ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือเส้นทางเศรษฐี
http://info.matichon.co.th/rich/rich.php?srctag=07036010159&srcday=2016-01-01&search=no
| วันที่ 01 มกราคม พ.ศ. 2559 ปีที่ 21 ฉบับที่ 388 |
ช่องทางสร้างอาชีพ
ศรีนวล
ส่อง 10 ธุรกิจทำเงิน ปีวอก 2559 แค่มีรถปิกอัพก็ทำเงินล้านได้
ทั้งคำพยากรณ์ภาวะเศรษฐกิจในปี 2559 และผลสำรวจต่อความรู้สึกของภาคธุรกิจและความเชื่อมั่นของผู้บริโภคต่อเศรษฐกิจปี 2559 ยังสะท้อนไปทิศทางเดียวกันคือ ยังไม่แน่ใจบ้าง ยังไม่มั่นใจบ้าง หรือไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างไร และในการสำรวจ พบว่า มีเปอร์เซ็นต์เกินครึ่ง ระบุว่า ไม่รู้ว่าปี 2559 จะทำอาชีพอะไรดี พร้อมกับส่งสัญญาณว่าถนนการค้าปีหน้า น่าจะแข่งขันดุเดือด หรือล้มตายกันไปอีกจำนวนหนึ่ง!
ดังนั้น จะขอนำเสนอผลการสำรวจทางวิชาการจาก ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ถึงธุรกิจทำเงินปี 2559 โดยวิเคราะห์จากยอดขาย ต้นทุน ส่วนต่างของยอดขายต่อต้นทุน หรือเรียกว่ากำไรสุทธิ ความสามารถในการรับผลจากปัจจัยเสี่ยงต่างๆ และความสอดคล้องกับกระแสนิยม เพื่อเป็นไกด์ไลน์ว่าธุรกิจที่ทำอยู่ควรเปลี่ยน ควรเลิก หรือควรลงทุนอะไร จึงจะเกิดความเสี่ยงทางธุรกิจน้อยที่สุด และไม่ประสบภาวะขาดทุน ล้มละลาย
จากผลสำรวจ พบว่า 10 ธุรกิจที่จะโดดเด่นมากสุด ในปี 2559 คือ ธุรกิจด้านความงามและสุขภาพ และยังเป็นธุรกิจครองแชมป์อันดับ 1 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 5 ตามด้วย 2. ธุรกิจเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 3. ธุรกิจเครื่องสำอาง และครีมบำรุงผิว 4. ธุรกิจด้านการท่องเที่ยว 5. ธุรกิจประกันภัยและประกันชีวิต 6. ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม (เฉพาะเพื่อสุขภาพ) 7. ธุรกิจขนส่งและโลจิสติกส์ 8. ธุรกิจจัดการตลาด (ตลาดนัด ตลาดสดที่รูปแบบทันสมัย ตลาดนัดกลางคืน) ธุรกิจขายวัสดุก่อสร้างและธุรกิจก่อสร้าง ธุรกิจที่ 9 คือ ธุรกิจด้านการศึกษา (สถาบันภาษา โรงเรียนติว สถาบันทางด้าน IT) ธุรกิจจำหน่ายและผลิตผลิตภัณฑ์สำหรับผู้สูงอายุ ธุรกิจยาและเวชภัณฑ์และสมุนไพรธรรมชาติ และ 10. ธุรกิจออกกำลังกาย เช่น ฟิตเนส สนามกีฬา ธุรกิจพลังงานทดแทน/พลังงานหมุนเวียน
ในการสำรวจ ยังพบอีกว่า ธุรกิจโดดเด่นในปี 2559 แต่ไม่ติด 1 ใน 10 ในปี 2558 คือ ธุรกิจขนส่งและโลจิสติกส์ ธุรกิจจัดการตลาด ธุรกิจสถานออกกำลังกาย ธุรกิจพลังงานทดแทน และพลังงานหมุนเวียน ขณะที่ธุรกิจเคยโดดเด่นในปี 2558 แต่กลับไม่ติด 1 ใน 10 ปี 2559 คือ ธุรกิจจำหน่ายและผลิตถุงยาง/ถุงมือตรวจ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจร้านกาแฟ ธุรกิจประมงน้ำจืด และธุรกิจจำหน่ายบิ๊กไบค์
