ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือเส้นทางเศรษฐี
http://info.matichon.co.th/rich/rich.php?srctag=07028010159&srcday=2016-01-01&search=no
| วันที่ 01 มกราคม พ.ศ. 2559 ปีที่ 21 ฉบับที่ 388 |
รายงานพิเศษ
ดวงกมล
WASHBOX 24 นวัตกรรมธุรกิจโลจิสติกส์ผ่านตู้
วอชบ๊อกซ์ 24 ได้เพิ่มบริการรับส่งของ โดยบริการส่งพัสดุด่วน ใช้ชื่อว่า “MOVEBOX 24” (มูฟบ๊อกซ์ 24) ร่วมมือกับ บริษัทขนส่ง KERRY EXPRESS (เคอร์รี่ เอ็กซ์เพรส) รับส่งพัสดุไปรษณีย์ ยังมีบริการซื้อของออนไลน์ โดยร่วมมือกับเว็บไซต์ Cdiscount (ซีดิสเคานท์) ซึ่งเมื่อลูกค้าสั่งซื้อของออนไลน์กับทางเว็บไซต์ดังกล่าว สามารถสั่งให้นำพัสดุมาจัดส่งได้ที่ตู้ของบ๊อกซ์ 24 สาขาใดก็ได้ที่ลูกค้าสะดวก
ออกตัวว่าไม่ได้ทำธุรกิจให้บริการ แต่เป็นธุรกิจโลจิสติกส์ สำหรับบริษัท วอชบ๊อกซ์ 24 (ประเทศไทย) จำกัด หรือ WASHBOX 24 (วอชบ๊อกซ์ 24) บริการตู้ล็อกเกอร์ซัก อบ รีด เสื้อผ้า รับส่งพัสดุไปรษณีย์ รับฝากส่งสิ่งของ รวมถึงรับจ่ายบิล เจ้าของคือ คุณบอนด์ หรือ “นิธิพนธ์ ไทยานุรักษ์” ผู้นำความก้าวหน้าทางนวัตกรรมมาใช้เปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตคนเมืองให้ง่ายขึ้น
สตาร์ตอัพหนึ่งเดียวในไทย
เทคโนโลยีเปลี่ยนวิถีชีวิต
“วอชบ๊อกซ์ 24” คือ ตู้ล็อกเกอร์ที่ควบคุมด้วยเทคโนโลยีอันทันสมัย จากธุรกิจซักรีด มาต่อยอดเป็นธุรกิจรับส่งพัสดุไปรษณีย์ รับฝากส่งสิ่งของและรับจ่ายบิล ในปี 2014 เขาเป็น Startup คนไทยเพียงหนึ่งเดียวบนเวที SeedStars World เวทีการแข่งขัน Startup ระดับโลก นอกจากนี้ เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2015 ยังเป็นตัวแทนของคนไทยไปคว้ารางวัล Top 10 SeedStars World 2015 ที่สวิตเซอร์แลนด์
โดยที่มาของธุรกิจ ชายหนุ่ม เล่าว่า ก่อนมาทำธุรกิจของตัวเอง อดีตเคยเป็นพนักงานออฟฟิศ ซึ่งทำงานหนักมาก กลับบ้านดึก ปรากฏว่าไปร้านซักรีดเสื้อผ้าไม่ทัน ร้านปิดก่อนทุกครั้ง เป็นปัญหาส่วนตัวที่เชื่อว่าหลายคนก็เคยเจอ แต่ก็ยังนึกไม่ออกว่าจะแก้ยังไง จนกระทั่งปี 2011 มีโอกาสไปประเทศญี่ปุ่น ไปเห็นตู้ล็อกเกอร์อเนกประสงค์เยอะมาก จึงเกิดแนวคิด นำตู้เหล่านั้นมาใช้กับร้านซักรีดบ้าง
หลังกลับมาจากประเทศญี่ปุ่น ชายหนุ่มบอกว่า รวมทีมกับเพื่อน 3 คน เก็บข้อมูลเรื่องตู้ล็อกเกอร์ พร้อมศึกษาพฤติกรรมโดยเจาะกลุ่มคนที่อาศัยในคอนโดมิเนียมก่อน แรกๆ กังวลเหมือนกันว่าลูกค้าจะไม่เข้าใจและใช้งานไม่เป็น แต่ด้วยความเชื่อมั่นว่าต้องทำให้ได้ และมองเห็นโอกาสทางธุรกิจ ลงทุนสั่งทำตู้ล็อกเกอร์ 2 ตู้ ตามสเปกของตัวเองเป็นตู้เหล็ก นำจอทัชสกรีนมาประกอบเข้าไป ใช้ไฟฟ้า จากนั้นสร้างระบบการเชื่อมต่อระหว่างตู้ให้ลิงก์เข้ากับสมาร์ตโฟนทั้งระบบ iOS และ Android
