“ถึก ซื่อสัตย์ ขี้สงสัย” เทคนิคไม่ลับ สำหรับ RISING STARS

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือเส้นทางเศรษฐี

http://info.matichon.co.th/rich/rich.php?srctag=07022010259&srcday=2016-02-01&search=no

วันที่ 01 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559 ปีที่ 21 ฉบับที่ 390

เรื่องจากปก

เรื่อง : พารนี ภาพ : พัทรยุทธ

“ถึก ซื่อสัตย์ ขี้สงสัย” เทคนิคไม่ลับ สำหรับ RISING STARS

เมื่อไม่นานมานี้ สมาคม ASIAN LEADERSHIP ACADEMY (ALA) องค์กรด้านการศึกษา ที่ต้องการเป็น “โรงเรียนแนะแนวนอกระบบ” พัฒนาสังคมการเรียนรู้นอกห้องเรียนให้กับเด็กไทย ได้จัด ALA COFFEE CHAT ครั้งที่ 17 ขึ้น เป็นการเสวนา ในหัวข้อ “ENTREPRENEURS ตีแตก” มีนักธุรกิจรุ่นใหม่ ระดับ RISING STARS มาขึ้นเวทีแลกเปลี่ยนประสบการณ์

การพูดคุยกันในวันนั้น…มีเนื้อหาสาระน่าสนใจอย่างยิ่ง

ต้องยึดถือความถูกต้องและความซื่อสัตย์ ถ้าไม่มีสิ่งนี้อยู่ในองค์กรของตัวเอง อีก 10 ปีข้างหน้าไม่มีทางอยู่รอด

คุณแพร-พิมพ์มาดา พัฒนปรัชญาพงศ์ เจ้าของธุรกิจคางกุ้งทอดอบกรอบ “โอคุสโน่-OKUSNO”

ปริญญาตรี คณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ภาคภาษาอังกฤษ เคยได้รับทุนไปทำงานด้านกราฟิกดีไซน์ ที่ประเทศสโลวีเนีย เป็นเจ้าของกิจการไอศกรีมสับปะรดแบบไม่เหมือนใคร ใช้เปลือกสับปะรดมาทำเป็นถ้วยบรรจุไอศกรีม

เป็นเจ้าของไอเดียคิดค้นคำว่า “คางกุ้ง” และก่อตั้งขนมแบรนด์ “โอคุสโน่-OKUSNO” คางกุ้งทอดอบกรอบ เจ้าแรกเจ้าเดียวของไทย และเป็นผู้ชนะเลิศ จากรายการ SME ตีแตก THE FINAL 2015 เป็นสุดยอด SMEs แห่งปี 2015

“เป็นคนไม่อยากทำงานประจำ ก่อนหน้านี้ เคยทำไอศกรีมสับปะรดมาก่อน ทำถ้วยจากเปลือกสับปะรด แต่ไอศกรีมไปจ้างโรงงานผลิตให้ ทำให้รู้ว่า ถ้าทำสินค้าออกมาได้ด้วยตัวเราเอง จะลดต้นทุนได้มากขึ้น

ส่วนคางกุ้งโอคุสโน่นี้ เป็นธุรกิจที่เกิดขึ้นจากการมองเห็นโอกาส ทำสิ่งที่ผู้คนมองข้ามมาเป็นสิ่งที่มีมูลค่าขึ้นมา เริ่มจากไปลองแงะส่วนที่นิ่มที่สุดของกุ้งออกมาทอดบ้าง อบบ้าง ทำอย่างไรไม่ให้อมน้ำมัน ปรุงรสแต่ไม่ใส่ผงชูรส บรรจุซอง ก่อนนำไปแจกให้เพื่อน-พี่ ชิม แล้วสังเกตว่าทานกันหมดมั้ย

ถ้าหมดแปลว่าอร่อย การทำแบบนี้เหมือนการทดลองตลาดไปเรื่อยๆ จนมั่นใจ เพราะถ้าไม่ลองตลาดก่อน ออกมาขายตูมเดียว อาจเจ๊งไปเลยก็ได้ เพราะแก้ไขไม่ทัน

แต่กว่าจะมาถึงวันนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะความที่ไม่เคยทำธุรกิจจริงจังขนาดนี้มาก่อน เคยถูกหลอกว่าจะพาสินค้าไปขายเมืองนอก จึงลงทุนสร้างโรงงานผลิตขึ้นมาเลย แต่พอสร้างเสร็จเขาก็หายไป เลยต้องดิ้นรนหาตลาดเอง เริ่มจากเดินเข้าไปเสนอขายในห้างสรรพสินค้าชื่อดังเลย ซึ่งโชคดีได้รับการพิจารณา

