“หมาเจ็บ” เบาะน้องหมานอนสบาย

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือเส้นทางเศรษฐี

http://info.matichon.co.th/rich/rich.php?srctag=07048151058&srcday=2015-10-15&search=no

วันที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2558 ปีที่ 21 ฉบับที่ 383

Pet”s Business

สดุจตา

“หมาเจ็บ” เบาะน้องหมานอนสบาย

ด้วยพื้นฐานเป็นคนรักสัตว์ และมีโอกาสทำงานอยู่ในกองบรรณาธิการหนังสือ “หมาเจ็บ” จากหนังสือต่อยอดมาเป็นอาชีพ ทำให้วันนี้ คุณปวีณา สารภี กลายเป็นเจ้าของธุรกิจเบาะนอนและอุปกรณ์สำหรับสัตว์เลี้ยง ที่ได้รับเสียงตอบรับอันดี มีตลาดจัดจำหน่ายทั้งในและต่างประเทศ จนแทบจะเรียกได้ว่า กำลังผลิตไม่พอต่อความต้องการ

ปิ๊งที่นอนน้องหมา

จับด้อยมาทำเด่น

ถูกและดี มีอยู่ในสินค้าแบรนด์ “หมาเจ็บ” ที่ใส่ใจตั้งแต่คัดเลือกวัตถุดิบ ออกแบบโดยเน้นประโยชน์ใช้สอย ดูแลรักษาง่าย จวบจนความสบายที่มอบให้กับน้องหมา

“ดิฉันทำงานในกองบรรณาธิการหนังสือเด็ก และได้มาอยู่ในทีมทำหนังสือหมาเจ็บ ตรงนี้นี่เองทำให้คิดถึงการต่อยอดจากรูปภาพน้องหมาน่ารักๆ มากมาย นำมาผลิตเป็นโปสการ์ด วางขายในตลาดนัดจตุจักร แต่ก็ขายได้ไม่คุ้มค่าเช่าพื้นที่ จึงนำหลักความรู้ด้านการตลาดที่ร่ำเรียนมาวิเคราะห์ พบว่า คนส่วนใหญ่เดินทางมาซื้อสัตว์เลี้ยง ซื้ออุปกรณ์ให้กับสัตว์เลี้ยงมากกว่า จึงเริ่มหันมามองสินค้าอื่นแทน”

คุณปวีณา ว่า น้องหมาก็ไม่ต่างจากคนที่ต้องการปัจจัยพื้นฐานต่อการดำรงชีวิต ทั้ง อาหาร เสื้อผ้า ยารักษาโรค เครื่องนุ่งห่ม ซึ่งไอเดียของคุณปวีณาผุดขึ้นมากับเบาะนอน เพราะตลาดตอนนั้นยังไม่ค่อยมีผู้ผลิต

ประสบการณ์ด้านออกแบบไม่มี จึงเริ่มต้นซื้อสินค้าแบรนด์อื่นมาทำการวิเคราะห์หาจุดเด่น ส่วนอะไรที่เป็นจุดด้อยก็ทำให้เด่นขึ้นมา อย่างเช่น ทำเบาะให้นุ่มน่านอน เพราะเบาะนอนทั่วไปส่วนพื้นมักจะแข็งรองรับน้ำหนักได้ไม่สบายพอ

ด้านการตัดเย็บ จัดจ้างแรงงานผลิตในละแวกบ้านของตนเอง จวบจนผลตอบรับดี จึงจัดตั้งโรงงานผลิตเป็นของตนเอง โดยขณะนี้มีแรงงานผลิตประมาณ 20 คน

จากพื้นที่เช่าแผงค้า 2 ห้องในตลาดนัดจตุจักร ขยับเป็น 4 ห้อง และ 8 ห้อง สำหรับลูกค้า นอกจากคนไทยแล้วยังมีชาวต่างชาติให้ความสนใจเดินทางมาจับจองสินค้าไปจำหน่ายต่อ อาทิ ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย สิงคโปร์ ไต้หวัน ซาอุดีอาระเบีย ศรีลังกา เวียดนาม

