ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือเส้นทางเศรษฐี
http://info.matichon.co.th/rich/rich.php?srctag=07081010159&srcday=2016-01-01&search=no
| วันที่ 01 มกราคม พ.ศ. 2559 ปีที่ 21 ฉบับที่ 388 |
บัญชีธุรกิจ
วิโรจน์ เฉลิมรัตนา virojch@yahoo.com
กิจการในฝัน
ในยุคนี้มีคนจำนวนไม่น้อยใฝ่ฝันการได้เป็นเจ้าของกิจการ เป็นนายของตัวเอง ผมอยากชวนคิดว่าหากเราสร้างกิจการของเราเอง เราฝันอยากเห็นกิจการของเราเป็นกิจการในแบบไหน
กิจการของเราจะขายสินค้า บริการที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม ไม่ก่อให้เกิดผลกระทบทางลบต่อสิ่งแวดล้อม ผลิตภัณฑ์ที่ขายนั้นได้มาตรฐาน และมีคุณสมบัติที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ และคุณภาพชีวิตของลูกค้า ร้านรวงที่ลูกค้ามาใช้บริการมีความสะอาดถูกสุขลักษณะ ร้านออกแบบสวยน่าเข้า ผลิตภัณฑ์ผลิตโดยใช้วัตถุดิบที่มีคุณภาพไม่เอาเปรียบลูกค้า ไม่ผลักภาระต้นทุนที่ไม่สมควรให้กับสังคม เช่น ปล่อยสารพิษ หรือขยะออกสู่สังคมโดยไม่มีระบบการกำจัดที่เหมาะสม และโดยที่สังคมไม่ต้องไปรับผลกระทบเหล่านั้นเองโดยไม่เป็นธรรม
กิจการของเราจะสร้างงานให้คนมีงานทำ มีระบบการฝึกอบรมเพื่อให้บริการลูกค้าได้อย่างมืออาชีพ ให้เงินเดือนค่าแรงที่ยุติธรรม มีสวัสดิการที่เหมาะสม พนักงานมองเห็นอนาคตและ “เส้นทางสายอาชีพ” ของตัวเองชัดเจน รู้ว่าหากพัฒนาคุณภาพการทำงานของตนไปสู่จุดใดจุดหนึ่งแล้วจะได้รับการโปรโมตให้ทำงานในหน้าที่ที่สูงขึ้น มีความรับผิดชอบมากขึ้น หากอยู่ในองค์กรต่อไปในระยะยาวจะมีตำแหน่งการเลื่อนขั้นตามเงื่อนไขการทำงานที่มีตัวชี้วัดชัดเจน และยุติธรรม พนักงานในระดับล่างที่สุดก็ยังตระหนักว่า ตนสามารถเติบโตขึ้นไปสู่จุดที่เป็นหัวหน้าในระดับต่างๆ ได้ หรือแม้แต่มีทางเลือกให้สามารถออกไปสู่ตลาดงานข้างนอกได้อย่างมีคุณภาพ และกิจการก็ยินดีกับพนักงานที่หากจะต้องเดินออกไปสู่จุดอื่นในสังคม โดยพนักงานผู้นั้นพูดได้อย่างภาคภูมิใจว่า นั้นเคยมีประสบการณ์การทำงานมาจากเรามาก่อนจึงเป็นแรงงานที่มีคุณภาพต่อสังคม
กิจการของเราจะเป็นต้นแบบการบริหารจัดการที่มีมาตรฐาน รู้จักการบริหารต้นทุนค่าใช้จ่าย โดยเลือกจ่ายในต้นทุน และค่าใช้จ่ายที่สมเหตุสมผล ไม่นำเงินของกิจการไปใช้ผิดที่ผิดทาง ไม่ว่าจะเป็น เงินใต้โต๊ะ เงินสินบนเพื่อให้ได้งาน ไม่จ่ายค่ารับรองที่ไร้แก่นสารไม่สมเหตุสมผล ไม่จ่ายเงินจำนวนมากไปกับค่าเหล้าเพื่อให้มีงานเลี้ยงประจำปีของบริษัทในขณะที่สวัสดิการพื้นฐานอื่นๆ ยังไม่เป็นโล้เป็นพาย เป็นต้น
กิจการจะรู้จักจ่ายลงทุนเพื่อให้ได้เครื่องจักรที่มีคุณภาพดี สามารถลดต้นทุนการผลิตได้อย่างมีนัยสำคัญ สามารถผลิตสินค้าที่มีคุณภาพที่เที่ยงตรงสม่ำเสมอและเชื่อมั่นได้ รู้จักจ่ายเงินเพื่อลงทุนในระบบกำจัดขยะ น้ำเสีย และสารพิษ รู้จักการทำ CSR (Corporate Social Responsibility) ที่ส่งผลอย่างแท้จริงต่อลูกค้าและชุมชน ไม่ใช่การละลายงบประมาณไปกับการสร้างภาพสวยหรูใช้เงินมาก แต่ไม่สามารถช่วยสังคมได้อย่างแท้จริง
