ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือเส้นทางเศรษฐี
http://info.matichon.co.th/rich/rich.php?srctag=07060151058&srcday=2015-10-15&search=no
| วันที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2558 ปีที่ 21 ฉบับที่ 383 |
เฮลท์คิทเช่น
วินดี้
มัฟฟิน (Gluten-free raspberry muffins)
เดี๋ยวค่ะเพื่อนๆ! อย่าเพิ่งเปิดข้ามหน้าไปไหนค่ะ! ก่อนอื่นขอสวัสดีคุณผู้อ่านเฮลท์คิทเช่นทุกคนก่อนเป็นอันดับแรก
เพื่อนๆ มีขนมในดวงใจไหมคะ หรือขนมที่ต้องทานเวลานึกถึงคู่กับกาแฟ วินนึกถึงมัฟฟินเค้ก ก้อนโตๆ ไส้บลูเบอร์รี่ ราสป์เบอร์รี่เนื้อฉ่ำๆ ที่เห็นเป็นต้องซื้อคู่กับกาแฟแก้วโปรดยามเช้าทุกที
วินเชื่อว่าหลายคนอาจยังไม่รู้ว่ามัฟฟินมีวิธีการทำ ส่วนผสม และหน้าตาแตกต่างจากคัพเค้กยังไง ดูยังไงๆ ก็เป็นขนมอบทรงถ้วยเหมือนกันอยู่ดี เรามาทำความรู้จักกับมัฟฟิน (Muffins) กันดีกว่าค่ะ
มัฟฟินเนี่ยเป็นขนมที่มักจะทำไม่หวานเท่าคัพเค้ก และไม่ตกแต่งสวยงามเท่า แต่จะเน้นเป็นการใส่ไส้ข้างใน เช่น ช็อกโกแลต บลูเบอร์รี่ กล้วย อัลมอนด์ เสียมากกว่า
โดยต้นกำเนิดอยู่ที่ประเทศอังกฤษ ในยุคแรกนั้น มัฟฟินมีลักษณะกลมแบน หรือที่เราเรียกว่า English Muffins ที่เราทานคู่กับไข่เบเนดิกต์ (Egg benedict) มื้อเช้านั่นเองแหละค่ะ พอเริ่มมีการเผยแพร่ไปในประเทศต่างๆ เช่นอเมริกา มัฟฟินก็มีการปรับเปลี่ยนสูตรจนกลายเป็นมัฟฟินลักษณะคล้ายคัพเค้กที่เราคุ้นเคยกันอย่างในปัจจุบัน
ซื้อทานมาเยอะแล้วเปิดเตาทำเองกันดีกว่าค่ะคุณขา เปลี่ยนแป้งเป็นกลูเต็นฟรีแล้วใช้กล้วยบดเพิ่มเนื้อมัฟฟินและความหอม เปลี่ยนเนยเป็นน้ำมันพืช ตามสไตล์ Health kitchen recipe เล็กน้อย ลองทำไปพร้อมๆ กันเลยนะคะ
อุ่นเตาที่ 180 องศาเซลเซียสในระหว่างเตรียมส่วนผสมเช่นเคยค่ะ
ส่วนผสม (สำหรับ 12 ท่าน)
แป้งเค้กแบบกลูเต็นฟรี 1 ? ถ้วย
แป้งข้าวกล้อง
หรือแป้งกลูเต็นฟรี 1/2 ถ้วย
น้ำตาลทรายแดง 1/2 ถ้วย
เบกกิ้งโซดา 1/2 ช้อนชา
ราสป์เบอร์รี่ 1 ถ้วย
กล้วยบด 1 ถ้วย
น้ำมันพืช 1/2 ถ้วย
ไข่ไก่ 2 ฟอง
นมอัลมอนด์
หรือนมสด สำหรับคนไม่แพ้ 1/2 ถ้วย
(ใช้นมอัลมอนด์แทนนมสดไม่ได้ทำให้เนื้อสัมผัสเกิดความแตกต่างจากการใช้นมสดนะคะ หรือใครจะใช้นมถั่วเหลืองก็ได้ค่ะ)
(แป้งเค้ก คือแป้งที่ผสมผงฟูหรือเบกกิ้งโซดาแล้วส่วนหนึ่ง)
วิธีทำ
1. อุ่นเตาอบไว้แล้วก็เตรียมถาดอบแบบหลุม ขนาดคัพตามต้องการ หรือที่เพื่อนๆ มีนะคะ แล้ววางกระดาษถ้วยเตรียมไว้ในหลุม
2. ผสมแป้ง น้ำตาล เบกกิ้งโซดา ในอ่างผสมและใส่ราสป์เบอร์รี่เข้าผสมด้วย วินใช้ราสป์เบอร์รี่แบบแช่แข็งนะคะ เพราะตอนแรกกลัวว่าตอนอบเสร็จมันจะฉ่ำเกินไป
3. ตีกล้วยบด น้ำมันพืช ไข่ไก่ และนมในอ่างผสมอีกอันหนึ่ง แล้วเทใส่อ่างผสมแห้ง ใช้ตะกร้อมือคนจนแป้งและส่วนผสมเปียกกลายเป็นเนื้อครีมเนียนเข้ากัน
4. ตักส่วนผสมลงในถ้วยคัพที่เตรียมไว้ประมาณ 3 ส่วน 4 ของถ้วย เพราะตัวแป้งมีผงฟู ตอนอบตัวมัฟฟินจะฟู พองตัวขึ้นมา ถ้าเราใส่เต็มถ้วยมันจะล้น ไม่สวยนะคะ
5. ใช้เวลาอบในเตาประมาณ 20-25 นาที หรือทดลองจิ้มด้วยไม้เสียบในเนื้อเค้ก ถ้าไม้สะอาดไม่มีเนื้อเค้กติด แสดงว่าสุกแล้วค่ะ
6. บางคนอาจจะโรยน้ำตาลก้อนก่อนอบ หรือโรยหลังอบเสร็จใหม่ๆ วินโรยหลังอบเสร็จเพราะส่วนตัวชอบทานแล้วมีกรุบๆ บนเค้กมัฟฟินนุ่มๆ ด้วย แล้วแต่ชอบเลยนะคะ
อบเสร็จใจก็ยังนึกงุนงง หอมเหมือนเค้กกล้วยหอมกลิ่นราสป์เบอร์รี่ รูปร่างหน้าตาเหมือนคัพเค้กตอนยังไม่แต่งหน้า แต่ส่วนประกอบวิธีการทำและใส่ไส้ราสป์เบอร์รี่มีผิวบนแตกๆ เป็นซิกเนเจอร์ (Signature) มัฟฟินชัดๆ
เอ้า! อบแล้ว แคปเจอร์ (Capture) คู่เมนูแก้วโปรดมาให้ดูกันหน่อยค่ะคุณผู้อ่านขา หมู่หรือจ่า เอ้ย! ได้มัฟฟินกันหรือเปล่าเอ่ย