ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือเส้นทางเศรษฐี
http://info.matichon.co.th/rich/rich.php?srctag=07044010259&srcday=2016-02-01&search=no
| วันที่ 01 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559 ปีที่ 21 ฉบับที่ 390 |
ช่องทางสร้างอาชีพ
ศรีนวล
ส่องโอกาสค้า CLMV ไปกับนักธุรกิจหนุ่มสาว YEN-D Program
กระทรวงพาณิชย์ ได้เปิดโครงการสร้างโครงข่ายผู้ประกอบการไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน (Young Entrepreneur Network Development Program : YEN-D Program) ซึ่งเป็นโครงการส่งเสริมผลักดันผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะเจาะจงไปที่ผู้ประกอบการหน้าใหม่ ทั้งที่เป็นทายาทนักธุรกิจ หรือคนรุ่นใหม่ที่อยากมีธุรกิจเป็นของตนเอง
คุณดวงพร รอดพยาธิ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวถึงที่มาของโครงการ YEN-D ว่า “เกิดจากได้พูดคุยกับนักธุรกิจรายใหญ่ ที่ปรับทุกข์ว่า ลูกๆ หลานๆ ไม่สนใจทำธุรกิจ อยากให้กรมเปิดคอร์สฝึกอบรมให้หน่อย อย่างนักธุรกิจค้าข้าว ก็ขอให้เปิดคอร์สสอน เรื่องการทำธุรกิจค้าข้าว ก็เลยมาคิดว่าจะทำอย่างไรดี หลังจากนั่งคุยกันแล้ว จึงเกิดโครงการ YEN-D จุดประสงค์เพื่อสร้างเครือข่ายธุรกิจและพัฒนาศักยภาพการดำเนินธุรกิจของผู้ประกอบการรุ่นใหม่ของไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะกลุ่มซีแอลเอ็มวี (CLMV) สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาล ที่ต้องการสร้างนักรบใหม่ เจาะตลาดประเทศอาเซียน และเพิ่มการค้าชายแดน ที่ตอนนี้มีมูลค่าแล้ว 1.5 ล้านล้านบาท”
ขณะที่ คุณอดุลย์ โชตินิสากรณ์ รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ ในฐานะที่รับผิดชอบโครงการ YEN-D เล่าว่า การอบรมและจัดพบปะนั้นจะทำไปพร้อมกันทั้ง ไทยกับเวียดนาม ไทยกับกัมพูชา ไทยกับลาว และไทยกับพม่า โดยเปิดโครงการมาตั้งแต่เดือนกันยายน 2558 ซึ่งตอนนี้ก็ 4 รุ่นแล้ว โดยแต่ละรุ่นจะมี 30 คนที่เป็นนักธุรกิจไทย อีก 30 คนจากประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งได้ผ่านการคัดเลือกจากคณะทำงานของกระทรวง ถึงตอนนี้มีแล้ว 120 คน ปี 2559 จะขยายอีก 160 คน รวมเป็น 280 คน และทำต่อไปถึงปี 2560 ซึ่งทั้งโครงการจะมี 600 คน ซึ่งจะมีทั้งนักธุรกิจไทย นักธุรกิจจากซีแอลเอ็มวี และดึงข้าราชการรุ่นใหม่เข้ามาด้วย เพื่อให้เกิดการเรียนรู้ไปพร้อมกัน
“โครงการนี้ไม่แค่เป็นการสร้างนักธุรกิจรุ่นใหม่ของไทยไปต่างประเทศ กำหนดอายุไม่เกิน 45 ปี แต่ต้องการดึงนักลงทุนรุ่นใหม่ของต่างชาติด้วย ผลลัพธ์พบว่าดีเกินคาด ไม่แค่เกิดการเจรจาซื้อขายระหว่างกันเท่านั้น ประเมินมูลค่าความร่วมมือกันแล้วกว่า 500 ล้านบาท คนรุ่นใหม่เหล่านี้ เป็นคนที่มีไฟแรง มุ่งมั่น ตั้งใจ มีความคิดสร้างสรรค์ พวกนี้อยากทำธุรกิจ แต่ยังขาดคอนเน็กชั่น และความเข้าใจ รู้จริงในตลาดเพื่อนบ้าน ซึ่งจะมีผลต่อการทำธุรกิจในระยะยาว เมื่อดึงให้เขามาเจอกัน จากความเป็นเพื่อนก่อน แล้วค่อยคุยทางธุรกิจ จากที่ได้พบปะเห็นถึงความช่วยเหลือกัน เป็นโครงการแนบเนียนที่สุด ต่อการต่อยอด ขยายตัวทางธุรกิจ และผลักดันไทยเป็นศูนย์กลางในอาเซียน ซึ่งประเทศในซีแอลเอ็มวีมีวิถีการใช้ชีวิตที่คล้ายคลึงไทย เราและเขาคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี”
