ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือเส้นทางเศรษฐี
http://info.matichon.co.th/rich/rich.php?srctag=0725151258&srcday=2015-12-15&search=no
| วันที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2558 ปีที่ 21 ฉบับที่ 387 |
รายงานพิเศษ
อันติกา
“ยาอมแก้ไอ ตราตะขาบ 5 ตัว” ของฝากจากไทย ซื้อกลับจีน
“เมื่อลงพื้นที่ขายจริง ทำให้ทราบว่า 60 เปอร์เซ็นต์ของยอดขาย ซ่อนอัตราการส่งออกไว้สูงกว่าครึ่งหนึ่ง และกลุ่มทัวร์จีนจะให้ความสนใจมาก จนกระทั่ง ร้านค้าช็อปต่างๆ ตามสถานที่ท่องเที่ยว ติดต่อเข้ามาขอซื้อสินค้าไปวางจำหน่าย ช่องทางการตลาดใหม่จึงเกิดขึ้น”
หากจัดอันดับสินค้าน่าซื้อของไทย ถูกใจคนจีน ไม่พูดถึง “ยาอมแก้ไอ ตราตะขาบ 5 ตัว” คงไม่ได้ เพราะสินค้ารายการนี้ ผู้ผลิตบอกเลยว่า คนจีน โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาประเทศไทย ต่างขนกลับข้ามประเทศ กลายเป็นของฝากถูกใจผู้รับไปแล้ว
ความชื่นชอบในผลิตภัณฑ์นี้ถึงขั้น ร้านค้าตามสถานที่ท่องเที่ยว ต่างติดต่อขอรับไปจำหน่าย และไม่เพียงเท่านั้น ยาอมแก้ไอ ตราตะขาบ 5 ตัว กลายเป็นสินค้าถูกนำมาลอกเลียนแบบผลิตขายในประเทศจีนเกลื่อนตา
ข้ามจีนมาอยู่ไทย สร้างอาชีพทำยา
ความนิยมมากน้อยเพียงใด ลองอ่านบทสัมภาษณ์ของทายาทผู้สืบสานธุรกิจ คุณเมธา สิมะวรา ผู้จัดการโรงงาน บริษัท ห้าตะขาบ (ซิมเทียนฮ้อ) จำกัด
คุณเมธา กล่าวให้ฟังถึง จุดกำเนิดยาแก้ไอ ตราตะขาบ 5 ตัว ว่ามาจากคุณปู่ (คุณจุ้ยไซ แซ่ซิ้ม) ซึ่งเป็นชาวจีนที่อพยพข้ามน้ำข้ามทะเลเข้ามาอยู่ในแผ่นดินไทย โดยยึดอาชีพจับกัง แต่ด้วยเมื่อครั้งอยู่ประเทศจีนเคยทำงานในร้านขายยา จึงอาศัยครูพักลักจำสูตรยาปรุงจำหน่ายแก่ชาวบ้านในละแวกนั้น
“คุณปู่อพยพมาแบบเสื่อผืนหมอนใบ ตอนนั้นอาชีพที่ทำได้คือขายแรงงาน แต่เวลากลางคืนท่านจะผลิตยาสมุนไพรจำหน่าย ก็มีทั้งยาอม ยาลม ยาหม่อง ยาขม ยากวาด ยาแก้หอบหืด รวมๆ แล้วกว่า 10 ชนิด ซึ่งสูตรยาของท่านให้ผลดี คุณปู่เลยตัดสินใจออกจากอาชีพจับกัง มาผลิตยาขาย โดยมีตึกแถวที่เป็นทั้งบ้านพักอาศัย โรงงานผลิต และร้านจำหน่าย”
คุณเมธา ยังกล่าวถึงที่มาของแบรนด์ ตะขาบ 5 ตัว เกิดจากช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เกิดน้ำท่วมหนัก ซึ่งคุณปู่ยังคงผลิตยาจำหน่าย แต่แล้ววันหนึ่ง มีตะขาบหนีน้ำขึ้นมาตายบนปากหม้อยา ส่วนเลข 5 เป็นเลขมงคลของชาวจีน จึงนำ 2 สิ่งนี้มาตั้งเป็นชื่อแบรนด์