เมื่อวิเคราะห์ลึกลงในแต่ละธุรกิจที่โดดเด่นในปีหน้า จะสังเกตเห็นได้ว่า ล้วนเป็นธุรกิจที่รองรับพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปตามวิถีสังคม และการพัฒนาเทคโนโลยีและการเกิดนวัตกรรม เริ่มจากธุรกิจด้านความงามและสุขภาพ ที่ยังครองธุรกิจทำเงินต่อปี รวมกันไม่ต่ำกว่าแสนล้านบาท เจ้าของธุรกิจด้านนี้ ระบุว่า รายได้โตได้ปีละ 40-50 เปอร์เซ็นต์ เป็นเพราะกระแสการให้ความสำคัญกับการรักษาสุขภาพและการดูแลความงามยังมีอย่างต่อเนื่อง พฤติกรรมในการดูแลเรื่องผิวพรรณ หน้าตา มีมากขึ้น การแข่งขันคิดค้นสินค้าหรือบริการจึงมีความหลากหลาย ทั้งการบริการทางการแพทย์และความงามแบบไทยๆ ได้รับการยอมรับไปทั่วโลกในเรื่องมีคุณภาพดีและราคาไม่แพงในสายตาชาวต่างประเทศ เทคโนโลยีทางการแพทย์และนวัตกรรมที่ทันสมัยออกมาเสริมแข่งขันให้เห็นทุกวัน
ตอนนี้ไม่ว่าจะเข้าโรงพยาบาลชั้นนำในเมืองไทยแห่งใด จะเห็นผู้ใช้บริการส่วนใหญ่ เป็นชาวต่างชาติกว่า 70-80 เปอร์เซ็นต์ ยิ่งปีหน้าจะเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) จะยิ่งเห็นเพื่อนบ้านข้ามมาใช้บริการอีกมาก ประเมินกันเพียง 2-3 ปีต่อจากนี้ ธุรกิจความงามและดูแลสุขภาพของไทยจะสูงเกิน 200,000 ล้านบาท จากข้อมูล สมาคมการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์และสุขภาพไทย ระบุว่า เมื่อเปรียบเทียบกับคู่แข่งในอาเซียนอย่าง สิงคโปร์ กับไทย พบว่า ไทยมีคนไข้ชาวต่างชาติต่อปี ประมาณ 1.4 ล้านคน ส่วนสิงคโปร์ มีประมาณ 600,000 คน มองว่าสถิติชาวต่างชาติเข้ารับบริการในไทยจะเกินกว่าปีละ 1 ล้านคน สร้างรายได้มากกว่า 100,000 ล้านบาท ต่อปี
จากข้อมูลข้างต้น มองว่านั่นเป็นโอกาสของรายใหญ่ แต่จากพฤติกรรมใส่ใจต่อสุขภาพ ทำให้คนยอมจ่ายเงินมากขึ้น เพื่อให้ชีวิตยืนยาวแบบมีสุขภาพ จึงมีส่วนสำคัญผลักดันธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับความงามเติบโตตามไปด้วย ทั้งการขายเครื่องสำอาง ครีมบำรุงผิว โดยเฉพาะในกลุ่มผลิตภัณฑ์ลดริ้วรอยหรือชะลอวัย (Anti Aging) บางยี่ห้อเปิดเผยว่า ยอดขายโตหลายเท่าตัว เฉพาะครีมบำรุงผิวหน้าต่อปีคนไทยใช้กันถึง 50,000 ล้านบาท
กลุ่มอาหารและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ ยาและเวชภัณฑ์เชิงสมุนไพรธรรมชาติ ผลิตภัณฑ์สำหรับผู้สูงอายุ ก็ไม่น้อยหน้ากว่ากัน เมื่อดูตัวเลขการยื่นขอจดทะเบียน ไม่ว่าจะเป็นผู้ผลิตในไทยหรือนำเข้าจากต่างประเทศ หรือรับจ้างผลิตให้ต่างชาติ แล้วนำกลับเข้ามาขายในไทยอีกรอบ เพื่อให้ดูว่าเป็นสินค้านอก หวังสร้างอิมเมจสินค้า เป็นอีกตลาดที่มีมูลค่าการใช้ต่อปีเกิน 90,000 ล้านบาท และเติบโตถึง 2 เท่าของการขยายตัวทางจีดีพีในแต่ละปี