คุณบอนด์ใช้เวลา 2 ปี กว่าตู้ล็อกเกอร์ซักอบรีดตู้แรกจะทำสำเร็จ เป็นการนำไอเดียจากสิ่งของที่มีอยู่มาต่อยอด นับเป็นตู้ซัก อบ รีด ตู้แรกของไทย และรายแรกของเอเชีย ซึ่งก่อนที่ชายหนุ่มจะผลิตตู้ในสเปกของตัวเอง เขาเคยไปสอบถามผู้ผลิตตู้ที่ประเทศญี่ปุ่น แต่สู้ราคาไม่ไหว เฉลี่ยตู้ละ 1 ล้านบาท ขณะที่ต้นทุนราคาตู้ของเขาหลักแสนบาทเท่านั้น
สะดวกง่าย จบที่มือถือ
เจาะกลุ่มลูกค้าคอนโดฯ
เมื่อตู้ซักรีดอัตโนมัติถูกสร้างขึ้นสำเร็จ ช่วงแรกต้องพบกับปัญหา เพราะความยากของธุรกิจนี้อยู่ที่การสื่อสารกับลูกค้า
“ผมนำตู้ซักรีดอัตโนมัติไปตั้งใต้คอนโดฯ 2 ที่คือ ลาดพร้าวซอย 5 และ สุขุมวิท 103 (อุดมสุข) คนจะไม่เข้าใจว่าตู้อะไร ดังนั้น จำเป็นต้องมีพนักงานคอยอธิบายวิธีการใช้งาน และสร้างความเข้าใจในธุรกิจ เน้นสร้างการรับรู้ในเรื่องความสะดวกสบายตามวิถีคนเมืองในยุคนี้”
คุณบอนด์ มองว่า วอชบ๊อกซ์ 24 ไม่ได้แข่งอยู่ในตลาดเดียวกับร้านซัก อบ รีด ทั่วไป ลูกค้าเลือกใช้บริการเพราะตอบโจทย์ลูกค้าแบบที่ร้านซัก อบ รีด ทั่วไปทำไม่ได้
ด้านการใช้งานของตู้ดังกล่าว มี 4 ขั้นตอนง่ายๆ คือ
1. ลงทะเบียน ได้ที่ http://www.WASHBOX 24.com หรือโหลดแอพพลิเคชั่น “BOX 24” หรือโทรผ่านเจ้าหน้าที่เบอร์ (089) 221-2244
2. กรอกข้อมูลลงบนจอทัชสกรีน ประตูตู้จะเปิดออกให้ใส่ผ้าเข้าไป สามารถส่งผ้าที่ตู้ล็อกเกอร์ตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน หรือจะเรียกเจ้าหน้าที่มารับผ้าที่บ้านก็ได้ (แต่ละวันเก็บผ้า 3 รอบ 07.00 น. 14.00 น. และ 20.00 น.)
3. รอรับการแจ้งรับผ้าได้ทางแอพพลิเคชั่น จากนั้นจะมีคนไปรับผ้าที่ตู้นำมาที่สำนักงานใหญ่ ซึ่งทางพนักงานจะทำการติดบาร์โค้ดผ้าทุกชิ้น ถ่ายรูปก่อน และหลังผ้าจะซักเสร็จ เพื่อให้ลูกค้าสามารถติดตามสถานะของผ้าที่ซักได้ผ่านทางแอพพลิเคชั่น
4. รับผ้าได้ที่ตู้ล็อกเกอร์ โดยผ้าจะอยู่ในตู้ 48 ชั่วโมง จะมีรหัสการแจ้งเตือน ระบบการทำงานของตู้ทั้งหมดเป็นระบบอัตโนมัติ ซึ่งลิงก์กับระบบแอพพลิเคชั่น “BOX 24” ให้ลูกค้าดาวน์โหลด และลงทะเบียน
ส่วนการชำระเงินจะแบ่งลูกค้าที่สมัครเป็นสมาชิก และลูกค้าขาจร หากเป็นสมาชิก ทางร้านแนะนำให้ซื้อแบบเป็นรายแพ็กเกจ เริ่มต้นที่ 200 บาท ไม่มีวันหมดอายุ หักเงินจากบัตรเครดิต และเมื่อเงินในแพ็กเกจใกล้หมด จะมีข้อความแจ้งเตือน ส่วนลูกค้าขาจร ก็สามารถนำเสื้อผ้ามาฝากซัก เมื่อเสื้อผ้าถูกดำเนินการเรียบร้อย ลูกค้าจะได้รับรหัสแจ้งการชำระเงินผ่านเคาน์เตอร์เซอร์วิส พร้อมรับรหัสในการเปิดตู้ล็อกเกอร์ต่อไป