กิจการจะรู้จักนำความรู้ด้านการบริหารจัดการธุรกิจอย่างมืออาชีพมาใช้ มีความโปร่งใสตรวจสอบได้ ทำบัญชีเพียงชุดเดียว เสียภาษีอย่างถูกต้องตรงไปตรงมา ไม่นำค่าใช้จ่ายส่วนตัวมาปะปนกับค่าใช้จ่ายของธุรกิจ กิจการจะรู้จักเลือกใช้ผู้สอบบัญชีที่ตรวจสอบอย่างตรงไปตรงมา และยินดีจ่ายค่าสอบบัญชีที่สมเหตุสมผล ความคาดหวังที่มีต่อผู้สอบบัญชีคือ การได้รับคำแนะนำในการบันทึกบัญชี และเปิดเผยข้อมูลที่เหมาะสมตามหลักการ ไม่ใช่เลือกผู้สอบบัญชีโดยดูเพียงค่าสอบบัญชีที่ถูกที่สุดโดยขอเพียงการลงชื่อรับรองงบการเงินไปแบบมั่วๆ และสบายใจกับการที่ผู้สอบบัญชีไม่ต้องเข้ามาตรวจสอบอะไรมากมายให้วุ่นวาย
ผมไม่รู้ว่ากิจการในลักษณะที่ว่านี้ จะเข้าข่ายเป็นกิจการในฝันของคุณหรือไม่ แต่ผมเชื่อว่าหลายๆ ข้อที่ว่ามานี้จะช่วยให้กิจการของคุณเป็นกิจการที่ดีได้ และที่สำคัญหากเรามีกิจการในลักษณะนี้เกิดขึ้นในวงกว้างจริง ผมเชื่อว่าจะส่งผลต่อสังคม และช่วยลดความรุนแรงของปัญหาคอรัปชั่นลงได้บ้างอย่างแน่นอน
แล้วเราจะทำอย่างไร…
ผมเสนอว่าให้ LIST รายการข้างต้นออกมาเป็นข้อๆ เพิ่มรายการที่คุณเห็นว่าเป็นสิ่งที่อยู่ในใจคุณเข้าไป ตัดข้อที่คุณไม่เห็นด้วยออก แล้วเลือกข้อที่มีความหมายกับคุณมากที่สุด เลือกข้อที่คุณเชื่อว่าจะทำให้กิจการของคุณเป็นกิจการในฝันขึ้นมาได้จริง เลือกออกมาเท่าที่คุณต้องการ จะมี 3 ข้อ 5 ข้อ 10 ข้อ หรือมากกว่านั้นก็สุดแท้แต่ หรือจะจัดกลุ่มออกเป็น เรื่องที่มีความสำคัญเร่งด่วนมากที่สุด เรื่องที่มีความสำคัญรองลงมา เรื่องที่มีความสำคัญแต่ไม่เร่งด่วน และเรื่องที่เมื่อกิจการอยู่รอดและดำเนินงานได้ต่อเนื่องแล้วฉันจะทำ เป็นต้น
จุดสำคัญที่สุดของประเด็นนี้ที่ผมอยากชวนให้คิดคือ ผมอยากให้เรื่องเหล่านี้ สอดแทรกเป็นเนื้อเดียวกันกับแผนธุรกิจ แผนการตลาด แผนการเงิน และงบประมาณ และนโยบายการบริหารของกิจการ ให้มันสะท้อนอยู่ใน Mission Statement ของกิจการ เป็นทิศทางที่ชัดเจนว่า กิจการจะเดินไปสู่ “กิจการในฝัน” (ในแบบของคุณ) อย่างไร
โดยไม่เพียงแต่เจ้าของกิจการเท่านั้นที่จะต้องประพฤติปฏิบัติตนให้อยู่ในร่องในรอยตามที่ได้ประกาศไว้ และตอกย้ำแก่พนักงานทุกคนที่เข้ามาร่วมงานด้วย หากเจ้าของ และผู้บริหารกิจการเคร่งครัดกับความประพฤติของตนเองแล้ว พนักงานย่อมต้องเล็งเห็น และเดินตามแนวทางของกิจการในฝันที่ว่านี้อย่างไม่ต้องสงสัย
เพื่อให้เห็นภาพ ทดลองคิดเล่นๆ เป็นตัวอย่าง เช่น
กิจการที่ทำงานผ่านระบบการประมูลจากรัฐ หากมีท่าทีแต่เริ่มต้นว่า กิจการในฝันของเราจะไม่ให้เงินสินบนเงินใต้โต๊ะ เพื่อให้ได้งาน (หรือให้ในระหว่างดำเนินงาน) เราย่อมต้องวางท่าทีในการทำธุรกิจไว้อีกแนวหนึ่ง อะไรจะเป็นจุดแข็งในการนำเสนอเพื่อให้ได้งาน ตลาดที่จะเข้าไปหางาน หรือวิธีการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายเพื่อให้ได้งานย่อมมีแนวทางที่เปลี่ยนไป วิธีการดำเนินธุรกิจก็ย่อมต้องแตกต่างไปจากกิจการอื่น เราต้องไม่เอา Norm ของคนอื่นมาทำให้กิจการในฝันของเราไขว้เขวคลาดเคลื่อน เพราะหากเป็นเช่นนั้น เราจะไม่บรรลุเป้าหมายในการมีกิจการในฝันของเรา