ช่องทางจำหน่ายนอกจากจะมีในซุปเปอร์มาร์เก็ตแล้ว ยังไปฝากขายที่ร้านหนังสือด้วย เพราะขนมชนิดนี้สามารถอ่านหนังสือไปทานไปได้ ไม่เลอะมือ เพราะไม่อมน้ำมัน และเหตุผลสำคัญคือ ไม่อยากเหมือนคนอื่น

สำหรับคุณสมบัติสำคัญของผู้ที่จะเป็นเจ้าของธุรกิจนั้น ต้องยึดถือความถูกต้องและความซื่อสัตย์ ถ้าไม่มีสิ่งนี้อยู่ในองค์กรของตัวเอง อีก 10 ปีข้างหน้าไม่มีทางอยู่รอด

ถามว่าความซื่อสัตย์ของตัวเองคืออะไร ยกตัวอย่าง โอคุสโน่ เน้นมากในเรื่องของความสะอาด ถ้าตก 1 ชิ้นไปล้างอย่างนั้นไม่ได้เด็ดขาด เพราะต้องการทำให้ถูกหลักอนามัย อยากให้คนทานรู้สึกว่าได้ทานของดี ไม่ใช่ของเหลือทิ้ง

โอคุสโน่เป็นของทอด ก็บอกเลยว่าเป็นของทอด ไม่พยายามใช้คำอื่นเพื่อเลี่ยงบาลี หรือคนที่แพ้กุ้งก็อย่าทาน จะบอกกันทุกครั้ง ความซื่อสัตย์ทั้งกับตัวเองและลูกค้า นับเป็นสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับผู้ประกอบการ”

พอเจอทำเลถูกใจ เลยไปเจรจากับเจ้าของตึกแต่ยังไม่ตกลง หลังจากนั้นไม่นาน เจ้าของตึกให้อีกเจ้าเช่าไปแล้ว โดยบอกเหตุผล ของเราไม่มีคนรู้จัก คำนั้นทำให้เสียใจมาก

คุณแพร-กวิสรา จันทร์สว่าง เจ้าของแฟรนไชส์ชานมไข่มุก “เฟรชมี-FRESH ME”

กำลังศึกษาชั้นปีที่ 4 คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี เอกการตลาด มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เคยได้รับทุน AFS THAILAND ศึกษาที่ประเทศเยอรมนี เริ่มทำธุรกิจอายุ 18 ปี ตอนเป็นเฟรชชี่ ปัจจุบันเป็นผู้บริหารแฟรนไชส์มากกว่า 100 สาขาทั่วประเทศ

“ฝันอยากเป็นแม่ค้ามาตั้งแต่เด็ก ไม่เคยเห็นภาพในหัวเลยว่าจะไปทำงานที่บริษัท คิดแต่ว่าถ้ามีเวลาอยากขายของ อยากเจอคนนั้นคนนี้ พูดคุยกับลูกค้า พอรู้ความชอบของตัวเองคืออะไร เลยลงมือทำจากสิ่งที่ชอบ

การเตรียมตัวเริ่มจากหาทำเล หาสูตร หาข้อมูล ใช้เวลาประมาณเดือนกว่า ออกจากบ้านทุกวันหาข้อมูลไปชิมตามร้านต่างๆ

ตอนนั้นชานมไข่มุกบูมมาก เหมือนธุรกิจแฟชั่น ถ้ารอเวลาตัดสินใจนานอาจไม่ทัน ก่อนเปิดจึงมีเวลาค่อนข้างจำกัด และเปิดแล้วก็ไม่ได้สมบูรณ์แบบร้อยเปอร์เซ็นต์ เป็นแบบ ขายไป ปรับไป ลงทุนไม่มาก

เกี่ยวกับประสบการณ์ความผิดพลาด ตอนขยายเป็นสาขา 2 พอเจอทำเลถูกใจ เลยไปเจรจากับเจ้าของตึกแต่ยังไม่ตกลง หลังจากนั้นไม่นาน เจ้าของตึกให้อีกเจ้าเช่าไปแล้ว โดยบอกเหตุผล ของเราไม่มีคนรู้จัก คำนั้นทำให้เสียใจมาก และได้เรียนรู้ว่าถ้าอยากได้อะไรให้รีบคว้าไว้เลย

สำหรับสิ่งที่ผู้ประกอบการต้องมีคือ ต้องถึก ทำงานหนักกว่าคนอื่น ทำได้ทุกหน้าที่ และต้องมุ่งมั่น ไม่ยอมแพ้อะไรง่ายๆ”