“แต่สิ่งที่หลายคนพูดจนเรียกเสียงหัวเราะคือ คุณปู่ท่านเป็นนักสะสมภรรยา โดยมีถึง 5 คน ตรงตามเลขมงคลของชาวจีนเลยครับ ก็เลยว่าเลข 5 ก็น่าจะมีส่วนมาจากจำนวนภรรยาของคุณปู่ด้วย”
ระยะเวลาผ่านไปราว 40 ปี เมื่อคุณปู่เสียชีวิตลง “ตอนที่คุณปู่ทำธุรกิจ ก็ได้คุณลุงช่วยดูแลกิจการ แต่เมื่อท่านเสียชีวิต คุณพ่อของผม (คุณสุเทพ สิมะวรา) และคุณอา (คุณสุนทร สิมะวรา) ถูกเรียกตัวเข้ามาช่วยกิจการ โดยนำความรู้ที่ร่ำเรียนด้านวิศวะมาสานต่อธุรกิจ ขยับขยายโรงงาน นำเครื่องจักรมาใช้ พลิกจากอุตสาหกรรมครอบครัวมาเป็นระบบโรงงาน”
ขยับขยายโรงงาน ชูรายการยาเด่น
จากตลาดในละแวกบ้าน เริ่มขยายสู่ตำบล อำเภอ จังหวัด ภูมิภาค ทั่วประเทศ ก้าวสู่ตลาดต่างประเทศ โดยเริ่มจากอาเซียน และปัจจุบันนี้สินค้าตราตะขาบ 5 ตัว ขายผ่านเอเย่นต์ทั้งหมด 14 ประเทศ โดยใน 10 ประเทศสามารถจดทะเบียนยาผ่านแล้ว
ชนิดยาที่คุณปู่ผลิตรวมแล้วกว่า 10 รายการ ถูกตัดทอนลง โดยเจเนอเรชั่นที่ 2 ด้วยมองว่าควรคัดสินค้าเด่น ให้ก้าวออกมาทำตลาดอย่างเต็มตัว
ในวันที่คุณสุเทพ และคุณสุนทร ก้าวสู่วัยเกษียณเล็งเห็นว่าควรฝึกฝนทายาทให้ก้าวเข้ามารับช่วง และหนึ่งในนั้นก็คือคุณเมธา ที่บัดนี้ก้าวเข้ามาสานต่อธุรกิจได้ราว 10 ปีแล้ว โดยดูแลงานด้านการผลิต แต่ทว่าหากถามด้านการตลาดก็สามารถตอบได้ชัดเจน อาจเพราะกว่า 7 ปี คุณเมธาคลุกคลีอยู่กับงานด้านการตลาดมาแล้วหลายบริษัท
“ในช่วงเดือนแรกที่ผมเข้ามาสานต่อธุรกิจ ผมมีโอกาสลงพื้นที่ขายกับเชลล์ แล้วก็พบว่าเรื่องขายไม่ใช่ปัญหา แต่ปัญหาคือการผลิต ผมจึงเข้าไปดูในส่วนนั้น ซึ่งสิ่งที่ทำคือ สามารถบริหารจัดการหลังบ้านจนเกิดมีกำไรขึ้นมา”
อีกปัญหาหนึ่งที่ประสบอยู่จนถึงบัดนี้คือ ผลิตไม่พอขาย ด้วยเพราะตลาดปัจจุบันขยายกว้างขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีน ต่างรุมซื้อไปใช้และกลายเป็นสินค้าของฝากที่ได้รับความนิยม
“ตอนนี้สินค้าตราตะขาบ 5 ตัว ผลิตอยู่ 4 รายการคือ ยาอมแก้ไอ ยาขมเม็ด ยากวาดมหาจักร์ ยาแก้ปวดท้องบิด (ยาเม็ดเบอร์เจ็ด) ซึ่ง 3 ตัวหลังจะผลิตปีละ 1 ครั้ง สามารถขายได้ตลอดทั้งปี แต่กับยาอมแก้ไอ เป็นสินค้าได้รับความนิยมมาก กำลังการผลิตขณะนี้แบบซอง 400,000 โหล แบบตลับ 20,000 โหล ต่อวัน แต่ไม่พอขาย ทั้งๆ ที่กำลังความต้องการนี้สามารถเพิ่มได้นับ 100,000 โหล”