“ตลาดของธุรกิจนี้ใหญ่ไม่น้อย เฉพาะในกรุงเทพฯ ก็มีร้านซักรีดกว่า 10,000 ร้าน กลุ่มเป้าหมายของเราคือคนทำงานในกรุงเทพฯ ที่อาศัยตามคอนโดมิเนียมแนวรถไฟฟ้าทั้ง BTS และ MRT โดยเริ่มต้นค่าบริการที่ 20 บาท ต่อชิ้น”
ขยายจุดบริการด้วยแฟรนไชส์
เพิ่มส่งพัสดุ-ช็อปออนไลน์
ไม่เพียงให้บริการซัก อบ รีด แต่วอชบ๊อกซ์ 24 ยังรับซักหมอน ผ้าห่ม ตุ๊กตา ผ้าปูที่นอน กระเป๋า รองเท้า หมวก ถุงมือ ปลอกโซฟา ผ้าปูโต๊ะ โดยทำหน้าที่เป็นคนกลางไปส่งยังโรงงานซักอีกที โดยราคาจะขึ้นอยู่กับประเภทที่นำมาให้ทำความสะอาด ขนาด และจำนวน ซึ่งเริ่มต้นที่ชิ้นละ 30 บาท
ปัจจุบัน 2 ปีผ่านมา บ๊อกซ์ 24 มีจุดตั้งตู้ 43 สาขาทั่วกรุงเทพฯ เจาะตลาดคอนโดมิเนียมแนวรถไฟฟ้า มีสมาชิก 2,000 คน จำนวนเสื้อผ้าที่ส่งมาซักรีดราว 12,000 ชิ้น ต่อเดือน และด้วยความแปลกใหม่ วอชบ๊อกซ์ 24 เริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้น เริ่มมีการขายแฟรนไชส์ โดยขายตู้มาตรฐาน 8 ช่อง หน้ากว้าง 2 เมตร ลึก 50 เซนติเมตร สูง 1.90 เมตร ราคาตู้ละ 120,000 บาท โดยแบ่งรายได้ให้ 30 เปอร์เซ็นต์ ของการซักแห้ง และ 15 เปอร์เซ็นต์ของซักอบรีด ตั้งเป้าภายใน 3 ปี ขยายจุดตั้งตู้ 200 สาขา
เจ้าของธุรกิจ เผยต่อไปว่า ทุกวันนี้ วอชบ๊อกซ์24 ได้เพิ่มบริการรับส่งของ โดยบริการส่งพัสดุด่วนใช้ชื่อว่า “MOVEBOX 24” (มูฟบ๊อกซ์ 24) ร่วมมือกับบริษัทขนส่ง KERRY EXPRESS (เคอร์รี่ เอ็กซ์เพรส) รับส่งพัสดุไปรษณีย์ ยังมีบริการซื้อของออนไลน์ โดยร่วมมือกับเว็บไซต์ Cdiscount (ซีดิสเคานท์) ซึ่งเมื่อลูกค้าสั่งซื้อของออนไลน์กับทางเว็บไซต์ดังกล่าว สามารถสั่งให้นำพัสดุมาจัดส่งได้ที่ตู้ของบ๊อกซ์ 24 สาขาใดก็ได้ที่ลูกค้าสะดวก จากนั้นเมื่อพัสดุมาถึง ลูกค้าก็จะได้รับการแจ้งเตือนให้ไปรับสินค้า
อนาคตต่อไปของ บ๊อกซ์ 24 นั้น เขาเตรียมขยายไปยังต่างประเทศ อย่าง ประเทศสิงคโปร์ และฮ่องกง เขามองว่า ประเทศสิงคโปร์ ซึ่งมีรูปแบบสังคมเมือง ที่พักอาศัยคล้ายคลึงกัน คาดว่าจะสามารถนำ บ๊อกซ์ 24 ไปเปิดตลาดได้ในช่วงปีหน้า
สำหรับข้อคิดที่คุณบอนด์ฝากไว้ให้เหล่าสตาร์ตอัพหน้าใหม่คือ การเจอปัญหาหรืออุปสรรค อยากให้มีความเชื่อมั่นในตัวเองว่าจะก้าวข้ามไปได้ และยิ่งเดี๋ยวนี้มีหลายหน่วยงานที่ให้การสนับสนุนสตาร์ตอัพทั้งเงินทุน องค์ความรู้ แต่ต้องรู้จักขวนขวาย ต้องไม่หยุดคิดค้น และไม่หยุดพัฒนา