ขายได้ห้าหมื่น-แสน เชื่อว่าซื้อเครื่องบินได้ แต่ลืมนึกว่าวันหนึ่งยอดมันจะต้องตก เดือนถัดมาขายไม่ได้ มีค่าใช้จ่าย ถ้าไม่เตรียมใจมันคือจบ

คุณโจ้-วิศรุต สุคนธ์พงเผ่า ผู้ร่วมก่อตั้งธุรกิจเต้าหู้กรอบ “โยฟุ-YOFU”

ปริญญาตรี คณะเศรษฐศาสตร์ สาขาการเงิน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ทำงานเป็นเจ้าหน้าที่วิเคราะห์สินเชื่อและการตลาด เพื่อหาประสบการณ์ หลังจากทำงานได้ประมาณ 1 ปี ได้รับแรงบันดาลใจจากนักธุรกิจหลายท่าน จึงตัดสินใจลาออกและมาประกอบธุรกิจส่วนตัว

ทำธุรกิจเทรดดิ้งไม่ประสบความสำเร็จ แต่ไม่ท้อ ก่อตั้ง บริษัท ชามิลโก้ จำกัด สร้างแบรนด์ชานมไข่มุก แต่ตลาดมีการแข่งขันสูงจึงต้องปิดตัวลง แต่ยังไม่ยอมแพ้ พยายามเริ่มธุรกิจใหม่ คิดค้นวิธีการผลิตเต้าหู้กรอบ ตั้ง บริษัท โกจิโซ ดิสทริบิวชั่น จำกัด ไปพร้อมกับสร้างแบรนด์ ชื่อ “โยฟุ-YOFU” ขนมขบเคี้ยวจากเต้าหู้ 100 เปอร์เซ็นต์

“เรียนจบแล้วทำงานประจำอยู่ปีหนึ่ง ลาออกมาเพราะอยากเป็นเจ้าของธุรกิจ เสี่ยงออกมาทำ เจ๊งไป 2 รอบ รอบที่ 3 อยากทำขนมมีประโยชน์ ราคาไม่แพงมาก ให้คนทั่วไปได้ทาน

ตอนที่เริ่มทำโยฟุ สิ่งที่เจอคือ ปัญหาของเต้าหู้ ที่เก็บไว้ได้ไม่นาน เลยหาทางทำให้เก็บได้นาน หาทานเมื่อไหร่ก็ได้ สะดวกขึ้น เป็นการแก้ปัญหา และขนมจากฟองเต้าหู้ ไม่เคยมีมาก่อนเลย ทำให้มองเห็นโอกาสทางธุรกิจ

การเริ่มต้นทำธุรกิจ บอกเลย หนึ่ง เตรียมใจก่อน เพราะมีเรื่องให้รับหลายเรื่อง ทั้งความเสียใจและความดีใจ อย่างผมก่อนหน้านี้ทำธุรกิจอย่างหนึ่งก็เจ๊ง ตอนเริ่มแค่อยากซื้อมาขายไป ธรรมดา ทำแค่นี้ง่าย สบาย ขายได้ห้าหมื่น-แสน เชื่อว่าซื้อเครื่องบินได้ แต่ลืมนึกว่าวันหนึ่งยอดมันจะต้องตก เดือนถัดมาขายไม่ได้ มีค่าใช้จ่าย ถ้าไม่เตรียมใจมันคือจบ ฉะนั้น ต้องเตรียมใจให้ชัดเจนว่า มีดี ต้องมีแย่

อย่างที่สอง คิดอะไรได้อยากทำอะไร ทำไปเลย อย่าลังเลว่า เดี๋ยวจะเป็นอย่างนั้น อย่างนี้ เพราะถ้ามัวแต่วางแผนอยู่อย่างนั้น ก็ไม่ได้ลงมือทำ และไม่รู้ปัญหาจริงเสียที

ส่วนประสบการณ์ความผิดพลาดของผมช่วงแรก หุนหันพลันแล่นไปนิดหนึ่ง ผมเจ๊งมาแล้ว 2 รอบ ครั้งแรก ขายได้แสนหนึ่งคิดว่าซื้อเครื่องบินได้ คิดว่ามีแต่เรื่องดี สุดท้ายไม่รอด พอธุรกิจที่ 2 โดนโกง อ่านสัญญาไม่ดีพอ ไม่ให้ทนายความเช็ก สูญเงินไป 5 ล้านบาท