ขายผ่านออนไลน์

ได้ลูกค้าไทย-เทศ

ค้าขายผ่านไปได้นับปี จนกระทั่งฐานลูกค้าเริ่มแน่น ซึ่งส่วนใหญ่ใช้วิธีโทรศัพท์เพื่อสั่งซื้อสินค้า ประกอบกับยอดขายในตลาดนัดจตุจักรไม่ดีเท่าที่ควร จึงปิดหน้าร้านแล้วหันมามุ่งดูแลการผลิต พร้อมๆ ไปกับทำตลาดส่งออกอย่างจริงจัง โดยมีโชว์รูมโรงงานเป็นหน้าร้าน รวมไปถึงขายผ่านเว็บไซต์ของตนเอง เฟซบุ๊ก และผ่านเว็บไซต์ลาซาด้า ซึ่งก็ได้ลูกค้าร้านค้าสัตว์เลี้ยงทั้งในตลาดนัดจตุจักร, ตลาดสนามหลวง 2, ร้านไดโซะ และร้านค้าสัตว์เลี้ยงทั่วไป ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ รวมแล้วประมาณ 20 ราย รับสินค้าไปจำหน่ายต่อ

สำหรับราคาขายนั้น กำหนดขายปลีกเริ่มต้นตั้งแต่ชิ้นละ 60 บาท ไปจนถึง 1,600 บาท (ขายส่งถูกกว่าประมาณ 50 เปอร์เซ็นต์ หรือขึ้นกับจำนวนสั่งซื้อ)

คุณปวีณา เล่าย้อนถึงตลาดต่างประเทศ จนเป็นที่มาของการจัดตั้งบริษัทว่า “เมื่อปี 2550 มีลูกค้าญี่ปุ่นรายหนึ่งซึ่งไปใช้ชีวิตอยู่ที่ฮาวาย เดินทางมาติดต่อให้ผลิตสินค้าเพื่อนำไปสร้างแบรนด์ของเขาเอง โดยส่งผ้ามาให้ และสั่งสินค้าประมาณ 3 เดือนครั้ง ครั้งละ 40,000-50,000 บาท แต่ด้วยตอนนั้นเราไม่เข้าใจกระบวนการส่งออก ทำให้ต้องศึกษาเรียนรู้ และเพื่อเป็นการสร้างความมั่นใจให้ลูกค้า จึงจัดตั้ง บริษัท หมาเจ็บ ด็อก กูดส์ ช็อป (ไทยแลนด์) จำกัด ขึ้นในปี 2551”

การจัดตั้งบริษัท ส่งผลให้ลูกค้าเกิดความมั่นใจมากขึ้น ยอดขายจึงมีมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉลี่ยปีละประมาณ 5 ล้านบาท โดยสัดส่วนค้าส่งราว 80 เปอร์เซ็นต์ มีตลาดในประเทศเป็นหลัก 70 เปอร์เซ็นต์ นอกนั้นส่งออกไปขายยังตลาดต่างแดน

ผู้ประกอบการคนขยัน ว่า สิ่งสำคัญที่ทำให้ทุกวันนี้แม้ไม่มีหน้าร้าน แต่ลูกค้ายังคงอยู่และเกิดลูกค้าใหม่ตามมาอย่างต่อเนื่อง นั้นเพราะความมุ่งมั่นตั้งใจผลิตสินค้าให้ได้มาตรฐาน เน้นประโยชน์ใช้สอยที่บางแบบมากกว่าหนึ่ง อย่างเช่น บ้านกล่องมีหลังคา แต่สามารถนำมาพับกลายเป็นเบาะโซฟาได้ และสำคัญคือ คิดแทนลูกค้า

“ด้วยเพราะสินค้าชิ้นใหญ่ ถ้าบรรจุไม่ดีก็จะเสียค่าขนส่งสูงมาก และไม่ได้จำนวน ฉะนั้น เราจึงออกแบบให้สินค้าพับได้ ใส่ถุงครั้งละหลายๆ ใบซ้อนกัน โดยเมื่อนำออกมาจะไม่เสียทรง และการันตีเลยว่าสามารถซักได้ทั้งใบโดยไม่เสียทรง แต่ควรใส่ในถุงซัก ซึ่งเราจะบรรจุไปให้ลูกค้า เพื่อความสะดวกในการใช้งาน”