คุณกิตติพงศ์ งามไพบูลย์สมบัติ หุ้นส่วนผู้จัดการ ห้างหุ้นส่วนจำกัด งามไพบูลย์การยาง ผู้ผลิตยางรถยนต์ กล่าวว่า “ผมได้ประโยชน์จากการเข้าร่วมโครงการ YEN-D มาก เพราะได้รู้จักนักธุรกิจของประเทศเพื่อนบ้านทีเดียว 30 คน เพียงระยะสั้น 7 วัน จากรุ่นก่อนๆ อาจต้องใช้เวลาเป็นสิบปี กว่าจะรู้จักหมด ทำให้เกิดแนวคิดและต่อยอดธุรกิจได้อีกมาก ซึ่งผมอยู่ในกลุ่มอบรมกับลาว เพื่อนนักธุรกิจที่มาอบรมด้วย ได้ช่วยแนะนำโอกาสทางธุรกิจ ทำให้เข้าลาวได้แล้ว และกำลังมองตลาดกัมพูชา เวียดนาม และพม่า ก็ขอเพื่อนบ้านช่วยแนะนำ โครงการแบบนี้อยากให้รัฐบาลทำให้มากขึ้นและต่อเนื่อง เพื่อให้รุ่นใหม่ได้มั่นใจว่าการไปต่างประเทศได้สะดวกและกล้ามากขึ้น”
คุณสุชาดา เจนพณิช กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทย เจ เพรส จำกัด ผู้ผลิตชุดชั้นในชาย กล่าวว่า “ก่อนหน้านี้ ธุรกิจอยู่แต่ภายในประเทศ แล้วรับจ้างผลิตให้แบรนด์ต่างประเทศ เช่น Levi”s, DKNY และ ARMANI เป็นต้น ไม่เคยทำธุรกิจส่งออก แต่เห็นว่าถึงเวลาแล้วที่จะต้องออกไปทำตลาดต่างประเทศ ก็คิดอยู่ว่าจะไปยังไง พอดีเจอโครงการ YEN-D ก็สมัครเข้ามาร่วม ไม่เสียใจเลย เพราะได้โอกาสพบปะกับนักธุรกิจของเพื่อนบ้าน ตรงตามที่อยากทำ ซึ่งซีแอลเอ็มวีเหมาะสม เพราะรูปร่าง ลักษณะ คล้ายกับคนไทย น่าจะทำตลาดได้ไม่ยาก ที่เราเล็งไว้คือ ส่งขายเข้าสู่ตลาดเพื่อนบ้านได้แล้ว คือ พม่า ลาว แต่ยังไม่มีกัมพูชา เวียดนาม พอมาสมัครเข้าอบรมในโครงการ YEN-D รู้จักนักธุรกิจจากกัมพูชาหลายคน เป็นการสร้างโอกาสทางธุรกิจเพิ่มขึ้น ตอนนี้ก็เริ่มที่จะเจาะธุรกิจเข้าไปในตลาดกัมพูชาแล้ว กำลังมีตัวแทนขายที่เสียมเรียบ เริ่มที่ทำตลาดออนไลน์ ซึ่งมั่นใจว่าจะขยายสู่ตลาดอาเซียนได้ทั้งหมด แต่ขอเริ่มที่ซีแอลเอ็มวีให้ดีก่อนใน 1-2 ปี” คุณสุชาดา กล่าว
อีกราย คุณนิษฐา แสงสุริยะฉัตร ผู้ช่วยผู้จัดการ บริษัท ฉัตรชัยแพทย์แผนโบราณ จำกัด ทายาทโดยตรงของผู้ผลิตยาสมุนไพรไทยยี่ห้อหมอเส็ง กล่าวว่า “บริษัทกำลังต้องการขยายตลาดไปต่างประเทศ เริ่มเจาะเข้าตลาดเพื่อนบ้าน ได้เข้าลาวแล้ว กำลังหาลู่ทางขยายเข้าสู่ตลาดกัมพูชา โดยจะเน้นสินค้าที่เกี่ยวข้องกับความงามของผู้หญิงและการรักษาสุขภาพ มองว่ามีโอกาสขยายตัวได้สูง ก็เลยมาอบรมรุ่นกัมพูชา เข้าร่วมโครงการ YEN-D ทำให้เกิดการต่อยอดกับสิ่งที่บริษัทกำลังจะดำเนินการเจาะตลาดเพื่อนบ้าน พอดีกับกำลังหาผู้แทนจำหน่ายในกัมพูชา ซึ่งข้อมูลส่วนหนึ่งได้จากเพื่อนนักธุรกิจที่มาอบรมด้วยกัน และยังช่วยสกรีนคน สกรีนธุรกิจให้กับเราได้เบื้องต้น เพราะข้อมูลเหล่านี้ไม่สามารถหาจากอินเตอร์เน็ตได้”