ยอดขายในไทย ทำรายได้กับคนจีน
ถ้าเทียบการส่งออกสินค้า 40 เปอร์เซ็นต์ กระจายไปในประเทศต่างๆ ที่เหลือ 60 เปอร์เซ็นต์ อยู่ในประเทศ แต่ข้อมูลที่น่าสนใจคือ ใน 60 เปอร์เซ็นต์ของยอดขายในประเทศ ผู้จ่ายกว่าครึ่งคือนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเยือนประเทศไทย โดยเฉพาะชาวจีน
“เมื่อลงพื้นที่ขายจริง ทำให้ทราบว่า 60 เปอร์เซ็นต์ของยอดขาย ซ่อนอัตราการส่งออกไว้สูงกว่าครึ่งหนึ่ง และกลุ่มทัวร์จีนจะให้ความสนใจมาก จนกระทั่งร้านค้าช็อปต่างๆ ตามสถานที่ท่องเที่ยว อย่าง ชลบุรี เชียงใหม่ ภูเก็ต และอีกหลายๆ จังหวัด ติดต่อเข้าขอซื้อสินค้านำไปวางจำหน่าย ช่องทางการตลาดใหม่จึงเกิดขึ้น”
จากตลาดผ่านร้านขายยา ที่คุณเมธา ว่า มีสินค้าตราตะขาบ 5 ตัว วางจำหน่ายแล้วทุกร้าน จึงขยายไปยังร้านค้าชั้นนำในแหล่งท่องเที่ยวที่ทัวร์จีนนิยมแวะจับจ่าย ตลอดจนร้านสะดวกซื้อ ซึ่งถ้าเทียบสัดส่วนยอดขาย ตลาดท่องเที่ยวสามารถสร้างรายได้แซงหน้าร้านขายยาไปแล้ว
คุณเมธาให้เหตุผลถึงความนิยมซื้อของกลุ่มเป้าหมายคนจีนว่า ขึ้นชื่อว่า ยา สรรพคุณต้องดี บวกกับการผลิตที่ทันสมัยมากขึ้น ซึ่งปัจจุบันมีห้องแล็บ และเครื่องตรวจเอกลักษณ์เหมือนเช่นโรงงานยาแผนปัจจุบัน ดังนั้น สารสำคัญของทุกเม็ดยาจึงได้คุณภาพเหมือนกัน
ทั้งในด้านการพกพาสะดวก น้ำหนักเบา ราคาขายที่ไม่สูง คือแบบซอง 15 บาท แบบตลับ 30 บาท จึงเป็นราคาที่สามารถจับต้องได้ในทุกกลุ่มเป้าหมาย
“เมื่อก่อนผมไม่รู้จริงๆ นะว่า คนจีนให้ความนิยม แต่เกิดความสงสัยว่า ยี่ปั๊วที่อยู่ในพื้นที่ท่องเที่ยวทำไมทำยอดขายดีมาก จึงลงพื้นที่สำรวจ ก็พบว่าชาวจีนให้ความนิยมซื้อกลับประเทศของเขา แผนการตลาดจึงเจาะไปยังแหล่งท่องเที่ยวที่มีทัวร์จีนไปลง และก็ได้นำสินค้าเข้าไปเสนอขายใน คิง เพาเวอร์ ซึ่งแรกๆ ทาง คิง เพาเวอร์ ไม่มั่นใจว่าสินค้าจะขายได้ แต่พอรับไว้ปรากฏว่า 2 สัปดาห์ขายหมด จนมีออร์เดอร์สั่งซื้อต่อเนื่อง โดยทุกวันนี้ส่งให้สัปดาห์ละ 7,000 ชุด”
ตั้งแผนขยายโรงงานผลิตให้ทันตลาดจีน
ด้วยความต้องการของตลาดมีมากขึ้น แต่ทว่ายอดขายไม่สามารถส่งให้ทัน แผนการดำเนินงานขั้นต่อไปคือ การขยายกำลังการผลิต
