ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือเส้นทางเศรษฐี
http://info.matichon.co.th/rich/rich.php?srctag=07064010159&srcday=2016-01-01&search=no
| วันที่ 01 มกราคม พ.ศ. 2559 ปีที่ 21 ฉบับที่ 388 |
ไอเดียต่างแดน
มิสมิลเลียนแนร์
เดาใจผู้บริโภคเอเชีย 4 เทรนด์ มาแรงปี 2559
เอเชียแปซิฟิกเป็นตลาดขนาดใหญ่ที่ธุรกิจต่างๆ ไม่อาจมองข้าม เพราะจำนวนประชากรที่มากถึง 4 พันล้านคน ขณะเดียวกันก็เป็นภูมิภาคที่มีผู้ลงทะเบียนใช้โทรศัพท์มือถือมากถึง 3.7 พันล้านคน และมีผู้ใช้อินเตอร์เน็ตราว 1.4 พันล้านคน
เว็บไซต์ trendwatching.com ได้พยากรณ์เทรนด์สำคัญในปี 2559 ที่จะเกิดกับผู้บริโภคเอเชียไว้ 4 เรื่องสำคัญ ซึ่งเทคโนโลยี และความฝันเป็นปัจจัยสำคัญที่ผลักดันให้พฤติกรรมของผู้บริโภคในภูมิภาคนี้เปลี่ยนไป
เทรนด์แรกคือ แอพพลิเคชั่นข้อความเปลี่ยนชีวิต เห็นได้จากตัวเลขการจราจรบนเว็บไซต์ 43 เปอร์เซ็นต์ ในเอเชียมาจากโทรศัพท์มือถือ ขณะที่ทั้งโลกตัวเลขอยู่ที่ 33 เปอร์เซ็นต์
นอกจากนี้ แอพพลิเคชั่นข้อความยังขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยในไตรมาสแรกของปี 2558 “วีแชต” มีผู้ที่ใช้งานเป็นประจำราว 549 ล้านคน ส่วน “ไลน์” มีผู้ใช้งานราวๆ 205 ล้านคน ทำให้แอพประเภทนี้กลายเป็นช่องทางยอดนิยมของแบรนด์ต่างๆ ในการเข้าถึงผู้บริโภค
ทั้งไลน์ และวีแชตต่างก็ออกแบบระบบนิเวศน์ที่เอื้อต่อธุรกิจ เช่น การช็อปปิ้งผ่านแอพ การมอบส่วนลดพิเศษ เกม สติ๊กเกอร์น่ารักๆ และเนื้อหาต่างๆ แต่ทุกวันนี้ผู้บริโภคคาดหวังมากกว่านั้น ซึ่งแบรนด์ต่างๆ ก็ใช้แอพข้อความเหล่านี้เป็นมากกว่าช่องทางสื่อสาร และช็อปปิ้ง
ยกตัวอย่าง “วีแชต” ที่จับมือกับรัฐบาลนครเซี่ยงไฮ้ นำเสนอบริการใหม่ให้ผู้ใช้สามารถตรวจสอบโรงพยาบาลที่อยู่ใกล้เคียง รวมถึงแพทย์ และเตือนการนัดหมาย รวมถึงชำระค่าบริการต่างๆ ส่วนในฮ่องกง มาเก๊า และไต้หวัน มีบริการทำวีซ่า ตรวจสอบเรื่องใบขับขี่ และค้นหาหนังสือในห้องสมุด
ก่อนหน้านี้ วีแชตก็จับมือกับบริษัทดีลิเวอรี่อาหาร “ฟู้ดแพนด้า” ส่วนในฮ่องกง ไทย สิงคโปร์ มาเลเซีย ไต้หวัน ฟิลิปปินส์ และอินเดีย วีแชตให้บริการค้นหาร้านอาหาร และสั่งอาหาร
ด้าน “ไลน์” ผุดบริการดีลิเวอรี่สินค้าออนไลน์ในไทย ไล่เลี่ยกับการจับมือกับแบรนด์หรู “เบอร์เบอร์รี่” เปิดให้ชมแฟชั่นได้แบบสดๆ
เทรนด์ที่ 2 สมุดหน้าเหลืองสินค้า เพราะวัฒนธรรมออนไลน์ และธุรกิจอี-คอมเมิร์ซ ได้ลบเส้นแบ่งการค้าขายแบบเดิมๆ ทำให้ผู้บริโภคมีตัวช่วยใหม่ๆ ในการค้นหาสินค้า ไม่ว่าจะเป็นการค้าขายผ่านสื่อสังคมออนไลน์ หรือเว็บคนกลางซื้อขายสินค้า
ในอินโดนีเซีย มีการใช้แอพพลิเคชั่นแชร์รูปภาพชื่อดัง “อินสตาแกรม” ในการค้าขายอย่างแพร่หลาย แต่ก็มีแอพพลิเคชั่นใหม่ๆ สัญชาติอินโดนีเซีย อย่าง Oiffel ที่พยายามทำให้การค้นหาสินค้าผ่านอินสตาแกรมทำได้ง่ายขึ้น เช่นเดียวกับ Kleora ที่รวบรวมร้านค้าผลิตภัณฑ์สำหรับผู้หญิงในเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ และอินสตาแกรม