ล่าสุดก็ยังมีปัญหาแบบเดิมคือ หุนหันพลันแล่น ขยายตัวเร็วเกินไป จากห้องแถวเป็นโรงงานขนาด 1 ไร่ ส่งร้านสะดวกซื้อ 800 สาขา ขายได้แค่ 100 สาขา เพราะลืมคิดไปว่าคนรักสุขภาพไม่ใช่ทุกคน เลยต้องออกสินค้าอีกตัวเพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าให้กว้างขึ้น

อย่างไรก็ตาม ทุกวันนี้ปัญหาหนี้สินคลี่คลายแล้ว สิ่งที่อยากบอกคือ ไม่ว่าจะเจอกับความผิดพลาดอะไร ขออย่ายอมแพ้ เจอปัญหาอะไร ค่อยๆ ถอยออกมาดู ค่อยๆ แก้ มีหนี้กับคู่ค้า ก็เจรจาไป อย่าเพิ่งท้อแท้ หนี้เยอะไม่ได้หมายความว่าต้องไม่รอดแน่เลย เราจะจบก็ต่อเมื่อเราหยุด

สิ่งที่นักธุรกิจต้องมีคือ การยอมรับตัวเองว่าฉันไม่ดีอะไร ผิดพลาดตรงไหน อย่าโทษคนอื่น ผิดแล้วต้องแก้ไข ทุกปัญหามีทางแก้ ขึ้นอยู่กับวิธีที่แก้จะลำบากยากเข็ญแค่ไหนเท่านั้นเอง”

เป็นคนขี้สงสัย อยากรู้อยากเห็น ตั้งคำถามกับทุกสิ่งรอบตัว ถ้ามีคำถามแบบนี้บ่อยๆ มันจะเกิดไอเดียทางธุรกิจได้

คุณปริน-ปริญญ์ สุขสมิทธิ์ เจ้าของธุรกิจ ขนมโมจิลาวาบัน “ฟีนิกซ์ ลาวา-PHOENIX LAVA”

ปริญญาตรี คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ทำงานเป็นเซลส์อยู่ 1 ปี แต่รู้สึกอึดอัด จึงตัดสินใจออกค้นหาตัวเอง เดินทางไปเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น เริ่มทำธุรกิจสองสามอย่างแล้วล้มเหลว ที่ประทศญี่ปุ่น ใช้เวลาค้นหาตัวเองที่นั่น

จนกระทั่งวันหนึ่ง คุยกับน้องชายว่าอยากทำขนมสักอย่างเพื่อแข่งกับคนต่างชาติ เพราะหงุดหงิดที่เห็นคนไทยไปต่อแถวซื้อโดนัทชื่อดัง เลยทำ “ฟีนิกซ์ ลาวา- PHOENIX LAVA” ออกมาเพื่อ Reinvent Industry น่าเบื่อๆ อย่าง ซาลาเปา

“ทุกคนบนเวทีนี้ มีจิตวิญญาณของคนทำธุรกิจอยู่เป็นทุน แต่ว่าเราจะค่อยๆ ดมกลิ่นดูว่าทำอะไรได้ดี หรือชอบทำอะไร ซึ่งผมใช้เวลาดมกลิ่นตัวเองอยู่ 5-6 ปี ตั้งแต่เด็กรู้สึกว่าอยากทำอะไรสักอย่าง สังเกตง่ายๆ จากคนที่เป็นฮีโร่ของเราหรือไอดอลของเราก็ได้ เรื่องพวกนี้จะช่วยทำให้รู้ว่าเราน่าจะชอบทำอะไร

ผมเริ่มทำธุรกิจ เพราะคิดว่าธุรกิจ คือการเข้าไปแก้ปัญหาอะไรสักอย่าง ให้กับบางอุตสาหกรรม หรือของใครสักคน สิ่งที่ผมคิดคือ อยากแก้ปัญหาให้กับวงการซาลาเปา ความหงุดหงิดอะไรบางอย่างของคนทานหรือคนที่เอาซาลาเปาไปฝาก ของฝากซึ่งเป็นหน้าเป็นตาแต่หน้าตาน่าเกลียด ผมทนไม่ได้ อีกอย่างคนเอเชียจะคุ้นเคยกับแป้งนึ่งอยู่แล้ว เลยสนใจทำตัวนี้

ผมเป็นคนค่อนข้างจริงจังกับผลิตภัณฑ์มาก ถ้าของใหม่ไม่ดีกว่าของเก่าสัก 10 เท่า ผมว่าอย่าทำดีกว่า ไม่อย่างนั้นมันสร้างการเปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้ และเมื่อผมเสนอตัวเข้ามาในวงการซาลาเปา ซึ่งมีขายอยู่ก่อนเต็มไปหมดอยู่แล้ว ถ้าของผมไม่ดีกว่าสัก 10 เท่าได้ ผมไม่ทำ

