ้านและมีสัตว์เลี้ยงไว้ในการดูแล”
ทั้ง 2 ผู้ประกอบการยังให้เหตุผลถึงการออกแบบสินค้าเพื่อสัตว์เลี้ยงขนาดกลางและขนาดเล็ก เพราะใช้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่ในบ้าน จึงเหมาะกับเฟอร์นิเจอร์ที่ออกแบบมาเพื่อตกแต่งภายใน ซึ่งทั้งสองเลือกใช้วัสดุไม้เป็นหลัก เพราะให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติและมีคุณค่า โดยไม้ที่เลือกนำมาใช้ได้แก่ ไม้โอ๊ก ไม้แอช เป็นหลัก
“จากการออกงานแสดงสินค้า ทำให้ได้ข้อเสนอแนะจากลูกค้ามากมาย ฉะนั้น ในคอลเล็กชั่นต่อมา เริ่มมีการผสมผสานวัสดุอื่นๆ อย่างพลาสติก ส่วนไม้ก็มีการนำไม้ประเภทอื่นมาใช้ อย่างไม้ยางพาราของประเทศไทย ต่างชาติให้การยอมรับมาก โดยเฉพาะญี่ปุ่น เราเลือกที่จะใช้ไม้ปลูก ไม่ใช่ไม้ป่า และทำให้สามารถรียูสได้ ซึ่งชาวต่างชาติให้ความสำคัญกับจุดนี้ด้วย”
ไม่เพียงเท่านั้น ทั้ง 2 ผู้ประกอบการยังเลือกใช้ไม้อย่างรู้คุณค่า อย่างเศษไม้ก็นำมาผลิตเป็นฐานรองภาชนะให้อาหารของสุนัข “เราพบข้อมูลว่า สุนัขมักจะมีปัญหากระดูกคอและสันหลัง ซึ่งสาเหตุหนึ่งมาจากการก้มกินอาหารต่ำเกินไป ดังนั้น การรองภาชนะให้สูงขึ้นก็เท่ากับช่วยสุนัขได้อีกวิธีหนึ่ง”
คนทำต้องรักสัตว์
ตลาดไปได้อีกไกล
ความโดดเด่นของสินค้าอีกจุดหนึ่งที่มองเห็นได้คือ งานทำมือ ที่แม้ในส่วนของการผลิตหลักจะจ้างโรงงาน แต่ทว่าในรายละเอียด คุณเกดสุดายังเลือกลงมือทำเอง เพื่อให้เกิดคุณค่าและความละเอียดสวยงาม
ในด้านการออกแบบยังเพิ่มความหลากหลาย เข้ากับการใช้ชีวิต โดยเฉพาะคนเมืองที่จำนวนมากอาศัยอยู่ในคอนโดมิเนียม และนิยมเลี้ยงสุนัขพันธุ์เล็กและแมว การออกแบบผลิตภัณฑ์จึงเน้นให้เหมาะกับพื้นที่จัดวาง อย่าง การวางเข้ามุม
“สินค้าแรกที่ออกแบบมาจะเป็นเฟอร์นิเจอร์ที่ทั้งคนและสุนัขใช้ร่วมกันได้ แต่มาวันนี้เราได้ออกแบบสินค้ากลุ่มเฉพาะสำหรับสัตว์เลี้ยงขึ้นมาด้วย แต่ยังคงคอนเซ็ปต์ว่าสามารถเป็นสินค้าตกแต่งภายในบ้านได้ และจากแต่ก่อนสินค้าเริ่มแรกทำมาราคาชิ้นละ 5,800 บาท ตอนนี้มีสินค้าราคาถูกลง อย่างถ้าทำจากไม้ยางพารา ราคาประมาณ 3,000 บาท เพราะเราเลือกใช้วัสดุที่หลากหลาย แต่คุณภาพคือสิ่งที่ต้องพิถีพิถัน แม้กระทั่งสีต้องไม่มีสารตะกั่ว ไม่มีสารปรอท ปราศจากโลหะหนัก”
การออกแบบสินค้าใหม่ๆ คืออีกหนึ่งความตั้งใจที่ทั้ง 2 นักออกแบบให้ความสำคัญ โดยกำหนดไว้ว่าใน 3-4 เดือนจะออกแบบสินค้า 1-2 รายการ เพื่อตอบโจทย์ตลาดสัตว์เลี้ยงที่ปรับเปลี่ยนเร็ว
ส่วนช่องทางจัดจำหน่าย ยังคงให้ความสำคัญกับการขายผ่านโลกออนไลน์ และหน้าเว็บไซต์ ซึ่งถือเป็นช่องทางที่สะดวกรวดเร็วต่อผู้บริโภค
ณ วันนี้ถ้าพูดถึงตลาดสัตว์เลี้ยง ถือว่าได้รับความนิยมมาก จนหลายคนมุ่งหวังสู่เส้นทางสายนี้ ซึ่งทั้ง 2 ผู้ประกอบการให้แนวคิดกับจุดเริ่มต้นว่า อันดับแรก ต้องเป็นคนรักสัตว์ “อาชีพนี้ต้องสัมผัสกับสัตว์เลี้ยง และเท่าที่ผมทำธุรกิจมา พบเห็นเพื่อนร่วมทางเดียวกัน ตอบได้เลยว่า 100 เปอร์เซ็นต์เขาเลี้ยงสัตว์ และจุดเริ่มต้นการผลิตสินค้าก็มาจากสัตว์เลี้ยงของเขา ส่วนในมุมของผู้ซื้อ ผมมองว่า คนที่เลี้ยงและรักสัตว์จะมองว่านี่คือสิ่งจำเป็น ฉะนั้น ถ้าเขาพอใจในผลิตภัณฑ์ก็จะยอมจ่าย แม้เศรษฐกิจจะตก แต่สินค้าประเภทนี้ก็จะยังคงขายได้”
สนใจติดต่อ “Daddy pet” คลิก http://www.daddypetshop.com, Facebook:daddypetshop, LINE ID:daddypet และ IG:daddypet หรือโทรศัพท์ (083) 714-9900