อีกตัวอย่างที่น่าสนใจคือ แฮนดี้โฮม ซึ่งเป็นแอพพลิเคชั่นที่รวบรวมศูนย์บริการของแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าในอินเดีย เมื่อเครื่องใช้ชิ้นไหนที่จำเป็นต้องซ่อม ผู้ใช้ก็สามารถเลือกหาได้ผ่านแอพ โดยคัดเลือกผ่านรายละเอียดในเมนู จากนั้นแฮนดี้โฮมจะส่งเจ้าหน้าที่ไปให้บริการตามเวลานัดหมาย
แฮนดี้โฮมเปิดตัวในเดือนมกราคมปี 2558 ด้วยเงินลงทุน 15,000 ดอลลาร์ แต่มีลูกค้าขอรับบริการมากกว่า 100 ราย ต่อวัน
ในสิงคโปร์ก็มี “เพจแอดไวเซอร์” ที่รวบรวมบริการเกี่ยวกับบ้าน และไลฟ์สไตล์ต่างๆ ไว้มากถึง 39 ประเภท โดยร่วมมือกับร้านค้าขนาดกลาง และเล็ก เพื่อนำเสนอบริการอย่างฝึกอบรมเจ้าตูบ การปรับจูนเปียโน และพ่อครัวส่วนตัว ซึ่งมีลูกค้าสั่งจองบริการมากกว่า 1,000 รายการ และมีนัดหมาย 167 ครั้ง ภายใน 2 สัปดาห์ หลังเปิดให้บริการ
เทรนด์ที่ 3 ผู้บริโภคหน้าใหม่ฉลาดใช้มากขึ้น โดยราว 52 เปอร์เซ็นต์ ของประชากรในอาเซียนอาศัยในพื้นที่ชนบท และตลาดนี้กำลังขับเคลื่อนการเติบโตด้านการบริโภค
เพราะแม้ประเทศต่างๆ เช่น ฟิลิปปินส์ เวียดนาม อินโดนีเซีย และอินเดีย จะมีความเร็วอินเตอร์เน็ตต่ำกว่าค่าเฉลี่ยทั้งโลก แต่ผู้ใช้ในพื้นที่เหล่านี้ใช้เวลาส่วนใหญ่กับโลกอินเตอร์เน็ต เมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ
เทคโนโลยีที่ช่วยแก้ปัญหา ช่วยให้ชีวิตปลอดภัยขึ้น และพัฒนาคุณภาพชีวิต จึงมีความสำคัญมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น Khushi สร้อยคออัจฉริยะที่ออกแบบมาเพื่อเด็กๆ ในประเทศกำลังพัฒนา ซึ่งเริ่มจากอินเดีย สร้อยคอนี้จะติดชิปที่เจ้าหน้าที่สาธารณสุขสามารถรู้ข้อมูลการให้ภูมิคุ้มกันที่จำเป็นแก่เด็กๆ แทนที่สมุดบันทึกแบบเดิมๆ
รวมถึงร้านรับจำนำออนไลน์ในฟิลิปปินส์ PawnHero ซึ่งเป็นโรงตึ๊งออนไลน์แห่งแรกในอาเซียน ที่ผู้คนจำนำสิ่งของต่างๆ เช่น อุปกรณ์ไฮเทค เครื่องใช้ไฟฟ้า อัญมณี และกระเป๋าหรู
โดยผู้ที่ต้องการใช้เงินเร่งด่วน จะต้องถ่ายภาพสิ่งของที่จะจำนำ จากนั้นเว็บจะตีราคาภายในเวลาที่รวดเร็ว ผู้ใช้บริการสามารถนำสิ่งของไปวางไว้ที่ศูนย์รับฝาก หรือรอบริการมารับที่บ้าน เมื่อเว็บไซต์ได้รับสิ่งของและตรวจสอบแล้ว ก็จะโอนเงินไปยังบัญชีของเจ้าของ
เทรนด์สุดท้าย ปรับพฤติกรรมบนโลกดิจิตอล ทุกวันนี้ผู้คนเสพติดสมาร์ตโฟนมากขึ้น จึงมีไอเดียที่จะทำให้ผู้คนพักวางจากสมาร์ตโฟน เพื่อนำเวลาไปทำเรื่องอื่นๆ แทนที่จะหมกมุ่นกับหน้าจอ และอินเตอร์เน็ต
“รีบอค” ริเริ่มโครงการแปลกใหม่ในเกาหลีใต้ ที่กระตุ้นให้ผู้คนในรถไฟฟ้าที่เอาแต่จ้องหน้าจอมือถือ ได้มีโอกาสขยับออกกำลังกาย ซึ่งใช้เกม Subway Pump Battle โดยสุ่มคัดเลือกผู้โดยสาร 2 คน มาแข่งขันกันวิ่งแตะปุ่มที่มีไฟขึ้น ผู้ชนะได้รับรองเท้ารีบอค รุ่น ZPump Fusion ไปครอง
ในอินเดีย ก็มีโครงการที่ให้ผู้คนแบ่งปันช่วงเวลาดีๆ ในโลกจริงๆ แทนที่จะอยู่ในโลกออนไลน์ หรือสมาร์ตโฟน “ออปโป้” ในเวียดนามที่หนุนให้คุณพ่อวางมือถือ หันมาทำกิจกรรมกับลูกๆ บ้าง