กิจการที่ยังอยู่ในขั้นเพิ่งเริ่มต้นตั้งไข่ อาจเห็นว่าเรื่องสินค้าและบริการ เรื่องผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพเป็นประโยชน์ต่อสังคม เรื่องการทำอย่างไรให้สินค้าติดตลาดมีฐานลูกค้าที่แน่นอน จับกลุ่มตลาดได้ถูกต้อง เป็นเรื่องที่มีความสำคัญที่สุด ทำอย่างไรให้กิจการดำเนินการได้อย่างต่อเนื่อง มีผลกำไรพอสมควร ทำอย่างไรจะลดต้นทุนที่ไม่จำเป็นออกไป คุณย่อมต้องเลือกว่า อะไรคือต้นทุนที่สำคัญที่สุด อะไรเป็นต้นทุนที่ควรตัดออก ค่าใช้จ่ายฟุ่มเฟือยอะไรที่เราไม่ควรจะจ่าย
เมื่อกิจการมีผลประกอบการดี จับตลาดได้ถูกต้อง มีอัตราการขยายตัวต่อเนื่อง มีผลกำไรดีติดต่อกัน และมีความมั่นคงในฐานะการเงินในระดับที่น่าพึงพอใจ กิจการอาจเริ่มเห็นความสำคัญของการสร้างบุคคลากรที่มีคุณภาพกิจการอยู่ในสถานะที่ไม่ต้องห่วงกังวลว่าคนที่เราสร้างจะออกไปทำงานที่อื่น ซึ่งนั่นคือ การเป็นองค์กรที่ยกระดับตนเองสู่การเป็นผู้ให้ในลักษณะที่สร้างคนที่มีคุณภาพออกไปสู่สังคม คนที่ออกไปก็เติบโตไปตามวิถีทางของเขาโดยมีพื้นฐานที่ดีจากกิจการของเรา นี่ย่อมเป็นยิ่งกว่ารางวัลตอบแทนการเป็นเจ้าของกิจการในฝันของเรามากกว่าโล่ห์รางวัลใดๆ
จุดที่ขอแทรกและอยากเน้นไว้ในที่นี้คือ เรื่องของต้นทุนค่าใช้จ่ายนั้น มีความสำคัญที่เจ้าของ และผู้บริหารของกิจการต้องคิดให้ถูกทาง เพราะส่งผลต่อความสามารถในการอยู่รอดของกิจการเป็นอย่างมาก ร้านค้า หรือกิจการบางแห่งเปิดตัวอย่างโอ่อ่าอลังการ หมดเงินไปกับค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นจำนวนมาก ลงทุนในเครื่องจักรอุปกรณ์ที่ยังเกินกว่าศักยภาพ และโครงสร้างการลงทุนของกิจการมากเกินไป (ในลักษณะ Over-invested) หากเมื่อใดเกิดเหตุไม่คาดฝัน หรือแผนการตลาดไม่เป็นไปตามที่คาด จะส่งผลต่อความสามารถในการดำเนินกิจการต่อเนื่องทันที เคยเห็นกิจการจำนวนมากมีต้นทุนจมในเครื่องจักร รถยนต์ประจำตำแหน่ง ผลตอบแทนผู้บริหารที่สูงลิบ ในขณะที่ค่าแรงงานจำกัดจำเขี่ยจนแทบจะหาคนงานมาทำงานด้วยไม่ได้ก็มี เมื่อขายไม่ได้ตามเป้าก็สะดุด และล้มครืนเพราะจ่ายเงินออกไปมากจนขาดสภาพคล่อง และต้องปิดตัวในที่สุด`
ความรู้ความสามารถ และท่าทีในการเลือก และจัดลำดับความสำคัญในการลงทุน ในการเลือกจ่ายในเรื่องอะไรบ้าง มีผลอย่างยิ่ง และหลายๆ ครั้งเป็นจุดตายที่ส่งผลให้กิจการสามารถวิ่งฉิวติดลมบนไปได้สวย หรือล้มครืนในเวลาอันสั้น ไม่ได้ทำกิจการตามอย่างที่ฝันไว้
แนวคิด “กิจการในฝัน” จะสำเร็จลงได้ ต้องอาศัยความฝันที่ดีงาม การแปรความฝันออกมาเป็นแผนที่ชัดเจน การกำหนดกลยุทธ์ที่ชาญฉลาดที่สอดคล้อง และนำพากิจการไปสู่เป้าหมาย นอกจากนี้ แนวคิดดังกล่าวยังสามารถนำมาเริ่มใช้กับกิจการในทุกช่วงเวลา ไม่ว่ากิจการจะเพิ่งเริ่มต้นดำเนินการ หรือดำเนินการมาแล้วหลายปี หรือกำลังเพลี่ยงพล้ำ และหาหนทางปรับเปลี่ยนเพื่อให้อยู่รอดได้ หากถ้าเห็นดีเห็นงามด้วย ก็ลงมือเริ่มเขียนเริ่มคิดได้เลยครับ