เอกลักษณ์ผ้าพิมพ์ลาย

เตรียมขยายสู่ AEC

คุณปวีณา ว่า วัตถุดิบคือส่วนสำคัญ โดยยกตัวอย่างฟองน้ำนำมาใช้จะสั่งผลิตด้วยสูตรเฉพาะ เพื่อให้ได้คุณภาพแข็งแรง นุ่มเหนียว แต่คืนตัวได้ดี ส่วนผ้าก็เลือกใช้ผ้าคอตต้อนที่มีให้เลือกมากกว่า 70 แบบ โดยหลายแบบสั่งพิมพ์ลายเอกลักษณ์เฉพาะของหมาเจ็บ เพื่อสร้างความต่างจากท้องตลาด ส่วนผู้ที่ต้องการความหรูหราจะเลือกใช้ผ้าขนที่ให้ความนุ่มน่าสัมผัส เอาใจสุนัขที่รักความนุ่มนวล

สินค้าประเภทเบาะที่นอน ถือว่าเป็นสินค้าหลัก โดยมีสัดส่วนประมาณ 70 เปอร์เซ็นต์ บ้านหลังคา 20 เปอร์เซ็นต์ และเสื้อยืด 10 เปอร์เซ็นต์ โดยมีหลากหลายรูปแบบให้ลูกค้าเลือก ซึ่งการออกแบบนี้ คุณปวีณา ว่า ส่วนหนึ่งเกิดจากไอเดียที่เข้าร่วมสัมมนากับหน่วยงานภาครัฐ และหลายแบบที่สร้างสรรค์ขึ้นได้จดสิทธิบัตรไว้แล้ว

“สินค้าผลิตมาเพื่อน้องหมาสายพันธุ์เล็กไปจนถึงน้ำหนักตัว 50 กิโลกรัม และยังผลิตสินค้าใช้ได้กับสัตว์เล็ก อย่าง กระต่าย Sugar Glider หรือแมวก็ใช้ของสุนัขได้ด้วย โดยสินค้าจะมีราคาหลากหลาย เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายกว้างขึ้น”

คุณปวีณา มองว่า ตลาดสัตว์เลี้ยงมีความเติบโตขึ้นทุกปี โดยเฉพาะสุนัขและแมว แต่ผู้ผลิตต้องเรียนรู้ รู้จักการพัฒนาให้ทันตลาด อย่างช่วงใกล้เปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ผู้ประกอบการคนเก่งเตรียมพร้อมขอสินเชื่อกับธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (เอสเอ็มอี แบงก์) วงเงิน 1 ล้านบาท โดยมี บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ค้ำประกัน เพื่อนำเงินมาลงทุนกับคลังสินค้าหลังใหม่ ในการสต๊อกผลิตภัณฑ์ไว้จัดจำหน่ายได้ทันยอดสั่งซื้อ และไม่เพียงเท่านั้น ยังวางแผนยื่นขอสินเชื่อเพื่อซื้อเครื่องจักรรองรับกำลังผลิตที่จะตามมา โดยคาดว่าจะใช้เงินลงทุนอีกประมาณ 1 ล้านบาท

และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่ตอบตลาดคนรักสัตว์เลี้ยง โดยเฉพาะน้องหมา ซึ่งถือเป็นตลาดที่ใหญ่และมีความเติบโตสูง

สนใจติดต่อ ร้านหมาเจ็บ ตั้งอยู่ เลขที่ 333/83 โครงการบัวทองแฟคทอรี่ 1 หมู่ 3 ถนนบางกรวย-ไทรน้อย ตำบลบางรักพัฒนา อำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี 11110 โทรศัพท์ (080) 419-5566 หรือ http://www.mahjeb.com, http://www.facebook/fanpage.mahjeb

Leave a comment