อีกแง่มุมหนึ่งจากปาก คุณญาดา โคระทัต ผู้จัดการการตลาด บริษัท อินซ์เทค เมโทรโลจิคอล เซ็นเตอร์ จำกัด ทำธุรกิจให้บริการตรวจสอบเครื่องมือในอุตสาหกรรม บริการเป็นที่ปรึกษาการเข้าสู่ระบบ ISO และจำหน่ายเครื่องมือที่ใช้ในโรงงานอุตสาหกรรม และห้องปฏิบัติการ กล่าวว่า เดิมธุรกิจของบริษัท มีลูกค้าแล้วในลาว กัมพูชา และเวียดนาม แค่คิดว่ามีโอกาสขยายตลาดเพิ่มขึ้น ผ่านเมืองอื่นๆ กับตัวแทนใหม่ในตลาดเป้าหมายซีแอลเอ็มวี จังหวะดีกับที่ไปเห็นโครงการ YEN-D ในเฟซบุ๊กที่เพื่อนโพสต์มา ก็เลยสมัคร พอได้รับคัดเลือกให้เข้าร่วมในกลุ่มลาว พออบรมเสร็จ ก็ได้เพื่อนเป็นคนลาว ก็ขอให้เขาช่วยเช็ก พบว่า ตัวแทนที่ติดต่อนั้น ทำธุรกิจจริง ตอนนี้กำลังเจรจากันอยู่ ถ้าตั้งสำเร็จ ก็จะช่วยขยายธุรกิจของบริษัทได้แน่นอน ดีใจเพราะคิดว่าบริษัทเล็กๆ จะได้รับการคัดเลือกให้เข้าร่วมกิจกรรม เดิมคิดว่าต้องมีเส้นสาย แต่ไม่ใช่เลย กรมเลือกจากผู้ประกอบการที่มีความตั้งใจในการทำธุรกิจและขยายธุรกิจออกไปในตลาดเพื่อนบ้าน
ขณะที่ คุณรัชยา เตชะปัญญารักษ์ ผู้ช่วยผู้จัดการ บริษัท ย่งไทยการยาง จำกัด ผู้ผลิตยางอุตสาหกรรมทุกประเภท เสริมว่า การเข้าร่วมโครงการ YEN-D ได้สร้างโอกาสในการขยายธุรกิจของบริษัทเข้าสู่ตลาดเพื่อนบ้าน ปัจจุบันประเทศเพื่อนบ้านมีการขยายตัวด้านการก่อสร้างมาก เห็นถึงโอกาสทางธุรกิจของบริษัท ที่ผลิตยางได้ทุกประเภท ทั้งชิ้นส่วนยานยนต์ ก่อสร้าง ยางกันซึม และยางที่ใช้ในภาคคมนาคม เมื่อได้มาดูก็เห็นว่า ต้องระวังคู่แข่งอย่างจีนและเวียดนาม ที่เน้นราคาถูกกว่า มาดูตลาดได้เห็นของจริง แต่มั่นใจว่าสินค้าของเรามีคุณภาพ แข่งขันได้ อยากให้ภาครัฐทำโครงการดีๆ แบบนี้ เพื่อช่วยส่งเสริมด้านการตลาดให้กับผู้ประกอบการไทยต่อไป
อีกคนเล่าถึงการเข้าร่วมโครงการ คุณสุดสวาท จิรัปปภา กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอ็กโกร (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำเข้า ส่งออก และจัดจำหน่ายเคมีเกษตร (ยาต้นไม้) กล่าวว่า การเข้ามาร่วมโครงการ YEN-D สามารถต่อยอดธุรกิจจากการได้เพื่อนในการเข้ามาฝึกอบรมทั้งผู้ประกอบการไทยด้วยกันและผู้ประกอบการในประเทศเพื่อนบ้าน ช่วงแรกยังไม่เกิดธุรกิจ แต่เพื่อนธุรกิจที่เข้าอบรมร่วมกันได้ช่วยเหลือ แนะนำข้อมูล กฎระเบียบทางการค้าต่างๆ และลูกค้า ถือว่าเป็นข้อมูลที่เป็นประโยชน์และช่วยธุรกิจได้มาก
“เรามองเป้าหมายการทำตลาดซีแอลเอ็มวีคล้ายกับไทย คือมีการปลูกพืชเกษตรมาก ซึ่งสินค้าที่บริษัทขายอยู่ ครอบคลุมตั้งแต่การปลูกจนถึงการเก็บเกี่ยว เราทำธุรกิจมากว่า 40 ปีแล้ว ก่อนหน้านี้ ส่งออกสินค้าตามแนวชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน แต่อนาคตจะหาตัวแทนจำหน่ายในซีแอลเอ็มวี เริ่มที่กัมพูชาก่อน กำลังคุยกันอยู่ และจะเป็นคู่ค้ารองรับหลังการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ด้วย” คุณสุดสวาท กล่าว
เชื่อว่าอีกไม่เกิน 2-3 ปีข้างหน้า นักธุรกิจหนุ่มสาวเหล่านี้ อาจมีชื่อติดชาร์ตผู้นำทางธุรกิจในซีแอลเอ็มวี คงต้องติดตาม…