ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือเส้นทางเศรษฐี
http://info.matichon.co.th/rich/rich.php?srctag=07049010159&srcday=2016-01-01&search=no
| วันที่ 01 มกราคม พ.ศ. 2559 ปีที่ 21 ฉบับที่ 388 |
เรื่องแบรนด์ เรื่องกล้วยๆ
สมยศ ชัยรัตน์ ที่ปรึกษาด้านการสร้างแบรนด์ และอาจารย์พิเศษ BJM คณะวารสารศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
วัฒนธรรมข้ามชาติ
ประเทศตะวันตกมีอิทธิพลกับประเทศอื่นๆ มากด้านการส่งผ่านวัฒนธรรมโดยผ่านแบรนด์ ผ่านภาพยนตร์ต่างๆ
ในประเทศไทยเรา วัฒนธรรมมีความหมายยิ่งใหญ่ และลึกซึ้งมาก แต่ส่งผลง่ายๆ กับการใช้ชีวิตทั้งหมดของคนคนหนึ่ง คนครอบครัวเดียวกัน ยังแตกต่างกัน คนต่างครอบครัว ต่างจังหวัด ต่างภาค ต่างประเทศ ยิ่งมีความแตกต่างกันอย่างมาก สิ่งที่ทำให้คนคนหนึ่งโดดเด่น แตกต่าง ความเข้าใจคน หรืออีกนัยหนึ่งคือผู้บริโภค ถ้าเราเข้าใจเขามาก เราก็สามารถสร้างแบรนด์ไปได้ในทิศทางที่ถูกต้อง ถ้าเป็นแบรนด์ไทยเราก็สามารถหาทางส่งผ่านวัฒนธรรมของเราข้ามอาณาเขตไปได้ ปัจจัยที่มีอิทธิพลและสร้างความแตกต่างทางด้านวัฒนธรรม มีหลายประการที่เราต้องทำความเข้าใจ และมีวิธีการมากมายในการหาข้อมูลเพื่อทำความเข้าใจกับสิ่งต่างๆ
ข้อมูลแรกเลยก็คือ ข้อมูลด้านสำมะโนประชากร ซึ่งหาได้ง่ายๆ โดยการค้นหาทางอินเตอร์เน็ต โดยผ่านกูเกิ้ล ข้อมูลเบื้องต้นเหล่านี้มักจะแบ่งเป็นจำนวนประชากรในช่วงอายุต่างๆ กัน โดยแบ่งเป็นเพศ บางประเทศสามารถบอกได้ถึงรายได้และประชากร แบ่งตามพื้นที่ ทำให้เราสามารถคำนวณคร่าวๆ ถึงโอกาสทางด้านการค้า เช่น ถ้าเราขายผ้าอนามัย เราก็สามารถคำนวณคร่าวๆ จากจำนวนประชากรหญิง อายุ 13-45 ปี โดยประมาณของคน โดยคูณกับจำนวนครั้งของการมีประจำเดือนต่อปี คูณกับจำนวนชิ้นต่อครั้ง คูณกับราคาเฉลี่ย ก็จะได้มูลค่าตลาดโดยรวมคร่าวๆ และพร้อมจะเป็นจุดสำคัญในการตัดสินใจว่าจะทำตลาดได้อย่างไร หลังจากนั้นก็ควรจะรู้ว่าคนหรือประชากรกระจัดกระจายอยู่ในประเทศอย่างไร ซึ่งจะส่งผลในการกระจายสินค้า รายได้ของประชากรก็สามารถที่จะบ่งบอกถึงโอกาสในการขายสินค้าเรา ถ้ารายได้สูงก็อาจจะสามารถขายสินค้าราคาสูงได้ ข้อมูลเหล่านี้เป็นข้อมูลเบื้องต้น ที่สามารถหาได้อย่างง่ายดาย
