ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือเส้นทางเศรษฐี
http://info.matichon.co.th/rich/rich.php?srctag=07088011258&srcday=2015-12-01&search=no
| วันที่ 01 ธันวาคม พ.ศ. 2558 ปีที่ 21 ฉบับที่ 386 |
เส้นทางปฏิรูป
บุญเลิศ ช้างใหญ่
ไทยชำเลืองตามองพม่า เริ่มต้นพัฒนา-เดินหน้าประชาธิปไตย
ผลการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) หรือสภาล่าง และสภาชนชาติ หรือวุฒิสภา ซึ่งเป็นสภาสูงครั้งประวัติศาสตร์ในรอบ 25 ปีของพม่า เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2558 พรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (NLD) กวาดชัยชนะเหนือคู่แข่งอย่าง พรรคสหสามัคคีและการพัฒนา (USDP) ไปแบบถล่มทลาย ยึดครองเสียงข้างมากในสภา
รัฐสภาปัจจุบัน จะหมดวาระในวันที่ 30 มกราคม 2559 มีกำหนดส่งมอบอำนาจแก่ผู้แทนชุดใหม่ในต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2559 จากนั้นรัฐสภาจะลงคะแนนเสียงเลือกประธานาธิบดีคนใหม่ ในวันที่ 29 มีนาคม 2559
วิธีการเลือกประธานาธิบดี ใช้การประชุมร่วม 2 สภา ผู้แทนที่ได้รับการเลือกตั้งเข้ามาใหม่จะโหวตเลือกประธานาธิบดี โดยสภาผู้แทนราษฎร วุฒิสภา และทหาร เสนอชื่อบุคคลได้ 1 ชื่อ เพื่อชิงตำแหน่งประธานาธิบดี
จากนั้น ประธานาธิบดีจะจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่และแต่งตั้งผู้มีอำนาจประจำรัฐและภูมิภาค
ถ้ารัฐธรรมนูญไม่ไปเขียนห้ามคนพม่าที่ไปมีคู่สมรสต่างชาติขึ้นดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี นางอองซาน ซูจี ก็จะก้าวขึ้นสู่ผู้นำประเทศอย่างสง่างาม
เส้นทางการปฏิรูปประเทศของไทยมิอาจมองข้ามความเป็นไปของพม่าไปได้
เพราะพม่าในวันนี้ ภายหลังประชาชนได้แสดงเจตจำนงผ่านการใช้สิทธิเลือกตั้งที่แข่งขันกันในระดับพรรคการเมืองเพื่อไปจัดตั้งรัฐบาลบริหารประเทศตามระบอบประชาธิปไตย ถูกกล่าวถึงในฐานะประเทศที่จะพัฒนาเดินหน้าสู่การเป็นประชาธิปไตยที่มั่นคง
ไม่ใช่พม่าในอดีตที่โลกประณามหยามเหยียดว่า เป็นเผด็จการทหารปกครองประเทศ ใช้รัฐธรรมนูญที่พวกตัวเองร่างเพื่อประโยชน์ของกลุ่มและพรรคของตัวเอง กีดกันพรรคการเมืองฝ่ายค้านของนางอองซาน ซูจี
ระยะเปลี่ยนผ่านการเมืองของพม่าเป็นที่น่าติดตามของประเทศต่างๆ
ดุลการเมืองระหว่างประเทศจะเปลี่ยนไป
ในปี 2559 พม่าจะขึ้นรับตำแหน่งประธานกลุ่มประเทศในอาเซียน
ขณะที่โฉมหน้าการเมืองของพม่าเข้าสู่ระยะเปลี่ยนผ่านเริ่มต้นการถ่ายโอนอำนาจของทหารให้กับฝ่ายการเมืองที่มาจากประชาชนจะดำเนินไปอย่างไร และจะเกิดการปฏิรูปประเทศแบบไหน
ประเทศไทยกำลังขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ โดย สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) ที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และคณะรัฐมนตรี กำหนดให้มาทำหน้าที่สืบต่อจากสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) หลักที่วางไว้ในรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวคือ เลือกเอาเรื่องที่จำเป็นเร่งด่วนมาดำเนินการมุ่งผลสัมฤทธิ์เป็นสำคัญ หมายความว่า ข้อสรุปและข้อเสนอที่ สปช. เคยทำไว้และส่งให้รัฐบาลไปแล้ว ไม่ต้องนำมาสานต่อทุกเรื่อง (37 วาระการปฏิรูป)