ช่วงแรกๆ จะเก็บข้อมูลพฤติกรรมลูกค้า เวลาทานซาลาเปามีปัญหาอะไรเยอะที่สุด โดยพาตัวเองไปนั่งตามร้านซาลาเปาก่อน แล้วก็นั่งฟังลูกค้าบ่น เช่น แป้งทำไมแฉะจัง ที่ตูดนึ่งแล้วทำไมแฉะจัง ซึ่งมันกลายเป็นข้อมูลเชิงลึก ว่าคนทานไม่ชอบซาลาเปาตูดแฉะ ผมจดเอาไว้ ทำอยู่อย่างนั้นประมาณ 5 เดือน

ก่อนส่งต่อให้น้องชาย ซึ่งมีความสามารถด้านวิทยาศาสตร์การอาหารเป็นคนคิดสูตร ทำอย่างไรให้แป้งออกมามีความเหนียวนุ่ม ไม่แฉะ ส่วนผมมาพัฒนาในเรื่องของแพ็กเกจจิ้ง การบริการ จากนั้นจึงเริ่มออกบู๊ธทดลองตลาด นำคำติชมมาพัฒนาสินค้าต่อ

พอสินค้าตัวแรกออกมาขายดีมาก ตัวที่สอง-สาม จึงตามมาและน่าจะขายดีอย่างที่คิด แต่ตัวที่ 2 ผมกลับเจ๊ง เสียหายไปสองสามแสน ฉะนั้น ต้องมองรอบคอบกว่านั้น และได้เรียนรู้ว่าเมื่อเจอปัญหาอย่ารีรอ รีบแก้ไขเลย

ผมคิดว่าคนที่จะทำธุรกิจจะต้องมี 2 อย่างคือ หนึ่ง เป็นคนขี้สงสัย อยากรู้อยากเห็น ตั้งคำถามกับทุกสิ่งรอบตัว ถ้ามีคำถามแบบนี้บ่อยๆ มันจะเกิดไอเดียทางธุรกิจได้ แต่ถ้าเป็นคนที่ไม่มีความต้องการสร้างการเปลี่ยนแปลง ทำแต่ธุรกิจ Me too มันไม่ทำให้เกิดอะไรให้ดีขึ้นเลย

และสอง ต้องเชื่อว่าพรุ่งนี้ต้องดีกว่า…วันนี้”

ทำไมต้อง “คางกุ้ง”

“เกิดจากการมองเห็นโอกาส จุดที่เห็นเกิดจากการทานข้าวกับครอบครัวที่บ้าน แล้วคุณแม่ท่านทำกุ้งแล้วเด็ดหัวกุ้งทิ้ง ด้วยความพิเรนทร์เลยลองแกะๆ หัวกุ้งเล่น ก็เจอว่ามีส่วนที่นิ่มที่สุด จึงเกิดไอเดียอยากสร้างมูลค่าให้ของที่ถูกมองข้าม จากนั้นก็ลงมือทำทุกวิถีทางให้มันอร่อย

ต่อมาเลยลองหาข้อมูลว่า คนทั่วไปเขาเรียกส่วนนี้ของกุ้งว่าอะไร แต่เท่าไหร่ก็หาไม่ได้ เลยคิดบัญญัติศัพท์ขึ้นมาเอง เรียกมันว่า คางกุ้ง เพราะเป็นส่วนใต้หัวของกุ้ง

ส่วนชื่อแบรนด์ เราใช้คำว่า โอคุสโน่-OKUSNO เป็นภาษาสโลวีเนีย แปลว่า อร่อย และเป็นประเทศที่ตัวเราเคยได้รับทุนไปทำงานด้านกราฟิกดีไซน์มาก่อน เหมือนเป็นจุดเปลี่ยนของชีวิต ที่ทำให้รู้ตัวเองว่าไม่ชอบทำงานประจำ เลยใช้ภาษานี้มาไว้เป็นอนุสรณ์เตือนใจ”

คุณแพร-พิมพ์มาดา พัฒนปรัชญาพงศ์ เจ้าของธุรกิจคางกุ้งทอดอบกรอบ “โอคุสโน่-OKUSNO” ผู้ชนะเลิศ จากรายการ SME ตีแตก THE FINAL 2015 เป็นสุดยอด SMEs แห่งปี 2015

Leave a comment