เมื่อศึกษาคร่าวๆ แล้ว เราก็ควรไปเยี่ยมเยือนประเทศที่เราจะทำการค้าด้วย
ก้าวแรกที่เข้าก็อาจจะต้องมองหากลุ่ม หรือบริษัทที่จะรับผิดชอบด้านกระจายสินค้าให้เรา การเลือกควรดูบริษัทให้ดีว่าน่าเชื่อถือขนาดไหน เขาต้องอยู่กับเรานาน การเปลี่ยนบริษัทไม่ใช่สิ่งที่ดีนัก ทุกสิ่งต้องเริ่มใหม่ ใช้เวลาในการตัดสินใจให้เต็มที่ ดูว่ามีเงื่อนไขในการสร้างแบรนด์อย่างไร ใครเป็นคนสนับสนุนเรื่องเงินในการสร้างแบรนด์ หรือออกทั้งคู่ เพื่อให้เกิดความรับผิดชอบ และกระตุ้นให้เกิดความพึงใจในการทำการตลาด การเซ็นสัญญาควรระบุให้ชัดเจนถึงอาณาเขตและความรับผิดชอบ บางบริษัทก็ติดต่อกับบริษัทด้านการกระจายสินค้าเจ้าเดียว บางบริษัทก็หลายเจ้า โดยกำหนดบริเวณและความรับผิดชอบซึ่งขึ้นอยู่กับจำนวนของที่จะขาย
เมื่อเข้าไปประเทศที่ต้องการสร้างแบรนด์ เราก็เริ่มที่จะทำความเข้าใจกับตลาด กับคน หรือผู้บริโภคให้มากขึ้น เริ่มจากการดูตลาดเลยว่ามีร้านค้าประเภทไหนบ้าง เพราะสิ่งนั้นคือสิ่งที่บ่งบอกพฤติกรรมของคนได้เป็นอย่างดี ถ้ามีตลาดสดมาก โอกาสที่คนจะไปซื้อสินค้าหรือไปตลาดทุกวันก็มากขึ้น หรือมากกว่าการไปเดินในซุปเปอร์มาร์เก็ต ถ้ามีร้านขายของชำมากโอกาสการกระจายสินค้าก็ต้องใช้ทรัพยากรมากกว่า ขนาดสินค้าใหญ่ๆ ก็มักต้องไปขายตามซุปเปอร์มาร์เก็ต แต่ตามตลาดสด หรือร้านขายของชำ ก็อาจทำให้ขนาดสินค้าเล็กลง ในราคาที่ถูกมากขึ้น ตัวอย่างเช่น แชมพู หรือโลชั่น ที่มีขนาดใหญ่ก็ขายในซุปเปอร์มาร์เก็ตที่ทันสมัย แต่พอไปขายตามร้านขายของชำ อาจต้องลดขนาดลง เป็นลักษณะซอง เพราะคนที่ไปซื้อของร้านชำเป็นประจำ คือกลุ่มคนที่มีรายได้น้อยกว่า สิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่เห็นได้จากการมองอย่างละเอียดถี่ถ้วนเมื่อเข้าไปเยี่ยมประเทศ
พฤติกรรมของผู้บริโภค ของคนก็เป็นสิ่งที่สามารถใช้การสังเกตได้ เช่น ลองเข้าไปที่บ้านของชาวบ้าน ขอเปิดตู้เย็นดูแล้วก็จะเห็นว่าพฤติกรรมของคนเป็นอย่างไร ซื้ออะไรบ้าง ขนาดไหน เก็บไว้ในตู้เย็น เก็บอะไรบ้างในครัว ลองเปิดห้องน้ำดูว่าใช้อะไรบ้าง มีกี่แบรนด์ ลองดูลองฟังว่าเขาดูโทรทัศน์รายการอะไร ช่องไหน อ่านหนังสือพิมพ์ นิตยสารอะไร สิ่งเหล่านี้สามารถดูได้จากการเยี่ยมเยือนชาวบ้าน และสามารถใช้เป็นข้อมูลขั้นพื้นฐานในการตัดสินใจ การวางแผนการสร้างแบรนด์