ส่วนการผุดเป็นดอกเห็ด ของตลาดนัด ตลาดสดโฉมใหม่รูปแบบทันสมัย ตลาดนัดกลางคืน ถึงขนาดที่รัฐบาลปิ๊งไอเดีย สั่งการให้ทุกกระทรวงใช้ช่องทางตลาดนัดตลาดชุมชนเป็นช่องทางช่วยเหลือผู้ประกอบการให้มีแหล่งขายเพิ่มและจุดระบายของท้องถิ่น แม้จะยังไม่มีตัวเลขอย่างเป็นทางการว่าเงินสะพัดผ่านธุรกิจตลาดต่างๆ นั้นเท่าไหร่กันแน่ แต่จะเห็นได้ว่าทุกหน่วยงาน ทุกซอกซอย จะพบตลาดนัดเล็กบ้างใหญ่บ้าง ก็เป็นผลจากคนไทยหันไปเป็นคนเมือง และคนตกงาน ก็สามารถยึดอาชีพนี้ได้ เพียงแสวงหาสินค้าที่โดนใจผู้ซื้อ และตามเทรนด์แฟชั่นความนิยมให้ทันเพียงเท่านั้นพอ
ยิ่งในปี 2559 จะเห็นรูปแบบตลาดชุมชนในต่างจังหวัดแข่งกันเปิดตัวคึกคัก ผลจากที่รัฐบาลมองว่าเห็นโอกาสขยายตลาด จะเอื้อให้สถานที่และธุรกิจเกี่ยวกับท่องเที่ยวท้องถิ่นบูมตาม จึงไม่แปลกที่จะส่งผลดีถึงธุรกิจขนส่งและโลจิสติกส์ รวมถึงการประกันภัยและประกันชีวิต ดีตาม
ยิ่งปีหน้ามีปัจจัยบวกหลายอย่างที่จะดีต่อผู้ประกอบการคือ ราคาน้ำมันโลกมองว่ายังต่ำ ราคาอาจเห็น 25 เหรียญสหรัฐ ต่อบาร์เรล ขนส่งขนาดเล็กขนาดน้อย การเปิดช่องทางขายรูปแบบตลาดนัดตลาดชุมชน ทั้งนี้ สอดรับกับการพัฒนาเมือง การจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษ และการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐในพื้นที่ต่างๆ น่าจะทำให้ความต้องการขนส่งสินค้าเพิ่มขึ้น อีกทั้งพฤติกรรมการซื้อขายผ่านระบบออนไลน์มากขึ้น หรือการที่ผู้ค้าส่งรายใหญ่มีบริการขนส่งสินค้าให้กับลูกค้าถึงบ้าน ทำให้ความต้องการใช้บริการขนส่ง ยิ่งหาเงินได้คล่องมือกับอาชีพค้าขาย
อีกอาชีพที่อยากจะแนะนำคือ การนำเข้าหรือประดิษฐ์อุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ที่ประยุกต์ใช้การสื่อสารคลื่นความถี่ 4จี และรองรับนโยบายรัฐบาลผลักดันประเทศไทยเข้าสู่เศรษฐกิจดิจิตอล ซึ่งน่าจะเติบโตไปพร้อมๆ กับธุรกิจสถาบันภาษา โรงเรียนติว สถาบันทางด้านไอที
เหล่านี้ล้วนเป็นอาชีพที่ท้าทายในปีหน้า…และหลายธุรกิจแค่มีรถกระบะคันเดียว เป็นทุนตั้งตัว ก็น่าจะทำเงินได้ เช่น การขายของตามตลาดนัดตลาดชุมชน หรือผลิตสินค้าวางขายบนออนไลน์ จัดส่งด้วยตนเอง เป็นต้น
หากจะฉายภาพให้ชัดๆ คือ เมื่อสังคมไทยไม่ว่าจะในเมืองหลวงหรือต่างจังหวัด กลายเป็นสังคมเมือง วิถีแบบเดิมๆ ลดลง คนต้องการความสะดวกสบายมากขึ้น ต้องการอะไรที่เร็วขึ้น ขนาดครอบครัวเล็กลง และนิยมเดินทางกันมากขึ้น
ดังนั้น ไม่ว่าจะคิดทำอาชีพอะไร หากตอบโจทย์ความต้องการของคนเมืองได้ ทำอะไรก็เป็นเงินเป็นทอง…