ความสำเร็จของการปฏิรูปในด้านต่างๆ ประกอบด้วย 1. การเมือง 2. กฎหมายและกระบวนการยุติธรรม 3. การบริหารราชการแผ่นดิน 4. การปกครองท้องถิ่น 5. การศึกษา 6. เศรษฐกิจ 7. สาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม 8. พลังงาน 9. สื่อมวลชน 10. สังคม และ 11. อื่นๆ
นอกจากนี้ เรื่องของการสร้างความปรองดอง การป้องกันการทุจริตและประพฤติมิชอบ ก็ถูกกำหนดโดย สปท. ให้นำมาขับเคลื่อนการปฏิรูปด้วย
รูปธรรมแห่งสัมฤทธิผลการปฏิรูปที่ประชาชนสัมผัสได้จะเป็นเรื่องอะไรและเกิดขึ้นเมื่อใดเป็นสิ่งที่ใครๆ ก็อยากจะเห็น
ในความเป็นจริงขณะนี้ สิ่งที่สื่อมวลชนให้ความสนใจ และประชาชนซึ่งบริโภคสื่อก็คงจะเห็นคล้อยตามไปด้วยกับสิ่งที่สื่อนำเสนอ ก็คือ
1. การร่างรัฐธรรมนูญ ประเด็นสำคัญๆ จะเขียนออกมาอย่างไร เช่น ที่มานายกรัฐมนตรี ต้องเป็น ส.ส. หรือไม่ คนนอกจะมาเป็นนายกฯ ได้ไหม ด้วยเงื่อนไขอย่างไร พรรคการเมืองจะเสนอรายชื่อคนจะเป็นนายกฯ ให้ประชาชนเห็นในช่วงหาเสียงเลือกตั้งได้แบบไหน ฯลฯ ร่างรัฐธรรมนูญจะผ่านประชามติจากประชาชนหรือไม่
2. การเรียกค่าเสียหายทางแพ่งกับนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กรณีทุจริตจำนำข้าว จะเรียกเป็นเงินเท่าไร นางสาวยิ่งลักษณ์จะต่อสู้แบบไหน รวมไปถึงการดำเนินคดีอาญา มาตรา 157 ในศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองจะออกมาอย่างไร ซึ่งคดีอาญาจะใช้เวลาอีกนานกว่าจะมีคำพิพากษา การดำเนินการกับนางสาวยิ่งลักษณ์จะนำไปสู่กระแสความอึดอัดคับข้องใจของประชาชนที่เคยสนับสนุนพรรคเพื่อไทยหรือไม่
ตามโรดแมปของรัฐบาลและ คสช. 6+4+6+4=20 เดือน สอดรับกับโรดแมปของ สปท. 1+1+18=20 เดือน หากดำเนินไปตามปกติ นั่นคือ ร่างรัฐธรรมนูญผ่านประชามติ 20 เดือนจะมีรัฐบาลใหม่ภายหลังการเลือกตั้งจะอยู่ในช่วงประมาณกลางปี 2560
แต่ถ้าร่างรัฐธรรมนูญเกิดมีอันเป็นไป ไม่ผ่านประชามติในช่วงเดือนมิถุนายน-กรกฎาคม 2559 โรดแมปจะสั้นเข้ามาทันที ความปั่นป่วนวุ่นวายก็ไม่มีใครรับประกันได้ว่าจะไม่เกิดขึ้น
แม้ว่าร่างรัฐธรรมนูญจะผ่านประชามติแต่ผ่านไปแบบกระท่อนกระแท่น เสียงข้างมากที่ให้ผ่านออกมาแบบไม่ฉิวเฉียดกับฝ่ายให้คว่ำ เช่น มากกว่ากันแค่ 2-3 ล้านเสียง ก็มีแนวโน้มจะเกิดปัญหาความขัดแย้งอันเนื่องมาจากฝ่ายไม่ยอมรับจะอ้างถึงข้อบกพร่องที่ปรากฏในรัฐธรรมนูญ ซึ่งจะต้องเรียกร้องให้มีการแก้ไขต่อไป ขณะที่รัฐบาล กรรมการร่างรัฐธรรมนูญ และสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ก็เดินหน้าจัดทำกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญและกฎหมายลูกเพื่อการปฏิรูปประเทศ
การปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขของไทยถือว่าลงหลักปักฐานได้มั่นคงกว่าพม่า แต่เมื่อพม่าเริ่มต้นตั้งหลักแล้วเดินไปข้างหน้า ไทยอาจถูกพม่าแซงหน้าไปได้ง่ายๆ หากไทยยังหาแนวทางการเมืองการปกครองที่เหมาะสมกับสังคมไทยไม่ได้ การขับเคลื่อนการปฏิรูปก็พลอยถูกกระทบกระเทือนไปด้วย ไม่แน่ว่า อาจมีคนไทยชำเลืองตามองพม่าแบบอิจฉาก็เป็นได้