“ถ้ากำลังการผลิตสามารถขยายไปได้มากขึ้น ผมเชื่อว่ากลุ่มเป้าหมายหลักที่จะทำยอดขายให้กับเราคือ คนจีน ทั้งที่เดินทางมาประเทศไทย และที่อยู่ในประเทศของเขา ซึ่งตอนนี้เราขายผ่านเอเย่นต์อยู่ แต่ทว่าเรื่องการจดทะเบียนยายังเป็นเรื่องที่ยากมากสำหรับประเทศนี้”
เมื่อรู้กลุ่มเป้าหมายใหญ่ คุณเมธาจึงเลือกที่จะเดินทางไปออกงานแสดงสินค้า ณ ประเทศจีน ทั้งที่ไปกับหน่วยงานราชการ อย่าง กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ โดยปีหนึ่งหลายครั้ง ซึ่งแม้จะขนสินค้าไปจำหน่ายมากเพียงใด ก็หมดก่อนระยะเวลาจัดงาน และนี่จึงเป็นสิ่งตอกย้ำว่า ตลาดจีน คือตลาดที่สามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง
“อย่างการจดทะเบียนยาในสหรัฐอเมริกา เราไม่ได้หวังขายคนอเมริกัน แต่หวังขายคนเอเชียที่อยู่ในอเมริกา โดยเฉพาะคนจีน ซึ่งผมมองว่าคนจีนอยู่ในทุกประเทศ สินค้าจึงตามกลุ่มเป้าหมายนี้ไปได้ทุกประเทศ และตลาดจีนที่ผมว่ามีอัตราความเติบโตสูงในด้านยอดขาย และความต้องการนี้เอง เราจึงคิดที่จะขยายโรงงาน สร้างกำลังผลิตให้เพียงพอ”
ไม่เพียงเท่านั้น คุณเมธายังให้ความสำคัญกับบรรจุภัณฑ์ต้องทันสมัย แต่ยังคงพกพาสะดวกสบาย น้ำหนักเบา พร้อมๆ ไปกับการคิดผลิตสินค้าใหม่ๆ ออกมาจับกลุ่มเป้าหมายให้กว้างขึ้น
“อย่างตอนนี้ คิดสูตรสเปรย์น้ำพ่น ซึ่งก็เป็นการนำยาอมแก้ไอแบบลูกกลอนมาทำเป็นสูตรน้ำ เพราะข้อเสียของยาอมตะขาบ 5 ตัว แบบเม็ดลูกกลอนคืออมแล้วลิ้นดำ กลุ่มผู้บริโภคจึงอยู่ในวัย 30 ปีขึ้นไป แต่สูตรน้ำตัดปัญหาด้านนี้ไปได้ พกพาหยิบใช้สะดวก เราจึงเชื่อว่าจะสามารถจับกลุ่มเป้าหมายวัยรุ่นประมาณ 20 ปีขึ้นไปได้อีกกลุ่มหนึ่ง ซึ่งก็แน่นอนว่าทั้งที่เป็นคนไทยและคนจีน”
กว่า 80 ปี ที่แบรนด์ตะขาบ 5 ตัว เติบโตไต่ระดับสูงขึ้นๆ จากยอดขายไม่กี่บาท มาจนถึงวันนี้ แตะตัวเลขนับร้อยล้าน และแน่นอนว่าเมื่อตลาดต้องการ การขยับขยายย่อมตามมา ส่วนเคล็ดลับการทำให้สินค้าถูกใจผู้บริโภค ที่ไม่เฉพาะเพียงคนไทย คุณเมธา ว่า ไม่มีอะไรมากไปกว่าการคงไว้ซึ่งคุณภาพอันดี
สนใจติดต่อ บริษัท ห้าตะขาบ (ซิมเทียนฮ้อ) จำกัด ตั้งอยู่ เลขที่ 80/3-4 ถนนพระราม 2 แขวงท่าข้าม เขตบางขุนเทียน กรุงเทพฯ 10150 โทรศัพท์ (02) 898 5454-7 หรือ http://www.takabb.com